Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: sengausa ที่ พฤษภาคม 24, 2016, 11:40:35
-
จำเป็นต้องมีรถ = เอารถไว้ใช้หาเงิน หรือด้วยการใช้งานต้องเดินทางไกล ระบบขนส่งไม่อำนวยความสะดวก สมาชิกในบ้านเพิ่มขึ้นหรือมีผู้สูงอายุ
ความอยากจะมีรถ = ความอยากมีรถล้วนๆๆๆ ถึงเวลาต้องมี ไม่อยากแออัดเบียดเสียดกับคนอื่น เอาไว้โชว์สาว และอื่นๆๆๆๆๆ
-
ตอนที่ตัวผมอยากมี ไม่ใช่เพราะโชวสาว แต่เพราะมันสุกงอมแก่เวลา ผมจึงซื้อโดยไม่ลังเล
-
เริ่มแรกก็คิดว่า จำเป็นต้องมีรถ
ไปๆมาๆ กลายเป็น อยากจะมีรถ (กิเลสล้วนๆครับ) ฮ่าๆ
-
จำเป็นต้องใช้ แล้วก็ดูว่า อยากได้รุ่นไหน
-
อยากครึ่งนึง....จำเป็นอีกครึ่งหนึ่งครับ
จำเป็น... ต้องมีรถไว้ขับไปทำงานร่นระยะทางและเวลา
อยาก...ได้ขับสี่ยกสูงด้วย เอาไว้ไปเที่ยวป่าเขาช่วงวันหุยด 8)
-
ของผมนี่สองเหตุผลเลยครับ..
"จำเป็น" เพราะต้องใช้งานในชีวิตประจำวัน
เดินทางทุกวัน รถโดยสารประจำทางไม่สะดวก
มอไซด์ที่บ้านไม่อยากให้ใช้ เพราะเส้นทางค่อนข้างอันตราย
เนื่องจากต้องผ่านเส้นทางหลักอย่างเส้นมิตรภาพ
ความอยาก เพราะที่บ้านมีรถให้ใช้อยู่
แต่บางครั้งพ่อหรือแม่ก็จะใช้รถด้วย
ถ้าจะใช้ในช่วงเวลาตรงกัน คุณแม่ผมจะใช้มอไซแทน
ก็เลยออกอีกคัน ถึงไม่ออกรถใหม่ ก็ไม่เดือดร้อน
แต่เพราะ "อยากได้"
-
ใช้รถทุกวัน ถ้ามีเงินเหลือพอซื้อแล้วไม่ลำบากติดขัดก็ซื้อเลย
พาลูกเมียไปเที่ยวห้าง
พาพ่อแม่(อายุมากแล้ว) ไปหาหมอไปซื้อของ
ขับไปเตะบอลเที่ยวบลา
ส่วนรถที่ใช้หาเงินก็ซื้อเลยไม่ต้องคิดมากเพราะต้องใช้ส่งของหาเงิน
-
จำเป็น.. เพราะร่างกายเป้นภุมิแพ้
รถเมล แทกชี้. รถทัว รถตุ้ ขึ้นทีไรเหม็น อาเจียรและไมเกรน
หากจำเป็นต้อง. รถเมลร้อนเปิดกะจก
พอมีคันที่1 ก้อไม่ตอบโจทย์ทั้งหมด เลยมี2,3,4,5ตามมา ตอนนี้ตอบครบ
แต่ยังขาดรถในฝัน ที่"อยาก"
สรุป
จำเป็นต้องใช้ เพื่อสุขภาพ
ส่วนรถที่อยากได้ ยังไม่มีโอกาส รออยุ่เหมือนกัน mustang Ecoboot ไปดูมาละเจ้าใหญ่พระราม9
-
ผมมี สองเหตุผล ครับ
