Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: sukhontha ที่ มิถุนายน 09, 2016, 11:52:14
-
จากระทู้ http://community.headlightmag.com/index.php?topic=51172.0
ด้วยความสงสัย ก็ต้องพิสูจน์ แต่ถ้าทำแบบท่านสมาชิกแนะนำ ยากและใช้เวลา
ผมจึงค้นหาวิธีการทดสอบอย่างง่าย ๆ .....มาจบที่คุณสมบัติของ สสาร... แอลกอฮอล์ละลายน้ำ เข้าเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน แต่น้ำไม่ไม่เข้ากับน้ำมัน ทำอย่างไรแยกออกจากกัน...
วิธีทดสอบ...
1. เตรียม สายยางดูดน้ำมัน ไซริ้งค์ 10 ซี.ซี. 1 อัน น้ำนิดหนึ่ง...
ยากที่สุดก็ตอนดูดน้ำมันออกจากถัง ดูดมาแค่เล็กน้อย ใช้ไซริ้งค์ดูดเข้าไป 5 ซี.ซี.....จากนั้น ไปดูดน้ำมันเข้าไปได้สักสี่ห้าซี.ซี. (มากหรือน้อยกว่าไม่เป็นไร )
จากนั้น อุดรุที่เสียบหัวเข็มฉีดยา เขย่า ๆ สี่ห้าวินาที... วางตั้งขึ้นในแนวตั้ง อ่านค่าน้ำมันส่วนที่แขวนลอยด้านบน ว่าได้กี่ซี.ซี.
จากนั้นก็บัญญัตไตรค์ยาง.. ( ง่าย ๆ ก็ คูณด้วย 20 ) นั่นคือส่วนที่เป็นน้ำมัน ที่เหลือเป็น เอทานอล
สำหรับน้ำมันรถผม วัดได้ 1.8 X 20 = 36 แสดงว่าปริมาณน้ำมันประมาณ 36 ที่เหลือเป็นเอทานอล อยู่ที่ 64 ตัวรถวัดได้ 56 คงต้องทำความสะอาด ออกซิเจนเซนเซอร์ดู.....
เขียนมาเผื่อท่านใดจะทดสอบ จะไม่มีวิธีครับ...
-
คุณSukhonthaครับ
O2 sensor อ่านค่า A/F จะเกิดจากมวลน่ะครับ ไม่ใช่ปริมาตร
ปัญหาการวัดปริมาตรแทนมวล ระหว่าง Ethanol กับ เบนซิน (Isooctane) จะมีความผิดพลาดถึง เกือบ 20%/ เพราะมวลเบนซินมันมีตั้งแต่ 5.6-6.5ปอนด์ต่อแกลลอน เมื่อเทียบกับเอธานอล 6.57ที่ค่อนข้างจะคงที่
น้ำมันเบนซินแต่ละบริษัท ที่เอามาผสมกับEthanolก็แกว่งอยู่แล้วครับ บางทีเอาพวกOctane 82มาผสม บางทีเอา 91 บางทีเอา 78 มวลเปลี่ยนมากมาย
ถ้าคิดคร่าวๆ แบบนี้ O2 sensor อาจจะคำนวณถูกแล้วก็ได้ครับ
ผมผิดถูกอย่างไร รบกวนแก้ด้วยแล้วกันครับ
-
คุณSukhonthaครับ
O2 sensor อ่านค่า A/F จะเกิดจากมวลน่ะครับ ไม่ใช่ปริมาตร
