Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: Devil13 ที่ พฤษภาคม 10, 2016, 09:49:10
-
คนรู้จักอยากได้รถสักคัน เลยมาขอคำปรึกษาจากพี่ๆครับ
โจทย์ตามนี้ครับ
1.ใช้งานยาวๆ 13-15 ปี
2.นั่งไม่เกิน 5 คน
3.เป็นมือ 1
4.ซ่อมง่ายไม่จุกจิก
5.ค่าอะไหล่ถูก
6.ราคามือ 2 ไม่ร่วงมาก
7.ไม่กินน้ำมันมากเพราะวิ่งน้ำมันตลอดไม่ติดติแก๊ส
8.ช่วงล่างวิ่งทาง ตรว. ได้ดีใช้งานที่ ตจว. 99% เข้าเมืองกรุง 1%
เจ้าตัวเล็งไว้เป็น Fortuner กับ CR-V แต่ยังลังเลครับ
ขอบคุณทุกความคิดเห็นครับ
-
งานนี้เสร็จ ฟอร์จูนเนอร์ครับ
มันถึกกว่าเยอะครับ
ถ้าวิ่งในเมืองเป็นส่วนใหญ่ ไม่ออกทางทุรกันดาร
ตัวเลือกก็เปลี่ยนทันที
-
คำตอบอยู่ในคำถามละครับ
:D
-
งานนี้ CRV แพ้ Fortuner เืกือบทุกอย่างไม่เว้นแม้แต่ราคาขายต่อ Fortuner ก็ยังเหนือกว่า
ความทนทาน CRV แพ้หลายช่วงตัว แม้จะเอาเครื่องยนต์เบนซิน Fortuner 2.7 มาเปรียบเทียบ CRV ก็ยังสู้ไมไ่ด้เลยเรื่องความทนทาน
-
ไป Fortuner ครับ ไม่มีอะไรต้องลังเลแล้ว ถ้าว่ากันตามเหตุผลที่ว่ามา
ใช้ตั้ง 13-15 ปี ที่บ้านผมมีโตโยต้าฮีโร่อายุ 32 ปีแล้ว ของพ่อไว้ลุยสวน
ยังขับได้ดีอยู่เลยครับเคยเปลี่ยนแค่กะบะกับแชสซี เครืองเดิม ทน ถึกโคตรๆ
-
CRV ชนะเรื่องเดียวมั๊งครับคือนั่งสบายกว่า นอกนั้น ทน ถึก สู้รถ ppv ไม่ได้แน่ ส่วนซ่อมง่าย+ราคาอะไหล่นี่ผมว่าพอๆกันนะ
ยังไงซะถ้ามีคนนั่งที่เป็นผู้สูงอายุไม่ชอบนั่งเด้งๆเหวี่ยงๆและกลัวปวดหลังก็เลือก crv ดีกว่า
-
ในแง่นั้น ยังไงรถพื้นฐานกระบะก็ชนะ
-
โอ้...คำตอบชัดเจนมากๆ ขอบคุณทุกๆท่านครับ
ส่วนตัวผมใช้ SEDAN ไม่เคยมีคนไกล้ตัวใช้ SUV เลยไม่รู้ว่าระยะยาวเป็นอย่างไงบ้าง :)
คะแนนเป็นเอกฉันท์มากๆ :-*
-
1.ใช้งานยาวๆ 13-15 ปี FTN
2.นั่งไม่เกิน 5 คนFTNหลังเด้งหน่อย CRVแคบกว่าหน่อย
3.เป็นมือ 1 ได้ทั้งคู่
4.ซ่อมง่ายไม่จุกจิก FTN ชนะขาดลอย แชร์อะไหล่ร่วมกับกระบะ
5.ค่าอะไหล่ถูก ในอนาคตFTN หาอะไหล่ได้ง่ายกว่า
6.ราคามือ 2 ไม่ร่วงมาก FTN ชนะเห็นๆ อีก9ปีถึงตกรุ่น
7.ไม่กินน้ำมันมากเพราะวิ่งน้ำมันตลอดไม่ติดติแก๊ส ดีเซลน่าจะประหยัดกว่า
