Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: Thanawat Ton ที่ กรกฎาคม 11, 2016, 11:43:53
-
ผมออก เจ้า D-MAX 1.9 4 Door Hi-Lander รุ่น Z DVD M/T 857,000.- มาใหม่ครับ เลยอยากจะมาเล่าให้ฟังถึงบุคลิกของตัวระบบขับเคลื่อนที่อีซูซุได้เซ็ทไว้ในรุ่นนี้ครับ
จากที่ใช้งานไปแล้วกว่า 1 พันกิโลเมตร สิ่งที่ผมพบจากเจ้าคันนี้คือ
1. เครื่องยนต์จะทำงานในรอบเดินเบาที่ 600-700 รอบ/นาที !!!!แต่ถ้าหากมีการเคลื่อนที่ (แม้แต่ล้อหมุนเพียงสักไม่ถึงครึ่งรอบของวงล้อ)รอบเครื่องยนต์จะถูกเร่งขึ้นมาที่ 900-1,000 รอบ/นาที โดยอัตโนมัติ และเมื่อรถจอดหยุดนิ่ง ประมาณ 2-3 วินาที รอบเครื่องยนต์จะกลับมาสู่ 600-700 รอบ/นาที เช่นเดิม
2. ครัช (รถผม) นิ่มมาก นิ่มกว่าตัว 2.5 VGS อีกครับ แต่ระยะเหยียบค่อนข้างลึกนิดนึง มากกว่าสาย วีโก้ รีโว่ พอควร
3. คันเร่ง มีอาการหน่วงความไวอยู่ประมาณ 0.5-1 วินาที และต้องเหยียบค่อนข้างลึก เพื่อเรียกกำลังเพิ่ม
4. ในช่วงรอบต้น 1,000-1,700 รอบ/นาที ค่อนข้างอืด แต่พอเข้าช่วง 1,800 รอบ/นาที ขึ้นไปจะมีอาการดึงไปข้างหน้าจนรู้สึกได้
5. ในรถที่ไม่มีการบรรทุก นอกจาก นั่งเต็มรถ 5 คน การออกตัวทางราบ ออกตัวเกียร์ 2 ได้เลย โดยค่อยๆปล่อยครัช พอรถเคลื่อน รอบเดินเบาจะถูกเร่งขึ้นมาอัตโนมัติ แล้วก็ปล่อยครัชเพิ่ม แล้วจึงกดคันเร่งเติมได้ (กรณีออกตัวเกียร์ 2 ไม่เหยียบคันเร่งช่วย)
6. เกียร์ 1 มีอัตราทดที่สูงมาก จากรอบเดินเบาแล้วเร่งไปที่ 2,500-3,000 รอบ/นาที แทบไม่รู้สึกถึงความเร็วที่พุ่งไปข้างหน้าเลย แต่เกียร์ 1 สามารถปล่อยรอบเดินเบา ไต่ขึ้นเนินเขามวกเหล็ก ช่วงรถติดมากๆ คลานๆไปได้ไม่มีปัณหา และ ไต่ลงเนินได้ความเร็วในรอบเดินเบาพอๆกับสิบล้อข้างๆ คือมันช้ามาก ถ้าให้เปรียบเทียบก็ รถทั่วไปเกียร์ 1 แล้วใส่ โฟล์วิล ตัว 4L อะ มันช้าไกล้เคียงกันจริงๆ
7. เมื่อรถลอยลำในย่านความเร็วสูงค่อนข้างดี ช่วงล่างนิ่มเด้งขึ้น-ลงเหมือนสปีดโบ็ท แต่ไม่กระแทกแรงเหมือนเรือ
8. ความประหยัดทำได้ดี ผมวิ่งมาประมาณ 700 กม. เส้นทาง ชัยภูมิ-นรสวรรค์-ชัยภูมิ-โคราช-กทม. (2วัน) ขับช้าตามสภาพจราจร และซิ่งบ้าง ได้เฉลี่ยอยู่แถว 15.0 กม./ลิตร เลขที่คำนวนได้บนไมล์รถ คลาดเคลื่อนจากที่เคยเติมน้ำมันเต็มแล้วเติมกลับอยู่ 0.2-0.5 กม./ลิตร ครับ
