Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: พี่กล้วยหอม ที่ กรกฎาคม 06, 2016, 10:18:26
-
ผมเข้าใจว่า อัตราลามไฟของเชื้อเพลิง ยิ่งเร็วยิ่งดี
ถ้าสมมุติว่า เชื้อเพลิงชนิดหนึ่ง octane สูงมาก แล้วอัตราลามไฟก็ช้ากว่าจริงแบบที่ผมสงสัย
แบบนี้ เชื้อเพลิง octane สูงที่ต้านทานการจุดระเบิดได้กี แต่ อัตราการลามไฟดันช้ากว่า octane น้อย
จะมีข้อเสียเปรียบในการ เผาไหม้ช้า หรือเปล่าครับ เพราะจะทำให้มันลามหมด ก็ต้องไป ทำสารพัดวิธี เช่น
แบบที่ผมเข่้าใจก็ แอดวานซ์ องศาจุดระเบิดให้มากกว่าเดิมอีก ตั้งแก่มาก แรงต้านหัวลูกสูบตอนเคลื่อนขึ้นหา tdc ก็มากอีก
:-[ :-[ ;D
-
ตอบคำถามนี้ ให้ถูกต้อง ต้องมีความเข้าใจของผู้ฟัง และผู้พูดที่ตรงกันก่อนครับ
คำว่า ช้ากว่า หมายถึง เอามาเผา ที่อุณหภูมิเท่าไหร่ แรงดันอากาศเท่าไหร่
ถ้าเอาเครื่องที่มีกำลังอัด9.5 เทียบกับ 11 ที่คอยล์กำลังไฟสูงและหัวเทียนที่สร้งพลังงานความร้อนได้สูงเหมือนกันทั้งสองเครื่อง แล้วเอา น้ำมัน95 ไปเติม เครื่องที่อัด9.5ก็จะมีอัตราการเผาไหม้ ช้ากว่าเครื่องที่อัดด้วยกำลังอัด 11
แต่ถ้าเอามาเผากันที่อุณหภูมิFlash point ของตัวน้ำมันเอง ก็จะไหม้ด้วยความเร็วเท่ากันครับ
และแน่นอนว่ารถกำลังอัด11ที่ปรับแอดวานซ์รีทาร์ทของไทม์มิ่งไม่ได้เอา น้ำมันออกเทนต่ำไปเติมมันก็น็อก
http://www.state.mn.us/mn/externalDocs/Commerce/Gasoline_Octane_Facts_102902052227_OctaneFacts.pdf
http://www.ftc.gov/bcp/conline/pubs/autos/octane.shtm
-
ตอบด้วย ตัวอย่างเครื่องยนต์เดียวกันครับ Lancer EX 1.8 FFV
ใน ภาพ คือ MAP องศาจุดระเบิด ของ Hi-Octane และ Low-Octane
จะพบว่า Hi-octance มีระยะเวลาเผาไหม้จนเกิดพลังงานสูงสุดเร็วกว่า Low-Octane จึงต้อง สั่งจุดระเบิด ให้ไวกว่า คือ Advance กว่า
ดูจาก ค่า Advance ขององศาจุดระเบิด ของ Hi-octane จะมากกว่า Low-Octane
ปล. ในตารางค่าองศาจุดระเบิด บวก + คือ Advance , ลบ - คือ Retard
ตอบ จขกท.
ผมเข้าใจว่า อัตราลามไฟของเชื้อเพลิง ยิ่งเร็วยิ่งดี จริงครับ
แต่ รถจะแรง ไม่แรงไม่ได้อยู่ตอนจุดระเบิด เวลาไหน หรือ เร็ว หรือช้า
แต่อยู่ตอนที่ แรงดันระเบิดสูงสุด เกิดที่จุดไหน แต่ละเครื่องยนต์ มีจุด
จากที่เรียน คือตั้งไฟก่อน BTDC เพื่อให้มันระเบิดเบิดสูงสุดหลัง ATDC เท่าไหร่ไม่รู้
แต่ความ จริงคือ
เวลาลามไฟจนถึง ระเบิดสูงสุดแปรผัน ตาม พลังงาน อากาศ + น้ำมัน หรือ โหลด หรือ Engine Load.
Load น้อย อากาศน้อย จุดเร็ว เพราะปริมาณ ากาศน้อย ระเบิดไว ก็ต้อง Advance ไปอีก
ความเร็ว ของการจุด แปรผัน ตามกระบอกสูบอีก
RPM เพิ่ม ต้องเพิ่ม เวลา อีก
ดู ตาราง ที่แนบมาแล้วจะเข้าใจ
Hi-octane ป้องกันการชิงจุด ก็คือ เกิดการระเบิดสูงสุด
ระเบิดเอง โดยที่ยังไม่ทันจะจุดระเบิด จากแรงดันลูกสูบ ความร้อน ( เครืองยนต์ร้อนมากๆ) อากาศ(เข้ามาก) น้ำมันบาง คือ ทำให้ระเบิดสูงสุดก่อน TDC เครื่องพัง
-
คิดว่าไม่น่าจะเช่นนั้น ..........
สิ่งที่น้ำมันออกเทนสูงทำ คือย้ายจุดวาบไฟ ให้สูงขึ้น ยิ่งสูงเท่าไร ก็ยิ่งดี เพื่อให้ลูกสูบเคลื่อนไปให้ใกล้จุดศูนย์ตายบนมากที่สุด (ก่อนที่จะมีการชิงจุดระเบิด)
ดังนั้น ออกเทนสูง จะจุดระเบิดช้ากว่า ออกเทนต่ำ ในรอบ ต่อรอบ..
ส่วนการลามไฟ ยิ่งเร็วก็ยิ่งดีอย่างคุณเข้าใจ...
ผมเข้าใจแบบนี้ครับ
-
ใช่ครับ
และถ้าเครื่อง ถูกออกแบบมาให้ใช้กับออคเทน 91 เราเติมออคเทน 105 บ่อยๆ โดนเครื่องปรับองศาไฟจุดระเบิดไม่ได้ ผลคือไฟลามช้า แลบมาทางวาล์วไอเสีย กำลังตก วาล์วยัน
เช่นเดียวกัน กับการใช้แก๊ส แอลพีจี ออคเทน 105 ในรถยนต์ที่ใช้น่ำมันออคเทน 91 ครับ