Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: Red Bicycle ที่ มีนาคม 07, 2016, 10:39:10
-
:) :) :) คือถ้าแบบว่าไม่มีภาระอะไรมากๆแล้ว หรือจัดการวางแผนภาระนั้นได้อย่างดีแล้ว
มีเหลือพอประมาณ แล้วท่านไม่เคยใช้รถ Premium car ยุโรปเลย แต่ชอบมาตลอด
ถ้ามีโอกาสอยากทราบว่า ท่านจะจัด MB หรือ BMW ใช้ซักคัน ซักครั้งหนึ่งในชีวิตไหมครับ
-
ถ้าเงินเหลือจริง ผมคงไปมองพวก Porsche หรือ Audi Quatto แทน
ไม่ใช่ว่า BMW หรือ MB ไม่ดีนะ แต่ชอบยี่ห้อที่พูดถึงมากกว่า............. 8)
-
ถ้ามีเงินก้อนเหลือใช้เหลือกิน อยากได้ GLC สักคันเป็นรถส่วนตัวของตัวเองสักคัน
-
ซื้อ eco car แล้วเก็บเงินที่เหลือไว้ลงทุนครับ 555555++++ ล้อเล่นน่ะครับ พอดีเห็นแบบที่ชอบตอบๆกันใน พัน.....
ปล. ถ้าคิดว่าไหว ก็จัดได้เลยครับ ขอแค่ไม่เดือดร้อนคนอื่น ก็พอแล้ว เงินเราจะใช้ก็สิทธิ์ของเราครับ
-
ไม่สามารถ หาเงิน ไว้เป็นค่า เมนเทนแนนซ์ได้
-
ไม่ เพราะส่วนตัวชอบรถสไตล์อเมริกัน ถ้าไม่มีพอก็จะขอใช้รถญี่ปุ่นนี่แหละ :-*
-
เงินซื้อยังพอมีหวัง ค่าบำรุงรักษาไม่น่าไหว ยาวๆนี้ยิ่งจุกจิกเลย เห็นลุงข้างบ้านบ่น จะออก mid size ญี่ปุ่นใหม่และ 555
-
ถ้าเกิดมีความพร้อมจริงๆ ก็คงจะจัดสักคันครับ แต่ต้องพร้อมที่จะดูแลรักษาอย่างดี โดยไม่ลำบาก คงจัด GLC250d AMG ละครับ ชอบมากๆๆๆๆๆๆๆ
-
ไม่ขอซื้อ แต่น่าจะลองเช่ามารับประสบการณ์รถยุโรปสัก 3-4 วัน ออกทริปตจว. สักหน่อยครับ เดี๋ยวนี้บริษัทรถเช่ามีรถยุโรปให้เลือกหลายรุ่นเลย
ไม่ซื้อเพราะค่าบำรุงรักษา รู้สึกไม่ค่อยคุ้มครับ :-\
-
เมื่อหลายปีก่อนผมเคยคิดแบบนี้แหละ
พอวันนี้มีโอกาสก็เลยซื้อมาใช้ถือว่าได้ทำตามความหวัง
แต่สรุป มันก็ไม่ได้ดีเด่นอะไรมากเลยครับ หลักๆได้แค่ภาพลักษณ์
ส่วนการใช้งานสำหรับผมที่ใช้งานบ้านๆทั่วไปบอกเลยว่ามัน
ไม่ต่างจากรถญี่ปุ่นทั่วไปหรอกครับ ถ้าอยากได้ก็ซื้อครับ
แต่สำหรับผมลองแล้วบอกเลยว่ามันก็ไม่เท่าไหร่ครับ บางอย่าง
รถญี่ปุ่นยังทำได้ดีกว่าซะอีก
ปล.ความเห็นส่วนตัวนะครับ
