Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: 0% ที่ มกราคม 13, 2016, 15:19:57
-
ขาย รถยนต์ 1 คันได้กี่บาท
บริการหลังการขาย after service กำไรกี่เปอร์เซ็นต์
---
ปล.1 เข้าใจว่า ค่าใช้จ่ายเยอะ ค่าที่ ค่าสถานที่ ค่าก่อสร้าง ค่าพนักงาน ค่าช่าง ค่าเครื่องมือ
-
๗ ถึง ๘ หมื่นบาท เดา
-
บอกได้ว่า ดีลเลอร์
ขายดาว กำไรสุดท้าย หักค่าดำเนินการทั้งหมดและภาษี ช่องสุดท้าย 3-5%
แต่ตัวเลขมันใหญ่ในระดับหลายร้อยล้าน มันเลยมีตัวเลขที่ยังเยอะอยู่แต่เป็นเปอร์เซนในการลงทุนธุรกิจที่ต่ำและมีค่าใช้จ่ายสูง
กำไรส่วนบริการและขายอะไหล่ มีเปอเซนมากกว่าแต่มูลค่าไม่สูงเท่าขายรถใหม่
แต่ถ้าพูดถามถึง ตัวค่ายรถบริษัทแม่เองอย่าง น่ะกำไรเยอะกว่า หนักไปทางค่าบริหารกับค่า โฆษณา
เหตุที่ไม่ได้บอกถึงกำไรต่อคัน เพราะมันมี ค่าใช้จ่ายอื่นๆ ที่เป็นค่าใช้จ่ายรวมๆที่ต้องไปหักก่อน ไม่ใช่ว่าซื้อมา ล้านขายสองล้านแปลว่ากำไร ล้านนึงจริงๆ
ธุรกิจขายรถมันมี ค่าใช้จ่ายร่วมอีกพอควร แต่ขายรถในบ้านเราสังเกตุสิครับ โชวรูมใหญ่โตเว่อวังอลังการณ์สุดๆ
ไอ้ความโก้หรูที่เราได้รับจากศูนย์บริการ จากโชวรูม บอกเลยว่าเงินคุณเองทั้งนั้น ยิ่งใหญ่ากเค้าก็เอามาชาจกับคุณมากขึ้น ราคารถเมืองไทยถึงเป็นแบบนี้
-
เห็นเซลเล่าใฟังนานแล้วว่า ขายรถคันนึงได้ 0 จะได้กำไรประมาณอย่างน้อยที่สุด 10 % ยังไม่หักค่าใช้จ่าย
-
คนทั่วไปมักคิดว่าขายรถคันนึงได้กำไรมหาศาลเป็นแสนๆบาท แต่จริงๆแล้วกำไรน้อยมาก รถยิ่งเล็กกำไรยิ่งน้อย ยังไม่นับว่าสมัยนี้ลูกค้าเขี้ยวยิ่งกว่าคนขาย ::)
-
ผมรู้จักเจ้าของดีลเลอร์เจ้าตลาดเก๋ง รถพึ่งออกใหม่ๆราคาเกือบล้าน ลดให้ 50000 แถมประกันดอก0แต่ขอดาว์วเยอะหน่อย ในขณะที่เซล์ทั่วไปไม่มีโปรอะไรเลย เมื่อ4ปีที่แล้ว เขาบอกหมดมาจิ้นของเขาแล้วแต่ยังได้ยอดรวมอีก ก็ไม่น้อยนะ ครับ
-
เกินห้าหมื่นต่อคันครับ แต่ยังไม่หักอีกหลายๆอย่าง ถ้าต่ำกว่าห้าหมื่นนี่แทบจะเรียกว่าเข้าเนื้อเลย ไหนจะค่าน้ำค่าไฟ ค่าพนักงาน ค่าระบบ ค่ารปภ ค่าดอกเบี้ย (ค้างสต๊อกหรือลูกค้าเลื่อนรับรถ) ค่าภาษี ค่าประชาสัมพันธ์ ค่าเช่าโกดังจอดรถ ค่ารถทดลองขับ (อันนี้ซื้อในราคาพิเศษ) โอ้ว...อีกบานเลย
-