**หากใครใช้รุ่นนี้ หรือสนใจ ผมบอกได้เลยว่า ขอให้คนขับได้เรียนรู้ลักษณะ และจังหวะของ เครื่อง และ เกียร์ สักพัก แล้วจะรู้ว่า เล็กพริกขี้หนู มันเป็นยังไงครับ
มีติอยู่นิดนึง คือเรื่อง
1. ชิฟฟิลลิ่งเกียร์ ไม่สมูทเท่าที่ควร จาก 2 ไป 3 เว้าบ่อยมาก ในจังหวะรีบๆ
2. การจัดวางตำแหน่งถอย R คู่กับเกียร์ 1 นั้น หากใคร เคยชินกับการโยกรถเดินหน้า-ถอยหลัง แบบรัวๆ เวลารถติดหล่มละก็ คงจะทำไม่คล่อง เหมือน 5 เกียร์ ปกติแน่ครับ
3. เกียร์ 1 และ เกียร์ 2 รอบเครื่องยนต์ห่างกันอยู่ ประมาณ 800-900 รอบ ซึ่งผมมองว่ามันมากเกินไป หากเร่งรอบที่เกียร์ 1 ไม่ถึง 2,000 รอบ พอขึ้นเกียร์ 2 รอบจะตกมาอยู่ที่ 1 พันต้นๆ เอง มันจะอืดและวืดไปนิดนึง
-
ยินดีด้วยสำหรับรถใหม่ทีถูกใจครับ รีวิวจากคนใช้ เยี่ยมเสมอครับ
-
สับ2ไป5บ่อยคับ
-
สับ2ไป5บ่อยคับ
สายแว้นซ์คงเซง ต่อไปอาจมีดัามเกียร์แต่งออกมาขาย555
-
แหร่มๆเลย 8)
-
ถามนิดครับ ตอนนี้ร่องเกียร์ที่ว่างมันจะตรงกับเกีย 3 เหมือนรถ5เกียร์เดิมมั้ยครับ
คือ5เกียร์นี่เราดันตรงๆเข้า3ได้เลย ดึงลงตรงๆก็เข้า4ได้เลย
รถ6เกียร์นี่เขาทำร่องกลางไว้แบบเดิมหรือเปล่า
-
ถามนิดครับ ตอนนี้ร่องเกียร์ที่ว่างมันจะตรงกับเกีย 3 เหมือนรถ5เกียร์เดิมมั้ยครับ
คือ5เกียร์นี่เราดันตรงๆเข้า3ได้เลย ดึงลงตรงๆก็เข้า4ได้เลย
รถ6เกียร์นี่เขาทำร่องกลางไว้แบบเดิมหรือเปล่า
แบบเดิมครับ จริงๆ 2 ไป 3 ไม่น่ากังวลอะไร ถ้าขับแบบเรื่อยๆ
ดันออก 2 มันก็ไหลมากลางซึ่งจะอยู่ตรง 3 ไม่น่าจะเข้าผิดอะไรหรอก
แต่ถ้าจะสับเอาเร็วอันนี้ก็ระวังเอาเองครับ..
-
ถามนิดครับ ตอนนี้ร่องเกียร์ที่ว่างมันจะตรงกับเกีย 3 เหมือนรถ5เกียร์เดิมมั้ยครับ
คือ5เกียร์นี่เราดันตรงๆเข้า3ได้เลย ดึงลงตรงๆก็เข้า4ได้เลย
รถ6เกียร์นี่เขาทำร่องกลางไว้แบบเดิมหรือเปล่า
แบบเดิมครับ จริงๆ 2 ไป 3 ไม่น่ากังวลอะไร ถ้าขับแบบเรื่อยๆ
ดันออก 2 มันก็ไหลมากลางซึ่งจะอยู่ตรง 3 ไม่น่าจะเข้าผิดอะไรหรอก
แต่ถ้าจะสับเอาเร็วอันนี้ก็ระวังเอาเองครับ..