-
ผมมองว่าขึ้นกับเงินที่เรามีคับ
ถ้าผมมีบริษัทยอดขายต่อปีหลักร้อยๆ ล้าน กำไรปันทีเป็นสิบล้าน ผมก็ซื้อนะรถยุโรป
แต่ถ้าบริษัทผมยอดขายยังหลักสิบล้าน กำไรปันที่หลักล้าน ผมคงขอพวก D-seg หรือ PPV มากกว่า
เพราะควรเอาเงินไปต่อทุน ลงทุนต่อครับ
-
เฉยๆน่ะ รายรับต้องเหลือ
ปิดบ้านหมด ค่อยมองครับ
-
เกือบได้ซื้อครับ แต่ก่อนจะซื้อ นั่งคิด นอนคิด ตะแครงคิด ผมเสียดายเงินยังไงไม่รู้ ไม่ใช่รถไม่ดีนะครับ แต่เห็นค่าดูแลแล้วไม่ไหวจริงๆครับ ผมคงยังไม่ถึงกับคำว่าเงินเหลือๆ :P
-
จากที่ได้ลองใช้มา 2-3 คัน บอกได้เลยว่า รถยุโรปต่อไปจะเป็นเฉพาะ 2ประตูคับ 4ประตูไม่เอาละคับรู้สึกไม่ต่างกับรถราคาล้านกว่าคับ
-
สำหรับผมคงจัด BENZ ML ซักคันแบบว่ารถในฝัน และก็คงจะฝันต่อไป 555
-
GLE ก็พอครับ ใช้งานทั่วไป เป็นรถครอบครัวไปด้วย
แต่ถ้าความฝันจริงๆ คงไปพวก 911 GTS
-
ถ้าเหลือๆคงจัด 4 แกรนด์คูเป้..สรีระที่สวยงดงามพร้อมความปลอดภัย 8)
-
จัดแน่นอนครับ
-
ถ้ามีเงินเหลือ และมีโอกาสก็คงเลือก Volvo เพราะชอบในระบบ safety ของมัน แต่หลังจาก 5 ปี คงปวดหัวกับค่าซ่อมแน่ ๆ
แต่ถ้ามีแบบเหลือกินเหลือใช้ เลือกยุโรปอาจเป็นพวก 2 ประตู แต่คันไหนก็ไม่ทราบครับ
-
เคยขับรุ่นเก่าๆ ของ ญาติ ของเพื่อน
ไปไม่รด สักคัน ขายทิ้งหมด ถถถถ
เพราะ พังที หาซ่อมที่ไหนไม่ได้เลย
-
ถ้ามีโอกาส คงจัดแหละครับ
-
ถ้าทุกอย่างพร้อมก็จัดไปครับ
เคยคิดเล่นๆ เวลารถยุโรปตกหลุม ล้อรถจะขึ้นๆลงๆ ตัวรถนิ่ง
แต่รถญี่ปุ่นเวลาตกหลุม ตัวรถจะขึ้นๆลงๆ แต่ล้อนิ่ง 555
-
ถ้ามีเงินก็ไม่ใช้ครับกลัวข้างบ้านเค้าจะหาว่าเรารวยเกินไปเต็มที่ก็คงซื้อแค่ compact suv ญี่ปุ่นหรือก็แค่ d-segment พอ ^ ^
ปล.อีกอย่างซื้อรถแพง ค่าใช้จ่ายก็แพงตามไปด้วย ค่าประกันที่แพง ค่าซ่อมบำรุงที่แพง อะไหล่ที่แพงกว่า
-
ถ้าDefecน้อยเหมือนเจ้าตลาด อาจจะมอง
แต่คงไม่อยู่ดี เพราะซ่อมแพง
เว้นแต่ว่า เงินเหลือ ไม่รู้จะไปทำไรจริงๆ
-
จัดโดยไม่ต้องคิดเลยครับ อิอิ แต่ตอนนี้ยังต้องหาเงินก่อน
-
