Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: Red Bicycle ที่ มีนาคม 29, 2016, 20:28:46
-
:) :) :) ผมสังเกตุว่าผู้บริโภคบ้านเรา จะใช้รถยนต์ราคาทั่วๆไปอยู่ ไม่เกินล้าน เป็นส่วนใหญ่ แล้วอีกส่วนที่เป็นรถ D segment , PPV , SUV ก็จะเกินล้านขึ้นมาแต่ก็นิยมที่จะใช้รุ่นที่ไม่เกินล้านกลางๆ มากกว่า ที่จะไปเป็นรุ่น Top ราคาล้านปลายๆ ซึ่งจะดูใช้น้อยกว่ามากๆ ซึ่งในกลุ่มที่ใช้ราคาล้านกว่าๆนี้ ผมว่ามีปริมาณมากเลยในท้องถนน แสดงว่าผู้บริโภคมีกำลังซื้อประมาณนี้เยอะมาก แต่พอจะขยับไปใช้รถในกลุ่มราคา 2 ล้านกว่าๆ นี้เห็นได้ชัดเลยว่ากำลังซื้อหายไปแทบนับคันได้
8) 8) 8) ผมเลยรู้สึกว่าผู้บริโภคบ้านเรา จะอั้นราคาของรถไว้ที่ประมาณ ล้านกลางๆ เป็นได้ไหมครับว่ามันเป็นจุดที่ผู้ใช้ยังรู้สึกว่ามันคุ้มค่าเงินที่จ่ายไป แต่พอรถที่ขึ้นไปกว่านี้จะดูไม่คุ้มแล้ว ( เพราะจริงๆคนกลุ่มนี้จำนวนไม่น้อยจะใช้รถระดับสองล้านกว่าๆ ยังสามารถจ่ายได้ยังสบายครับ )
:( :( :( แต่สำหรับผมแล้วราคาล้านกลางๆนี้มันดูสุดๆแล้ว เพื่อนๆผมก็คล้ายๆกัน ถ้าจะเพิ่มให้ไปถึงสองล้านกว่านี้ ต้องเอาสองบ้านมารวมกัน ไม่งั้นไม่ผ่านลิสซิ่ง. 555
8) 8) 8) ผมเลยประมาณเอาว่าเพดานราคาของคนซื้อรถบ้านเเราน่าจะอยู่ที่ล้านกลางๆนี้แหล่ะครับ
-
ส่วนตัวนะครับ ถ้าแคมรี่แอคคอด ราคาเฉียดสองล้าน ผมจะข้ามไปเล่นรถยุโรปเลย ที่เลือกแบบนี้เพราะราคามันไม่หนีกันเท่าไหรในความรู้สึกนะครับ
-
เพราะคนส่วนใหญ่มองว่า รถระดับนี้กับราคาระดับล้านกลางๆมันสมเหตุสมผลแล้ว ระดับSegmentก็บ่งบอกตัวตนที่ชัดเจนอยู่ สูงกว่านี้มันจะไม่ใช่รถยนต์ทั่วๆไปแล้ว มันจะกลายเป็นรถระดับหรูหราเข้ามาเกี่ยวข้อง
อีกอย่างรุ่นกลางๆออฟชั่นและสมรรถนะเครื่องยนต์ก็เพียงพอต่อการใช้งานนะ ไม่มีเหตุผลให้เลือกรถระดับนี้ในราคาแพงๆนะผมว่า ถ้าจะซื้อรถทั่วๆไปขับใช้งาน ในระดับล้านปลายๆสองล้าน มันเกินความจำเป็น ไม่ก็ไปเล่นรถยุโรปล่างๆไปเลยไม่ดีกว่ารึ
-
สมัยก่อน5-7 ปี อยู่ที่ 1.2 ล้านครับ สมัยนี้ 1.6-1.7 ล้าน อีกซัก 5-7 ปี คงเป็น 1.9 - 2.1 ล้านเป็นของปกติแน่ๆ
-
ตามงบครับบ้านผมอั้น950,000
-
ผม 1-1.2ล้านบาท ผมว่าตรงนี้ผมรับได้ที่สุดแล้วครับ
-
ตามงบครับ แต่สำหรับผมไม่เกิน 1.2 ล้านครับ
-
รถราคาล้านกว่าๆนี่ถือว่ามีออพชั่นเกินความจำเป็นแล้วครับ ส่วนรถที่ 2 ล้านอัพก็จะเป็นอีกระดับขึ้นมา ถามว่าคนที่ซื้อรถราคาล้านกว่าๆ จะซื้อ 2 ล้านขึ้นได้ไหม เขาซื้อได้ครับ แต่เขามีเหตุผลส่วนตัวของเขาที่บอกว่า ทำไมจะต้องซื้อ 2 3 4 หรือ 5 ล้าน
-
ถ้าวัดตามท้องถนน ส่วนใหญ่ไม่เกิน 1 ล้านคับ
กะบะ + B, C segment ซะส่วนใหญ่
