Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: Super3 ที่ มกราคม 23, 2016, 13:24:36
-
จริงๆการดีโซน์แนวนี้ก็มีกันมาแต่อดีต แต่ในปจจุบันนี้เทรนด์นี้เริ่มแพร่หลายมากขึ้น
จากที่ผมสังเกตุยิ่งยุคสมัยนี้มีหลายยี่ห้อนำเอาเทรนด์นี้มาใช้
เพื่อนๆมีความคิดเห็นอย่างไรกับคิดอย่างไรกับเทรนด์การดีไซน์แนวนี้บ้างครับ
และอยากให้ช่วยกันโหวตว่าเห็นด้วยหรือไม่กับเทรนด์นี้
-
ไม่ชอบ แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ ยังดีที่ว่าดูสวย แค่ขาดเอกลักษณเฉพาะรุ่นลงไป
ผู้ผลิตก็ต้องคิดถึงวิธีลดต้นทุน วัตถุดิบ งานวิจัย มีการใช้ร่วมกันมากขึ้น ก็เท่ากับกำไรที่มากขึ้น
แต่ก่อนเคยคิดว่า team design คงปวดหัว น่าดูทุกๆ 4 ปี หรือ 7ปี ต้องออก โฉมใหม่
หลังจากนี้คง ไปมุ่งด้านเทคโน ความปลอดภัยมากขึ้น
-
หมายถึง หน้าตาเหมือนกัน ในยี่ห้อเดียวกัน คือ D Seg C Seg B Seg ใช่ไหมครับ
ผมว่า อย่าให้เหมือนมากเลย ให้ดูพอรู้ว่า Gen เดียวกัน ยี่ห้อเดียวกัน พอแล้ว
-
เหมือนกันบางส่วนก็ดีครับจะได้ใช้อะไหล่ร่วมกันได้ครับสบายใจครับ
-
ผมก็ไม่ถึงกับไม่ชอบนะครับ แต่ก็รู้สึกว่า รถทุกไซส์เหมือนกันมากเกินไป น่าจะมีดีไซน์ให้สังเกตุง่ายกว่านี้ครับ
ถ้าเป็น MB และ BM ผมพอแยกออก ถ้า E รุ่นใหม่ออกมาวิ่งบนถนน คงต้องเล็งซักพักแหละ ว่ารุ่นไหน
เพราะ C E S เริ่มเหมือนกันมาก แต่ Audi ผมแยกไม่ออกครับ
-
มันดูน่าเบื่อ ไม่ตื่นเต้น
แต่ทุกวันนี้มันต้องแข่งกันลดต้นทุน ใช้แพลตฟอร์มให้ได้หลากหลายรุ่น มันเลยมาแนวนี้กันหมด
-
สิ้นคิดไป อย่างน้อยควรทำให้ต่างมากกว่าแบบเบนซ์
Audi มันไม่เหมือนกันนะ ต่างมากกว่าเบนซ์ซะอีกในตอนนี้ ยิ่ง BMW ยิ่งต่าง ยกเว้นภายในที่เริ่มน่าเบื่อ
มันควรมีเอกลักษณ์ เช่น E ควรทำแบบโฉมที่แล้ว ไฟหน้า 4 ดวง มันก็ดูดีนะ ,C ดูสปอร์ตดีงาม ,S ดูมีระดับ แบบนั้นดีอยู่แล้ว
-
ตราบใดที่มันยังสวยจะแฝดเหมือนกันกี่รุ่นผมก็ไม่แคร์ แต่อย่าไปเหมือนกันหลายตราก็พอ มันจะน่าเบื่อ
-
หากทำแล้วราคาลดลง แต่คุณภาพดีขึ้น
ก็โอเคครับ
-
ภายนอกเฉยๆครับ ภายในต้องต่างกันบ้าง ขอให้ขับดีผมว่าก็โอเคแล้วครับ
-
เหมือนกันได้บางรุ่นแต่ไม่ใช่ทุกรุ่น MB BMW Audi ไม่ต้องกลัวแบรนด์หรูยังไงก้ไปได้ Mazda สิครับเอาไง kodo
-
ชอบแบต่างกันมากกว่าครับ ดูมีเอกลักษณ์มากกว่า
-
คิดว่าอยากได้สักคัน ถ้าเป็นเอสคลาสยิ่งดี ;D ;D
-
ผมไม่ค่อยชอบรถที่ออกแบบมาคล้ายๆกันซักเท่าไหร่ ชอบรถที่มันดูแต่ต่างกันแบบว่ามองแล้วรู้เลยว่ารุ่นไร ไม่ใช่แบบเบนซ์ปัจจุบันที่มองแล้วต้องคิดก่อนว่ารุ่นไรว่ะ
บ้างที่การสร้างรถให้มันคล้ายๆกันจนแยกยากๆมันทำให้รถดูไม่มีเอกลักษณืน่าเบื่อ
