Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: kaiwat ที่ มีนาคม 06, 2016, 14:21:57
-
เพิ่งออก Mazda CX-3 2.0 มาได้ประมาณ 2 อาทิตย์ขับในกทม.จับอาการได้ว่าวันไหนรถติดมาก เหยียบเบรกบ่อยๆ ขับไปได้สักประมาณ1ชม. รู้สึกได้ว่ารถมีกำลังไม่เท่าเดิมต้องเติมคันเร่งมากขึ้น ไม่พุ่งไม่แรงเหือนตอนสตาร์ทใหม่ๆ นี่เป็นอาการปกติหรือเปล่าครับหรือควรเข้าศูนย์เพื่อเช็คปัญหาที่เกิดขึ้น ขอบคุณครับ
-
รถยังใหม่ สอบถามในคลับดีกว่านะครับ
-
สำหรับผมคิดว่าปกตินะครับ รถตอนสตาร์ทใหม่ๆ เครื่องยังเย็นและรอบเครื่องต้องปั่นสูงนิดนึงเพื่อให้เครื่องอุ่น ที่ช่วงนั้นจะรู้สึกพุ่งนิดๆ ขับตอนอุณภูมิเครื่องปกติมันก็จะวิ่งปกติของมัน แต่เมื่อเจอรถติดหนักๆ หรือพึ่งอัดยาวๆ มาหมาดๆ อุณหภูมิในห้องเครื่องจะสูงมาก ส่งผลให้กำลังเครื่องมันลดลง (รถบางรุ่นนี่ลดจนเครื่องสั่นที่รอบเดินเบาได้เลย) แต่เมื่อวิ่งปกติ หรือจอดพักซักหน่อยให้เครื่องเย็นลง แล้วกลับมาขับใหม่ มันก็จะกลับสู่ปกติครับ :)
-
อย่าวิตกจริตมากไปครับ
-
สตาร์ทใหม่ๆเครื่องเย็น ออกตัวดีเหมือนกันครับ
ช่วงรถติดมากๆ เบรคๆเร่งๆ ช่วงกด คันเร่งอาจหน่วงบ้าง
-
ไม่แปลกนะครับ ตอนเครื่องยนต์เย็นๆไม่ร้อนมาก กดทีพุ่งปรี้ดๆ แต่พอเจอรถติดกลางแดดร้อนๆ ขยับทีล่ะนิดๆๆๆ ไม่มีลมผ่านเครื่อง กำลังก็ตกเป็นธรรมดาแหละครับ รถผมก็เป็น แต่ถ้าคุณเจ้อของรถ cx-3 ไม่มั่นใจก็ลองวิ่งเข้าศูนย์ให้ช่างตรวจก็ได้ครับ
-
ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาตอบครับผมส่วนตัวขับรถมาหลายคันแล้วเป็นคนชอบจับอาการของรถหนะครับทั้งเสียงที่ผิดปกติทั้งเครื่องยนต์ครั้งนี้เห็นว่ารถมันยังใหม่ก็เลยอดสงสัยไม่ได้หนะครับ
-
น้ำมันเครื่องเดี๋ยวนี้นิยมค่าเครื่องความหนืดต่ำ เพราะเน้นประหยัดน้ำมัน
ตอนเครื่องเย็นหนืดอยู่กำลังอัดเลยดี แต่พอเครื่องร้อนไม่หนืดละกำลังอัดเลยร่วงลงมา
ปล. แนะนำว่า ถ้าอยากขับสนุกเพิ่มความหนืดขึ้นอีกซักเบอร์ แลกอัตรากินน้ำมันที่เพิ่มอีกนิดครับ
-
เบอร์น้ำมันเครื่องใสๆ มีผลต่อกำลังเครื่องเวลาร้อนๆนะ ส่วนตัวกับรถใหม่ เบอร์ 30 ยังอัดไม่มันส์เท่าเบอร์ 40 เลย เบอร์ 20 ศูนย์ เคยอัดแล้วมีแต่เสียงเครื่อง รถอืดมากกลิ่นไหม้เข้าห้องโดยสาร แต่เรื่องกำลังตกผมไม่รู้สึกเวลารถติดๆเท่าไหร จะรู้สึกเวลาขับทางไกล. เบอร์ 40 ดีสุดกำลังไม่ตก เบอร์น้ำมันมันขึ้นกับคนด้วยนะ บางคนก็ เบอร์ 20 ตามศูนย์ขับเรื่อยๆก็โอ เจ้าของกระทู้ขับรถมาหลายคันผมคิดว่าคงรู้อยู่แล้วอาการรถที่พุ่งดีตอนสตาร์ทใหม่ๆ คงไม่ได้ผิดสังเกตในประเด็นนั้น
-
อาจต้องลองดูในคลับครับ ตอนผมเลือกรถตอนแรกกะจะซื้อM3แต่พอเข้าในคลับดูเห็นมีอาการแบบนี้และอาการอื่นๆเลยตัดใจ เข้าใจว่าน่าจะแก้แล้วซะอีก
-
เพิ่งรู้นะครับเนี่ยปกติบอกช่างเปลี่ยนน้ำมันเครื่องอะไรก็ได้จะเน้นเรื่องระยะทาง กม.ซะสำคัญที่ขับมาหลายคันเป็นมือสองหมดเลยครับมาจากพ่อบ้างญาติบ้างอายุของรถค่อนข้างเยอะเลยคิดว่าอาการแบบนี้เป็นปกติของเครื่องยนต์ที่ค่อนข้างเก่าพอมาออกป้ายแดงคันแรกก็เลยอดกังวลไม่ได้ครับ ขอบคุณครับ
-
เคยขับรถตอนบ่ายโมง บ่ายสองโมง ในฤดูร้อนที่อุณหภูมิเกิน 40 องศาหรือเปล่าครับ
