Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: rutxthe ที่ กุมภาพันธ์ 22, 2016, 05:07:28
-
ทำไมรถสวย ๆ แบบนี้ถึงไม่เป็นที่นิยมในไทยครับ
ความสวยความแรงนี่ผมว่าน้อง ๆ super car เลยนะครับ
ส่วนตัวผมชอบมาก ๆ แต่ไม่ทราบราคาในไทยว่าประมาณเท่าไหร่
มีใครพอจะทราบไหมครับว่าเกรย์เจ้าไหนเอาเข้ามาขายบ้าง
(http://o.aolcdn.com/hss/storage/adam/891351e7bf4c88fe043a0a827f9150a8/lead18-2015-alfa-romeo-4c-fd.jpg)
-
เคยเจอแถวจุฬาคันนึงครับ
สีแดงแบบในรูปเลย ป้ายแดง
-
เหมือนเคยเห็นเกรย์เจ้านึงแถวๆศรีนครินทร์ นำเข้ามาอยู่ครับ ถ้าจำไม่ผิดจะประมาณ 4 ล้าน(ถ้าจำไม่ผิดนะครับ)
เป็นรถที่สวยมากๆคันนึงเลย ผมเองก็ชอบมาก แต่ไม่ชอบด้านในที่เน้นดิบๆไม่เน้นหรูหราใดๆทั้งสิ้นเลย 555555555
-
เหตุผลหลักๆเลยคงจะเป็นเรื่อง maintanance ขอซ่อมง่ายๆไม่ต้องรออะไหล่นานจะดีกว่า และราคาก็ใกล้เคียงกับเจ้าตลาดมาก 4ล้านนี่มีหลายตัวเลือกมากๆ
ที่เห็นหลักๆเจ้าตลาดเลยก็ 4 series ,Z4 , E class coupe , slk แบรนด์ญี่ปุ้น ก็มี lexus ที่ก็สวยและ สมรรถนะโอเคร
-
คนเล่นรถแบบนี้ผมว่า ต้องใจรัก และ มีตังก์พอสมควร
-
ขอตอบเลยครับจากคนที่ฝันว่าจะได้เป็นเจ้าของ Alfa Romeo
คนที่จะเล่น Alfa Romeo ในไทยนี้ต้องรักและหลงใหลในยี่ห้อนี้จริงๆแหละครับ ทั้งค่าซ่อม ค่าดูแล ไม่ใช่ถูกๆ
แต่ผมหลงใหลในเส้นสาย และเสน่ห์ของ Alfa Romeo มากๆ ทั้งตัว 4c 8c แล้วก็ตัว Giulia ที่กำลังจะออกมา
เครื่องยนต์ สมรรถนะที่ไม่ได้เป็นรองยี่ห้อจาก GER เลยแม้แต่น้อย
4c body ทำมาจาก carbon และ อลูมิเนียม เครื่อง 1.7 turbo สามารถพาเจ้า 4c แตะ 100 ได้ภายใน 4 วิเศษๆ
และผมค่อนข้างมั่นใจว่ามันสดุดตาและโดดเด่นกว่ารถคันอื่นๆพอสมควรเลยและครับ
-
ราคาที่เคยถามเกรย์เจ้าที่เอามา ไม่ใช่ 4 ล้านนะครับ แต่เป็น 7 ล้านครับ ราคาเมืองนอกเทียบเงินไทยก็ 2 ล้านกว่าๆแล้ว
เหตุผลที่ไม่เคยเห็นก็คือ ตัวรถมันทำมาค่อนข้างดิบมากๆครับ Chassis เป็นอ่าง Carbon Fiber เป็นรถเฉพาะกลุ่ม เอามาใช้งานลำบาก แม้แต่ขับเล่น เจอรถติดๆในไทยก็จบ รถคันเล็กสั้นๆ ห้องโดยสารคับแคบ (ดีกว่า Lotus Elise/Exige หน่อยนึง) แต่ตัวบอดี้รถกลับกว้างมากๆ ลองนึกภาพ Range Rover ครับ 4C ตัวบอดี้รถกว้างแบบนั้นเลย พวงมาลัยไร้เพาเวอร์ วัสดุซับเสียงไม่มี เบาะปรับระดับไม่ได้ จะปรับระดับเบาะต้องไขน๊อตเอา ทุกอย่างทำเพื่อลดน้ำหนักให้เบาที่สุด ดูยังไงก็ไม่คุ้มค่าสำหรับคนทั่วไปครับ ง่ายๆคือเป็นเหมือนของเล่นของสะสมมากกว่ารถครับ
และเหตุผลหลักๆคือศูนย์บริการไม่รองรับครับ ไม่ทำตลาดรุ่นใหม่ๆ >:(
ปล. ขออนุญาติเจ้าของด้วยนะครับ :)
-
ผมสาวกงูคนหนึ่งครับ ส่วนตัวผ่านมาแล้ว 2 คัน เก็บไว้ 1 คัน (Classic) ขอบอกเลยว่า...
