Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: starlight ที่ มกราคม 06, 2016, 09:09:17
-
ส่วนตัวชอบใช้ manual เลยไม่ค่อยสันทัดพวกเกียร์ออโต้และcvtทั้งหลาย แต่แปลกใจมากกๆ
ตย. mazda จากที่ได้หาข้อมูลมา เค้าก็ไม่เอาcvt มาลงในรถเค้า แต่ทำไมตัวเลขการประหยัด หรือความสมูทในการเปลี่ยนเกียร์ รวมถึงแรงดึง ก็ยังดีกว่า cvt (เคยลองเทส cs-5 กับ nex x-trail) แล้วทำไมค่ายรถส่วนใหญ่ในไทย ถึงเลือกที่จะใช้cvt ผมเองมองในมุมการลดต้นทุนของผู้ผลิต แต่ก็มาแปลกใจตรงที่ว่า ราคารถเกียร์cvt มันก็ไม่ได้ถูกกว่า auto
ใครพอมีรายละเอียดลึกๆบ้างว่า ข้อดีของมัน ดีกว่า auto อย่างไร ถูกหรือแพงกว่าเท่าใด
ขอบคุณครับ
(อ่านอาจจะ งงๆ บ้างนะครับ นอนดึกไปหน่อย)
-
CVT ของ Jazz ตัวใหม่ก็โอเคในระดับหนึ่ง ที่ไม่มีการกระชากในการเปลี่ยนเกียร์วิ่งไปเรื่อยๆ
แต่ถ้าได้ลองขับ E-CVT ของ Camry HV แล้วคุณจะติดใจ คำว่ากระชาก กระตุก จะไม่มีเลยครับ นอกจากเวลาเครื่องติดเท่านั่น
คือวิ่งแล้วไหลอย่างเดียว มันดีกว่า CVT ทั่วไปมาก สำหรับผมนะครับ
-
CVT ประหยัดน้ำมันกว่า เปลี่ยนเกียร์สมู้ธกว่าครับ แต่ต้องจูน ECU ให้มีอาการหน่วงเพื่อไม่ให้เกียร์พังไว เราเลยไม่ค่อยรู้สึกถึงแรงดึง แต่จริงๆ CVT ส่งกำลังได้ดีกว่าออโต้แบบ Torque converter ครับ
ไม่ได้ลดต้นทุนอะไรและ CVT มีความทนทานน้อยกว่า Torque converter ในปัจจุบันครับ แต่ในอนาคตคงไม่ต่างกันเพราะมีการใช้งานแพร่หลายมากขึ้น
-
ผมขับ cvt ของ X-trail มันก็พุ่งดีนะครับ หมายถึงเวลาเร่งแซงใช้งานทั่วๆ ไป ขับทางไกล ถนนเลนสวน ทางเขาทางดอย ... แต่ไม่ได้ซึ่งหรืออัดแข่งกับใคร ... คือ cvt ในรุ่นอื่นผมไม่รู้ว่าเป็นงัยบ้าง แต่ใน X-trail ที่ผมใช้อยู่ มันก็ไม่ได้ทำให้ผมโหยหาเกียร์ Auto แบบธรรมดานะ ... และ user ส่วนใหญ่ใน X-trial club ก็ feed back คล้ายๆ กัน
-
Cityใหม่ก็สมูทดีขับ มี+ - ให้เล่นด้วย7จังหวะ
-
ต้นทุนมันถูกกว่าครับแล้วยังทำอัตราสิ้นเปลืองและปล่อยมลพิษให้เข้าเกณฑ์ได้ง่ายกว่า
-
คหสต แบบเดา ๆ
เกียร์ CVT ทนสู้ไม่ได้ (ถ้าทน กระบะคงใช้ไปแล้ว) แต่เจ้าตลาดไม่กลัวเพราะศูนย์เยอะ ข้อดีทำให้ตัวเลขอัตราเร่ง กับ อัตราสิ้นเปลืองดูสวย
บางค่าย หรือ บางรุ่น ต้องการความทนทาน(เพราะศูนย์น้อย แล้วชื่อเสียงเดิมก็ใช่ว่าจะดี) และ ความแตกต่างด้านอารมณ์การขับ เลยไม่ใช้
-
หลังจากได้ใช้ cvt ในเครื่อง 2.4 อย่าง all new honda odyssey มาร่วมๆอาทิตย์(ปกติไม่ค่อยได้ใช้เพราะภรรยายึด)
เรื่องความทนทานไม่รู้นะครับ เพราะรถยังไม่ถึงหมื่นโลเลย ต้องดูกันยาวๆ
ส่วนเรื่องการขับขี่... จากที่เคยกลัวเจ้า cvt มากๆ
ตอนนี้ ผมหลงรักเลยครับ
ไม่มีคำว่าอืดใดๆแม้แต่น้อย แถมช่วงแซงมาไวกว่า auto หลายเท่านัก
ยิ่งใช้โหมดสปอร์ท เอิ่ม..... ไม่เคยเกิน 5000 รอบ มันก็ไปไกลมากๆแล้ว แรงดงแรงดึงนี่พรวดออกมาหมด
ราวกับขับรถสปอร์ทเลยครับ
จนบางครั้ง ผมแอบคิดว่า เขาจะใส่ paddle pop เอ้ย shift มาให้ทำไม
เพราะมันไม่จำเป็นเลยครับ ยิ่งถ้าขับรถลงเขา แล้วต้องใช้ตัวแป้นลบช่วย engine brake มันจะทำงานแค่นิดเดียว(ซึ่ง paragraph นี้ ผมแอติอยู่ครับ)
สรุปว่ามันสนุกมากๆ อารมณ์เปลี่ยนไปเยอะครับ
-
ใครว่า CVT ดีเหรอครับ
-
ใครว่า CVT ดีเหรอครับ
ผมว่ามันก็ดีนะ จากได้ลองAltis1.8 ตัวปัจจุบัน
-