8.ช่วงล่างวิ่งทาง ตรว. ได้ดีใช้งานที่ ตจว. 99% เข้าเมืองกรุง 1% ตจว.นี่ขับ FTNภาพลักษณ์ดูดีกว่า
สรุปตอนนี้ผมเลือกFTN
ส่วนCRV ไว้รอดูโฉมใหม่ ;) ;)
-
1.ใช้งานยาวๆ 13-15 ปี FTN
2.นั่งไม่เกิน 5 คนFTNหลังเด้งหน่อย CRVแคบกว่าหน่อย
3.เป็นมือ 1 ได้ทั้งคู่
4.ซ่อมง่ายไม่จุกจิก FTN ชนะขาดลอย แชร์อะไหล่ร่วมกับกระบะ
5.ค่าอะไหล่ถูก ในอนาคตFTN หาอะไหล่ได้ง่ายกว่า
6.ราคามือ 2 ไม่ร่วงมาก FTN ชนะเห็นๆ อีก9ปีถึงตกรุ่น
7.ไม่กินน้ำมันมากเพราะวิ่งน้ำมันตลอดไม่ติดติแก๊ส ดีเซลน่าจะประหยัดกว่า
8.ช่วงล่างวิ่งทาง ตรว. ได้ดีใช้งานที่ ตจว. 99% เข้าเมืองกรุง 1% ตจว.นี่ขับ FTNภาพลักษณ์ดูดีกว่า
สรุปตอนนี้ผมเลือกFTN
ส่วนCRV ไว้รอดูโฉมใหม่ ;) ;)
ตอบให้เป็นข้อๆเลย ขอบคุณมากครับ
-
เฉลย FORTUNER คือคำตอบที่ถูกต้อง
-
ผมเห็น crv ตัสแรกบ่อยกว่า sport rider
-
เสริมครับ FTN ซื้อวันนี้ ยังดูสด ไปอีก8-9ปี
แต่ CR-V ปีนี้ไม่ก็ปีหน้า ตัวใหม่ก็มาละ
ไป Fortuner เลยครับผม
;D ;D ;D
-
ลองขับหรือยังครับ เน้นขับ 4 ไหมครับ
แต่เท่าที่ถามมาก็ FTN อีกเสียงครับ
-
ชอบอารมณ์ไหนล่ะครับ กะบะหรือเก๋ง
ผมเชียร์ CR-V สบายๆชิวๆ
-
FTN แหวล่ะครับ อีกอย่าง CRV ตัวนี้เก่าแล้วถ้าตัวใหม่ค่อยว่ากัน
-
ลองขับหรือยังครับ เน้นขับ 4 ไหมครับ
แต่เท่าที่ถามมาก็ FTN อีกเสียงครับ
ไม่เน้นขับ 4 ครับ ขับไม่เร็วอยู่ที่100-120 ไม่เกินนี้ครับ
ใช้งานทาง ตจว. เป็นถนนปะ กับคลื่นเยอะ แต่ไม่ถึงขั้นลุยป่าครับ
ดูแล้วคงแนะนำ FTN น่าจะลงตัวสุดครับ ;)
-
คนรู้จักอยากได้รถสักคัน เลยมาขอคำปรึกษาจากพี่ๆครับ
โจทย์ตามนี้ครับ
1.ใช้งานยาวๆ 13-15 ปี ---FTN ชัดเจนสุด เครื่องดีเซลทนทาน โดยเฉพาะของพี่โต ทนทานมว๊ากกก
2.นั่งไม่เกิน 5 คน ---FTN เพราะปรับองศาเบาะหลังได้แกร๊ก1 นั่งหลับเบาะหลังสบายกว่า แต่ต้องไปเซ็ตช่วงล่างใหม่นะ ไม่งั้นเด้งๆ ส่วนCR-Vยวบๆ ยิ่งนั่ง5คน CR-Vจะยวบอย่างเห็นได้ชัดเจนเลย
3.เป็นมือ 1 ---FTNอีกยาว ส่วนCR-Vเจน5กำลังจะมาแล้ว พอเจน5มา โฉมปัจจุบันนี้ตกลงทันที ส่วนFTNอย่างน้อยๆก็5ปีละครับ
4.ซ่อมง่ายไม่จุกจิก ---FTN อู่ไหนก็ซ่อมได้ CR-Vต้องเก่งเรื่องระบบไฟหน่อยไม่งั้นจะมีภาคต่อเอาได้ง่ายๆ
