Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: Alcatraz ที่ มิถุนายน 13, 2016, 15:25:08
-
ผมสงสัยว่าพวกกระบะที่ใช่กล่องดันรางทั้งหลายนั้น สามารถทำท็อปสปีดได้มากกว่าที่รถโรงงานเดิมๆทำไว้ได้ไหมครับ ยิ่งได้เห็นท็อปสปีด d-max ที่พี่จิมมี่พึ่งทำรีวิวไป เดิมๆโรงงาน b-seg 1.5 na auto ทั้งหลายแทบไม่มีโอกาสแซงได้เลย
-
ไม่ได้ครับส่วนใหญ่ต้องรีแฟลชกล่องครับ แต่ของisuzuจะล็อคเฉพาะตัวสูงครับตัวเตี้ยไม่ได้ล็อค(ในรุ่น2.5เดิมนะครับรุ่นใหม่ก็น่าจะเหมือนกันครับ)
-
สงสัยอีกอย่างพวกกระบะดันร่าง ยกหัวฉีด นี้มันเเรงขนาดสู้ซิวิค เทอร์โบได้เลยรึปล่าว :-X
-
ไม่ได้ครับส่วนใหญ่ต้องรีแฟลชกล่องครับ แต่ของisuzuจะล็อคเฉพาะตัวสูงครับตัวเตี้ยไม่ได้ล็อค(ในรุ่น2.5เดิมนะครับรุ่นใหม่ก็น่าจะเหมือนกันครับ)
งั้นแปลว่าดันรางมีโอกาสทำท็อปสปีดได้สูงกว่าโรงงานเพราะแรงเครื่องมากกว่าและโรงงานไม่ได้ล็อคใช่มั้ยครับ
-
สงสัยอีกอย่างพวกกระบะดันร่าง ยกหัวฉีด นี้มันเเรงขนาดสู้ซิวิค เทอร์โบได้เลยรึปล่าว :-X
ถ้าสเตปดันแล้วยกด้วย +เพิ่มบูสนิดหน่อย
แรงกว่าซีวิคเทอร์โบเดิมๆครับ..
80-120 ต้องมี 5-6 วิ ล่ะครับ..
ปลายๆนี่ไหลเลยล่ะครับ..
แต่ถ้าแค่ดันรางอย่างเดียว
คงกินซีวิคเทอร์โบยากหน่อย..
-
ไม่ได้ครับส่วนใหญ่ต้องรีแฟลชกล่องครับ แต่ของisuzuจะล็อคเฉพาะตัวสูงครับตัวเตี้ยไม่ได้ล็อค(ในรุ่น2.5เดิมนะครับรุ่นใหม่ก็น่าจะเหมือนกันครับ)
งั้นแปลว่าดันรางมีโอกาสทำท็อปสปีดได้สูงกว่าโรงงานเพราะแรงเครื่องมากกว่าและโรงงานไม่ได้ล็อคใช่มั้ยครับ
ดันรางส่วนใหญ่จะปรับเฉพาะรอบกลางๆน่ะครับ ช่วงท็อปสปีดดันเพิ่มไปปั้มน่าจะแตกน่ะครับ
ถ้าจะให้top speed เพิ่มต้องทำหลายอย่างครับ ยกหัวฉีด เปลื่ยนหัวฉีด เปลื่ยนเฟืองท้าย อื่นๆ
รถที่ลงสนามพิกัด13.xx top speed ไม่น่าเกิน200อยู่ดีพวกนี้จะเน้น ที่0-180 แช่แปปเดียวก็ยกแล้วครับเดี๋ยวรถพัง
-
ดันรางเขาไม่อัดหนัก ๆ ถึงวิ่งได้สองร้อยกว่า ก็กดยาวไม่ได้ ต้องลดความเร็วลงมา ไม่งั้นพัง ถ้าวิ่ง ร้อยหก ร้อยเจ็ดไม่เป็นไร..
