Headlight Magazine : community

General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: H3T ที่ ธันวาคม 28, 2015, 16:16:20

หัวข้อ: Fortuner 2.7V 4x2 AT
เริ่มหัวข้อโดย: H3T ที่ ธันวาคม 28, 2015, 16:16:20
 ไม่รู้ว่าจะมีใครตั้งข้อสังเกตุเรื่องราคาของ Fortuner 2.7V ที่ 1.449 ล. ซึ่งแพงกว่ารุ่น 2.4V ที่ 1.369 ล. อยู่ถึง 8 หมื่นบาท ทั้งๆที่สเปคออปชั่นเหมือนกันหมด ต่างแค่เครื่องยนต์เท่านั้น

  ตามปกติ ต้นทุนเครื่องยนต์ดีเซลจะสูงกว่าเบนซินเสมอ ถ้ามองมุมของจำนวนเครื่องยนต์ที่ผลิต ดีเซลน่าจะมีปริมาณมากกว่า ส่งผลให้ต้นทุนต่อหน่วยต่ำลง แต่ก็ไม่น่าจะต่ำกว่าเบนซินไปได้
  หรือหากมองในแง่การจัดอัตราส่วนกำไรแต่ละรุ่นให้ไม่เท่ากัน กรณีนี้ อาจจะเอากำไร 2.7V มากหน่อยได้ เพราะไม่มีคู่แข่ง PPV เบนซิน แทบจะผูกขาดอยู่รุ่นเดียว

  ซึ่งมองเอาปัจจัยข้างบนมาพิจารณาดู ยังไงก็ไม่น่าจะทำให้ส่วนต่างของราคามากถึงขนาด 8 หมื่นบาทได้

  ผมจึงเริ่มคิดถึงเรื่องปัจจัยด้านภาษีสรรพสามิตขึ้นมาทันที
  ตอนนี้ PPV ต่ำกว่า 3250 ซีซี เสียเรทเดียวกันทั้งหมด ( ทั้ง 2.4 และ 2.7 ) ที่ 20%
 
  แต่ปัจจัยการคิดภาษีสรรพสามิตใหม่ 1 ม.ค. เป็นแบบดูอัตราการปล่อย Co2
  รุ่น 2.4V เปิดสติ๊กเกอร์ออกมาแล้วที่ 199 g/km เท่ากับจะอยู่พิกัด 25% ( ขึ้น +5% )
  รุ่น 2.7V ผมยังไม่เห็นสติ๊กเกอร์นะ ( ท่านใดมีช่วยรบกวนแจ้งได้เลยครับ ) แต่เดาได้เลยว่า เกิน 200 g/km แน่ๆ เท่ากับจะอยู่พิกัด 30% ( ขึ้น 10% )

  ถ้าราคา 2.7 ต้องกระโดดขึ้นไปในอัตราส่วนที่สูงกว่ารุ่นย่อยอื่นๆที่เป็นดีเซล จะดูแพงขึ้นเกินไปในสายตาคนที่สนใจแน่นอน
  ทางเลือกจะทำอย่างไรดี

 1. ลด Co2 ให้ต่ำลงกว่า 200 g/km โดยการใส่ระบบ start - stop แต่ก็ไม่แน่ใจว่าจะทำให้ต่ำกว่า 200 g/km ได้หรือเปล่า
 2. ไม่ต้องทำอะไรทั้งสิ้น ภาษีขึ้น 10% ก็ขึ้นไป ไม่ได้ให้ความสำคัญกับรุ่นนี้อยู่แล้ว
 3. ถ้าขึ้น 10% แบบข้อ 2 จะหาทางทำอย่างไรให้ความรู้สึกของลูกค้ามองว่าไม่รู้สึกว่าแพงมากเกินไป
    ถ้าหากจะมองว่า เลือกเปิดราคารุ่น 2.7V ที่ค่อนข้างแพงในความรู้สึกลูกค้าส่วนใหญ่เมื่อเทียบกับรุ่น 2.4V ถึง 8 หมื่นบาท เป็นการบวกราคาส่วนของภาษีไปก่อนแล้วส่วนนึงหล่ะ เพื่อพอเริ่มภาษีใหม่ ก็บวกราคาเพิ่มในอัตราส่วนที่เท่าๆกับรุ่นอื่นๆ ได้เลย ทำให้ส่วนต่างราคาเท่าเดิมกับรุ่นอื่นเหมือนเดิม

 ยกตัวอย่าง ปรับขึ้นจากภาษีใหม่ตีซัก 5 หมื่น
 2.4V 1.369 เป็น 1.419 สรรพสามิต 25%
 2.7V 1.449 เป็น 1.499 สรรพสามิต 30%
  ถ้าคิดว่าราคาเดิมเปิดเท่ากับ 2.4V 1.369 เป็น 1.499
 ก็จะเท่ากับภาษีสรรพสามิตขึ้น 10% ตีเป็นตัวเงิน 130,000 บาท ก็น่าจะสมเหตุสมผลมากขึ้นนะครับ
หัวข้อ: Re: Fortuner 2.7V 4x2 AT
เริ่มหัวข้อโดย: tnp_super ที่ ธันวาคม 28, 2015, 16:26:34
มารอด้วยคนครับสงสัยมานานเหมือนกัน
หัวข้อ: Re: Fortuner 2.7V 4x2 AT
เริ่มหัวข้อโดย: Jacob ที่ ธันวาคม 28, 2015, 16:58:48
เครื่องดีเซลคือเครื่องธรรมดาแบบในกระบะ ไม่ใช่ดีเซลพํฒนาใหม่ให้เงียบแบบพวก BMW หรือ Benz ที่จะราคาแพง