5.ค่าอะไหล่ถูก ---FTN อะหลั่ยแท้ อะหลั่ยเทียม มือ2 เพียบ เพราะพื้นฐานมาจากรถกระบะ
6.ราคามือ 2 ไม่ร่วงมาก ---FTN รถปี2005 ยังขายกัน500k-600kอยู่เลยครับ
7.ไม่กินน้ำมันมากเพราะวิ่งน้ำมันตลอดไม่ติดติแก๊ส ---FTNโฉมเก่าก็เครื่อง2.5 โฉมปัจจุบันก็ตัว2.4เลยครับ ดีเซลนะ CR-Vก็ไม่เหมาะติดแก๊สเท่าไรหรอกครับ ต้องดูแล ตรวจเช็คบ่อยนะๆ เครื่องบย๖ืฮอนด้าติดแก๊สน่ะครับ (ผมใช้FDติดแก๊สต้องเช็คน้ำกลั่นแบตเตอรี่ หม้อน้ำ หม้อพัก บ่อยๆนะ) ถ้าบ้าพลังก็ต้องดีเซล3.0/2.8 แต่บอกขับปกติทั่วไป เครื่อง2.5/2.4พละกำลังเหลือเฟือครับ
8.ช่วงล่างวิ่งทาง ตรว. ได้ดีใช้งานที่ ตจว. 99% เข้าเมืองกรุง 1% ---FTN ไปอัพเกรดช่วงล่างมีตั้งแต่25k-100kตามงบและความพึงพอใจ
เจ้าตัวเล็งไว้เป็น Fortuner กับ CR-V แต่ยังลังเลครับ ---ใช้งานยาว แถม ตจว FTNเลยครับ จากตัวเลือกที่มี
สรุป8หัวข้อที่ตั้งมา FTN ชะขาดลอย ด้วยคะแนน 8/2 หรือ 9/1
-
ตอบจากที่ใช้มาทั้ง 2 คันนะครับ FTN 2.7 4WD กับ CRV G4 2.4 4WD แบบขับปกติทั่วไป ตามที่กฏหมายกำหนดนะครับ
1.ใช้งานยาวๆ 13-15 ปี > พอกันครับ ตาเพรชที่บ้านอีกคันอายุ 21 ปี ยังมีอะไหล่ศูนย์ให้เบิกอยู่
2.นั่งไม่เกิน 5 คน > พอกันครับ เบาะหน้า CRV นั่งสบายกว่า ข้างหลัง FTN สบายกว่า เบาะเลื่อนถอยหลังและปรับเอนได้มากกว่า
3.เป็นมือ 1 > FTN สดกว่า CRV ใกล้เปลี่ยนรุ่น
4.ซ่อมง่ายไม่จุกจิก > พอกันครับ CRV ใช้เครื่องยนต์เดิมมาตั้งแต่ G3 เป็นเครื่องพื้นฐานทั่วไป ส่วน FTN ก็ทนเหมือนกัน ทั้งคู่เสียบ OBD วิเคราะห็อาการได้
5.ค่าอะไหล่ถูก > ถ้าอะไหล่แท้พอกันครับ แต่ถ้าอะไหล่เทียบ FTN มีมากกว่า
6.ราคามือ 2 ไม่ร่วงมาก > ที่ปีเดียวกัน FTN ราคาดีกว่า
7.ไม่กินน้ำมันมากเพราะวิ่งน้ำมันตลอดไม่ติดติแก๊ส > พอกันครับ FTN กินน้อยกว่าหน่อย แต่ CRV เติม E20 E85 ได้ เลยทำให้ใกล้เคียงกัน
8.ช่วงล่างวิ่งทาง ตรว. ได้ดีใช้งานที่ ตจว. 99% เข้าเมืองกรุง 1% > ถ้าทางดำพอกัน ทางแดง FTN ดีกว่า
-
ฟิลลิ่งการนั่งก็ต่างกันพอสมควรครับ
-
โจทย์ตามนี้ครับ
