Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: kris-lack ที่ ธันวาคม 26, 2015, 22:31:38
-
ไปเที่ยวตำหนักเขาค้อ จังหว่ะขับตามหลังเก๋งช่วงชันๆ ปรากฎว่าเก๋งน่าจะดับ เราขึ้นเกียร์ 2 ต้องเบรคพร้อมหักหลบ ปรากฎว่ารถเราหมดแรง พยายามเลี้ยงรอบสุดฝีมือที่มีอยู่ แต่ไม่ไหว สุดท้ายดับ เราก็จอดเบรค ดึงเบรคมือ ติดเครื่องใหม่แล้วพยายามเอาเบรคมือช่วย แต่ไม่ไหว พยายามหลายครั้งจนได้กลิ่นไหม้ เลยจอดคิดหาวิธี ใจก็ไปแล้ว กลัวสุดๆ เลยใช้วิธีค่อยๆถอยหลังเกียร์ถอย เบรค ถอย ใช้เวลานานมากๆ จนมาถึงที่ไม่ชัน เลยลองใหม่ สุดท้ายก็ไปได้
คำถามคือ วิธีเราทำถูกหรือไม่ เพื่อนๆมีวิธีแนะนำมั้ยในกรณีลักษณะนี้ ขอบคุณค่ะ
-
ที่ จขกท. ใช้ก็ใช้ได้ครับ สำหรับการแก้ปัญหาเฉพาะหน้า แต่จังหวะการปล่อยครัชกับปลดเบรกมือต้องสัมพันธ์กัน ไม่งั้นก็ต้องลี้ยงครัช(เลียครัช)ช่วยเยอะๆ
ถ้ามีคนในรถและถ้าพอจะหาก้อนหินหรือท่อนไม้มาหนุนล้อไว้แล้วค่อยออกตัว จะชัวร์ที่สุด
ผมเคยเจอแย่กว่าที่ จขกท. เจอ รถตู้วิ่งลงสวนมาตรงทางขึ้นแถมมาอย่างเร็วและมันไม่ยอมเบรกเราต้องเป็นฝ่ายเบรกจนรถหยุด ได้แต่แช่งให้มันไปเจอสิ่งดีๆ(ที่สมควรเจอ)
-
ภูทับเบิก ส่วนใหญ่เบรคไหม้ ขาลงเขา
-
ถ้าเราเห็นล่วงหน้าว่าทางขึ้นมันชัน ให้ชลอเพื่อเว้นระยะจากคันหน้าสักหน่อยครับ
จากนั้นก็ลดความเร็วลงจนอยู่ในช่วงที่เข้าเกียร์ 1 ได้
ใส่เกียร์ 1 แล้วกดคันเร่งส่งขึ้นเขาไปเลย
เพราะเกียร์ 1 เป็นเกียร์ที่ทดรอบมาจัดที่สุดแล้ว
ช่วงขับขึ้นก็เลี้ยงรอบไว้ ระวังอย่าให้เกินเรดไลน์
ทางชันมากก็ขับเลี้ยงรอบ คาไว้เกียร์ 1. นั่นล่ะครับ
แต่ถ้าอึดอัดก็ลองใส่เกียร์ 2 ดู แล้วดูว่ารถมันมีแรงส่งใหม ถ้าไม่มีก็กลับไปใส่เกียร์ 1
ทีนี้ถ้ามีเหตุจำเป็นต้องหยุด ช่วงจะออกตัว เข้าเกียร์ 1
1. ขาซ้ายเหยียบคลัช ขาขวาเหยียบเบรก
2. ขาซ้ายถอนคลัชครึ่งนึง ขาขวาเหยียบเบรก
3. ขาขวาเหยียบคันเร่ง ขาซ้ายถอนคลัช
ผมใช้วิธีนี้เวลาออกตัวบนทางชันครับ
-
เคยเจอตอนไปเที่ยวเกาะลันตา อแวนซ่า มากันเต็มรถเลยขึ้นเขาไม่ไหว กระตุกถอยไปเรื่อย น่ากลัวแทน ดีที่ตัดสินใจแซงเพราะเค้าก็ถอยกระตุกดับไปเรื่อย
-
ถ้าเราเห็นล่วงหน้าว่าทางขึ้นมันชัน ให้ชลอเพื่อเว้นระยะจากคันหน้าสักหน่อยครับ
จากนั้นก็ลดความเร็วลงจนอยู่ในช่วงที่เข้าเกียร์ 1 ได้
ใส่เกียร์ 1 แล้วกดคันเร่งส่งขึ้นเขาไปเลย
เพราะเกียร์ 1 เป็นเกียร์ที่ทดรอบมาจัดที่สุดแล้ว
ช่วงขับขึ้นก็เลี้ยงรอบไว้ ระวังอย่าให้เกินเรดไลน์
ทางชันมากก็ขับเลี้ยงรอบ คาไว้เกียร์ 1. นั่นล่ะครับ
แต่ถ้าอึดอัดก็ลองใส่เกียร์ 2 ดู แล้วดูว่ารถมันมีแรงส่งใหม ถ้าไม่มีก็กลับไปใส่เกียร์ 1
ทีนี้ถ้ามีเหตุจำเป็นต้องหยุด ช่วงจะออกตัว เข้าเกียร์ 1
1. ขาซ้ายเหยียบคลัช ขาขวาเหยียบเบรก
2. ขาซ้ายถอนคลัชครึ่งนึง ขาขวาเหยียบเบรก
3. ขาขวาเหยียบคันเร่ง ขาซ้ายถอนคลัช
ผมใช้วิธีนี้เวลาออกตัวบนทางชันครับ
วิธีขับของผมเหมือนสมาชิกท่านนี้เลยครับ ผ่านมาแล้วทุกเขา ทุกโค้งทั้งรถติดหนึบบนทางชันกับเร่งขึ้นที่สูง ได้ชัวร์ครับ
ตรวจเชคเบรคและน้ำในหม้อน้ำด้วยนะครับ
-
คำถามมีแค่สองคำถาม
คันที่ขับไปวันนี้คือ Almera ที่มาถามประจำ หรือคันอื่นครับ?
และอีกคำถามคือ คุณตัดกลับมาน้ำมันก่อนขึ้นพระตำหนักหรือไม่ครับ?
