Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: ภูมิใจไหม? ที่ มกราคม 07, 2016, 17:48:12
-
คือถ้าผมจะถามว่า "มีใครเอา mazda 2 เกียร์ธรรมดา ไป remap มาบ้าง ?"
มันก็จะดูแคบไปใช่ไหมครับ
ที่นี้ผมว่าถ้าเป็นรถพิกัดเดียวกันน่าจะดี ตอนนี้ผมหมกมุ่นเรื่องนี้มาก
ส่วนใหญ่ทำแล้วจะชอบใจกัน
แต่บ้างก็ว่า รถ size นี้ทำไปแล้วมันก็ไม่ดีขึ้นเท่าไหร่
ผมรอฟังความเห็นจากเพื่อน ๆ เวปไฟหน้าเราน่าจะดีกว่าครับ
ผมรอหยอดกระปุกค่าจูนหมื่นห้าอยู่ และอยู่ ตจว ทำให้ไม่มีตัวเลือกมากนัก
รถผมเปลี่ยนท่อ กรองเปลือย หัวเทียนแล้วครับ
อยากรู้ที่สุดคือมันจะดึงแบบรู้สึกได้เลยไหมครับ?
-
รู้สึกได้ครับ เครื่อง 1.2 ยังรู้สึกได้เลยครับ เพราะการตอบสนองของคันเร่งเปลี่ยนไปครับ
-
น่าสนใจครับ
ถ้าการRe map ได้แรงบิด แรงม้าเพิ่ม ในราคา 15,000
-
โดยทั่วไปรถมีเทอร์โบ reflash แล้วเห็นผลชัดกว่ามาก ส่วนหนึ่งเป็นเพราะรถเทอร์โบจะมีการเซ็ต target boost ไว้ต่ำว่าที่ตัวเทอร์โบทำลมได้จริง การ reflash สามารถปรับในจุดนี้ได้และเห็นผลชัดเจนที่สุด
หากเป็นรถ na ก็ทำได้แค่ปรับไฟ ปรับน้ำมัน ผลที่ได้อาจไม่ชัดเจนเท่า ขึ้นอยู่กัยโปรแกรมเดิมด้วยว่า "เอื้อ"ต่ออการปรับแต่งขนาดไหน เช่น รถที่ถูก detune มาเพื่อให้ผ่านมาตรฐานไอเสียสูงๆ ถ้า reflash แล้ว น่าจะดีขึ้นเยอะ
เนื่องจากรถสมัยใหม่เป็นคันเร่งไฟฟ้าหมดแล้ว ผมเชื่อว่ามีจูนเนอร์จำนวนหนึ่งที่ "แต่ง" ตาราง องศาแป้นคันเร่ง*องศาลิ้นปีกผีเสื้อ ... ทำให้กดคันเร่งเท่าเดิม แต่ลิ้นปีกผีเสื้อเปิดมากขึ้น ... แบบนี้ไม่ได้แรงขึ้นจริง แค่ "รู้สึก"ว่าแรงขึ้นเฉยๆนะครับ
แนะนำว่าลองศึกษาเรื่องนี้และถามคำถามจูนเนอร์เยอะๆครับ จะได้เปรียบเทียบได้ดีขึ้น อย่าเห็นแก่ว่าที่จังหวัดนี้มีคนทำแค่คนเดียว ถ้าต้องวิ่งข้ามจังหวัดมาทำเพราะคนแถวบ้านเราไม่รู้จริง ก็ควรต้องยอมครับ
ปล รถผมพิกัด 2.0 โบ เพิ่มบูสประมาณ 20% แรงม้าเบ็ดเสร็จเพิ่มขึ้น ประมาณ 20% และมาเร็วขึ้น (เนื่องจากการปรับ target boost ใหม่)
-
ส่วนตัวผมรอ civic 1.5 Turbo
ถ้าได้มาอาจเอาไป Remap เหมือนกัน
เพราะเดิมๆจากโรงงานน่าจะไม่แรง
คงเน้นประหยัดซะมากกว่า
ขอเก็บข้อมูลด้วยคนครับ
-
แนะนำ ให้ ทำกับ มืออาชีพ ที่เป็น ช่างเครื่องยนต์ด้วย ครับ
ตอนนี้ ราคา เริ่มถูกลง ขึ้นอยู่ กับ คู่ แข่ง ตัดราคากันเอง
ก่อน Re-Map ควร มีความรู้ ว่า
ระบบ ECU เรา มีอะไร และ เค้าแก้ไขอะไรให้เราบ้าง
เช่น
ปลดลีอค รอบสูงสุด
ปิด Close Loop
Tune Map น้ำมัน
Tune Map องศาไฟ
ปลด Lock เพิ่ม Boost
ปิด EGR จาก ECU
ปรับ การทำงาน คันเร่ง >>> อันนี้ ขี้โกง เหมือน คันเร่งไฟฟ้า รถไม่ได้แรงขึ้น แต่ตอบสนองไวขึ้นเฉยๆ ( NA โดนตุ๋นกันหมด )
ซึ่ง ส่วนใหญ่ Tuner มันไม่บอกเรา มันชอบกั๊ก
-
ถ้ากลัวแบบหลายความเห็นว่าเรื่องคันเร่ง แนะนำจูนบนไดโน่จะได้เห็นผลที่เพิ่มขึ้นมาจริงๆ
หลังจากนั้นเราก็ลองขับดูว่าชอบอะไรไม่ชอบอะไร อย่างบางทีรถเกียร์ธรรมดาจูนเนอร์จูนมาเอนจิ้นเบรคแรงมาก ขับทีเวียนหัวสุดๆ ก็ต้องให้จูนแก้ รวมทั้งสังเกตุรอบเดินเบาด้วยบางทีสูงไป ต่ำไปก็แย่อีก
