Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: TaR ที่ เมษายน 08, 2016, 18:03:20
-
จริงๆ420iเป็นรถที่ดีนะครับแต่จากการที่ใช้มีปีกว่า
ทำให้รู้ว่าตัวรถไม่เหมาะกับประเภทการใช้งานของผม บวกกับการเงินช่วงนี้ไม่คล่อง
จึงกะจะขายแล้วเปลี่ยนเป็นรถซีดานแทน เนี่องจากตอนนี้มีเพื่อนมาขอซื้อต่อ
แต่ด้วยความที่เป็นเพื่อนนี่แหละครับทำให้ผมคิดไม่ตกว่าควรขายที่ราคาเท่าไหร่
เพื่อนๆว่า 420i ตัว M Sport ณ เวลานี้เลขไมล์วิ่งไปที่ 37,xxx ควรปล่อยราคาประมาณเท่าไหร่ดีครับ
-
80% ของราคาสด มั๊งครับ
-
ถ้ารู้ราคาแล้วขายไม่ออกครับ โดยเฉพาะ Bmw ใหม่ๆ นอกจากคนซื้อไม่รู้เรื่อง โชคดีไปครับ
-
420d ตัวล่าง (วิ่ง 10k) เคยลองถามว่าจะขายเพื่อน มันให้ผมได้อยู่ที่ 2.9 ครับ
ดังนั้น m sport ควรได้มากกว่า อย่างน้อยสุดควรได้ซัก 3 มั้ย?
ปล.ที่ว่า 2.9 นั้นราคาขายเพื่อน ถ้าขายเต๊นท์ผมว่าลบลงอีกเป็น 1-2 แสนแน่ๆ :-X :-X
-
เต็นท์ตีเข้าต่ำกว่า 2.5ครับ
-
คงหายเยอะ
-
ลองเข้าเว็บตลาดรถแล้วดูราคาอ้างอิงคับ
ว่าส่วนมากเข้าตั้งขายประมาณเท่าไหร่แล้ว + เอาตามที่เราต้องการ
-
http://www.taladrod.com/w30/iCar/SchC.aspx?fno:all+mk:6+md:731+bd:0+ta:0+smd:n+ty:0+cl:0+gr:b+pv:0+y1:2007+y2:2015+p1:0+p2:0 (http://www.taladrod.com/w30/iCar/SchC.aspx?fno:all+mk:6+md:731+bd:0+ta:0+smd:n+ty:0+cl:0+gr:b+pv:0+y1:2007+y2:2015+p1:0+p2:0)
-
https://www.kaidee.com/c11a11-auto-car-bmw/ (https://www.kaidee.com/c11a11-auto-car-bmw/)
-
เพื่อนผมทำเต๊นรถ เมื่อ3เดือนก่อน ขาย420d M sport สีดำรถอายุ9เดือน เห็นขายได้2.9ล้านบาท แต่ตอนรับเข้าราคาเท่าไหร่ไม่รู้นะครับ
-
ขายเท่าราคาตลาดนั่นแหละครับ
ถ้าผมซื้อรถต่อจากเพื่อนผมจะไม่หวังราคาต่ำกว่าราคาตลาด
แต่หวังจะได้รถที่ดี ไม่เสี่ยงถูกย้อม ไม่ถูกกรอไมล์ แค่นี้ก็คุ้มแล้ว
-
สำหรับผมแล้ว ผมประเมินราคารถยนต์โดยหักราคาลงมาปีละ 10%
ราคารถยนต์ใหม่ คือ 100%
ใช้มา 1 ปี ราคาเหลือ 90%
ใช้มา 2 ปี ราคาเหลือ 80%
ใช้มา 3 ปี ราคาเหลือ 70%
ใช้มา 4 ปี ราคาเหลือ 60%
ใช้มา 5 ปี ราคาเหลือ 50%
ในปีถัดๆไปใช้ราคา 50% เดิมเป็นตัวตั้งแล้วลดปีละ 10% ไปเรื่อยๆ