อย่าลืมปัจจัยหลักคับ กำลังซื้อเป็นไปตามฐานเงินเดือน
-
มันขึ้นอยู่กับกำลังซื้อ+ความจำเป็น นะครับ ถ้าคันไหนเหมาะสม ก็จะซื้อคันไหน ในช่วงราคาที่เราจ่ายได้
-
รถล้านกลางๆ เดี๋ยวนี้ผมว่าโอเคมากแล้ว
เช่น Camry Teana Accord เครื่อง 2.4-2.5 ราคาล้านกลางๆ
ระบบความปลอดภัยโอเค มีถุงลม 6 ใบ ระบบอำนวยความสะดวกก็เยอะแล้ว สมรรถนะก็ดี
บางคนเค้าซื้อรถไว้ใช้ ไม่ได้คิดว่ามันเป็นเครื่องบ่งบอกฐานะอะไร เชื่อว่าหลายๆคนจะซื้อคันละ 4-5 ล้านก็ได้
แต่ถ้าเขามองรถเป็นแค่ยานพาหนะเดินทาง จะต้องไปเสียเงินเยอะขนาดนั้นทำไม
-
ผมมองว่า ราคารถก็น่าจะบวกลบประมาณ 1 ล้าน
สำหรับตัดสินใจ ซื้อทั่วไป
หรือไม่ก็ 2ล้านกลาง สำหรับรถหรูขึ้นมาหน่อยอะครับ
มากกว่านี้จะตัดสินใจซื้อยากละอะครับ
ถ้าบริษัท
หักค่าเสื่อมรถ 1,000,000 บาท หักเส้นตรง 5ปี
หรือ ทำ
leashing รถยนต์ จะหักได้ 2,160,000 (36,000ต่อเดือน )
-
เคยเห็น Captiva 2.0 Disel MY15 Top ราคา 1.74 ล้าน ของเพื่อนผม เอง หนึ่งปี่ผ่านไป เหลือไม่ถึงล้าน มันชีช้ำตรงนี้แหละ
ราคาแพง % มูลค่าราคาตกต่อปี มันก็แรงมากกกก
:'(
-
ความคุ้มค่าและความจำเป็นรวมถึงกำลังซื้อในการใช้รถแตกต่างกัน
คนทั่วไปที่เป็นพนักงานบริษัทที่เงินเดือนไม่สูงมาก จะไปซื้อรถราคาแพงก็จะมีผลต่อการใช้วีวิตประจำวัน
ส่วนผมมองแต่รถมือสอง สภาพดีๆ ที่ตอนมือแรก ราคาแรง พอมามือสองราคาตกเยอะ ค่อยไปหามาใช้ครับ
-
รายได้ครอบครัวส่วนใหญ่ที่จะซื้อรถราคา 2ล้าน เป็นคนกลุ่มน้อยครับ
ขนาดบ้าน 2 3ล้าน ผ่อน25ปี ยังเดือนละ20,000เลย
ถ้าเป็นรถผ่อน5ปี ก็ต้อง40,000-60,000
เพราะฉะนั้น ครอบครับไหนที่จะผ่อนไม่ให้โดนยึดรถก็ต้องรายได้เกินไปอีก
ซึ่งจากการสำรวจ(ไม่รวมคนที่หมกเม็ดรายได้) ครอบครัวกลุ่มนี้มีแค่ประมาณ 100,000ครอบครัว เท่านั้น
ที่เหลืออีกหลายล้านครอบครัวรายได้เฉลี่ยอยู่ที่ 20,000-60,000
ที่ไม่เพียงพอจะซื้อรถขับซํกคันก็มีเยอะ ที่ซื้อ1.5ล้านได้นี่ก็เรียกว่าใจป๋าสุดๆแล้วครับ
-
ผมเกิดในยุกที่บีเอ็มE36 316 compactคันละไม่ถึงล้านยี่สิบปีก่อน
ตอนที่ควักตังซื้อเอง e46 318 ลดแล้วเหชือ 1.6ล้านเมื่อ 15ปีก่อน
พอปัจจุบัน 316 F30 1.79 ล้าน
ถ้าจะให้ควักเงินซื้อกระบะแปลงร่างคันละล้านกว่าที่เวลาล้างสต็อกเหลือ 9แสน (ใครใช้ฟอร์จูนเนอร์รุ่นแรกคง(ทราบดี) คงคิดหนักครับ แคมรี่ที่บ้านนี่น่าจะเป็นรถยี่ปุ่นที่แพงที่สุดที่เคยซื้อแล้ว
คนอายุเท่าๆผมหลายคนน่าจะคิดเหมือนๆกันว่ารถญี่ปุ่นแพงขึ้นแต่ก็องๆแ๊งๆเหมือนเดิม ดีขึ้นแค่ภายในอัดโฟม อัดทีาเก็บเสียง
แต่คนยุกใหม่ เศรษฐีใหม่คงมีมุมมองที่ต่างไป
-
ผมว่าไม่น่าใช่กลุ่มใหญ่นะครับ..
