Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: wa330 ที่ กรกฎาคม 05, 2016, 11:18:46
-
เป็นรถบ้านซื้อจากเจ้าของขายเองบอกจะไปอยู่ต่างประเทศ
ซื้อเงินสดโอนกันที่ขนส่งเรียบร้อยตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว
คนสนิทกับผมซื้อให้ผมไปช่วยดู เป็นรถaasสภาพป้ายแดง
แต่ผิดปกติคือราคาถูกผิดปกติราคาตลาดตอนนั้นประมาณ7ล้านขึ้น
หลังจากโอนขนส่งเอารถเข้าaasทุกอย่างสมบูรณ์มากไม่มีปัญหาอะไร
แต่ล่าสุดคนซื้อโทรมาบอกว่ารถมีปัญหาจากเจ้าของเดิม
หนีคดีคือเจ้าของเดิมธุรกิจล่มโดนฟ้องล้มละลาย
แล้วถ่ายโอนทรัพย์สินหนีเจ้าหนี้แล้วหลบไปต่างประเทศ
รถจะถูกอายัดและคนซื้อกำลังโดนตรวจสอบเรื่องเป็นนอมินี
ปรึกษาทนายแล้วได้ความว่า รถอาจโดนดีดกลับ(ยึด)
สู้โดยหาหลักฐานไปแสดงว่ารถคันนี้ซื้อมาโดยบริสุทธ์
และแสดงหลักฐานที่มาที่ไปของเงินทรัพย์สินอื่นว่าตนเองไม่ได้เป็นนอมินี
อยากทราบข้อกฏหมายในกรณีแบบนี้ การโอนกรรมสิทธ์กันเรียบร้อยแล้ว
แต่สามารถยึดคืนย้อนหลังได้ ระยะเวลาเงื่อนไขอย่างไรบ้าง
ทางทนายบอกว่าโอกาส50/50ถ้าพูดแบบนี้คงโดนยึดแน่ๆ
ช่วงเวลาที่ซื้อเจ้าของเดิมคงรู้ตัวว่าใกล้แล้วเลยขายทิ้งเอาเงินขึ้นมา
ตอนนี้คนซื้อมันกำลังเครียดเลยคับเรื่องโดนตรวจสอบทรัพย์สิน
เพราะทำบอลด้วย
-
มารออ่านครับ
จำได้ว่าปีก่อน มีเคสแบบนี้ของนักแสดงมีชื่อคนนึง ลองศึกษาดูครับ เผื่อได้แนวทาง
-
หูยย ผมตามอย่างเดียวเลยไม่มีความรู้ รออ่านเลยครับ :'( :'(
-
เวรแท้ๆ เพราดันทำบอลด้วยนี่แหละครับ เพราะถ้าอาชีพสุจริตอย่างน้อยยื่นทรัพย์สินได้ :-X :-X :-X
-
ถ้าตรวจสอบแล้ว คนซื้อน่าจะมีกำลังจ่ายจริงได้ ไม่น่ามีปัญหานะครับ แต่ถ้าเงินนั้นมาแบบเปิดเผยไม่ได้ ลำบากครับ
-
1. เรื่องรถ มีกฎหมายคุ้มครองเรื่องกรรมสิทธิ์ครับ เมื่อเพื่อนคุณซื้อทรัพย์มาโดน สุจริต และ เสียค่าตอบแทน ทำการจดทะเบียน
ที่ขนส่งเรียบร้อย กรรมสิทธิ์ในรถ เป็นของเพื่อนคุณครับ ผมว่ายึดไม่ได้นะครับ
2. เรื่องเงินของเพื่อนคุณ ต้องแก้จุดนี้จุดเดียวให้ใสครับ ถ้ามีที่มาของเงินอย่างถูกต้อง ว่าเงิน 4 ล้านนี้มาจากไหน
