Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: waitdrive ที่ มีนาคม 26, 2016, 10:12:47
-
ชอบรถรุ่นหนึ่งของแบรนด์หนึ่ง แต่ในเว็บคลับ เจอดีเฟคท์หลายคน ในรีวิวของ hlm ก็มีพูดถึงนิดหน่อย อยากขอคำชี้แนะด้วยครับ
-
ต้องดูว่ามี defect ตรงไหนและรับได้รึเปล่า ??
ส่วนตัวถ้าผมเจอแบบนิดๆหน่อยๆ พอที่จะเอาไปแก้ไขเองได้ทีหลัง และไม่มีผลต่อการขับขี่และความปลอดภัย........ผมก็รับได้ครับ ไม่ Mild
-
คิดว่าไม่น่าซื้อเลยย
คุณป้าผม ซื้อรถรุ่นนุง ตอนนี้ขายไปและ เพราะสามปีมานี่ซ่อมบ่อยมาก และยังมีปัญหาที่ดังๆกันอีกถึงบริษัทจะยืดระยะประกันมาก็ไม่สนเพราะถึงเวลาของชิ้ยนี้มันก็เสียอีก ไม่มีทางที่มันจะไม่เสีย
นึกก็เสียดายครับ สวย ขับดี แต่ออกแบบตรงนั้นไม่ได้เรื่องจริงๆ
-
ขึ้นกับดีเฟคที่ว่านั่นละครับ
เอามาชั่งน้ำหนักกับข้อดี แล้วก็เทียบกับรุ่นอื่นยี่ห้ออื่น
คือถ้ามันมียี่ห้ออื่นที่สวยพอกัน ขับดีพอกัน แต่ไม่มีดีเฟค มันก็น่าสนใจกว่า
-
สำหรับรถยนต์ แล้ว
หน้าที่ของรถยนต์ที่ดี คือ ใช้งานได้ดี ด้วยการบำรุงรักษาอย่างปกติ
โดยที่ไม่ควรจะมีปัญหาจุกจิกระหว่างการใช้งานของเจ้าของครับ
-
จุดประสวค์ของการซื้อรถคือ ซื้อให้มันมารับใช้เรา อำนวยความสะดวกให้เราครับ
ไม่ใช่เสียเงินหลายแสนหรือเป็นล้านแล้วต้องมาปวดหัว เข้าๆออกๆ เถียงทะเลาะกับบริษัทรถเพื่อแก้ดีเฟคท์
แก้จบยังดีแต่มีหลายๆเคสแก้ไม่จบ
-
ดีเฟคถ้าเกี่ยวกับเครื่องและเกียร์เหมือนฟอร์ดและเชฟผมก็ขอบายนะ ไม่อยากเป็นขวัญใจรถยก ส่วนฮอนด้าที่ผมใช้อยู่นั้นจะเจอพวกเสียงก๊อกๆแก๊กๆมากกว่า ตรงนี้สำหรับผมรับได้ แม้ว่าด้านอื่นๆจะแย่ก็เหอะ
-
ถ้าเป็นกลิ่นเข้า บลูทู้ธ ทำงานผิดปกติ แบบนี้พอรับได้ครับ แต่ถ้าวิ่งๆ อยู่แล้วน็อคกลางอากาศนี่ขอบายครับ
-
มันเป็นความจริงที่โหดร้ายมาก
-
ซื้อมาขับ หรือซื้อมาซ่อม?
