Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: earth3005 ที่ ธันวาคม 14, 2015, 16:40:49
-
ตามหัวข้อเลยครับพอดีที่บ้านกำลังจะออก subaru เป็นคันเเรกของบ้านครับ ทีแรกผมสนใจ XV เเต่คุณพ่อบอกมันเล็กไปดูไม่ค่อยภูมฐานและบึกบึนเลยมาจบที่ Outback นี่แหละครับ จึงอยากจะสอบถามพี่ๆที่เคยใช้ซูบารุหน่อย ดังนี้ครับ
- ปัญหาเรื่องอะไหล่หรือศูนย์บริการเป็นยังไงบ้าง ??
- ค่าซ่อมเมื่อเทียบกับรถญี่ปุ่นทั่วไป ??
- ของแต่งหาได้ที่ไหน ?? ผมดูของศูนย์เเล้วราคาเเพงเกินหาข้างนอกก็หายากครับสำหรับรุ่นนี้
จากเดิมราคา 2.59m ตอนนี้...ลดลงมาเหลือ 2.49m+ประกันภัยชั้น 1+ฟรีค่าบริการ 5 ปี+ของแต่ง(หรือเลือกรับเป็นส่วนลด)40,000บาท ถือว่าคุ้มค่ามั้ยครับหรือว่าควรได้ส่วนลดมากกว่านี้ :'( :'( :'(
-
ผมไม่ได้ใช้รุ่นนี้ แต่พอจะตอบได้บางข้อครับ
- เรื่องศูนย์บริการและอะไหล่ ช่วงนี้ศูนย์บริการมีรถเยอะมากครับโดยเฉพาะศูนย์หลักใน กทม. ถ้าจะเข้าวันเสาร์-อาทิตย์ อาจจะต้องจองคิวล่วงหน้าไว้หลายวัน แต่ถ้าวันธรรมดายังพอได้อยู่
พนักงานในศูนย์บริการดีครับ แต่ที่ไม่พอใจส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องของนโยบายของผู้บริหารมากกว่าเช่น ไม่สามารถหิ้วน้ำมันเครื่องเกรดดีที่ Subaru รับรองเข้าไปเองได้ (แต่ของศูนย์มีไม่กี่อันให้เติม)
อะไหล่บางตัวมีสต๊อกไว้ อะไหล่บางตัวก็ขาด (เช่นปัญหาลูกปืนล้อดังที่ XV ไปทำเคลมไว้หลายคันจนอะไหล่ขาดสต๊อก) ไม่รู้ว่าเกี่ยวกับ QC รถที่ประกอบจากมาเลย์รึเปล่านะ
- ค่าซ่อมเมื่อเทียบกับรถญี่ปุ่น อันนี้ผมไม่ทราบแหะ แต่ค่าซ่อมบำรุง XV พอๆกับพวก Camry Accord ถ้า Outback คงแพงกว่ากันไม่มากครับ
- ส่วนของแต่งถ้าเป็น Body Part คงต้องหาเมืองนอกครับ (ส่วนใหญ่จะเป็นฝั่ง US) แต่ถ้าพวก Accessorie ลองดูของที่ใช้กับ XV ส่วนใหญ่ก็จะใช้กับ Outback ได้เช่น ตาข่ายขึงสัมภาระด้านหลัง กล่องหลังคา Thule เป็นต้นครับ
-
1.ปัญหาเรื่องอะไหล่หรือศูนย์บริการเป็นยังไงบ้าง ??
ไม่แน่ใจว่าใช้รถที่ไหนนะครับ ถ้าเป็นกรุงเทพไม่น่ามีปัญหาอะไรครับ ศูนย์กระจายตัวค่อนข้างทั่ว การบริการผมว่าก็น่าจะโอเคนะครับ อีกอย่างคันนี้เป็นเครื่อง NA ไม่ค่อยน่าห่วงเรื่องการ service เท่าไหร่ครับ ไม่ยากเท่าพวกเครื่องเทอร์โบทั้งหลาย เรื่องอะไหล่นี่ก็ต้องยอมรับครับ ว่ามีปัญหาคือเค้าไม่ค่อย stock ของกันเท่าไหร่ รอกันที 2-3 เดือนในบาง part ถ้ามีของก็มีเลย อย่างผมเคยกระจกหูช้างแตก โชคดีเบิกได้พอดี ก็สัปดาห์เดียวได้ครับ ไม่นาน ถ้าจะเอาเร็วจริงๆ ข้างนอกร้านขายอะไหล่ซูบารุเยอะแยะครับ รับสั่งจากญี่ปุ่นเลยก็มี ไม่ถึงเดือนก็ถึงหน้าบ้านแล้วครับ บางชิ้นเล็กๆน้อยๆก็เร็กว่านั้นก็มีในกรณีกับสั่งข้างนอกนะครับ
2ค่าซ่อมเมื่อเทียบกับรถญี่ปุ่นทั่วไป ??