ยังไงก็ไม่มีปัญหาเรื่องนอมินีนะครับ เพราะเป็นเงินของเพื่อนคุณเอง
สรุปแล้ว ต้องแก้ที่เรื่อง ที่มาของเงินครับ
-
พาลจะทำให้โดนยึดทรัพย์สินอื่นๆด้วยสิครับ ถ้ายึดแค่รถที่ซื้อมาก็ถือว่าเป็นบุญแล้วครับ
-
ไม่มีความรู้เรื่องกฎหมายเเบบนี้เลย เอาใจช่วยครับ ของถูกต้องสืบให้ดีก่อนซื้อครับ
-
เพื่อนผมเคยมีเหตุการณ์คล้ายๆกัน แต่เคสนั้นประมาณเจ้าของเก่าซื้อขายกัน อาจจะด้วยเป็นเจ้าหนี้ลูกหนี้กัน แล้วไม่ได้มีการชำระเงินกันถูกต้องจนถูกฟ้องร้อง กลายเป็นคดี
เพื่อนผมก็ไม่รู้เรื่องไปซื้อมา วันดีคืนดีมีหมายเรียกมา รถก็ถูกยึดเป็นของกลาง ต้องเสียเงินว่าจ้างทนายความไปไม่น้อย แต่สุดท้ายได้รถคืนกลับมานะ
-
จ้างทนายก่อนเลยครับ :'( :'( :'(
-
นิดนึงครับ
ถ้าสรรพากร หรือ จนท. มาอ่านเว็บบอร์ดนี่ เดาไม่ยากเลยว่าเพื่อนคุณโดนชัวร์
RIP
-
น่าจะลักษณะเดียวกับ บอย ปกรณ์ ลองกลับไปหาข่าวอ่านดู รู้สึกว่าสุดท้ายบอยจะชนะคดี
-
ไม่อยากพูดอะไรมาก แต่มันมีวิธีรอดอยู่ เพื่อนคุณทำงานเทาๆอยู่แล้วก็น่าจะรู้
-
เรื่องแบบนี้ ปรึกษาทนายก็ถูกต้องแล้วครับ
และควรเลือกทนายที่เคยมีประสบการณ์ในคดีลักษณะนี้ด้วย
เพราะทนายแต่ละคน ก็ถนัดคนละด้าน
ถ้ายังไม่ค่อยมันใจในทนายคนนี้ ก็ลองปรึกษาทนายคนอื่น สำนักกฎหมายอื่นๆ ดู
ยอมเสียค่าปรึกษาดีกว่า เงิน 4 ล้านก็ไม่น้อย
ไม่น่าจะเอามาปรึกษาในที่เปิดเผยแบบนี้นะครับ เพราะเรื่องมันก็ค่อนข้างล่อแหลมครับ
-
พอเห็นที่มาของเงินแล้ว ไม่คอมเม้นดีกว่า
แต่บอกได้แค่ว่า คดีล้มละลาย การติดตามเอาทรัพย์สินของลูกหนี้เข้มกว่าคดีแพ่งธรรมดาเยอะ
-
ขอบคุณทุกท่านคับ มาแจ้งขอมูลเผื่อเป็นประโยชน์กับท่านอื่น
ตอนนี้เจ้าตัวไปปรึกษาทนายคนใหม่ที่เก่งเฉพาะทางนี้แล้ว
ได้ความกระจ่างแล้วเรื่องนี้จบไม่ค่อยสวยคับ
เรื่องรถยึดขายทอดตลาดใช้เจ้าหนี้100%
ที่มาของเงินซื้อโดยสุจริตไม่เกี๋ยวและซื้อขายโอนกรรมสิทธิ์
อย่างถูกต้องก็โดนยึดคืนใช้หนี้ มีขอกฎหมายอาญาชัดเจน
นับย้อนหลัง2ปีเริ่มนับจากผิดนัดชำระหรือตอนไหนฟังมาจำไม่ได้
