Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: akewizard ที่ พฤษภาคม 13, 2016, 14:14:23
-
Credit ที่มา : www.autoguide.com (ถ้าผิดกฎ ลบได้เลยครับ)
http://www.autoguide.com/auto-news/2016/05/honda-is-working-on-an-engine-with-different-sized-cylinders.html (http://www.autoguide.com/auto-news/2016/05/honda-is-working-on-an-engine-with-different-sized-cylinders.html)
เห็นว่าน่าสนใจดีเลยลองเอามาให้ดูครับ ..
เท่าที่ลองอ่านดู จับใจความได้ว่า Honda กำลังพัฒนาเครื่องยนต์แบบใหม่ที่ลูกสูบแต่ละตัวสามารถเปลี่ยนระยะชักได้ในขณะที่กำลังทำงานอยู่ ทำให้สามารถเปลี่ยนความจุ(CC)ของแต่ละลูกสูบได้ตลอดเวลาขณะที่เครื่องกำลังทำงาน...
เช่น เครื่อง 2000 CC 4 สูบ สูบละ 500 CC แต่เครื่องเดียวกันนี้ขณะทำงานอาจจะขยับระยะชักของลูกสูบเพื่อให้ขนาดเครื่องเหลือ 1500 CC, 1000 CC ได้เช่นตอนที่กำลังเดินเครื่องรอบเบาเพื่อประหยัดน้ำมัน
หรือแม้แต่ให้ลูกสูบแต่ละตัวมี CC แปรผันต่างกันไปได้ในแต่ละช่วงเวลาที่เครื่องทำงาน ทำให้สามารถปรับแต่งการทำงานของเครื่องยนต์ได้หลากหลายมากขึ้น ส่งผลในเครื่อง 4 สูบจะสามารถสร้าง Combination การทำงานของเครื่องยนต์ได้อย่างน้อย 15 รูปแบบในเครื่องเดียว
ทั้งนี้ ยังไม่รู้ถึงจุดประสงค์หลักของทาง Honda ว่าพัฒนาระบบนี้ขึ้นเพื่ออะไรบ้าง เช่น อาจจะเพื่อให้ประหยัดน้ำมันมากขึ้น หรือพัฒนาไปเป็นระบบใหม่เหมือนกับ V-tec
ตัวบทความภาษาอังกฤษ :
Honda has filed an interesting patent that could reveal what it is working on for its next generation of engines.
Found on Japans patent office database, it appears that Honda is working on a solution that would vary the stroke of each cylinder in an engine, allowing each cylinder to have a different displacement. For example, if you take a current Honda 2.0-liter four-cylinder engine where each cylinder has 500cc of displacement, you can only vary the displacement in four different ways, either 500cc, 1000cc, 1500cc or 2000cc depending on how many cylinders are firing.
SEE ALSO: Honda Clarity Range Expands to Include 3 Green Models
The new technology could offer more than four different total displacements working at the same time, with a smaller gap between each of them. Given four cylinders of varying sizes, there are a total of 15 different combinations of one-to-four cylinders firing. Yes, that essentially means an engine could have 15 different displacements working at a time.
Interestingly enough, the patent describes how the technology would work on inline- two, three and four-cylinder engines as well as a V6. Presumably, this type of setup would help increase fuel efficiency, but Honda didnt disclose what the purpose was. Got any ideas? Let us know in the comments.
**แก้ไข เพิ่มรูปครับ**
-
ล้ำ จน งง
-
......ผมเชื่อของผมว่า เป็นไปไม่ได้........
คุณจะยืดหรือหดได้อย่างไร ในเมื่อข้อเหวี่ยงบังคับอยู่ หรือว่าคุณขยับก้านได้ ห้องเผาไหม้ละครับ...หดลงมาห้องเผาไหม้มันตามมาด้วยได้หรืเปล่า ขยับแค่มิลสองมิล แรงอัดก็เพี้ยนไปเยอะแล้ว
............หรือผมแก่ไปแล้ว.....
-
ดูแล้วไม่น่าจะมีประโยชน์มากเท่าไหร่เลย
สมัยก่อนฮอนด้ามีเครื่องเทคโนโลยี VCM ในแอคคอร์ดเพื่อการประหยัดน้ำมัน
เครื่อง 6 สูบ แต่ทำงาน 3 สูบในรอบเดินเบา ทำงาน 4 สูบในช่วงเดินทางรอบคงที่
และทำงาน 6 สูบในช่วงต้องการกำลังเครื่อง แบบนี้ก็ยังดูโอเคกว่าเลย..