จูนให้แรงจูนง่าย แต่จูนให้ใช้ชีวิตประจำวันน่ะยาก ต้องค่อยๆสังเกตุแล้วแก้ไป ปัญหาคือจูนเนอร์ส่วนใหญ่มักอินดี้ แนะนำคุยให้รู้เรื่องก่อนจูน
-
เอาเป็นว่า ได้แรงม้าเพิ่มขึ้นมาโดยประมาน 10-15 ตัว กับแรงบิด อีกนิดหน่อยๆ
แต่ถ้าเป็นเครื่อง 2.0 สกายแอคทีฟ จะได้ม้าที่ล้อเพิ่มขึ้นมาประมาน 20 ตัว ส่วนแรงบิดจากเดิมที่ล้อ 160กว่านิวตัน
มันก็ขึ้นมาประมาน 200 นิวตัน นิดๆ เพิ่มจากเดิมประมาน 40นิวตัน ลองหาร้านที่รับทำมาสด้าโดยเฉพาะอะครับ
ร้านเค้ามีข้อมูลให้อ่านเพียบ
-
แนะนำ ให้ ทำกับ มืออาชีพ ที่เป็น ช่างเครื่องยนต์ด้วย ครับ
ตอนนี้ ราคา เริ่มถูกลง ขึ้นอยู่ กับ คู่ แข่ง ตัดราคากันเอง
ก่อน Re-Map ควร มีความรู้ ว่า
ระบบ ECU เรา มีอะไร และ เค้าแก้ไขอะไรให้เราบ้าง
เช่น
ปลดลีอค รอบสูงสุด
ปิด Close Loop
Tune Map น้ำมัน
Tune Map องศาไฟ
ปลด Lock เพิ่ม Boost
ปิด EGR จาก ECU
ปรับ การทำงาน คันเร่ง >>> อันนี้ ขี้โกง เหมือน คันเร่งไฟฟ้า รถไม่ได้แรงขึ้น แต่ตอบสนองไวขึ้นเฉยๆ ( NA โดนตุ๋นกันหมด )
ซึ่ง ส่วนใหญ่ Tuner มันไม่บอกเรา มันชอบกั๊ก
ปรับ การทำงาน คันเร่ง >>> อันนี้ ขี้โกง เหมือน คันเร่งไฟฟ้า รถไม่ได้แรงขึ้น แต่ตอบสนองไวขึ้นเฉยๆ ( NA โดนตุ๋นกันหมด ) >>> ใช่เลยครับ จูนเนอร์ตอนนี้ทั่วบ้านทั่วเมือง ผมไม่เชื่อว่าทุกคนจะเข้าใจระบบ engine management ดีกันทุกคน ... ถ้าเราเริ่มศึกษาประมาณนึงจะกลัวการ reflash ครับ เพราะมันซับซ้อนกว่าที่คิดทีแรกเยอะ ซึ่งผมว่าการรู้ว่ามันยากและซับซ้อนเป็นก้าวแรกที่สำคัญในการเลือกจูนเนอร์ครับ
-
รถผมก็ไปจูนกล่องมา จะเรียกว่าจูนก็ไม่ถูกนักเรียกเปลี่ยนกล่องดีกว่า แต่เป็นรถNAนะครับ เครื่องรุ่นเก่าแล้ว 3s-ge หลังจากไปจูนมาแล้วมันก็แรงตามเงินที่เราจ่ายไปแหล่ะ ทำระบบเดินไอเสียเต็มระบบ+จูนกล่องไป มันก็แรงกว่าเดิมผิดหูผิดตา แต่มันก็ไม่ได้ขนาดแบบไปสู้รถทำเต็มไหว มันขับสนุกขึ้น รอบกวาดไว ผ่อนแล้วเสียงปุ้งปั้ง มันส์กว่าเดิม
แต่เตือนก่อนเรื่องจะรีแมปนะครับ ดูดีๆว่ากล่องที่ใส่พ่วงไปทำอะไรได้บ้าง เซ็ตน้ำมัน ตั้งไฟ ปลดอะไรได้บ้างลองถามช่างดีๆก่อน เพื่อนผมก็เคยทำไปแล้วมันไม่ถูกใจเพราะเห็นแก่ของถูก ลองศึกษาดูดีๆครับ แล้วก็เวลาจูนให้ไปกำกับเลยว่าจะเอาแบบไหน เอาตดดัง ไฟแลบ หรือจะเอาแรงอย่างเดียวตดไม่ต้องก็ว่ากันไป ขอให้แรงสมความตั้งใจครับ
-
เก็บตังวางโบก่อนครับ
-
เก็บตังวางโบก่อนครับ
ไม่ละครับ ผมเอาแค่ขับสนุกขึ้นนิดหน่อยครับ อยากคงความ "เดิม" เอาไว้ด้วยครับ
ขอบคุณทุกท่านสำหรับคำตอบครับ
ร้านที่จูนอยู่ในหาดใหญ่ครับ และจูนบนไดโน่
บอกมาแบบนี้แล้วชาวหาดใหญ่คงจะนึกออก
ถ้าเค้าตั้งแค่คันเร่งไฟฟ้า ผมจะรู้ได้อย่างไรครับ
ผมมี App ที่ต่อกับ OBD2 อยู่ มันจะช่วยบอกอะไรได้บ้างไหมครับ?
ผมพยายามสังเกตุ Throttle อยู่ มันเกี่ยวไหม ยังไง?
(https://dl.dropboxusercontent.com/u/62727016/mazda%202/Screenshot_2016-01-08-08-31-19.png)
-
อันนี้ คหสต ล้วนนะครับ....