จ่ายเยอะกว่ามันก็ให้อะไรได้เยอะกว่าเป็นธรรมดาครับ ตรรกะ
ถ้าพอจะมีกินมีใช้ไม่เดือนร้อน ไม่แคร์ค่าเมนทีแนนซ์ จัดเลยครับ ชีวิตคนเราครั้งนึงจะซื้อจะเปลี่ยนได้ซักกี่คัน ลองคิดเล่นๆกว่าจะพร้อมกันก็เลขสามขึ้นซะส่วนใหญ่ พอเลขห้าชีวิต ทัศนะคติก็เปลี่ยนแล้วสายตาสุขภาพก็เป็นอุปสรรคอีก เรนจ์แค่ช่วงสั้นๆเอง
สมัยก่อนทำงานใหม่ๆผมก็คิดว่ามันสิ้นเปลืองนะ ถึงที่หมายเหมือนกัน รถยุโรป+ทะเบียนสวยๆ ไร้สาระมากส่วนนึงเพราะคิดปลอบใจตัวเองด้วย ::)
พอมาถึงจุดนึงก็คิดต่างว่าไม่ซื้อวันนี้จะไปซื้อมะไหร่พร้อมก็จัดเลย มัวแต่หาเหตุผลก็คงไม่ได้ซื้อแน่เพราะฝั่งญี่ปุ่นบวกลบคุณหารยังไงก็คุ้มกว่าเหตุผลดีกว่าแต่อารมณ์มันไม่จบนะ จะตอบแทนตัวเองบ้างไม่ได้หรือรางวัลชีวิตทำงานเหนื่อยไปเพื่ออะไร ดีกว่าเอาตังค์ไปเล่นหวยเล่นหุ้นหมดเปล่าๆ :-\ ซื้อรถถึงเวลาขายก็ยังเป็นเงินคืนกลับมา
อีกอย่างมันปลอดภัยนะ เล่าให้ฟังเล่นๆอย่างน้องผมขับไปชนท้ายสิบล้อเครื่องกระทุ้งเข้ามาติดขาคนขับเลย สายเบลก็ไม่คาดกระแทกพวงมาลัยยุบเลย ผมเรียกรถยกมา แล้วถามรถยกเล่นๆว่าพี่ว่าคนขับเป็นไงบ้าง คนขับรถยกทายว่าอย่างน้อยต้องแขนขาหักสาหัสแน่นอนจากประสบการณ์ ผมเฉลยว่ายืนอยู่ข้างผมนี่ไงพี่เขาก็เหวอไปพักนึง :o
ซ่อมคนอะไหล่ไม่มีและยังไงก็แพงกว่าซ่อมรถนะครับ ยุโรปซ่อนเหล็กไว้ในกันชนอย่างหนาเลย กับญี่ปุ่นซ่อนโฟมไว้ในกันชน ชนแค่หมายังแย่เลยจอดซ่อมหลายเดือนเลย ที่บ้านจากเคยใช้ญี่ปุ่น4ยุโรป1 ปัจจุบันเปลี่ยนเป็นยุโรป4ญี่ปุ่น1 ไม่คิดจะไปเล่นญี่ปุ่นแล้วครับ
-
ผมเชื่อเรื่องนึงครับคือบ้านเราเมืองร้อนดังนั้นผมจะเลือกรถที่เหมาะกับสภาพอากาศและการซ่อมบำรุงครับ แต่ถ้าใจรักและรับได้กับราคาขายต่อและค่าซ่อมบำรุงก็จัดเลยครับ (แต่เป็นผมมองLexus หรือ Subaru)
-
อย่าง Lexus Acura Infiniti เป็นรถชาติไหน แล้วเวลาเปรียบเทียบต้องเปรียบกับยี่ห้ออะไร
-
ส่วนตัวนะครับ ต้องมีเงินเหลือเยอะมากๆแล้วอยากได้มากๆถึงจะซื้อครับ ตอนนี้คิดว่ารถญี่ปุ่นก็เพียงพอแล้วจริงๆสำหรับการใช้งาน
-