แพงกว่ารถญี่ปุ่นทั่วๆไปนิดหน่อยครับ อันที่จริงก็จะว่าเท่าๆกันก็ได้นะ 5555+ เพราะค่าแรงฟรี 5 ปี เปลี่ยนน้ำมันเครื่องหมื่นโล ตอนเปลี่ยนเล็กๆก็น้ำมันเครื่อง กรอง แหวน น้ำมันเฟืองท้าย ที่เราต้องจ่ายเองซึ่งก็อยู่ในราคาที่รับได้ครับ ไม่แพงเท่ายุโรปแน่นอน
3.ของแต่งหาได้ที่ไหน ?? ผมดูของศูนย์เเล้วราคาเเพงเกินหาข้างนอกก็หายากครับสำหรับรุ่นนี้
ของแต่จริงๆรุ่นนี้มันใหม่มาก และหาคนออกยังไม่ได้เลยครับ 5555+ ของแต่งเลยหายาก จริงๆหาจากเวปนอกสั่งมาก็ไม่ลำบากครับ
ส่วนเรื่องราคา ผมแนะนำให้ถามหาหลายๆศูนย์ครับ ซื้อกับเซลล์ที่ให้ข้อเสนอเราดีที่สุดครับ 8)
-
เรื่องอะไหล่ต้อง "ทำใจ" Motor image บอกว่า มีปัญหาอะไหล่ล่าช้า ในทุกประเทศ (น่าจะเฉพาะประเทศเทศที่ Motor image ทำตลาด)
และ ทำใจยิ่งกว่า เรื่องการบำรุงรักษา ภายใต้ระยะเวลารับประกัน ถ้าต้องการให้เงื่อนไขการรับประกันยังอยู่ ก็ต้องยอมใช้ ของเหลวพวก น้ำมันเครื่อง น้ำมันเกียร์ น้ำมันเฟือง น้ำมันเบรค ที่ไม่ตรงตาม Service manual by FHI แต่ตามใจ Motor image policy
ส่วนตัวไม่มีประสบการ์เครื่อง Boxer Subaru (แต่อาจมีเร็วๆนี้) แต่ค่อนข้างแน่ใจว่า เครื่องสมรรถนะสูงแบบนี้ (ความร้อนก็สูงด้วย) ควรได้รับการดูแลรักษา แบบดีมาก ดีเป๊ะๆ ตรงตามที่วิศวกร FHI ผู้ออกแบบ&สร้าง ระบุไว้
แต่ที่ไทยแลนด์ Motor image & TC ผู้ทำ MOU กับ FHI และได้สิทธิทำตลาดในแถบอาเซียน และช่างเทคนิค Motor image ดันอวดรู้ กว่าวิศวกร FHI
-
มาช่วยตอบนะครับ จากประสบการใช้ BC BG GH GRB BR GP
1. ระยะหลัง อุณหภูมิน้ำของเครื่อง subaru สูงขึ้นครับ เครื่อง EJ ใน BC BG อยู่แถวๆ 90 พอมาใน GH
ปกติ 95 แต่จะเกิน 98 ประจำ ส่วน FB ยังไม่ได้เอา OBD ไปติดครับแต่คงจะเหมือนกัน
2. ค่าซ่อมถูกบ้างแพงบ้างแล้วแต่ชิ้นครับ แต่ FB ไม่ต้องเปลี่ยนสานพานราวลิ้นแล้วคงไม่หนักเท่าไหร่ ไม่รู้ว่าต้อง
เปลี่ยนปั๊มน้ำทุกกี่หมื่นโล แต่EJ จะเปลี่ยนสานพานราวลิ้นและปั๊มน้ำทุก 80000 โล พอทำทีผมจะเปลี่ยน
ซีลหน้าเครื่องไปด้วย