สมมุติว่าราคารถ 4,000,000 บาท
ใช้ไป 1 ปี ราคาจะเหลือประมาณ 3,600,000 บาท
ใช้ไป 2 ปี ราคาจะเหลือประมาณ 3,200,000 บาท
ใช้ไป 3 ปี ราคาจะเหลือประมาณ 2,800,000 บาท
ใช้ไป 4 ปี ราคาจะเหลือประมาณ 2,400,000 บาท
ใช้ไป 5 ปี ราคาจะเหลือประมาณ 2,000,000 บาท
ใช้ไป 6 ปี ราคาจะเหลือประมาณ 1,800,000 บาท
ใช้ไป 7 ปี ราคาจะเหลือประมาณ 1,600,000 บาท
ใช้ไป 8 ปี ราคาจะเหลือประมาณ 1,400,000 บาท
ใช้ไป 9 ปี ราคาจะเหลือประมาณ 1,200,000 บาท
ใช้ไป 10 ปี ราคาจะเหลือประมาณ 1,000,000 บาท
รถใช้น้อยหรือบำรุงรักษาดี ราคาก็ปรับเพิ่มขึ้นอีกนิดหน่อย แต่ไม่เกิน 10% ผมลองใช้สูตรนี้กับรถเบนซ์ ผลออกมาใกล้เคียงครับ BMW ก็ต่างไม่มาก แต่ถ้าเป็นรถสปอร์ต จะราคาตกน้อยกว่านี้ ( รถยนต์ใช้งานทั่วๆไป จะขับประมาณปีละ 20,000 - 25,000 กิโลเมตรต่อปี)
-
ขอบคุณมากครับสำหรับทุกความคิดเห็น
เคยคุยกันเล่นๆดูเพื่อนมันให้ 3.2 แต่ผมเกรงว่าจะแพงไปสำหรับราคาเพื่อน
จริงๆผมมีราคาในใจอยู่แล้วครับ 3ถ้วน....
ยอมรับครับว่ารถผมไมล์วิ่งไปพอสมควร แต่ด้วยความที่ว่ารถยังใหม่ปี
จึงอยากมาปรึกษาเพื่อนๆชาว Headlightmag ว่าราคาสมเหตุสมผลหรือไม่หรือควรจะดรอฟราคาลงมาอีกหน่อย
-
สำหรับผมแล้ว ผมประเมินราคารถยนต์โดยหักราคาลงมาปีละ 10%
ราคารถยนต์ใหม่ คือ 100%
ใช้มา 1 ปี ราคาเหลือ 90%
ใช้มา 2 ปี ราคาเหลือ 80%
ใช้มา 3 ปี ราคาเหลือ 70%
ใช้มา 4 ปี ราคาเหลือ 60%
ใช้มา 5 ปี ราคาเหลือ 50%
ในปีถัดๆไปใช้ราคา 50% เดิมเป็นตัวตั้งแล้วลดปีละ 10% ไปเรื่อยๆ
สมมุติว่าราคารถ 4,000,000 บาท
ใช้ไป 1 ปี ราคาจะเหลือประมาณ 3,600,000 บาท
ใช้ไป 2 ปี ราคาจะเหลือประมาณ 3,200,000 บาท
ใช้ไป 3 ปี ราคาจะเหลือประมาณ 2,800,000 บาท
ใช้ไป 4 ปี ราคาจะเหลือประมาณ 2,400,000 บาท
ใช้ไป 5 ปี ราคาจะเหลือประมาณ 2,000,000 บาท
ใช้ไป 6 ปี ราคาจะเหลือประมาณ 1,800,000 บาท
ใช้ไป 7 ปี ราคาจะเหลือประมาณ 1,600,000 บาท
ใช้ไป 8 ปี ราคาจะเหลือประมาณ 1,400,000 บาท
ใช้ไป 9 ปี ราคาจะเหลือประมาณ 1,200,000 บาท
ใช้ไป 10 ปี ราคาจะเหลือประมาณ 1,000,000 บาท
