Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: tu ที่ พฤษภาคม 12, 2016, 09:01:33
-
ผมอยากสอบถามเรื่องการใช้งานตัว Alphard/ Vellfire Hybrid X ว่าที่ผ่านมามีสมาชิกท่านใดได้ใช้แล้วมีปัญหาจุกจิกบ้างมั้ย
ผมจองตัว Vellfire Hybrid X ไป ตอนนี้รอเรื่องเคลียรถออกจากท่าเรือครับ เพราะวุ่นวายกับอัตราภาษีใหม่ คุยกับหลายๆคนก็เตือนว่าระวังจุกจิกเลยค่อนข้างกังวลบ้าง แต่ว่าได้ราคาดีมากเลยคิดว่าก็น่าจะคุ้ม (ทางเกรย์ที่จองไม่ปรับราคาขึ้นแต่บอกว่าถ้าอยากเอาTop เครื่อง 2.5 จะให้ราคาพิเศษและรับรถได้เลย แต่ว่าผมเห็นว่าส่วนต่างเอาไปซื้อ Eco car ได้อีกคันเลยเฉยๆครับ)
-
ผมกับน้องสาว ใช่ ตัวธรรมดาตั้งแต่ล๊อตแรก ปีนึงแล้วไม่มีปัญหาใดๆ ผมซื้อโตต้าไทย น้องสาวซื้อเกรยไม่มีปัญหาทั้งคู่
คนรู้จักที่สนิท แนะนำไปเค้าไปซื้อ ไฮบริดจากเกรย์ ก็ไม่เจอปัญหาอะไร เค้าใช้เยอะด้วยก็ไม่มีอะไรให้บ่น
อยากทราบราคาว่ารุ่นXไฮบริด(เข้าใจว่ารุ่นล่างสุด เบาะเปน8ที่นั่ง) ตอนนี้ราคาเท่าไหร่ครับ
-
ผมกับน้องสาว ใช่ ตัวธรรมดาตั้งแต่ล๊อตแรก ปีนึงแล้วไม่มีปัญหาใดๆ ผมซื้อโตต้าไทย น้องสาวซื้อเกรยไม่มีปัญหาทั้งคู่
คนรู้จักที่สนิท แนะนำไปเค้าไปซื้อ ไฮบริดจากเกรย์ ก็ไม่เจอปัญหาอะไร เค้าใช้เยอะด้วยก็ไม่มีอะไรให้บ่น
อยากทราบราคาว่ารุ่นXไฮบริด(เข้าใจว่ารุ่นล่างสุด เบาะเปน8ที่นั่ง) ตอนนี้ราคาเท่าไหร่ครับ
ขอบคุณมากครับ
ของผมที่จองไปเป็นตัว 7 ที่นั่งครับ ราคาตอนที่ผมจองไปต่ำกว่า 3 ล้านพอสมควรครับ แต่เห็นทาง Showroom แจ้งว่าภาษีใหม่ปรับขึ้นมาค่อนข้างเยอะแต่ผมยังได้ราคาเดิมเพราะว่าญาติๆผมซื้อรถกับเค้าไปเยอะครับเค้าเลยยอมราคาที่จองไป
-
ผมว่ารถมันยังใหม่นะและเป็นรถญี่ปุ่นด้วยไม่ใช่รถยุโรป ไม่น่ามีปัญหาอะไรจุกจิกตามสไตล์โตโยต้า คงต้องใช้งานระยะยาวถึงบอกได้ ผมก็แอบสนใจเหมือนกันแต่งบประมาณตอนนี้ ไม่ถึงแต่ก็ไม่กล้าเล่นตัวไฮบริดเพราะเสียขึ้นมานี่แพงเลย อยากได้ตัวธรรมดามากกว่าแต่ดู รีวิวคุณ Nikle pk แล้วอยากได้ตัว 2.5 ZG ที่มีระบบเรดาห์จัง แต่ว่ามันเป็นไฮบริดทุกรุ่นหรือเปล่าไม่แน่ใจ รุ่นมันเยอะเหลือเกิน
-