3. จากอู่ที่เป็นอดีต0 ทำรถมากว่า15 ปี บอกว่าน้ำมันเฟืองหน้าและเฟืองท้ายใช้ทั้งหมด 2ลิตรนิดๆ ใช้เบอร์90
ให้เปลี่ยนทุก10000 โล (40000 โล นานเกินไป) ราคา 500กว่าบาท
4. น้ำมันเบรคตามสะดวกครับ ถ้าใน GRB ผมใช้ตั้งแต่ DOT4 ขึ้นไป
5. น้ำมันเครื่อง เบอร์หลัง 30 น่าจะดีกว่าสำหรับรถที่มีอุณหภูมิน้ำเกิน 95 บ่อยๆ ส่วนGRB ใช้ Mobil1 มาตลอด
6. ของแต่งไปดูใน yahoo auction แล้วฝากคนสั่งเข้ามาเลยครับ เดิมผมมีคนซื้อให้ ตอนหลังไม่มีแล้ว
แต่ก้อดีไม่เสียตัง ได้โช้ค aragosta มือสอง ใส่ BR มาชุดนึง ประมาณ 80000 (แต่ต้องมาเปลี่ยนค่า
K ของสปริงใหม่ ของติดมาเด้งมากกกกก)
7. พวกเบรคเอา Brembo ของ Subaru มาใส่ได้ แต่ล้อต้องหลบ caliper ถ้าไม่ห่วงเรื่องสวยก็เปลี่ยนแต่
ผ้าพอครับ Dixcel ES ก้อเหลือๆแล้ว
:)
เพิ่มครับ
เรื่องลูกปืนล้อเดิม subaru ใช้ลูกปืนเข็มต้องให้ 0 อัดเข้าไป ในระยะหลังเปลี่ยนมาเป็นแบบลูกปืนกลมสำเสร็จรูป
ไม่ต้องอัดแล้ว พอดังก็ถอดเปลี่ยนเลยใช้เวลาน้อยลง Lot แรกๆซีลไม่ค่อย OK เท่าไหร่ Lot หลังๆไม่มีปัญหา
แต่จะให้ทนเหมือนลูกปืนในอดีตคงไม่แล้วครับ แต่ performance น่าจะดีขึ้นครับ
-
น้ำมันเครื่อง ถ้าเลือกของตราหอย ก็ไม่ถูกนะครับ และใช้ 5 ลิตร รวมแล้ว 3 พันบาท ถ้าคิดว่าสบายๆก็จัดไป ส่วนตัวมองว่าแพงไปพอควรครับ :-X
-
ถ้าชอบ ซื้อเลยครับ ผมเองก็ใช้ xv อยู่ ถ้ามีงบก็อยากได้ outback นี่ละครับ ชอบตรงขนาด สมรรถนะ และความภูมิฐาน
หลังการขาย ห่วยกว่าแพงกว่ารถตลาดจริง
แต่ราคายังไม่โหดเท่ายุโรปแน่นอนครับ
-
ขอบคุณทุกความเห็นมากๆครับ ขอบตอบกลับทุกๆโพสโดยรวม ดังนี้นะครับ
จากที่ได้ฟังมาจากพวกพี่ๆก็พออุ่นใจได้ครับ เพราะ
- ราคาค่าอะไหล่ไม่กระโดดไปมาก
- รถส่วนใหญ่ใช้ในกรุงเทพจะมีออกตจว.ใกล้ๆบ้างเดือนละครั้ง ถ้าไกลๆก็ปีละ1-2ครั้ง
- ส่วนเรื่องของแต่งคงหาๆดูเท่าที่หาได้ครับ แต่งแค่ความสวยงามอย่างเดียวคงไม่ไปยุ่งกับเครื่องและช่วงล่างอย่างแน่นอนครับ แหะๆ
ปล.เดี๋ยวพรุ่งนี้จะวางเงินจองเเล้ว ถ้ามีโอกาสจะทำ User Review ให้ชมกันเล่นๆครับ ;) ;) ;)