ผมชอบเจ้า 4 C นี้มาก แต่ถ้ามีเงินถึง (ตอนนี้... ไม่มี) ก็คงไม่ซื้อครับ ด้วยสภาพของศูนย์บริการในปัจจุบัน (ยังมีอยู่ไหม?) ผมบอกตรงๆ ว่าเข็ดขยาดกับ
156 ของผมมาก รุ่นใหม่ ลุงสุธี (ช่างซ่อมงู Classic ของผม) ก็ไม่รับซ่อม ทนไม่ไหวต้องยอมขาย แม้ใจยังรักอยู่
ทั้งนี้ เจ้า 4 C หรือ Glulia ใหม่ ถ้ามีเงิน แล้ว Alfa มาทำตลาดเอง ราคาลงๆ มาหน่อย นี้อาจใจอ่อนกลับไปก็ได้ครับ อิอิ
-
ผมสาวกงูคนหนึ่งครับ ส่วนตัวผ่านมาแล้ว 2 คัน เก็บไว้ 1 คัน (Classic) ขอบอกเลยว่า...
ผมชอบเจ้า 4 C นี้มาก แต่ถ้ามีเงินถึง (ตอนนี้... ไม่มี) ก็คงไม่ซื้อครับ ด้วยสภาพของศูนย์บริการในปัจจุบัน (ยังมีอยู่ไหม?) ผมบอกตรงๆ ว่าเข็ดขยาดกับ
156 ของผมมาก รุ่นใหม่ ลุงสุธี (ช่างซ่อมงู Classic ของผม) ก็ไม่รับซ่อม ทนไม่ไหวต้องยอมขาย แม้ใจยังรักอยู่
ทั้งนี้ เจ้า 4 C หรือ Glulia ใหม่ ถ้ามีเงิน แล้ว Alfa มาทำตลาดเอง ราคาลงๆ มาหน่อย นี้อาจใจอ่อนกลับไปก็ได้ครับ อิอิ
156 ไม่น่ากลัวแล้วครับ มีอู่นอกซ่อมค่อนข้างจบ เค้าถนัดรุ่นใหม่ๆครับ GTV 156 147 GT 159 Brera หรือ Fiat 500 ช่างอัลฟ่ารุ่นเก่าๆที่ไม่รับก็เพราะไม่ได้ถนัดแหละครับ และมีคนทำอะไหล่มือสองเอามาจากญี่ปุ่น เครื่องเกียร์ทั้งตัวราคาแค่ 35,000 +- และที่ญี่ปุ่นก็วิ่งกันมาไมล์ไม่เยอะเลย อะไหล่ใหม่ก็มีค่อนข้างครบ หรือบางอย่างจะสั่ง Ebay ก็ได้ง่ายๆ 156 นี่สะดวกที่สุดในอัลฟ่าแล้วครับ
156 จริงๆไม่เห็นจะจุกจิกอะไรเลยนะครับ ถ้าใช้บ่อยๆมาก่อน เพราะส่วนมากที่มีปัญหาเรื่องเกียร์ก็ส่วนหนึ่งเพราะเจ้าของไม่ยอมใช้ พวก Sensor เกียร์มันมีหลายจุดครับ จอดไว้บ่อยๆจะมีปัญหามากกว่า แต่หลักๆที่เจอบ่อยๆแค่เดินสายไฟเกียร์ใหม่ไม่กี่พันก็กลับมาใช้ได้ปกติครับ เพราะผมใช้ทุกวันไม่มีปัญหาอะไรเลย จริงๆ 156 ก็รถบ้านของเมืองนอกนี่แหละครับ
ศูนย์ก็ยังมีครับ ปรับปรุงใหม่ รับซ่อมกับเบิกอะไหล่ได้ แต่ผมไม่ได้ใช้บริการ
-
ราคาที่เคยถามเกรย์เจ้าที่เอามา ไม่ใช่ 4 ล้านนะครับ แต่เป็น 7 ล้านครับ ราคาเมืองนอกเทียบเงินไทยก็ 2 ล้านกว่าๆแล้ว