เขาอยากให้มันประหยัดน้ำมัน แต่ประโยชน์แฝงอย่าง รอขายอะไหล่ได้เร็วกว่า เกียร์ออโต้ธรรมดาๆ ก็ไม่น่ามองข้าม
-
ถ้าลึกมากๆถึงขั้นเป็นเรื่องวิศวกรรมผมไม่ทราบละเอียดครับ แต่ลดต้นทุน ชิ้นส่วนเล็ก น้ำหนักเบา เกียร์ smooth (หลายคนก้ชอบ)ทำให้อัตราเร่ง
ดีขึ้น ประหยัดน้ำมันมากขึ้น อันนี้เป็นจุดเด่นของ CVT ครับ อย่างเรื่อง CX5 ที่ยกตัวอย่างมารถรุ่นนี้แรงเพราะเครื่องยนต์รึป่าวครับถ้าใส่เกียร์ CVT
อาจจะอัตราเร่งดีขึ้นไปอีกก้ได้นะครับดูอย่าง 1.8 ที่อยู่ใน HRV กับ Civic สิครับของ HRV เป็นเกียร์ CVT อัตราเร่งดีกว่าครับ ชื่อเสียงรถรุ่นแรก
ที่เอามาใช้อาจจะทำไว้ไม่ดีแต่ตอนนี้หลายยี่ห้อทำให้ดีได้มากๆแล้ว ก้น่ายินดีนะครับ เท่าที่ผมนึกออกก้ Altis Camry HV City Jazz HRV Accord HV Odyssey X trail แถมด้วย WRX พวกนี้ไม่มีปัญหาใดๆแถมได้อัตราเร่งที่โอเคด้วย ผมว่ามันก้โอเคนะ ทำให้เรามีเกียร์ให้เลือกหลายแบบแล้วแต่คนชอบเลย ผมคนนึงที่มีรถเกียร์ CVT อยู่ในบ้าน 1 คันแต่ขับมาหลายคันอยู่ครับ ผมว่ามันก้โอเคไปอีกแบบบางวันสนุกกว่า DCT ของ BMW อีกครับ
-
CVT มันถ่ายทอดกำลังได้ดีครับ กดเป็นมาเลย นุ่นนวลดีด้วยครับ ผู้ใหญ่ชอบมากๆครับ
พอกลับมาใช้ เกียร AT ทั่วไป รู้สึกว่ามันกระตุก ดูอืดๆไปเลย
-
- ลองไปขับ cvt ของ Altis 2014 ดูครับ ทำได้ดีมาก
-
CVT จับคู่กับเครื่องใหญ่ม้าเยอะมันก็ขับสนุกได้อยู่นะฮะ
แต่CVTกับเครื่องเล็กม้าน้อยมันจืดไปหน่อย แรงดึงไม่มีมันเลยดูอืดทั้งๆที่มันก็เร็ว
รถยนนั่งตลาดในบ้านเราตอนนี้หลายค่ายก็ไปซบCVTกันเกือบหมด ที่นึกออกก็มีmazda chev ที่ไม่ใช้CVT
ข้อดีคือรอบมันจะไปอยู่ที่แรงบิดสูงแล้วholdไว้ แล้วปรับอัตราทดไปเรื่อยๆ จากทดจัด ไปทดน้อย จึงไม่เกิดการลากรอบ (ยกเว้นโปรแกรมให้มันลากรอบ) จึงเกิดความนุ่มนวล และต่อเนื่องในการเร่ง ทำให้อัตราเร่งดี
พอขับความเร็วคงที่มันก็จะปรับอัตราทดน้อย จนความเร็วเดินทางไกลรอบจะค่อนข้างต่ำ ทำให้ประหยัดน้ำมัน (ยกเว้นพวก2.5cvtนิสสัน ทั้งที่เป็นcvt ทำไมมันกินกว่าชาวบ้านก็ไม่รู้)
-
CVT พัฒนาไปมากนะครับ ไม่กระตุกเหมือนแต่ก่อน
กำลังคิดว่า ถ้าไม่รู้มาก่อนว่ารถมาพรางตัว แล้วถามว่าใช้เกียร์อะไร เอาคนมานั่งดู จะตอบได้มั๊ย
ส่วนตัวผมไม่ค่อยแคร์เรื่องเกียร์เท่าไหร่ ขอแค่ให้มัน smooth ก็พอ
-
cvt มันเริ่มดังมาจาก eco car ส่วนสมัย honda idsi เป็นความล้มเหลวจนคนเอาไปพูดกัน ทีนี้พอมาอยู่ในรถเครื่องเล็ก และยิ่ง ecu สั่งให้ระงับรอบไม่ให้ขึ้นเร็วตอนออกตัว ผลคือมันก็อืดน่าเบื่อ คนเลยเข้าใจว่า cvt ห่วย
ถามว่าทำไมถ้ามันดีถึงไม่ไปใส่ในรถ sport เแพงๆ เพราะมันมีคำว่า sport ไงครับ มันต้องตื่นเต้นเร้าใจ ถ้าใส่เกียร์ cvt ก็จบเห่กันพอดี
-
เท่าๆที่ถามญาติๆหรือคนรู้จักมา สำหรับคนที่ไม่ใช่ serious driver จะชื่นชอบ cvt กันมาก
เพราะว่าไม่ชากหรือกระตุก (แต่ cvt บางรุ่นมันเย่อมากๆจนน่ารำคาญ)
บางค่ายไม่ใช้เพราะเค้าต้องการรักษาลูกค้ากลุ่ม serious driver ไว้
-
เท่าๆที่ถามญาติๆหรือคนรู้จักมา สำหรับคนที่ไม่ใช่ serious driver จะชื่นชอบ cvt กันมาก
เพราะว่าไม่ชากหรือกระตุก (แต่ cvt บางรุ่นมันเย่อมากๆจนน่ารำคาญ)
บางค่ายไม่ใช้เพราะเค้าต้องการรักษาลูกค้ากลุ่ม serious driver ไว้
ความเห็นนี้ เพื่อนผมที่ใช้รถ CVT ก็พูดครับว่า ขับไม่กระตุก ก็ดีแล้วนี่...
