Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: Turin ที่ กุมภาพันธ์ 09, 2016, 16:16:48
-
รถผม Subaru Outback BP (แปลงเป็น Legacy GT JDM เครื่อง 2.0 เทอร์โบ) ....
ภาค 1.
เคยมีปัญหาบูสท์ได้แค่ 0.5-0.6 บาร์มาก่อน ครั้งนั้นไล่จนเจอว่ามีท่ออากศเส้นหนึ่งที่รั่วตรงมุม ซึ่งปกติมันจะไม่รั่วจนกว่าจะ overboost ไปแถวๆ 1.1 บาร์ (บูสท์ปกติ 0.9 บาร์) หลังจากหาจนเจอ ได้ทำการเปลี่ยนท่อที่ว่านั่น และ นำรถไป reflash โดยเพิ่มบูสท์ปกติเป็น 1.2 บาร์ .... สามารถบูสท์ได้ตามที่จูนมาเป็นปกติ
ภาค 1.1
ตอนจูนอู่ที่จูนพบว่าเมื่อเครื่องร้อนมากๆ (หลังไปอัดมา) บูสท์จะตกเหลือ 0.5-0.6 บาร์ แต่ถ้าใส่ตัวปรับบูสท์มือก็ยังสามารถบูสท์ได้ปกติ .... แสดงว่า กล่อง ยอม ให้บูสท์สูงกว่า 0.5-0.6 บาร์ได้ ไม่ใช่ safe mode จึงสันนิษฐานว่าเป็นที่ Electronic Boost Control Solenoid
.. แต่ที่อู่ไม่มีจึงต้องขับรถไปที่อีกอู่หนึ่ง และลองเปลี่ยนดู ไม่หาย.... วันต่อมาจึงได้นัดหมายกับอู่เดิมที่ reflash ให้เพื่อตรวจสอบเพิ่มเติม ... เช้านั้นกลายเป็นว่าหาย !!!! ที่อู่ก็อ่านค่าจากกล่องก็ไม่เจออะไรผิดปกติ ...... ก็เป็นอันว่าหายแบบงงๆ
ภาค 2.
หลังจากนั้นก็เอารถมาใช้ได้อีกร่วม 2 เดือน ก่อนจะ ซน เอารถไปเปลี่ยนโช๊คและ down pipe ใหม่ ........ หลังจากออกมาจากอู่(ไม่ใช่อู่ซูบารุ) อาการบูสท์ต่ำกลับมาใหม่ -_- แต่ครั้งนี้ไม่มีอาการตื้อๆเหมือนครั้งแรก สอบถามกับอู่ซูบารุ ได้ความว่าการเปลี่ยน down pipe ต้องมีการรื้อ Intercooler และท่ออากาศอพอสมควร ระหว่างการประกอบอาจต่อท่อแวคคั่มกลับข้าง (ในท่อนี้มี one-way value อยู่) ทำให้แรงดันย้อนไปเปิด wastegate ได้โดยไม่ผ่าน Electronic Boost Control Solenoid ..........ระหว่างรอคิวอู่ ใช้รถไปประมาณ 100 กิโล เห็นที่บ้านมี Airflow อยู่ตัวนึงเลยลองซนๆ เปลี่ยนเล่นดูเผื่อฟลุ๊คหาย ..... แต่ก็ไม่หาย เลยเปลี่ยนกลับ .... ระหว่างเปลี่ยนกลับ ทำน๊อตยึด Airflow หล่น ทำให้ต้องรื้อกล่องกรองอากาศออกมาเพื่อหยิบน๊อตที่ทำหล่น แล้วจึงประกอบกลับ ขั้นตอนนี้ รื้อยากมาก (เพราะผมมีอุปกรณ์ไม่ครบ) ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง และระหว่างนี้ต้องถอดปลั๊ก airflow ออก ........ พอประกอบเสร็จ เช้าวันรุ่งขึ้น อาการบูสท์ต่ำหาย !!!! หายแบบงงๆ อีกแล้ว
ภาค 3.