จำเป็น > ผมจำเป็นต้องขับรถและมีรถเพราะที่บ้านผมมีคนขับรถไม่เป็นเยอะ แล้วผมต้องคอยรับ คอยส่งเกือบตลอด เพราะเค้าถือว่าเป็นเด็กเลยใช้วานได้ โดยเฉพาะรับ-ส่งน้องสาว เพราะที่บ้านไม่ยอมให้น้องเดินทางเองเลย (เสพข่าวโดยไม่คิดเชื่ออย่างเดียว) ขนาดน้องผมอายุ 18 แล้วนะครับ
อยากมี > ความอยากมีของผมเกิดจากความจำเป็นนี่แหละความ คือว่าไหนๆจะต้องขับรถให้คนอื่นๆนั่งเป็นส่วนใหญ่ ผมเลยอยากขับรถที่ตัวเองอยากได้ ขับแล้วมีความสุข ไม่ใช่ต้องฝืนขับไปให้คนอื่นเค้ามีความสุข เราก็เหนื่อย เราก็ทุกข์ แต่คนอื่นเค้าไม่สนใจหรอก พอปฏิเสธไม่ไปบางทีก็เป็นเรื่อง สุดท้ายก็ต้องยอม (ขอย่นหน่อยนะ 555)
ทุกวันนี้ขับ Stream ที่ไม่ได้ใช้ของพ่ออยู่ ถามว่ามีความสุขมั้ย มีในระดับนึงแต่ยังไม่ใช่รถที่เราอยากขับและมีความสุขในแบบที่เราต้องการ ก็เลยอยากได้รถคันที่เรามีความสุขมากที่สุดเท่าเราพอจะยอมรับได้ครับ ซึ่งเร็วๆนี้ก็คงจะได้ซื้แแล้วหละ
-
จำเป็นครับ อยู่ต่างจังหวัดการขนส่งไม่ได้ดีอะไรมีลูกอีกสองคน เคยไม่มีอยู่ช่วงนึงจะพาลูกไปหาหมอตามนัดก็ต้องยืมรถของน้องที่บ. ไปซื้อของก็โทรเรียกตุ๊กๆมารับ ซื้อเสร็จก็นั่งตุ๊กๆกลับก็จะได้แค่ใกล้ๆ มาถึงที่สุดตอนลูกตกแคร่หัวแตกรีบด่วนมากต้องขี่มอเตอร์ไซด์พาไปคลีนิคขากลับฝนตกหนักมากต้องโทรให้พี่ที่บ. มารับ อีกทีก็ลูกไม่สบายตอนดึกทนไม่ได้ต้องขี่มอเตอร์ไซด์ไปยืมรถน้องที่บ. กันตอนสี่ทุ่ม
สุดท้ายตอนนี้ก็ต้องกัดฟันซื้อมือสองมาใช้ไปก่อนแหละครับ ความจำเป็นมันมีจริงๆ อนาคตถ้ามีเงินมากกว่านี้ก็คงเป็นความอยากแทน เห็น BRV กับ Triton นี่ตัวสั่นอยากได้กันเลยทีเดียว
-
กิเลสครับ
แต่มีแล้วมันก็สบายดี
-
สำหรับผม ผมอยากมีสักคันไว้ขับไปเที่ยว ส อา เท่านั้นเองครับ แต่ตอนนี้กิเลสมาเต็มครับ ดูมือ2ทุกวันอยากหามือ2 อีกสักคัน
-
ที่มีรถ เพราะว่า ต้องการความเป็นส่วนตัว ไปไหนมาไหนสะดวก
สมัยก่อน ก็คงคิดไว้ใช้งานด้วย เท่ห์ด้วย เลยแต่งไปสารพัด :'(
ซึ่ง ณ ปัจจุบัน คิดว่าไม่จำเป็นต้องมีก็ได้ เพราะเราทำงานอยู่ในเมือง โบกแท็กซี่ ขึ้น BTS ก็สะดวกดี
และเดินทางน้อยกว่าตอนเรียนมหาวิทยาลัยเยอะ ไม่ต้องไปเสียค่าบำรุงรักษา ฯลฯ
ผมใช้รถ เฉลี่ย ปีละ 10,000 โล
