Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: final ที่ มีนาคม 21, 2016, 18:18:53
-
ประหยัดกว่าทุกกรณี ทั้งในเมืองและนอกเมือง
สำหรับในเมือง โอเคว่าอาจจะเพราะเป็นเครื่องใหม่ฉีดตรง แต่ Civic ต้องแบกน้ำหนักรถที่มากกว่า ราวๆ 200 กก. มันก็น่าจะกินพอๆ กัน
สำหรับนอกเมือง Civic น่าจะกินกว่าด้วยซ้ำ เพราะเมื่อเทอร์โบทำงาน รถแรงกว่า อากาศเข้ามากขึ้น น้ำมันก็ต้องเข้ามากขึ้น แต่ตามข้อมูลกลับประหยัดกว่า
ขอความรู้ด้วยครับ
-
ถ้าเป็นอย่างนั้น ก็ประหยัดกว่า 1.5 อีโคบูสเยอะเลยสิ
-
ระหว่างรอเอาไปดูเล่นพลางๆครับ
https://www.youtube.com/watch?v=2lO5CNEEXvQ
ไม่ใช่เอาเครื่อง 1.5 เดิมมาใส่ turbo เฉยๆ
-
ถ้าประหยัดกว่า city นี่บางทีอาจจะเกย eco car ได้เลยนะ
เคยขับ city แบบมุ้งมิ้งๆ ไปอยุธยา ได้ 18-22 โลลิตรแหนะครับ
-
ลองใช้จริง ๆ เถอะครับ จะรู้ว่า ในเมืองไม่ประหยัด แต่นอกเมืองประหยัดกว่าตัวธรรมดาแน่นอน....จอด ออกตัวบ่อย กินมาก ...ธรรมชาติของเทอร์โบครับ
-
เค้าแปะไว้ยังไงครับพอมีรูปมั๊ย
-
ต้องดูว่าบูสมาที่รอบเท่าไร 2000-3000 เเต่เชื่อว่าถ้าขับในเมืองน่าจะกินกว่า เเจ๊สชิตี้ อีกอย่างเครื่อง 1500 Turbo ก็มีเรี่ยวเเรงเท่ากับเครื่อง 2400 อาจจะไม่ต้องกดมากก็เลยประหยัดขึ้น
อีกอย่างเครื่อง Turbo ที่เข็ตมาดีๆๆ คงไม่กินมากเท่าไร อีกเรื่องการที่เครื่อง Turbo มีอากาศเข้าเยอะไม่ได้หมายความว่าน้ำมันจะต้องเยอะตามนะครับ
ด้วยพิ้นฐานอัตราส่วนไอดี จะอยู่ที่ 14.7:1 พอรอบสูงขึ้นส่วนผสมจะเริ่มหนาขึ้นเพราะเครื่องธรรมดาไม่สามารถน้ำอากาศมาเพิ่มได้
ไอดีจะหนาขึ้นทำให้พลังงานลดลง จนถึงขีดสุดของเครื่องยนต์ Turbo จะมาช่วยเสริมตรงนี้โดยการอัดอากาศให้เข้าไปผสมไอดีให้สมบูรณ์มากขึ้น
โดยทั่วไป อัตราส่วน 14.7:1 จะมีการเผาไหม้ที่สมบูรณ์ที่สุด เเต่ถ้าเรายิ่งอัดอากาศมากขึ้นเท่าใดพลังงานความร้อนจะเพิ่มมากขึ้นด้วย
อาจจะเป็น 20:1 25:1 จะเเรงกว่า 14.7 มาก เเต่เครื่องจะทนไม่ไหวจะพังซะก่อนเพราะไม่ได้ออกเเบบมาให้ทนเเรงอัดขนาดนั้น
หรือทำให้เข้าใจง่ายๆๆ เครื่อง Turbo จะช่วยให้ไอดีมีความสมบูรณ์ ในรอบทำงานของมันได้กำลังอย่างที่ควรจะเป็น(หรือมากกว่า) ส่วนเครื่องธรรมดายิ่งรอบสูงเเรงยิ่งตกให้กินเยอะก็ไม่ได้เพิ่มกำลังอะไรมากมาย เเต่ต้องเช็ตมาดีๆๆนะ