หลังจากชีวิตสงบสุขมาได้ประมาณ 300 กิโล โช๊คที่ไปเปลี่ยนมาวันก่อนมีเสียงกุกกักเกินจะทน เลยเอารถกลับไปเปลี่ยนโช๊คอีกรอบ เปลี่ยนเสร็จตั้งศูนย์ (ครั้งนี้เห็นเป็นงานง่ายๆเลยทำที่อู่ช่วงล่าง) ............. อาการบูสท์ต่ำกลับมาใหม่อีกแล้ววววว -_- อดทนให้มาอีก ประมาณ 150 กิโล เผื่อว่ามันจะหายเองแบบคราวที่แล้ว จนบัดนี้ก็ยังไม่หาย
..... ตอนนี้ได้แต่รอคิวกลับไปให้อู่ซูบารุไล่เช็คให้ แต่กว่าจะได้คิวตั้งอาทิตย์หน้า ไม่ทราบว่าพอมีไอเดียบ้างไหมครับว่าอาจเกิดจากจุดไหน .......... สมมุติฐานผมคือครั้งแรก (ภาค 1.1) อาจมาจากความร้อนสะสมทำให้รถเข้า safe mode / solenoid ทำงานผิดปกติ พอรถเย็นก็หาย ตอนภาค 2 ทีแรกนึกว่าเป็นที่กล่องมันอาจ relearn อะไรบางอย่างหลังมีการรื้อเยอะๆ แต่พอมาเจอภาค 3 นี่งงสุดๆเลยครับ ....... 2 ปัจจัยที่ดู Common กับเห็นจะมีแค่การยกรถให้ลอยจากพื้นเพื่อเปลี่ยนโช๊ค (ซึ่งนึกไม่ออกเลยว่าเกี่ยวอะไรกัน) และ การที่มีช่างไปลองรถ (ซึ่งตอนภาค 2 คนที่ไปลองผมรู้จักดี ไม่คิดว่าจะมีการข่มขืนรถ แต่หนหลังไม่แน่) ........
รบกวนขอไอเดียมาถกกันหน่อยครับ ระหว่างรอคิวอู่ 8)
-
...ออกตัวก่อนไม่สันทัดนะครับ
1. ผมว่าที่มันมา ๆ หาย ๆ น่าจะเป็นโซลินอยล์วาล์ว ที่ควบคุมเวสเกต มีปัญหามากกว่า ประมาณว่าทำบ้าง ไม่ทำบ้าง ลองถอดออกมาแล้วต่อไฟ 12 โวลท์เข้าขั้ว แตะปล่อย ๆๆ พร้อมกับฉีดน้ำยาอเนกประสงค์เข้าไป
ถ้าเวลาต่อมีเสียงมันทำงานแต๊ก ๆ ก็ยังไม่เสีย แต่การเปิดอาจจะติดขัดได้ (ไม่ทราบว่ามี 3รูเหมือนกันกับของผมหรือเปล่า)
2. ถ้าข้อ 1 ไม่ใช่ อาจจะมีเช็ควาล์วรั่วบางตัว ประมาณว่า เดี๋ยวดี เดี๋ยวร้าย...ซึ่งหายากเช่นกัน แต่หากเป็นท่อเวคกั้มหลุดมันได้ยินเสียงวีดนะ....
