Headlight Magazine : community

General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: Activehybrid ที่ พฤษภาคม 30, 2016, 10:52:46

หัวข้อ: ปีที่6เป็นต้นไป ค่าซ่อมค่าอะไหล่ระหว่าง Mazda2 1.5D HightplusL กับ CivicFC 1.8E
เริ่มหัวข้อโดย: Activehybrid ที่ พฤษภาคม 30, 2016, 10:52:46
อยากได้รถที่ใช้ยาวๆ10ปีขึ้นไปถ้าเป็นไปได้จะขับให้ถึง15ปี กะจะขับให้เกินครึ่งล้าน(500,000)กิโลเมตร คันไหนจะประหยัดกว่ากันครับ

ระหว่าง Mazda2 1.5D High plusL 779,000บาท   กับ   CivicFC 1.8E 869,000บาท
หัวข้อ: Re: ปีที่6เป็นต้นไป ค่าซ่อมค่าอะไหล่ระหว่าง Mazda2 1.5D HightplusL กับ CivicFC 1.8E
เริ่มหัวข้อโดย: ซิ่งเข้าส้วม ที่ พฤษภาคม 30, 2016, 10:55:49
ผมว่ารุ่นนี้ขายดีทั้งคู่ อะไหล่เซียงกงคงหาได้ทั้งคู่เช่นกัน (แต่ Civic ไม่แน่เพราะไม่มีขายในญี่ปุ่น) ดูแล้ว Mazda 2 น่าจะประหยัดกว่าครับ ทั้งราคา Maintenance อะไหล่และค่าน้ำมัน
หัวข้อ: Re: ปีที่
เริ่มหัวข้อโดย: ottomjd ที่ พฤษภาคม 30, 2016, 11:25:29
Civic FC คงต้องเปลี่ยนเกียร์ไปอย่าง 1-2 ครั้งอะครับถ้าจะใช้ถึง 500,000 โล
เกียร์ CVT ตัวนี้จากที่อ่านในรีวิวถ้าจำไม่ผิด (อายุเกียร์ 170,000-240,000กิโลเมตร)
แต่เกียร์ MZ2 ก็ไม่รู้จะเปลี่ยนกี่ครั้ง 555

แต่ถ้ามองมุมประหยัดน้ำมันก็ MZ2 D แหละครับ รถเพื่อนเหยีบบ้างช้าบ้าง ก็ได้ 20+ โลลิตร เอาส่วนต่างค่าน้ำมันไว้ Maintenance ก็ไม่เสียหายครับ
ลองศึกษาข้อมูลก่อนตัดสินใจครับ
หัวข้อ: Re: ปีที่6เป็นต้นไป ค่าซ่อมค่าอะไหล่ระหว่าง Mazda2 1.5D HightplusL กับ CivicFC 1.8E
เริ่มหัวข้อโดย: SM. ที่ พฤษภาคม 30, 2016, 11:40:13
รถเดียวนี้ไม่ได้ทนทานอะไรขนาดนั้นครับ 7-8 ปี ก็เปลี่ยนรถกันแล้ว เจอรุ่นใหม่ๆสวยๆมา ก็ใจอ่อนแล้วครับ

ผมเองซื้อก็ตั้งใจว่าจะใช้ยาวๆ 10 ปี เอาเข้าจริงๆ 5 ปีก็เปลี่ยนรถแล้ว เจอรุ่นใหม่ๆเข้าไป เสร็จเลย :D :D :D :D

555555

ผมว่าส่วนนึงคือวัสดุที่ใช้ ไม่น่าทนทานยาวนานได้ถึงขนาดนั้นแล้ว ในรถรุ่นใหม่ๆ เพราะคนเปลี่ยนรถกันเร็ว ผู้ผลิตจึงไม่เลือกใช้วัสดุทนทานนานขนาดนั้นด้วยครับ
หัวข้อ: Re: ปีที่6เป็นต้นไป ค่าซ่อมค่าอะไหล่ระหว่าง Mazda2 1.5D HightplusL กับ CivicFC 1.8E
เริ่มหัวข้อโดย: Jomyoot parnejohn ที่ พฤษภาคม 30, 2016, 12:04:08
ครึ่งล้านนี่ถือว่าวิ่งไปพอสมควร