-
เพิ่งกลับจากเขาค้อวันนี้เหมือนกัน จขกท. น่าจะขึ้นทางเดียวกับผมด้วย เลี้ยวเข้าตรงนางั่ว
ทางไม่โหดเท่าไร กรณี จขกท. ออกตัวบนทางชันเกียร์ธรรมดาต้องคาคลัสครับ ถ้าคาคลัสไม่เป็นเวลารถติดบนสพาน จขกท. ใช้วิธีไหนผมงง
อัลเมล่าคาคลัสอยู่แน่ครับทางขึ้นเขาค้อลองไปฝึกเยอะๆครับ หาเนินสูงๆ ยกคลัสให้รถไม่ถอยค่อยกดคันเร่ง
-
ขึ้นเกียร์ 2 ไม่ไหว ก็ไปเกียร์ 1 สิครับ
สำหรับเกียร์ธรรมดา ออกตัวจากหยุดนิ่ง เบิลรอบไปสูงๆได้เลย แล้วค่อยกระแทกครัชออก ปล่อยออกเลยไม่ต้องค่อยๆ ครัชไหม้ดีกว่าเบรคไหม้
คุณน่าจะบอกว่าใช้รถอะไร เกียร์ประเภทไหนด้วย
-
ผมเคยมีประสบการณ์ขับรถขึ้นเครื่องตั้งศูนย์ล้อ (แบบชันขึ้นไป)
พอช่วงตรงกลางทางขึ้น ผมเบาเครื่องลง
กะว่าให้รถค่อยๆไหลผ่านจุดคอเครื่องตั้ง(ก่อนเข้าแนวระดับ)
ผมดันไปเบาเครื่องมากไป รถก็หยุดกลางทางขึ้นซะงั้น
จากนั้นผมพยายามใช้เบรกมือ ถอนคลัตช์และเพิ่มคันเร่ง (ทำเหมือนตอนรถค้างบนสะพาน)
พอผ่อนเบรกมือรถก็จะถอยลง ถอนคลัตช์เพิ่มอีกนิด+เร่งเครื่องเพิ่มอีกก็ไม่ได้ผล (ตอนนี้เสียงเครื่องเริ่มดังเว่อร์)
ถ้าถอนคลัตช์เกือบหมด ก็กลัวรถจะกระโจนตกเครื่องไปอีก (กะลำบากมาก)
ช่างต้องมาตั้งลำใหม่ที่แนวระดับ
ใช้เกียร์1 ถอนคลัตช์ ขึ้นแบบช้า+สม่ำเสมอ ใช้คันเร่งอย่างเดียว (ไม่เลี้ยงคลัตช์(คลัตช์จับเต็มหน้า)) ก็โอเคครับ
ปล.
เทคนิคออกตัวทางชันของเพื่อนสมาชิกน่าสนใจมากครับ ขอยืมไปฝึกใช้ครับ ขอบคุณครับ
ปล.ปล.
คิดถึง OPTION ออกตัวทางชันขึ้นมาทันใด ;D
-
ถ้าเราเห็นล่วงหน้าว่าทางขึ้นมันชัน ให้ชลอเพื่อเว้นระยะจากคันหน้าสักหน่อยครับ
จากนั้นก็ลดความเร็วลงจนอยู่ในช่วงที่เข้าเกียร์ 1 ได้
ใส่เกียร์ 1 แล้วกดคันเร่งส่งขึ้นเขาไปเลย
เพราะเกียร์ 1 เป็นเกียร์ที่ทดรอบมาจัดที่สุดแล้ว
ช่วงขับขึ้นก็เลี้ยงรอบไว้ ระวังอย่าให้เกินเรดไลน์
ทางชันมากก็ขับเลี้ยงรอบ คาไว้เกียร์ 1. นั่นล่ะครับ
แต่ถ้าอึดอัดก็ลองใส่เกียร์ 2 ดู แล้วดูว่ารถมันมีแรงส่งใหม ถ้าไม่มีก็กลับไปใส่เกียร์ 1
ทีนี้ถ้ามีเหตุจำเป็นต้องหยุด ช่วงจะออกตัว เข้าเกียร์ 1
1. ขาซ้ายเหยียบคลัช ขาขวาเหยียบเบรก
2. ขาซ้ายถอนคลัชครึ่งนึง ขาขวาเหยียบเบรก
3. ขาขวาเหยียบคันเร่ง ขาซ้ายถอนคลัช
ผมใช้วิธีนี้เวลาออกตัวบนทางชันครับ
วิธีขับของผมเหมือนสมาชิกท่านนี้เลยครับ ผ่านมาแล้วทุกเขา ทุกโค้งทั้งรถติดหนึบบนทางชันกับเร่งขึ้นที่สูง ได้ชัวร์ครับ
ตรวจเชคเบรคและน้ำในหม้อน้ำด้วยนะครับ
...สำหรับผม ต่างไปนิดหนึ่ง ตรงข้อ 3 เมื่อคลัชเริ่มจับ ผมจะใช้เท้าขวาเหยียบทั้งเบรค และคันเร่ง บิดปลายเท้าเอา ผ่อนเบรคพร้อมกับเหยียบคันเร่ง...ฝึกนิดหน่อยก็ได้จังหวะครับ ไม่ยาก...
-
นี่เป็นสิ่งที่ผมกลัวมาโดยตลอดกับการขับเกียรแมนน่วลขึ้นเขา ผมกลัวมีนถอยหลีงนี่และ เพาาะผมเลี้ยงเบรกกับครัชไม่เปนเลย ผมเลยอัุ่นใจมากที่ใช้เกียรอัตโนมือ เอ้ย มัติ คับ มันำม่ต้องกลัวรถจะถอยหลัง วีนหลีงคุณ จขกท ขับเกียรอัจฌนมัติขึ้นเขาดีกว่านะฮะเพราะเปนผั้หญิงด้วย ใช้เกียรธรรมดามันน่ากลัวเวลาขึ้นดอย
-
ผมขึ้นเกียร์ 1 ถ้ารถติดๆกัน เพราะว่ายังไงก็ไม่มีโอกาสไปเร็วอยู่แล้ว ถ้าจะออกตัวทางชัน ผมใช้เบรคมือครับ เข้าเกียร์ จังหวะที่เร่งเพื่อออกตัว ก็ค่อยๆ ปล่อยเบรคมือจนรู้สึกว่า รถไม่ไหล ก็ขับปกติครับ ขึ้นเขา คลัทช์ต้องใช้บ่อยครับ เดี๋ยวดับครับ แต่ถ้ามีทักษะหน่อยก็เร่งเครื่องให้พอดีรถไม่ไหลแต่ก็ยากครับ
-
ขึ้นเกียร์ 2 ไม่ไหว ก็ไปเกียร์ 1 สิครับ
สำหรับเกียร์ธรรมดา ออกตัวจากหยุดนิ่ง เบิลรอบไปสูงๆได้เลย แล้วค่อยกระแทกครัชออก ปล่อยออกเลยไม่ต้องค่อยๆ ครัชไหม้ดีกว่าเบรคไหม้
คุณน่าจะบอกว่าใช้รถอะไร เกียร์ประเภทไหนด้วย
เอ่อ
เป็นกระบะนาวาร่า คือ การขึ้นเขาครั้งนี้ เกียร์ 2 สบายๆๆ แต่ที่มันดับเพราะเราเหยีบยเบรค (รถเกือบหยุด) แล้วหักหลบรถเก๋งคันหน้าที่ดับ พอหักหลบพร้อมเบรคในขณะอยู่ที่เกียร์ 2 มันเลยหมดแรง ดับ
ส่วนออกตัวบนทางชัน เราก็พอได้ยุนะและก็เคยมีประสบการณ์ เช่นที่ดอยสุเทพตอนรถติด หรือเขาใหญ่ แต่ครั้งนี้แปลกมาก เหมือนรถไม่มีแรงหลังเครื่องดับ ตอนที่ไปได้ก็อยู่ตรงที่ชันพอสมควร แต่เหมือนรถได้พักและมีแรง เราก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าเป็นที่รถด้วยหรือเปล่า
-
รถดับทางชัน
1.เหยียบเบรค
2.ดังเบรคมือ
3.สตาร์ทเครื่องยนต์
4.เหยียบครัชเข้าเกียร์ เกียร์ออโต้ก็เข้า D/L ไปเลย
5.ค่อยๆปล่อยครัช ย้ายเท้าเหยียบเบรค ไปเหยียบคันเร่ง
6.พอเครื่องมีกำลังออกตัวก็ค่อยปลดเบรคมือ
เท่านี้ครับ
-
เกียร์ธรรมดา?