ไม่มีครอบครัว ไม่ต้องผ่อนบ้าน เลยซื้อรถไว้ให้มีครบ ๆ
เวลาไปต่างจังหวัดไม่ต้องไปยืมคนอื่นครับ 8)
-
ที่ซื้อรถคันแรกเพราะคิดว่า ระบบขนส่งของเมืองไทยไม่ค่อยดี ไม่ครอบคลุมทุกพื้นที่ และไม่ค่อยปลอดภัยครับ เลยซื้อรถไว้ขับเอง......อืม.....................จริงๆ...แล้ว....อยากมีรถขับเหมือนคนอื่นเขาครับเหตุผลตอนต้นเอาไว้หลอกตัวเองครับว่าเราเป็นคนมีเหตุผล กิเลสล้วนๆ แต่ไม่อยากยอมรับอ่ะ 5555555
-
ตอนเรียน ป.1-6 ไม่อยากมี เพราะขับไม่เป็น
ตอนเรียน ม.1-3 อยากมี แต่ไม่มี เพราะไม่มีเงินซื้อ จน
ตอนเรียน ม.4-6 อยากมี มี akira ขี่ไปรับส่ง สาว มีความสุข
ตอนเรียน ปี1-4 อยากมี มี tzm ขี่ไปรับส่ง สาว ทำกิจกรรมต่อ มีความสุข
ตอนเรียน โทปี1-6 อยากมี แต่ไม่มี เพราะไม่จำเป็น ไปรับส่ง สาว แต่อยู่ใน กท. รถประจำทางสะดวกกว่า
ตอนเรียน เอกปี 1-5 อยากมี แต่ไม่มี เพราะไม่จำเป็น อยู่ใน กท. รถประจำทางสะดวกว่า
ตอนอยู่อเมริกา 1 ปี อยากมี แต่ไม่มี เพราะค่าใช้จ่ายเยอะ รถสาธารณะตรงเวลา รถยนต์เลยไม่จำเป็น
ตอนทำงาน อยากมี มี เพราะจำเป็นมาก รับส่งลูก เมีย ไปทำงาน พาลูกน้อง พาเลขาไปเลี้ยง
-
จำเป็นครับ เพราะต้องใช้ทำงาน วิ่งเข้าไปพบลูกค้า แต่ตอนนี้ก็อยากได้คันใหม่เพื่อสนองกิเลส แต่ติดที่มันไม่จำเป็นเพราะไม่รู้จะหามาให้เป็นภาระทำไม คันเดิมก็ใช้ได้อยู่
เวลาที่ไม่ได้ใช้ทำงานหรือไปไหนกับใครก็ควบ 2 ล้อตลอด ทำเวลาได้ดีกว่ารถยนต์
-
ทั้งสองครับ
-
ซื้อรถคันแรกจำเป็นครับ เพราะบ้านอยู่แถวชานเมือง ถ้าไปรถเมล์เหนื่อยแน่ครับ
แต่หลังจากนั้น การเปลี่ยนรถใหม่ไม่ถึงกับจำเป็น แต่ตอบความต้องการณ.ขณะนั้นได้ดีกว่า
เช่นทางไปที่ทำงานใหม่ไกลขึ้น. รถใหญ่เยอะ. ก็จะเปลี่ยนเป็นรถที่ใหญ่ขึ้น ระบบความปลอดภัยมากขึ้นครับ
-
ซื้ออยากมี เพราะตอนนั้น กะว่า ผ่อนรถ 4 ปี ครบ จะซื้อบ้านต่อเลย จะได้ไม่ต้องส่ง 2 ทาง ครับ
ตอนซื้อรถมา ก็เอา มอเตอร์ไซค์ ไปทำงานเพราะสะดวกและคล่องตัวกว่า รถยนต์เอาไว้เที่ยวไกลๆ เท่านั้น 8)
-
รถยนต์สำหรับผมตอนแรกคืออยากมีแต่ไม่สามารถมีได้ พอตอนที่จำเป็นต้องใช้จริงๆสุดท้ายเพราะความจำเป็นเลยต้องมี