Defect ขึ้นอยู่กับอะไรครับ ถ้าไม่ใช่ประเด็นความปลอดภัย เช่น คอนโซลดัง กระจกค้าง แอร์เหม็น พอรับได้
(ความปลอดภัยนี่หมายรวมถึง ดับกลางอากาศ อะไรพวกนี้ด้วยนะ ไม่ใช่โครงสร้างอย่างเดียว)
รองลงมาก็พวก อะไหล่เสื่อมไว ชิ้นส่วนด้อยคุณภาพ ถ้าไม่อันตรายแค่อ้อนนิดๆ แล้วรถมีดีจริงๆ ผมก็พอเสี่ยงได้
-
ถ้าชอบและอยากได้จริงๆ ก็จะรอตัว MinorChange ตัวปลายอายุครับ เพราะน่าจะแก้ไขหมดแล้ว
แต่สุดท้ายก็คงไม่เอาครับ เพราะเราไม่ได้เน้นใช้ความเร็วสูง เข้าโค้งแบบไม่แตะเบรคขนาดนั้น (แก่แล้ว)
สุดท้าย(ส่วนตัว)ก็เสร็จรถตลาดอยู่ดีครับ
8) 8) 8)
-
อยู่ที่ว่าทำใจยอมรับ Defect ได้แค่ไหน
-
ดีเฟคในส่วนสำคัญ ไม่ถือว่าเป็นรถขับดีครับ :-X
-
ของแบบนี้ไม่เจอกับตัวไม่รู้หรอก ดูแล้วมันง่ายๆเสียก็ซ่อมไป พูดง่ายแต่ทำยากนะ เสียเวลาด้วย
ไว้เป็นเจ้าของจะรู้ว่าเจ็บ เหนื่อย เสียความรู้สึก ยิ่งรถใช้น้อย บ่นไปก็ไม่มีคนเข้าใจหรอกครับ บางครั้งบางคนไม่ตายคาที่ก็ไม่รู้ว่ารถผิดปกติ
-
อย่างที่หลายๆ ท่านกล่าวไว้ครับถ้าเป็นดีเฟคเกี่ยวกับเครื่องเกียร์ระบบความปลอดภัยผมไม่เอาแน่นอน ส่วนดีเฟคอื่นๆ ก็แล้วแต่ว่าเรารับได้แค่ไหนครับ
-
ต้องดูเป็นกรณีๆไปครับ หากเล็กน้อยแล้วรับได้ก็ผ่าน แต่หากมันเสี่ยงอันตรายถึงชีวิตได้ก็จบข่าว
-
มันขึ้นอยู่กะคนและรถ ว่าเคมีเข้ากันได้มั้ย(เกี่ยวมั้ย) รับไหวหรือป่าว
บางคนเจอนิดหน่อยรับไม่ได้แล้ว รำคาญเสียเวลาในชีวิต
บางคนเจอหนักแต่รับได้ เพราะ บ.รถเคลมแก้ให้ได้หมดทุกอย่าง และคุณงามความดีตัวรถ คือรักรถเข้าให้แล้วครับ
-
trailblazer ผมไม่สงสัยเรื่องสมรรถนะ และความมั่นคงของช่วงล่าง
แต่ดับกลางอากาศ สตาร์ตไม่ติด
และยังมีจุกจิกอีก
คำขวัญที่ว่า "ขวัญใจรถยก" ผมเจอมากับตัว
บอกตรง ๆ ว่าไม่กล้าซื้อเชฟแล้วจ้าาา
-
รถทุกรุ่นทุกยี่ห้อมันก็มีดีเฟคท์หมดแหละครับ เพียงแต่ว่าอยู่ในระดับไหน
ถ้าอยู่ในระดับเล็กๆแค่ประกอบไม่ดี มีเสียงจุกจิก พอรับได้ครับ
แต่ถ้าประเภทดับกลางอากาศ สนิทกับรถยก สามวันขับสี่วันนอนอู่แบบนี้ก็คงไม่เอาครับ
-
ถ้าดีเฟคที่เครื่องกับเกียร์ผมไม่ซื้อครับ
ถ้าเป็นจุดอื่นพอยอมรับได้
-
Major defect พวก ระบบเครื่องยนต์ เกียร์ ระบบความปลอดภัย ไม่เอาแน่นอน
Minor defect เช่นการประกอบไม่เรียบร้อย part บางชิ้นเสียง่าย อันนี้ทำใจยอมรับได้
-
ถ้ามีดีเฟค แล้วมีการแก้ปัญหา โดยไม่นิ่งนอนใจ
สำหรับผมรับได้ครับ
แต่ถ้านิ่งเฉย ทิ้งเวลาให้ผ่านไปเรื่อยๆ สนแต่จะขายรถใหม่อย่างเดียว
อันนี้ก็ไม่ควรจะเข้าไปยุ่งเกี่ยวด้วยครับ
คราวนี้ก็ต้องมาดูประกอบว่าเรายอมรับ กับดีเฟคนั้นๆ ได้หรือไม่
-
จากที่ผ่านมาใช้รถยี่ห้อเจ้าตลาดมาตลอด ไม่เคยมีปัญหาอะไรเลย
ถ้าสวย ขับดี และชอบจริงๆ เป็นผมผมซื้อครับ
แต่ . . . ต้องเป็น defect ที่ไม่ส่งผลให้เกิดอันตรายขณะกำลังขับขี่
เช่น เครื่องดับ พวงมาลัยล็อค เกียร์เข้าไม่ได้ บลาๆ
และศูนย์ต้องไม่งอแงและแก้ไขให้จบได้เร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้
ตอนออกรถใหม่ๆ ก็ยังไม่ทราบข้อมูลเรื่องปัญหาประจำรุ่นเท่าไหร่นะครับ
จนกระทั่งเกิดขึ้น จึงพยายามหาข้อมูลจากคลับ และแก้ปัญหาไปเรื่อยๆ
เครื่อง 2.2 Puma สนิมหัวฉีด ประเก็นฝาหน้าเครื่องซึม ท่ออินเตอร์แตก
คลัชจม โช้คอัพซึม เจอมาหมดแล้วครับ แต่ยังถือว่าดีตรงนี้ศูนย์ไม่งอแงและแก้ให้จบ
ไม่เคยคิดว่า "คิดผิดที่ซื้อ" เพราะข้อดีก็ยังทำให้ประทับใจอยู่
ตอนนี้ไม่มีปัญหาอะไรแล้วครับ โอเคทุกอย่าง
-
Defect ในความหมายของคุณแปลว่าอะไรและในมิติไหน?