ปัญหาการวัดปริมาตรแทนมวล ระหว่าง Ethanol กับ เบนซิน (Isooctane) จะมีความผิดพลาดถึง เกือบ 20%/ เพราะมวลเบนซินมันมีตั้งแต่ 5.6-6.5ปอนด์ต่อแกลลอน เมื่อเทียบกับเอธานอล 6.57ที่ค่อนข้างจะคงที่
น้ำมันเบนซินแต่ละบริษัท ที่เอามาผสมกับEthanolก็แกว่งอยู่แล้วครับ บางทีเอาพวกOctane 82มาผสม บางทีเอา 91 บางทีเอา 78 มวลเปลี่ยนมากมาย
ถ้าคิดคร่าวๆ แบบนี้ O2 sensor อาจจะคำนวณถูกแล้วก็ได้ครับ
ผมผิดถูกอย่างไร รบกวนแก้ด้วยแล้วกันครับ
..ขอบคุณครับ
ผมพยายามแล้วดูวิธีการวัดค่าหลาย ๆ แบบ(จากงานวิจัย) มันไม่ง่ายที่คนใจร้อนเช่นผมจะทำได้.... ผมเลยคิดตามปริมาตร นี่แหละง่ายดี ส่วนการเพี้ยนจากค่าของน้ำมัน ก็จริง ไม่ปฏิเสธ แค่ดูดน้ำมันเข้า มันก็เพี้ยนได้แล้ว... แต่เราไม่ได้หาค่าแบบจริงจัง ต้องการค่าเคร่า ๆ เพื่อดูประกอบเป็นแนวทางเท่านั้น จึงไม่ซีเรียสเท่าไรนัก...
-
จากระทู้ http://community.headlightmag.com/index.php?topic=51172.0
ด้วยความสงสัย ก็ต้องพิสูจน์ แต่ถ้าทำแบบท่านสมาชิกแนะนำ ยากและใช้เวลา
ผมจึงค้นหาวิธีการทดสอบอย่างง่าย ๆ .....มาจบที่คุณสมบัติของ สสาร... แอลกอฮอล์ละลายน้ำ เข้าเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน แต่น้ำไม่ไม่เข้ากับน้ำมัน ทำอย่างไรแยกออกจากกัน...
วิธีทดสอบ...
1. เตรียม สายยางดูดน้ำมัน ไซริ้งค์ 10 ซี.ซี. 1 อัน น้ำนิดหนึ่ง...
ยากที่สุดก็ตอนดูดน้ำมันออกจากถัง ดูดมาแค่เล็กน้อย ใช้ไซริ้งค์ดูดเข้าไป 5 ซี.ซี.....จากนั้น ไปดูดน้ำมันเข้าไปได้สักสี่ห้าซี.ซี. (มากหรือน้อยกว่าไม่เป็นไร )
จากนั้น อุดรุที่เสียบหัวเข็มฉีดยา เขย่า ๆ สี่ห้าวินาที... วางตั้งขึ้นในแนวตั้ง อ่านค่าน้ำมันส่วนที่แขวนลอยด้านบน ว่าได้กี่ซี.ซี.
จากนั้นก็บัญญัตไตรค์ยาง.. ( ง่าย ๆ ก็ คูณด้วย 20 ) นั่นคือส่วนที่เป็นน้ำมัน ที่เหลือเป็น เอทานอล
สำหรับน้ำมันรถผม วัดได้ 1.8 X 20 = 36 แสดงว่าปริมาณน้ำมันประมาณ 36 ที่เหลือเป็นเอทานอล อยู่ที่ 64 ตัวรถวัดได้ 56 คงต้องทำความสะอาด ออกซิเจนเซนเซอร์ดู.....
เขียนมาเผื่อท่านใดจะทดสอบ จะไม่มีวิธีครับ...