แต่ก็ไม่ใช่รถรุ่นที่อยากได้มากที่สุด แต่ก็ใช้ได้เพราะมันคือพาหนะที่จพเป็นสำหรับผม
ส่วนที่อยากได้ ซื้อเพราะความอยากเลยคือ bigbike เอาตามจริงคือไม่มีความจำเป็นเลยแต่สุดท้ายก็ซื้อเพราะความฝัน วันหยุดได้ขับเที่ยวต่างจีงหวัดได้เหนื่อยได้ลุยกับมันก็คุ้มกับที่อยากมีแล้วครับ
หลักๆผมสิ่งจำเป็นจะต้องมาก่อนสิ่งที่อยาก
ต่อไปหลังจสกนี้คือแต่งงานกับบ้าน
-
คันปัจจุบัน ผมซื้อรถตามความจำเป็น เพราะย้ายงานจากกรุงเทพ มาต่างจังหวัด ต้องใช้ในการเดินทางไปทำงานครับ
ส่วนตอนนี้ กำลังเกิดกิเลส อยากซื้อคันใหม่ตามความอยากครับ ทั้งที่เจ้าคันเก่าก็ยังวิ่งปุเลงๆได้อยู่
-
กิเลสครับ
ความอยาก ทำให้ สร้างเหตุผล ว่าจำเป็น
แถมกิเลส ยังกำหนดให้ ต้องเป็นรุ่นโน้น รุ่นนี้ ด้วยนะครับ ไม่งั้น ไม่ซื้อ ไม่นั่ง 555
:)
-
ซื้อเพราะว่าต้องใช้ครับ
เหตุผลสำหรับผม
1.อยู่แถวๆนิคม ไม่มีรถประจำทาง รถรับส่งก็เป็นแต่พวกเด็กเส้น ที่นั่งเต็มทั้งปี
2.งานเข้า-ออกไม่เป็นเวลา บางทีมีเคสด่วนต้องเข้างานตอนดึก
3.ตำแหน่ง งานที่ทำตำแหน่งสูง เคยขี่มอไชค์ไปหาเจ้านายที่โรงแรม ยามแทบไม่ให้เข้า ไหนจะไปงานเลี้ยงอีก
4.ครอบครัว มีแฟนก็ไม่อยากให้เค้าลำบาก ไหนจะลูกเราอีก
สำหรับผมรถจำเป็นมาก แต่ผมก็เลือกรถที่พอเพียงกับการใช้งาน ไม่ได้หรู ไม่ได้แพงอะไรมาก เพราะซื้อมาใช้งาน ไม่อยากต้องมาเหนื่อยทำงานงกๆ เพื่อส่งรถเป็นจวนเจียน
-
ไม่มีอะไรครับ แค่อยากได้ อันนี้จริงๆ เลย ตอนหลังๆ ต้องใช้เพราะว่าเอาไว้ซื้อของเข้าร้านจ้างคนมาส่งทีละ 200 บาท เดือนหนึ่งไม่รู้กี่รอบ เอาไว้เดินทางกลับบ้าน (เหตุผลนี้ฟังไม่ค่อยขึ้นเระตอนหลังๆ นั่งเครื่องกลับสถานเดียว) เวลามีธุระ เออ มันก็สะดวกดี รถผม ขับปีละ 25000 โดยประมาณครับ
-
ถ้าเป็นของแม่ผมนี่จำเป็นครับ ต้องไปทำงานไปกลับทุกวันๆละ 60 โล ไม่มีรถประจำทางเพราะบ้านนอก
แต่ของผมนี่อยากมีล้วนๆ 5555 แต่มีก็ได้ขนของขนนั่นนี่บ้าง ใช้วันฝนตกบ้าง
-
จำเป็นต้องมีครับ ไปทำงาน เที่ยว รับสาว และที่สำคัญ กลัวไม่อยากนั่งรถตู้ครับ ขับเองมั่นใจกว่า
-