ผมว่ารถมันยังใหม่นะและเป็นรถญี่ปุ่นด้วยไม่ใช่รถยุโรป ไม่น่ามีปัญหาอะไรจุกจิกตามสไตล์โตโยต้า คงต้องใช้งานระยะยาวถึงบอกได้ ผมก็แอบสนใจเหมือนกันแต่งบประมาณตอนนี้ ไม่ถึงแต่ก็ไม่กล้าเล่นตัวไฮบริดเพราะเสียขึ้นมานี่แพงเลย อยากได้ตัวธรรมดามากกว่าแต่ดู รีวิวคุณ Nikle pk แล้วอยากได้ตัว 2.5 ZG ที่มีระบบเรดาห์จัง แต่ว่ามันเป็นไฮบริดทุกรุ่นหรือเปล่าไม่แน่ใจ รุ่นมันเยอะเหลือเกิน
ส่วนใหญ่ตัว Top Radar นั้นไม่ใช่ Hybrid ครับ ราคาที่ญี่ปุ่นตัว Hybrid X กับ ZG ต่างกันแค่ 70,000 Yen พอมาเมืองไทยได้เปรียบเรื่องภาษีHybrid เลยต่างกัน 4-5 แสนเลยครับ ผมเข้าใจว่า Grey เลยเอาตัว Hybrid X มาทำราคาต่ำเลยเพราะOption น้อยกว่า
-
ขอตอบทางกระทู้นี้ เลยนะครับ คุณ tu จะได้เป็นประโยชน์กับท่านอื่นด้วยๆ
ที่ใช้มาถึงตอนนี้ 18,xxx โล แล้ว ยังไม่มีปัญหาใดๆ นะครับ ขับดี เครื่องเงียบ กินน้ำมันเฉลี่ย 12-13 โล/ลิตร ถือว่าประหยัดมาก ในภาพรวมที่บ้านทุกคนพอใจมากครับ เรียกว่าใช้คุ้มเลยครับ
บอกเพิ่มเติมนิดนึง ทริคเล็กๆน้อยๆ เวลาใช้งานครับ
1. ประตูหลัง แม้จะไม่ไฟฟ้า แต่เวลาปิดลงมาปิดเบาๆ ก้อพอครับ เพราะ มันมีระบบดูดไฟฟ้าด้วย งงเบย ไม่มีปิดไฟฟ้า แต่มีดูดไฟฟ้ามา ฮ่าๆๆๆ
2. เวลาจะล็อคประตู ไม่จำเป็นต้องคอยให้ประตูข้างซ้าย-ขวา ไฟฟ้าปิด ก่อน แล้วถึงล็อคประตูทั้งหมดนะครับ เสียเวลาาาา (ตอนแรกไม่รุ้ ต้องยืนคอยให้ประตูสไลด์มาปิดให้เรียบร้อย ผมถึงค่อยสัมผัสมือจับประตูให้ล็อครถ) ***พึ่งมาค้นพบว่า รถมันสามารถให้เราสัมผัสมือจับประตูให้ล็อคประตูรถทั้งหมดได้เลย โดยไม่ต้องคอยให้ประตูสไลด์ซ้าย-ขวาเลื่อนมาเก็บจนสุด และหลังจากประตูสไลด์เลื่อนมาเก็บเรียบร้อยแล้ว รถมันจะล็อคทั้งหมดให้เองโดยอัตโนมัติ
(ชอบระบบนี้มากๆๆๆ คนคิด นี่เข้าใจการใช้งานจริงได้ดีมากๆ)
เป็นทริคเล็กๆน้อยๆ ที่ช่วยให้ใช้งานรถได้สะดวกมากขึ้น แต่หากท่านใดรู้แล้ว ก้อต้องขออภัยถ้ามาปล่อยไก่คับ แฮะๆๆๆ
และผมเข้าเซอร์วิส ที่เกรย์ที่ซื้อมาครับ ไม่มีปัญหาใดๆ จริงๆจะเข้าเซอร์วิสที่โตโยต้า ก้อได้ แต่ไปเข้าที่เกรย์จะได้สบายใจครับ
ยินดีกับรถใหม่ด้วยครับ :D :D :D
รบกวนคุณ tu พอแง้มราคามาทางหลังไมค์ และ เกรย์ที่ซื้อด้วยได้มั้ยครับ กำลังเชียร์ๆ คนรุ้จักอยู่ครับ เพราะเกรย์ที่ผมซื้อ เค้าก้อปรับราคาไปแล้ว จะลองมาเทียบกันดูครับ
-
ใช้อัลพาดไฮบริด. ของโตโยต้าไทยครับ. 3 เดือน. วิ่ง. 4,000 โล
ไม่มีปันหาใดๆครับ.