รถสมัยนี้ก็ใช่ว่าจะทนเหมือนรุ่นก่อนๆ ส่วนหนึ่งน่าจะมาจากระบบไฟฟ้ารอบคัน

เรื่องความประหยัดแน่นอน 2 Diesel

สองตัวเลือกนี้ความทนทานผมว่าพอๆกันครับ ชอบตัวไหนไปตัวนั้น

ขอให้ได้รถที่ถูกใจนะครับ
หัวข้อ: Re: ปีที่6เป็นต้นไป ค่าซ่อมค่าอะไหล่ระหว่าง Mazda2 1.5D HightplusL กับ CivicFC 1.8E
เริ่มหัวข้อโดย: YenChar ที่ พฤษภาคม 30, 2016, 12:07:14
Civic น่าใช้กว่านะ

ใช้นานขนาดนั้น กับรถคันเล็กๆ โจทย์การใช้งานเปลี่ยนไป ไม่น่าจะพอ
หัวข้อ: Re: ปีที่6เป็นต้นไป ค่าซ่อมค่าอะไหล่ระหว่าง Mazda2 1.5D HightplusL กับ CivicFC 1.8E
เริ่มหัวข้อโดย: Inwsatan ที่ พฤษภาคม 30, 2016, 12:23:34
15ปีถ้ามีลูกซัก2คนอายุก็แค่13เองคนโตค่อยเปลี่ยนรถใหญ่ก็ไม่สายผมเชียร์2ดีเซลซีดานนะครับ
หัวข้อ: Re: ปีที่6เป็นต้นไป ค่าซ่อมค่าอะไหล่ระหว่าง Mazda2 1.5D HightplusL กับ CivicFC 1.8E
เริ่มหัวข้อโดย: BhuBhu ที่ พฤษภาคม 30, 2016, 12:48:52
Mazda 2 +1 ครับ วิ่ง 500,000 โล

คิดแค่ค่าน้ำมัน
Civic ขับแบบประหยัด 14 km/l E20 คิดตอนนี้ลิตรละ 23 บาท ก็ตก แปดแสนกว่า
Mazda 2 ขับแบบประหยัด 20 km/l ดีเซล คิดตอนนี้ลิตรละ 25 บาท ก็ตก หกแสนกว่า

สวนต่าง 200,000 ค่าน้ำมันทำอะไรได้เยอะครับ
หัวข้อ: Re: ปีที่6เป็นต้นไป ค่าซ่อมค่าอะไหล่ระหว่าง Mazda2 1.5D HightplusL กับ CivicFC 1.8E
เริ่มหัวข้อโดย: Auto ที่ พฤษภาคม 30, 2016, 13:43:40
ตอบยากครับว่าอะไรมากกว่ากัน    มาสด้าได้ประหยัดน้ำมันผมเลือกมาสด้าครัับ เอาส่วนต่างมาทำอะไรได้เยอะ ๆ 