จากตัวเลขยอดขายทุกเดือนๆที่ออกมา
รถที่ขายได้เยอะๆคือรถกระบะ Ecocar B-Secment
ที่ราคามันไม่ได้เกินล้านนะ กระบะตัวท็อปเกินล้านส่วนแบ่งยังน้อยอยู่
ราคาหลายๆคนจึงคิดว่าน่าจะอั้นแถวๆ 7-9 แสน อย่างมากไม่เกินล้าน
นี่น่าจะเป็นกลุ่มใหญ่จริงๆ
-
ไป ดูยอดขายรถจะรู้ครับ
รถที่ขายได้ เอยะจริงๆ คือ
ราคาไม่เกินล้าน ถ้าเกิน ล้านนี่ รวมกันไม่เยอะครับ
พวก PPV C-SUV กับ นี่ ยอดขาย รวมกันน่าจะราว 10 % ของทั้งหมด
อีก 80 % คือรถต่ำกว่าล้านนะ
-
ใช่ครับ ด้วยฐานรายได้ของคนไทยส่วนใหญ่คือระดับกลาง
อย่างบ้านผม ก็กำหนดไว้เลย ซื้อรถจะไม่เกินล้านห้า เกินกว่านี้ ถือว่าเกินความจำเป็นไปแล้วครับ
-
ของบ้านผม ไม่มีคันไหนเกิน 1 ล้าน
อนาคตคงมีบ้าง แต่ไม่เกิน 1.1 ล้าน ตามเทคโนโลยีและค่าเงิน (Segment เดียวกัน มันเพิ่มมาเรื่อยๆ ครับ 555)
-
ขึ้นอยู่กำลังทรัพย์และประโยชน์การใช้สอย รับได้กับราคา 1 - 1.5 ล้านบาทครับ
-
ผมว่า 1-1.5 ล้านกำลังสวยคับ
มากกว่านี้แพงไป
ดังนั้น MU-X ตัวล่าง คุ้มค่าสุด 555
-
พวก SUV PPV Dseg มันเพียงพอกับหลายๆคนครับ
แต่สำหรับผมคันต่อไปถ้าไม่ยุโรปคงไม่อยากเปลี่ยนละ
แต่ก็ต้องดูสถานการณ์อีกที อะไรๆมันก็เปลี่ยนกันได้
-
ราคาแพงขึ้น
เดี๋ยวนี้ eco car ยังเลย 6 แสน
คือมันก็ต้องซื้อตามความเหมาะสม ของแต่ละคน
ถ้ามันแพงมาก มันก็ขายไม่ได้เอง
D segment ส่วนใหญ่ที่ขายดีก็รุ่นเครื่องเล็ก
-
จริง ๆ มันก็ไม่ควรเกินล้านกลาง ๆ นั่นละสำหรรับ D Seg หรือ PPV
ดูอย่าง Ford Everest ราคา1.59 ล้านให้อะไรมาขนาดนี้ แน่นอนว่าคุ้มราคาน่าสนใจมาก
ฟอร์จูเนอร์เปิดด้วยราคาเดียวกัน 1.59 ล้าน ยังไงก็แพงแต่คนจ่ายไหว
D sEG ถ้าเกิน 1.5 ล้านคนเริ่มมองตัวล่างเยอะขึ้น
ผมมองว่าถ้าขยับราคาเกินจากนี้ไปคนจะไปหารถยุโรปอื่นทีคุ้มกว่า ยอดรถญี่ปุ่นที่ขยับราคาไปมันน่าจะขายได้น้อยลงด้วยเพราะคนกลุ่มนึงก็จะตัดออกจากตัวเลือกไป
-
โถ่ ผมขับ มอไซด์ก็ได้ว้า
-
ที่บ้านซื้อรถหลายคัน
ถ้าซื้อคันละ 2 ล้านทุกคันก็จนตายซิครับ ^ ^"