Headlight Magazine : community

General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: Turin ที่ กุมภาพันธ์ 04, 2016, 08:02:17

หัวข้อ: หากจะเปรียบรถเป็นแฟน....
เริ่มหัวข้อโดย: Turin ที่ กุมภาพันธ์ 04, 2016, 08:02:17
แฟนเก่า ที่เคยคบกันมานาน (10 ปี) มีเหตุให้แยกจากกันเพราะครอบครัว วันนึงมีโอกาสได้กลับมาเจอกันใหม่เลยลองกลับมาคบกันใหม่ ... แต่รู้สึกว่าหลายๆอย่างมันไม่เหมือนเดิม แถมต้องนอนโรงพยาบาลตั้ง 1 ปี เต็มๆ คบได้ 2 ปี จึงแยกทางกันอีกครั้ง

วันนี้ ... บังเอิญเจอแฟนเก่าอีกครั้ง ความรู้สึกเก่าๆเริ่มกลับมา แถมเธอเองก็มีท่าทีว่าอยากจะกลับมา (อาการที่ต้องนอนโรงพยาบาลก็หายขาดแล้ว) ... แต่วันนี้ผมเองกำลังจีบคนที่เคยชอบมา 20 ปีแต่ปล่อยให้หลุดมือไปหลายต่อหลายครั้ง

ระหว่างคนที่เข้าใจกันเป็นอย่างดีมานาน กับ คนที่แอบมองมาตลอดแต่ไม่เคยได้สัมผัส ... เป็นคุณจะเลือกใครครับ

-----------------------  8)
อุปมาถึงรถจริงๆนะครับ
- แฟนเก่า = น้องปูเป้ e30 coupe
- เข้าโรงพยาบาล = ปะผุ
- คนที่เคยชอบ = น้องจิ๋ว MX5 กับ น้องอิน Integra
หัวข้อ: Re: หากจะเปรียบรถเป็นแฟน....
เริ่มหัวข้อโดย: mozart ที่ กุมภาพันธ์ 04, 2016, 08:16:36
อ่านๆนี้ยิ่งกว่ารักสามเศร้าครับ หันไปทางไหนก็มีแต่เจ็บ
หัวข้อ: Re: หากจะเปรียบรถเป็นแฟน....
เริ่มหัวข้อโดย: ps000000 ที่ กุมภาพันธ์ 04, 2016, 08:47:14
ตกลงจริงๆ คือรถใช่ไหมครับ ผม งง
หัวข้อ: Re: หากจะเปรียบรถเป็นแฟน....
เริ่มหัวข้อโดย: watchakt ที่ กุมภาพันธ์ 04, 2016, 09:13:43
ของผมเปรียบได้แบบว่า
ใหม่ๆอยากขับทุกวัน  เวลานานๆผ่านไปรถเริ่มเก่า แต่ก็อยากขับเกือบทุกวัน (ชอบขับ) แต่รถเจ้ากรรมมันดันไม่เชื่องมือเหมือนเก่า ขับยากไม่ให้ขับซะงั้น
เลยอยากไปหาเพิ่มอีกสักคันสองคันเอาปีใหม่ๆหน่อยจะได้สลับกันขับ

หัวข้อ: Re: หากจะเปรียบรถเป็นแฟน....
เริ่มหัวข้อโดย: Aggressor ที่ กุมภาพันธ์ 04, 2016, 09:50:12
รถเก่ารถเสียก็แค่ขายทิ้งแล้วซื้อคันใหม่หรือจะสะสมหลายๆคันก็ได้ถ้าตัดไม่ขาด
เปรียบเป็นแฟนคุณจะมีกี่คนก็ได้ แต่ภรรยานั้นมีได้เพียงคนเดียวครับ เสียก็ต้องซ่อม ขับยากก็ต้องปรับตัว เก่าหรือเบื่อก็ขายทิ้งไม่ได้ และต้องรับผิดชอบกันและกัน ที่สำคัญคือ"จ่ายสด" เอาเข้าไฟแนนซ์ไม่ได้ ;D ;D
หัวข้อ: Re: หากจะเปรียบรถเป็นแฟน....
เริ่มหัวข้อโดย: Nikle_pk ที่ กุมภาพันธ์ 04, 2016, 09:55:38
เดินหน้าแล้วเดินหน้าต่อเถอะครับ
รถคันเก่าที่ขับแล้วไม่สัมพันธ์กันจนถึง
ไม่สามารถใช้ได้ถึง 2 ครั้ง ต่อให้ครั้ง
ที่ 3 ผมว่ามันก็ใช้ได้ไม่นาน แต่ก็ไม่
มีความจำเป็นที่จะต้องบอกขายหรือ
ทำลายทิ้งนะครับ ยังเก็บไว้ ดูห่างๆ
ถนอมน้ำใจกัน เพราะอย่าน้อยถึงจะ
ไปกันไม่ได้แต่ก็ อดทนด้วยกันมาก็นาน
ดูแลกันไปตามความเหมาะสมดีกว่า

