Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: dragonlance ที่ กุมภาพันธ์ 24, 2016, 16:59:27
-
พึ่งออกรถมาใหม่ ยังไม่รู้จะเลือกพรมปูพื้นรถแบบไหนดีครับ พี่ๆแต่ละคนใช้แบบไหนกันบ้างครับ
-
ใช้พรมกระดุมแแยเข้ารูป ที่ขายตามเวปคลับ แล้วใช้พรมไวนิลที่ขามในโฮมโปร ตัดวางข้างบนตรงที่วางเท้าอีกชั้นไว้ดักฝุ่นๆ จะไม่ลงไปถึงพรมกระดุมทำความสะอาดง่ายดี
-
ไวนิลครับ นุ่มดี
-
พรมกระดุมเข้ารูปชุดใหญ่ครับ ปิดแทบทุกซอกมุม
แต่ถ้าเลือกใหม่ได้ ผมเอาไวนิลเข้ารูปดีกว่าครับ แพงกว่า 2 เท่า แต่ก็ดีกว่า
-
ของผมใช้พรม 2 ชั้นแบบชั้นบนเป็นรังผึ้งครับ
ฝุ่นโดนดักอยู่ข้างล่างหมด
เปรียบเทียบกะรถ 2 คันที่ใช้อยู่ คันนึงใช้รังผึ้ง อีกคันใช้พรมกระดุม
คันที่ใช้แบบรังผึ้งดูสะอาดกว่าเยอะครับ
-
เลือกแบบกระดุมยี่ห้อดีๆ ครับ
ชอบที่สวย และไม่กักเก็บฝุ่น
คือเห็นว่าสกปรกง่ายกว่า แต่ไม่ต้องสะสมฝ่นในรถครับ
-
ของผมใช้พรม 2 ชั้นแบบชั้นบนเป็นรังผึ้งครับ
ฝุ่นโดนดักอยู่ข้างล่างหมด
เปรียบเทียบกะรถ 2 คันที่ใช้อยู่ คันนึงใช้รังผึ้ง อีกคันใช้พรมกระดุม
คันที่ใช้แบบรังผึ้งดูสะอาดกว่าเยอะครับ
อยากใช้บ้าง แต่ไม่รู้จะไปดูตัวอย่างที่ไหน ไม่มีโชว์รูมเลน
-
ผมชอบเเบบกระดุมคับ เอาเเบบชุดใหญ่ที่ปิดทุกมุมเลย
-
กระดุมเช่นกันครับ ไม่มีปัญหาฝุ่นดี และทำความสะอาดง่าย
-
กระดุม ครับ เพราะไม่อมฝุ่น เห็นฝุ่นชัดๆ เห็นแล้ว ก็เอาเครื่องดูดฝุ่นดุดออก ผ้าสะอาดเช็ดเป็นจบ
ใช้ EI Products ตัว Top Euro Mat น่ะครับ ทีเดียว ยันขายรถเลย
-
วัตถุประสงค์ของพรมปูรถที่สำคัญ คือ ดักฝุ่น และเศษไม้ใบหญ้าต่างๆ ให้อยู่หมัด นั่นคือ ไม่ปล่อยให้ฟุ้งกระจายในห้องโดยสาร
พรมที่ทำหน้าที่ข้างบนได้ดีที่สุด คือพรมชนิดไวนิลแบบเส้นใย ส่วนพรมกระดุมได้ความสวยงาม เรียบร้อยกว่า แต่การเก็บฝุ่นไม่ให้ฟุ้งกระจาย จะไม่ดีเท่าแบบแรก