 1. ซิวิคเกียร์ CVT  ยังไงก็โดนซ่อมเกียร์แน่ครับ ตรงนี้ค่าซ่อม 3 หมื่น + -  แต่จะซ่อมกี่ครั้ง 1- 2 ครั้งไม่แน่
 2. มาสด้าดีเซล   หลังจาก 1.5 แสนโลไปแล้ว   ถ้าไม่มีซ่อมพวกเทอร์โบ  หัวฉีดคอมมอนเรล   ผมว่าโชคดี แต่ถ้ามีซ่อมก็หลายหมื่นละครับ
หัวข้อ: Re: ปีที่6เป็นต้นไป ค่าซ่อมค่าอะไหล่ระหว่าง Mazda2 1.5D HightplusL กับ CivicFC 1.8E
เริ่มหัวข้อโดย: Visual ที่ พฤษภาคม 30, 2016, 14:00:24
Mazda2 ครับ เพราะราคาถูกกว่าและประหยัดน้ำมันกว่าเยอะ ยิ่งวิ่งเยอะยิ่งคุ้ม
เอาส่วนต่างค่าน้ำมันและค่ารถก็บไว้ซ่อมรถได้ยาวๆ
หัวข้อ: Re: ปีที่6เป็นต้นไป ค่าซ่อมค่าอะไหล่ระหว่าง Mazda2 1.5D HightplusL กับ CivicFC 1.8E
เริ่มหัวข้อโดย: Zentrady ที่ พฤษภาคม 30, 2016, 14:19:55
ชอบประเด็นและหลายๆความคิดเห็นเลยครับ ผมว่ามาสด้าสองจะได้ในเรื่องประหยัดครับ บางคนในคลับฯ ขับทางไกลนี่ กม. ละบาทเลยครับ

พอดีจะตั้งกระทู้ใกล้ๆกันระหว่าง M2 vs Civic อยู่พอดีครับแต่กลัวเปลืองพื้นที่ เลยขอขออนุญาตถามรวมครับ

1.ใน่แง่ความมั่นใจว่าเวลาออกต่างจังหวัดคันไหนให้ความรู้สึกมั่นใจกว่าครับ
2.ถ้าเพื่อนที่ขับมาสด้าสองชวนคุณนั่งเบาะหลังไปเชียงใหม่ จะไปด้วยไหมครับ

ขอบคุณครับ
หัวข้อ: ปีที่6เป็นต้นไป ค่าซ่อมค่าอะไหล่ระหว่าง Mazda2 1.5D HightplusL กับ CivicFC 1.8E
เริ่มหัวข้อโดย: kumpol2511 ที่ พฤษภาคม 30, 2016, 14:59:29
ชอบประเด็นและหลายๆความคิดเห็นเลยครับ ผมว่ามาสด้าสองจะได้ในเรื่องประหยัดครับ บางคนในคลับฯ ขับทางไกลนี่ กม. ละบาทเลยครับ

พอดีจะตั้งกระทู้ใกล้ๆกันระหว่าง M2 vs Civic อยู่พอดีครับแต่กลัวเปลืองพื้นที่ เลยขอขออนุญาตถามรวมครับ

1.ใน่แง่ความมั่นใจว่าเวลาออกต่างจังหวัดคันไหนให้ความรู้สึกมั่นใจกว่าครับ
2.ถ้าเพื่อนที่ขับมาสด้าสองชวนคุณนั่งเบาะหลังไปเชียงใหม่ จะไปด้วยไหมครับ

ขอบคุณครับ
จากผู้ใช้ ข้อ1 ไปต่างจังหวัด ขับ 120-140
มาสด้ายังมั่นใจได้ดีครับ เกินจากนั้นเคยวิ่งแต่ไม่เคยแช่ดวามเร็วไว้นานๆ ส่วนซีวิคไม่ทราบครับ
 ส่วนหัวฉีด ปั๊ม เทอร์โบ เรามีทางเลือก สมัยก่อนพี่โต
ก็หัวละหลักหมื่นก็กลัวกัน เดี๋ยวนี้ไม่ค่อมมีใครบ่นเพราะ
เสียยาก ใช้น้ำมันเลือกเข้าปั๊มมาตราฐานครับอย่าเห็นแก่ถูก คอมมอนเรลใช้ทุกค่ายครับ เทอร์โบก็มีมานานแล้วครับ ไม่ใช่ของใหม่ ผมว่า เรื่องเทอร์โบ ฮอนด้านี่
แหละที่ใช้ช้ากว่าค่ายอื่น ที่ผ่านมาลองดูประวัติได้พี่
ฮอนฯใช้เครื่อง NA มาตลอด
หัวข้อ: Re: ปีที่6เป็นต้นไป ค่าซ่อมค่าอะไหล่ระหว่าง Mazda2 1.5D HightplusL กับ CivicFC 1.8E
เริ่มหัวข้อโดย: Auto ที่ พฤษภาคม 30, 2016, 15:03:46
ชอบประเด็นและหลายๆความคิดเห็นเลยครับ ผมว่ามาสด้าสองจะได้ในเรื่องประหยัดครับ บางคนในคลับฯ ขับทางไกลนี่ กม. ละบาทเลยครับ