ซึ่งเวลาผมโดดจาก 5 Speed ไปขับ CVT ทุกครั้ง ผมก็ Happy ทุกครั้งครับ
ชีวิตมันไหลลื่นดี แต่จะเอาไปแข่งกะใคร คงไม่สนุกเท่า
-
เท่าๆที่ถามญาติๆหรือคนรู้จักมา สำหรับคนที่ไม่ใช่ serious driver จะชื่นชอบ cvt กันมาก
เพราะว่าไม่ชากหรือกระตุก (แต่ cvt บางรุ่นมันเย่อมากๆจนน่ารำคาญ)
บางค่ายไม่ใช้เพราะเค้าต้องการรักษาลูกค้ากลุ่ม serious driver ไว้
ผมชอบ cvt จากค่าย toyota honda นะ
แต่ไม่ชอบของนิสสัน
มันคงต้องดูเป็นรุ่นๆจริงๆ
ล่าสุดผมขับ altis 1.6 ยังรู้สึกดีเลย ไม่ใช่ความแรง แต่เพราะการตอบสนอง
ดั่งใจ สมเหตุสมผล ไม่มีเหยียบแล้วเหวอให้ลุ้น
-
ผมก็ใช้มาเป็นปีละ ใน HRV ตอนแรกไม่ชอบแต่พอใช้จริง เท่านั้น รู้สึกเลยว่า มันอัตราเร่งดีกว่ามาก เปลี่ยนเกียร์ก็สมูทดี ยกเว้นตอนหน่วงความเร็วลงมา อาจมีประตุกบ้างเล็กน้อย ส่วนความทนทานไม่ทราบครับ สำหรับผมอยู่ได้สัก 2 แสน ผมก็พอใจมากละ
-
ผมนี่เหลาะว่า CVT ดี
ใช้มาจะ 200,000 โลแล้วไม่เห็นจะพัง
แต่มันดีสำหรับรถบ้าน รถเก๋งครับ เพราะมันทนแรงบิดต่ำ
ไม่ต้องเอาไปเทียบกับรถ กะบะนะครับ คนละกรณี
แต่ถ้าจะทำ CVT ให้ทนเค้าก็ทำได้ แต่ทำแล้วจะขายรถได้ไหมละ
-
ผมว่า CVT คงจะเหมือนตอน รถยนต์เริ่มหันมาเปลี่ยนเป็น เกียร์ AUTO ในยุคแรกๆ เกียร์ AUTO ยังไม่ค่อยพัฒนา คนก็จะบ่นเรื่อง ขับไม่สนุก กระตุก
พังง่าย พอตอนนี้ก็เห็นใช้เกียร์ AUTO กันเกือบหมดจนเป็นเรื่องธรรมดาไปแล้ว เด็กรุ่นใหม่นี่ถ้าเจอเกียร์ธรรมดา ขับกันไม่เป็นเลยทีเดียว
CVT ก็คงจะมีการพัฒนากันต่อไป ให้ดีขึ้น ทนขึ้นนะครับ
-
เกียร์ CVT มันจูนเพิ่มแรงม้า แรงบิดได้ไม่มากครับ หรืออาจจะจูนแทบไม่ได้เลยมั้ง
เกียร์ auto 6speed range การเปลี่ยนของเกียร์มันกว้างกว่านะ ยังลากรอบเรียกแรงบิดได้ ส่วน CVT เหยียบคันเร่งอย่างเดียว ecu จัดการให้หมด
พวกฝรั่งยุโรป ตามเว็บรีวิวรถ มีเยอะครับที่ไม่ปลื้มเกียร์ CVT คือต่อให้ประสิทธิภาพสูงยังไง เค้าก็ไม่ชอบเกียร์ CVT อยู่ดี
ดังนั้นคุณจะเห็นว่ารถฝั่งยุโรปหรืออเมริกาทั้งหลาย หัวเด็ดตีนขาดเค้าก็ไม่เอาเกียร์ CVT มาผลิตรถตัวเอง เหมือนเป็นค่านิยมบางอย่างของฝรั่งเค้า
ในอนาคตเราจะเห็นรถฝั่งญี่ปุ่นใช้เกียร์ CVT กันหมด ส่วนฝั่งยุโรปหรืออเมริกาจะยังคงยึดแนวทางเดิมคือเกียร์ auto speed หรือไม่ก็ Manual
สรุปคือ รถฝรั่งทั้งหลาย จะไม่ยอมคบกับ CVT แน่นอน เพราะคนบ้านเค้าไม่ชอบ ส่วนรถญี่ปุ่นต่อไปก็จะใช้เกียร์ CVT เป็นหลัก
-
CVT ไม่ใช่จูนแรงม้าแรงบิดไม่ได้ หลายคนก็พูดกันไปทั้งๆ ที่ไม่เคยใช้
แต่ต้องพูดว่า "Steel-belt Pulley CVT ของ Jatco ไม่เหมาะกับการติดเทอร์โบจากรถสเป็กเดิม" จะตรงกว่า
โดยเฉพาะ JF011E (ตัวใน EX, Teana J32) และ JF015E (CVT-7 ใน Eco Car หลายๆ รุ่น และ 1.6-1.8 ของนิสสัน)
เพราะกล่องมันตัด เพราะมันรับแรงบิดเพิ่มมากไม่ได้ (ใครใช้ Lancer EX พยายามติดโบ คงจะเข้าใจ)
ในขณะที่ยี่ห้ออื่น ก็ไม่เกี่ยวว่าเพิ่มได้ไม่ได้ เอาง่ายๆ Earth Dream CVT ตัวใหม่ๆ ของฮอนด้าก็ติดได้ดีกว่า