Concept defect
Design defect
Requirement defect
Quality defect
Spare Path defect
Delivery defect
Communication defect
Etc,
ผมเห็นพูดกันมาเยอะ แต่ไม่เคยเข้ากันตรงกันหรอก
เช่น. หากคุณหมายถึง รถมันเข้าโค้งแล้วรถมันโยนๆกว่าปกติ. เป็นdefect มั้ย?
ดับกลางอากาศเป็นdefect ? ขับแล้วเกียกะตุกละ? เสียงเกียcvtมันเหมือนรถไม่มีแรงละ?
ซีลเกียรั่วเป็นdefect ?
ปกติก่อนจะdefine ว่าเป็นdefect จะต้องมาverifyก่อนครับว่าincident นั้นมันคืออะไร
ไม่ใช่อะไรที่ไม่ตรงกับที่คิดไว้เป็นdefect หมด เพราะอาจจะเกิดจากการใช้งานเกินข้อจำกัด การด้อยคุณภาพ ของชิ้นส่วน ความคาดหวังสุงในผลิตภัณนั้นๆเกินไปหรือแม้กระทั่งการเข้าใจผิดของผู้ใช้เอง
ขอยกตัวอย่าง
ผมเคยใช้รถรุ่นหนึ่งป้ายแดง ค่ายยุโรปดัง ผมใช้18เดือนจนมั่นใจว่ารุ้จักมันดีพอแล้วขายทิ้ง
ด้วยเหตผล มันไม่ได้ขับมัน เข้าโค้งแรงๆก็ยังมีอาการ เข้าศุนย์เจ้าหน้าที่พยายามถามอาการ ไปเก็บอาการด้วยกัน บอกปกติ.ผมคิดว่ามันไม่เป็นไปตามที่คาดหวังกับเงินที่เสียไป
แบบนี้ผมเรียกdefect เหมือนกันครับ เพราะคาดหวังสุงกว่าความสามารถของรถ
-
ต้องดูว่ามี defect ตรงไหนและรับได้รึเปล่า ??