-
ส่วนตัวผมไม่ชอบครับ 555 เพราะผมไม่ได้เชี่ยวชาญเรื่องรถยนต์ เห็นแล้วแยกไม่ออก :( ( แต่หลายๆท่านที่สนใจเรื่องรถ บางทีเห็นแล้วบอกได้เลยถึงรุ่นย่อย เป็นท็อป หรือรองท็อป ออพชั่นอะไรบ้าง แต่ผมคนธรรมดาๆ ไม่ถึงขนาดนั้น ;) )
แต่ถึงผมจะไม่ชอบ ทางบริษัทรถเค้าคงมองว่าการออกแบบให้เหมือนๆกัน เป็นผลดีกับบริษัทเค้า ซึ่งอันนี้ก็คงอยู่ที่ลูกค้าแล้วล่ะครับว่าต้องการเอกลักษณ์เฉพาะรุ่นแค่ไหน
สมมติว่าลูกค้าของ benz ต้องการความเป็นเอกลักษณ์แค่ระดับยี่ห้อ คือ ให้คนมองแล้วรู้ว่านี่คือรถเบนซ์ ให้ความสำคัญกับการเป็นยี่ห้อเบนซ์ มากกว่าการเป็นรุ่น c e s ถ้าอย่างนี้การออกแบบมาเหมือนๆกันทั้ง 3 ขนาดอาจไม่เป็นปัญหา
หรือ สมมติหากลูกค้าของมาสด้าต้องการรถแค่เพื่อใช้งานขับจากจุด a ไปจุด b โดยมีฟีลลิ่งขับสนุก โดยไม่ได้สนใจว่าคนที่มองเข้ามาจะมองว่าขับรถยี่ห้ออะไร ถ้าอย่างนี้การออกแบบกระจังหน้าคล้ายๆกันไปหมด ก็อาจไม่เป็นปัญหา
แต่หากลูกค้าต้องการเอกลักษณ์เฉพาะลงไปถึงระดับรุ่น เช่น porsche 911 ที่ผู้ซื้อไม่ได้ต้องการซื้อมาใช้งานแค่เพื่อขับจากจุด a ไป จุด b หากแต่ต้องการฟีลลิ่งในการขับขี่ด้วย และยังต้องการเอกลักษณ์เฉพาะรุ่นให้มองแล้วรู้ว่านี่คือ รุ่น 911 ด้วย (ประมาณว่าถ้าต้องการแค่ขับจากจุด a ไปจุด b คงไม่ต้องซื้อ 911 ก็ได้) ( 911 ก็เลยยังทรงนี้ตลอด มองแว๊บเดียวก็รู้ว่านี่คือ porsche 911)
สมัยที่ 911 ออกรุ่น 996.1 ออกมา (ก่อน minor change) ส่วนหน้า ไฟหน้า ฝากระโปรงหน้า ไปเหมือนกับ boxster 986 ตัวแรกเป๊ะ (ด้วยเหตุผลทางการเงินของ porsche ในช่วงนั้น) เรียกได้ว่าใช้ชิ้นส่วนเดียวกันด้วยซ้ำ ตอนนั้นก็มีเสียง complain จากลูกค้าที่ใช้รุ่น 911 ว่ามันไปเหมือนรุ่นเล็กคือ boxster (แต่ไม่มีเสียงบ่นจากคนขับ boxster นะ ว่ามันไปเหมือน 911 :D ขับรุ่นเล็กแต่ไปเหมือนรุ่นแพงกว่าก็ดีสิ 555)
พอถึงตอน minor change ทั้ง 2 รุ่น porsche จึงต้อง minor ไฟหน้าให้มันต่างกันออกไป ให้ดูออกว่านี่คือ 911 หรือ boxster
ผมมองว่าเมื่อบริษัทรถออกแบบแนวเหมือนๆกันนี้ออกมา คราวนี้ก็ขึ้นอยู่กับลูกค้าแต่ละยี่ห้อแล้วล่ะครับว่าจะรับได้หรือไม่
สำหรับเบนซ์ ผมมองว่า ลูกค้าส่วนใหญ่ของเบนซ์ คงพอใจว่าขับแล้วให้คนมองออกว่าขับเบนซ์ ไม่ได้ถึงกับลูกค้า 911 ที่ต้องการให้มองออกว่านี่คือ 911 การที่เบนซ์ออกไส้กรอก 3 ขนาดมาก็คงไม่ได้ส่งผลให้ยอดขายน้อยลงเท่าไหร่
และต่อให้ถึงแม้ลูกค้าเบนซ์จะสนใจเรื่องมองรุ่นออก แต่ยอดขายของ c กับ e มากกว่า s อยู่เยอะ คงไม่มีเสียง complain จากคนใช้ c กับ e เท่าไหร่ว่าไปเหมือน s (ไม่เหมือน porsche ที่ผู้ใช้ 911 เป็นสัดส่วนที่ไม่น้อย เสียง complain จึงมีผลต่อบริษัทผู้ผลิตให้ทำตามความต้องการของลูกค้า)