เผอิญเคยเห็นใบกำกับภาษีที่บริษัทฟอร์ดเปิดให้ดีลเลอร์แห่งนึง สำหรับเรนเจอร์ 3.2 ตัวแรกตอนคนเห่อจองกันล้นหลามถึงกับซื้อใบจองกัน กำไรประมาณ แปดหมื่นบาท (ก่อนหักค่าใช้จ่ายต่างๆ) และเคยนั่งคุยกับเจ้าของโชว์รูมที่เป็นทั้งเจ้าของดาวสามแฉกและฮอนด้า เขาบอกว่ากำไรคิดเป็นเปอร์เซ็นต์ไม่เท่าไร ขึ้นอยู่กับรุ่นขายดีหรือไม่ นโยบายบริษัทแม่ และสายป่านสั้นยาวแค่ไหน บางเจ้าสต็อคบานเบอะ ถึงเวลาขายเท่าทุนก็ต้องยอม แต่จะมาเน้นขายอะไหล่กับค่าแรงมากกว่าที่เป็นตัวทำเงินเข้าโชว์รูม
-
ประมาณ 10- 15 % ถ้ารถบางรุ่นขายไม่ออก จำนวนเปอร์เชนต์สูงตามครับ ไม่รวมค่าคอมของเซลล์นะครับ อันนี้ บริษัทแม่จ่ายให้นะครับ
และยังไม่รายได้อื่นครับ เช่น คอมไฟแนนช์ ประมาณ 3-5% ต่อคัน อันนี้นับเฉพาะด้านขายรถตัวอย่างเดียว ส่วนงานเชอร์วิส อันนี้ถือเป็นรายได้หลักอยู่แล้วครับ
-
ตรงนี้น่าสนใจ
-
ผมว่าน่าจะไม่ต่ำกว่าแสนครับ
-
แล้วรีโว่ช่วงปลายปีที่ส่วนลดของแถมเป็นแสน คือยังไงครับ ศูนย์จะได้กำไรถึง 5 หมื่นมั้ย
-
10-15%ของมูลค่ารถครับ
ไม่รวมโบนัสยอดสะสม
-
ค่าคอม ที่บ.แม่จ่ายให้ มีแค่เจ้าตลาดอย่าง toyota เท่านั้นแหละครับ แต่ก็ไม่ถือว่าเป็นคอมปกติ เป็นคอมพิเศษ มาเป็นช่วงๆ กับรถบางรุ่น บางโมเดลเท่านั้น
-
ตอบยาก
มี hidden มีกำไรทับซ้อน แต่ละรุ่นแต่ละยี่ห้อไม่เท่ากัน
สรุปคือ ไม่ทราบครับ
-
เห็นเคยมีคนบอกว่า0อยู่ดีเพราะรายได้หลักมาจากการเช็คระยะนะครับ
ไม่นับรวมพวกน้ำยาต่างๆที่ชอบยัดมาให้ในราคาที่แพง แต่ไม่รู้เอามาทำไม
-
แล้วรีโว่ช่วงปลายปีที่ส่วนลดของแถมเป็นแสน คือยังไงครับ ศูนย์จะได้กำไรถึง 5 หมื่นมั้ย
toyota thai ตั้งราคารถ revo แพงเกินคู่แข่งมาก
หวังฟันกำไรกันหัวเบะ กะว่าจะเอา โบนัส 12 เดือน
พอขายไม่ออก คงลดราคาขายให้ ดีลเลอร์
เพื่อให้ดีลเลอร์ ขายระบายสต๊อก
พ่อค้าที่ไม่ซื่อสัตย์ก็งี้ สมควรที่ขายไม่ค่อยออก
-
ข้อมูลจากที่ผมจดทะเบียนรถเองนะครับ everest 3.2+ ราคา 1.599 ล้านบาท
ราคาจากใบเสร็จที่ออกโดยฟอร์ด 1.47x ล้านบาท (จำไม่ได้ครับ555+)
-
ข้อมูลจากที่ผมจดทะเบียนรถเองนะครับ everest 3.2+ ราคา 1.599 ล้านบาท
ราคาจากใบเสร็จที่ออกโดยฟอร์ด 1.47x ล้านบาท (จำไม่ได้ครับ555+)
ราคาในใบเสร็จ เป็นราคาที่ไม่รวม vat หรือเปล่าครับ
ราคารวม vat 1.599 ล้าน
ราคาไม่รวม vat 1.487 ล้าน
-