ในขณะที่อัลติส ใช้เกียร์ AISIN ตัวไหนไม่รู้ ผมลืม แต่ก็ยังไม่เห็นใครเอาไปติดโบ
CVT ส่วนมาก จะกำหนดค่ารองรับแรงบิดไว้ระดับหนึ่ง เช่น Hyper CVT-M6 ของ Jatco
เคลมไว้ว่ารองรับ 300 Nm++ ได้ เราก็เห็นตัวนี้มาใช้กะ VQ35DE (ใน 350Z) และ
Sylphy Turbo (190 HP/240-250 Nm) ซึ่งตัวหลังก็โมบูสต์ราวๆ 1.1-1.2 สบายๆ เพราะแรงบิดรวมมันก็ยังไม่เกิน
ข้อจำกัดการออกแบบของ CVT แบบสายพาน มันยังมีอยู่หลายส่วน โดยเฉพาะน้ำมันเกียร์และตัวสายพาน
ไอ้ตัว Pulley ไม่เท่าไหร่ แต่น้ำมันเกียร์ที่ไม่ดี ส่งผลบานตะไทไปตั้งแต่สายพาน Slip, Solinoid Valve พัง (แบบใน CVT-7)
แต่ข้อดีก็คือ ในพื้นที่ติดตั้งเกียร์เท่ากัน CVT สามารถออกแบบให้เล็ก ประหยัดพื้นที่-ชิ้นส่วน-น้ำหนัก
ปัญหาอีกอย่างนอกจากการออกแบบคือ Feeling เพราะว่าถ้าไม่ตั้งกล่องให้หลอกการทำงานตัดรอบจริงๆ
CVT มันก็วิ่งแบบหวือออออ ขึ้นทีเดียวที่รอบสูงสุดที่กด แล้วก็เอาแรงบิดเครื่องมาลากความเร็วขึ้นแบบหวือๆ เวลาเร่งนั่นแหละครับ
คนจะรำคาญทั้งเสียงเครื่อง รอบเครื่อง (ตกใจก็มี) และคิดไปว่ามันไม่ประหยัด หน่วง อืด ทั้งๆ ที่นาฬิกามันก็บอกอยู่
-
.
.
.
คือถ้าจะขับรถไปเที่ยวกับครอบครัว ไปซื้อกับข้าวโลตัส
ผมว่า CVT มันดีเลยล่ะ เพราะมันสมูทมาก และอัตราเร่งก็ดี
แต่ถ้าเป็นคนชอบขับรถ สนุกกับการขับรถ มีอารมณ์กระชากตอนเปลี่ยนเกียร์
ผมว่าอย่าไปยุ่งกับมันเลย ใครที่เบื่อๆกับ Auto ธรรมดาอยากให้ลอง DCT ครับ
การเปลี่ยนเกียร์โดยแพดเดิ้ลชิฟจะสนุกขึ้นเยอะ
-
แต่นึกภาพ Miata, NSX, Supra, RX-9 เกียร์ CVT ก็สยองละครับ
-
ส่วนใหญ่เขาไม่ไ่ด้บอกว่ามันดี เพียงแต่ที่บริษัทรถยนต์เขาเลือกใช้กันก็เพราะ เหตุผลหลักคือ
1. ลดต้นทุน CVT ต้นทุนลดลงเยอะมาก
2.ขนาดเล็ก น้ำหนักเบา
3.ประหยัดพื้นที่ ในการติดตั้งเพราะสามารถออกแบบให้มีขนาดเล็กได้
4.เกียร์มีความราบเรียบมาก แทบไม่มีการกระตุกเลย
5.กลายเป็นเกียร์สหกรณ์ไป ไม่รู้ดีหรือเสีย
แต่มันก็ต้องแลกมาด้วยข้อเสีย เกียร์ไม่ได้ทนทานแบบทอร์คคนอเวอร์เตอร์ คนที่บอกว่าทนทานนะใช้เกิน 3-4 แสนโลกันหรือยัง ถ้าแบบเก่า ๆ ใช้เกินกว่านี้ดูแลดีก็ไม่พังแต่ CVT อายุยาวขนาดนั้นไมไ่ด้ด้วยข้อจำกัดของมัน และตัวเกียร์ออกแบบมาไม่สามารถรองรับกับงานบรรทุกหนักหรือลากจูงได้ คือมันเอามาลงกับรถปิคอัพรถ PPV ที่ต้องการพละกำลังแรงบิดสูง ๆ ไม่ได้ ความทนทานก็ไม่ให้ไปได้ระดับนั้น กำลังไม่มีในการฉุดลากขึ้นเขาหนัก ๆ ใช้ตะบี้ตะบัน
-
CVT ไม่ใช่จูนแรงม้าแรงบิดไม่ได้ หลายคนก็พูดกันไปทั้งๆ ที่ไม่เคยใช้
แต่ต้องพูดว่า "Steel-belt Pulley CVT ของ Jatco ไม่เหมาะกับการติดเทอร์โบจากรถสเป็กเดิม" จะตรงกว่า
โดยเฉพาะ JF011E (ตัวใน EX, Teana J32) และ JF015E (CVT-7 ใน Eco Car หลายๆ รุ่น และ 1.6-1.8 ของนิสสัน)
เพราะกล่องมันตัด เพราะมันรับแรงบิดเพิ่มมากไม่ได้ (ใครใช้ Lancer EX พยายามติดโบ คงจะเข้าใจ)