เหตุผลที่ไม่เคยเห็นก็คือ ตัวรถมันทำมาค่อนข้างดิบมากๆครับ Chassis เป็นอ่าง Carbon Fiber เป็นรถเฉพาะกลุ่ม เอามาใช้งานลำบาก แม้แต่ขับเล่น เจอรถติดๆในไทยก็จบ รถคันเล็กสั้นๆ ห้องโดยสารคับแคบ (ดีกว่า Lotus Elise/Exige หน่อยนึง) แต่ตัวบอดี้รถกลับกว้างมากๆ ลองนึกภาพ Range Rover ครับ 4C ตัวบอดี้รถกว้างแบบนั้นเลย พวงมาลัยไร้เพาเวอร์ วัสดุซับเสียงไม่มี เบาะปรับระดับไม่ได้ จะปรับระดับเบาะต้องไขน๊อตเอา ทุกอย่างทำเพื่อลดน้ำหนักให้เบาที่สุด ดูยังไงก็ไม่คุ้มค่าสำหรับคนทั่วไปครับ ง่ายๆคือเป็นเหมือนของเล่นของสะสมมากกว่ารถครับ
และเหตุผลหลักๆคือศูนย์บริการไม่รองรับครับ ไม่ทำตลาดรุ่นใหม่ๆ >:(
ปล. ขออนุญาติเจ้าของด้วยนะครับ :)
7 เลยหรอครับเนี่ย โหดมาก
-
ราคาที่เคยถามเกรย์เจ้าที่เอามา ไม่ใช่ 4 ล้านนะครับ แต่เป็น 7 ล้านครับ ราคาเมืองนอกเทียบเงินไทยก็ 2 ล้านกว่าๆแล้ว
เหตุผลที่ไม่เคยเห็นก็คือ ตัวรถมันทำมาค่อนข้างดิบมากๆครับ Chassis เป็นอ่าง Carbon Fiber เป็นรถเฉพาะกลุ่ม เอามาใช้งานลำบาก แม้แต่ขับเล่น เจอรถติดๆในไทยก็จบ รถคันเล็กสั้นๆ ห้องโดยสารคับแคบ (ดีกว่า Lotus Elise/Exige หน่อยนึง) แต่ตัวบอดี้รถกลับกว้างมากๆ ลองนึกภาพ Range Rover ครับ 4C ตัวบอดี้รถกว้างแบบนั้นเลย พวงมาลัยไร้เพาเวอร์ วัสดุซับเสียงไม่มี เบาะปรับระดับไม่ได้ จะปรับระดับเบาะต้องไขน๊อตเอา ทุกอย่างทำเพื่อลดน้ำหนักให้เบาที่สุด ดูยังไงก็ไม่คุ้มค่าสำหรับคนทั่วไปครับ ง่ายๆคือเป็นเหมือนของเล่นของสะสมมากกว่ารถครับ
และเหตุผลหลักๆคือศูนย์บริการไม่รองรับครับ ไม่ทำตลาดรุ่นใหม่ๆ >:(
ปล. ขออนุญาติเจ้าของด้วยนะครับ :)
7 เลยหรอครับเนี่ย โหดมาก
เจ้าอื่นถ้าเอามา อาจถูกกว่าก็ได้ แต่คงไม่มาก ราคารถเดิมก็สูงพอสมควร เพราะกรรมวิธีการผลิตครับ วัสดุ Carbon fiber, SMC และ Aluminium ไหนจะประกอบแบบ Handmade ที่โรงงานของ Maserati อีก
-
คงต้องรอ ผู้นำเข้า ของบ้านเราเปลี่ยนไปก่อนล่ะครับ
คิดแล้วเสียดาย ผมชอบตัว giulia มากๆ เลย
-
ผมสาวกงูคนหนึ่งครับ ส่วนตัวผ่านมาแล้ว 2 คัน เก็บไว้ 1 คัน (Classic) ขอบอกเลยว่า...