หลักการนี้คือ like dissolve like คือการสกัด (extraction) นั่นเอง
จากการทดลองที่ทำมามีการแอเรอร์ (error) เยอะมาก
1. การสกัด 1 ครั้ง ค่าประสิทธิภาพมีแค่ 60-70% ครับ ตามค่า Kd (Distribution coefficient)
2. การอ่านค่าจากหลอดที่คาดเคลื่อน ระดับ 10-15%
3. การระเหยจากตัวอย่างขณะทำการทดลอง
เบ็ดเสร็จการทดลองนี้ถูกต้องเพียง 50% เองครับ
ผู้จะทดลองต่อควรใช้วิจารณญาณครับ
-
จากระทู้ http://community.headlightmag.com/index.php?topic=51172.0
ด้วยความสงสัย ก็ต้องพิสูจน์ แต่ถ้าทำแบบท่านสมาชิกแนะนำ ยากและใช้เวลา
ผมจึงค้นหาวิธีการทดสอบอย่างง่าย ๆ .....มาจบที่คุณสมบัติของ สสาร... แอลกอฮอล์ละลายน้ำ เข้าเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน แต่น้ำไม่ไม่เข้ากับน้ำมัน ทำอย่างไรแยกออกจากกัน...
วิธีทดสอบ...
1. เตรียม สายยางดูดน้ำมัน ไซริ้งค์ 10 ซี.ซี. 1 อัน น้ำนิดหนึ่ง...
ยากที่สุดก็ตอนดูดน้ำมันออกจากถัง ดูดมาแค่เล็กน้อย ใช้ไซริ้งค์ดูดเข้าไป 5 ซี.ซี.....จากนั้น ไปดูดน้ำมันเข้าไปได้สักสี่ห้าซี.ซี. (มากหรือน้อยกว่าไม่เป็นไร )
จากนั้น อุดรุที่เสียบหัวเข็มฉีดยา เขย่า ๆ สี่ห้าวินาที... วางตั้งขึ้นในแนวตั้ง อ่านค่าน้ำมันส่วนที่แขวนลอยด้านบน ว่าได้กี่ซี.ซี.
จากนั้นก็บัญญัตไตรค์ยาง.. ( ง่าย ๆ ก็ คูณด้วย 20 ) นั่นคือส่วนที่เป็นน้ำมัน ที่เหลือเป็น เอทานอล
สำหรับน้ำมันรถผม วัดได้ 1.8 X 20 = 36 แสดงว่าปริมาณน้ำมันประมาณ 36 ที่เหลือเป็นเอทานอล อยู่ที่ 64 ตัวรถวัดได้ 56 คงต้องทำความสะอาด ออกซิเจนเซนเซอร์ดู.....
เขียนมาเผื่อท่านใดจะทดสอบ จะไม่มีวิธีครับ...
หลักการนี้คือ like dissolve like คือการสกัด (extraction) นั่นเอง
จากการทดลองที่ทำมามีการแอเรอร์ (error) เยอะมาก
1. การสกัด 1 ครั้ง ค่าประสิทธิภาพมีแค่ 60-70% ครับ ตามค่า Kd (Distribution coefficient)
2. การอ่านค่าจากหลอดที่คาดเคลื่อน ระดับ 10-15%
3. การระเหยจากตัวอย่างขณะทำการทดลอง
เบ็ดเสร็จการทดลองนี้ถูกต้องเพียง 50% เองครับ
ผู้จะทดลองต่อควรใช้วิจารณญาณครับ
คลาดเคลื่อนนี่ ยอมรับว่า มีแน่ครับ
แต่เรื่องอ่านค่าคลาดเคลื่อนมาก ๆ นี่ยากนะครับ ไซริ้งค์ มีขีดบอกค่อนข้างละเอียด แถมรูให้ระเหยเพียงที่เสียบเข็ม...ระเหยได้น้อยมาก..(แถมผสมในไซริ้งค์ ใช้ไซริ้งเป็นเครื่องวัด)
ค่าผิดพลาดที่จะเกิดขึ้นก็คือ การผสม ใช้น้ำหนัก /น้ำหนัก ผมใช้ปริมาณ และปริมาณในการทดลอง น้อย..
ผมยังเชื่อว่าคลาดเคลื่อนไม่เกิน ร้อยละยี่สิบ เนื่องจากมวลน้ำมันมีค่าไม่คงที่( 5.5-6.5/) แต่ผมวัดโดยปริมาตร...
