Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: ภูมิใจไหม? ที่ เมษายน 27, 2016, 08:06:04
-
เพิ่งได้ดูอุณหภูมิจริงเป็นตัวเลข เพราะไม่มีติดรถครับ
คือความเข้าใจของผมแบบคิดเอาเองล้วน ๆ คือขับออกจากบ้าน ใช้รอบปกติเหมือนขับประหยัดน้ำมัน
และคอยดูให้อุณหภูมิซัก 90 ค่อยขับลากรอบสนุกสนาน ซึ่งเป็นนิสััยการขับขี่ของผมอยู่แล้ว
ผมทำแบบนี้เป็น "การถนอมเครื่องยืดอายุ" ใช่ไหมครับ
ถ้าหากผมทำถูกแล้ว การซัดตั้งแต่เครื่องยังเย็นอยู่ จะเกิดผลเสียอย่างไรบ้างครับ?
-
สตาร์ทแล้วกดเลย มีการสึกหรอเยอะแน่ครับ
เหมือนคนปลุกให้ตื่นแล้วลากไปวิ่งเลย ลมจับหรือมึนได้
ส่วนตัวก่อนจะขับออกจากบ้านสตาร์ททิ้งไว้แป๊บนึง นานแล้วแค่ไหนแล้วแต่ความสะดวก
ของผมถ้ารถแต่งก็ให้เข็มความร้อนหม้อน้ำขยับขึ้นมาให้ใกล้ 90 องศามากที่สุด(แล้วแต่ความรีบการใช้รถ)
ถ้ายังไม่ถึง 90 ก็ขับเรื่อยๆไม่เน้นลากรอบ
ถ้ารถบ้านก็สตาร์ทแป๊บนึงก่อนขับออก และขับเรื่อยๆเช่นกัน สักพักค่อยลากรอบ (2-3กิโล+)
-
เข้าใจว่า ถ้าเครื่องยังเย็นอยู่แปลว่าอุณหภูมิน้ำมันเครื่องยังไม่ถึง operating temperature ของมัน ซึ่งแปลว่ามันจะทำงานตามหน้าที่ของมัน(หล่อลื่นเครื่อง)ได้ไม่เต็มที่ ซึ่งทำให้เกิดการสึกหรอได้สูงกว่าปกติครับ
-
ผมว่ามีครับ รุ่นใหม่ๆนี่ถ้ายังไม่ร้อนถ้าลากเกิน 4500 รอบมีบล้อกไว้ป้องกันผมเคยลืมตัวกดรถสะดุดเลย
-
รถที่มีปั๊มน้ำมันเครื่อง มีตัวฉีดน้ำมัน มีรูล้นบนฝา และ ขับในไทย ไม่มีผลอะไรมากหรอกครับ หล่อลื่นทุกชิ้นส่วนได้อยู่แล้ว เป็นข้อดีของประเทศเมืองร้อนที่ฝรั่งไม่ค่อยได้เจอ
แต่ถ้าอยูากาศหนาว ต่ำกว่า 20/องศา น้ำมันจะหนาไปกับพวกรูน้ำมันเล็กๆเช่น ตัวตั้งโซ่แบบกระบอก แท็ปเป็ทวาวล์ว พวกเมืองหนาวเลยมักทำตัวทำความร้อนให้น้ำมันครับ
น้ำมันเครื่อง เบอร์ 40 50ในไทยก่อนสตาร์ท ไหลได้อยู่ล้ว บางพอจะไหลไปทั่วเครื่องยนต์ภายใน 10วินาทีแรกสบายๆ ลองเอาหยดน้ำมันสะบัดแรงๆในขวดเล็กๆก็ได้ครับจะเห็นถึงความบาง เทียบได้กับการฉีดน้ำมันเครื่องในเครื่องยนต์เลย
-
รถรุ่นใหม่ๆ ผู้ผลิตจะบอกว่า ไม่ต้องอุ่นเครื่อง ให้สตาร์ทแล้วขับความเร็วต่ำ รอบไม่สูงไปเรื่อยๆ แต่เรื่อยๆ นี่คือเท่าไหร่ละ ? 55+
T6 ก็เช่นกัน Ford ก็บอกแบบนี้ ขับได้ครับ แต่เสียงเครื่องเขก ดังมากๆๆๆ และกดคันเร่งให้ตายยังไง รถก็ไม่พุ่งครับ ขับได้ที่ความเร็วหนึ่ง พร้อมเสียงเขกๆๆๆ ต้องรออุ่นเครื่องให้ไฟเตือนเครื่องเย็นหายก่อน ถึงจะขับได้ปกติ ไร้เสียงเขก
-
รถที่มีปั๊มน้ำมันเครื่อง มีตัวฉีดน้ำมัน มีรูล้นบนฝา และ ขับในไทย ไม่มีผลอะไรมากหรอกครับ หล่อลื่นทุกชิ้นส่วนได้อยู่แล้ว เป็นข้อดีของประเทศเมืองร้อนที่ฝรั่งไม่ค่อยได้เจอ
แต่ถ้าอยูากาศหนาว ต่ำกว่า 20/องศา น้ำมันจะหนาไปกับพวกรูน้ำมันเล็กๆเช่น ตัวตั้งโซ่แบบกระบอก แท็ปเป็ทวาวล์ว พวกเมืองหนาวเลยมักทำตัวทำความร้อนให้น้ำมันครับ