ผมชอบเจ้า 4 C นี้มาก แต่ถ้ามีเงินถึง (ตอนนี้... ไม่มี) ก็คงไม่ซื้อครับ ด้วยสภาพของศูนย์บริการในปัจจุบัน (ยังมีอยู่ไหม?) ผมบอกตรงๆ ว่าเข็ดขยาดกับ
156 ของผมมาก รุ่นใหม่ ลุงสุธี (ช่างซ่อมงู Classic ของผม) ก็ไม่รับซ่อม ทนไม่ไหวต้องยอมขาย แม้ใจยังรักอยู่
ทั้งนี้ เจ้า 4 C หรือ Glulia ใหม่ ถ้ามีเงิน แล้ว Alfa มาทำตลาดเอง ราคาลงๆ มาหน่อย นี้อาจใจอ่อนกลับไปก็ได้ครับ อิอิ
156 ไม่น่ากลัวแล้วครับ มีอู่นอกซ่อมค่อนข้างจบ เค้าถนัดรุ่นใหม่ๆครับ GTV 156 147 GT 159 Brera หรือ Fiat 500 ช่างอัลฟ่ารุ่นเก่าๆที่ไม่รับก็เพราะไม่ได้ถนัดแหละครับ และมีคนทำอะไหล่มือสองเอามาจากญี่ปุ่น เครื่องเกียร์ทั้งตัวราคาแค่ 35,000 +- และที่ญี่ปุ่นก็วิ่งกันมาไมล์ไม่เยอะเลย อะไหล่ใหม่ก็มีค่อนข้างครบ หรือบางอย่างจะสั่ง Ebay ก็ได้ง่ายๆ 156 นี่สะดวกที่สุดในอัลฟ่าแล้วครับ
156 จริงๆไม่เห็นจะจุกจิกอะไรเลยนะครับ ถ้าใช้บ่อยๆมาก่อน เพราะส่วนมากที่มีปัญหาเรื่องเกียร์ก็ส่วนหนึ่งเพราะเจ้าของไม่ยอมใช้ พวก Sensor เกียร์มันมีหลายจุดครับ จอดไว้บ่อยๆจะมีปัญหามากกว่า แต่หลักๆที่เจอบ่อยๆแค่เดินสายไฟเกียร์ใหม่ไม่กี่พันก็กลับมาใช้ได้ปกติครับ เพราะผมใช้ทุกวันไม่มีปัญหาอะไรเลย จริงๆ 156 ก็รถบ้านของเมืองนอกนี่แหละครับ
ศูนย์ก็ยังมีครับ ปรับปรุงใหม่ รับซ่อมกับเบิกอะไหล่ได้ แต่ผมไม่ได้ใช้บริการ
ขอบคุณมากๆ ครับ ดีใจที่ได้รับทราบว่าการซ่อมและอะไหล่ดีขึ้นและสามารถหาได้ครับ ที่บ้าน (ทั้งครอบครัว) นี้ใช้ 156 รวมกัน 3 คัน (รู้สึกบ้ามาก) จริงๆ ผมใช้ขับไปทำงานทุกวันอยู่ 5-6 ปี ได้ครับ เป็นรถใช้ประจำวัน (แต่รถขาดงานกับผมบ่อย) จนรู้สึกว่ามีภาระมากขึ้น มีเวลาและความอดทนกับรถ (ที่ใช้ประจำวัน) น้อยลง ของผมตอนนั้นที่มีปัญหา่มากๆ คือเกียร์จริงๆ ครับ แก้ยังไงก็ไม่หาย (ผมขายไปค่อนข้างนานแล้ว) ตอนนี้ ที่บ้าน (ทั้งครอบครัว) เหลือเก็บไว้ 1 คัน จะได้นำข้อมูลไปบอกครอบครัวที่ยังใช้อยู่สำหรับเป็นทางเลือกในการซ่อมคร้าบบ
-
ผมสาวกงูคนหนึ่งครับ ส่วนตัวผ่านมาแล้ว 2 คัน เก็บไว้ 1 คัน (Classic) ขอบอกเลยว่า...
ผมชอบเจ้า 4 C นี้มาก แต่ถ้ามีเงินถึง (ตอนนี้... ไม่มี) ก็คงไม่ซื้อครับ ด้วยสภาพของศูนย์บริการในปัจจุบัน (ยังมีอยู่ไหม?) ผมบอกตรงๆ ว่าเข็ดขยาดกับ
156 ของผมมาก รุ่นใหม่ ลุงสุธี (ช่างซ่อมงู Classic ของผม) ก็ไม่รับซ่อม ทนไม่ไหวต้องยอมขาย แม้ใจยังรักอยู่
ทั้งนี้ เจ้า 4 C หรือ Glulia ใหม่ ถ้ามีเงิน แล้ว Alfa มาทำตลาดเอง ราคาลงๆ มาหน่อย นี้อาจใจอ่อนกลับไปก็ได้ครับ อิอิ