ในขณะที่ยี่ห้ออื่น ก็ไม่เกี่ยวว่าเพิ่มได้ไม่ได้ เอาง่ายๆ Earth Dream CVT ตัวใหม่ๆ ของฮอนด้าก็ติดได้ดีกว่า
ในขณะที่อัลติส ใช้เกียร์ AISIN ตัวไหนไม่รู้ ผมลืม แต่ก็ยังไม่เห็นใครเอาไปติดโบ
CVT ส่วนมาก จะกำหนดค่ารองรับแรงบิดไว้ระดับหนึ่ง เช่น Hyper CVT-M6 ของ Jatco
เคลมไว้ว่ารองรับ 300 Nm++ ได้ เราก็เห็นตัวนี้มาใช้กะ VQ35DE (ใน 350Z) และ
Sylphy Turbo (190 HP/240-250 Nm) ซึ่งตัวหลังก็โมบูสต์ราวๆ 1.1-1.2 สบายๆ เพราะแรงบิดรวมมันก็ยังไม่เกิน
ข้อจำกัดการออกแบบของ CVT แบบสายพาน มันยังมีอยู่หลายส่วน โดยเฉพาะน้ำมันเกียร์และตัวสายพาน
ไอ้ตัว Pulley ไม่เท่าไหร่ แต่น้ำมันเกียร์ที่ไม่ดี ส่งผลบานตะไทไปตั้งแต่สายพาน Slip, Solinoid Valve พัง (แบบใน CVT-7)
แต่ข้อดีก็คือ ในพื้นที่ติดตั้งเกียร์เท่ากัน CVT สามารถออกแบบให้เล็ก ประหยัดพื้นที่-ชิ้นส่วน-น้ำหนัก
ปัญหาอีกอย่างนอกจากการออกแบบคือ Feeling เพราะว่าถ้าไม่ตั้งกล่องให้หลอกการทำงานตัดรอบจริงๆ
CVT มันก็วิ่งแบบหวือออออ ขึ้นทีเดียวที่รอบสูงสุดที่กด แล้วก็เอาแรงบิดเครื่องมาลากความเร็วขึ้นแบบหวือๆ เวลาเร่งนั่นแหละครับ
คนจะรำคาญทั้งเสียงเครื่อง รอบเครื่อง (ตกใจก็มี) และคิดไปว่ามันไม่ประหยัด หน่วง อืด ทั้งๆ ที่นาฬิกามันก็บอกอยู่
ตอนนี้ แก้ปัญหา Lancer Ex ได้โดยการ ปลดล๊อค ค่า Torque Limit ได้แล้วนะครับ
ช่างเก่งๆ ที่ Flash ECU ได้ แก้ปัญหา ตรงนี้ได้แล้ว
จะมีปัญหาแค่ ช่างที่ แก้ไข ECU รถไม่ได้ แต่ติด Turbo โดยใช้กล่องพ่วง เท่านั้นที่มีปัญหา
แต่ถามว่า OEM เค้า Lock แรงบิดเพื่ออะไร Lock เพราะมัน ทนแรงบิดสูงๆในระยะยาวไม่ได้
เพราะ เกียร์ตัวนี้เหมาะกับรถบ้านมากกว่า ไม่ได้ทำมา ให้ทนแรงบิดมาก เป็น CVT ในรถใหญ่รุ่นแรกๆเลย
แต่ปัจจุบัน พัฒนาไปมากจริงๆ
ส่วนเรื่องติดออยเกียร์ของ Lancer Ex ก็ติดกันแบบผิดผิด จนเกียร์พังหลายคันแล้ว
เห็นกระแส ออยเกียร์มา ก็สั่งมาติดกันแบบมั่วๆไม่รู้ระบบไล่อากาศ บรรลัยหลายคันแล้ว
-
ดีกว่าตรงอัตราประหยัดน้ำมัน ปล่อยมลพิษ ความลื่นไหลในการเปลี่ยนเกียร์ ต้นทุนต่ำกว่า ครับ ข้อเสียก็มีครับ ไม่ทนเท่า ขับไม่สนุก และในยุคแรกๆไม่มี oil cooler ทำให้พังง่าย และค่ายที่ใช้ยังปัดความรับผิดชอบอยู่นานก่อนจะยอมในที่สุด ทำให้เกิดกระแสว่ามันห่วยแตก (ซึ่งแรกๆมันก็ห่วยจริง แต่ถ้าขับไม่ซิ่งก็ไม่เป็นไร ผมก็ใช้ตัวแรกๆอยู่ 7 ปี โดย 3 ถ่ายน้ำมันเกียร์ ทีนึง ก็ยังปกติ ไม่มี oil cooler)
บางค่ายที่เน้นการขับขี่เพื่อความสนุกเค้าก็จะเลือกที่จะไปจับเกียร์ Auto แทนครับ โดยเกียร์ที่ออกแบบและพัฒนาจนเป็นเอกลักษณ์ของค่ายนั้นๆได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีเนื่องจากตอบโจทย์ของผู้บริโภคในกลุ่มเป้าหมายของค่ายนั้นๆได้ครับ
ใครว่า CVT ดีเหรอครับ
ผมคนนึงที่คิดว่าดีครับโดยเฉพาะในรุ่นหลังๆของ honda และ toyota และตัวเกียร์ยังพัฒนาไปได้อีกครับ และผมไม่ได้รังเกียจเกียร์ auto ที่ไม่ใช่ cvt นะ