รถใช้น้อยหรือบำรุงรักษาดี ราคาก็ปรับเพิ่มขึ้นอีกนิดหน่อย แต่ไม่เกิน 10% ผมลองใช้สูตรนี้กับรถเบนซ์ ผลออกมาใกล้เคียงครับ BMW ก็ต่างไม่มาก แต่ถ้าเป็นรถสปอร์ต จะราคาตกน้อยกว่านี้ ( รถยนต์ใช้งานทั่วๆไป จะขับประมาณปีละ 20,000 - 25,000 กิโลเมตรต่อปี)
ขอบคุณสำหรับสูตรครับ ความรู้ใหม่เลยนะนั่น :D
-
สำหรับผมแล้ว ผมประเมินราคารถยนต์โดยหักราคาลงมาปีละ 10%
ราคารถยนต์ใหม่ คือ 100%
ใช้มา 1 ปี ราคาเหลือ 90%
ใช้มา 2 ปี ราคาเหลือ 80%
ใช้มา 3 ปี ราคาเหลือ 70%
ใช้มา 4 ปี ราคาเหลือ 60%
ใช้มา 5 ปี ราคาเหลือ 50%
ในปีถัดๆไปใช้ราคา 50% เดิมเป็นตัวตั้งแล้วลดปีละ 10% ไปเรื่อยๆ
สมมุติว่าราคารถ 4,000,000 บาท
ใช้ไป 1 ปี ราคาจะเหลือประมาณ 3,600,000 บาท
ใช้ไป 2 ปี ราคาจะเหลือประมาณ 3,200,000 บาท
ใช้ไป 3 ปี ราคาจะเหลือประมาณ 2,800,000 บาท
ใช้ไป 4 ปี ราคาจะเหลือประมาณ 2,400,000 บาท
ใช้ไป 5 ปี ราคาจะเหลือประมาณ 2,000,000 บาท
ใช้ไป 6 ปี ราคาจะเหลือประมาณ 1,800,000 บาท
ใช้ไป 7 ปี ราคาจะเหลือประมาณ 1,600,000 บาท
ใช้ไป 8 ปี ราคาจะเหลือประมาณ 1,400,000 บาท
ใช้ไป 9 ปี ราคาจะเหลือประมาณ 1,200,000 บาท
ใช้ไป 10 ปี ราคาจะเหลือประมาณ 1,000,000 บาท
รถใช้น้อยหรือบำรุงรักษาดี ราคาก็ปรับเพิ่มขึ้นอีกนิดหน่อย แต่ไม่เกิน 10% ผมลองใช้สูตรนี้กับรถเบนซ์ ผลออกมาใกล้เคียงครับ BMW ก็ต่างไม่มาก แต่ถ้าเป็นรถสปอร์ต จะราคาตกน้อยกว่านี้ ( รถยนต์ใช้งานทั่วๆไป จะขับประมาณปีละ 20,000 - 25,000 กิโลเมตรต่อปี)
สูตรนี้ผมว่า ตามความพอใจผู้ขายเป็นหลักครับ อาจจะใช้กับราคาตลาดจริงคงไม่ได้ครับ
ปีแรก (จะใช้ครบปีหรือไม่ถึงก็ตาม) ผมว่าหายไป 20-25% ครับ
-
สำหรับผมแล้ว ผมประเมินราคารถยนต์โดยหักราคาลงมาปีละ 10%
ราคารถยนต์ใหม่ คือ 100%
ใช้มา 1 ปี ราคาเหลือ 90%
ใช้มา 2 ปี ราคาเหลือ 80%
ใช้มา 3 ปี ราคาเหลือ 70%
ใช้มา 4 ปี ราคาเหลือ 60%
ใช้มา 5 ปี ราคาเหลือ 50%
ในปีถัดๆไปใช้ราคา 50% เดิมเป็นตัวตั้งแล้วลดปีละ 10% ไปเรื่อยๆ
สมมุติว่าราคารถ 4,000,000 บาท
ใช้ไป 1 ปี ราคาจะเหลือประมาณ 3,600,000 บาท
ใช้ไป 2 ปี ราคาจะเหลือประมาณ 3,200,000 บาท
ใช้ไป 3 ปี ราคาจะเหลือประมาณ 2,800,000 บาท
ใช้ไป 4 ปี ราคาจะเหลือประมาณ 2,400,000 บาท