ทีนี้ การเลือกยี่ห้อ วัสดุ ก็สำคัญครับ ยี่ห้อที่ดีหน่อย (โฆษณาตามนิตยสารรถ ยี่ห้อเก่าแก่ดั้งเดิม มีตัวอักษรอังกฤษ ที่เป็นสระทั้งสองตัว) นั้นเชื่อถือได้ครับ ใช้อยู่ ข้อดีคือ
1. ทนทาน ซักล้างหลายรอบก็ไม่เสียทรง หรือหลุดรุ่ย เวลาล้างก็แค่เปิดน้ำใส่กะละมัง แล้วเอาไปแกว่งในน้ำไปๆ มาๆ ก็เพียงพอแล้ว หรือจะใส่ผงซักฟอกล้างก็ได้ครับ
2. รถตากแดดร้อนยังไง ก็ไม่ส่งกลิ่นเหม็นแม้แต่น้อย อันนี้ต้องยอมรับเขา เมื่อก่อน เห็นแก่ราคาถูก แต่แพ้กลิ่น หลังจากเปลี่ยนเป็นยี่ห้อนี้ ผมหมดปัญหานี้ไป
แค่ 2 ข้อนี้ก็กินใจผมแล้ว จึงสั่งชุดที่สอง ชุดที่สาม สำหรับรถคันอื่นๆ (เขาตัดตามรุ่นรถครับ)
แต่ไม่ว่าจะแบบใด เจ้าของรถต้องขยัน ทำความสะอาด โดยเอาพรมดักฝุ่น ไปเททิ้ง สะบัดฝุ่นที่ค้าง อย่างน้อยๆ สัปดาห์ละครั้ง กลิ่นในรถจะไม่เหม็น ฝุ่นไม่ฟุ้ง ไม่เกิดการจามเมื่ออยู่ในรถ อีกอย่าง ถ้ารถของใครไม่มีกรองแอร์ สมควรซื้อมาใส่อย่างยิ่ง รถของผม มันจะบังคับให้เราเปลี่ยนตอนเช็คระยะ ตอนแรกคิดว่าไม่สกปรก แต่พอดูสภาพแล้ว โห เราทนสูดอยู่ในรถได้ไง ... นึกถึงรถที่ไม่มีกรองแอร์ ไม่อยากนึกภาพ
-
พรมยางที่ขายใน ไทวัสดุ 650
ตัดให้เข้ารูป
ถูกและทน ครับ
ประเภท 3500 ตามห้างที่มีพนักงานลูกจ้าง รายวัน มานั่งขาย
เช้อะ แพงไม่สมราคา
-
รถผมใช้พรมไวนิล เก็บสิ่งสกปรกได้ดีมาก แต่ขาดกระจุยกระจายเลยครับ ว่าจะลองเปลี่ยนไปใช้พรมกระดุมดูบ้างแล้ว
-
กระดุมตรงรุ่นฮ๊าบ
-
วัตถุประสงค์ของพรมปูรถที่สำคัญ คือ ดักฝุ่น และเศษไม้ใบหญ้าต่างๆ ให้อยู่หมัด นั่นคือ ไม่ปล่อยให้ฟุ้งกระจายในห้องโดยสาร
พรมที่ทำหน้าที่ข้างบนได้ดีที่สุด คือพรมชนิดไวนิลแบบเส้นใย ส่วนพรมกระดุมได้ความสวยงาม เรียบร้อยกว่า แต่การเก็บฝุ่นไม่ให้ฟุ้งกระจาย จะไม่ดีเท่าแบบแรก
ทีนี้ การเลือกยี่ห้อ วัสดุ ก็สำคัญครับ ยี่ห้อที่ดีหน่อย (โฆษณาตามนิตยสารรถ ยี่ห้อเก่าแก่ดั้งเดิม มีตัวอักษรอังกฤษ ที่เป็นสระทั้งสองตัว) นั้นเชื่อถือได้ครับ ใช้อยู่ ข้อดีคือ