ปล. เอาใจช่วยครับ ผมไม่เลือกเขา เพราะดูแลเองยากมาก ซึ่งผมมือค่อนข้างซนด้วย เลยขอบายทั้ง ๆ ที่อยากขี่
-
เข้ามานั่งเป็นผู้ชมรอท่านที่มีความรู้มาช่วยละกันคุณ Turin :P
จริงๆ บูสท์ต่ำน่าจะดีกว่าบูสท์ไหลนะผมว่า
ปล.คันนั้นยังขายอยู่นะครับ ยุให้ขายคันนี้แล้วไปสอยคันนั้น ซะงั้นผม :P
-
...ออกตัวก่อนไม่สันทัดนะครับ
1. ผมว่าที่มันมา ๆ หาย ๆ น่าจะเป็นโซลินอยล์วาล์ว ที่ควบคุมเวสเกต มีปัญหามากกว่า ประมาณว่าทำบ้าง ไม่ทำบ้าง ลองถอดออกมาแล้วต่อไฟ 12 โวลท์เข้าขั้ว แตะปล่อย ๆๆ พร้อมกับฉีดน้ำยาอเนกประสงค์เข้าไป
ถ้าเวลาต่อมีเสียงมันทำงานแต๊ก ๆ ก็ยังไม่เสีย แต่การเปิดอาจจะติดขัดได้ (ไม่ทราบว่ามี 3รูเหมือนกันกับของผมหรือเปล่า)
2. ถ้าข้อ 1 ไม่ใช่ อาจจะมีเช็ควาล์วรั่วบางตัว ประมาณว่า เดี๋ยวดี เดี๋ยวร้าย...ซึ่งหายากเช่นกัน แต่หากเป็นท่อเวคกั้มหลุดมันได้ยินเสียงวีดนะ....
ปล. เอาใจช่วยครับ ผมไม่เลือกเขา เพราะดูแลเองยากมาก ซึ่งผมมือค่อนข้างซนด้วย เลยขอบายทั้ง ๆ ที่อยากขี่
ขอบคุณครับ เดิมทีเคยใช้ 9000cse ไม่มีปัญหากวนใจเลยได้ใจกับรถเทอร์โบ 555
- Solenoid ผมไม่แน่ใจว่าใช่เพราะตอน 1.1 เปลี่ยนแล้วก็ไม่หาย (นอกจากคราวนั้นจะเป็นเพราะเหตุอื่น)
- one way value มีปัญหานี่น่าคิดครับ
-
เข้ามานั่งเป็นผู้ชมรอท่านที่มีความรู้มาช่วยละกันคุณ Turin :P
จริงๆ บูสท์ต่ำน่าจะดีกว่าบูสท์ไหลนะผมว่า
ปล.คันนั้นยังขายอยู่นะครับ ยุให้ขายคันนี้แล้วไปสอยคันนั้น ซะงั้นผม :P
แหม่ คันนั้นเต้ารถแท้ตั้งราคาแบบนั้นยังรักเจ้าของซะ ... รถทำแบบผมคงขาดทุนกระจุยอ่ะครับ
-
ผมลืมอีกประเด็น..
ไม่รู้ว่าเป็นปีหลัง ๆ หรือเปล่า หากเป็นปีหลัง ๆ ตัวนี้มันจะเกี่ยวพันกับชุดแก้อาการ เช่นเวลารถเสียการทรงตัว มันจะมีคำสั่งมาลดบูสต์อัตโนมัติ รวมถึงการปรับระบบอื่น ๆ ช่วย ....เพื่อแก้ปัญหาการเสียการทรงตัวของรถ ถ้าเป็นตัวนี้ ถ้าใช้เครื่องมือเข้าดูน่าจะเห็นตัวที่มัน มิส หรือเออเร่อนะครับ
-
ลองเปลี่ยนซีลเทอร์โบหรือยังครับ
ผมเคยเป็นแต่เป็นเทอร์โบเก่านะครับ td05 เปลี่ยนแล้วบูสต์มาเต็มมาก
-
ผมลืมอีกประเด็น..