ลองพิจารณาเรื่องพ่วง Piggy back ไปสักใบครับ อย่างน้อยเวลาจะทำเดิมๆ (เพื่อขายหรือเลิกซิ่ง)
ก็ทำได้ง่ายกว่าครับ อีกอย่าง Piggy back ยุคนี้ปรับนู่นนี่นั่น แบบ "เทพๆ" เลย มีให้เลือกเยอะเลยครับ
ลองพิจารณาเป็นแนวทางดูครับ
-
อันนี้ คหสต ล้วนนะครับ....
ลองพิจารณาเรื่องพ่วง Piggy back ไปสักใบครับ อย่างน้อยเวลาจะทำเดิมๆ (เพื่อขายหรือเลิกซิ่ง)
ก็ทำได้ง่ายกว่าครับ อีกอย่าง Piggy back ยุคนี้ปรับนู่นนี่นั่น แบบ "เทพๆ" เลย มีให้เลือกเยอะเลยครับ
ลองพิจารณาเป็นแนวทางดูครับ
Piggy back ถ้า ECU รถ Lock รอบสูงสุดไว้ ปลดได้ไหมครับ
Torque Limit ก็ถูด ลีอคไว้ปลดได้ไหม
ถ้าไม่ตัดต่อสายไฟ Sensor ในรถแล้วทำได้ OK ครับ แต่ถ้ามีตัดต่อสาย ผมคนนึงละไม่เอา รถเละมากๆ
ในขณะ ECU แค่ คืนค่าเดิม เอา Flash Drive ไปให้เค้า เก็บ ค่าโรงงานตอนจูนได้
ช่างที่ เจาะ Flash ECU รถไม่ได้จะบอก Piggy back เจ๋งกว่า ทำได้มากกว่า
แต่ช่างที่ Flash ECU ได้ และ เข้าใจระบบ ECU จะสามารถ ปรับ ค่า ทุกอย่างใน ECU ได้
คิดเอง อะไรดีกว่า ครับ
ผมยังไม่เคยเจอ ช่าง Flash ECU ได้ บอกว่า Piggy back เจ๋งกว่าสักคน
-
อันนี้ คหสต ล้วนนะครับ....
ลองพิจารณาเรื่องพ่วง Piggy back ไปสักใบครับ อย่างน้อยเวลาจะทำเดิมๆ (เพื่อขายหรือเลิกซิ่ง)
ก็ทำได้ง่ายกว่าครับ อีกอย่าง Piggy back ยุคนี้ปรับนู่นนี่นั่น แบบ "เทพๆ" เลย มีให้เลือกเยอะเลยครับ
ลองพิจารณาเป็นแนวทางดูครับ
Reflash ทำกลับง่ายกว่าครับ ไม่ต้องรื้อรถ แต่ต้องเลก็บโปรแกรมเดิมไว้ ขอจูนเนอร์ก๊อปไว้ก็ได้ครับ (ปกติเค้าต้องก๊อปโปรแกรมเดิมเก็บไว้อยู่แล้วครับ)
-
โดยทั่วไปรถมีเทอร์โบ reflash แล้วเห็นผลชัดกว่ามาก ส่วนหนึ่งเป็นเพราะรถเทอร์โบจะมีการเซ็ต target boost ไว้ต่ำว่าที่ตัวเทอร์โบทำลมได้จริง การ reflash สามารถปรับในจุดนี้ได้และเห็นผลชัดเจนที่สุด
หากเป็นรถ na ก็ทำได้แค่ปรับไฟ ปรับน้ำมัน ผลที่ได้อาจไม่ชัดเจนเท่า ขึ้นอยู่กัยโปรแกรมเดิมด้วยว่า "เอื้อ"ต่ออการปรับแต่งขนาดไหน เช่น รถที่ถูก detune มาเพื่อให้ผ่านมาตรฐานไอเสียสูงๆ ถ้า reflash แล้ว น่าจะดีขึ้นเยอะ
เนื่องจากรถสมัยใหม่เป็นคันเร่งไฟฟ้าหมดแล้ว ผมเชื่อว่ามีจูนเนอร์จำนวนหนึ่งที่ "แต่ง" ตาราง องศาแป้นคันเร่ง*องศาลิ้นปีกผีเสื้อ ... ทำให้กดคันเร่งเท่าเดิม แต่ลิ้นปีกผีเสื้อเปิดมากขึ้น ... แบบนี้ไม่ได้แรงขึ้นจริง แค่ "รู้สึก"ว่าแรงขึ้นเฉยๆนะครับ
แนะนำว่าลองศึกษาเรื่องนี้และถามคำถามจูนเนอร์เยอะๆครับ จะได้เปรียบเทียบได้ดีขึ้น อย่าเห็นแก่ว่าที่จังหวัดนี้มีคนทำแค่คนเดียว ถ้าต้องวิ่งข้ามจังหวัดมาทำเพราะคนแถวบ้านเราไม่รู้จริง ก็ควรต้องยอมครับ
ปล รถผมพิกัด 2.0 โบ เพิ่มบูสประมาณ 20% แรงม้าเบ็ดเสร็จเพิ่มขึ้น ประมาณ 20% และมาเร็วขึ้น (เนื่องจากการปรับ target boost ใหม่)
รถคุณ Turin ใช่ BP5 GT หรือเปล่าครับเนี่ย ถ้าผมจำไม่ผิด
น่าอิจฉามาก มีรถแรงขับสี่ด้วย :-*
ผมละอยากได้มาก ติดที่ผู้บัญชาการที่บ้านไม่ยอม จบเลยผม :'(
เห็นคันนึงลงขายอยู่ ก็ได้แต่มอง
ที่คุณ Turin ทำนี่แค่ปรับบูสท์เพิ่มอย่างเดียวหรือทำอย่างอื่นเพิ่มด้วยครับ
ถ้าแค่เพิ่มบูสท์อย่างเดียวแล้วม้าทะลุไป 300 ม้านี่เป็นที่น่าพอใจมากเลยครับ
ปล.ขออภัย จขกท.ด้วยครับ ไม่ได้ช่วยอะไรเลย :-[
-
เก็บตังวางโบก่อนครับ
ไม่ละครับ ผมเอาแค่ขับสนุกขึ้นนิดหน่อยครับ อยากคงความ "เดิม" เอาไว้ด้วยครับ
ขอบคุณทุกท่านสำหรับคำตอบครับ
ร้านที่จูนอยู่ในหาดใหญ่ครับ และจูนบนไดโน่
บอกมาแบบนี้แล้วชาวหาดใหญ่คงจะนึกออก
ถ้าเค้าตั้งแค่คันเร่งไฟฟ้า ผมจะรู้ได้อย่างไรครับ
ผมมี App ที่ต่อกับ OBD2 อยู่ มันจะช่วยบอกอะไรได้บ้างไหมครับ?