-
ส่วนใหญ่เขาไม่ไ่ด้บอกว่ามันดี เพียงแต่ที่บริษัทรถยนต์เขาเลือกใช้กันก็เพราะ เหตุผลหลักคือ
1. ลดต้นทุน CVT ต้นทุนลดลงเยอะมาก
2.ขนาดเล็ก น้ำหนักเบา
3.ประหยัดพื้นที่ ในการติดตั้งเพราะสามารถออกแบบให้มีขนาดเล็กได้
4.เกียร์มีความราบเรียบมาก แทบไม่มีการกระตุกเลย
5.กลายเป็นเกียร์สหกรณ์ไป ไม่รู้ดีหรือเสีย
แต่มันก็ต้องแลกมาด้วยข้อเสีย เกียร์ไม่ได้ทนทานแบบทอร์คคนอเวอร์เตอร์ คนที่บอกว่าทนทานนะใช้เกิน 3-4 แสนโลกันหรือยัง ถ้าแบบเก่า ๆ ใช้เกินกว่านี้ดูแลดีก็ไม่พังแต่ CVT อายุยาวขนาดนั้นไมไ่ด้ด้วยข้อจำกัดของมัน และตัวเกียร์ออกแบบมาไม่สามารถรองรับกับงานบรรทุกหนักหรือลากจูงได้ คือมันเอามาลงกับรถปิคอัพรถ PPV ที่ต้องการพละกำลังแรงบิดสูง ๆ ไม่ได้ ความทนทานก็ไม่ให้ไปได้ระดับนั้น กำลังไม่มีในการฉุดลากขึ้นเขาหนัก ๆ ใช้ตะบี้ตะบัน
ทุกวันนี้ มีหลายคันทะลุ 300,000 โลแล้ว เช่น Jazz รุนเริ่มต้นครับ แต่ รู้สึกเครื่องจะพังไปพอๆกับเกียร์
Lancer EX ที่ผมใช้ก็ เกือบ 200,000 โลแล้ว แลไม่พบปัญหา ในรถที่ เปลี่ยนน้ำมันเกียร์ตามระยะ
ไม่ได้มีใคร บอกว่า CVT มันทนกว่า AT ธรรมดา
แต่มันก็ไม่ได้ เปราะบาง จนขนาดเรียกว่าห่วยก็เลยก็ไม่ได้
และผมเชื่อว่า รถบ้านหลายๆ คันที่เป็น CVT จะผ่าน 300,000 โล จนเราลืม AT ไปได้เลย ในอีกไม่กี่ปีครับ
โดยส่วนตัวสำหรับผม หากจะเอา 200,000 หรือ 300,000 โลมาวัดว่าเกียร์ทนหรือไม่
ณ เวลา นั้น ไม่เครื่อง ก็ เกียร์ มันคงพังไปแล้ว 300,000 โลนี่มัน 10 ปี ผมคงไม่ขับแล้วรถคันนั้น เพราะ เครื่องคงหลวมไปแล้ว
ให้ เวลา พิสูจน์ ความทนดีกว่าครับ ซึ่งผมว่า
CVT มันพิสูจย์ตัวมันเองได้แล้วนะครับ
-
ส่วนตัวผมเฉยๆกับCVTนะครับ
แต่ถ้าให้เลือกอีก ผมไม่เอาแล้วละ
-
ผมว่า CVT ที่มันไม่แรงเพราะ รถถูกจำกัดด้วยค่า Co2 รึเปล่าครับ และ เป็นความต้องการของ OEM ที่ set มาให้มันไม่แรง
เท่าที่สัมผัส ECU gear ของ CVT ถูกออกแบบให้ทำงาน แบบ สมูท
แต่หากกระทืบคันเนร่งเมื่อไหร่ มันจะมาเต็ม
ผมชื่อว่ามันทำความเร็ว ได้ดีกว่าเกียร์ AT ธรรมดา แน่นอนครับ แต่ความทนทานไม่เท่าแน่ๆ แต่ รถมันไม่ได้แข่งกันแค่เรื่องความทนทาน
ที่คุยๆ กันอยู่ นี่ มีกี่คน ที่ รู้ว่า
WRX ก็มีรุ่น CVT และมันเป็น Sport Car ที่ทำ อัตราเร่งไม่ได้ ขี่เหร่เลย คุณ jimmy ก็รีวิวไว้แล้ว
รวมถึง Sport car หลายๆรุ่นก็ใช้ CVT แล้วครับ
ดังนั้น เกียร์มันไม่ได้ กระจอก แต่รถต่างหากที่ต้องการประหยัด
-
เอาจริงๆ ผู้ผลิตหลายคนก็กลัว CVT ที่ตัวเองทำ
หลักๆ ดูที่นิสสันเลย ผมว่ารีวิว Sylphy Turbo เว็บนี้แหละ ตรงไปตรงมามาก คือ "CVT-M6 ไม่กล้าเซ็ตคันเร่งให้พลีชีพเกียร์เหมือน CVT-8"
เหตุผลนี้แหละ ทำให้มัน "อืด" ทั้งที่จริงๆ คือเหมือนเค้าเซ็ตคันเร่งให้หน่วงเพื่อไม่ให้เกียร์มันกระชากสายพานไวเกิน
เพราะการออกแบบให้อุดมคติจริงๆ คือ คันเร่งต้องไม่หน่วง แต่สายพานต้องออกตัวแบบค่อยๆ เร่งแทน (ใครมันจะไปทำได้ง่ายๆ ทุกอย่างเล่า!?)