ไม่รู้ว่าเป็นปีหลัง ๆ หรือเปล่า หากเป็นปีหลัง ๆ ตัวนี้มันจะเกี่ยวพันกับชุดแก้อาการ เช่นเวลารถเสียการทรงตัว มันจะมีคำสั่งมาลดบูสต์อัตโนมัติ รวมถึงการปรับระบบอื่น ๆ ช่วย ....เพื่อแก้ปัญหาการเสียการทรงตัวของรถ ถ้าเป็นตัวนี้ ถ้าใช้เครื่องมือเข้าดูน่าจะเห็นตัวที่มัน มิส หรือเออเร่อนะครับ
แอบสงสัยระบบพวกนี้อยู่เหมือนกันครับ แต่ไม่แน่ใจว่ารถผมมีหรือเปล่า (เนื่องจากเป็นการย้ายของมาจากรถอีกคัน และระบบนี้เหมือนเป็นอ๊อฟชั่นเสริมไม่ได้มีมากับรถทุกคัน) แต่เท่าที่ดูไม่มีไฟและปุ่ม tc/vsc เดาว่าไม่มีระบบพวกนี้ครับ (หรือว่ามีแต่มันห้ามยกเลิกก็ไม่รู้) ... ถ้าได้จิ้มดูค่าในกล่องแล้วน่าจะบอกได้ชัด้จนขึ้นครับ
-
ลองเปลี่ยนซีลเทอร์โบหรือยังครับ
ผมเคยเป็นแต่เป็นเทอร์โบเก่านะครับ td05 เปลี่ยนแล้วบูสต์มาเต็มมาก
ไม่ทราบหมายถึงซีลตัวไหนหรือครับ ... เบื้องต้นผมคงลองต่อปรับบูสมือก่อน ถ้าบูสท์ได้เท่าเดิมคงจะตัดปัญหาจากระบบ mechanic ของเทอร์โบออกครับ แต่ถ้ายังบูสท์ไม่ได้อยู่ดี คงลองดูตามที่แนะนำมาครับ
-
ข้อสังเกต ....
ถ้าเป็นระบบบูสต์ที่ไม่ได้ควบคุม เป็นแบบ cse ที่คุณใช้ คือเป็น bpc สามสายวางแถวเรียง
แต่ถ้าเป็นโซลินอยล์แบบสี่เหลี่ยม มีรู 3 รูชี้ไปคนละทาง และมีสายไฟเสียบ ..แสดงว่าเครื่องชุดที่ยัดลงไป มีระบบป้องกันล้อลื่นไถลอยู่แน่ ๆ เข้าไปปิดระบบนี้ก็น่าจะหาย
ผมว่าใช้วิธีเข้าไปอ่านก่อนที่จะเสริมอ๊อฟชั่นดีกว่านะครับ...
-
ข้อสังเกต ....
ถ้าเป็นระบบบูสต์ที่ไม่ได้ควบคุม เป็นแบบ cse ที่คุณใช้ คือเป็น bpc สามสายวางแถวเรียง
แต่ถ้าเป็นโซลินอยล์แบบสี่เหลี่ยม มีรู 3 รูชี้ไปคนละทาง และมีสายไฟเสียบ ..แสดงว่าเครื่องชุดที่ยัดลงไป มีระบบป้องกันล้อลื่นไถลอยู่แน่ ๆ เข้าไปปิดระบบนี้ก็น่าจะหาย
ผมว่าใช้วิธีเข้าไปอ่านก่อนที่จะเสริมอ๊อฟชั่นดีกว่านะครับ...
ขอบคุณครับ คงลองจิ้มดูค่าในกล่อง+data log ก่อนจะทำอะไรครับ
รถผมเป็น solenoid คุม มีสายไฟเข้าแต่มีแค่ 2 ท่อลมครับ ... แต่เคยเห็นของแต่งมี 3 ท่อ
-
93ss ของผม ใช้แบบนี้...ไปอ่านหน้าที่การทำงาน ของมัน เป็นแบบที่ผมบอกไป แต่ อิม ไม่ทราบจริง ๆครับ
-
น่าจะแนวคิดเหมือนกันครับคือใช้ solenoid คั่นระหว่างท่อร่วมไอดีกับ wastegate ทำหน้าที่หลอก wastegate ว่า แรงดันยังไม่ถึง ทำให้สามารถทำลมได้มากกว่าสปริง wastegate ... ถ้าเสียแรงดันจริงกับแรงดันหน้า wastegate จะเท่ากัน ทำให้ทำบูสท์ได้สูงสุดได้เท่าสปริง เวลาบูสท์ได้แค่ประมาณ 0.5-0.6 บาร์ จำเลยรายแรกๆจึงเป็นเจ้าตัวนี้ ....