อัตราสิ้นเปลือง. ผมขับเร็วอยู่. 12 โล/ลิตร
ขับแบบรีบๆ. เร่งๆ. 8.2. โล/ลิตร
-
ปัญหาที่น่ากังวลก็คือพวกการเสื่อมสภาพ
ของระบบไฮบิรดล่ะครับ ที่ค่าซ่อมราคาโหดเอาเรื่อง
อีกอย่างก็คงเป็นเรื่องราคาขายต่อที่อาจจะตกมากหน่อย
นอกนั้นมันเหมือนกัน ใช้งานสบายๆ
เดินทางนุ่มๆไม่ต่างกันแทบทุกรุ่นล่ะครับ
ปล.ยินดีด้วยครับ
-
ปัญหาที่น่ากังวลก็คือพวกการเสื่อมสภาพ
ของระบบไฮบิรดล่ะครับ ที่ค่าซ่อมราคาโหดเอาเรื่อง
อีกอย่างก็คงเป็นเรื่องราคาขายต่อที่อาจจะตกมากหน่อย
นอกนั้นมันเหมือนกัน ใช้งานสบายๆ
เดินทางนุ่มๆไม่ต่างกันแทบทุกรุ่นล่ะครับ
ปล.ยินดีด้วยครับ
ถ้าส่วนต่างที่ได้มา คิดแล้วคุ้มค่ากับค่าบำรุงรักษาและราคาที่ตกมากกว่า เลือก hybrid ก็ได้ครับ
-
ใช้ไปเหอะครับไม่มีปัญหาอะไรหรอก จะนำเข้าจากเกรย์หรือโตโยต้า มันก็คือรถ CBU เหมือนกันผมก็ใช้ vellfire ZRG อยู่ครับรถเกรย์เหมือนกันตอนนี้ขับมา 40000โลแล้วยังไม่พบปัญหาอะไรเลย ไปเที่ยวก็สบายความปลอดภัยก็ครบถ้วน เดินทางไกลผมขับประมาณ 110-120 ก็ได้อยู่ที่ 12โลลิตรซึ่งถ้ามองดีๆๆวิ่งความเร็วเท่านี้กินน้อยกว่า suv นิดหน่อยแต่ความสบายของผู้โดยสารเยอะกว่ามาก บอกได้เลยว่าคุ้มครับ
-
ขอบคุณทุกท่านครับ
ตอนแรกจะหนีไปออก BMW 3GT เพราะขี้เกียจรอรถอีก1เดือน แต่ว่าคิดดูแล้วไม่อยากจะต้องซื้อรถอีกเพราะว่าลูกกำลังจะคลอดและตอนนี้รถที่บ้านก็มีแต่SUV ทั้ง VW Toureg และ Harrier และก็กินน้ำมัน 6-7 km/l ทุกคันเลยอยากได้ที่safeน้ำมันหน่อย
-
ผมคนนึงไว้ใจ hybrid ของ โตโยต้าที่สุดครับ
อย่าไปคิดถึงราคาขายต่อ คุณจะสบายใจกับมันมากครับ
ถึงเวลาบำรุงรักษาก็เปลี่ยนไปตามอายุครับ
ขายก็ถือว่าใช้คุ้มมากแล้ว
-
ผมใช้ Alphard Executive Lounge Hybrid รับรถมาต้นปีครับวิ่งไป 17,000 กิโลได้ครับ
ปกติดีทุกอย่างครับกินน้ำมัน 12-13 โดยประมาณถ้าไม่เหยีบมากถ้าซิ่งๆหน่อยก็ 11 กลางๆครับ
โดยรวมตอนนี้ปกติดีหลักๆไฮบริดเกียร์อย่าข้างเกียร์ D ไว้นานครับมีผลต่อระบบถ้าติดไฟแดงแล้วใส่ N ดีกว่าไม่งั้นปั๊มเบรค ABS จะเสียไวมากครับ
ถ้าผมไม่ได้ราคาตัว Executive Lounge Hybrid พอดีได้ราคาดีมากๆเลยรีบเอามาจะไป 3.5 ก็ราคาแรงเกิน
โดยถ้าโจทย์ผมไม่ได้อยากได้ Executive Lounge ผมจะเลือกเครื่องธรรมดาครับ
จริงอยู่ว่า Executive Lounge เครื่อง Hybrid แพงสุดในไลน์ที่ญี่ปุ่นไม่นับตัวโครตพิเศษ (Royal lounge hybrid)