มาตอนนี้จะทำแบบลด CC. :o :o
-
......ผมเชื่อของผมว่า เป็นไปไม่ได้........
คุณจะยืดหรือหดได้อย่างไร ในเมื่อข้อเหวี่ยงบังคับอยู่ หรือว่าคุณขยับก้านได้ ห้องเผาไหม้ละครับ...หดลงมาห้องเผาไหม้มันตามมาด้วยได้หรืเปล่า ขยับแค่มิลสองมิล แรงอัดก็เพี้ยนไปเยอะแล้ว
............หรือผมแก่ไปแล้ว.....
ผมกลับเห็นว่ามันเป็นไปได้ครับ เทคโนโลยีมันมาไกลมากๆ สิ่งที่เราคิดว่าเป็นไปไม่ได้มากมายได้เกิดให้เราเห็นมานักต่อนักแล้วครับ
เรื่องที่เราสงสัยนี่เหละครับเค้าคงกำลังวิจัยกันอยู่ แต่คงต้องใช้เวลาหน่อย เรามารอดูไปพร้อมๆกันครับ ^_^
-
เหมือนเคยอ่านบทความ เทคโนโลยีนี้เมื่อ 7-8 ปี ก่อนในนิตยสารฉบับหนึ่งครับ รู้สึกตอนนั้นจะเป็นช่วงทดลอง
เป็นเครื่อง 2 สูบ แปรผันความจุได้
-
น่าสนใจดีนะครับ แต่ผมไม่รู่ว่าจะเป็นไปได้ป่าว
-
คือถ้าใครเข้าใจ ว่า CC รถวัดจากอะไร
เครื่อง 1.8 กับ 2.0 ต่างกันตรงไหน
ก็จะรู้ว่าเป็นไปได้
แต่ ทำแล้วจะคุ้มหรือได้ผลดีไหม ??
ล้ำเกิน
ให้ผมเดานะเปลี่ยน องศาตรงข้อเหวี่ยงของก้านสูบ เป็นผลให้ระยะชักเปลี่ยนแปลงไป แล้ว ใช้ ECU จ่าย น้ำมัน ไฟ ให้เหมาะสม
เห็น R1 ไหม ตรงข้อเหวี่ยง นั่นละ ตัวเปลี่ยนระยะชัก
เป็นการคุมด้วย กลไล ทางกล ไม่มีผิดพลาดหรอกครับ
ลูกสูบรถหมุนที่ความเร็ว 6000 รอต่อนาที ECU ยังจุดระเบิด จ่ายน้ำมันทันเลย
-
ดูแล้วเป็นการ สไลต์ ข้อเหวี่ยงขึ้นลง รูปที่ 1 ดูจากตำแหน่ง 37 รูปที่ 2 ดูจากตำแหน่ง R1
แต่เพลาข้อเหวียงต้องส่งกำลังไปชุดขับเคลื่อนต่อ ถ้าทำให้ สไลต์ แบบนี้ จะต้องมีวิธีส่งกำลังแบบใหม่ที่ยืดหยุ่นมากๆ
น่าติดตาม พอๆ กับ no camshaft ของ koenigsegg
-
จากแปรผันวาวล์ มาแปรผันข้อเหวี่ยงแทน .... :-\
-
น่าจะพัฒนามาจากเทคโนโลยี Honda EXlink (Extended Expansion Linkage Engine) ซึ่งเป็นเทคโนโลยีต้นแบบของ Honda
โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ Thermal Efficienty (พูดง่ายๆก็คือเพิ่มประสิทธิภาพการใช้เชื้อเพลิง)
โดยตัวเครื่องประกอบด้วยส่วนประกอบตามที่เห็นดังนี้
(http://thekneeslider.com/images/2011/08/exlink-engine-components.jpg)
ตัวข้อเหวี่ยงนั้นจะเชื่อมต่อกับชุดกระเดื่องที่ขยับสโตรกลูกสูบให้มากน้อยตามจังหวะการทำงานของเครื่อง โดยในจังหวะดูด สโตรกของเครื่องจะน้อย
เพื่อลดปริมาณไอดีลง
(http://thekneeslider.com/images/2011/08/exlink-engine-intake-stroke.jpg)