สงสัยคงต้องรื้อออกมาลองเล่นดูครับ (ไฟ 12 v ที่ใช้ทดลอง ต่อสลับข้างบวก-ลบได้ไหมครับ ... ความรู้เรื่องไฟฟ้าผมโง่มาก :P)
-
น่าจะแนวคิดเหมือนกันครับคือใช้ solenoid คั่นระหว่างท่อร่วมไอดีกับ wastegate ทำหน้าที่หลอก wastegate ว่า แรงดันยังไม่ถึง ทำให้สามารถทำลมได้มากกว่าสปริง wastegate ... ถ้าเสียแรงดันจริงกับแรงดันหน้า wastegate จะเท่ากัน ทำให้ทำบูสท์ได้สูงสุดได้เท่าสปริง เวลาบูสท์ได้แค่ประมาณ 0.5-0.6 บาร์ จำเลยรายแรกๆจึงเป็นเจ้าตัวนี้ ....
สงสัยคงต้องรื้อออกมาลองเล่นดูครับ (ไฟ 12 v ที่ใช้ทดลอง ต่อสลับข้างบวก-ลบได้ไหมครับ ... ความรู้เรื่องไฟฟ้าผมโง่มาก :P)
คอยล์ สลับได้ครับ มันใช้แค่เหนี่ยวนำให้เกิดแม่เหล็กขึ้น เพื่อดึงวาวล์ให้เปิด แต่หากให้ดีก็ต่อให้ถูกกราวด์มักเป็นสีดำ..
-
น่าจะแนวคิดเหมือนกันครับคือใช้ solenoid คั่นระหว่างท่อร่วมไอดีกับ wastegate ทำหน้าที่หลอก wastegate ว่า แรงดันยังไม่ถึง ทำให้สามารถทำลมได้มากกว่าสปริง wastegate ... ถ้าเสียแรงดันจริงกับแรงดันหน้า wastegate จะเท่ากัน ทำให้ทำบูสท์ได้สูงสุดได้เท่าสปริง เวลาบูสท์ได้แค่ประมาณ 0.5-0.6 บาร์ จำเลยรายแรกๆจึงเป็นเจ้าตัวนี้ ....
สงสัยคงต้องรื้อออกมาลองเล่นดูครับ (ไฟ 12 v ที่ใช้ทดลอง ต่อสลับข้างบวก-ลบได้ไหมครับ ... ความรู้เรื่องไฟฟ้าผมโง่มาก :P)
คอยล์ สลับได้ครับ มันใช้แค่เหนี่ยวนำให้เกิดแม่เหล็กขึ้น เพื่อดึงวาวล์ให้เปิด แต่หากให้ดีก็ต่อให้ถูกกราวด์มักเป็นสีดำ..
ขอบคุณครับ
-
เดี๋ยวจะลองซนเองซะหน่อยก่อนถึงมือช่าง
- เริ่มจากรีเซ็ตกล่อง >>> ถ้าหาย ไม่รู้จะดีใจหรือเสียใจดี เพราะถ้าหายจะแปลว่าที่บูสท์ลดมาจากกล่องสั่ง ซึ่งแปลว่ามีค่าบางอย่างที่กล่อง"ไม่ชอบ" .... แปลว่าต้องหาต่อว่าค่าที่ว่าคืออะไร
- ถ้ารีเซ็ตกล่องไม่หาย คงลองตรวจสอบ boost control solenoid ว่ายังทำงานอยู่หรือไม่ >>> ถ้ามันทำงานผิดปกติ เปลี่ยนซะก็น่าจะจบ
- ถ้ายังไม่หายอีก คงจะเหลือแค่ระบบ mechanic + vacuum ที่ผิดปกติ คงต้องให้ช่างช่วยดูแล้ว
..... เอ ..... คิดไปคิดมา หรือจะยังไม่รีเซ็ตกล่องดี เผื่อว่าเป็นที่กล่องจริงๆเวลาไปอู่จะได้ยังเหลือค่าที่ผิดปกติให้ช่างเห็น :-\