Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: H3T ที่ มีนาคม 25, 2016, 10:55:45
-
เครื่อง 8NR-FTS ขนาด 1.2L ให้กำลัง 116 แรงม้า 185 Nm / 1500 - 4000 rpm
ปัจจุบันอยู่ใน Auris 120T JDM ปล่อย Co2 อยู่ที่ 106 g/km
คำถามคือ แล้วคนไทยจะได้ใช้เมื่อไหร่ ?
CH-R
โอกาสจะมาเป็น Hybrid สูงมาก แต่จะมีรุ่นเครื่องเบนซินมาด้วยหรือเปล่า
ตลาดโลกจะมี 3 แบบ
- Hybrid
- 1.2L turbo
- 2.0L แว่วว่าจะเป็น 3ZR
ถ้า CH-R จะมีรุ่นเครื่องเบนซิน นี่ก็เป็นโอกาสของ 1.2 turbo อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เหตุผล
1. เครื่อง 2.0L รหัส 3ZR ไม่มีในรุ่นอื่นที่ประกอบในบ้านเราเลย ถ้าจะเปลี่ยนเป็น 6AR-FSE ใน Camry ผมมองว่าไม่ใช่ทางเลือกที่ดีเลย อย่างน้อยการเอาเครื่องที่ไม่ได้ออกแบบไว้ในรถรุ่นหนึ่งๆมาลง ต้องมีการลงทุนพัฒนาเพิ่มเติม ซึ่งไม่ใช่วิสัยของ Toyota
2. เครื่อง 8NR ถูกออกแบบไว้ทดแทนเครื่อง 1.5L- 1.8L ในอนาคต ดังนั้นวันนึงก็ต้องทยอยเข้ามาทดแทนในรุ่นต่างๆ ข้อดีคือการแชร์กันได้หลายรุ่น ย่อมเป็นผลดีต่อการบริหารจัดการต้นทุนรวมจนไปถึงการซ่อมบำรุงหลังการขาย
ลองคิดแบบคร่าวๆ ลำดับการวางเครื่อง 8NR-FTS ในไทย โดยในแต่ละรุ่นอาจจะจูนกำลังเครื่องยนต์แตกต่างกันไปตามความเหมาะสม
1. CH-R MY2018
2. Corolla Altis Model change 2019
3. Eco car 2 MY2019
มีความเป็นไปได้ว่า อาจจะทดแทน B Segment 1.5L ด้วย Eco car 2 ไปเลย
แลกเปลี่ยนกันดูครับ
-
ราคาขาย ก็คร่อมๆ กันอยู่ ระหว่าง eco car ตัวท้อปๆ กับ B Segment ตัวล่างๆ-กลางๆ
-
ผมขับสองพัน จะเจอพันสองสวนก็คราวนี้แหละ ::)
-
ผมขับสองพัน จะเจอพันสองสวนก็คราวนี้แหละ ::)
แหมม ไม่ขนาดนั้นมั้งครับ 5555
แต่พวก 1.5 หายใจธรรมดา มีเสียวฮะ
-
เครื่องตัวนี้ไม่แรงขนาดนั้นครับ พอๆกับเครื่อง 1.6-1.8 NA
เห็นเมืองนอกเทสใน auris 0-100 ใช้เวลา 10-11 วินาที
แต่อัตราสิ้นเปลืองอยู่ที่ 4.7/100km น่าจะประหยัดแถวๆ 17-20 km/l ถ้าเอามาเทสแบบ headlightmag
-
ผมมองต่างนะ
ผมว่าตัวนี้แนวโน้มน่าจะเอามาลง ใน Vios และ Altis ครับ
เพื่อทำให้เป็น Eco car P.2
toyota ก็จะได้กำไรมากขึ้น
ได้ประโยชน์สุดๆ
ส่วน Yaris ก็ได้ 1.2 ธรรมดาที่ลด Co2 ลงไป
แต่ที่ห่วงคือ แล้วรถ Taxi จะเอาจากที่ไหนมาขาย
เพราะยังใช้ กฎหมายโบราณคือ ต้องเครื่อง 1.6 เท่านั้น
-