ผมพยายามสังเกตุ Throttle อยู่ มันเกี่ยวไหม ยังไง?
(https://dl.dropboxusercontent.com/u/62727016/mazda%202/Screenshot_2016-01-08-08-31-19.png)
ตอนนี้ Flash มาแล้วยังครับ
ถ้ายัง ให้ โปรแกรม เทียบ
Throttle % กับ % accelerate pedal ครับ
ลองที่ รถหยุดนิ่งก็ได้
ว่า ที่รอบคงที่ หนึ่งรอบ accelerate pedal % แล้ว Throttle ก็ % ลอง หลาย ๆ ความเร็วรอบ ความสัมพันธ์ไว้ อันนี้คร่าวๆนะครับ ไม่ชัวร์
หรือ ลอง ใช้โปรแกรม Torque Pro วัด แรงม้า แรงบิด อัตราเร่ง บนถนน ของรถเราเก็บไว้ก่อน จูน เสร็จเอามาลองเทียบดู
แต่หากขึ้น Dyno ไม่มีปัญหาอยู่แล้วครับ เค้า ลงทุน ไดโน่ ได้ เค้าก็ลงทุน หาข้อมูล ECU รถได้ครับ อันนี้ไม่ต้องกังวล
เพระา มีผล แรงม้า แรงบิด เทียบให้ดู
และ การ ปรับ คันแร่งและ ลิ้นปักผีเสื้อ ก็ไม่ได้ผิดอะไรครับ หากเค้าปรับส่วนื่นให้ แรงม้าเราขึ้นมาด้วย
เหมือนเราติด คันเร่งไฟฟ้านั่นละ ไม่ต้องไปเสียตังด้วย ไม่ต้องเดินสายไฟด้วย
ถ้าหลักหมื่น หรือหลักพัน จูน บนได้โน่ก็ คุ้มที่จะลองครับ
-
อันนี้ คหสต ล้วนนะครับ....
ลองพิจารณาเรื่องพ่วง Piggy back ไปสักใบครับ อย่างน้อยเวลาจะทำเดิมๆ (เพื่อขายหรือเลิกซิ่ง)
ก็ทำได้ง่ายกว่าครับ อีกอย่าง Piggy back ยุคนี้ปรับนู่นนี่นั่น แบบ "เทพๆ" เลย มีให้เลือกเยอะเลยครับ
ลองพิจารณาเป็นแนวทางดูครับ
Piggy back ถ้า ECU รถ Lock รอบสูงสุดไว้ ปลดได้ไหมครับ
Torque Limit ก็ถูด ลีอคไว้ปลดได้ไหม
ถ้าไม่ตัดต่อสายไฟ Sensor ในรถแล้วทำได้ OK ครับ แต่ถ้ามีตัดต่อสาย ผมคนนึงละไม่เอา รถเละมากๆ
ในขณะ ECU แค่ คืนค่าเดิม เอา Flash Drive ไปให้เค้า เก็บ ค่าโรงงานตอนจูนได้
ช่างที่ เจาะ Flash ECU รถไม่ได้จะบอก Piggy back เจ๋งกว่า ทำได้มากกว่า
แต่ช่างที่ Flash ECU ได้ และ เข้าใจระบบ ECU จะสามารถ ปรับ ค่า ทุกอย่างใน ECU ได้
คิดเอง อะไรดีกว่า ครับ
ผมยังไม่เคยเจอ ช่าง Flash ECU ได้ บอกว่า Piggy back เจ๋งกว่าสักคน
เรื่องสายไฟ ไม่ตัดต่อ อันนี้บอกไม่ได้ว่า มีหรือไม่ แต่เท่าที่รู้ คือ ไม่เคยเห็นครับ ตัดสายไฟกันทั้งนั้น (แต่ส่วนมากจะมีปลั๊กวนให้)
ส่วนเรื่องปลดล็อค ต้องศึกษาดูครับ สมัยนี้เจ้าที่ เป็น piggy back เท่านั้น(ไม่ใช่ stand alone) สามารถทำได้(ดี) ทีเดียว ครับ แต่ราคาก็ตาม quality
อันนี้คงแล้วแต่ความถนัดครับ ถ้าถามว่า จูนเนอร์ถนัดด้านไหน ก็คงเชียร์ด้านนั้น
แต่ถ้าถามว่า อันไหนดีที่สุด อันนี้ก็ขึ้นอยู่กับความพอใจของผู้ใช้ครับ
-
โดยทั่วไปรถมีเทอร์โบ reflash แล้วเห็นผลชัดกว่ามาก ส่วนหนึ่งเป็นเพราะรถเทอร์โบจะมีการเซ็ต target boost ไว้ต่ำว่าที่ตัวเทอร์โบทำลมได้จริง การ reflash สามารถปรับในจุดนี้ได้และเห็นผลชัดเจนที่สุด
หากเป็นรถ na ก็ทำได้แค่ปรับไฟ ปรับน้ำมัน ผลที่ได้อาจไม่ชัดเจนเท่า ขึ้นอยู่กัยโปรแกรมเดิมด้วยว่า "เอื้อ"ต่ออการปรับแต่งขนาดไหน เช่น รถที่ถูก detune มาเพื่อให้ผ่านมาตรฐานไอเสียสูงๆ ถ้า reflash แล้ว น่าจะดีขึ้นเยอะ
เนื่องจากรถสมัยใหม่เป็นคันเร่งไฟฟ้าหมดแล้ว ผมเชื่อว่ามีจูนเนอร์จำนวนหนึ่งที่ "แต่ง" ตาราง องศาแป้นคันเร่ง*องศาลิ้นปีกผีเสื้อ ... ทำให้กดคันเร่งเท่าเดิม แต่ลิ้นปีกผีเสื้อเปิดมากขึ้น ... แบบนี้ไม่ได้แรงขึ้นจริง แค่ "รู้สึก"ว่าแรงขึ้นเฉยๆนะครับ