แต่พอมาไทยด้วยภาษีคิดไม่เหมือนกันกลายเป็น 3.5 แพงสุดทั้งที่จริงๆราคาออปชั่นเท่ากันที่ญี่ปุุ่น Hybrid แพงสุดครับ
ที่นี่ถ้าถามถึงเหตุผลถ้าผมยังไม่ได้ซื้อและไม่ได้ราคาถูกกว่าปกติมาผมจะเลือกจากเหตุผลตามนี้ครับ
1.ระยะทางต่อปีรวมทั้งจำนวนปีที่ใช้ครับ
2.ขับเองบ่อยแค่ไหนหรือมีคนขับให้
3.คิดว่าจะขายตอนอายุรถกี่ปี
4.เข้าใจการใช้งานพอสมควรไม๊ถ้าเลือกไฮบริดกรณีนี้ถ้ามีคนขับใช้เวลาทำความเข้าใจนิดนึงครับ
5.ถ้าวิ่งน้อยและจอดนานๆบ่อยตัวทิ้งได้เลยครับแบตจะเสื่อมเร็วมากๆไม่แนะนำตรงกันข้ามถ้าวิ่งหนักมากๆก็ไปไวเหมือนกัน
สรุปถ้าไม่ต้องการ Executive Lounge (จริงๆราคาทั่วไปในไทยพอๆกับไฮบริด)เล่นตัวรองลงมาพวก Alphard SC Vellfire ZG
ใช้งานระยะยาววิ่งเยอะหรือน้อยสบายใจกว่าครับระยะยาวการดูแลระบบถูกกว่าและปัญหากรณีถ้าเกิดจะแก้ไขได้ง่ายกว่าครับ
จริงๆตัวไฮบริดรุ่นใหม่ทนขึ้นมมากครับปรับปรุงหลายส่วนแต่ผมเลือกที่จะตัดปัญหาดีกว่าไฮบริดต้องดูแลมากกว่าหน่อยครับ
สำหรับผมถ้าต้องการออปชั่นเกือบเต็มขาดแค่รายละเอียดภายในนิดหน่อยตัว 2.5 SC / ZG คุ้มค่าเงินมากครับออปชั่นเกือบเต็มแล้วได้ชุดแต่งกันชนสปอร์ตด้วยไฟหน้าหลังลมดำบางคันที่เข้ามาสั่งออปชั่นเพิ่มแบบตัว Executive Lounge คือ + ลำโพง JBL 17 ลำโพง มาด้วยก็น่าสนครับถ้าไม่ซีเรียสก็ทำเองร้าน
ข้างนอกดีๆที่ทำมาหลายคันก็มีเยอะครับส่วนรุ่นรองลงมาก็เลือกตามความเหมาะสมการใช้งานครับคุ้มทุกรุ่นเป็นรถที่ดีมากๆครับใช้งานได้หลากหลายขับก็ดีด้วยคุ้มกับการลงทุนเงินที่จ่ายเพื่อรถราคานี้น่าจะต้นๆตอนนี้แล้วเป็นไปได้ผมแนะนำว่าเพิ่มออปชั่น Radar ไปด้วยครับได้ใช้แน่ๆรถมันขับนิ่มมากมีเผลอเหมือนกันเตือนช่วยได้เยอะครับ
ขอให้ได้รถถูกใจครับ ส่วนฟิล์มแนะนำ 3M Crystalline C40 รอบคันสวยและกันร้อนดีครับ
-
ผมใช้ Alphard Executive Lounge Hybrid รับรถมาต้นปีครับวิ่งไป 17,000 กิโลได้ครับ
ปกติดีทุกอย่างครับกินน้ำมัน 12-13 โดยประมาณถ้าไม่เหยีบมากถ้าซิ่งๆหน่อยก็ 11 กลางๆครับ
โดยรวมตอนนี้ปกติดีหลักๆไฮบริดเกียร์อย่าข้างเกียร์ D ไว้นานครับมีผลต่อระบบถ้าติดไฟแดงแล้วใส่ N ดีกว่าไม่งั้นปั๊มเบรค ABS จะเสียไวมากครับ
ถ้าผมไม่ได้ราคาตัว Executive Lounge Hybrid พอดีได้ราคาดีมากๆเลยรีบเอามาจะไป 3.5 ก็ราคาแรงเกิน
โดยถ้าโจทย์ผมไม่ได้อยากได้ Executive Lounge ผมจะเลือกเครื่องธรรมดาครับ