รถหมดแรง จนดับ?
ผมว่า จขกท คงทดเกียร์ไม่ต่ำพอ และเลี้ยงคลัช ไม่สัมพันธ์ มากกว่า เลยเครื่องดับ
ตรงจุดนั้น ต่อให้หยุดนิ่งกลางทางชัน แล้วออกเกียร์ 1 ยังไงก็ขึ้นได้ครับ
ไม่ได้ตำหนินะครับ แต่เตือนด้วยความหวังดี ถ้า skill การขับรถยังไม่ได้เก่งพอ จะขับขึ้น-ลงเขา ชันๆ ไม่ควรขับไปครับ ต่อให้เป็นเกียร์อัตโนมัติ ก็ตามเถอะ
จขกท ทำถูกแล้วครับ ยังดีที่มีสติ ประคองรถลงมา แล้วตั้งลำใหม่
อาการแบบนี้ ระบบ Hill launch assist ช่วยได้ครับ แต่คนซื้อรถส่วนใหญ่ ไม่ได้สนใจรถรุ่นที่มีระบบนี้ ไปสนใจราคาขายต่อ, จอสัมผัส, Navi, Push start มากกว่า พอถึงเหตุการณ์ฉุกเฉินมา จอสัมผัส ไม่ได้ช่วยให้รอดพ้น
ขอยกตัวอย่างหลายๆข่าว ที่เห็นว่า เบรคไหม้ ลงทับเบิก นี้เกิดจาก ความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ทั้งนั้น เด่วนี้รถมันซื้อง่าย ขับง่าย วัยรุ่นมือใหม่ เก่งแต่ขับในเมือง ขึ้น-ลง เขาทีไม่ได้เข้าใจเรื่อง Engine break ทั้งๆที่ป้ายจราจร 2 ข้างทางลงเขา ก็บอกว่า "ลงเขาใช้เกียร์ต่ำ" นี่แระครับปัญหา ท้องถนนเมืองไทย ข้อสอบใบขับขี่ มันง่ายเกินไป
บางคนแก่แล้ว ก็บอกว่าตัวเอง มือเก่า ขับรถมานาน พอลงทับเบิก ก็เบรคแตก แก่แต่ไม่รู้จักพัฒนา เชื่ออะไรผิดๆ ผมเห็นเยอะ สอนๆกันมา ลงเขาให้ปล่อยเกียร์ N จะได้ประหยัดน้ำมัน บ้าไปแล้ว
-
เกียร์ 1 m/t รถดีเซลเทอร์โบ มันเหลือๆนะ
-
จังหวะถ้ามันผสานสัมพันธ์กัน ไม่ปล่อยให้รอบต่ำเกิน เลี้ยงไว้ๆ สับเกียร์ให้ไว น่าจะไม่ดับนะครับ แล้วก็ฉีกขวาแซงได้เลย(ยกเว้นถ้าขวามาแล้วแซงไม่ได้ก็ต้องเบรคครับผม)
-
ให้แฟนขับแทนครับ แก้ปัญหาได้
เดี๋ยวไปซักผ้าก่อนครับ
-
ขึ้นเกียร์ 2 ไม่ไหว ก็ไปเกียร์ 1 สิครับ
สำหรับเกียร์ธรรมดา ออกตัวจากหยุดนิ่ง เบิลรอบไปสูงๆได้เลย แล้วค่อยกระแทกครัชออก ปล่อยออกเลยไม่ต้องค่อยๆ ครัชไหม้ดีกว่าเบรคไหม้
คุณน่าจะบอกว่าใช้รถอะไร เกียร์ประเภทไหนด้วย
เอ่อ
เป็นกระบะนาวาร่า คือ การขึ้นเขาครั้งนี้ เกียร์ 2 สบายๆๆ แต่ที่มันดับเพราะเราเหยีบยเบรค (รถเกือบหยุด) แล้วหักหลบรถเก๋งคันหน้าที่ดับ พอหักหลบพร้อมเบรคในขณะอยู่ที่เกียร์ 2 มันเลยหมดแรง ดับ
ส่วนออกตัวบนทางชัน เราก็พอได้ยุนะและก็เคยมีประสบการณ์ เช่นที่ดอยสุเทพตอนรถติด หรือเขาใหญ่ แต่ครั้งนี้แปลกมาก เหมือนรถไม่มีแรงหลังเครื่องดับ ตอนที่ไปได้ก็อยู่ตรงที่ชันพอสมควร แต่เหมือนรถได้พักและมีแรง เราก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าเป็นที่รถด้วยหรือเปล่า
อ่อ นาวาร่า ! งั้นไม่แปลกใจคับ ผมก็เคยเป็น ไม่ต้องเนินชันมาก ๆ หรอกคับ ออกตัวทางราบเกียร์ 2 ยังไม่ค่อยไหวเลยคับ รอบต่ำ ๆ รถมันเหมือนไม่ค่อยมีแรง ต้องเลี้ยงรอบช่วยเยอะหน่อย ผิดกับพวก D-max, Vigo สองรายนี้รอบต่ำ ๆ ขับสบายกว่ามาก
-
รถดับทางชัน
1.เหยียบเบรค
2.ดังเบรคมือ
3.สตาร์ทเครื่องยนต์
4.เหยียบครัชเข้าเกียร์ เกียร์ออโต้ก็เข้า D/L ไปเลย
5.ค่อยๆปล่อยครัช ย้ายเท้าเหยียบเบรค ไปเหยียบคันเร่ง
6.พอเครื่องมีกำลังออกตัวก็ค่อยปลดเบรคมือ
เท่านี้ครับ
ตามคุณNikle_pk นี้เลยครับ ขอเพิ่มเติมเทคนิค กรณีรถเกียร์ธรรมดา คือให้ใช้เกียร์ 1 ค่อยๆไปเรื่อยๆตั้งเเต่ก่อนขึ้นเขา สลับกับเกียร์ 2 ถ้ารถขึ้นเขาติดกันเป็นขบวนยาว ถ้ามีพื้นที่ช่วงถนนยาวพอที่รอบรถเกียร์ 1จะเกินเเละมีระยะห่างกับคันหน้ามาก ควรเว้นไม่ขับชิดคันหน้าจนเกินไปเผื่อกรณีคันหน้าหยุดกระทันหัน ในกรณีเครื่องดับเเละต้องหยุดรถ ดึงเบรคมือเเละหาก้อนหินหนุนล้อ(ถ้าทำได้) จากนั้นทำตามสเตปที่ 1-5 สเตปที่ 6 ให้ดูจาก รอบแรงบิดของรถเราครับ เช่น ถ้าเป็นกะบะวีโก้ ก็จะมาที่ 1400หรือ 1600 ขึ้นไป ถ้าเป็นอีซูสุ ก็ 1800หรือ1600 ขึ้นไป เหยียบคันเร่งให้รอบไปอยู่ระหว่างช่วงกลางแรงบิดขึ้นไป เช่น ช่วง1600 - 2800หรือ 1800-2800 (ถ้ารถเก๋งก็ดูจากคู่มือรถครับ) นอกจากนั้นคือการสังเกตคันหน้าหลายๆคันอยู่ตลอดเวลา เพื่อเตรียมแก้ไขสถานการณ์เฉพาะหน้าเเละควบคุมจังหวะรถของเรา //// ผมอยู่บนดอยแม่ฮ่องสอน ก็ขับเเละใช้เทคนิคประมาณนี้ครับ^^
-
ขึ้นเกียร์ 2 ไม่ไหว ก็ไปเกียร์ 1 สิครับ