1. ทนทาน ซักล้างหลายรอบก็ไม่เสียทรง หรือหลุดรุ่ย เวลาล้างก็แค่เปิดน้ำใส่กะละมัง แล้วเอาไปแกว่งในน้ำไปๆ มาๆ ก็เพียงพอแล้ว หรือจะใส่ผงซักฟอกล้างก็ได้ครับ
2. รถตากแดดร้อนยังไง ก็ไม่ส่งกลิ่นเหม็นแม้แต่น้อย อันนี้ต้องยอมรับเขา เมื่อก่อน เห็นแก่ราคาถูก แต่แพ้กลิ่น หลังจากเปลี่ยนเป็นยี่ห้อนี้ ผมหมดปัญหานี้ไป
แค่ 2 ข้อนี้ก็กินใจผมแล้ว จึงสั่งชุดที่สอง ชุดที่สาม สำหรับรถคันอื่นๆ (เขาตัดตามรุ่นรถครับ)
แต่ไม่ว่าจะแบบใด เจ้าของรถต้องขยัน ทำความสะอาด โดยเอาพรมดักฝุ่น ไปเททิ้ง สะบัดฝุ่นที่ค้าง อย่างน้อยๆ สัปดาห์ละครั้ง กลิ่นในรถจะไม่เหม็น ฝุ่นไม่ฟุ้ง ไม่เกิดการจามเมื่ออยู่ในรถ อีกอย่าง ถ้ารถของใครไม่มีกรองแอร์ สมควรซื้อมาใส่อย่างยิ่ง รถของผม มันจะบังคับให้เราเปลี่ยนตอนเช็คระยะ ตอนแรกคิดว่าไม่สกปรก แต่พอดูสภาพแล้ว โห เราทนสูดอยู่ในรถได้ไง ... นึกถึงรถที่ไม่มีกรองแอร์ ไม่อยากนึกภาพ
+1
-
ขอบคุณทุกท่านมากครับ แล้วมีใครเคยใช้ของ Beeskin บ้างมั้ยครับ เห็นว่าแทนที่จะเป็นเม็ดกระดุมขึ้นมากลับเป็นหลุมลงไปแทน แบบนี้จะดีรึป่าวครับ
-
วัตถุประสงค์ของพรมปูรถที่สำคัญ คือ ดักฝุ่น และเศษไม้ใบหญ้าต่างๆ ให้อยู่หมัด นั่นคือ ไม่ปล่อยให้ฟุ้งกระจายในห้องโดยสาร
พรมที่ทำหน้าที่ข้างบนได้ดีที่สุด คือพรมชนิดไวนิลแบบเส้นใย ส่วนพรมกระดุมได้ความสวยงาม เรียบร้อยกว่า แต่การเก็บฝุ่นไม่ให้ฟุ้งกระจาย จะไม่ดีเท่าแบบแรก
ทีนี้ การเลือกยี่ห้อ วัสดุ ก็สำคัญครับ ยี่ห้อที่ดีหน่อย (โฆษณาตามนิตยสารรถ ยี่ห้อเก่าแก่ดั้งเดิม มีตัวอักษรอังกฤษ ที่เป็นสระทั้งสองตัว) นั้นเชื่อถือได้ครับ ใช้อยู่ ข้อดีคือ
1. ทนทาน ซักล้างหลายรอบก็ไม่เสียทรง หรือหลุดรุ่ย เวลาล้างก็แค่เปิดน้ำใส่กะละมัง แล้วเอาไปแกว่งในน้ำไปๆ มาๆ ก็เพียงพอแล้ว หรือจะใส่ผงซักฟอกล้างก็ได้ครับ