ส่วนคันใหม่ที่ยังไม่เคยลอง
ต้องลองครับ ถ้าไม่ลองก็ไม่รู้
บางทีรถที่ไม่เคยขับ ชอบมานาน
เก็บเงินมาทั้งชีวิต ซื้อมาใช้จริง
อาจจะขับไม่ดีก็ได้ครับ มันต้องลอง
ถ้าขับดีก็มีความสุขกันไปยาวๆๆๆๆ
ถ้าไม่ดีก็ไม่เสียดายที่ได้ลองใช้แล้ว

------

ปล.ทีแรกนึกว่าจะให้สมาชิกเปรียบ
แฟน หรือ เมีย เป็นรถ
ถ้าให้เปรียบเมียเป็นรถนะ ผมเริ่มก่อนเลย

เมียผม เหมือน รถยนต์Hybrid ครับ

ตอนซื้อ ราคาแพง
ต้องระวังมากเป็นพิเศษ (ขี้งอน)
อะไหล่แแพง (เวลางอนต้องซ่อมด้วยของ กระเป๋า นาฬิกา แพง)
ตอนนี้คิดจะขายราคาตก ไม่มีคนเอา

สุดท้ายต้องก้มหน้าใช้ต่อไป ครับ 55555

ขำๆทิ้งท้าย
หัวข้อ: Re: หากจะเปรียบรถเป็นแฟน....
เริ่มหัวข้อโดย: pakorn ที่ กุมภาพันธ์ 04, 2016, 10:12:50
ผมไม่รู้จะอธิบายยังไง แต่น้ำพริกถ้วยเก่าอร่อยเสมอ
หัวข้อ: Re: หากจะเปรียบรถเป็นแฟน....
เริ่มหัวข้อโดย: Activehybrid ที่ กุมภาพันธ์ 04, 2016, 10:34:37
โยนหัวก้อย
หัวข้อ: Re: หากจะเปรียบรถเป็นแฟน....
เริ่มหัวข้อโดย: akewizard ที่ กุมภาพันธ์ 04, 2016, 11:01:22
แฟนกับรถมันต่างกัน ตรงที่เราสามารถมีหลายๆคันได้โดยที่ไม่โดนแฟนเก่าเพ่งกระบาล

ถ้าผมเลี้ยงดูไหว ก็เอาทั้งคู่ล่ะครับ  คันหนึ่งไว้เป็นแม่บ้านใช้ชีวิตประจำวัน  อีกคันไว้ดูไว้ขับเล่นวันสบายๆ
หัวข้อ: Re: หากจะเปรียบรถเป็นแฟน....
เริ่มหัวข้อโดย: Turin ที่ กุมภาพันธ์ 04, 2016, 11:15:49
แฟนกับรถมันต่างกัน ตรงที่เราสามารถมีหลายๆคันได้โดยที่ไม่โดนแฟนเก่าเพ่งกระบาล

ถ้าผมเลี้ยงดูไหว ก็เอาทั้งคู่ล่ะครับ  คันหนึ่งไว้เป็นแม่บ้านใช้ชีวิตประจำวัน  อีกคันไว้ดูไว้ขับเล่นวันสบายๆ
ทุกวันนี้ที่ถามซอกแซกก็เพราะเมียอนุมัติแค่คันเดียวครับ :'(
หัวข้อ: Re: หากจะเปรียบรถเป็นแฟน....
เริ่มหัวข้อโดย: Turin ที่ กุมภาพันธ์ 04, 2016, 11:54:39
เดินหน้าแล้วเดินหน้าต่อเถอะครับ
รถคันเก่าที่ขับแล้วไม่สัมพันธ์กันจนถึง
ไม่สามารถใช้ได้ถึง 2 ครั้ง ต่อให้ครั้ง
ที่ 3 ผมว่ามันก็ใช้ได้ไม่นาน แต่ก็ไม่
มีความจำเป็นที่จะต้องบอกขายหรือ
ทำลายทิ้งนะครับ ยังเก็บไว้ ดูห่างๆ
ถนอมน้ำใจกัน เพราะอย่าน้อยถึงจะ
ไปกันไม่ได้แต่ก็ อดทนด้วยกันมาก็นาน
ดูแลกันไปตามความเหมาะสมดีกว่า

