Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: lexus ที่ มีนาคม 04, 2016, 22:06:38
-
มีค่ากลางมาตรฐานไหมครับว่าอุณหภูมิน้ำหล่อเย็นไม่ควรเกินที่เท่าไหร่ กี่องศา หรือแล้วแต่รุ่นรถ (รถเดิมๆไม่ติดแก้ส)
ขอถามกรณีค่าปกติของรถบ้านเบนซิน // กระบะดีเซล
1.กรณีขับเรื่อยๆ
2.กรณีขับรถติด
3.ถ้าเครื่องร้อนจนไฟเตือน อุณหภูมิน้ำจะอยู่ที่กี่องศา
4.มีวิธีป้องกันไม่ให้เครื่องฮีตหรือไม่ ต้องทำอย่างไร
ปล.แต่ก่อนไม่เคยสนใจ แต่ช่วงนี้เห็นข่าวfiestaพอหมดประกันบางคันความร้อนขึ้น ของผมขับปกติต่างจังหวัดรถไม่ติดเปิดแอร์ดูในเมนูลับจะอยู่ที่93องศา รถติดๆยังไม่เคยลองวัด
ตอนนี้เชคระดับหม้อพักน้ำหล่อเย็นแอบเห็นมันลดผิดปกติอยู่เหมือนกัน เริ่มระแวง เข้า0ช่างหาสาเหตุไม่เจอ เลยเติมกลับใหม่ดูว่าจะลดระดับอีกไหม(ใครมีประสบการณ์แนะนำหน่อยครับ)
ยิ่งไกล้หน้าร้อนด้วย ยังไงก็ลองเปิดกระโปรงเชคกันด้วยนะครับ เพื่อความปลอดภัยของฝาสูบ ค่าซ่อมโหดมากๆๆๆ
-
ปกติ หม้อน้ำจะอยู่ในช่วง 80-90
ซื้อ obd มาจับอุณหภูมิเกียร์ด้วยนะ จะได้แก้ตรงจุดเกียร์พัง
น้ำหม้อน้ำลด มีสาเหตุจากหลายอย่างมาก เอาใจช่วยครับ
-
1&2 80-95 ไม่เกิน100
3 เครื่องร้อนจนไฟเตือนนี่ประมาณ120องศา
4 วิธีป้องกัน ก็มองเข็มความร้อนบ่อยๆ แค่ไฟเตือนรถไม่ได้พังเลย ต้องรีบจอดข้างทาง ดับเครื่อง เครื่องจะไม่พัง
ลองเปลี่ยนฝาหม้อน้ำดู อาจจะรั่วจากตรงนั้นก็ได้
-
นานาจิตตังนะคับแต่รถผมทุกคันถอดวาลว์น้ำทิ้งหมด ตัดปัญหาวาลว์ตายไม่เปิดด้วย
บ้านเราร้อนคับต่างแค่สตาร์ทเช้าร้อนช้านิดนึงต่างกันไม่ถึง5นาที
ตรงนั้นจะเปลืองน้ำมันกว่ามีวาลว์น้ำ
ยื่งวื่งในเมืองรถติด รถไม่มีวาลว์น้ำจะเย็นกว่าประมาณ10-20องศา
ยิ่งวิ่งเรื่อยๆยิ่งไม่ร้อน รถติดๆมีวาลว์น้ำ90-100++
ถ้าถึง120หม้อน้ำฝาบนล่างพลาสติกกระจายคับไม่มีเหลือ