ส่วนจังหวะกำลังสโตรกของเครื่องจะเพิ่มขึ้นเพื่อเพิ่มพื้นที่ขยายตัวของไอเสียร้อน ซึ่งแรงดันจากการขยายตัวของไอเสียนั้นจะส่งผ่านข้อเหวี่ยงได้
มากขึ้นเนื่องจากการเพิ่มขนาดห้องเผาไหม้ (จากเดิมที่กำลังบางส่วนสูญเสียไปเนื่องจากส่งผ่านแรงได้ไม่หมดเนื่องจากสุดสโตรกเครื่องแล้ว)
(http://thekneeslider.com/images/2011/08/exlink-engine-power-stroke.jpg)
โดยการที่ความจุทางฝั่งไอเสียมากกว่าไอดีนั้นส่งผลให้ประสิทธิภาพของเครื่องยนต์นั้นเพิ่มขึ้น ซึ่งตรงกับหลัก Atkinson cycle
ที่พบได้ในรถไฮบริดเช่น Prius (เพียงแค่ทาง Prius ปล่อยให้ไอดีรั่วในจังหวะอัดแทนปรับขนาดห้องเผาไหม้)
เพียงแค่เทคโนโลยี EXlink นั้นไม่สามารถปรับขนาดห้องเผาไหม้ได้ละเอียดตามที่เสนอในหัวข้อข่าวเท่านั้น
การทำงานของ EXlink
http://www.youtube.com/watch?v=fm7omxr2Ljk (http://www.youtube.com/watch?v=fm7omxr2Ljk)
ข้อมูลอ้างอิง
http://thekneeslider.com/honda-exlink-extended-expansion-linkage-engine/ (http://thekneeslider.com/honda-exlink-extended-expansion-linkage-engine/)
-
ก้าวไปเรื่อยๆ ดีครับ ส่วนตัวผมไม่รู้หรอกว่าจะดีไม่ดี เป็นจริงได้มากน้อยแค่ไหน ไม่มีความรู้ตรงนี้
ผมว่าแค่กระบอกสูบบางตัวไม่ทำงานเวลารถวิ่งในเมืองใส่ในรถเล็กๆบ้าง แค่นี้ผมก็พอใจแล้ว
-
หวังว่าฮอนด้าคิดอะไรมาแล้วเป้นประโยชกับคนไทเร็วๆนะ
ล้ำๆบ้างก็ดี
-
เอาเครื่องดีเซลมาใส่ใน BR-V เหมือนที่ขายในอินเดียหน่อยสิ ....อยากได้
-
อยากให้พัฒนารถไฟฟ้าที่ชาร์จครั้งนึงวิ่งได้สักพันกิโลเมตรมากกว่าคงจะดี
-
สำหรับคนที่เรียนมาทางสายนี้จริงๆ เขาจะบอกว่าขีดจำกัดมีให้ก้าวผ่านครับ แต่ ขอบเขตมันก็ต้องคือขอบเขต เราทำให้ลูกสูบเปลี่ยนระยะชักได้ อะไรคือตัวกำหนดครับ อุปสรรคผมบอกตอนนี้ว่าถ้าทำได้จริง สุดท้ายคำตอบจะอยู่ที่คำว่า ความคงทน ค่าซ่อมบำรุง ราคาของอุปกรณ์ตัวนี้นี่ล่ะ อีกนานครับ รอเทคโนโลยีถึงขีดจำกัดของมัน ผมว่าถึงจะมีมา
-
ทำให้นึกถึงเครื่องยนต์ MCE-5 เลย
https://youtu.be/DdM2VbbdtB4
-
ผมก็นึกถึงเครื่อง MCE-5 ของทางฝรั่งเศสเหมือนกัน เห็นทดลองกันมาตั้งแต่ช่วงปี 2000 แต่จนแล้วจนรอดก็ยังมีปัญหาของการสึกหรอตัวปรับระยะช่วงชัก จนทาง PSA ไม่ได้พูดถึงอีก
-
พอจะเข้าใจประโยชน์ในของระบบนี้นะครับ แต่คำถามเรื่องความทนทานนี่วิ่งเข้ามาในหัวผมอันดับแรกๆเลยครับ
-
โคตรล้ำ
-
คงไม่เวิร์ก