2. รถตากแดดร้อนยังไง ก็ไม่ส่งกลิ่นเหม็นแม้แต่น้อย อันนี้ต้องยอมรับเขา เมื่อก่อน เห็นแก่ราคาถูก แต่แพ้กลิ่น หลังจากเปลี่ยนเป็นยี่ห้อนี้ ผมหมดปัญหานี้ไป
แค่ 2 ข้อนี้ก็กินใจผมแล้ว จึงสั่งชุดที่สอง ชุดที่สาม สำหรับรถคันอื่นๆ (เขาตัดตามรุ่นรถครับ)
แต่ไม่ว่าจะแบบใด เจ้าของรถต้องขยัน ทำความสะอาด โดยเอาพรมดักฝุ่น ไปเททิ้ง สะบัดฝุ่นที่ค้าง อย่างน้อยๆ สัปดาห์ละครั้ง กลิ่นในรถจะไม่เหม็น ฝุ่นไม่ฟุ้ง ไม่เกิดการจามเมื่ออยู่ในรถ อีกอย่าง ถ้ารถของใครไม่มีกรองแอร์ สมควรซื้อมาใส่อย่างยิ่ง รถของผม มันจะบังคับให้เราเปลี่ยนตอนเช็คระยะ ตอนแรกคิดว่าไม่สกปรก แต่พอดูสภาพแล้ว โห เราทนสูดอยู่ในรถได้ไง ... นึกถึงรถที่ไม่มีกรองแอร์ ไม่อยากนึกภาพ
+1
+1
แรกๆใช้พรมไวนิลมาตลอด มาลองใช้พรมกระดุมดู ฝุ่นฟุ้งกระจายตั้งแต่เปิดประตูเลย ต้องคอยเช็ดบ่อยๆ และสังเกตคือกรองแอร์ดำไวมากทั้งที่การใช้งานแบบเดียวกับคันอื่น พรมไวนิลอาทิตย์นึงดึงออกมา เป่าๆ เคาะๆก็ได้ แต่ถ้าพรมกระดุมนี่มีฝุ่นปั้บเห็นเลย
-
:o :o :o รอฟังคำตอบด้วยคนครับ
-
ผมใช้แบบไวนิล ของ EI ชอบแบบไวนิลเพราะเหยียบละนุ่มเท้าดีเลยชอบ
-
ข้อมูลเพียบ
-
วัตถุประสงค์ของพรมปูรถที่สำคัญ คือ ดักฝุ่น และเศษไม้ใบหญ้าต่างๆ ให้อยู่หมัด นั่นคือ ไม่ปล่อยให้ฟุ้งกระจายในห้องโดยสาร
พรมที่ทำหน้าที่ข้างบนได้ดีที่สุด คือพรมชนิดไวนิลแบบเส้นใย ส่วนพรมกระดุมได้ความสวยงาม เรียบร้อยกว่า แต่การเก็บฝุ่นไม่ให้ฟุ้งกระจาย จะไม่ดีเท่าแบบแรก
ทีนี้ การเลือกยี่ห้อ วัสดุ ก็สำคัญครับ ยี่ห้อที่ดีหน่อย (โฆษณาตามนิตยสารรถ ยี่ห้อเก่าแก่ดั้งเดิม มีตัวอักษรอังกฤษ ที่เป็นสระทั้งสองตัว) นั้นเชื่อถือได้ครับ ใช้อยู่ ข้อดีคือ
1. ทนทาน ซักล้างหลายรอบก็ไม่เสียทรง หรือหลุดรุ่ย เวลาล้างก็แค่เปิดน้ำใส่กะละมัง แล้วเอาไปแกว่งในน้ำไปๆ มาๆ ก็เพียงพอแล้ว หรือจะใส่ผงซักฟอกล้างก็ได้ครับ