จริงอยู่ว่า Executive Lounge เครื่อง Hybrid แพงสุดในไลน์ที่ญี่ปุ่นไม่นับตัวโครตพิเศษ (Royal lounge hybrid)
แต่พอมาไทยด้วยภาษีคิดไม่เหมือนกันกลายเป็น 3.5 แพงสุดทั้งที่จริงๆราคาออปชั่นเท่ากันที่ญี่ปุุ่น Hybrid แพงสุดครับ
ที่นี่ถ้าถามถึงเหตุผลถ้าผมยังไม่ได้ซื้อและไม่ได้ราคาถูกกว่าปกติมาผมจะเลือกจากเหตุผลตามนี้ครับ
1.ระยะทางต่อปีรวมทั้งจำนวนปีที่ใช้ครับ
2.ขับเองบ่อยแค่ไหนหรือมีคนขับให้
3.คิดว่าจะขายตอนอายุรถกี่ปี
4.เข้าใจการใช้งานพอสมควรไม๊ถ้าเลือกไฮบริดกรณีนี้ถ้ามีคนขับใช้เวลาทำความเข้าใจนิดนึงครับ
5.ถ้าวิ่งน้อยและจอดนานๆบ่อยตัวทิ้งได้เลยครับแบตจะเสื่อมเร็วมากๆไม่แนะนำตรงกันข้ามถ้าวิ่งหนักมากๆก็ไปไวเหมือนกัน
สรุปถ้าไม่ต้องการ Executive Lounge (จริงๆราคาทั่วไปในไทยพอๆกับไฮบริด)เล่นตัวรองลงมาพวก Alphard SC Vellfire ZG
ใช้งานระยะยาววิ่งเยอะหรือน้อยสบายใจกว่าครับระยะยาวการดูแลระบบถูกกว่าและปัญหากรณีถ้าเกิดจะแก้ไขได้ง่ายกว่าครับ
จริงๆตัวไฮบริดรุ่นใหม่ทนขึ้นมมากครับปรับปรุงหลายส่วนแต่ผมเลือกที่จะตัดปัญหาดีกว่าไฮบริดต้องดูแลมากกว่าหน่อยครับ
สำหรับผมถ้าต้องการออปชั่นเกือบเต็มขาดแค่รายละเอียดภายในนิดหน่อยตัว 2.5 SC / ZG คุ้มค่าเงินมากครับออปชั่นเกือบเต็มแล้วได้ชุดแต่งกันชนสปอร์ตด้วยไฟหน้าหลังลมดำบางคันที่เข้ามาสั่งออปชั่นเพิ่มแบบตัว Executive Lounge คือ + ลำโพง JBL 17 ลำโพง มาด้วยก็น่าสนครับถ้าไม่ซีเรียสก็ทำเองร้าน
ข้างนอกดีๆที่ทำมาหลายคันก็มีเยอะครับส่วนรุ่นรองลงมาก็เลือกตามความเหมาะสมการใช้งานครับคุ้มทุกรุ่นเป็นรถที่ดีมากๆครับใช้งานได้หลากหลายขับก็ดีด้วยคุ้มกับการลงทุนเงินที่จ่ายเพื่อรถราคานี้น่าจะต้นๆตอนนี้แล้วเป็นไปได้ผมแนะนำว่าเพิ่มออปชั่น Radar ไปด้วยครับได้ใช้แน่ๆรถมันขับนิ่มมากมีเผลอเหมือนกันเตือนช่วยได้เยอะครับ
ขอให้ได้รถถูกใจครับ ส่วนฟิล์มแนะนำ 3M Crystalline C40 รอบคันสวยและกันร้อนดีครับ
ขอบคุณมากครับ ได้ความรู้เยอะมากๆครับ
ผมใช้เฉลี่ยเดือนละ 1,000-1,200 กม. ปีละประมาณ15,000 กม. ครับ คันนี้ผมกะใช้งานประมาณ 7-8 ปี จะขับเองเป็นส่วนใหญ่ ถ้าใช้คนขับผมใช้ VW Caravelle แทนครับ ที่จริงที่บ้านมี Toyota Vellfire โฉมเก่าอีกคัน แต่กินน้ำมันพอควรเลยอยากลอง Hybrid ดูบ้างเพราะใช้ในเมืองหรือเดินทางใกล้ๆครับ
ส่วนฟิล์มจอง 3M Crystalline ไปตอนmotor show แล้วครับ เครื่องเสียงก็เตรียมดูไว้แล้วครับผม