1.ใช้งานยาวๆ 13-15 ปี <<< ทั้ง 2 คันใช้ได้ยาว 15 ปีอยู่แล้วครับ
2.นั่งไม่เกิน 5 คน <<< ทั้ง 2 คันนั่งได้ 5 คน มี FTN +2 ที่นั่ง ให้อีก
3.เป็นมือ 1 <<< เดินเข้าโชว์รูม ทั้ง 2 คันเป็นมือ 1 ครับ
4.ซ่อมง่ายไม่จุกจิก <<< ระบบทั้ง 2 คันซับซ้อนใกล้เคียงกัน แต่ FTN จะได้เปรียบตรงที่ เครื่องเหมือนรถกระบะที่คนใช้กันทั้งประเทศ ช่างที่ไหนก็ซ่อมได้
5.ค่าอะไหล่ถูก <<< ถูกแพง สลับกันไปครับ CRV ได้อะไหล่เซียงกงจากญี่ปุ่น ส่วนอะไหล่ FTN บางชิ้นน่าจะถูกเพราะมีการผลิตจำนวนมากเพื่อใช้ร่วมกับกระบะร่วมค่าย
6.ราคามือ 2 ไม่ร่วงมาก <<< มีแนวโน้มว่า FTN จะตกน้อยกว่าในระยะยาว
7.ไม่กินน้ำมันมากเพราะวิ่งน้ำมันตลอดไม่ติดติแก๊ส <<< CRV กินเบนซิน และ E85 ที่ราคาถูก ส่วน FTN กินดีเซลที่ราคาถูกอุ้มอยู่ตลอดเวลา
8.ช่วงล่างวิ่งทาง ตรว. ได้ดีใช้งานที่ ตจว. 99% เข้าเมืองกรุง 1% <<< หลุมและบ่อ หรือทางที่เราคาดเดาไม่ได้ FTN จะได้เปรียบเรื่องช่วงล่างที่ทนทานแรงกระแทกได้ดีกว่าครับ ส่วนเรื่องความคล่องตัวในเมือง CRV ได้เปรียบกว่าเล็กน้อย แต่ 1% ของการใช้งาน
เชียร์ Fortuner ครับ
-
Fortuner ครับ
-
1.ใช้งานยาวๆ 13-15 ปี <<< ทั้ง 2 คันใช้ได้ยาว 15 ปีอยู่แล้วครับ+++เครื่องเบนซิน150000โลถึง200000โล
ได้เปลี่ยนอะไรๆหลายอย่างละครับ เช่นยางแท่นเครื่อง เครื่องเบนซินไม่ได้ถึกทนแบบดีเซลหรอกนะครับ เครื่องฮอนด้า
หลัง2แสนกิโลจะเริ่มมีปัญหาจุกๆจิกๆตามมาละนะครับ ข้อนี้ผมไม่เห็นด้วยว่าใช้งานได้พอๆกันครับ ยิ่งวิ่งใช้งานเยอะๆ
ใช้งานเท่าๆกัน สภาพถนนเหมือนกัน จะเห็นภาพชัดเจนสุด เครื่องแบนซินได้ยกเครื่องใหม่ก่อนดีเซลแน่นอนครับ
-
FTN เข้าเป้ามากกว่า
จับเปลี่ยนช่วงล่างหน่อยสัก4-5หมื่น ผมว่าจบเลย
-
FTN กินเรียบ
-
เอาจริงๆผมว่าทุกข้อมันสูสีกันนะ ไม่ได้ขาดลอยอะไรขนาดนั้น สลับกันแพ้สลับกันชนะ
แต่ใช้ต่างจังหวัดยังไงก็เชียร์Fortunerมากกว่า
-
ฟอร์จูนเนอร์
-
fortuner กินไป80% ในภาพรวม ยกเว้นการนั่งสบาย บริเวณ เบาะหลัง
แต่ข้อ 8 เป็นตัวชี้ขาด ในความเห็นผมนะ