ขอบคุณสำหรับความคิดเห็นของทุกๆ ท่านครับ
แต่ผมชอบความคิดเห็นนี้ครับ
" กิเลสครับ
ความอยาก ทำให้ สร้างเหตุผล ว่าจำเป็น
แถมกิเลส ยังกำหนดให้ ต้องเป็นรุ่นโน้น รุ่นนี้ ด้วยนะครับ ไม่งั้น ไม่ซื้อ ไม่นั่ง 555 "
มันก็จริงนะครับ เหมือนกับผมตอนนี้เลย เอาจริงๆๆๆๆๆๆ ก็ไม่ค่อยจำเป็นเท่าไหร่ แต่หาข้ออ้างให้อยากจะซื้อตลอดเลย
-
มีแล้วทำให้ชีวิตประจำวันสบายขึ้น สำหรับผมคือจำเป็นครับ ส่วนกิเลสนั้นระงับได้ด้วยความพอเพียง เลือกรถให้เหมาะกับการใช้งานและกำลังทรัพย์
-
กิเลส ครับ ชอบรถ หมกหมุ่นเรื่องรถ
มีความสุข ในการดูรถ ตั้งแต่เด็กๆ ตอนยังหาเงินเองไม่ได้ ชอบดูรถ ในลานจอด บนถนน
พอโตมา ไม่ชอบขึ้นรถโดยสารสาธารณะ
พูดไปคงหมั่นไส้ ผมไม่ชอบจับ ราวเหนียวๆ บนรถเมล์ รถไฟฟ้า และไม่ชอบโดนแขน โดนผมผู้หญิงยาวๆ โดนหลัง คนอื่นๆ บางคนนี้มาเหงื่อเยิ้มเลย บางคนก็จาม ไอ ไม่ปิดปาก
จมูกผม ไวต่อกลิ่น จะมีอาการหายใจไม่ออก ฟืดฟาด จาม น้ำตาไหล เมื่อสูดควันรถ หรือ กลิ่นน้ำเสีย ในคลอง กทม
-
จำเป็นต้องมีครับ อยู่กทม. ตอนเรียนมหาลัย ไม่มีรถไฟฟ้า รถใต้ดิน เดินทางด้วยรถเมล์ไม่สะดวกเลยครับ
พอทำงานยิ่งไกลกว่าเดิม แถมช่วงเวลาคนเลิกงานเจอกับรถประจำทางขับกันอันตรายครับ ขับเองสบายใจกว่า
-
ความจำเป็นต้องมีรถของผมคือต้องใช้ในการเดินทางหรือเพื่อการทำงานครับ
ส่วนความอยากมีรถคือ ผมมีคนที่จำเป็นแล้ว อีกคันคือรถที่อยากได้จริงๆครับ
แต่ถ้าบางตนมีความจำเป็นด้วย และอยากมีด้วยพอดี ก็ถือว่ากำไรล้วนๆครับ
-
อยากมีรถเพราะ จำเป็นต้องใช้สะดวกเวลาเดินทางไกล
และที่สำคัญคือเมื่อมีรถแล้วภาระค่าใช้จ่ายยังไม่สูงเกินเงินที่เราหาได้และก็ยังมีเงินเหลือเก็บอีกจำนวนนึง
จึงตัดสินใจซื้อรถ
-
จำเป็นครับ ถึงซื้อ ส่วนจะซื้อคันไหน มันขึ้นกับช่วงนั้นๆ เช่นขับคนเดียวไปทำงาน หรือเพื่อรับ-ส่งลูกไปโรงเรียน
-
ความอยากล้วนๆครับ แล้วมันจะสร้างเหตุผลที่จำเป็นจะต้องซื้อมาเอง
-
อยากมีครับ
ถามว่าจำเป็นมั้ยมันก็ไม่ได้จำเป็นนะตอนไม่มี แต่พอมีมันก็กลายเป็นของจำเป็นไปละ
-
คันแรก need
คันต่อๆมา want
-