2. รถตากแดดร้อนยังไง ก็ไม่ส่งกลิ่นเหม็นแม้แต่น้อย อันนี้ต้องยอมรับเขา เมื่อก่อน เห็นแก่ราคาถูก แต่แพ้กลิ่น หลังจากเปลี่ยนเป็นยี่ห้อนี้ ผมหมดปัญหานี้ไป
แค่ 2 ข้อนี้ก็กินใจผมแล้ว จึงสั่งชุดที่สอง ชุดที่สาม สำหรับรถคันอื่นๆ (เขาตัดตามรุ่นรถครับ)
แต่ไม่ว่าจะแบบใด เจ้าของรถต้องขยัน ทำความสะอาด โดยเอาพรมดักฝุ่น ไปเททิ้ง สะบัดฝุ่นที่ค้าง อย่างน้อยๆ สัปดาห์ละครั้ง กลิ่นในรถจะไม่เหม็น ฝุ่นไม่ฟุ้ง ไม่เกิดการจามเมื่ออยู่ในรถ อีกอย่าง ถ้ารถของใครไม่มีกรองแอร์ สมควรซื้อมาใส่อย่างยิ่ง รถของผม มันจะบังคับให้เราเปลี่ยนตอนเช็คระยะ ตอนแรกคิดว่าไม่สกปรก แต่พอดูสภาพแล้ว โห เราทนสูดอยู่ในรถได้ไง ... นึกถึงรถที่ไม่มีกรองแอร์ ไม่อยากนึกภาพ
ใช่ยี่ห้อตามลิ้งค์นี้ไมครับ ถ้าไม่ใช่รบกวนแนะนำหน่อยครับ
http://www.grandseatcover.com/index.php?lay=show&ac=article&Id=428223&Ntype=10
-
^
^
รถแฟนผมกับรถน้า ใช้พรมไวนิลดักฝุ่นของ 1 แมท ครับ (ชื่อใบ้)
รถแฟนใส่มาเกือบ 2 ปีแล้ว ไม่ขาดไม่ยุ่ย กลิ่นไม่มี และราคาถูกเมื่อเทียบเจ้าอื่นๆ
รถผมก็ใส่ยี่ห้อนี้ แต่เป็นแบบกระดุม ฝุ่นกระจายเต็มรถ วันไหนอยากถอดรองเท้าขับก็ไม่สนุก
เพราะมันไม่นุ่มสบายและเท้าเปื้อนฝุ่น ข้อดีของพรมดักฝุ่นอีกอย่างคือมันช่วยอมน้ำได้นิดหน่อย
หากทำน้ำหกใส่ มันจะไม่ไหลซึมตามร่องอย่างรวดเร็วเหมือนพรมแบบอื่น
-
เลือกแบบกระดุมยี่ห้อดีๆ ครับ
ชอบที่สวย และไม่กักเก็บฝุ่น
คือเห็นว่าสกปรกง่ายกว่า แต่ไม่ต้องสะสมฝ่นในรถครับ
เห็นด้วยครับ
ผมใช้พรมไวนิลของ normad 3m ซื้อมาจะ 7 ปีแล้ว ยังทน ไม่ฉีกขาด ดักฝุ่นดีมาก
-
พรมเดิมติดรถประเสริฐสุด
สวย ไม่เกะกะ
-
พรมยางที่ขายใน ไทวัสดุ 650
ตัดให้เข้ารูป
ถูกและทน ครับ
ประเภท 3500 ตามห้างที่มีพนักงานลูกจ้าง รายวัน มานั่งขาย
เช้อะ แพงไม่สมราคา
อันนี้น่าสนแฮะ !!