แนะนำว่าลองศึกษาเรื่องนี้และถามคำถามจูนเนอร์เยอะๆครับ จะได้เปรียบเทียบได้ดีขึ้น อย่าเห็นแก่ว่าที่จังหวัดนี้มีคนทำแค่คนเดียว ถ้าต้องวิ่งข้ามจังหวัดมาทำเพราะคนแถวบ้านเราไม่รู้จริง ก็ควรต้องยอมครับ
ปล รถผมพิกัด 2.0 โบ เพิ่มบูสประมาณ 20% แรงม้าเบ็ดเสร็จเพิ่มขึ้น ประมาณ 20% และมาเร็วขึ้น (เนื่องจากการปรับ target boost ใหม่)
รถคุณ Turin ใช่ BP5 GT หรือเปล่าครับเนี่ย ถ้าผมจำไม่ผิด
น่าอิจฉามาก มีรถแรงขับสี่ด้วย :-*
ผมละอยากได้มาก ติดที่ผู้บัญชาการที่บ้านไม่ยอม จบเลยผม :'(
เห็นคันนึงลงขายอยู่ ก็ได้แต่มอง
ที่คุณ Turin ทำนี่แค่ปรับบูสท์เพิ่มอย่างเดียวหรือทำอย่างอื่นเพิ่มด้วยครับ
ถ้าแค่เพิ่มบูสท์อย่างเดียวแล้วม้าทะลุไป 300 ม้านี่เป็นที่น่าพอใจมากเลยครับ
ปล.ขออภัย จขกท.ด้วยครับ ไม่ได้ช่วยอะไรเลย :-[
BP5 GT auto แค่ 235-245 ม้าครับ เหลือรอดจากการเวลา + loss จากระบบขับเคลื่อน เหลือแค่ลงพื้นแค่ 180 กว่าม้าเองครับ รีแฟลชแล้วเป็น 220 ม้า ขับสนุกขึ้นเยอะครับ
หลักๆที่ทำไปมี
- ปรับบูสจาก 1 bar ไป 1.2 bar
- ปรับให้ target boost กับ requested torque มาเร็วขึ้น เดิมต้องคิกดาวน์ 2 เกียร์ถึงจะยอมบูส 1 bar
- ปรับคันเร่งกับลิ้นปีกผีเสื้อให้มีความรู้สึกติดเท้ามาขึ้น
- ปรับไฟ/น้ำมันตามความเหมาะสม
รถเปลี่ยนแค่กรองแผ่น K&N กับหม้อพัก genome ที่เหลือเดิมสนิทครับ
ปล1 BP5 GT คันในเวปราคาน่าโดนมาก ได้รถแท้ด้วย (ของผมเป็น outback BP9 มาวางเครื่องครับ)
ปล2 อ่านบอร์ด ตปท. เห็นว่า BP5 GT เกียร์ออโต้ไม่ค่อยทนเท่าที่ควร อู่บ้านเราไม่ยอมซ่อมด้วย ขับแล้วเลยแหยงๆไม่กล้ากระทืบมาก ... จะขอ ผบ ทั้งทีมองไปที่แมว wrx ดีกว่าครับ (ยกเว้นต้องการเกียร์ออโต้เท่านั้น)
-
ขอบคุณคุณ mamaman ครับ ที่แนะนำวิธีดู App
ผมจะลองสังเกตุค่าในก่อนและหลัง remap ดูครับ
-
reกล่องเดิมไม่เกินแปดพันคับ หมื่นห้าพ่วงกล่องดีกว่า เบื่อยังพอขายได้สี่ห้าพัน
แรงพอกันประมาณ10ม้าแค่ลื่นขึ้น แป็บเดียวก็ชินเดี๋ยวก็ต้องเซ็ทโบเชื่อดิ
มันไม่ได้แรงขึ้นเยอะแบบกระบะดันรางแรงขึ้น30% ยกหัวฉีดแรงขึ้น50%
-
ใครเคยทำกับ K20z บ้างครับ อยากทราบว่าจะได้เพิ่มซักกี่ตัว บนไดโน
-
โดยทั่วไปรถมีเทอร์โบ reflash แล้วเห็นผลชัดกว่ามาก ส่วนหนึ่งเป็นเพราะรถเทอร์โบจะมีการเซ็ต target boost ไว้ต่ำว่าที่ตัวเทอร์โบทำลมได้จริง การ reflash สามารถปรับในจุดนี้ได้และเห็นผลชัดเจนที่สุด
หากเป็นรถ na ก็ทำได้แค่ปรับไฟ ปรับน้ำมัน ผลที่ได้อาจไม่ชัดเจนเท่า ขึ้นอยู่กัยโปรแกรมเดิมด้วยว่า "เอื้อ"ต่ออการปรับแต่งขนาดไหน เช่น รถที่ถูก detune มาเพื่อให้ผ่านมาตรฐานไอเสียสูงๆ ถ้า reflash แล้ว น่าจะดีขึ้นเยอะ
เนื่องจากรถสมัยใหม่เป็นคันเร่งไฟฟ้าหมดแล้ว ผมเชื่อว่ามีจูนเนอร์จำนวนหนึ่งที่ "แต่ง" ตาราง องศาแป้นคันเร่ง*องศาลิ้นปีกผีเสื้อ ... ทำให้กดคันเร่งเท่าเดิม แต่ลิ้นปีกผีเสื้อเปิดมากขึ้น ... แบบนี้ไม่ได้แรงขึ้นจริง แค่ "รู้สึก"ว่าแรงขึ้นเฉยๆนะครับ