เวลาวิ่งต่างจังหวัด ทัศนวิสัย เป็น สิ่งที่ช่วยลดอุบัติเหตุ ได้ง่ายและดีที่สุด ดังนั้น fortuner มีทัศนวิสัย ที่ดีกว่า crv เพราะรถสูงกว่า ทำให้เวลาขับต่างจังหวัดหรือทางไกล เราสามารถมองไปได้ไกลกว่าคันหน้า โดยส่วนใหญ่ เลยทำให้ fortuner หรือ พวก ppv ให้ความรู้สึกสบาย และ ไม่เครียดนักเวลาขับทางไกลครับ
ฟันธง fortuner ครับ
-
fortuner
-
คำตอบมาเป็นสายเลย ตามนั้นครับ
-
คนรู้จักอยากได้รถสักคัน เลยมาขอคำปรึกษาจากพี่ๆครับ
โจทย์ตามนี้ครับ
1.ใช้งานยาวๆ 13-15 ปี
2.นั่งไม่เกิน 5 คน
3.เป็นมือ 1
4.ซ่อมง่ายไม่จุกจิก
5.ค่าอะไหล่ถูก
6.ราคามือ 2 ไม่ร่วงมาก
7.ไม่กินน้ำมันมากเพราะวิ่งน้ำมันตลอดไม่ติดติแก๊ส
8.ช่วงล่างวิ่งทาง ตรว. ได้ดีใช้งานที่ ตจว. 99% เข้าเมืองกรุง 1%
เจ้าตัวเล็งไว้เป็น Fortuner กับ CR-V แต่ยังลังเลครับ
ขอบคุณทุกความคิดเห็นครับ
9. ไปลองขับดู ถ้าชอบ CRV รอตัวใหม่
-
ตอบจากที่ใช้มาทั้ง 2 คันนะครับ FTN 2.7 4WD กับ CRV G4 2.4 4WD แบบขับปกติทั่วไป ตามที่กฏหมายกำหนดนะครับ
1.ใช้งานยาวๆ 13-15 ปี > พอกันครับ ตาเพรชที่บ้านอีกคันอายุ 21 ปี ยังมีอะไหล่ศูนย์ให้เบิกอยู่
2.นั่งไม่เกิน 5 คน > พอกันครับ เบาะหน้า CRV นั่งสบายกว่า ข้างหลัง FTN สบายกว่า เบาะเลื่อนถอยหลังและปรับเอนได้มากกว่า
3.เป็นมือ 1 > FTN สดกว่า CRV ใกล้เปลี่ยนรุ่น
4.ซ่อมง่ายไม่จุกจิก > พอกันครับ CRV ใช้เครื่องยนต์เดิมมาตั้งแต่ G3 เป็นเครื่องพื้นฐานทั่วไป ส่วน FTN ก็ทนเหมือนกัน ทั้งคู่เสียบ OBD วิเคราะห็อาการได้
5.ค่าอะไหล่ถูก > ถ้าอะไหล่แท้พอกันครับ แต่ถ้าอะไหล่เทียบ FTN มีมากกว่า
6.ราคามือ 2 ไม่ร่วงมาก > ที่ปีเดียวกัน FTN ราคาดีกว่า
7.ไม่กินน้ำมันมากเพราะวิ่งน้ำมันตลอดไม่ติดติแก๊ส > พอกันครับ FTN กินน้อยกว่าหน่อย แต่ CRV เติม E20 E85 ได้ เลยทำให้ใกล้เคียงกัน
8.ช่วงล่างวิ่งทาง ตรว. ได้ดีใช้งานที่ ตจว. 99% เข้าเมืองกรุง 1% > ถ้าทางดำพอกัน ทางแดง FTN ดีกว่า
ผู้ใช้จริงมาตอบเองเลย ขอบคุณมากครับ
-
FORTUNER ครับ
-
คำตอบอยู่ในคำถาม
ยาวๆๆก็ไม่พ้น SUV พื้นฐานจากกระบะ
ถ้าต่างจังหวัดแนะนำ FTN TRD ตัวท็อปเลยครับ ขับ 4 แล้วไปเพิ่มความนุ่มและหนึบได้โดยเปลี่ยนโช๊คและสปริงหน้าหลังครับ ชุดฟลูเซ็ตครับ