กำไรไม่เยอะหรอกครับ สำหรับรถใหม่ อาศัย ผลประโยชน์ซ้อน จากเป้าขาย คันหนึ่ง ไม่ถึง 5 % ครับ แต่ดีเลอร์จะได้จากบริษัทแม่อีกที่หากทำเป้าได้ หรือ ผ่านข้อกำหนดที่บริษัทแม่กำหนดมา บางคันกำไร ไม่ถึง หมื่นซะด้วยซ้ำ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นคงแล้วแต่ยี่ห้อน่ะครับ อาจไม่เหมือนกัน
-
กำไรไม่เยอะครับ อยู่ราวๆ 3-5% ต่อคัน (แล้วแต่รุ่นด้วย)
กำไรเน้นๆไปอยู่ที่ศูนย์บริการเป็นหลักครับ
-
คอนเฟิร์มอีกคนว่า
รถบ้านญี่ปุ่นทั่วๆไป 3-5% ครับ
ปล. ผมทำศูนย์อยู่ครับ
-
กำไรเท่าไรยังไม่น่าเครียดเท่า รถติดมือนะครับ มีคนรู้จักเป็นเจ้าของดีลเลอร์ยี่ห้อใหญ่อยู่ ตจว ชอบมาบอกขายรถที่อยู่หน้าโชว์รูมแต่ตกรุ่นแล้ว
คุยกันแกบอกรถที่โชว์นี่ต้องจ่ายเองทั้งคันครับ ช่วงสองปีนี่ขายไม่ได้ 2 คัน ยอดร่วมๆสามล้านได้ครับ
-
เรื่องกำไรไม่ค่อยงง แต่ไม่เข้าใจ บทจะออกส่วนลดทะล่มตลาด
ก็ออกมาซะง่ายๆยังงั้น คนซื้อก่อน ยิ้มทั้งน้ำตา ดีใจที่ได้ขับก่อน
คนขับทีหลัง ทั้งถูก ทั้งคุ้ม รถก็ดี อีก
-
เท่าที่อ่านมา ดีลเลอร์ได้น้อยกว่าที่ผมคิดไว้พอสมควรเลย แล้วที่ทำโปรโมชั่นโหดๆได้นี่กำไรตอนขายก่อนลดกระหน่ำไปอยู่กับผู้ผลิตหรือครับนั่น ถ้าจำไม่ผิด E-Coupe ราคาวันเปิดตัวกับปัจจุบันนี่ต่างกันลิบลับยังกับรถคนละ segment เลยทีเดียว
-
คอนเฟิร์มอีกคนว่า
รถบ้านญี่ปุ่นทั่วๆไป 3-5% ครับ
ปล. ผมทำศูนย์อยู่ครับ
ศูนย์ที่ไหนครับ ยี่ห้ออะไร
ถ้าบอกว่า สมช. เวบเรา จะได้ส่วนรถของแถมบ้างไหมครับ
หากไม่สะดวก ขอหลังไมค์ครับ
-
เท่าที่อ่านมา ดีลเลอร์ได้น้อยกว่าที่ผมคิดไว้พอสมควรเลย แล้วที่ทำโปรโมชั่นโหดๆได้นี่กำไรตอนขายก่อนลดกระหน่ำไปอยู่กับผู้ผลิตหรือครับนั่น ถ้าจำไม่ผิด E-Coupe ราคาวันเปิดตัวกับปัจจุบันนี่ต่างกันลิบลับยังกับรถคนละ segment เลยทีเดียว
ผู้ผลิตเป็นคนกำหนดราคาขายครับ ส่วน dealer ซับส่วนต่างไปก่อน เดี่ยวผู้ผลิตเขาจะโอนเงินส่วนต่างคืนมาให้ครับ :)
-
ราคารถดูที่ตอนทำประกันครับ มันจะมีราคารถอยู่ กับราคาเต็มที่เราซื้อ
-
ค่าคอม ที่บ.แม่จ่ายให้ มีแค่เจ้าตลาดอย่าง toyota เท่านั้นแหละครับ แต่ก็ไม่ถือว่าเป็นคอมปกติ เป็นคอมพิเศษ มาเป็นช่วงๆ กับรถบางรุ่น บางโมเดลเท่านั้น
มีเปนบางรุ่นครับแต่ไม่ใช่มีแต่โตโยจ้าครับมาตามอารมณ์สำนักงานใหญ่ด้วย