เพราะคนขายเจตนาโอนย้ายทรัพยมิให้เจ้าหนี้ตามได้ ทนายชอบเรียกกันว่าดีดกลับ
แล้วผู้ซื้อต้องไปตามฟ้องค่าเสียหายจากคนขายเอง(ชิ้งไปแล้ว)
ทนายคนใหม่ไม่รับทำบอกว่าเขารับเฉพาะที่มีโอกาสชนะ70%ขึ้น
แต่เรื่องนี้แพ้แน่นอน อันนี้คือถ้าสู้ผลจะแบบนี้
ทางออกที่ทนายใหม่แนะนำมาเพื่อให้เสียหายน้อย
ผมฟังแล้วก็อิ้งแต่คิดแล้วน่าจะเป็นทางออกที่ดีเหมาะสมกับเพื่อนผมที่สุดรถยังอยู่
ถ้าเคสนี้เกิดกับคนอื่นที่ใสถูกต้องทุกอย่างก็โดนยึดรถแน่นอน
จบครับ
-
ถ้าตามกระบวนการ
เท่าที่พรรคพวกเคยเจอ(แต่ทรัพย์ไม่ใช่รถ)
โดนยึดคืนแน่นอนครับ เพราะถือว่าเป็นของกลาง
ส่วนเรา(คนซื้อ)ต้องไปฟ้องเอากับคนขายครับ
ซึ่งโอกาสได้คืนเป็น 0 ครับ เว้นแต่จะมีกำลังภายใน
ที่ดีครับ แต่ไม่ว่าจะได้คืนเป็นรถ หรือได้คืนเป็นเงิน
ใช้เวลาเป็นปีเลยครับกว่าจะจบเรื่อง
และที่ซวยกว่าคือเพื่อนคุณมีที่มาของเงินแบบไม่ใส100%
เพราะมีการทำบอลมาเกี่ยว อันนี้หนักกว่าโดนยึดรถอีกครับ
ถ้ายึดรถไปแล้วจบให้ยึดไปเลยครับ แต่กลัวว่าจะโดน
ในส่วนทนัพย์สินส่วนตัวต้องโดนตรวจสอบทั้งหมดด้วย
งานนี้แค่ทนายเก่งๆอาจไม่พอครับ วิ่งเต้นกันหนักเลย
ดีไม่ดีนอกจากยึดทรัพย์อาจโดนดำเนินคดีถึงขั้นติดคุก
ได้ด้วยเลยครับ
-
ห้ามให้เขาตรวจเจอว่าทำบอลโดยเด็ดขาด หวังว่าเพื่อนคุณคงทำบอลแค่ขำๆ หาค่าขนมเล็กน้อย เดือนละไม่กี่หมื่นบาท ไม่ใช่ทำเป็นอาชีพหลัก
-
ผมว่าลำบากเลย ของเคสบอยเป็นดารา+ผู้ใหญ่เส้นก๋วยจั๊บก็เลยรอดไง
-
ไม่อยากพูดอะไรมาก แต่มันมีวิธีรอดอยู่ เพื่อนคุณทำงานเทาๆอยู่แล้วก็น่าจะรู้
คิดเหมือนกันเลย
ทำโต๊ะโดยที่ไม่มีกำลังภายใน ทำลำบากครับ
-
โดนยึด อย่างที่จขท.บอกครับ ผมมีเงินอยู่ใน Liberty reserve ตอน อเมริกาจับเจ้าของ มันยึดเงินผมไปหมดเลย ใครจะไปฟัองเอากับเจ้าของที่มันติดคุกได้
-
ความเห็นของผมอาจไร้สาระ แต่ โลกความเป้นจริงมันก็ประมาณนั้นละครับ ให้ทนายไปคุยกับเขาดูก่อนครับ ยัดเงินได้เท่าไร
ถ้ายัดเงินไมไ่ด้ ก็ตัวใครตัวมันละครับงานนี้ ไม่รู้สินะครับ ผมเห็นหลายๆคนขนาดทหารมารื้อบ้าน ไม่นานก็เงียบหาย น่าจะยัดเงินนี่แหละ