สำหรับเกียร์ธรรมดา ออกตัวจากหยุดนิ่ง เบิลรอบไปสูงๆได้เลย แล้วค่อยกระแทกครัชออก ปล่อยออกเลยไม่ต้องค่อยๆ ครัชไหม้ดีกว่าเบรคไหม้
คุณน่าจะบอกว่าใช้รถอะไร เกียร์ประเภทไหนด้วย
เอ่อ
เป็นกระบะนาวาร่า คือ การขึ้นเขาครั้งนี้ เกียร์ 2 สบายๆๆ แต่ที่มันดับเพราะเราเหยีบยเบรค (รถเกือบหยุด) แล้วหักหลบรถเก๋งคันหน้าที่ดับ พอหักหลบพร้อมเบรคในขณะอยู่ที่เกียร์ 2 มันเลยหมดแรง ดับ
ส่วนออกตัวบนทางชัน เราก็พอได้ยุนะและก็เคยมีประสบการณ์ เช่นที่ดอยสุเทพตอนรถติด หรือเขาใหญ่ แต่ครั้งนี้แปลกมาก เหมือนรถไม่มีแรงหลังเครื่องดับ ตอนที่ไปได้ก็อยู่ตรงที่ชันพอสมควร แต่เหมือนรถได้พักและมีแรง เราก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าเป็นที่รถด้วยหรือเปล่า
หมายความว่า จขกท. ออกตัวทางชัน+ หักเลี้ยว ด้วยใช่ไหมครับ ถ้าแแบนี้ก็ไม่แปลกที่จะดับ อีกอย่างวงแล้วนาวาร่ามันกว้างและขืนมากหักพวงมาลัยเยอะๆ ทางปกติยังจะดับเลย
ปล.ทางขึ้นพระตำหนักเขาค้อชันพอสมควรนะครับ แต่ระยะทางมันไม่ยาวแค่นั้นเอง สมาชิกหลายท่านเทียบกับทางขึ้นเขาค้อเส้นนางั่ว ทางขึ้นพระตำหนักจะชันกว่าเยอะอยู่
-
อยู่ที่จังหวะและเทคนิคครับ ปีที่แล้วผมเอา Dmax 2.5 ตัวแรกสุด 4 ประตูขึ้นทับเบิกช่วงปีใหม่ คงไม่ต้องเดาใช่มั้ยครับ
ติดตั้งแต่ต้นเนินเลยทีเดียว เทคนิคง่ายๆครับ หากรถติดในที่ชั้นมากๆ เหยียบเบรก ดึงเบรคมือให้สุดแบบสุดจริงๆนะ
ปล่อยครัชให้ "ครัชเริ่มจับ" เปลี่ยนเท้าไปแตะคันเร่งเลี้ยงรอบไว้ถ้าไม่ชันมากก็ซัก 1,200-1,400 รอบ ปลดเบรคมือลงผ่าทุกเนินแน่นอน
ไม่มีไหลครับ ขนาด Dmax 2.5 ตัวแรกยังไปได้ นาว่าร่ามันก็ต้องได้สิครับ ครัชไม่ไหม้ด้วยนะเพราะหากจับจังหวะดีๆช่วงเลี้ยงครัช ปลดเบรคมือลง
แล้วปล่อยครัชจะไวมากครับ ไม่เกิน 10 วินาทีแน่นอน
-
เก็บข้อมูล 8)
-
นึกว่าเอาอัลเมร่าไป
อัลเมร่าถูกแก้ไขรึยังครับ
-
ออกตัวเกียร์ 2
เกียร์ 2 มันไม่ได้ถูกออกแบบมาเพื่อให้ออกตัวนะครับ
ทำแบบนี้บ่อยๆ คลัชหมดเร็วเด้อ....
-
ออกตัวเกียร์ 2
เกียร์ 2 มันไม่ได้ถูกออกแบบมาเพื่อให้ออกตัวนะครับ
ทำแบบนี้บ่อยๆ คลัชหมดเร็วเด้อ....
ถ้าทำแบบนี้มันผิดตั้งแต่คิดแล้วละครับ ทางชันออกตัวเกียร์ 2
-
โอย นาวาร่าเกียร์สอง ไปอ่านมาจากไหนครับว่าเอาไว้ขึ้นทางชัน?
เกียร์สองมันเอาไว้ออกกันกระชากจนตกใจมากกว่า แต่ก็ต้องเลี้ยงเป็น ไม่งั้นก็มีสิทธิ์ดับง่ายกว่าปกติ
แต่ถ้าใช้ออกตัวทางชัน ยิ่งมากๆ ระดับทางขึ้นพระตำหนักนี่ มีเหนื่อยล่ะ
ผมไม่แน่ใจว่า จขกท. ขับรถคล่องแค่ไหน เพราะอย่างกระบะผมที่บ้าน เวลาขนของหนักๆ นี่ ผมจะขับช้ากว่าปกติมากเพราะไม่มั่นใจจังหวะ
-
ขึ้นเกียร์ 2 ไม่ไหว ก็ไปเกียร์ 1 สิครับ
สำหรับเกียร์ธรรมดา ออกตัวจากหยุดนิ่ง เบิลรอบไปสูงๆได้เลย แล้วค่อยกระแทกครัชออก ปล่อยออกเลยไม่ต้องค่อยๆ ครัชไหม้ดีกว่าเบรคไหม้
คุณน่าจะบอกว่าใช้รถอะไร เกียร์ประเภทไหนด้วย
เอ่อ
เป็นกระบะนาวาร่า คือ การขึ้นเขาครั้งนี้ เกียร์ 2 สบายๆๆ แต่ที่มันดับเพราะเราเหยีบยเบรค (รถเกือบหยุด) แล้วหักหลบรถเก๋งคันหน้าที่ดับ พอหักหลบพร้อมเบรคในขณะอยู่ที่เกียร์ 2 มันเลยหมดแรง ดับ
ส่วนออกตัวบนทางชัน เราก็พอได้ยุนะและก็เคยมีประสบการณ์ เช่นที่ดอยสุเทพตอนรถติด หรือเขาใหญ่ แต่ครั้งนี้แปลกมาก เหมือนรถไม่มีแรงหลังเครื่องดับ ตอนที่ไปได้ก็อยู่ตรงที่ชันพอสมควร แต่เหมือนรถได้พักและมีแรง เราก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าเป็นที่รถด้วยหรือเปล่า
ผมว่า จขกท. ปล่อยครัชไม่พอน่ะสิครับ
รถของผม มาสด้าสอง เกียร์ธรรมดาปล่อยครัชและอัดคันเร่งเต็มๆ บนถนนเปียก ล้อรถฟรีทิ้งพร้อมกับควันโขมงเลย
-
ผมอยู่กับรถกระบะ ขึ้นเขามาตั้งแต่จำความได้
ผมเห็นบ่อย พวกขับแย่ๆ แล้วยึกยักบนเนิน
รถตามหลังซวย เพราะ ดับ เพราะ สาเหตุดังนี้
เสียจังหวะจากคันหน้า
รถซีซีน้อย มักรอรอบ ทอร์คมาช้า
เข้าเกียร์ทดต่ำไป ทอร์คไม่พอ
ช่วงล้อไม่ตรง พาวเวอร์กินแรงเครื่อง
สรุป ต้องประเมินจากคราวนี้ 2 ไม่ไหว เจออีก เข้า 2 แล้วอัดสุด
ดึงรอบขึ้นแล้วเข้า 1 อัดเครื่องให้พ้นครับ
อย่ากลัวพังครับ
-
โอย นาวาร่าเกียร์สอง ไปอ่านมาจากไหนครับว่าเอาไว้ขึ้นทางชัน?