ไม่มีวาลว์น้ำ80-95 วิ่งเรื่อยๆ60-80 ก็ตามสะดวกเลยคับ
แต่สำหรับรถผมจะใส่วาลว์น้ำต่อเมื่อหิมะตกเท่านั้น
-
นานาจิตตังนะคับแต่รถผมทุกคันถอดวาลว์น้ำทิ้งหมด ตัดปัญหาวาลว์ตายไม่เปิดด้วย
บ้านเราร้อนคับต่างแค่สตาร์ทเช้าร้อนช้านิดนึงต่างกันไม่ถึง5นาที
ตรงนั้นจะเปลืองน้ำมันกว่ามีวาลว์น้ำ
ยื่งวื่งในเมืองรถติด รถไม่มีวาลว์น้ำจะเย็นกว่าประมาณ10-20องศา
ยิ่งวิ่งเรื่อยๆยิ่งไม่ร้อน รถติดๆมีวาลว์น้ำ90-100++
ถ้าถึง120หม้อน้ำฝาบนล่างพลาสติกกระจายคับไม่มีเหลือ
ไม่มีวาลว์น้ำ80-95 วิ่งเรื่อยๆ60-80 ก็ตามสะดวกเลยคับ
แต่สำหรับรถผมจะใส่วาลว์น้ำต่อเมื่อหิมะตกเท่านั้น
รถผมมีวาลว์น้ำไม่เกิน100แน่ๆ ถ้าเกินแสดงว่าระบบน้ำของรถต้องผิดปกติแล้ว ถึงอุณหภูมิจะ120จริงแต่ถ้ารีบจอดไม่ขับต่อ รถก็ไม่เสีย คือประมาณว่าพอไฟเตือนขึ้นก็รีบหาที่จอดซะ จะข้างถนนอะไรก็จอดไปเหอะ
ส่วนเรื่องอุณหภูมิ ผมก็ไม่แน่ใจว่ารถทุกค่ายมีจุดที่เผาไหม้ได้ดีที่สุดต่างกันแค่ไหน แต่โดยภาพรวมคือประมาณ80-95 ถ้าต่ำกว่านี้ระบบเผาไหม้จะไม่ดี ง่ายๆคือ กินน้ำมันกว่า
แต่ยังไงข้อมูลของผมก็อาจจะนานาจิตตัง แต่ผมก็เชื่อว่าของเดิมๆโรงงานที่วิศวกรเค้าออกแบบมานี่แหละเหมาะสมที่สุดแล้ว
-
...โดยทั่วไป วิ่งไม่เกิน 120 แบบเรื่อย ๆ มาเรียง ๆ ....
ญี่ปุ่น 80-90 ส่วนมาก 85-87
ยุโรป 90-105 ส่วนมาก 93-95....
รถผม saab 95 2.3t ปกติ ความร้อนระดับ 95 เช่นกัน เวลาคิกดาวน์จัด ๆ สี่ห้าพันรอบ ความร้อนจะติดเท้าขึ้นมา
ผมแก้ไขดังนี้ เปลี่ยนวาล์วน้ำ ให้เปิดเร็วขึ้นที่ 72 องศา.... จากนั้นผมซื้อเทมป์คอนโทรลชุดหนึ่ง สามพันบาท..เพื่อ เปลี่ยนไฮสปีด พัดลม จากที่ทำงานที่ 95 องศา(โลว์ทำงานที่ 80 องศา) ผมบังคับให้พัดลมไฮทำงานที่ 86 องศา (ตั้งเองได้ตั้งแต่ 76-105) โดยรวมพอใจมาก ไม่ว่ารถติดแค่ไหน ความร้อนไม่เคยเกิน 95....วิ่งนอกเมืองทั่วไป 82-85 พอ ๆ กับรถยุ่น......