ใช้ไป 5 ปี ราคาจะเหลือประมาณ 2,000,000 บาท
ใช้ไป 6 ปี ราคาจะเหลือประมาณ 1,800,000 บาท
ใช้ไป 7 ปี ราคาจะเหลือประมาณ 1,600,000 บาท
ใช้ไป 8 ปี ราคาจะเหลือประมาณ 1,400,000 บาท
ใช้ไป 9 ปี ราคาจะเหลือประมาณ 1,200,000 บาท
ใช้ไป 10 ปี ราคาจะเหลือประมาณ 1,000,000 บาท
รถใช้น้อยหรือบำรุงรักษาดี ราคาก็ปรับเพิ่มขึ้นอีกนิดหน่อย แต่ไม่เกิน 10% ผมลองใช้สูตรนี้กับรถเบนซ์ ผลออกมาใกล้เคียงครับ BMW ก็ต่างไม่มาก แต่ถ้าเป็นรถสปอร์ต จะราคาตกน้อยกว่านี้ ( รถยนต์ใช้งานทั่วๆไป จะขับประมาณปีละ 20,000 - 25,000 กิโลเมตรต่อปี)
สูตรนี้ผมว่า ตามความพอใจผู้ขายเป็นหลักครับ อาจจะใช้กับราคาตลาดจริงคงไม่ได้ครับ
ปีแรก (จะใช้ครบปีหรือไม่ถึงก็ตาม) ผมว่าหายไป 20-25% ครับ
เป็นราคาขายโดยประมาณ แต่ไม่ใช่ราคาที่เต๊นต็นท์รับซื้อ
http://www.taladrod.com/w30/iCar/SchC.aspx?fno:all+mk:5+md:21+bd:0+ta:0+smd:n+ty:0+cl:0+gr:b+pv:0+y1:2007+y2:2015+p1:0+p2:0 (http://www.taladrod.com/w30/iCar/SchC.aspx?fno:all+mk:5+md:21+bd:0+ta:0+smd:n+ty:0+cl:0+gr:b+pv:0+y1:2007+y2:2015+p1:0+p2:0)
-
ข้อมูลเพิ่มเติม
http://www.taladrod.com/w30/iCar/SchC.aspx?fno:all+mk:5+md:520+bd:0+ta:0+smd:n+ty:0+cl:0+gr:b+pv:0+y1:2007+y2:2015+p1:0+p2:0 (http://www.taladrod.com/w30/iCar/SchC.aspx?fno:all+mk:5+md:520+bd:0+ta:0+smd:n+ty:0+cl:0+gr:b+pv:0+y1:2007+y2:2015+p1:0+p2:0)
https://www.kaidee.com/c11a292-auto-car-e-class?price_start=900000&price_end=4000000 (https://www.kaidee.com/c11a292-auto-car-e-class?price_start=900000&price_end=4000000)
https://www.kaidee.com/c11a291-auto-car-cls-class?price_start=900000&price_end=4000000 (https://www.kaidee.com/c11a291-auto-car-cls-class?price_start=900000&price_end=4000000)
-
เพิ่มเติม
http://www.one2car.com/mercedes-benz/cl-class/ (http://www.one2car.com/mercedes-benz/cl-class/)
-
สำหรับผมแล้ว ผมประเมินราคารถยนต์โดยหักราคาลงมาปีละ 10%
ราคารถยนต์ใหม่ คือ 100%
ใช้มา 1 ปี ราคาเหลือ 90%
ใช้มา 2 ปี ราคาเหลือ 80%