B-Seg กับ Eco car ไม่น่าจะใช้เครื่องยนต์เดียวกันนะครับ เวลาทำตลาด จะทำยาก เพราะคนจะมองว่าไม่ต่าง
ครั้งจะเอา B-Seg เข้า Eco car ไปด้วยเลย แล้วจะทำตลาด Vios / Yaris ยังไงครับ หรือจะทำแบบ Mazda ที่เป็นตัวเลือก sedan กับ HB ไป เพราะจริงๆในตลาดโลกก็ถือเป็นตัวเดียวกันอยู่แล้ว
แต่กว่าจะมี Eco Car ของ Toyota คงอีกนานครับ ยี่ห้อนี้คงปล่อยให้เจ้าอื่นทำกันไปก่อน แบบตอน เฟสแรก
-
Altis ไม่น่าจะใส่มานะครับเพราะแท็กซี่ต้อง1500ccขึ้นไปน่ะครับ คงมากับb segกับ eco carมากกว่า
-
ผมคิดว่า toyota น่าจะพัฒนา 1.5 turbo ออกมาใช้มากกว่า เพราะสามารถใช้เป็น สหกรณ็ได้เยอะรุ่นกว่า
-
ก็แอบลุ้นครับ ตลาดรถญี่ปุ่นเครื่องเทอร์โบเพิ่งเริ่มมาทำในบ้านเราหมาดๆเลยครับ อาจเร็วกว่าที่คิดๆกันก็เป็นได้
-
เห็นด้วยครับว่า Eco car phase 2 และ phase ต่อๆ ไป จะเข้ามาแทนที่หรือควบรวมกับ b seg ทั้งขนาดและ ราคา เนื่องด้วยต้นทุนการผลิตให้เข้าข้อกำหนดมลพิษ และความปลอดภัย
สำหรับ C-hr ถ้ามาปี 2018 จริง ก็น่าลุ้นว่าจะได้ใช้เครื่อง 1.2 turbo เพื่อให้แบรนด์ดูมีความทัดเทียมด้านเทคโนโลยีกับค่ายอื่นๆ แต่ถ้ามาภายในปีนี้ หรือปีหน้า คงได้เจอกับ 1.6 หรือ 1.8 NA ในอัลติสแน่เลยครับ เพราะในตลาดบ้านเราไม่มีคู่แข่ง crossover เครื่อง turbo เลย(ถ้าไม่นับ MG GS)
ส่วน Altis model ถัดไป ถ้ามาไล่เลี่ยกับ C-hr ในปี 2018 คงได้ใช้ 1.2 turbo เช่นกัน แต่อาจเป็นตัว Top เพื่อให้เครื่องมีความเป็นสหกรณ์ และยังคงมี 1.6 NA สำหรับ Taxi (เชื่อว่าตอนนี้ TMT กำลังจับดูว่า Civic 1.5 turbo จะรุ่งหรือร่วง ถ้ารุ่ง TMT ตามเทรน downsizing ในไม่ช้าแน่นอน)
ส่วน toyota eco car คงไม่ใช้ เครื่อง 1.2 turbo นี้ แต่อาจจะซุ่มพัฒนา 1.0 turbo เพื่อรองรับรถขนาด A ,B seg ,mini mpv ในอนาคตก็เป็นได้ เหมือนที่ปัจจุบันมีทั้ง 1.5 , 1.6 NA ครับ
-
วีออสกับยาริส ตัดไปได้เลย พึ่งเปลี่ยนเครื่อง อัลติสก็เช่นกัน ใช้เครื่องนึงไม่ถึง 10 ปีไม่ใช่โตโยต้า
โตโยต้าคงรอดูผลตอบรับในวันที่ CH-R มา ถ้าคนให้การสนใจเทอร์โบ อย่างยอดจอง civic ดี อาจนำเครื่องนี้มาลง แต่ถ้างั้นๆ อาจอยากลองวัดใจกับไฮบริดอีกครั้ง แต่เชื่อแถอะ คนไทยชอบเทอร์โบมากกว่าไฮบริด แต่ดูสเปคเครื่องตัวนี้ ไม่คณาเท้าคนไทย อาจมีเวอร์ชั่นอัพ cc เป็น 1500
-
้รอลุ้นครับ ถ้าไฮบริดก็ขายไม่เปรี้ยงแน่ๆ ถึงเปรี้ยงก็แค่แรกๆแล้วก็หาย