ส่วนอีกคัน saab 93 ss ผมไม่แตะ เพราะ การควบคุมความร้อนดีมาก อยู่ที่ 91-93 องศา ( ถือว่านิ่งที่สุดที่พบมา) ไม่ว่าวิ่งทางไกลแค่ไหน หรือรถติดแค่ไหน มันก็ไม่ให้ต่ำกว่า 90 และไม่ให้เกิน 93 องศา
x-tral t 31 คันนี้อุณภูมิทำงานอยู่ที่ 85-89 องศา ผมติดแก๊ส ก็เลยเปลี่ยนวาล์วน้ำจาก เปิด 82 องศา มาเป็นเปิด 76 องศา อุณหภูมิทำงาน อยู่ที่ 82-85 องศา ....(ตอนแรก ถอดวาล์วน้ำ วิ่งไปเป็นชั่วโมง อุณหภูมิทำได้68-72 องศา ซึ่งต่ำเกินไป จนทำให้เกิดการสึกหรือมากไป จึงต้องหามาใส่ เพื่อความเหมาะสม)
วิธีป้องกันเครื่องฮีทก็ทำแบบผม เพิ่มเทมป์คอนโทรลเข้าไป แล้วตั้งพัดลมไฮให้ทำงานเร็วขึ้น รับรองไม่มีฮีท (ยกเว้นพัดลมพัง)
***อ้อ ตอนแรกผมคิดว่าพัดลมจะทำงานหนัก เปล่.เลยาทำงานเบากว่าเดิม ก่อนติด มันทำงานที่ 95 แล้วก็ทำ....จะเลิกสปีดไฮ เมื่อดึงอุณหภูมิลงมาที่ 80 องศาจึงจะตัดเข้า โล ซึ่งใช้เวลานานมาก พอใส่ตัวนี้เข้าไป 86องศา มันทำงานแล้ว ทำแป๊บ ๆ ลงมา 80 แล้ว.****
-
ขอบคุณมากๆครับ ความรู้ดีๆทั้งนั้นเลย
การปรับวาล์วน้ำก็น่าสนใจมากๆ
สงสัยต้องหาซื้อพวกobdมาดูอุณหภูมิหม้อน้ำซะแล้ว
เพื่อความสบายใจ
-
วาลว์น้ำถ้าหาเทียบรุ่นที่เปิดไวกว่าเดิมไม่ได้ ผมก็ถอดมาเจาะรูเพิ่มเอง555
หม้อน้ำเดิมโรงงานส่วนใหญ่รังผึ้งมิเนียมแต่ฝาบนล่างพลาสติก
พอมีรั่วซึมตรงฝาผมก็ให้ร้านหม้อน้ำเปลี่ยนฝาบนล่างเป็นมิเนียมเลย
ถ้าตัวรังผึ้งยังดีก็ใช้ได้อีกยาวๆส่วนมากจะรั่วรอยต่อฝาพลาสติกนี้ละ
ที่ใช้มาแล้วมีปัญหาความร้อนที่สุดก็E30วาง1jzgteนี้ละขนาดทุบห้องเครื่องถอยเครื่อง
เข้าคืบกว่าทำหม้อน้ำมิเนียมใหม่ใหญ่กว่าเดิมก็ยังเอาไม่อยู่ พอซัดหนักๆมาแล้วติดไฟแดงนานขึ้นจะเกิน100ให้เสียวอยู่เรื่อย เพราะห้องเครื่องมันแน่นจิงๆเทอร์โบอีก
-
1. อุณหภูมิส่วนใหญ่ จะอยู่ 80-90 องศา
2. รถติดอุณหภูมิจะขึ้น เนื่องจากไม่มีลมผ่านหม้อน้ำ
3. ไม่เกิน 110-120 องศา
4. ดูเกจความร้อน บ่อยๆหน่อย หรือ หาซื้อพวกOBD มาดูอุณหภูมิหม้อน้ำ
หม้อน้ำส่วนใหญ่ ณ ปัจจุบัน
ตัวอลูมิเรียมฝาบนและล่างเป็นพลาสติก เปลี่ยนถ่ายระบบน้ำยาหม้อน้ำตามระยะที่โรงงานกำหนด ช่วยให้หม้อน้ำมีอายุการใช้งานได้นานยิ่งขึ้น
ตรวจเช็คฝาหม้อน้ำ ท่อหม้อน้ำในระบบหล่อเย็น สัปดาห์ละครั้ง เป็นรถเก๋ง ตรวจสภาพพัดลมยังทำงานเต็มประสิทธิภาพไม ความร้อนก็หายห่วงแล้วครับ