เกียร์สองมันเอาไว้ออกกันกระชากจนตกใจมากกว่า แต่ก็ต้องเลี้ยงเป็น ไม่งั้นก็มีสิทธิ์ดับง่ายกว่าปกติ
แต่ถ้าใช้ออกตัวทางชัน ยิ่งมากๆ ระดับทางขึ้นพระตำหนักนี่ มีเหนื่อยล่ะ
ผมไม่แน่ใจว่า จขกท. ขับรถคล่องแค่ไหน เพราะอย่างกระบะผมที่บ้าน เวลาขนของหนักๆ นี่ ผมจะขับช้ากว่าปกติมากเพราะไม่มั่นใจจังหวะ
แสดงว่า การเขียนหนังสือเราแย่มากเลยนะ เพราะเราก็ว่าเราอธิบายชัดอยู่นะ คือ เราขึ้นเขาเราก็ขึ้นเกียร์ 1 สลับ 2 ไปเรื่อยๆ หมดแรงก็เกียร์ 1 พอรอบสูงก็เกียร์ 2 จังหว่ะนั้นมันเป็นเกียร์ 2 ยาวๆ ไปเรื่อยๆตามก้นกันไปกับคันหน้า เป็นอัลติสรุ่นเก่าหน่อยนึง อยู่ๆรถคันหน้าก็เบรคกระทันหันในขณะที่เราอยู่เกียร์ 2 เราจึงต้องเบรค (รถเกือบหยุด) พร้อมหักหลบ จังหว่ะนี้แล่ะที่แรงหมด เพราะอยู่เกียร์ 2 ทีนี้เรารู้ว่าจังหว่ะแรงหมดห้ามเปลี่ยนลงเกียร์ 1 เด็ดขาด ต้องเลี้ยงรอบไว้ก่อนให้รถมีแรง (ถูก??) แต่มันไม่ไหวจริงๆเลยดับ
ส่วนทางเส้นนี้ถ้าไม่เกิดเหตุกระทันหันที่ว่านี้ เราขึ้นสบายๆนะ เพราะไม่ได้โหดอะไรมาก
แต่ที่เรางงคือ เหมือนรถไม่มีแรงเลยหลังสตาทอีกครั้ง เพราะเราก็เคยจอดนิ่งแล้วขึ้นทางชันอยู่นะ แต่ครั้งนี้พอมาคิดย้อนหลังเลยคิดได้ว่ามันแปลกๆเกี่ยวกับรถตัวเอง
-
โอย นาวาร่าเกียร์สอง ไปอ่านมาจากไหนครับว่าเอาไว้ขึ้นทางชัน?
เกียร์สองมันเอาไว้ออกกันกระชากจนตกใจมากกว่า แต่ก็ต้องเลี้ยงเป็น ไม่งั้นก็มีสิทธิ์ดับง่ายกว่าปกติ
แต่ถ้าใช้ออกตัวทางชัน ยิ่งมากๆ ระดับทางขึ้นพระตำหนักนี่ มีเหนื่อยล่ะ
ผมไม่แน่ใจว่า จขกท. ขับรถคล่องแค่ไหน เพราะอย่างกระบะผมที่บ้าน เวลาขนของหนักๆ นี่ ผมจะขับช้ากว่าปกติมากเพราะไม่มั่นใจจังหวะ
แสดงว่า การเขียนหนังสือเราแย่มากเลยนะ เพราะเราก็ว่าเราอธิบายชัดอยู่นะ คือ เราขึ้นเขาเราก็ขึ้นเกียร์ 1 สลับ 2 ไปเรื่อยๆ หมดแรงก็เกียร์ 1 พอรอบสูงก็เกียร์ 2 จังหว่ะนั้นมันเป็นเกียร์ 2 ยาวๆ ไปเรื่อยๆตามก้นกันไปกับคันหน้า เป็นอัลติสรุ่นเก่าหน่อยนึง อยู่ๆรถคันหน้าก็เบรคกระทันหันในขณะที่เราอยู่เกียร์ 2 เราจึงต้องเบรค (รถเกือบหยุด) พร้อมหักหลบ จังหว่ะนี้แล่ะที่แรงหมด เพราะอยู่เกียร์ 2 ทีนี้เรารู้ว่าจังหว่ะแรงหมดห้ามเปลี่ยนลงเกียร์ 1 เด็ดขาด ต้องเลี้ยงรอบไว้ก่อนให้รถมีแรง (ถูก??) แต่มันไม่ไหวจริงๆเลยดับ
ส่วนทางเส้นนี้ถ้าไม่เกิดเหตุกระทันหันที่ว่านี้ เราขึ้นสบายๆนะ เพราะไม่ได้โหดอะไรมาก
แต่ที่เรางงคือ เหมือนรถไม่มีแรงเลยหลังสตาทอีกครั้ง เพราะเราก็เคยจอดนิ่งแล้วขึ้นทางชันอยู่นะ แต่ครั้งนี้พอมาคิดย้อนหลังเลยคิดได้ว่ามันแปลกๆเกี่ยวกับรถตัวเอง
นาวาร่าวิ่งมากี่โลแล้วครับ ถ้าวิ่งมาเยอะแล้วอาจจะเกิดจากคลัชท์ใกล้หมดเลยจับได้ไม่เต็มที่
-
รถ 6 ปี เกือบจะแสนสี่แล้วค่ะ
ปล. หลังสตาท แล้วพยายามนี่คือ ขึ้นเกียร์ 1 นะ ไม่ใช่ว่าออกตัวเกียร์ 2
เกิดมายังไม่เคยออกตัวรถเกียร์ 2 เลยไม่ว่าเส้นทางใดๆ เพราะสงสารเขา
-
เข้าใจอารมณ์เลยผม... สิบปีก่อน เอาสปอร์ทไรเดอร์ เกียร์ธรรมดา ขับขึ้นภูชีฟ้า
ตอนจะขึ้นที่กางเต้นท์ ขับตามกันไป เพื่อนคันหน้าดันดับ
เราเสียจังหวะ ใส่เกียร์หนึ่ง ไม่มีแรงขึ้น ต้องถอยลงมาประห้าร้อยเมตร โชคดีที่ทางตรงๆ
พอขึ้นไปอีกทีนี้เป็นทางโค้ง มันดับอีก คราวนี้ก็ถอยแถมเบรคไม่อยู่ แต่ยังคุมรถได้ โดยไม่ได้นัดหมาย
คนในรถ เปิดประตู โดดลงรถ ไปหาก้อนหินมาหนุนล้อ เสียววาบเลย....ทีนี้ให้มันขึ้นถึงที่ผมค่อยขึ้นไป
หลังจากนั้น ไม่ว่าขึ้นเขาหรือเนินที่ไหน ผมจะทิ้งระยะให้ห่างพอควร พยายามสังเกตุ ให้คันหน้าเป็นรถเกียร์ Auto
อย่างน้อยถ้าดับ ยังคงไปต่อได้ง่ายกว่า ที่ไม่ลืมคือ ไม้รองล้อ ... เวลาเราต้องจอดรถตามเขาชันๆ ช่วยได้เยอะ
-
ถ้าอาการอย่างที่ จขกท. ว่า ผมว่าเช็คคลัทช์ดีกว่าครับ มีแนวโน้มคลัทช์ใกล้หมดหรือเปล่า ระยะก็เท่านั้นแล้ว