เร่งขึ้นแต่รอบ ความเร็วไม่ขึ้น ผมอนุมาณว่าน่าจะคล้ายกันกับที่เจ้าของกระทู้เจอมาครับ
-
ไม่ค่อยเคยได้ขับรถที่มีอาการแบบนี้ครับ เอาใจช่วยครับ
-
เมื่อต้นกุมภาขับmazda3 ขึ้นดอยอินตอนใกล้ๆถึงยอดรู้สึกกำลังตกเหมือนกันครับเลยจอดตรงกิ๋วลมสตาร์ทเปิดฝากระโปรงไว้รอเครื่องเย็นขับต่อก็กลับมาแรงเหมือนเดิมครับ
-
ความร้อนมีผลจริงๆครับ แต่การวางเท้าบนคันเร่งไฟฟ้าให้วางแนบทั้งฝ่าเท้านะครับ อย่าจิกปลายเท้า
-
อุณหภูมิมีผลมากๆเลยครับ สังเกตง่ายๆ วันไหนหนาวๆ รถจะแรงกว่าปกติครับ
-
ขอบคุณทุกคอมเม้นครับผมสรุปว่ามันปกติสินะครับ รอเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องที่หมื่นโลจะถามช่างอีกทีครับ
-
เคยขับ Vios ตัวแรก แบบสภาพหม้อน้ำไม่ได้ล้างมา 9 ปี
ในวันอากาศร้อนๆเดือนเมษา เหยียบไปนึกว่ารถเสียครับ
เมื่อวานอยู่หัวหินร้อนๆบ่ายๆ รถจอดตากแดด ขับ XV ก็เหยียบไม่ค่อยขึ้นครับ
-
นึกว่ารถเราเป็นอยู่คนเดียวซะอีก ::)
-
ขอบคุณทุกคอมเม้นครับผมสรุปว่ามันปกติสินะครับ รอเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องที่หมื่นโลจะถามช่างอีกทีครับ
เพื่อความสบายใจครบพันโลแรก เปลี่ยนไปเลยก็ได้ครับ(ไม่ต้องเข้าศูนย์) ครบหมื่นโลก็ค่อยไปเข้าศูนย์ ใช้คูปองฟรีค่าแรงตามปกติ
-
อุณหภูมิของไอดีที่เข้าห้องเผาไหม้มีผลต่อกำลังเครื่องครับ ยิ่งรถเทอร์โบจะเห็นชัดเลยครับ ซัดตอนอากาศเย็นกับอากาศร้อน อาการรถต่างกันเยอะ
-
เข้ามาเก็บความรู้
-
ไม่แน่ใจรถอื่นจะแนวทางคล้ายๆกันไหม เผื่อเป็นแนวทางครับ
ที่ได้ทราบมา สำหรับเกียร์ dual clutchของFocus ถ้าเจอร้อนจัดแบบขับรถติดมากๆ
จะเข้าสู่ Hot Mode เพื่อป้องกันการเสียหายของผิวแผ่นคลัทช์
คอมฯจะจัดการเอง
/จังหวะเปลี่ยนเกียร์เร็วขึ้น(quickly engage) คือแต่ละเกียร์ลากได้ยาวน้อยลง
/ลดแรงบิดเครื่องยนต์ลง (reduce engine torque)
ถ้ายังร้อนอีกก็จะมีคำเตือนให้ผู้ขับขี่ปฎิบัติที่หน้าจอ MID เช่น
/transmission hot - wait 10 minute
/transmission hot -wait or accelerate
-
ไม่แน่ใจรถอื่นจะแนวทางคล้ายๆกันไหม เผื่อเป็นแนวทางครับ
ที่ได้ทราบมา สำหรับเกียร์ dual clutchของFocus ถ้าเจอร้อนจัดแบบขับรถติดมากๆ
จะเข้าสู่ Hot Mode เพื่อป้องกันการเสียหายของผิวแผ่นคลัทช์
คอมฯจะจัดการเอง
/จังหวะเปลี่ยนเกียร์เร็วขึ้น(quickly engage) คือแต่ละเกียร์ลากได้ยาวน้อยลง
/ลดแรงบิดเครื่องยนต์ลง (reduce engine torque)
ถ้ายังร้อนอีกก็จะมีคำเตือนให้ผู้ขับขี่ปฎิบัติที่หน้าจอ MID เช่น
/transmission hot - wait 10 minute
/transmission hot -wait or accelerate
+1
-
ลองต่อ OBD ดู อุหภูมิ ช่วงรถติด Intake Air Tmp จะขึ้นสูงเพราะพัดลมไฟฟ้าทำงาน ดูดลมผ่านหม้อน้ำร้อนๆ
แถมด้วย รถรุ่นใหม่ๆมีแผ่นปิดใต้เครื่อง ยิ่งร้อนอบ กำลังตก น้ำมันเกียร์ ก็ร้อน ด้วย
-
อากาศมีผลครับ ลองขับรถกลางวันกับกลางคืนดูจะมีความต่างครับ กลางวันอุณหภูมิสูงอยู่เเล้ว เจอทั้งไอรถอีก รถติดอีก
น้ำมันเครื่องก็มีผล ตอนนี้ผมเปลี่ยนมาใช้เบอร์ 40 เเล้ว ต่างกันชัดเจนเลยครับ ตอนเร่งเเซงหรือรอบสูงๆ มีความรู้สึกว่า เบอ 30 ที่ 3000 รอบ เสียงจะดังกว่าเบอ 40 ที่ 3000 รอบครับ
อาทิตย์หน้าว่าจะซื้อน้ำยาหล่อเย็นมาเปลี่ยนตอนรับหน้าร้อนสักหน่อยครับ