-
http://www.car.go.th/new/compareCar
เลือกยี่ห้อ รุ่น มีเยอะครับ
มีรายละเอียดแต่ละมาตรฐานในการวัดและทดสอบด้วยครับ
-
ผมว่าน่าจะประหยัดอยู่ CVT ช่วยได้เยอะ
ขนาด 1.8 อัตราเร่งยังดีเลย
-
ผมว่าน่าจะประหยัดอยู่ CVT ช่วยได้เยอะ
ขนาด 1.8 อัตราเร่งยังดีเลย
แล้ว ซิตี้ แจ๊ส มันไม่ใช่ cvt หรืองัยครับ
-
เท่าที่ตามดู civic มา ตัว turbo นี้ประหยัดน้ำมันอยู่ครับ (แต่พอกดปุ่ม eco เวปนอกเขาบอกกันว่ามันกินกว่าแบบไม่กด eco อาจเพราะต้องกดคันเร่งหนักขึ้นตอนออกตัวเนื่องจากไม่ทันใจก็เป็นได้)
รายละเอียดเครื่องยนต์ลองอ่าน link นี้ดูครับ (Credit: www.civicx.com)
http://www.civicx.com/threads/2016-honda-civic-1-5t-and-2-0l-engines-technical-presentation-specs-pics-videos.454/
มีเวปรีวิวของต่างประเทศทำการทดสอบอัตราประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงให้ชมกันละครับ (Credit: The Fast Lane Car)
Cruise @75mph(120km/h)
https://www.youtube.com/watch?v=Fi252BqN02c
ส่วนสองอันนี้เป็นการอธิบายการออกแบบเครื่องยนต์ตัวนี้กับ Chief Powertrain Engineer คุณ Yuji Matsumochi ครับ
https://www.youtube.com/watch?v=vNBGrvpO05g
https://www.youtube.com/watch?v=CpXL-fTEoIc
ปล. ผมพยายามฟังแล้วแต่ไม่รู้เรื่องครับ ไม่มีความรู้ด้านเครื่องยนต์กลไกสักนิด
-
ผมว่าน่าจะประหยัดอยู่ CVT ช่วยได้เยอะ
ขนาด 1.8 อัตราเร่งยังดีเลย
แล้ว ซิตี้ แจ๊ส มันไม่ใช่ cvt หรืองัยครับ
ผมเอาไปเทียบกับเเจ๊ส ซิตี้ ตรงไหน
ความหมายของผมคือ มันเปลี่ยนมาใช้ cvt ไม่ใช่ At ธรรมดา ที่1.8เคยใช้
-
ขนาด FB 1.8 ยังได้ 16 กม/ลิตร ตามมาตรฐานการทดสอบเวปนี้
jazz 15.96 city 16.18 เท่ากับประหยัดพอๆกัน ทั้งๆที่ FB เป็นเครื่องเก่าหนักกว่าและได้เกียร์แบบปกติ jazz city ได้ cvt และเบากว่า
1.5 turbo เป็นตัวที่พัฒนาขึ้นมาใหม่จะประหยัดกว่าเครื่องเก่าก็ไม่แปลก
-
อัตราสิ้นเปลือง ไม่เคยตรงกับใช้จริงอยู่แล้ว รอรีวิวดีกว่าครับ
-
ผมว่า คนที่ซื้อรุ่นนี้ คือ อยากเหยียบ มากกว่านะ อิๆ
-
รอรีวิวครับ ถ้าบูสมาแบบซิลฟี่นี่ไม่เหลือแน่นอน
แต่ผมว่าไม่ใช่แน่ๆ