ส่วนตัวถ้าผมเจอแบบนิดๆหน่อยๆ พอที่จะเอาไปแก้ไขเองได้ทีหลัง และไม่มีผลต่อการขับขี่และความปลอดภัย........ผมก็รับได้ครับ ไม่ Mild
+1 ครับ
-
ชีวิตไม่ชอบอยู่กับความเสี่ยงครับ เวลาก็เหมือนกันครับ เอาไปทำอะไรที่อยากทำดีกว่ามาเสียเวลากับรถเพราะผมไม่ใช่ช่างซ่อมรถ ก่อนจะซื้อรุ่นไหนผมก็สิงอยู่ในคลับนั่นละครับ ในเว็บนี้ก็ดีมีข้อมูลรถให้เยอะ เห็นมาเยอะครับคนที่บอกว่าชอบและซ่อมไหว พอมันหนักเข้าหนักเข้า สุดท้ายขายทิ้งเสียแทบทุกราย
-
ผมคิดงี้ครับ รถที่มีDefectก็ไม่ได่มีทุกคันนะครับ และหากว่ากังวลกลัวว่าจะเจอกับตัว ก็ลองชั่งน้ำหนักดูว่าDefectรุ่นนั้น
มีผลกระทบต่อจิตใจและความปลอดภัยขนาดไหนถ้าเราเกิดได้รถที่มีDefectมา มีวิธีแก้ไขอย่างไร และถ้ามันแก้ไม่หายละ? คุณรับไหวมั้ย?ในระยะยาว
ถ้าคิดว่าไม่แคร์ชอบรุ่นนี้มาก ข้อดีมันมีมากกว่าข้อเสีย ก็จัดเลย แต่ถ้าคิดว่ามันรำคาญใจ ขับไปซ่อมไป หงุดหงิด ก็ไปตัวเลือกอื่น
แต่ส่วนตัวก็มีเจอมาบ้างกับรถDefectมีแก้หายบ้างแก่แล้วหายไปแปปนึงมาใหม่บ้าง แต่ก็ไม่ได้ทำให้ถึงกับทนไม่ไหว ที่สำคัญคือ "ความปลอดภัย" Defectอะไรก็แล้วแต่อย่าให้มันเป็นเรื่อง เครื่องยนต์ ช่วงล่าง เบรคความเป็นความตายเราพอ
-
ถ้าซ่อมจบ มันก็ ok ครับ แต่ถ้าจุกจิกมาก ก็ไม่ไหวครับ
-
มันเหมือนคุณเลือกผู้หยิงคนนึง สวย เฉี่ยวบาดใจ แต่ไม่ค่อยสมบุกสมบัน ไปไหนก็กลัวร้อน ลำบากหน่อยก็ไม่เอา ต้องจ่ายค่าเลี้ยงดูแพง
กับเลือกสาวทะมัดทะแมง สู้ไม่ถอย ค่าเลี้ยงดูต่ำข้าวแกงข้างทางก็กินได้ ช่วยเราทำมาหากิน ไปไหนไปกัน ในป่าก็ตั้งแคมป์ได้ นี่ละผมว่าคือคู่ชีวิตเรา สุดท้ายผมเลือกข้อนี้ต้องมีรถ 4X4 ในบ้านอย่างน้อย 1 คัน เป็นคู่ชีวิตคนในครอบครัว
-
ดีเฟคนั้นร้ายแรงไหม แก้จบไหม ต้องดูเป็นเคสๆไปนะครับ
อย่างเฟียสต้าก่อนไมเนอร์ มีดับกลางอากาศ เกียร์มีปัญหาแก้ไม่จบ
แบบนี้ผมไม่เอา
-
รุนแรงแบบกรณีฟอร์ดไม่เสี่ยงครับ
งานประกอบ กลิ่นไหม้ รับได้คุ้มกับรถดีๆแน่นอน
-
อย่าว่าแต่ดีเฟคใหญ่ๆเลย
แค่คอนโซลดังนี่ก็อยากจะขายรถทิ้งแล้ว ถ้าไม่ติดว่าไม่มีเงินซื้ออีก
-
จขกท. หมายถึงรุ่นไหน
ตัวย่อ ตัวเต็มบอกด้วยครับ เพื่อเป็นข้อมูลแก่ สมช.
-
คนที่รู้แล้วว่ารถมีdefectแต่ก็ซื้อผมเคารพการตัดสินใจนะ อย่างน้อยก็ได้รู้ว่าจุดอ่อนอยู่ตรงใหน รับได้ไหม
แต่..คนที่ซื้อล้อตแรกๆคือเจ็บตัวมากมาย รถขับดี อะไรก็ดี optionเยอะ perfectไปหมด
แต่ซักพักทุกอย่างที่คิดพังลงเพราะคุณภาพมันไม่ดีเหมือนตอนออกใหม่ ซ่อมจุกจิก ขึ้นยานแม่ บลาๆๆ (ถ้าโชคดีหน่อยก็ซ่อมจบ ถ้าซวยหน่อยก็ซ่อมไม่จบ) ยี่ห้ออเมริกัน C,F นี่ตัวดีเลย
-
ผมให้เขาปรับปรุงไม่ให้มีก่อนค่อยซื้อครับ
-
สวยแต่ถ้าพาเรื่องร้อนใจมาตลอด ผมขอบายครับ :)
-
คงไม่
รถไม่ใช่ของใช้แล้วหมดไปภายในเวลาสั้นๆ
มันเป็นของใช้ แต่มีค่าเสื่อม ที่ใช้ไปในระยะยาว
สวยก็เลือก แต่ต้องเลือกที่ความน่าเชื่อถือ ของproduct และ company