ใช้มา 3 ปี ราคาเหลือ 70%
ใช้มา 4 ปี ราคาเหลือ 60%
ใช้มา 5 ปี ราคาเหลือ 50%
ในปีถัดๆไปใช้ราคา 50% เดิมเป็นตัวตั้งแล้วลดปีละ 10% ไปเรื่อยๆ
สมมุติว่าราคารถ 4,000,000 บาท
ใช้ไป 1 ปี ราคาจะเหลือประมาณ 3,600,000 บาท
ใช้ไป 2 ปี ราคาจะเหลือประมาณ 3,200,000 บาท
ใช้ไป 3 ปี ราคาจะเหลือประมาณ 2,800,000 บาท
ใช้ไป 4 ปี ราคาจะเหลือประมาณ 2,400,000 บาท
ใช้ไป 5 ปี ราคาจะเหลือประมาณ 2,000,000 บาท
ใช้ไป 6 ปี ราคาจะเหลือประมาณ 1,800,000 บาท
ใช้ไป 7 ปี ราคาจะเหลือประมาณ 1,600,000 บาท
ใช้ไป 8 ปี ราคาจะเหลือประมาณ 1,400,000 บาท
ใช้ไป 9 ปี ราคาจะเหลือประมาณ 1,200,000 บาท
ใช้ไป 10 ปี ราคาจะเหลือประมาณ 1,000,000 บาท
รถใช้น้อยหรือบำรุงรักษาดี ราคาก็ปรับเพิ่มขึ้นอีกนิดหน่อย แต่ไม่เกิน 10% ผมลองใช้สูตรนี้กับรถเบนซ์ ผลออกมาใกล้เคียงครับ BMW ก็ต่างไม่มาก แต่ถ้าเป็นรถสปอร์ต จะราคาตกน้อยกว่านี้ ( รถยนต์ใช้งานทั่วๆไป จะขับประมาณปีละ 20,000 - 25,000 กิโลเมตรต่อปี)
สูตรนี้ผมว่า ตามความพอใจผู้ขายเป็นหลักครับ อาจจะใช้กับราคาตลาดจริงคงไม่ได้ครับ
ปีแรก (จะใช้ครบปีหรือไม่ถึงก็ตาม) ผมว่าหายไป 20-25% ครับ
+1
ปีแรก จะประกาศขายเท่าไหร่ก็อีกเรื่องนึงครับ แต่ขายจริง หายไปไม่ต่ำกว่า 20% ครับ เพราะถ้าต่ำกว่านั้น ซื้อรถใหม่ดีกว่าครับ
-
รถสปอร์ตยอดนิยมราคาไม่ค่อยตกนะครับ
http://www.one2car.com/nissan/gt-r/ (http://www.one2car.com/nissan/gt-r/)
-
รถสปอร์ตยอดนิยมราคาไม่ค่อยตกนะครับ
http://www.one2car.com/nissan/gt-r/ (http://www.one2car.com/nissan/gt-r/)
รุ่นในตำนานส่วนใหญ่จะราคาคงตัว ::)
-
Series 4 มือ 2 ตอนนี้คงต้องหาแฟนBimmer แท้ๆเท่านั้นอ่ะครับที่จะให้ราคาดีๆได้
คนทั่วๆไปคงคิดเทียบกับ C Coupe ... ... ... ตัวล่าง3.39 ตัวบน3.79
Option จัดเต็มมาก สดกว่าพอประมาณ
รุ่นนี้มาแบบใหญ่ขึ้นอีก ขนาดนี้เทียบได้พอๆกับ4แล้ว ไม่เหมือนตัวก่อน
-
ไมล์เยอะอยู่นะครับ ถ้าสามถ้วนผมว่าโอเคนะ
เพราะต่ำกว่านี้ก็โหดไป เกินกว่านี้ก็ขายยากเหมือนกัน
ถ้าเพื่อนกัน พอใจราคานี้ ขายได้เลย
-
3.2 กับ 3.0 งั้นขายไป 3.1 ครับ พบกันครึ่งทาง
-
3ถ้วน???!!!