156 ไม่น่ากลัวแล้วครับ มีอู่นอกซ่อมค่อนข้างจบ เค้าถนัดรุ่นใหม่ๆครับ GTV 156 147 GT 159 Brera หรือ Fiat 500 ช่างอัลฟ่ารุ่นเก่าๆที่ไม่รับก็เพราะไม่ได้ถนัดแหละครับ และมีคนทำอะไหล่มือสองเอามาจากญี่ปุ่น เครื่องเกียร์ทั้งตัวราคาแค่ 35,000 +- และที่ญี่ปุ่นก็วิ่งกันมาไมล์ไม่เยอะเลย อะไหล่ใหม่ก็มีค่อนข้างครบ หรือบางอย่างจะสั่ง Ebay ก็ได้ง่ายๆ 156 นี่สะดวกที่สุดในอัลฟ่าแล้วครับ
156 จริงๆไม่เห็นจะจุกจิกอะไรเลยนะครับ ถ้าใช้บ่อยๆมาก่อน เพราะส่วนมากที่มีปัญหาเรื่องเกียร์ก็ส่วนหนึ่งเพราะเจ้าของไม่ยอมใช้ พวก Sensor เกียร์มันมีหลายจุดครับ จอดไว้บ่อยๆจะมีปัญหามากกว่า แต่หลักๆที่เจอบ่อยๆแค่เดินสายไฟเกียร์ใหม่ไม่กี่พันก็กลับมาใช้ได้ปกติครับ เพราะผมใช้ทุกวันไม่มีปัญหาอะไรเลย จริงๆ 156 ก็รถบ้านของเมืองนอกนี่แหละครับ
ศูนย์ก็ยังมีครับ ปรับปรุงใหม่ รับซ่อมกับเบิกอะไหล่ได้ แต่ผมไม่ได้ใช้บริการ
ขอบคุณมากๆ ครับ ดีใจที่ได้รับทราบว่าการซ่อมและอะไหล่ดีขึ้นและสามารถหาได้ครับ ที่บ้าน (ทั้งครอบครัว) นี้ใช้ 156 รวมกัน 3 คัน (รู้สึกบ้ามาก) จริงๆ ผมใช้ขับไปทำงานทุกวันอยู่ 5-6 ปี ได้ครับ เป็นรถใช้ประจำวัน (แต่รถขาดงานกับผมบ่อย) จนรู้สึกว่ามีภาระมากขึ้น มีเวลาและความอดทนกับรถ (ที่ใช้ประจำวัน) น้อยลง ของผมตอนนั้นที่มีปัญหา่มากๆ คือเกียร์จริงๆ ครับ แก้ยังไงก็ไม่หาย (ผมขายไปค่อนข้างนานแล้ว) ตอนนี้ ที่บ้าน (ทั้งครอบครัว) เหลือเก็บไว้ 1 คัน จะได้นำข้อมูลไปบอกครอบครัวที่ยังใช้อยู่สำหรับเป็นทางเลือกในการซ่อมคร้าบบ
อยากได้อู่แนะนำ PM มาได้นะครับ :)
-
4C ผมว่าไม่เท่าไหร่ครับ แต่ถ้าเป็น
disco volante
(มันอ่านว่า ดิสโก้โวแลนเต้ ใช่ไหมครับ)
คันนี้ สวยสุดๆ ครับ อยากได้มากกกก ดิบๆ ดีด้วยครับ พวงมาลัยธรรมดา....Solid feel ดีครับ
-
ราคาที่เคยถามเกรย์เจ้าที่เอามา ไม่ใช่ 4 ล้านนะครับ แต่เป็น 7 ล้านครับ ราคาเมืองนอกเทียบเงินไทยก็ 2 ล้านกว่าๆแล้ว
เหตุผลที่ไม่เคยเห็นก็คือ ตัวรถมันทำมาค่อนข้างดิบมากๆครับ Chassis เป็นอ่าง Carbon Fiber เป็นรถเฉพาะกลุ่ม เอามาใช้งานลำบาก แม้แต่ขับเล่น เจอรถติดๆในไทยก็จบ รถคันเล็กสั้นๆ ห้องโดยสารคับแคบ (ดีกว่า Lotus Elise/Exige หน่อยนึง) แต่ตัวบอดี้รถกลับกว้างมากๆ ลองนึกภาพ Range Rover ครับ 4C ตัวบอดี้รถกว้างแบบนั้นเลย พวงมาลัยไร้เพาเวอร์ วัสดุซับเสียงไม่มี เบาะปรับระดับไม่ได้ จะปรับระดับเบาะต้องไขน๊อตเอา ทุกอย่างทำเพื่อลดน้ำหนักให้เบาที่สุด ดูยังไงก็ไม่คุ้มค่าสำหรับคนทั่วไปครับ ง่ายๆคือเป็นเหมือนของเล่นของสะสมมากกว่ารถครับ
และเหตุผลหลักๆคือศูนย์บริการไม่รองรับครับ ไม่ทำตลาดรุ่นใหม่ๆ >:(
ปล. ขออนุญาติเจ้าของด้วยนะครับ :)
นอกเรื่องแต่จากรูปแอบตกใจคันหลังมากกว่า 555