พอดีจะตั้งกระทู้ใกล้ๆกันระหว่าง M2 vs Civic อยู่พอดีครับแต่กลัวเปลืองพื้นที่ เลยขอขออนุญาตถามรวมครับ

1.ใน่แง่ความมั่นใจว่าเวลาออกต่างจังหวัดคันไหนให้ความรู้สึกมั่นใจกว่าครับ
2.ถ้าเพื่อนที่ขับมาสด้าสองชวนคุณนั่งเบาะหลังไปเชียงใหม่ จะไปด้วยไหมครับ

ขอบคุณครับ
จากผู้ใช้ ข้อ1 ไปต่างจังหวัด ขับ 120-140
มาสด้ายังมั่นใจได้ดีครับ เกินจากนั้นเคยวิ่งแต่ไม่เคยแช่ดวามเร็วไว้นานๆ ส่วนซีวิคไม่ทราบครับ
 ส่วนหัวฉีด ปั๊ม เทอร์โบ เรามีทางเลือก สมัยก่อนพี่โต
ก็หัวละหลักหมื่นก็กลัวกัน เดี๋ยวนี้ไม่ค่อมมีใครบ่นเพราะ
เสียยาก ใช้น้ำมันเลือกเข้าปั๊มมาตราฐานครับอย่าเห็นแก่ถูก คอมมอนเรลใช้ทุกค่ายครับ เทอร์โบก็มีมานานแล้วครับ ไม่ใช่ของใหม่ ผมว่า เรื่องเทอร์โบ ฮอนด้านี่
แหละที่ใช้ช้ากว่าค่ายอื่น ที่ผ่านมาลองดูประวัติได้พี่
ฮอนฯใช้เครื่อง NA มาตลอด
พวกหัวใจหลักของดีเซล  ยังซ่อมแพงอยู่ครับ   เทอร์โบเสียไม่ต้องยกชุด  6 หมื่นกว่า- แสนกว่าขึ้นไปเหมือนสมัยก่อนแล้ว    แต่ราคาซ่อมรถเจ้าตลาดก็มีหลักหมื่นขึ้นอยู่ดี  พวกหัวฉีดหลักพันแต่ต้องซ่อม 4 หัว ยังไงก็ต้องจ่ายหลักหมื่น     ปั๊มคอมมอนเรลซ่อมเทสต์ปั๊มก็หลักหมื่นครับ    ราคาถูกลงแต่โดยรวมถือว่าจ่ายส่วนนี้สูงครับ
หัวข้อ: Re: ปีที่6เป็นต้นไป ค่าซ่อมค่าอะไหล่ระหว่าง Mazda2 1.5D HightplusL กับ CivicFC 1.8E
เริ่มหัวข้อโดย: kumpol2511 ที่ พฤษภาคม 30, 2016, 16:05:27
พวกหัวใจหลักของดีเซล  ยังซ่อมแพงอยู่ครับ   เทอร์โบเสียไม่ต้องยกชุด  6 หมื่นกว่า- แสนกว่าขึ้นไปเหมือนสมัยก่อนแล้ว    แต่ราคาซ่อมรถเจ้าตลาดก็มีหลักหมื่นขึ้นอยู่ดี  พวกหัวฉีดหลักพันแต่ต้องซ่อม 4 หัว ยังไงก็ต้องจ่ายหลักหมื่น     ปั๊มคอมมอนเรลซ่อมเทสต์ปั๊มก็หลักหมื่นครับ    ราคาถูกลงแต่โดยรวมถือว่าจ่ายส่วนนี้สูงครับ
[/quote]เห็นด้วยครับ ถ้าต้องซ่อมตามที่ว่า (ซึ่งอาจจะไม่เลยหรือเป็นบางอาการ) แต่ผมก็ว่ายังคุ้มเทียบกับความประหยัด ของผมแฟนใช้7เดือนตอนนี้ หมื่นเก้าพันกว่าโล ค่าน้ำมันหายไปครึ่งนึง (คันเดิมประมาณ 12 โล/ลิตร)