หากผมเป้น้พื่อนคุน. ผมไปป้ายแดงครับ
-
ถ้ารถบ้านๆนี่เต้นท์กดราคาหนักมากครับ แม้จะออกป้ายแดงมาได้ไม่กี่เดือน
-
ผมว่าสัก 2.8 ล้านกำลังดีครับ
-
3ถ้วน???!!!
หากผมเป้น้พื่อนคุน. ผมไปป้ายแดงครับ
เพื่อนเขาจะให้ 3.2 ล้านครับ เขารู้ เขาเห็นรถคันนี้ เขาย่อมตัดสินใจได้ดีที่สุดครับ
ขอบคุณมากครับสำหรับทุกความคิดเห็น
เคยคุยกันเล่นๆดูเพื่อนมันให้ 3.2 แต่ผมเกรงว่าจะแพงไปสำหรับราคาเพื่อน
จริงๆผมมีราคาในใจอยู่แล้วครับ 3ถ้วน....
ยอมรับครับว่ารถผมไมล์วิ่งไปพอสมควร แต่ด้วยความที่ว่ารถยังใหม่ปี
จึงอยากมาปรึกษาเพื่อนๆชาว Headlightmag ว่าราคาสมเหตุสมผลหรือไม่หรือควรจะดรอฟราคาลงมาอีกหน่อย
-
ถ้าผมเป็นเพื่อนคุณ Tar ผมจะยอมซื้อแพงกว่าราคาตลาดครับ
1.เพราะผมมองว่าผมได้รถที่ดีกว่าซ์้อมือสองที่ไหนก็ไม่รู้ และผมทราบประวัติรถจริงๆ
2.ผมเป็นเพื่อนคุณ
-
รถสปอร์ตยอดนิยมราคาไม่ค่อยตกนะครับ
http://www.one2car.com/nissan/gt-r/ (http://www.one2car.com/nissan/gt-r/)
สมัยแรกๆ มือ 1 ขายกัน 7 ล้าน ดูเหมือนราคาไม่ค่อยตก แต่ดูราคา gt-r นำเข้าทุกวันนี้ดูครับ ระดับ 10 กว่าล้านแล้ว คนที่เขาซื้อมาขายต่อเขาเลยอึง ราคาตั้งที่ 10 ล้าน
รถยนต์ส่วนมากปีแรกเต้นก็ตีเข้าที่ 30-40% ของราคาขายแล้วครับ
ส่วนขายเองอีกเรื่องนึง
อีกวิธีนึงที่สบายใจคือ เอาไปให้เต๊นรถตีก่อนครับ ส่วนมากรถสปอตจะบวกอยู่ 3-5 แสนแล้วแต่เจ้า เพราะขายอยาก ส่วนตัวเคยมีประสบการณ์ เพื่อนขาย e coupe ไป รถเบนซ์ประเทศไทย รถ 2 ปี ขายไป 2 ล้านต้นๆ เต้นไปตั้ง 2 ปลายๆ
ปล. เห็นคนขาย 420d m sport ถึง BSI 2019 2.9 ล้านครับ
-
ขอถามแบบโง่ๆครับ เคยเชื่อมาอย่างนี้
เคยได้ยินว่ารถสปอร์ต สองประตู ราคาตก คนเล่นน้อย ไม่นิยมเหมือนซีดาน จริงไหมครับ
-
ขอถามแบบโง่ๆครับ เคยเชื่อมาอย่างนี้
เคยได้ยินว่ารถสปอร์ต สองประตู ราคาตก คนเล่นน้อย ไม่นิยมเหมือนซีดาน จริงไหมครับ
เห็นราขายแต่ละรุ่นในปัจจุบันแล้ว ผมว่าไม่จริงเท่าไหร่ ยกเว้นรุ่นที่มันอายุเยอะๆ แล้ว