จำเป็นต้องมีครับ ไปพบลูกค้าอยู่ต่างจังหวัดทั่วไทย
แต่รถรุ่นที่ใช้อาจเกินจำเป็น
-
อยากมีครับ
-
เพราะความพร้อมเรื่องการเงินครับ
-
จำเป็นต้องใช้ครับ
และเลือกด้วยเหตุผล มากกว่า อารมณ์ นิดๆ ครับ
-
พ่อยกรถให้ ตั้งแต่ ม.4 ใช้ร่วมกับแม่ ไว้รับส่งน้อง และ ขับไปเรียน / เรียนพิเศษ ณ ตอนนั้น ครับ
พอโตขึ้นมา เรียนจบ ทำงาน รถคันนั้น ก็ตกเป็นของผม ก็ใช้บ้าง / ไม่ใช้บ้าง ตามแต่โอกาส อย่างตอนทำงานแถวปทุมวัน ก็ไม่ใช้เลย นั่งรถไฟฟ้าสะดวกกว่า แต่ตอนทำงานวิภาวดี ใกล้กว่า แต่ต้องขึ้นรถ 2 ต่อ เดินไกล รอรถนาน ก็จะเอารถมาใช้น่ะครับ
ปัจจุบัน อยู่ ปราจีนบุรี รถไว้ขับเข้ากทม. กับ ขับเที่ยว แค่นั้น .. แต่ก็ยังเลือกรถที่ตอบสนองความอยาก ความต้องการของตัวเอง ต้องการรถที่สมรรถนะ และ ปลอดภัย หากเกิดอุบัติเหตุขึ้นมาครับ
-
อยากมีและจำเป็นต้องใช้ครับ
ทางบ้านซื้อรถมาเพิ่มตอนผมอยู่ ม5
ช่วงนั้นก็ได้ใช้บ้างเป็นบางวัน เรียนพิเศษเยอะ ไม่เป็นภาระพ่อแม่ต้องไปรอรับ
พอเข้าปี 1 ก็ได้ใช้เต็มตัว
-
ส่วนตัวขี่จักรยานกับมอเตอร์ไซค์ ไม่คิดจะมีรถ เพราะแฟนก็มีรถอยู่แล้ว
แต่จำเป็นต้องซื้อเพราะวันนั้นฝนตก แม่ป่วยหนัก จะพาไปหาหมอ แฟนก็ไปทำงาน ไปมอไซค์ไม่ได้ แท็กซี่ก็ไม่มีว่าง กว่าจะว่างโบกอยู่เกือบชั่วโมง
เลยรู้เลยว่ารถมันจำเป็นจริงๆ ตอนหลังมาได้งานที่จำเป็นต้องมีรถอีก ก็เลยได้ซื้อ
-
ตอนนี้ยังไม่ได้ซื้อรถเป็นของตัวเองนะครับ
จำเป็น : ผมพักที่หอพักของบริษัทไม่มีความจำเป็นต้องใช้รถ แต่ต้องใช้รถมอไซค์เข้าไปในเมือง 20 km. วิ่งสวนทางกับรถพ่วงรถสิบล้อ แต่ก็ออกไปเฉพาะตอนกลางวันแทน
ความอยาก : แหงอยู่แล้วครับว่าอยากได้ แต่ด้วยเหตุผลหลาย ๆ อย่างเลยทำให้ผมต้องอดทนรอ...รถที่คู่ควรมันจะมาในเวลาที่เหมาะสม(เหมือนปลอบใจตัวเอง)
-
อยากมีรถครับ ดูมาเรื่อยๆ น้ำลายย้อยแล้วย้อยอีก
จนถึงวันทีีจำเป็นต้องมีครับ ถึงซื้อ
-
อยู่เมืองไทยครับ ส่วนใหญ่ก็จำเป็นแหละครับ และมีอีกหลายคนๆที่ก็จำเป็น แต่ไม่มีเงินจะซื้อครับ
เมืองไทย รถไม่น่าใช่สิ่งฟุ่มเฟือยนะครับ นอกจากคนสะสม
-
จำเป็น อันดับ1 แต่ขอเลือกที่ชอบต่อท้าย จึงซื้อ