ถ้าออกตัว คิดว่าสู้ดันรางไม่ได้
-
ไม่ได้ครับส่วนใหญ่ต้องรีแฟลชกล่องครับ แต่ของisuzuจะล็อคเฉพาะตัวสูงครับตัวเตี้ยไม่ได้ล็อค(ในรุ่น2.5เดิมนะครับรุ่นใหม่ก็น่าจะเหมือนกันครับ)
งั้นแปลว่าดันรางมีโอกาสทำท็อปสปีดได้สูงกว่าโรงงานเพราะแรงเครื่องมากกว่าและโรงงานไม่ได้ล็อคใช่มั้ยครับ
ดันรางส่วนใหญ่จะปรับเฉพาะรอบกลางๆน่ะครับ ช่วงท็อปสปีดดันเพิ่มไปปั้มน่าจะแตกน่ะครับ
ถ้าจะให้top speed เพิ่มต้องทำหลายอย่างครับ ยกหัวฉีด เปลื่ยนหัวฉีด เปลื่ยนเฟืองท้าย อื่นๆ
รถที่ลงสนามพิกัด13.xx top speed ไม่น่าเกิน200อยู่ดีพวกนี้จะเน้น ที่0-180 แช่แปปเดียวก็ยกแล้วครับเดี๋ยวรถพัง
ครับ พอดีผมโฟกัสไปบนถนนมากกว่าในสนาม ซึ่งแปลว่าทฏษฏีเดิมของผมยังใช้ได้อยู่ใช่มั้ย คือ ถ้าความเร็วเกิน 200 ใช้เบนซินเทอร์โบ (ที่ไม่ใช่ 1.0) ดันไปยังพอไหว ถ้ากระบะไม่ยกก็เครื่องพัง โดยไม่ต้องพูดถึงช่วงล่างของรถ เอาลูกบ้าคนอย่างเดียว
ทีนี้มันจะไปแย้งกับความเห็นนี้แล้วล่ะสิสงสัยอีกอย่างพวกกระบะดันร่าง ยกหัวฉีด นี้มันเเรงขนาดสู้ซิวิค เทอร์โบได้เลยรึปล่าว :-X
ถ้าสเตปดันแล้วยกด้วย +เพิ่มบูสนิดหน่อย
แรงกว่าซีวิคเทอร์โบเดิมๆครับ..
80-120 ต้องมี 5-6 วิ ล่ะครับ..
ปลายๆนี่ไหลเลยล่ะครับ..
แต่ถ้าแค่ดันรางอย่างเดียว
คงกินซีวิคเทอร์โบยากหน่อย..
ผมเองก็ซักเริ่มงงแล้วว่าเถียงกันไปเพื่ออะไร เฟืองท้ายกระบะและรอบเครื่องดีเซลไม่ได้ออกแบบมาให้ใช้ความเร็วสูงขนาดนั้น ยิ่งช่วงล่างอีก
(แต่ก็มีหลายคนใช้กันผิดประเภทอยู่)
-
ถ้าจะปลดล็อคท็อปสปีดต้องกล่องทองมอนเตอร์แม็กครับ ดันรางเฉยๆไม่ได้
-
เท่าที่ลองรถของเพื่อนๆมาไม่ถึงสองร้อยสักคัน ไทรทัน2500หัวเดียวคันเร่งดันรางประมาณ190 ฟอร์จูน2500คันเร่งดันรางยกหัวฉีดก็ได้ประมาณ190 ยอมรับครับขึ้นเร็วมากๆ ออลนิวดีแม็ก3000ยกสูงคันเร่งดันรางยกหัวฉีดได้ประมาณ180
-
กล่องดันราง เพิ่มน้ำมัน+อากาศ ได้ตอนออกตัวไปถึงรอบกลางๆ อัตราเร่งดีขึ้นแค่นั้น รอบปลายไม่มีผลครับ
ถ้าใส่กล่องดันราง+ยกอยู่ในกล่องใบเดียวกัน มีหัวฉีด+ระบบน้ำมัน+อินเตอร์คูลเลอร์ รอบต้นถึงรอบปลายได้สบายๆครับ
อยากปลดล๊อคความเร็ว ต้องใส่กล่องเพิ่มครับ
-
เท่าที่ลองรถของเพื่อนๆมาไม่ถึงสองร้อยสักคัน ไทรทัน2500หัวเดียวคันเร่งดันรางประมาณ190 ฟอร์จูน2500คันเร่งดันรางยกหัวฉีดก็ได้ประมาณ190 ยอมรับครับขึ้นเร็วมากๆ ออลนิวดีแม็ก3000ยกสูงคันเร่งดันรางยกหัวฉีดได้ประมาณ180