ใช่ครับ ร่องกลางจะอยู่แนว 3-4 ครับ แต่ในจังหวะที่มือจับเกียร์เปลี่ยนเร็ว มือเราจะพยุงหัวเกียร์ไม่ตรงร่องกลาง จึงทำให้ 2 ไป 3 อาจจะพลาดได้ครับ
-
ผมว่านิสัยตัว 1.9 ของ d-max เหมือนกับตัว 2.4 mivec ของมิตซู คือช่วงต้นๆก่อน 1800รอบ จะอืด+ไม่มีกำลัง พอ 1800ไปเมื่อไรถึงจะเริ่มมีแรง
แต่ผมว่า เกียร์ AT ใน 1.9 เวลาเปลี่ยนเกียร์ไม่นิ่มเหมือนของ revo ทั้งๆที่เกียร์ลูกเดียวแท้ๆ
-
ขอบคุณสำหรับรีวิวครับ
-
ผมว่านิสัยตัว 1.9 ของ d-max เหมือนกับตัว 2.4 mivec ของมิตซู คือช่วงต้นๆก่อน 1800รอบ จะอืด+ไม่มีกำลัง พอ 1800ไปเมื่อไรถึงจะเริ่มมีแรง
แต่ผมว่า เกียร์ AT ใน 1.9 เวลาเปลี่ยนเกียร์ไม่นิ่มเหมือนของ revo ทั้งๆที่เกียร์ลูกเดียวแท้ๆ
อาจเป็นที่การเซ็ท สมองเกียร์ กระมัง เพราะเครื่องแรงบิดมากกว่า
-
1. ชิฟฟิลลิ่งเกียร์ ไม่สมูทเท่าที่ควร จาก 2 ไป 3 เว้าบ่อยมาก ในจังหวะรีบๆ
ใช้3.0 5MT อยู่ เป็นเหมือนกันเลย จังหว่ะรีบๆสับ นี่บางทีมีเหวอ >:( >:( >:(
-
เห็นด้วยทุกบรรทัดครับ ผมเคยเทสเจ้านี่ 3 ครั้งก่อนซื้อรถ การพุ่งตัวคล้ายกับไทรตันมากๆ
แต่ผมตัดมันออกเพราะ ส่วนลดได้แค่ 5 พัน และออกเกียร์ 2 ยากเเค่นั้นเลย นอกนั้นรับได้หมดครับ
-
เพิ่งไปลองมาครับ D-max 1.9 4 ประตู AT Z-prestige ข้อ 7 กับ 4 นี่เป็นเรื่องหลักเลยที่พอเอาไปเทียบกับ Ranger แล้วผมเลยตัดสินใจว่าจะเอา WT 2.2 AT แทน แต่จะรอให้ Sync 3 มาก่อน 8)
-
เพิ่งไปลองมาครับ D-max 1.9 4 ประตู AT Z-prestige ข้อ 7 กับ 4 นี่เป็นเรื่องหลักเลยที่พอเอาไปเทียบกับ Ranger แล้วผมเลยตัดสินใจว่าจะเอา WT 2.2 AT แทน แต่จะรอให้ Sync 3 มาก่อน 8)
ข้อ4 จับเปลี่ยนโช็ค 4 ต้นจบ
-
ควรออกรถด้วยเกียร์1 ต่ำสุดนะครับ ผมเคยอ่านคลอลัมของ อ.พัฒณเดช ลองหาอ่านดูเพื่อความรู้และการใช้งานที่ควรจะเป็นครับ เพื่อยืดอายุการใช้งาน
ปล.ผมมองๆหาคันเร่งไฟฟ้าไว้ละ
-
ควรออกรถด้วยเกียร์1 ต่ำสุดนะครับ ผมเคยอ่านคลอลัมของ อ.พัฒณเดช ลองหาอ่านดูเพื่อความรู้และการใช้งานที่ควรจะเป็นครับ เพื่อยืดอายุการใช้งาน
ปล.ผมมองๆหาคันเร่งไฟฟ้าไว้ละ