ค่าที่ได้มายืนยันได้ว่าใกล้เคียงพอประมาณ ทำให้เบาใจได้นิดหนึ่ง 56/64 พอไหวน่า
อย่าไปจริงจังกับมันมากนัก เพราะผมบอกแล้ว ง่าย ๆ...ครับ
-
จากระทู้ http://community.headlightmag.com/index.php?topic=51172.0
ด้วยความสงสัย ก็ต้องพิสูจน์ แต่ถ้าทำแบบท่านสมาชิกแนะนำ ยากและใช้เวลา
ผมจึงค้นหาวิธีการทดสอบอย่างง่าย ๆ .....มาจบที่คุณสมบัติของ สสาร... แอลกอฮอล์ละลายน้ำ เข้าเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน แต่น้ำไม่ไม่เข้ากับน้ำมัน ทำอย่างไรแยกออกจากกัน...
วิธีทดสอบ...
1. เตรียม สายยางดูดน้ำมัน ไซริ้งค์ 10 ซี.ซี. 1 อัน น้ำนิดหนึ่ง...
ยากที่สุดก็ตอนดูดน้ำมันออกจากถัง ดูดมาแค่เล็กน้อย ใช้ไซริ้งค์ดูดเข้าไป 5 ซี.ซี.....จากนั้น ไปดูดน้ำมันเข้าไปได้สักสี่ห้าซี.ซี. (มากหรือน้อยกว่าไม่เป็นไร )
จากนั้น อุดรุที่เสียบหัวเข็มฉีดยา เขย่า ๆ สี่ห้าวินาที... วางตั้งขึ้นในแนวตั้ง อ่านค่าน้ำมันส่วนที่แขวนลอยด้านบน ว่าได้กี่ซี.ซี.
จากนั้นก็บัญญัตไตรค์ยาง.. ( ง่าย ๆ ก็ คูณด้วย 20 ) นั่นคือส่วนที่เป็นน้ำมัน ที่เหลือเป็น เอทานอล
สำหรับน้ำมันรถผม วัดได้ 1.8 X 20 = 36 แสดงว่าปริมาณน้ำมันประมาณ 36 ที่เหลือเป็นเอทานอล อยู่ที่ 64 ตัวรถวัดได้ 56 คงต้องทำความสะอาด ออกซิเจนเซนเซอร์ดู.....
เขียนมาเผื่อท่านใดจะทดสอบ จะไม่มีวิธีครับ...
หลักการนี้คือ like dissolve like คือการสกัด (extraction) นั่นเอง
จากการทดลองที่ทำมามีการแอเรอร์ (error) เยอะมาก
1. การสกัด 1 ครั้ง ค่าประสิทธิภาพมีแค่ 60-70% ครับ ตามค่า Kd (Distribution coefficient)
2. การอ่านค่าจากหลอดที่คาดเคลื่อน ระดับ 10-15%
3. การระเหยจากตัวอย่างขณะทำการทดลอง
เบ็ดเสร็จการทดลองนี้ถูกต้องเพียง 50% เองครับ
ผู้จะทดลองต่อควรใช้วิจารณญาณครับ
คลาดเคลื่อนนี่ ยอมรับว่า มีแน่ครับ
แต่เรื่องอ่านค่าคลาดเคลื่อนมาก ๆ นี่ยากนะครับ ไซริ้งค์ มีขีดบอกค่อนข้างละเอียด แถมรูให้ระเหยเพียงที่เสียบเข็ม...ระเหยได้น้อยมาก..(แถมผสมในไซริ้งค์ ใช้ไซริ้งเป็นเครื่องวัด)
ค่าผิดพลาดที่จะเกิดขึ้นก็คือ การผสม ใช้น้ำหนัก /น้ำหนัก ผมใช้ปริมาณ และปริมาณในการทดลอง น้อย..
ผมยังเชื่อว่าคลาดเคลื่อนไม่เกิน ร้อยละยี่สิบ เนื่องจากมวลน้ำมันมีค่าไม่คงที่( 5.5-6.5/) แต่ผมวัดโดยปริมาตร...