คงไม่ครับ ;)
เด็กๆ รถพ่อ รถญาติๆ นั่งและขับมาเกือบครบทุกยี่ห้อแล้ว
โตมามีตังซื้อได้สบายๆ ก็เฉยๆ ครับ ขับ d หรือ c seg ญี่ปุ่นพอ ::)
จิงๆชอบพวก ห้าประตู ท้ายตัด คันสั้นๆ ใน กทม หาที่จอดง่ายดี ติดตรงที่หาคันที่นั่งสบายไม่ได้
ทุกวันนี่ใช้ camry โฉมที่แล้วและกระบะสี่ประตูขนของทำมาหากิน :-[
-
เคยเกือบได้ซื้อครับ
ข่วงนั้นหารายละเอียดตามเว็บเมืองนอกดู
พยายามดู ตามเว็บบอร์ดเมืองนอก
ว่ามีอะไรที่ complain บ้างไหม
ดู spec ดู option แล้วก็ดูราคา
เห็นราคาที่ต่างประเทศแล้ว เอิ่มมมมม
เลยไม่ซื้อครับ
เพราะเสียดายเงินเอาเงินไปทำอย่างอื่นน่าจะดีกว่า
-
จัดแน่นอนสิครับ มองค่ายใบพัดสีฟ้าอยู่
-
จากประสบการณ์ส่วนตัว มีโอกาสได้ครอบครอง bmw อยู่พักใหญ่ๆ บอกได้เต็มปากว่า รถมันดีมากในเวลาปกติและเวลาฉุกเฉิน คือในเวลาปกติเทียบกับรถaccord g9 ที่ใช้ปัจจุบันชัดเลยว่าต่าง ทั้งรอบเครื่อง การเข้าโค้ง การเบรค และในเวลาฉุกเฉิน รถมีส่วนช่วยมากครับ เคยเกือบหลุดโค้ง รู้เลยระบบsafetyรถทำงานเป็นยังไง หรือตอนโดนชน รถเราแค่ถลอกแต่คู่กรณีด้านหน้ายุบหมด แต่ถ้าพูดถึงค่าดูแลต่างคนต่างความคิดครับ ผมใช้ช่วง5ปีแรก bsiดูแลตามโปรแกรม แต่หลัง5ปีก็จ่ายเองครับ บอกเลยค่าใช้จ่ายมีทุกเดือนครับ หลักพันถึงหมื่นสูงสุดสามหมื่นกว่าต่อครั้ง (พอดีที่บ้านมีรถหลายคันและสลับใช้แต่ระยะทางใช้แต่ละครั้งไม่ได้ไปไกล หัวหน้าศูนย์ที่สนิทกันเคยบอกไว้ว่า รถพวกนี้ ***ใช้มากเสียน้อย ใช้น้อยเสียมาก*** คือบอกเลยใช้เต็มที่เหยียบอัดบ้างเล่นเกียร์บวกลบบ้าง จอดบ่อยๆขับถนอมๆพังเร็วครับ) แต่นั่นคือช่วงที่ไม่มีลูก เป็นการใช้ชีวิตตามที่ฝัน พอมีลูกการไปนั่งกินกาแฟรอserviceรถเริ่มไม่ได้ละ อีกอย่างค่าซ่อมรถปีละหลายหมื่นเลยคิดว่าเก็บให้ลูกดีกว่า แต่ยังไงก็อดมองตามทุกครั้งที่เห็นไม่ได้เลย เดี๋ยวได้โอกาสจะพาเข้าบ้านอีกครั้งเลย # เมื่อก่อนเคยมีคำกล่าวไว้ว่า ถ้าขับยุโรปแล้วมาขับญี่ปุ่นจะไม่อยากขับเลย ดูจะเป็นจริงสำหรับผมครับ #
-