-
กระดุม ครับ ทำความสะอาดง่ายสุด เห็นฝุ่นได้ชัด พอเห็นแล้วก็จัดการเท และเช็ด
ส่วนไวนิล เก็บไว้ด้านล่าง แต่บางคนไม่เห็น ก็ไม่เอาออกมาเท กลายเป็นฝุ่นค้างอยู่ในรถนานครับ
-
ผมใช้แบบแผ่นยางเข้ารูป 3 d
ทำความสะอาดง่ายดี ขอบๆจะสูงขึ้นมาอีกหน่อยเผื่อน้ำหกจะไม่ไหลลงพรม ครับ
-
(http://ecx.images-amazon.com/images/I/71qWg0NJclL._SL1500_.jpg)
(http://www.autoaccessoriesgarage.com/img/group/main/55/5561_1_md.jpg)
Maxpider 3D ครับ ชอบมาก ดูแลง่าย
-
ผมใช้พรมไวนิลดักฝุ่นของ 3M ครับ ใช้มา 10ปี ทนมาก แค่ห้ามโดนน้ำมันครับ
-
พรมกระดุม เข้ารูปเต็มคัน เลือกสีได้ด้วย
-
คันใหญ่แบบเส้นใย หนัก แห้งช้า ผิวสัมผัสนุ่ม เก็บฝุ่นผงดีไม่มีโผล่มาให้เห็น
คันกลางแบบกำมะหยี่3D เบา ผิวสัมผัสนุ่ม เห็นฝุ่นง่าย ทำความสะอาดพอใช้ได้
แต่อยากร้องไห้ทุกครั้งที่ฝนตกเพราะการซึมซับดีมาก...สกปรกง่ายที่สุด!!
คันเล็กแบบกระดุม เบา แห้งเร็ว ผิวสัมผัสเรียบๆแข็งๆ เห็นฝุ่นง่าย ทำความสะอาดง่าย
รถภรรยา ใช้แบบเส้นใยที่ขายในเน็ท เบา ผิวสัมผัสไม่นุ่มมากเท่าคันใหญ่ เก็บฝุ่นผงดีเช่นกัน
แต่อายุการใช้งานสั้น ใช้มา 3 ปีตอนนี้แบ่งร่างแยกออกเป็น2ชั้นเรียบร้อยแล้ว ชิ้นบนที่เป็นเส้นใยกับแผ่นพื้นด้านล่าง
เป็นแนวทางขอให้เลือกได้ถูกใจครับ
-
ใช่ยี่ห้อตามลิ้งค์นี้ไมครับ ถ้าไม่ใช่รบกวนแนะนำหน่อยครับ
http://www.grandseatcover.com/index.php?lay=show&ac=article&Id=428223&Ntype=10
ผมใช้ ตามนี้ครับ
http://www.eiproducts.com/ (http://www.eiproducts.com/)
ไม่มีกลิ่น ทนทาน ออกแบบตามรุ่นรถ ราคาจะโหดกว่าตัวอื่นบ้างครับ
-
พรมกระดุมเกรดดีๆแบบหนาครับเปื้อนก็ทำความสะอาดง่ายผมว่าใช้งานจริงดีสุดแล้วไม่ต้องมาเก็บฝุ่นไว่ในรถ
อีกแบบก็ตามพี่ท่านบนใช้ได้ดีเหมือนกันครับ 3D
-
ยี่ห้อ EI รุ่น EURO ครับ เรื่องความสวยงามกับทำความสะอาดง่ายล้วนๆ
ปล. เห็นโพสก่อนหน้าลงรูปแบบ 3D ก็น่าสนอยู่เหมือนกัน ส่วนตัวชอบอะไรที่เข้ารูป ไม่ขัดหูขัดตามากสักเท่าไหร่
-
พรมไวนิลดีกว่าคับแม้นจะไม่สวย แต่ก้อทำให้รถสะอาดกว่าไม่ต้องดูดฝุ่นบ่อย ๆ พวกทรายทะเล เวลาไปทะเลจะรู้เลย
ต้องกลับมาล้างรถยนต์ ทำให้ไม่ต้องคอยดูฝุ่นบ่อยและทำความสะอาดง่าย
https://smarturl.it/kpk58j?lazada-carmat-bestseller แรก ๆ ก้อใช้พรมแบบ 6D หรูหรา หลัง ๆไม่ไหวดูดฝุ่นบ่อยๆ เลิก
หาแบบไวนิลดีกว่าคับ..
:mon17: https://my.dek-d.com/paperlemon/blog/?blog_id=10296859
พรมปูพื้นรถยนต์ แบบไหนดี (https://my.dek-d.com/paperlemon/blog/?blog_id=10296859)