ค่าที่ได้มายืนยันได้ว่าใกล้เคียงพอประมาณ ทำให้เบาใจได้นิดหนึ่ง 56/64 พอไหวน่า
อย่าไปจริงจังกับมันมากนัก เพราะผมบอกแล้ว ง่าย ๆ...ครับ
คลาดเคลื่อน เพราะ
1. เข็มฉีดยา มันคลาดเคลื่อนในตัวมันเอง 5-10% โดยปริมาตรครับ ยิ่งเป็นกระบอกแบบพลาสติก จะเยอะครับ
2. การระเหยไม่ได้ระเหยเฉพาะในตอนที่ผสมในเข็มเท่านั้น แต่ระเหยโดยสิ่งแวดล้อมในขณะเก็บตัวอย่าง (ตอนดูด) เยอะกว่าตอนผสมอีก
3. การผสมโดยใช้ w/w หรือ v/v มันไม่ได้คลาดเคลื่อนเฉพาะในตอนทดลองครับ แต่เพราะวิธีการ (method error) ครับ
วิธีนี้พอจะสกรีนเบื้องต้นได้ครับ
-
คุณSukhonthaครับ
O2 sensor อ่านค่า A/F จะเกิดจากมวลน่ะครับ ไม่ใช่ปริมาตร
ปัญหาการวัดปริมาตรแทนมวล ระหว่าง Ethanol กับ เบนซิน (Isooctane) จะมีความผิดพลาดถึง เกือบ 20%/ เพราะมวลเบนซินมันมีตั้งแต่ 5.6-6.5ปอนด์ต่อแกลลอน เมื่อเทียบกับเอธานอล 6.57ที่ค่อนข้างจะคงที่
น้ำมันเบนซินแต่ละบริษัท ที่เอามาผสมกับEthanolก็แกว่งอยู่แล้วครับ บางทีเอาพวกOctane 82มาผสม บางทีเอา 91 บางทีเอา 78 มวลเปลี่ยนมากมาย
ถ้าคิดคร่าวๆ แบบนี้ O2 sensor อาจจะคำนวณถูกแล้วก็ได้ครับ
ผมผิดถูกอย่างไร รบกวนแก้ด้วยแล้วกันครับ
ไอ้เรื่อง ECU ของ FFV ที่อ่านค่าเอทานอล
มันต้อง อาศัย ค่า ปริมาณการฉีดน้ำมันเข้าไป ขณะนั้น คือ scale หัวฉีดนั่นละครับ
ถ้ารถ ไปเปลี่ยนหัวฉีด อัตราการไหล ของน้ำมันแตกต่างไปจาก ค่าเดิมโรงงาน โอกาสอ่านค่าเพี้ยน สูงมากๆครับ
เพราะ พารามิเตอร์หลัก ในเรื่อง มวลหรือปริมาตร ที่ฉีดเข้าไปเผาไหม้ มันเปลี่ยนไปจากค่า คงที่เดิม
ตอนนี้รถผม Lancer EX ทุกอย่างๆเดิมไปโรงงาน
ยังโชว์ E85 แม่นมากๆ แต่ ค่าจริงน้ำมัน ผมว่าไม่ได้ 85 % เป๊ะๆแน่นอน
ไม่รู้ ECU คำนวณยังไงเช่นกัน
ผมเห็น ประจำกับ รถ Lancer EX 1.8 ที่ไปเปลี่ยนหัวฉีดแล้ว ดันไม่บอก ECU ว่า หัวฉีดมีอัตราการไหลเปลี่ยนไป อ่าน เอทานอล มาเพี้ยนหมด
-
รับทราบ และขอบคุณทั้งสองท่านครับ
อ้อ วันนี้ไปเติมเพิ่ม อะแด๊ป ใหม่มาเป็น 72 แล้ว ครับ...
-
ได้ IDEA D