แนะนำว่าลองศึกษาเรื่องนี้และถามคำถามจูนเนอร์เยอะๆครับ จะได้เปรียบเทียบได้ดีขึ้น อย่าเห็นแก่ว่าที่จังหวัดนี้มีคนทำแค่คนเดียว ถ้าต้องวิ่งข้ามจังหวัดมาทำเพราะคนแถวบ้านเราไม่รู้จริง ก็ควรต้องยอมครับ
ปล รถผมพิกัด 2.0 โบ เพิ่มบูสประมาณ 20% แรงม้าเบ็ดเสร็จเพิ่มขึ้น ประมาณ 20% และมาเร็วขึ้น (เนื่องจากการปรับ target boost ใหม่)
รถคุณ Turin ใช่ BP5 GT หรือเปล่าครับเนี่ย ถ้าผมจำไม่ผิด
น่าอิจฉามาก มีรถแรงขับสี่ด้วย :-*
ผมละอยากได้มาก ติดที่ผู้บัญชาการที่บ้านไม่ยอม จบเลยผม :'(
เห็นคันนึงลงขายอยู่ ก็ได้แต่มอง
ที่คุณ Turin ทำนี่แค่ปรับบูสท์เพิ่มอย่างเดียวหรือทำอย่างอื่นเพิ่มด้วยครับ
ถ้าแค่เพิ่มบูสท์อย่างเดียวแล้วม้าทะลุไป 300 ม้านี่เป็นที่น่าพอใจมากเลยครับ
ปล.ขออภัย จขกท.ด้วยครับ ไม่ได้ช่วยอะไรเลย :-[
BP5 GT auto แค่ 235-245 ม้าครับ เหลือรอดจากการเวลา + loss จากระบบขับเคลื่อน เหลือแค่ลงพื้นแค่ 180 กว่าม้าเองครับ รีแฟลชแล้วเป็น 220 ม้า ขับสนุกขึ้นเยอะครับ
หลักๆที่ทำไปมี
- ปรับบูสจาก 1 bar ไป 1.2 bar
- ปรับให้ target boost กับ requested torque มาเร็วขึ้น เดิมต้องคิกดาวน์ 2 เกียร์ถึงจะยอมบูส 1 bar
- ปรับคันเร่งกับลิ้นปีกผีเสื้อให้มีความรู้สึกติดเท้ามาขึ้น
- ปรับไฟ/น้ำมันตามความเหมาะสม
รถเปลี่ยนแค่กรองแผ่น K&N กับหม้อพัก genome ที่เหลือเดิมสนิทครับ
ปล1 BP5 GT คันในเวปราคาน่าโดนมาก ได้รถแท้ด้วย (ของผมเป็น outback BP9 มาวางเครื่องครับ)
ปล2 อ่านบอร์ด ตปท. เห็นว่า BP5 GT เกียร์ออโต้ไม่ค่อยทนเท่าที่ควร อู่บ้านเราไม่ยอมซ่อมด้วย ขับแล้วเลยแหยงๆไม่กล้ากระทืบมาก ... จะขอ ผบ ทั้งทีมองไปที่แมว wrx ดีกว่าครับ (ยกเว้นต้องการเกียร์ออโต้เท่านั้น)
220 ม้าก็เหลือๆแล้วครับ
ส่วน WRX เลิกคิดไปเลยสำหรับผม คนที่บ้านบอกไม่ wagon ก็ตู้เท่านั้น :'(
-
โดยทั่วไปรถมีเทอร์โบ reflash แล้วเห็นผลชัดกว่ามาก ส่วนหนึ่งเป็นเพราะรถเทอร์โบจะมีการเซ็ต target boost ไว้ต่ำว่าที่ตัวเทอร์โบทำลมได้จริง การ reflash สามารถปรับในจุดนี้ได้และเห็นผลชัดเจนที่สุด
หากเป็นรถ na ก็ทำได้แค่ปรับไฟ ปรับน้ำมัน ผลที่ได้อาจไม่ชัดเจนเท่า ขึ้นอยู่กัยโปรแกรมเดิมด้วยว่า "เอื้อ"ต่ออการปรับแต่งขนาดไหน เช่น รถที่ถูก detune มาเพื่อให้ผ่านมาตรฐานไอเสียสูงๆ ถ้า reflash แล้ว น่าจะดีขึ้นเยอะ
เนื่องจากรถสมัยใหม่เป็นคันเร่งไฟฟ้าหมดแล้ว ผมเชื่อว่ามีจูนเนอร์จำนวนหนึ่งที่ "แต่ง" ตาราง องศาแป้นคันเร่ง*องศาลิ้นปีกผีเสื้อ ... ทำให้กดคันเร่งเท่าเดิม แต่ลิ้นปีกผีเสื้อเปิดมากขึ้น ... แบบนี้ไม่ได้แรงขึ้นจริง แค่ "รู้สึก"ว่าแรงขึ้นเฉยๆนะครับ
แนะนำว่าลองศึกษาเรื่องนี้และถามคำถามจูนเนอร์เยอะๆครับ จะได้เปรียบเทียบได้ดีขึ้น อย่าเห็นแก่ว่าที่จังหวัดนี้มีคนทำแค่คนเดียว ถ้าต้องวิ่งข้ามจังหวัดมาทำเพราะคนแถวบ้านเราไม่รู้จริง ก็ควรต้องยอมครับ
ปล รถผมพิกัด 2.0 โบ เพิ่มบูสประมาณ 20% แรงม้าเบ็ดเสร็จเพิ่มขึ้น ประมาณ 20% และมาเร็วขึ้น (เนื่องจากการปรับ target boost ใหม่)
รถคุณ Turin ใช่ BP5 GT หรือเปล่าครับเนี่ย ถ้าผมจำไม่ผิด
น่าอิจฉามาก มีรถแรงขับสี่ด้วย :-*