รถผม ฟอร์ 3.0 ขับ 4 ดันรางใบเดียวได้ 200 นิดๆ ไม่ถึง 210 ครับ
วิ่งเส้นเซาเทิร์นซีบอร์ด ทางตรงๆ ยาวๆ หลายกิโลเมตร
ส่วนออลนิวดีแม็ค ดันราง+ยกหัวฉีด ถ้าไม่ปลดปลายก็ตันที่ 185
แต่ถ้าปลดปลาย 220 มีแน่นอนครับ แต่เข็มไมล์ไม่เดินต่อนะ หยุดที่ 185 แต่ใช้app มือถือ จับได้ที่ 220 ครับ
-
ขับเร็วกันมากเลยนะ. หวังว่าขับบนคงามปลอดภัยตนเองและผู้อื่น
รวมถึงประเมินความเสี่ยงนอกเหนือจากความชำนาญร่วมเข้าไปด้วยครับ
-
บางคันไม่ทำช่วงล่างเพิ่มเลย ผมนี่หลอน
-
ไม่ได้ครับ กล่องดันรางแค่ทำหน้าที่ให้แรงดันในรางคอมมอนเรลมากขึ้น ทำให้น้ำมันเชื้อเพลิงเป็นฝอยและสามารถจับกับอากาศได้มากขึ้น เลยได้กำลังมากขึ้นครับ ถ้าจะปลดความเร็วปลาย ต้องให้ช่างเปิด Address ในกล่อเดิม หรือที่เรารู้จักกันกะคำว่า Remap หรือใส่กล่องพ่วงเพื่อปรับแก้ไขข้อมูลในกล่องเดิมครับ
-
ดันราง นี่ไม่ปลดล้อคความเร็วนะครับ ต้องพวกกล่องรวมดันยก ปลลล้อคความเร็ว หรือกล่องปลดล้อค ไม่ก็รีแมพครับ
ส่วนดันรางใบเดียวมันก็ดีตรงต้นกับกลาง นี่ดีขึ้นชัดเจน ส่วนตัวผมก็ใส่อยู่กับดีแมคเก่า แต่ปลายไม่ค่อยมีผลแล้วแต่มันก็ได้เพิ่มนิดนึง แต่ถ้าถามว่าทอปสปีดก็ได้เพิ่มอีกนิดแต่น้อยเพราะดันหนักไปไม่ได้ เสี่ยงพัง ปลายถ้าอยากได้จริงๆก็คงต้องยกหัวฉีด
-
ปลายแช่กัน 180 เยอะแยะครับ
แต่ต้องไปเล่นที่เฟืองท้ายด้วย
อย่าด่วนคิดว่ามา 200 แล้วกระบะจะต้องยกคันเร่งถอย
ถ้าเล่นสเตปรถบ้านแอบแรง ไม่ทำหนัก
ถ้าเฟืองเดิม 80-120 ตามพวกไฮบริดตัวแรงแบบติดตูดเลยครับ
แต่ปลายมันจะไหลแบบเค้นได้ที่ ประมาณ200
ก็ต้องเล่นกับเฟืองท้าย จะได้ประมาณ 200 แบบไม่เค้นหรือถ้าเค้นจะไปได้ยัน 210-215 ต้องแลกกับอัตราเร่งที่ลดลง
จากนั้นเอาไปโหลดครับ ค่า CD จะดีขึ้นมากมาย
-
ดันรางมันได้อัตราเร่งมากกว่าครับ ข้อเสียอย่างความเห็นบนๆครับ จึงมีวลีที่ว่า ดันให้รางแตกก็แซงไม่ได้ ::)
-
ถ้ารถที่ทำเต็ม ควันจะดำโขมงรึเป่าคะ
-
ไม่เกี่ยวกับปลดล๊อคความเร็วครับ
-
ดันรางมันได้อัตราเร่งมากกว่าครับ ข้อเสียอย่างความเห็นบนๆครับ จึงมีวลีที่ว่า ดันให้รางแตกก็แซงไม่ได้ ::)
ผมล่ะนึกถึงคันนี้ขึ้นมาทันที
-
รีแมพ + ดันราง พร้อมกัน ได้ไหม
-
รีแมพ + ดันราง พร้อมกัน ได้ไหม
ก็มีทำนะครับ ;D