แต่ยังมีความขลังอยู่ มีคนเอาไปเล่นหนัง เช่น rx-7, nsx, r32-34, supra, gto พวกนี้ราคาตกไม่เยอะแล้ว
ถ้าเป็นรถใหม่ๆ ผมเห็นขายทีขาดทุนกัน 30 - 40% กันทั้งนั้น ไม่เว้นแม้แต่ supercar
-
https://www.facebook.com/photo.php?fbid=10207038703459950&set=pcb.988136241269129&type=3&theater (https://www.facebook.com/photo.php?fbid=10207038703459950&set=pcb.988136241269129&type=3&theater)
-
ขอถามแบบโง่ๆครับ เคยเชื่อมาอย่างนี้
เคยได้ยินว่ารถสปอร์ต สองประตู ราคาตก คนเล่นน้อย ไม่นิยมเหมือนซีดาน จริงไหมครับ
http://www.one2car.com/nissan/gt-r/ (http://www.one2car.com/nissan/gt-r/)
-
ขอถามแบบโง่ๆครับ เคยเชื่อมาอย่างนี้
เคยได้ยินว่ารถสปอร์ต สองประตู ราคาตก คนเล่นน้อย ไม่นิยมเหมือนซีดาน จริงไหมครับ
จริงครับ ยิ่งพวกเก่าๆตำนานๆ ราคาเพิ่มด้วยซ้ำ
-
supercar ยิ่งหายเยอะครับมีคนรู้จักจะปล่อย lp700-4 รถนิชคาร์
ออกห้างเกือบ 40 ล้าน รถ 2 ปีเหลือแค่ 20 ต้นๆครับ
-
รถสปอร์ตยอดนิยมราคาไม่ค่อยตกนะครับ
http://www.one2car.com/nissan/gt-r/ (http://www.one2car.com/nissan/gt-r/)
สมัยแรกๆ มือ 1 ขายกัน 7 ล้าน ดูเหมือนราคาไม่ค่อยตก แต่ดูราคา gt-r นำเข้าทุกวันนี้ดูครับ ระดับ 10 กว่าล้านแล้ว คนที่เขาซื้อมาขายต่อเขาเลยอึง ราคาตั้งที่ 10 ล้าน
รถยนต์ส่วนมากปีแรกเต้นก็ตีเข้าที่ 30-40% ของราคาขายแล้วครับ
ส่วนขายเองอีกเรื่องนึง
อีกวิธีนึงที่สบายใจคือ เอาไปให้เต๊นรถตีก่อนครับ ส่วนมากรถสปอตจะบวกอยู่ 3-5 แสนแล้วแต่เจ้า เพราะขายอยาก ส่วนตัวเคยมีประสบการณ์ เพื่อนขาย e coupe ไป รถเบนซ์ประเทศไทย รถ 2 ปี ขายไป 2 ล้านต้นๆ เต้นไปตั้ง 2 ปลายๆ
ปล. เห็นคนขาย 420d m sport ถึง BSI 2019 2.9 ล้านครับ
Nissan GTR-R อายุ 5 ปีแล้ว ราคายังเกิน 50% ของราคารถใหม่อยู่เลยนะครับ เมื่อเดือนที่แล้ว ผมเห็นคนซื้อรถ Nissan GTR-R ปี 2009 ราคา 5.8 ล้านนะครับ
-
ขอบคุณมากครับสำหรับทุกๆความคิดเห็น สงกรานต์นี้เดินทางปลอดภัยกันทุกๆท่านคับผม
-