ผมละอยากได้มาก ติดที่ผู้บัญชาการที่บ้านไม่ยอม จบเลยผม :'(
เห็นคันนึงลงขายอยู่ ก็ได้แต่มอง
ที่คุณ Turin ทำนี่แค่ปรับบูสท์เพิ่มอย่างเดียวหรือทำอย่างอื่นเพิ่มด้วยครับ
ถ้าแค่เพิ่มบูสท์อย่างเดียวแล้วม้าทะลุไป 300 ม้านี่เป็นที่น่าพอใจมากเลยครับ
ปล.ขออภัย จขกท.ด้วยครับ ไม่ได้ช่วยอะไรเลย :-[
BP5 GT auto แค่ 235-245 ม้าครับ เหลือรอดจากการเวลา + loss จากระบบขับเคลื่อน เหลือแค่ลงพื้นแค่ 180 กว่าม้าเองครับ รีแฟลชแล้วเป็น 220 ม้า ขับสนุกขึ้นเยอะครับ
หลักๆที่ทำไปมี
- ปรับบูสจาก 1 bar ไป 1.2 bar
- ปรับให้ target boost กับ requested torque มาเร็วขึ้น เดิมต้องคิกดาวน์ 2 เกียร์ถึงจะยอมบูส 1 bar
- ปรับคันเร่งกับลิ้นปีกผีเสื้อให้มีความรู้สึกติดเท้ามาขึ้น
- ปรับไฟ/น้ำมันตามความเหมาะสม
รถเปลี่ยนแค่กรองแผ่น K&N กับหม้อพัก genome ที่เหลือเดิมสนิทครับ
ปล1 BP5 GT คันในเวปราคาน่าโดนมาก ได้รถแท้ด้วย (ของผมเป็น outback BP9 มาวางเครื่องครับ)
ปล2 อ่านบอร์ด ตปท. เห็นว่า BP5 GT เกียร์ออโต้ไม่ค่อยทนเท่าที่ควร อู่บ้านเราไม่ยอมซ่อมด้วย ขับแล้วเลยแหยงๆไม่กล้ากระทืบมาก ... จะขอ ผบ ทั้งทีมองไปที่แมว wrx ดีกว่าครับ (ยกเว้นต้องการเกียร์ออโต้เท่านั้น)
220 ม้าก็เหลือๆแล้วครับ
ส่วน WRX เลิกคิดไปเลยสำหรับผม คนที่บ้านบอกไม่ wagon ก็ตู้เท่านั้น :'(
อิมหน้าแมว GH มีห้าประตูครับ เพียงแต่ขนาดจะเล็กกว่า legacy หน่อย(หน่อยเดียวจริงๆ)
-
ใครเคยทำกับ K20z บ้างครับ อยากทราบว่าจะได้เพิ่มซักกี่ตัว บนไดโน
มีรุ่นน้องทำมาบอกว่าแค่ลื่นขึ้น
อย่าเรียกว่าแรงเลยพี่
-
คุณ Turin
GH hatchback ไม่ผ่านเช่นกันครับ :'(
ขนาด BP5 ยังไม่ผ่านเลยครับ ::) GH จบเห่แน่ๆ
-
คุณ Turin
GH hatchback ไม่ผ่านเช่นกันครับ :'(
ขนาด BP5 ยังไม่ผ่านเลยครับ ::) GH จบเห่แน่ๆ
ผบ กับ Subaru นี่ปัญหา classic เลยครับ ... ของผมอยากได้ GD แต่รู่ว่าไม่ผ่านแน่ๆ เลยเสนอ GH สุดท้ายเจรจาลงมาได้แค่ Ouback BP
ค่อยๆตื้อไปครับ :)
-
เคยเห็นพี่ๆในกลุ่มเค้าเอา fiesta 1.0 ไป remap มาครับเห็นว่าใช้ e85 ได้และแรงกว่าเดิม
ส่วนเรื่อง boost เรื่องคันเร่งยังไม่เห็นมีใครลองเลยครับ กลัวเครื่องพัง
-
รถผมผ่านการ Reflash มาอย่างโชกโชนรับ เอาว่าค่า Reflash อย่างเดียวรวมๆ ทะลุแสนไปไกล
จูนเนอร์เก๊ เพิ่งหัดทำ แต่นั่งเทียน โยนรอมใส่ แล้วรถสตาร์ทไม่ติด แก้ไม่เป็นอีก
จูนเนอร์ล็อคกล่องก็มี
จูนเนอร์ แอบสลับสายที่ที่กล่อง ecu ก็มี ใครมาจูนใหม่ก็เสียบไม่ติด
จูนเนอร์กลัว Dyno ก็มี จูนแต่ถนนบอกแรงแล้ว ไม่ยอมขึ้น Dyno ผมเอาไปขึ้น Dynoเดิม ห่วยกว่าก่อนจูนอีก
จูนเนอร์ฮั้วกับคนขายอะไหล่ก็มี ต้องเปลี่ยนนี่ โน่น นั่น เอาของรถลูกค้าอีกคันมาใส่รถเราก็ทำ โอ๊ะ
จูนเนอร์ชุ่ย ก็โดนมาแล้ว จูนน้ำมันบางเฉียบ พังคับ
จากประสบการณ์ จูนเนอร์ที่เก่งจริงๆ ละเอียดจริง ไม่น้ำลาย ราคาสูง ไม่ค่อยว่าง ไม่ค่อยพูด
-
เคยเห็นพี่ๆในกลุ่มเค้าเอา fiesta 1.0 ไป remap มาครับเห็นว่าใช้ e85 ได้และแรงกว่าเดิม
ส่วนเรื่อง boost เรื่องคันเร่งยังไม่เห็นมีใครลองเลยครับ กลัวเครื่องพัง
ไม่ทราบว่าพอจะบอกได้มั้ยครับว่าทำที่ไหน.