ถ้าพิมพ์อะไรไปไม่ถูกใจขออภัยครับ ผมเองก็อ่านไม่ค่อยจะดีพอๆ กันวันนี้
-
เข้าใจอารมณ์เลยผม... สิบปีก่อน เอาสปอร์ทไรเดอร์ เกียร์ธรรมดา ขับขึ้นภูชีฟ้า
ตอนจะขึ้นที่กางเต้นท์ ขับตามกันไป เพื่อนคันหน้าดันดับ
เราเสียจังหวะ ใส่เกียร์หนึ่ง ไม่มีแรงขึ้น ต้องถอยลงมาประห้าร้อยเมตร โชคดีที่ทางตรงๆ
พอขึ้นไปอีกทีนี้เป็นทางโค้ง มันดับอีก คราวนี้ก็ถอยแถมเบรคไม่อยู่ แต่ยังคุมรถได้ โดยไม่ได้นัดหมาย
คนในรถ เปิดประตู โดดลงรถ ไปหาก้อนหินมาหนุนล้อ เสียววาบเลย....ทีนี้ให้มันขึ้นถึงที่ผมค่อยขึ้นไป
หลังจากนั้น ไม่ว่าขึ้นเขาหรือเนินที่ไหน ผมจะทิ้งระยะให้ห่างพอควร พยายามสังเกตุ ให้คันหน้าเป็นรถเกียร์ Auto
อย่างน้อยถ้าดับ ยังคงไปต่อได้ง่ายกว่า ที่ไม่ลืมคือ ไม้รองล้อ ... เวลาเราต้องจอดรถตามเขาชันๆ ช่วยได้เยอะ
คันเก๋งนี้ดับแน่นอน เพราะขนาดเรากลับขึ้นไปได้อีก เขายังขึ้นไปใหนไม่ได้เลย เห็นช่วยกันเอาท่อนไม้มาหนุนล้อ
-
ถ้าอาการอย่างที่ จขกท. ว่า ผมว่าเช็คคลัทช์ดีกว่าครับ มีแนวโน้มคลัทช์ใกล้หมดหรือเปล่า ระยะก็เท่านั้นแล้ว
ถ้าพิมพ์อะไรไปไม่ถูกใจขออภัยครับ ผมเองก็อ่านไม่ค่อยจะดีพอๆ กันวันนี้
ควรจะไป 0 หรืออู่คะ เพราะกลัวว่าไป 0 แล้วเขาจะจับเปลี่ยนให้เลย
แล้วราคามันอยู่เท่าไร
ส่วนเรื่องพิมพ์ไม่เป็นไรค่ะ เข้ามาตั้งกระทู้ก็ย่อมต้องยอมรับกับคำวิจารณ์ของคนอื่น
ก็ต้องขอบคุณเพื่อนสมาชิกที่ให้คำแนะนำมากๆค่ะ
-
ถ้าอาการอย่างที่ จขกท. ว่า ผมว่าเช็คคลัทช์ดีกว่าครับ มีแนวโน้มคลัทช์ใกล้หมดหรือเปล่า ระยะก็เท่านั้นแล้ว
ถ้าพิมพ์อะไรไปไม่ถูกใจขออภัยครับ ผมเองก็อ่านไม่ค่อยจะดีพอๆ กันวันนี้
ควรจะไป 0 หรืออู่คะ เพราะกลัวว่าไป 0 แล้วเขาจะจับเปลี่ยนให้เลย
แล้วราคามันอยู่เท่าไร
ส่วนเรื่องพิมพ์ไม่เป็นไรค่ะ เข้ามาตั้งกระทู้ก็ย่อมต้องยอมรับกับคำวิจารณ์ของคนอื่น
ก็ต้องขอบคุณเพื่อนสมาชิกที่ให้คำแนะนำมากๆค่ะ
- รถ6ปี เข้าใจว่าเป็นนาวาร่ารุ่นแรกใช่มั้ยครับ ถ้าเป็นรุ่นนี้มันเป็นฟลายวีล2ชั้น ถ้าเปลี่ยนคลัชท์ต้องยกฟลายวีลใหม่ด้วย ค่ายกคลัชท์หมืนกว่าบาทไปยัน2หมื่นครับไม่ว่าจะนอกศูนย์หรือในศูนย์ แต่สามารถเอาฟลายวีลชั้นเดียวของตัวไมเนอร์มาเปลี่ยนแทนได้ค่าใช่จ่ายเท่ากันแต่ยกคลัชท์ครั้งต่อไปไม่ต้องเปลี่ยนฟลายวีลแล้ว เปลี่ยนแค่คลัชท์กับหวีคลัชท์และลูกปืนคลัชท์แค่หลักพันบาทปลายๆไม่เกินหมื่นครับ
- นาวาร่าตัวไมเนอร์กับ NP300 เปลี่ยนมาใช้ฟลายวีลชั้นเดียวแทนฟลายวีล2ชั้นเพราะโดนลูกค้าด่าเปิงว่ายกคลัชท์ทีแพงชิบหาย
- ฟลายวีล2ชั้นมีข้อดีคือเงียบและเบาแรงกว่าฟลายวีลชั้นเดียว ส่วนข้อเสียตามที่บอกไปครับ
- ปัจจุบันนี้ยังเหลือ Ranger และ BT-50 Pro ที่ยังดื้อใช้ฟลายวีล2ชั้นอยู่ยกคลัชท์ทีอ่วมอรทัยแถมไม่มีฟลายวีลชั้นเดียวมาเปลี่ยนแบบนาวาร่าด้วย เพื่อนผมโดนไปหลายคนบ่นจุกกันเป็นแถบ
-
ประเด็นแรก ตอบ จขกท ถ้ารถจะหมดแรงลดเกียร์ลงได้ทันทีนะครับ จาก 2 มา 1 ไม่มีข้อห้ามนะครับ
ประเด็นที่ 2 เราควรจะเรียกร้องจากบริษัทรถยนต์กันได้หรือยัง ขอระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน ใส่มาให้ในรุ่นที่เป็นเกียร์ธรรมดามั่งเหอะมันจำเป็น ส่วนใหญ่ที่มีให้ไปอยู่ในรุ่นท็อปเกียร์ออโต้กันหมด ทั้งที่จริงๆแล้วเกียร์ออโต้มันแทบจะไม่มีความจำเป็นต้องมีระบบนี้เลยก็ได้ ที่นึกออกรถเกียร์ธรรมดาที่ใส่ระบบนี้มาให้ สำหรับรถกระบะก็ BT-50 ตัวเครื่อง 3.2 4x4 MT ไม่แน่ใจว่ารีโว่มีด้วยเปล่า
-
จอดรถทางชัน....จะออกตัว หาหินสักก้อน ยันล้อหลังไว้ สบายใจกว่า....แล้วค่อยใช้เทคนิคข้างบน
ลงทางลาดชัน เกีย 1 เท่านั้น ลดภาระเบรค ให้น้อยที่สุด รอบสูงช่างมัน ...น้ำมันไม่ได้จ่าย มีแค่รอบสูงเท่านั้น