ส่วนคันใหม่ที่ยังไม่เคยลอง
ต้องลองครับ ถ้าไม่ลองก็ไม่รู้
บางทีรถที่ไม่เคยขับ ชอบมานาน
เก็บเงินมาทั้งชีวิต ซื้อมาใช้จริง
อาจจะขับไม่ดีก็ได้ครับ มันต้องลอง
ถ้าขับดีก็มีความสุขกันไปยาวๆๆๆๆ
ถ้าไม่ดีก็ไม่เสียดายที่ได้ลองใช้แล้ว

------

ปล.ทีแรกนึกว่าจะให้สมาชิกเปรียบ
แฟน หรือ เมีย เป็นรถ
ถ้าให้เปรียบเมียเป็นรถนะ ผมเริ่มก่อนเลย

เมียผม เหมือน รถยนต์Hybrid ครับ

ตอนซื้อ ราคาแพง
ต้องระวังมากเป็นพิเศษ (ขี้งอน)
อะไหล่แแพง (เวลางอนต้องซ่อมด้วยของ กระเป๋า นาฬิกา แพง)
ตอนนี้คิดจะขายราคาตก ไม่มีคนเอา

สุดท้ายต้องก้มหน้าใช้ต่อไป ครับ 55555

ขำๆทิ้งท้าย
ปูเป้#1ตอนใช้รอบแรกดีทุกอย่างไม่ปัญหาอะไรเลยครับ แต่ตอนนั้นมีปัญหาต้องสะสางตัวเองให้เรียบร้อย เลยต้องกำจัด"ของเล่น"ครับ

พอเข้าที่เข้าทางเลยไปหาคันใหม่มาปั้น น้องปูเป้#2 ... กะว่า 6 เดือนเสร็จ กลายเป็นเกือบ 18 เดือน กว่าจะเสร็จความ"อยาก"มันหายหมดแล้ว ... พอเจอปัญหาจุกจิกของรถเก่า เช่น รอบเบาไม่นิ่ง แอร์ไม่เย็น ฯลฯ เลยพาลหาเรื่องขายมันซะเลย แล้วไปเล่น sleeper เกียร์ออโต้

มาถึงวันนี้เกิดคิดถึงรถเกียร์ธรรมดาจี๊ดๆ เลยเริ่มๆมอง mx5 กับ Integra ไว้เพราะเป็นรถที่สมัยเรียนอยากได้มาก ... แต่บังเอิญเพื่อนคนที่รับเจ้าคันที่ 2 ไปก็เหมือนจะมีเหตุให้ปล่อยเลยต้องกลับมาคิดว่าจะกลับมา"คืนดี"กับน้องปูเป้#2 ดีไหม