อุปกรณ์คันเร่งไฟฟ้า ผมก็เล็งไว้เหมือนกัน แต่ผมยังไม่เข้าระบบการทำงานของมันหนะครับ ว่า
ที่ยังไม่ติดเพราะอยากทราบการทำงานของระบบคันเร่งไฟฟ้าที่ขายตามตลาด ครับว่า ระบบของมัน ชดเชยการทำงานส่วนไหน
ระหว่าง
1.ชดเชยช่องว่างช่วงขณะที่เหยียบคันเร่งจนมันเริ่มเร่ง ประมาณ 0.1-0.3 วินาที (วัดด้วยความรู้สึก)
หรือ
2.ชดเชยความไวในการเร่ง (สมมุติ คันเร่งมี 10 ระดับ)
เช่น ปกติเหยียบ1ก็เร่ง1 เหยียบ3ก็เร่ง3 หรือ
ติดตั้งคันเร่งไฟฟ้าแล้ว เหยียบ1เร่ง1 เหยียบ2เร่ง2.5 เหยียบ3เร่ง4 (ทำให้ต้องเหยียบคันเร่งน้อยลง แต่ใด้ความไวมากขึ้น)
**ไม่รู้ผมเข้าใจถูกไหมครับ**
-
ควรออกรถด้วยเกียร์1 ต่ำสุดนะครับ ผมเคยอ่านคลอลัมของ อ.พัฒณเดช ลองหาอ่านดูเพื่อความรู้และการใช้งานที่ควรจะเป็นครับ เพื่อยืดอายุการใช้งาน
ปล.ผมมองๆหาคันเร่งไฟฟ้าไว้ละ
อุปกรณ์คันเร่งไฟฟ้า ผมก็เล็งไว้เหมือนกัน แต่ผมยังไม่เข้าระบบการทำงานของมันหนะครับ ว่า
ที่ยังไม่ติดเพราะอยากทราบการทำงานของระบบคันเร่งไฟฟ้าที่ขายตามตลาด ครับว่า ระบบของมัน ชดเชยการทำงานส่วนไหน
ระหว่าง
1.ชดเชยช่องว่างช่วงขณะที่เหยียบคันเร่งจนมันเริ่มเร่ง ประมาณ 0.1-0.3 วินาที (วัดด้วยความรู้สึก)
หรือ
2.ชดเชยความไวในการเร่ง (สมมุติ คันเร่งมี 10 ระดับ)
เช่น ปกติเหยียบ1ก็เร่ง1 เหยียบ3ก็เร่ง3 หรือ
ติดตั้งคันเร่งไฟฟ้าแล้ว เหยียบ1เร่ง1 เหยียบ2เร่ง2.5 เหยียบ3เร่ง4 (ทำให้ต้องเหยียบคันเร่งน้อยลง แต่ใด้ความไวมากขึ้น)
**ไม่รู้ผมเข้าใจถูกไหมครับ**
ระบบการทำงานนี่ผมก็ไม่ค่อยแน่ใจเท่าไรนะครับ แต่ที่พอรู้สึกได้คือมันลดช่องว่าง การหน่วงที่เกิดขึ้นกับรถเราน่ะครับ
สมมุติใช้ปาตัวเก่าอยู่ เวลาออกตัวมันจะอืดรอรอบ แต่ใส่คันเร่งไฟฟ้าไป จากที่มันอืดรอรอบ กลายเป็นเหยียบส่งได้ดั่งใจ ไม่มีอาการหน่วง
หากเลือกใช้คันเร่งไฟฟ้าหรือกล่องECUต่างๆ ก็ควรเลือกที่มียี่ห้อ มีการยอมรับในตลาดว่าใช้ดี ไม่มีปัญหาอะไรด้วยนะครับ
จ่ายแพงกว่าไปนิดหน่อยแต่สบายใจ ไว้ใจได้น่ะครับ ยิ่งเลือกยี่ห้อที่สามารถเคลมได้ตลอดอายุการใช้งานได้ ยิ่งดีครับ