พอดีพอดีผมมี fiesta 1.0 อยู่เหมือนกัน. :-X :-X
-
เคยเห็นพี่ๆในกลุ่มเค้าเอา fiesta 1.0 ไป remap มาครับเห็นว่าใช้ e85 ได้และแรงกว่าเดิม
ส่วนเรื่อง boost เรื่องคันเร่งยังไม่เห็นมีใครลองเลยครับ กลัวเครื่องพัง
ไม่ทราบว่าพอจะบอกได้มั้ยครับว่าทำที่ไหน.
พอดีพอดีผมมี fiesta 1.0 อยู่เหมือนกัน. :-X :-X
ตามความเข้าใจของผม จูนประเภทน้ำมันนี่เป็นส่วนที่ยากสุดนะครับ เพราะต้องปรับ scale การจ่ายน้ำมันใหม่หมด (e85 ต้องการรูปแบบการจ่ายน้ำมันไม่เหมือน g95 ดีไม่ดีอัตราส่วนน้ำมัน/อากาศก็ไม่เท่ากันด้วย)
งานนี้ไม่ง่ายนะครับ ... เอาเข้าจริงคันเร่งกับบูส ง่ายและเซฟกว่านะครับ (ถ้าไม่ใช่เพิ่มบูสนะ)
-
รถผมผ่านการ Reflash มาอย่างโชกโชนรับ เอาว่าค่า Reflash อย่างเดียวรวมๆ ทะลุแสนไปไกล
จูนเนอร์เก๊ เพิ่งหัดทำ แต่นั่งเทียน โยนรอมใส่ แล้วรถสตาร์ทไม่ติด แก้ไม่เป็นอีก
จูนเนอร์ล็อคกล่องก็มี
จูนเนอร์ แอบสลับสายที่ที่กล่อง ecu ก็มี ใครมาจูนใหม่ก็เสียบไม่ติด
จูนเนอร์กลัว Dyno ก็มี จูนแต่ถนนบอกแรงแล้ว ไม่ยอมขึ้น Dyno ผมเอาไปขึ้น Dynoเดิม ห่วยกว่าก่อนจูนอีก
จูนเนอร์ฮั้วกับคนขายอะไหล่ก็มี ต้องเปลี่ยนนี่ โน่น นั่น เอาของรถลูกค้าอีกคันมาใส่รถเราก็ทำ โอ๊ะ
จูนเนอร์ชุ่ย ก็โดนมาแล้ว จูนน้ำมันบางเฉียบ พังคับ
จากประสบการณ์ จูนเนอร์ที่เก่งจริงๆ ละเอียดจริง ไม่น้ำลาย ราคาสูง ไม่ค่อยว่าง ไม่ค่อยพูด
จริงครับ ... นี่ก็ว่าจะเอาโปรแกรม+data log
ดูว่ามีอะไรแปลกๆตรงไหนหรือเปล่า (แต่อย่างน้อยก็สบายใจได้ว่าจูนเนอร์ผมยอมให้ก๊อปโปรแกรมมาดู)
-
เคยเห็นพี่ๆในกลุ่มเค้าเอา fiesta 1.0 ไป remap มาครับเห็นว่าใช้ e85 ได้และแรงกว่าเดิม
ส่วนเรื่อง boost เรื่องคันเร่งยังไม่เห็นมีใครลองเลยครับ กลัวเครื่องพัง
แล้วเค้าได้บอกต่อไหมว่า เติมได้แต่ E85 ห้ามไปเติม น้ำมันชนิดอื่น
ไม่ใช่รถ FFV ไม่มีระบบ ตรวจเช็คน้ำมัน ECU รถจะใช้ Map ไหนมาวิ่งครับ
จูนให้ใช้ E85 ได้ครับ แต่ใช้ได้ชนิดเดียว นะ เพราะ E20 กับ E85
มันคนละ Map น้ำมันเลย
มีจูนเนอร์ สารเลว หลายๆคน ครับ
ที่ไม่ยอมบอก ลูกค้า ว่า รถที่ จูนให้เติม E85 และไม่ใช่รถ FFV มันไม่ควรจะไปเติมน้ำมันชนิดอื่น
แต่ที่เลว กว่า คือ รถ FFV ไปจูน ได้กลับมาเป็น รถ ธรรมดา ที่ ระบบตรวจสอบน้ำมันหายไป บรรลัยครับ แถมมันไม่บอก เจ้าของรถด้วย ปล่อยไปเครื่องพังตอนเติมน้ำมันชนิดอื่น กลายเป็น น้ำมันหนาแทน
-
คุณ Turin
GH hatchback ไม่ผ่านเช่นกันครับ :'(
ขนาด BP5 ยังไม่ผ่านเลยครับ ::) GH จบเห่แน่ๆ
ผบ กับ Subaru นี่ปัญหา classic เลยครับ ... ของผมอยากได้ GD แต่รู่ว่าไม่ผ่านแน่ๆ เลยเสนอ GH สุดท้ายเจรจาลงมาได้แค่ Ouback BP
ค่อยๆตื้อไปครับ :)
ขอบคุณครับจะพยายามตื้อต่อไป :)