 ... หากว่าเป็นน้องปูเป้#3 คงไม่คิดแน่ครับ ขี้เกียจปั้น เพราะอีก 2 คันที่ดูไว้ก็ไม่ต้องปั้นต่อทั้งคู่ครับ ได้บทเรียนจากปูเป้#2 มาว่าถ้าไม่มีเวลาจริงๆการปั้นรถแอบเครียดและชวนอารมณ์เสียกว่าที่คิด แล้วจะพาลให้เบื่อรถคันที่ปั้นไปด้วย
หัวข้อ: Re: หากจะเปรียบรถเป็นแฟน....
เริ่มหัวข้อโดย: Nonlamer ที่ กุมภาพันธ์ 04, 2016, 12:12:45
เอาวิธีคิดแบบเป็นแฟนมาใช้ไม่ได้อ่ะครับ ถ้าเป็นคนจะพิจารณาแบบนึง ถ้าเป็นรถก็อีกแบบนึง ถ้าแฟนเก่า(คน)เป็นคนดีจริงๆแล้วคุณรักจริง ต่อให้เจ็บป่วยยังไงคุณก็ไม่เลิกคบ แต่รถไม่ใช่ ถ้าเป็นรถผมจะลองขับคันที่ไม่เคยขับครับ ไปเทสก่อนถ้าถูกใจก็เอากลับบ้าน ต่อให้รักแค่ไหนถ้าใช้ไปปัญหาเยอะก็ขาย ละหารุ่นอื่นแทน แต่ถ้าบ้านที่จอดเยอะก็จะเก็บก็ได้ แต่ก็ซื้อคันใหม่อยู่ดี ถ้าคิดจะใช้นานๆก็ให้ศึกษารถรุ่นนั้นดีๆก่อนซื้อให้แน่ใจครับ
หัวข้อ: Re: หากจะเปรียบรถเป็นแฟน....
เริ่มหัวข้อโดย: Turin ที่ กุมภาพันธ์ 04, 2016, 12:32:42
เอาวิธีคิดแบบเป็นแฟนมาใช้ไม่ได้อ่ะครับ ถ้าเป็นคนจะพิจารณาแบบนึง ถ้าเป็นรถก็อีกแบบนึง ถ้าแฟนเก่า(คน)เป็นคนดีจริงๆแล้วคุณรักจริง ต่อให้เจ็บป่วยยังไงคุณก็ไม่เลิกคบ แต่รถไม่ใช่ ถ้าเป็นรถผมจะลองขับคันที่ไม่เคยขับครับ ไปเทสก่อนถ้าถูกใจก็เอากลับบ้าน ต่อให้รักแค่ไหนถ้าใช้ไปปัญหาเยอะก็ขาย ละหารุ่นอื่นแทน แต่ถ้าบ้านที่จอดเยอะก็จะเก็บก็ได้ แต่ก็ซื้อคันใหม่อยู่ดี ถ้าคิดจะใช้นานๆก็ให้ศึกษารถรุ่นนั้นดีๆก่อนซื้อให้แน่ใจครับ
เปรียบเทียบขำๆครับ ... แต่ท่านพูดมาน่าสนใจ ลองคันที่ไม่เคยลองก่อน ถูกใจก็ลืมคันเก่าซะ  8)
หัวข้อ: Re: หากจะเปรียบรถเป็นแฟน....
เริ่มหัวข้อโดย: ไทบ้าน ที่ กุมภาพันธ์ 04, 2016, 13:17:13
ผมรักแล้วไม่ลืมครับ
หัวข้อ: Re: หากจะเปรียบรถเป็นแฟน....
เริ่มหัวข้อโดย: Slipknot` ที่ กุมภาพันธ์ 04, 2016, 17:37:16
ผมจะเลือกสิ่งใหม่ๆครับ
หนังเรื่องเดิม ตอนจบมันก็เหมือนเดิม
เอาเวลาไปดูเรื่องใหม่ดีกว่า ตื่นเต้น ท้าทาย ไม่รู้ตอนจบ
หัวข้อ: Re: หากจะเปรียบรถเป็นแฟน....
เริ่มหัวข้อโดย: นายพรานจ๋าหมีมาแล้ว ที่ กุมภาพันธ์ 05, 2016, 00:32:34
เป็นผมเหรอครับ....รักใครแล้วรักเลย
หัวข้อ: Re: หากจะเปรียบรถเป็นแฟน....
เริ่มหัวข้อโดย: yourturle ที่ กุมภาพันธ์ 06, 2016, 08:08:11
ขอเดินไปข้างหน้าดีกว่า เพราะถ้าสิ่งที่ได้อ่านมันดีจริง คงสำเร็จสมหวังไปนานแล้วครับ

สรุป ออกรถป้ายแดง
หัวข้อ: Re: หากจะเปรียบรถเป็นแฟน....
เริ่มหัวข้อโดย: Turin ที่ กุมภาพันธ์ 06, 2016, 10:02:15
ขอเดินไปข้างหน้าดีกว่า เพราะถ้าสิ่งที่ได้อ่านมันดีจริง คงสำเร็จสมหวังไปนานแล้วครับ

สรุป ออกรถป้ายแดง
จะว่าไป รถป้ายแดงเปรียบเหมือนเมียแต่ง ... รถพวกนี้น่าเปรียบเหมือนกิ๊กมากกว่าครับ
หัวข้อ: Re: หากจะเปรียบรถเป็นแฟน....
เริ่มหัวข้อโดย: promt ที่ กุมภาพันธ์ 06, 2016, 14:00:24
เลือกของใหม่ที่ไม่เคยลอง

เจ็บ แต่ท้าทาย แค่ได้ลองขับสักเดือนก็คุ้มแล้ว

ไม่ว่ารถหรือแฟน