จัดสิครับ เงินเรา เราหา เราใช้อยู่ในขอบเขต ไม่มีใครเดือดร้อน
ปลายเดือน พึ่งซื้อ S80 มือสองให้พ่อใช้ ราคาถูกว่า d-seg ญี่ปุ่นที่ปีเท่ากันพอสมควร
เปลี่ยนอะไหล่ไปประมาณ หมื่นกว่าบาท ใช้ได้อีกยาว รวมแล้วก็ถูกกว่ารถมือสองญี่ปุ่น เกือบแสน
ที่สำคัญ คุณพ่อชอบมาก
-
ถ้ามีโอกาศอยากลองรถของทุกประเทศเลยครับ เพราะรถทุกยี่ห้อจะมีบุคลิกไม่เหมือนกัน และดีแตกต่างกัน อยู่ที่ความกล้าที่จะเสี่ยงไม่ต้องมือหนึ่ง ถ้าได้สิ่งที่เราต้องการมาอย่างน้อยก็ไม่ต้องเดา หรือคิดไปเอง ไม่ต้องฟังคนอื่น หรือเขาว่า แต่ถ้าอยากได้เพราะภาพลักณ์ ผมว่าอย่าเลย ไม่คุ้มซักเท่าไหร่
-
ถ้ามีโอกาส อยากลองกลับไปใช้รถญี่ปุ่นบ้างครับ อยากรู้ว่าใช้แล้วค่าmaintenanceจะเป็นยังไงบ้าง คันปัจจุบันไม่เสียอะไรมากเพราะยังอยู่ใน BSI แต่คันเก่า เรียกได้ว่าทำทั้งคัน เปลี่ยนมันทุกอย่าง มีแค่ตัวถังที่ใช้ของเดิมอยู่ 555
-
เมื่อสองปีที่แล้ว ผมไปลองขับ mazda3, TeanaตัวTop กับ 116i, 320i
ผมลืมสองคันแรกไปเลยครับ ตอนนี้ใช้ 320i มาสองปีแล้ว ก็ยังรู้สึกสนุกที่ได้ขับอยู่
ว่าจะเอาไปจูน ECU แต่ยังไม่หมด BSI :)
-
ถ้าแค่มีโอกาส สามารถซื้อได้ ก็ไม่เอาครับ ถ้าว่ากันที่ราคาเมืองไทย รถยุโรป 1 คันแปลงร่างเป็นรถญี่ปุ่น 2-3 คันและตรงตามความต้องการผมเป๊ะๆได้
ยกเว้นว่าเงินเหลือจริงๆแบบถูกรางวัลที่ 1 พิเศษสามสิบล้านอันนั้นก็เอาอยู่
-
แต่ก่อนผมขี้เหนียวเรื่องรถมากคับ เริ่มมีเงินบ้างก็ไม่มองพวกรถยุโรปเลย แต่จุดเปลี่ยนคือ ผมเจอมากับตัว ผมรู้เลยว่าระบบของมันปกป้องชีวิตเราได้จริงๆถึงจะไม่ได้การันตีว่าจะไม่ตาย
แต่มันก็ไว้ใจได้ทำหน้าที่ของมันได่ดี ตอนก่อนจะมีรถคันแรก ก็คิดว่ารถไรก็ได้ขอแอร์เย็นพาเราจากจุดAไปBได้ก็พอ พอเจออุบัติเหตุทางรถยนต์กับตัว ถึงได้เปลี่ยนความคิดไปเลย ถึงแม้มันจะค่าดูแลรักษาแพงไปบ้าง แต่ถ้าท่านมีเงินเหลือและไม่เดือดร้อน ในระยะยาวก็ เป็นของขวัญให้กับชีวิตก็ไม่เลวนะ และรถพวกนี้ มันมีคุณค่าทางจิตใจพอสมควร
-
จัดครับถ้าเงินพร้อมอะไรพร้อม Alfa romeo 4c น่าจัดมาก