ขอถามแบบโง่ๆครับ เคยเชื่อมาอย่างนี้
เคยได้ยินว่ารถสปอร์ต สองประตู ราคาตก คนเล่นน้อย ไม่นิยมเหมือนซีดาน จริงไหมครับ
เห็นราขายแต่ละรุ่นในปัจจุบันแล้ว ผมว่าไม่จริงเท่าไหร่ ยกเว้นรุ่นที่มันอายุเยอะๆ แล้ว
แต่ยังมีความขลังอยู่ มีคนเอาไปเล่นหนัง เช่น rx-7, nsx, r32-34, supra, gto พวกนี้ราคาตกไม่เยอะแล้ว
ถ้าเป็นรถใหม่ๆ ผมเห็นขายทีขาดทุนกัน 30 - 40% กันทั้งนั้น ไม่เว้นแม้แต่ supercar
สำหรับ rx-7 supra และ ตระกูล skyline 5ปีที่แล้วราคายังไง ณ ปัจจุบันก็ประมาณนั้น
พวกรถสปอร์ต สองประตู เล่นมือสองคุ้มกว่าครับ เล่นมือหนึ่งเจ็บหนัก
-
เต็นท์ตีเข้าต่ำกว่า 2.5ครับ
จริงดิครับ เต้นท์ไหนเนี่ย มโนหรือเปล่า
-
เต็นท์ตีเข้าต่ำกว่า 2.5ครับ
จริงดิครับ เต้นท์ไหนเนี่ย มโนหรือเปล่า
ผมว่าเค้าคงไม่ได้มโนหรอกครับ ทำไมต้องไปว่าเค้าว่ามโน ?
CLS 250cdi กู๋ผมไปตีราคาเต้นท์ยังให้แค่ 2 ต้นๆ เลย
-
เต็นท์ตีเข้าต่ำกว่า 2.5ครับ
จริงดิครับ เต้นท์ไหนเนี่ย มโนหรือเปล่า
ผมว่าเค้าคงไม่ได้มโนหรอกครับ ทำไมต้องไปว่าเค้าว่ามโน ?
CLS 250cdi กู๋ผมไปตีราคาเต้นท์ยังให้แค่ 2 ต้นๆ เลย
แค่ 1ปี 3เดือน จาก 3ล้านปลาย จะเหลือ2.5ล้านเหรอ
ผมว่าน่าจะเหลือ3ต้นนะครับ
-
เต็นท์ตีเข้าต่ำกว่า 2.5ครับ
จริงดิครับ เต้นท์ไหนเนี่ย มโนหรือเปล่า
ผมว่าเค้าคงไม่ได้มโนหรอกครับ ทำไมต้องไปว่าเค้าว่ามโน ?
CLS 250cdi กู๋ผมไปตีราคาเต้นท์ยังให้แค่ 2 ต้นๆ เลย
แค่ 1ปี 3เดือน จาก 3ล้านปลาย จะเหลือ2.5ล้านเหรอ
ผมว่าน่าจะเหลือ3ต้นนะครับ
อันนี้คุณมโนเเล้ว ครับ
-
เต็นท์ตีเข้าต่ำกว่า 2.5ครับ
จริงดิครับ เต้นท์ไหนเนี่ย มโนหรือเปล่า
ผมว่าเค้าคงไม่ได้มโนหรอกครับ ทำไมต้องไปว่าเค้าว่ามโน ?
CLS 250cdi กู๋ผมไปตีราคาเต้นท์ยังให้แค่ 2 ต้นๆ เลย
แค่ 1ปี 3เดือน จาก 3ล้านปลาย จะเหลือ2.5ล้านเหรอ
ผมว่าน่าจะเหลือ3ต้นนะครับ
3 ต้นนี่ราคาที่เขาเอามาปล่อยขายต่ออีกทีนะ ถ้าเต็นรับ3ต้นๆ แล้วเขาต้องขายเท่าไหร่ถึงจะได้กำไร
ขายรถกับเต้นโดนฟันหัวแบะครับบอกเลย
ไม่ว่าจะรถถูกรถแพง เป็นทุกคัน