-
case study เป็น benz ละกันครับ
ชอบความสวยครับ อะไรๆก็ดี แต่มันจำเจ มันเป็นแฝดไปเลย
bmw ยังดูมีความเด่นในแต่ละรุ่นมากกว่า แค่ดูออกว่ามี dna เดียวกันเท่านั้น
ปล.ยังชอบ E แบบ 4 ตาอยู่
-
ไม่ชอบอะครับ มันแยกไม่ค่อยออก โดยเฉพาะ benz แต่ก่อน แต่ล่ะรุ่น แต่ล่ะคราส จะแตกต่างกันออกไป เจอปุ๊ป บอกได้เลยว่ารถคันนี้รุ่นใหน เซกใหน แต่มาตอนนี้ ถ้าเอามาจอดเทียบกันนี่ แทบแยกไม่ออกเลย เดายากอ่ะ
-
ผมว่าปัจจัยมันมีหลายอย่างนอกจากความเป็นไส้กรอก 3 ขนาดอะครับ
ส่วนตัวไม่ชอบที่เหมือนกันขนาดเบนซ์ gen ปัจจุบัน c,e,s เอาไฟไปยึดนิดๆหน่อยๆเป็นอีกรุ่น
แต่มันก็ยังขายดีอยู่เพราะว่าเป็นเมอซิดิสอยู่ดี ค่ายที่มีกลิ่นไอแต่ไม่เหมือนกันก็มีนะครับ อย่าง L แต่มันขายไม่ดีเพราะปัจจัยอื่นๆ
ใครเก่าเก๋ากว่าก็เป็นผู้นำในตลาดแหละครับตราบใดที่ยังขายได้
ชอบแบบรุ่นก่อนๆที่มีเอกลักษณ์เหมือนกัน แต่ดีไซน์แตกต่างกันมากกว่า
-
ภายนอกคล้ายกันแบบมีเอกลักษณ์การดีไซน์แนวเดียวกันแล้วมันสวยก็โอเคครับ แต่แยกออกยากๆแบบ MB นี่ก็ไม่ไหวเหมือนกัน แต่ภายในคล้ายๆกันแบบ MB นี่ชอบครับ ยิ่งสวยแล้วคล้ายกันยิ่งชอบ
-
จากเมื่อก่อน เอกลักษณของแต่ละค่าย จะเน้นที่ กระจังหน้า
พอมาตอนนี้ รูปทรง งานออกแบบต่างๆ ภายนอกภายใน ดูคล้ายกันมากๆ ต่างกันแค่ขนาดตัวรถ
แต่คงจะเป็นแบบนีไปอีก 4-5 ปีครับ เพราะเทรนด์งานออกแบบรถแต่ละค่ายเปลี่ยนไปทุก 3-4 ปี
สังเกตจากงานรถต้นแบบแต่ละค่ายที่ออกมาในแต่ละปี ทำให้มองเห็นถึงทิศทางงานออกแบบของแต่ละค่ายได้นะครับ
-
ไม่เห็นด้วยอย่างยิ่งเลยครับ คหสต.รู้สึกว่าค่ายรถต่างๆเล่นง่ายไปครับ เหมือนหมดปัญญาออกแบบ ก็เลยเอามันมาขยาย-หดร่าง แล้วก็ปรับปรุงรายละเอียดเล็กๆน้อยๆ จบ หากินง่ายไปครับ โดยเฉพาะค่ายดาว3แฉก/ใบพัด/4ห่วง รถคันนึงตั้งหลายล้าน ออกแบบกันง่ายๆแบบนี้เลยหรอครับ :'(
-
คนที่บอกว่า teana กับ slyphy เหมือนกัน ผมว่า sense บกพร่องมากนะ
แล้วถ้าบอกว่า c กับ s วิ่งบนถนนแล้วแยกไม่ออกนี่ก็เช่นกัน
มิติ ดีเซล อัตราส่วน ต่างๆ มันมีรายละเอียด ต่างกันเยอะ
ถึงแม้ว่าจะดูคล้ายกัน แต่ ดูดีๆ มันไม่เหมอืนกันเลย ชิ้นส่วนก็ไม่ได้ใช้ร่วมกัน
ความเรียบง่ายที่สุด มาพร้อมกับความปราณีต บรรจง ที่สุด
ยิ่งน้อย ยิ่งยาก
-
ก็ดีนะ
เวลามอง ก็จะได้รู้เลยว่ารถยี่ห้ออะไร DNA เป็นอย่างไร ในช่วงปี Model นั้นๆ
พอเปลี่ยนโมเดล ก็จะได้รู้เลยว่าเปลี่ยน เปลี่ยนโฉมแล้ว
พี่น้องของเรา ที่คลอดตามกันมา ยังหน้าตาคล้ายๆ กันเลยครับ ฮิ..ฮิ..