ส่วน Subaru เอาตรงๆ เกียร์มันผมก็ไม่เรียกว่า CVT บ้าน เพราะ Lineartronic ชิ้นส่วนไม่เหมือนกันนะครับ
ของเหลวก็ใช้ร่วมกันไม่ได้ เพราะวัสดุและการออกแบบสายพานไม่เหมือนกับ Steel Belt ของ Pulley CVT ตัวอื่น
จุดเด่นของ CVT ที่สำคัญที่สุด ที่หลายคนลืมนึกถึงคือ มันออกแบบการทำงานมาให้สัมพันธ์กับเครื่อง
โดยจะแปรผันอัตราทดอย่างต่อเนื่อง ณ รอบการทำงานที่แรงบิดเหมาะสมที่สุด คือ แปรผันอัตราทดไม่หยุด ณ รอบเท่าเดิม
ถ้าขับเป็น และรู้นิสัยเครื่อง (เช่น MR16DDT แรงบิดมาตอนไหน บูสต์มาเต็มตอนไหน) CVT อาจจะทำได้ดีกว่าแมนนวลทั้งอัตราเร่งและอัตราสิ้นเปลือง
-
เอาจริงๆ ผู้ผลิตหลายคนก็กลัว CVT ที่ตัวเองทำ
หลักๆ ดูที่นิสสันเลย ผมว่ารีวิว Sylphy Turbo เว็บนี้แหละ ตรงไปตรงมามาก คือ "CVT-M6 ไม่กล้าเซ็ตคันเร่งให้พลีชีพเกียร์เหมือน CVT-8"
เหตุผลนี้แหละ ทำให้มัน "อืด" ทั้งที่จริงๆ คือเหมือนเค้าเซ็ตคันเร่งให้หน่วงเพื่อไม่ให้เกียร์มันกระชากสายพานไวเกิน
เพราะการออกแบบให้อุดมคติจริงๆ คือ คันเร่งต้องไม่หน่วง แต่สายพานต้องออกตัวแบบค่อยๆ เร่งแทน (ใครมันจะไปทำได้ง่ายๆ ทุกอย่างเล่า!?)
ส่วน Subaru เอาตรงๆ เกียร์มันผมก็ไม่เรียกว่า CVT บ้าน เพราะ Lineartronic ชิ้นส่วนไม่เหมือนกันนะครับ
ของเหลวก็ใช้ร่วมกันไม่ได้ เพราะวัสดุและการออกแบบสายพานไม่เหมือนกับ Steel Belt ของ Pulley CVT ตัวอื่น
จุดเด่นของ CVT ที่สำคัญที่สุด ที่หลายคนลืมนึกถึงคือ มันออกแบบการทำงานมาให้สัมพันธ์กับเครื่อง
โดยจะแปรผันอัตราทดอย่างต่อเนื่อง ณ รอบการทำงานที่แรงบิดเหมาะสมที่สุด คือ แปรผันอัตราทดไม่หยุด ณ รอบเท่าเดิม
ถ้าขับเป็น และรู้นิสัยเครื่อง (เช่น MR16DDT แรงบิดมาตอนไหน บูสต์มาเต็มตอนไหน) CVT อาจจะทำได้ดีกว่าแมนนวลทั้งอัตราเร่งและอัตราสิ้นเปลือง
งั้นก็แปลว่า หากจะทำให้ CVT ทนๆ ก็ทำได้ แต่ ขึ้นอยู่กับ ต้นทุน และความคุ้มค่าที่ OEM จะทำหรือไม่แค่นั้น
รออีกกี่ปีหนอ ๆ
-
ชอบ cvt ของ wrx อ่ะ ได้อารมดีจริงๆ บรื้นๆๆๆ :-X :-X
-
1. CVT ใช้โซ่สายพานขับ มีชิ้นส่วนเล็กๆของข้อโซ่เต็มไปหมด การทนทานโดยรวมสู้ เฟืองขบกันแบบเกียร์ทั่วไปไม่ได้
แต่จะได้กำลังเครื่องที่สูงสุดมาแทน
อีกหน่อย พอโลหะพัฒนาถึงจุดที่ทนทานได้ ก็จะหันมาใช้ CVT กันทั้งหมดแหละครับ
2. CVT มันขับไม่มันส์ ครับ เนียนเกินไป ไม่กระตุก ยึกๆ พอรู้สึกได้ เหมือนเกียร์ออโต้ธรรมดา
3. เกียร์ CVT ต้นทุนสูงกว่า เกียร Auto ปรกติ
หลายปีก่อนหน้านี้
ก็มีคนเคยบ่นว่า เกียร์ Auto 5 Speed ขับไม่มันส์เท่า เกียร์ธรรมดา 5 Speed
แถมบอกว่า เกียร์ Auto เปราะ ซ่อมยาก ไม่เหมือนเกียร์ธรรมดา
ปัจจุบันนี้ หาซื้อรถที่มีเกียร์ธรรมดา ยากมาก มีเพียงบางรุ่นเท่านั้นเอง
555 :D ก็ว่ากันไปตามกาลเวลา
-
อยากเจาะลึกเรื่องกียร์ CVT ต้องเข้าเวปญี่ปุ่น
กูรูรถยนต์ญี่ปุ่นก็ไม่เอา CVT ::)
池田直渡 (Naoto Ikeda) บรรณาธิการนิตยสาร 週刊モータージャーナル (Weekly Motor Channel)
ได้เขียนบทความเรื่อง "[CVT」の終わりは日本車の始まり" หรือ "อวสารของเกียร์ CVT คือการเริ่มต้นใหม่ของรถยนต์ญี่ปุ่น"
วิเคราะห์ถึงเหตุผลที่รถยนต์ญี่ปุ่นควรเลิกใช้เกียร์ CVT
ลองอ่านดูครับ
http://thepage.jp/detail/20141231-00000008-wordleaf?page=1 (http://thepage.jp/detail/20141231-00000008-wordleaf?page=1)