หัวข้อ: Re: ปีที่6เป็นต้นไป ค่าซ่อมค่าอะไหล่ระหว่าง Mazda2 1.5D HightplusL กับ CivicFC 1.8E
เริ่มหัวข้อโดย: ps000000 ที่ พฤษภาคม 30, 2016, 17:05:21
คันเก่าผม 17-18 ปี เพราะไม่มีตังก์เปลี่ยน  :P :P :P
หัวข้อ: Re: ปีที่6เป็นต้นไป ค่าซ่อมค่าอะไหล่ระหว่าง Mazda2 1.5D HightplusL กับ CivicFC 1.8E
เริ่มหัวข้อโดย: min217 ที่ พฤษภาคม 30, 2016, 17:09:37
Mazda 2 Diesel ครับ
หัวข้อ: Re: ปีที่6เป็นต้นไป ค่าซ่อมค่าอะไหล่ระหว่าง Mazda2 1.5D HightplusL กับ CivicFC 1.8E
เริ่มหัวข้อโดย: InBkk ที่ พฤษภาคม 30, 2016, 17:14:45
ตอบยากครับ
หัวข้อ: Re: ปีที่6เป็นต้นไป ค่าซ่อมค่าอะไหล่ระหว่าง Mazda2 1.5D HightplusL กับ CivicFC 1.8E
เริ่มหัวข้อโดย: a14 ที่ พฤษภาคม 30, 2016, 17:18:05
รถเก๋ง พอพ้นระยะ 5 ปี 150,000 Km. ก็พอๆกัน เตรียมเงินไว้เดือนละ 3-5 พัน ซ่อมไปเรื่อยๆ ตามอาการ ถ้าใช้ยาว 15 ปี ลองไปยืนมอง Honda Civic โฉมตาโต หรือ Mazda 323 ในวันนี้ ถ้าคุณรับได้ว่ามันยังสวย น่าใช้ ก็โอเค คุณเลือกคันที่ชอบ ใช้ยาว 15 ปีได้เลย
หัวข้อ: Re: ปีที่6เป็นต้นไป ค่าซ่อมค่าอะไหล่ระหว่าง Mazda2 1.5D HightplusL กับ CivicFC 1.8E
เริ่มหัวข้อโดย: Pegasus7700 ที่ พฤษภาคม 30, 2016, 18:43:32
Honda Civic ครับ 
รถใหญ่ทนกว่า
หัวข้อ: Re: ปีที่6เป็นต้นไป ค่าซ่อมค่าอะไหล่ระหว่าง Mazda2 1.5D HightplusL กับ CivicFC 1.8E
เริ่มหัวข้อโดย: [J]e[w] ที่ พฤษภาคม 30, 2016, 19:44:33
ระยะยาวขนาดนั้นดีเซลเทอร์โบน่าจะจุกจิกกว่าเบนซิลธรรมดาแน่นอน
หัวข้อ: Re: ปีที่6เป็นต้นไป ค่าซ่อมค่าอะไหล่ระหว่าง Mazda2 1.5D HightplusL กับ CivicFC 1.8E
เริ่มหัวข้อโดย: Tien.W ที่ พฤษภาคม 30, 2016, 20:16:56
ส่วนตัว ยังเชื่อใจ เจ้าตลาด ทั้งในการแง่ ความทนทาน จากรุ่นที่ผ่านๆมา ความแพร่หลายของอะไหล่ ยิ่งเป็นรถยอดนิยมนี่ ไม่ต้องห่วงเลย มีทุกแบบครับ
หัวข้อ: Re: ปีที่6เป็นต้นไป ค่าซ่อมค่าอะไหล่ระหว่าง Mazda2 1.5D HightplusL กับ CivicFC 1.8E
เริ่มหัวข้อโดย: TaR ที่ พฤษภาคม 30, 2016, 23:04:22
ยาวๆ15ปี จิ้มไปที่ Civic แบบไม่คิดมากเลย