พี่ใหญ่
ชายกลาง
น้องเล็ก
;)
-
ถ้าแนว Audi หรือ BMW ผมว่ายังแยกออกได้ครับ แต่อย่าง MB จะแยก S กับ C บางทีต้องมองสองรอบ
ในทางกลับกันคนที่อยากได้ S-Class แต่งบอาจมีแค่ premium compact ก็จิ้มไปที่ C-Class ก่อนเลย
ผมคิดว่าอาจเป็นนโยบายของค่ายนี้เพื่อดึงลูกค้าหน้าใหม่ๆมาซื้อแบรน MB เพราะชื่อเสียงรถ S-Class ที่หลายคนอยากได้แต่งบไม่ถึง
ตอนนี้ผมเห็น W205 วิ่งกันแบบเยอะจริงๆ เพิ่งขายไม่นานแต่เห็นบ่อยไม่แพ้ W204 ตัว facelift
-
สำหรับผมอาจจะเอนเอียงไปทาง Benz เพราะมองภายนอกไส้กรอก C, E, S อาจรู้สึกเฉยๆ แต่พอเข้ามานั่งภายในแต่ละรุ่น ผมว่าจบเลย ผมลืมไส้กรอกภายนอกไปหมดแล้วหละ
ส่วน BMW ภายนอกยังแยก 3,5, 7 มีจุดสังเกตง่ายกว่า แต่พอเข้าไปนั่งภายในนี่เฉยมาก ผมว่าเวลาส่วนใหญ่บนรถเราจะอยู่ที่ภายใน ไม่ใช่มองภายนอก เพราะภายนอกคือสิ่งที่คนอื่นเห็น
-
ผมคนธรรมดา อยากบอกว่า benz e กับ c ผมแยกไม่ออกจริงๆครับ
-
ไม่เห็นด้วย แต่คงต้องทำใจครับ อิๆ
-
จริงๆก็ไม่ค่อยชอบนะครับ แต่ทำไรไม่ได้ ก็คิดในแง่ของ total package ที่เค้าให้มา ใครดีสุด ก็ซื้อคันนั้น
-
คนที่บอกว่า teana กับ slyphy เหมือนกัน ผมว่า sense บกพร่องมากนะ
แล้วถ้าบอกว่า c กับ s วิ่งบนถนนแล้วแยกไม่ออกนี่ก็เช่นกัน
มิติ ดีเซล อัตราส่วน ต่างๆ มันมีรายละเอียด ต่างกันเยอะ
ถึงแม้ว่าจะดูคล้ายกัน แต่ ดูดีๆ มันไม่เหมอืนกันเลย ชิ้นส่วนก็ไม่ได้ใช้ร่วมกัน
ความเรียบง่ายที่สุด มาพร้อมกับความปราณีต บรรจง ที่สุด
ยิ่งน้อย ยิ่งยาก
แรงไปหรือเปล่าครับ คนที่มองแว่บแรกแยกไม่ออกเยอะนะ ลองมองแบบผ่านๆไม่ถึงวิดูครับ คนไม่ได้เล่นรถหรือไม่รู้จุดที่ต้องมองว่าจะแยกยังไงนั้นการที่แยกไม่ออกเป็นเรื่องปกติครับ ไม่ได้ sense บอกพร่องแต่อย่างใด