เครื่องเบนซินใหญ่ๆก็ราคาสูงอยู่แล้ว ดูจากพวก CRV x-trail ก็ได้ นี่ 2.7 ด้วย ไม่ใช่แค่ 2.5 (เติม e85 ได้ภาษีถูกลงแต่ก็ยังแพงอยู่ดี แสดงว่าเป็นที่ต้นทุน)

ถ้าชอบขับเร็ว แรงดีปลายไม่ตก เครื่องเงียบ ก็ไปเบนซิน ถ้าเน้นประหยัดก็ไปดีเซล ผมว่าพวกขับฟอร์จูนที่ชอบขับเร็วๆก็มีอยู่ เค้าคงยินดีจ่ายเพิ่ม
หัวข้อ: Re: Fortuner 2.7V 4x2 AT
เริ่มหัวข้อโดย: YenChar ที่ ธันวาคม 28, 2015, 17:14:53
ถ้าถามว่าโตโยต้าทำไมถึงตั้งราคาขายแบบนี้คงตอบยากครับ
แต่ถ้าถามว่าทำไมถึงยังมีคนซื้อ อันนี้พอจะตอบได้

คนใช้รถวิ่งแก๊ส รุ่นเดิมเครื่องเบนซิน หลายๆคนวิ่งทะลุ 4 แสนกิโล
ส่วนต่างของราคาค่าตัวรถ+ค่าติดตั้งแก๊ส ถ้าใช้รถระดับเกิน 4 แสนกิโล ยังไงๆก็คุ้มค่า
ญาติผมซื้อรุ่นปี 08 ทุกวันนี้ 3 แสนกว่าโลแล้ว

แต่ถ้าเป็นประเด็นด้านความแรง
เบนซินหายใจธรรมดาในฟอร์จูนเนอร์ ผมเอาดีเซลดีกว่าครับ
ผมถอยรุ่น 2.4 มา เพิ่ง 500 โล แรงแบบพอเพียง+ประหยัด
(ถ้าไม่พอค่อยดันราง+ยกหัวฉีด  8))
หัวข้อ: Re: Fortuner 2.7V 4x2 AT
เริ่มหัวข้อโดย: Slipknot` ที่ ธันวาคม 28, 2015, 17:55:05
Auto start stop มีอยู่แล้วไม่ใช่หรอครับ หรือมีแค่ 2.8 4WD
จริงๆไม่อยากให้ปล่อยเลยตามเลย เพราะโฉมที่แล้วตัวเบนซินก็ขายได้อยู่น่ะ ติดแก๊สใช้กันยาวๆเลย
หัวข้อ: Re: Fortuner 2.7V 4x2 AT
เริ่มหัวข้อโดย: tsubasa ที่ ธันวาคม 28, 2015, 18:19:59
รุ่นนี้ เป็นหนึ่งในรุ่นที่ผมรู้สึกว่า toyota thailand เอาเปรียบมากๆ
ขึ้นราคามากจากรุ่นเดิมก็โคตรมาก ยังมาขายโคตรแพงกว่า 2.4 v อีก
คงเพราะไม่มีคู่แข่งเบนซินในกลุ่ม ppv เลยตั้งราคาเอาเปรียบพี่น้องชาวไทยได้

เหมือนๆกับ camry 2.0G ถ้าต้องการสีขาว ก็บังคับให้ซื้อ 2.0estimo เท่านั้น
หัวข้อ: Re: Fortuner 2.7V 4x2 AT
เริ่มหัวข้อโดย: Fong ที่ ธันวาคม 28, 2015, 21:08:52
เรื่องนี้อาจจะติดมาจากโฉมที่แล้วครับ เพราะเขาวาง 2.7V ให้ถูกกว่า 3.0V ใน Option ที่ใกล้เคียงกัน (แต่ไม่มี Cruise Control และ VSC)

แต่ต่อมาก็ทำ 2.5G M/T ให้เป็นรุ่นถูกเพื่อสู้กับ Pajero Sport 2.5GLS

และก็มี 2.5G A/T ออกมาอีก (ซึ่งก็ยังราคาถูกกว่า 2.7V)

และก็มี 2.5V A/T ออกมาต่ออีก (option เหมือน 2.7V ในราคาที่ถูกกว่า แต่ก็ยังมีบางอย่างที่ไม่มีเมื่อเทียบกับ 3.0V)
จำได้ว่าตอนนั้น 2.5G M/T ก็ได้ราวหลังคาแล้ว

ผมเลยมองว่าทาง TMT ก็ยังใช้หลักคิดเดิมคือ 2.7V (เบนซิน) ต้องแพงกว่า 2.4V (ดีเซล) ไปโดยปริยาย
หัวข้อ: Re: Fortuner 2.7V 4x2 AT
เริ่มหัวข้อโดย: rojsak2021 ที่ ธันวาคม 29, 2015, 08:51:15
ว่าแต่นี่จะปี 59 แล้ว พี่โตกับพี่มิตซูนี่ยังไม่บอกราคา ppv ที่จะปรับขึ้นเลย, พี่ฟอร์ดเขาก็บอกแล้ว สงสัยเล่นสงครามเย็นเรื่องราคากันอยู่ 5555
หัวข้อ: Re: Fortuner 2.7V 4x2 AT
เริ่มหัวข้อโดย: SM. ที่ ธันวาคม 29, 2015, 08:53:12
นั่นสิครับ ทำไม มารอฟังด้วยคน