ผมก็เพิ่งถึงบ้าน กทม. ไปมาตั้งแต่วันศุกร์ จับไมค์ไป-กลับ 1000 กม. กินสตอเบอรี่ เพลินเลย เยอะมากๆ
มาถึงบ้าน ทำไมอากาศ มันต่างแตกต่างกัน เช่นนี้
ขับ CRV 2.0 E ไป
-
ประเด็นแรก ตอบ จขกท ถ้ารถจะหมดแรงลดเกียร์ลงได้ทันทีนะครับ จาก 2 มา 1 ไม่มีข้อห้ามนะครับ
ประเด็นที่ 2 เราควรจะเรียกร้องจากบริษัทรถยนต์กันได้หรือยัง ขอระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน ใส่มาให้ในรุ่นที่เป็นเกียร์ธรรมดามั่งเหอะมันจำเป็น ส่วนใหญ่ที่มีให้ไปอยู่ในรุ่นท็อปเกียร์ออโต้กันหมด ทั้งที่จริงๆแล้วเกียร์ออโต้มันแทบจะไม่มีความจำเป็นต้องมีระบบนี้เลยก็ได้ ที่นึกออกรถเกียร์ธรรมดาที่ใส่ระบบนี้มาให้ สำหรับรถกระบะก็ BT-50 ตัวเครื่อง 3.2 4x4 MT ไม่แน่ใจว่ารีโว่มีด้วยเปล่า
เห็นด้วยครับ ของที่จำเป็นควรอยู่ในรุ่นที่จำเป็นครับ ไม่ใช่อะไรก็ไปตัวท๊อปหมดเลย
-
ประเด็นแรก ตอบ จขกท ถ้ารถจะหมดแรงลดเกียร์ลงได้ทันทีนะครับ จาก 2 มา 1 ไม่มีข้อห้ามนะครับ
ประเด็นที่ 2 เราควรจะเรียกร้องจากบริษัทรถยนต์กันได้หรือยัง ขอระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน ใส่มาให้ในรุ่นที่เป็นเกียร์ธรรมดามั่งเหอะมันจำเป็น ส่วนใหญ่ที่มีให้ไปอยู่ในรุ่นท็อปเกียร์ออโต้กันหมด ทั้งที่จริงๆแล้วเกียร์ออโต้มันแทบจะไม่มีความจำเป็นต้องมีระบบนี้เลยก็ได้ ที่นึกออกรถเกียร์ธรรมดาที่ใส่ระบบนี้มาให้ สำหรับรถกระบะก็ BT-50 ตัวเครื่อง 3.2 4x4 MT ไม่แน่ใจว่ารีโว่มีด้วยเปล่า
NP300 4WD ยัด HSA มาให้ทุกรุ่นเลยครับ แม้แต่เกียร์ธรรมดารุ่นถูกสุด แต่รุ่นอื่นไม่มีเหมือนมันเป็น package เฉพาะรุ่น 4wd เลย
-
โอย นาวาร่าเกียร์สอง ไปอ่านมาจากไหนครับว่าเอาไว้ขึ้นทางชัน?
เกียร์สองมันเอาไว้ออกกันกระชากจนตกใจมากกว่า แต่ก็ต้องเลี้ยงเป็น ไม่งั้นก็มีสิทธิ์ดับง่ายกว่าปกติ
แต่ถ้าใช้ออกตัวทางชัน ยิ่งมากๆ ระดับทางขึ้นพระตำหนักนี่ มีเหนื่อยล่ะ
ผมไม่แน่ใจว่า จขกท. ขับรถคล่องแค่ไหน เพราะอย่างกระบะผมที่บ้าน เวลาขนของหนักๆ นี่ ผมจะขับช้ากว่าปกติมากเพราะไม่มั่นใจจังหวะ
แสดงว่า การเขียนหนังสือเราแย่มากเลยนะ เพราะเราก็ว่าเราอธิบายชัดอยู่นะ คือ เราขึ้นเขาเราก็ขึ้นเกียร์ 1 สลับ 2 ไปเรื่อยๆ หมดแรงก็เกียร์ 1 พอรอบสูงก็เกียร์ 2 จังหว่ะนั้นมันเป็นเกียร์ 2 ยาวๆ ไปเรื่อยๆตามก้นกันไปกับคันหน้า เป็นอัลติสรุ่นเก่าหน่อยนึง อยู่ๆรถคันหน้าก็เบรคกระทันหันในขณะที่เราอยู่เกียร์ 2 เราจึงต้องเบรค (รถเกือบหยุด) พร้อมหักหลบ จังหว่ะนี้แล่ะที่แรงหมด เพราะอยู่เกียร์ 2 ทีนี้เรารู้ว่าจังหว่ะแรงหมดห้ามเปลี่ยนลงเกียร์ 1 เด็ดขาด ต้องเลี้ยงรอบไว้ก่อนให้รถมีแรง (ถูก??) แต่มันไม่ไหวจริงๆเลยดับ
ส่วนทางเส้นนี้ถ้าไม่เกิดเหตุกระทันหันที่ว่านี้ เราขึ้นสบายๆนะ เพราะไม่ได้โหดอะไรมาก
แต่ที่เรางงคือ เหมือนรถไม่มีแรงเลยหลังสตาทอีกครั้ง เพราะเราก็เคยจอดนิ่งแล้วขึ้นทางชันอยู่นะ แต่ครั้งนี้พอมาคิดย้อนหลังเลยคิดได้ว่ามันแปลกๆเกี่ยวกับรถตัวเอง
เรื่องลงเกียร์ จาก 2 มา 1 ไม่ต้องรอให้รถหยุดครับถ้า 2 ไปไม่ไหวก็ลง 1 ได้เลย รถมีแรงส่งอยู่แล้วไปง่ายกว่าเริ่มจากหยุดนิ่ง
เวลาขึ้นเขาผมจะทิ้งช่วงคันหน้าให้มาก(กว่าปกติ) เผื่อเจอแบบที่ จขกท. เจอเราจะได้มีจังหวะเบี่ยงหลบได้
เรื่องแรงรถดรอปลงผิดปกติ อาจเกดิจากครัชไกล้หมดอย่างที่หลายๆ ท่านวิเคราะห์
-
จอดรถทางชัน....จะออกตัว หาหินสักก้อน ยันล้อหลังไว้ สบายใจกว่า....แล้วค่อยใช้เทคนิคข้างบน
หากรถไปแล้ว หินก้อนนั้นใครจะเป็นคนเก็บครับ เพราะคนส่วนใหญ่จะหนุนล้อหลังที่อยู่กลางถนนไม่ใช่ล้อที่ชิดขอบทาง
หากไม่เก็บ สงสารรถตามหลัง สงสารมอไซค์กลัวเหตุการณ์บานปลายเหมือนที่ยุดยา (หลายปีผ่านมาแล้ว) ที่มอไซค์แก้แค้นรถหกล้อ เขวี้ยงหิน แล้วลามไปถึงรถยนต์ เพราะความคะนอง
-