น้ำมันเครื่อง เบอร์ 40 50ในไทยก่อนสตาร์ท ไหลได้อยู่ล้ว บางพอจะไหลไปทั่วเครื่องยนต์ภายใน 10วินาทีแรกสบายๆ ลองเอาหยดน้ำมันสะบัดแรงๆในขวดเล็กๆก็ได้ครับจะเห็นถึงความบาง เทียบได้กับการฉีดน้ำมันเครื่องในเครื่องยนต์เลย
ชื่อทางการเค้าเรียกว่าระบบอะไรเหรอครับ? เผื่อว่าจะได้ค้นดูว่ารถที่ตัวเองใช้มีระบบนี้อยู่หรือเปล่า :)
-
สายเบิรน์จะทราบดี
ถ้าไม่อยากพังก่อนเวลา ต้องหล่อลื่นให้ทั่วก่อน แล้วค่อยกดยาวๆครับ
ไปฝืน เดี๋ยว (เครื่อง) ร้อง เราจะเซ็งเปล่าๆ
-
รถที่มีปั๊มน้ำมันเครื่อง มีตัวฉีดน้ำมัน มีรูล้นบนฝา และ ขับในไทย ไม่มีผลอะไรมากหรอกครับ หล่อลื่นทุกชิ้นส่วนได้อยู่แล้ว เป็นข้อดีของประเทศเมืองร้อนที่ฝรั่งไม่ค่อยได้เจอ
แต่ถ้าอยูากาศหนาว ต่ำกว่า 20/องศา น้ำมันจะหนาไปกับพวกรูน้ำมันเล็กๆเช่น ตัวตั้งโซ่แบบกระบอก แท็ปเป็ทวาวล์ว พวกเมืองหนาวเลยมักทำตัวทำความร้อนให้น้ำมันครับ
น้ำมันเครื่อง เบอร์ 40 50ในไทยก่อนสตาร์ท ไหลได้อยู่ล้ว บางพอจะไหลไปทั่วเครื่องยนต์ภายใน 10วินาทีแรกสบายๆ ลองเอาหยดน้ำมันสะบัดแรงๆในขวดเล็กๆก็ได้ครับจะเห็นถึงความบาง เทียบได้กับการฉีดน้ำมันเครื่องในเครื่องยนต์เลย
ชื่อทางการเค้าเรียกว่าระบบอะไรเหรอครับ? เผื่อว่าจะได้ค้นดูว่ารถที่ตัวเองใช้มีระบบนี้อยู่หรือเปล่า :)
ที่ผมบอกไปทั้งหมดคือรถที่ผลิตขายในปัจจุบันแทบทุกคันครับ หายากแล้วที่ไม่มีOil pump, Oil injectorและUpper oil passage ในฝาสูบครับ ข้อเหวี่ยงรถก็เหวี่ยงจมน้ำมันกันหมด
คู่มือรถส่วนใหญ่เขียนเผื่อไว้กับเมืองหนาว เราก็เลยอาจจะเห็นWarm up period ซึ่งเขาหมายถึง ก่อน 20องศา เพราะที่20องศาน้ำมันเกรดเดียวเช่น 40 50 รวมถึงพวกน้ำมันที่อายุมาก มันเริ่มไม่ไหลแล้วครับ แต่ปัจจุบันมันก็มีแต่คนใช้Multigrade กันทั้งนั้นครับ
ผมเคยขับรถอยู่ในเมืองหนาว 0-10องศาช่วงฤดูหนาว ห้าปี สองแสนโล สตาร์ทรถผมก็ออกตัวแทบจะทันที ขับไปไม่ถึงควอเตอร์ไมล์ก็ต้องเร่งขึ้น ไฮเวย์แล้ว เข็มความร้อนยังไม่เข้าที่เลย รถก็ยังฟฟิตดีจนถึงตอนขายครับ
-
ยังไงก็มีการสึกหรอแน่ๆ ถ้าซัดเลย ยังไม่ถึงอุณหภูมิการทำงานเครื่องยนต์ครับ
-
สายเบิรน์จะทราบดี
ถ้าไม่อยากพังก่อนเวลา ต้องหล่อลื่นให้ทั่วก่อน แล้วค่อยกดยาวๆครับ
ไปฝืน เดี๋ยว (เครื่อง) ร้อง เราจะเซ็งเปล่าๆ
;D ;D ;D ;D ;D ;D
-
สายเบิรน์จะทราบดี
ถ้าไม่อยากพังก่อนเวลา ต้องหล่อลื่นให้ทั่วก่อน แล้วค่อยกดยาวๆครับ
ไปฝืน เดี๋ยว (เครื่อง) ร้อง เราจะเซ็งเปล่าๆ
ผมนี่ลั่นเลยครับ 5555555555555555+
ทุกอย่างอยู่ในความควบคุมของเราครับ
ต้องค่อยๆเบิร์นแล้วรถจะรักเรา อิอิ
-
5555
"พี่ ๆ เบิร์นเป็นมั้ย"
-
ผมรอขึ้นสัก80ก็ซัดได้เลยคับ
-
5555
"พี่ ๆ เบิร์นเป็นมั้ย"
โอ้ย หากบอกว่าเบิร์นเป็น จะให้จับเบิร์นเลยรึ
-
ความร้อนน้ำมันเครื่อง 80 ก็อัดได้เลยครับตามด้านบน (แต่ต้องเป็นอุณหภูมิน้ำมันเครื่องนะครับ ไม่ใช่หม้อน้ำ) ซึ่งโดยเฉลี่ยที่ผมลองๆรถแต่ละคันมาจะใช้ระยะทางราวๆ 2-3 กม. หลังสตาร์ทตอนเช้าครับ
-
ผลเสียเยอะครับ แต่บ้างครั้งห้ามไม่ได้จริงๆๆ ไม่อยากให้คันข้างหลังหาว่าเราขับช้าไม่สนใจคันหลังเลยต้องกด