-
ถ้ามีเงินถุง เงินถังนะครับ อยากจะจัด Porsche Cayman GT4 สักคันครับ สวยมาก ผมชอบ
-
ถ้าเงินเหลือจริงๆคงจัด พวก Lexus maserati ครับอิอิ
ปล.ถ้าเงินไม่มากแต่มีเยอะ คงเอา Benz ครับ
-
เคยใช้แต่รถญี่ปุ่นถ้าจังหวะเหมาะก็อยากลองจัดซักคันเหมือนกัน
แต่ว่าขอถามเรื่องค่าใช้จ่ายต่อเดือนหน่อยครับ
GLA250 กับ 118i msport 2 ตัวนี้ถ้าใช้ซัก 10 ปีจะมีค่าใช้จ่ายต่อเดือนไม่รวมค่าน้ำมันประมาณเท่าไหร่ครับ คิดเฉพาะค่าซ่อมค่าประกัน
-
มีงบประมาณเยอะ ซื้อแน่ๆ ต้องคิดเรื่องค่าบำรุงรักษา ค่าประกันด้วยครับ
-
ไม่ครับ ใช้แมวSTI ต่อครับ
-
ต้องมีเงินถุงเงินถังแบบว่าไม่รู้จะเอาไปทำไรอ่ะงั้นถึงน่าเล่น ถ้าเล่นไปกังวลค่าซ่อมไปใช้รถไม่มีความสุขหรอก
-
ถ้ามีเงิน คงซื้อครับ แต่อาจจะไม่ได้ซื้อป้ายแดงนะครับ ดูเป็นกลางเก่ากลางใหม่นะครับ ใช้ซัก 2-3 ปีแล้วขาย (ถ้าไม่ต้องดิ้นรนผ่อน) แต่เกิน 5 ปีคงไม่หละครับ ค่าซ่อม ค่าเสื่อมสภาพ รับไม่ได้จริงๆ ในเงินเท่ากันผมอาจยินดีจ่ายเงินให้กับ Subaru บางรุ่นมากกว่าด้วยซ้ำ เพราะอย่างน้อยๆ อู่ซ่อมที่ผมรู้จักก็เยอะกว่า ซนเล่นได้ เรื่องการขับก็ไม่ได้หนีกันมาก เพราะผมเคยมีโอกาสไปเรียนขับรถ พอขับ C180 W204 เสร็จ แล้วผมก็โดดไปขับ Subaru Forester XT Turbo ทันทีในช่วงเวลาห่างกันไม่ถึงชั่วโมง ผมเลยยินดีจ่ายรถญี่ปุ่นที่แพงได้ เพราะรถมันดีจริงๆ W204 มันไม่ได้แย่นะครับ แต่ผมรู้สึก Happy กับ Subaru มากกว่า แต่รถยุโรปที่อยากได้จริงๆ คงต้องพวก 911 GT3RS หรือพวก Cup Car ยี่ห้ออื่นๆก็ได้ ซึ่งมันก็เกินเอื้อม คงได้แต่ฝันต่อไปครับ :'( :'( :'(
-
ปัญหาคือไม่มีเงิน มีเงินเย้อะๆ ก็อยากลองทุกอย่างครับ ไม่เฉพาะรถ
เช่น
บ้าน
ที่ดิน
ทอง
ห้างสรรพสินค้า
และ
เมียเย้อะๆ
-
ถ้าซื้อก็คงขายตอนหมด bsi อ่ะครับ ไม่อยากแบกภาระเรื่องซ่อมบำรุง
-
ต้องมีแน่นอนครับ จะมือหนึ่งมือสอง ผมก็จะเอา สักคันหนึ่งในชีวิต ไม่ต้องถามเหตุผลเพราะว่าถ้าซื้อด้วยเหตุผลอารมณ์ก็ไม่จบอยู่ดี
-
อยากจัดอยู่ครับ รอดูงบก่อน ฮาๆ