ใช่ครับ ควรรับผิดชอบหิน หรือ ท่อนไม้ ตัวเองด้วย
ผมใช้กรณี ต้องจอดรถไหล่ทางที่ชัน นะครับ ล้อฝั่ง ขอบทาง
ถ้าไม่ใช้เลย ต้องมีฝีมือหน่อย ปลายเท้าเหยียบเบรค ส้นเท้า คันเร่ง พอรถมีแรง ปล่อยเบรค ยากอยู่นะ
ถ้าพลาด ท้ายไหลจิ้มหน้าคันหลังแน่ๆ
จอดรถทางชัน....จะออกตัว หาหินสักก้อน ยันล้อหลังไว้ สบายใจกว่า....แล้วค่อยใช้เทคนิคข้างบน
หากรถไปแล้ว หินก้อนนั้นใครจะเป็นคนเก็บครับ เพราะคนส่วนใหญ่จะหนุนล้อหลังที่อยู่กลางถนนไม่ใช่ล้อที่ชิดขอบทาง
หากไม่เก็บ สงสารรถตามหลัง สงสารมอไซค์กลัวเหตุการณ์บานปลายเหมือนที่ยุดยา (หลายปีผ่านมาแล้ว) ที่มอไซค์แก้แค้นรถหกล้อ เขวี้ยงหิน แล้วลามไปถึงรถยนต์ เพราะความคะนอง
-
สำหรับผมเวลาขึ้นเขา ถ้ารถมีกำลังน้อย จะไม่ใช้เด็ดขาดครับ
-
ทั้งนี้ทั้งนั้นนะครับ เถ้ารถคุณหนัก+ทางชันมาก จนดึงเบรคมือไม่อยู่ถือว่าวิกฤต ให้ใช้หินหรือไม้รองล้ออย่างเดวครับ หรือปล่อยไหลไปตั้งหลักมาใหม่
ผมเคยไปกับรถตู้รับจ้าง หยุดกลางเขา เรียบร้อยเลยครับ ขึ้นไม่ได้ ต่อให้เร่งรอบขึ้นไปแล้วกระชากคลัชออกตัวก็ดับอยู่ดี ต้องรองล้อลูกเดียวครับ
ซึ่งถ้ามาคนเดียวจะลำบากมาก แนะนำให้ทิ้งห่างคันหน้าไว้เยอะๆ ครับ เผื่อซวยเจอคันหน้าดับ จะได้ไม่แย่ตามไปด้วย
-
เกียร์ 1 เหยียบคันเร่งช่วย (ถ้าแค่เกียร์ 1 แล้วอาศัยกำลังรถอย่างเดียวไม่พอ เครื่องจะดับ เร่งรอเลยก่อนปล่อยคลัทช์สุด ถ้าสลับเท้าขวาจากเหยียบเบรคไม่ทันให้ขึ้นเบรคมือไว้ก่อน)
-
ไปเที่ยวตำหนักเขาค้อ จังหว่ะขับตามหลังเก๋งช่วงชันๆ ปรากฎว่าเก๋งน่าจะดับ เราขึ้นเกียร์ 2 ต้องเบรคพร้อมหักหลบ ปรากฎว่ารถเราหมดแรง พยายามเลี้ยงรอบสุดฝีมือที่มีอยู่ แต่ไม่ไหว สุดท้ายดับ เราก็จอดเบรค ดึงเบรคมือ ติดเครื่องใหม่แล้วพยายามเอาเบรคมือช่วย แต่ไม่ไหว พยายามหลายครั้งจนได้กลิ่นไหม้ เลยจอดคิดหาวิธี ใจก็ไปแล้ว กลัวสุดๆ เลยใช้วิธีค่อยๆถอยหลังเกียร์ถอย เบรค ถอย ใช้เวลานานมากๆ จนมาถึงที่ไม่ชัน เลยลองใหม่ สุดท้ายก็ไปได้
คำถามคือ วิธีเราทำถูกหรือไม่ เพื่อนๆมีวิธีแนะนำมั้ยในกรณีลักษณะนี้ ขอบคุณค่ะ
ให้ลองเปลี่ยนรถมาใช้เกียร์ออโตสบายกว่าเยอะดีกว่าเยอะครับ ไม่ต้องลุ้นแบบนี้ ตอนลงถ้าเล่นเป็นใช้เกียร์แทนเบรคก็เหลือแล้วครับเพียงแต่คนจำนวนมากทักษะในการขับขึ้นเขาลงเขาไม่ค่อยมีส่วนใหญ่ขับแต่ทางราบ ๆ เลยเกิดปัยหา ถ้าไม่ได้ขับบนดอยบ่อย ๆ ก็มีปัยหาเรื่องความชำนาญกันอยู่ดี เทศกาลควรเลี่ยงการเที่ยวบนดอยสูง ๆ เพราะมีโอกาสที่เราจะเจอพวกขับรถบนดอยไม่เป็นเสียส่วนมาก จะสร้างปัยหารถติดและอุบัติเหตุให้เราหงุดหงิดรำคาญใจอีกต่างหาก
-
ออกตัวจากหยุดนิ่งบนทางชัน ผมเอาประสบการณ์สมัยขับรถกระบะเกียร์แมนวลมาใช้ครับ
1. จากหยุดนิ่ง เหยียบแป้นเบรคเท้า ดึงเบรคมือให้สุด
2. เหยียบคลัช เข้าเกียร์ 1
3. ค่อยๆเหยียบคันเร่งในขณะที่คลายคลัช+ค่อยๆคลายเบรคมือ ถ้าทางชันมากๆ+ทางกรวด พยายามอย่าให้ล้อหมุนฟรี
ถ้าเป็นการขับรถขึ้นเนิน เบรคมือสำคัญมาก ไม่ต้องรีบปล่อย เกิดเหตุฉุกเฉินให้รีบดึงเบรคมือให้สุดก่อน ถ้าใช้คนคุ้นเคยแล้วแทบจะไม่ต้องใช้
เบรคเท้าเลย ..สำหรับเกียร์ออโต้ก็ไม่ต่างกัน เพียงแค่ไม่ต้องเหยียบคลัชเท่านั้น ลองนำไปปรับใช้ดูนะครับเผื่อจะพอช่วยได้บ้าง
-
ทางขึ้นพระตำหนักเขาค้อ เขาให้วิ่งเป็น One Way ครับ ถ้าคันหน้าไม่ไหว ให้แซงไปเลย ไม่ต้องไปต่อตูด ไม่อย่างงั้นก็ต้องจอดครับ ผมเป็นคนท้องถิ่น เห็นรถกรุงเทพไปจอดกันทุกปีครับ และจะมีช่วงทางขึ้นเนินยาวๆ วิธีขับคือเหยียบเต็มที่ตั้งแต่ตีนเขา ไม่ต้องกลัวรถพังคับ ผ่านแน่นอน และอีกประเภทคือ รอให้รอบตกลงมาเยอะ ๆ แล้วค่อยเปลี่ยนลงมาเกียร์ต่ำ ถ้าเจอเนินยาว ๆ จะไม่ไหวเอาครับ
-
เพิ่มเติมนิดครับ ขับขึ้นทางชัน อย่าขับชิดก้นคันหน้าครับ ทางลงก็เช่นกัน