ส่วนตัวสำหรับผม เรื่องอะไหล่ ของแต่ง ชิ้นส่วนการซัพพอร์ตต่างๆ ความเป็นฮอนด้าในระยะเวลา 15 ปี ให้ความไว้ใจได้มากกว่า
หัวข้อ: Re: ปีที่6เป็นต้นไป ค่าซ่อมค่าอะไหล่ระหว่าง Mazda2 1.5D HightplusL กับ CivicFC 1.8E
เริ่มหัวข้อโดย: rtong ที่ พฤษภาคม 30, 2016, 23:30:34
อ่านแต่ละความเห็นแล้ว
รู้สึก ดีเซลในเก๋ง จะไม่ได้ไปต่อนะ
(เฉพาะในบ้านเรา)
คือเน้นใช้ยาว  ดูแลง่าย  มากกว่าเทคโนโลยี
หัวข้อ: ปีที่
เริ่มหัวข้อโดย: Activehybrid ที่ พฤษภาคม 31, 2016, 08:35:24
อ่านแต่ละความเห็นแล้ว
รู้สึก ดีเซลในเก๋ง จะไม่ได้ไปต่อนะ
(เฉพาะในบ้านเรา)
คือเน้นใช้ยาว  ดูแลง่าย  มากกว่าเทคโนโลยี
น่าจะเป็นเช่นนั้นครับ บ้านเราเน้นรถทนทาน เครื่องโบราณ(ซ่อมง่าย)
หัวข้อ: ปีที่6เป็นต้นไป ค่าซ่อมค่าอะไหล่ระหว่าง Mazda2 1.5D HightplusL กับ CivicFC 1.8E
เริ่มหัวข้อโดย: earrt ที่ พฤษภาคม 31, 2016, 08:49:04
ใช้รถที่ทำเป็น TAXI น่าจะสบายกระเป๋ากว่านะครับ มีทุกชิ้นให้เปลี่ยน หาง่ายซ่อมได้ทุกจังหวัด

แต่ถ้า 2 ตัวนี้ เอา CIVIC เกียรพังเครื่องพัง R18 ของในเซียงกงมี
หัวข้อ: Re: ปีที่6เป็นต้นไป ค่าซ่อมค่าอะไหล่ระหว่าง Mazda2 1.5D HightplusL กับ CivicFC 1.8E
เริ่มหัวข้อโดย: ozzy750 ที่ พฤษภาคม 31, 2016, 13:32:07
ถ้าเน้นเรื่องความประหยัดก็ต้อง Mazda2 ละครับ
หัวข้อ: Re: ปีที่6เป็นต้นไป ค่าซ่อมค่าอะไหล่ระหว่าง Mazda2 1.5D HightplusL กับ CivicFC 1.8E
เริ่มหัวข้อโดย: Slipknot` ที่ มิถุนายน 01, 2016, 02:43:17
ยังไงก็2ดีเซล ประหยัดกว่าอยู่แล้ว รถก็ถูกกว่า ซ๋อมถูกกว่ารึเปล่าไม่ทราบครับ