-
เกียร์ต้นทุนต่ำ CVT ญี่ปุ่นเอาไว้ขายต่างประเทศ แต่ในประทเศญึ่ปุ่นกลับเน้น Hybrid
11 เดือนแรกของปี 2015 รถยนต์ Honda ที่ขายในประเทศญี่ปุ่นหรือ JDM รุ่นที่มีทั้ง Hybrid และ CVT ปรากฏว่า Hybrid ขายมากกว่าทุกรุ่น ยกเว้น Freed เพราะ Freed Hybrid พึ่งออกมา
HR-V (Vezel) ที่คนไทยหลายคนชื่นชมว่า เกียร์ CVT สุดยอด แต่ที่ญี่ปุ่นกลับขายได้เพียง 27% อีก 73% เป็น Hybrid
Honda JDM บางรุ่น เช่น Legend หรือ Accord ขาย Hybrid ถึง 100% เพราะคนญี่ปุันไม่เอา CVT เน้น Hybrid อย่างเดียว
-
เกียร์ต้นทุนต่ำ CVT ญี่ปุ่นเอาไว้ขายต่างประเทศ แต่ในประทเศญึ่ปุ่นกลับเน้น Hybrid
11 เดือนแรกของปี 2015 รถยนต์ Honda ที่ขายในประเทศญี่ปุ่นหรือ JDM รุ่นที่มีทั้ง Hybrid และ CVT ปรากฏว่า Hybrid ขายมากกว่าทุกรุ่น ยกเว้น Freed เพราะ Freed Hybrid พึ่งออกมา
HR-V (Vezel) ที่คนไทยหลายคนชื่นชมว่า เกียร์ CVT สุดยอด แต่ที่ญี่ปุ่นกลับขายได้เพียง 27% อีก 73% เป็น Hybrid
Honda JDM บางรุ่น เช่น Legend หรือ Accord ขาย Hybrid ถึง 100% เพราะคนญี่ปุันไม่เอา CVT เน้น Hybrid อย่างเดียว
เดี๋ยวนะครับ
คือผมงง Hybrid ที่ว่านี่คือ รถยนต์ Hybrid ไม่ใช่ ชื่อ เกียร์ Hybrid ใช่มั่ย
ถ้า Hybrid คือ ปรพเภทรถยนต์
มันคนละประเด็นเลยนะครับ อันนี้ไม่เกี่ยวกับเกียร์แล้ว
ต้องบอกว่า คุณ ญี่ปุ่น นิยม รถ Hybrid มากกว่า รถ NA เกียร์ CVT ใช่ไหม
ถ้าผม มีรายได้ เท่าคนญี่ปุ่น และรถ Hybrid ขายแบบญี่ปุ่น ผมก็ซื้อรถ Hybrid ครับผมไม่ซื้อหรอกเกียร์ รถ ธรรมดา
แล้ว คุณ nez ลองเช็ครถยนต์ Honda ที่เป็น Hybrid นะครับว่า ใช่ระบบเกียรือะไร ใช่ CVT ไหม ????????
คือ รถ Hybrid
-
จัดการกำลังได้ดีกว่า ล็อครอบไว้ที่แรงบิดสูงสุด ที่เหลือเกียร์จัดการ
ลดต้นทุนโดยการเป็นเกียร์สหกรณ์ได้ง่ายกว่า ฮาร์ดแวร์เดียวกันเปลี่ยนแค่ซอฟแวร์
-
แล้วแต่เทคโน ของแต่ละค่ายที่ up to
และกระแสความนิยมของตลาดด้วย
-
ผมว่าเรื่อง Hybrid กะ CVT ไม่เกี่ยวกันนะ
โอเคอย่าง Vezel เหมือนจะใส่ DCT แต่การเป็น Hybrid ไม่ได้แปลว่าจะไม่ใช้ CVT เสมอไปนะครับ ดู X-Trail เป็นตัวอย่าง (แม้ว่าไฮบริดหลายตัวจะใช้ e-CVT ก็เถอะ)
ถ้าจะเทียบ น่าจะเทียบตรงๆ ว่า CVT vs DCT vs AT vs ฯลฯ อะไรก็ว่าไป
-
ที่ทำให้สับสนว่า CVT มักจะจับคู่กับ HV เพราะรถยุ่นที่เป็นไฮบริดส่วนใหญ่มักจะใช้CVT(บางรุ่นก็ไม่ได้ใช้CVT)
ส่วนรถยุโรปน่าจะไม่มีคันไหนใช้เลย แต่คนไทยไม่ค่อยคุ้นเลยครับ
-
ทนป่าว ไม่รู้
แต่ผมไม่ชอบอารม CVT อะ ....
ผมชอบ AT ธรรมดา ที่มีโหลมด + - ให้เล่นมากกว่า ....
ลากรอบสูงๆได้ เชนเกียร์ในจังหวะเข้าโค้ง หรือส่งขึ้นเนินได้ ดีกว่า ....
CVT มันเกียร์รถในเมืองอะ .... ลื่นๆ เรียบๆ กดมิดๆเสียงเครื่องมาโทนเดียว ลากยาวๆ ใครใส่ท่อมาดังๆ นั่งหูอื้อตั้งแต่ 0-180 อะ ...
-
ข้อดีคือ ให้อัตราเร่ง อัตราสิ้นเปลืองดี น้ำหนักเบา
ข้อเสียคือมันไม่ได้อารมณ์ลากรอบ และอาจจะทนสู้ATไม่ได้
ส่วนจะเอาcx5มาเทียบกับxtrailก็คงไม่ได้ เพราะองค์ประกอบอื่นๆก็ต่างกัน ทั้งน้ำหนัก เครื่อง Cd
ไม่อย่างนั้นก็เอาaltis1.8มาเทียบmazda3 2.0สิครับ ขนาดเครื่องใหญ่กว่ายังแพ้เลย