Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: as909za ที่ กรกฎาคม 13, 2016, 06:15:25
-
สอบถามเกี่ยวกับ series 5 ตัวปัจจุบันครับ ถ้าใช้รถเยอะปีละ 6-7 หมื่นโลต่อปี เป็นพี่ๆจะเลือกคันไหนครับระหว่าง 528i กับ 525d ครับ
บางคนบอกวิ่งเยอะ จัดดีเซลดีกว่า แต่บางคนบอกเดียวนี้เวลาซ่อมค่าใช้จ่ายไม่ต่างกันมากแล้ว เบนซิล ดีเซล ผมเลยสับสนนะครับ
แล้ว (Warranty) อะไหล่ 5 ปี ไม่จำกัดระยะทาง นี่สมมุติผมวิ่ง 5 ปี 3.5แสนโล เครื่อง+เกียร์พัง เคลมได้ใช่ไหมครับ แล้วอะไรที่ Warranty ไม่ Cover บ้างครับ
พวกอะไหล่สิ้นเปลืองหรือที่สึกหรอตามอายุการใช้งานเช่น น้ำมันเครื่อง ผ้าเบรค จานเบรค ใบปัดน้ำฝน แบบเตอรรี่ หัวเทียน คอยจุดระเบิด ใช่ไหมครับ แต่เข้าใจว่าอะไหล่พวกในรวมอยู่ใน bsi แทน และถ้าเป็นดีเซลจะไม่ค่อยมีพวกอะไหล่พวกนี้จะจุกจิกน้อยกว่าเบนซิลใช่ไหมครับ รบกวนขอคำแนะนำด้วยครับ
แต่ผมชอบอัตตราเร่งแรงดึงของ 528i มากกว่า แต่ปีนึงวิ่งเยอะ 6-7 หมื่นโลต่อปี เลยมีแต่คนเชียร์ 525d แล้วถ้าผมเลือก 528i แต่ถ้าอะไหล่ชินไหนพังก็เคลมได้เหมือนกัน งี้ผมเลือกที่ใจอยากได้ดีกว่าไหมครับหรือพี่ๆคิดว่ายังไงรบกวนขอความคิดเห็นด้วยนะครับ ขอบคุณครับ (ไม่ซีเรียดเรื่องค่าน้ำมันครับ)
-
รับประกันไม่จำกัดระยะทาง
ไม่ต้องกังวลเลยครับเรื่องใช้รถต่อปีเยอะ
เอารถที่ขับแล้วชอบถูกใจไปเลยครับ
ผมเชียร์ 528i มาตั้งแต่ต้น และยืนยันคำเดิมครับ
ขับ 528i ขับดีกว่า 525d เยอะครับ ไม่ผิดหวังแน่
ดีกว่าซื้อรถมาแล้วใช้ไม่ชอบมุนจะหมดสนุกไปครับ
อะไรเสียก็เครมไปเลยครับ แต่ถ้าใกล้จะ 5 ปี ราวๆสัก 4 ปี
ถ้าคิดขายต้องรีบปล่อย เพราะ BMW ถ้าหมด BSI แถมวิ่งเยอะ
ราคาจะตกมากกว่า BSI เหลือเยอะหน่อยครับแต่รู้สึก BSI
จะกำหนดระยะทางไว้ที่ 1 แสนโลนะ (อันนี้ผมไม่แน่ใจว่าปรับหรือยัง)
-
5 ปีไม่กำจัดระยะ ตรงตัวอยู่แล้วครับ
ผมก็ใช้เยอะครับ ก็เลือกเบนซิลเพราะเหตุผลเรื่องเสียงในอนาคตครับ
ขอแก้ไขครับ
คำว่า 5 ปีไม่จำกัดระยะทาง คือ ไม่เกิน สองแสนกิโล นะครับ ในความหมายของBM
-
เข้าศูนย์เช็คระยะจะจบที่ 100,000 กม แรกครับ หลังจากนั้นเข้าศูนย์จ่ายเอง
แต่การรับประกันคุณภาพรถยังมีต่อไปจนครบ 5 ปีครับ
ส่วนอะไหล่ที่ถามรอผู้รู้มาตอบนะครับผม 8) 8)
-
BSI (BMW SERVICE INCLUSIVE)
บริการดูแลและบำรุงรักษารถระดับพรีเมี่ยม
มาพร้อมรถบีเอ็มดับเบิลยูทุกรุ่น*
ตั้งแต่วันแรกที่คุณเป็นเจ้าของ โดยไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมใดๆ
BSI (BMW SERVICE INCLUSIVE) แพ็คเกจบริการล่าสุดสำหรับรถบีเอ็มดับเบิลยูใหม่ทุกคัน เพื่อให้คุณได้สัมผัสกับสุนทรียภาพแห่งการขับขี่ โดยไม่ต้องกังวลถึงค่าใช้จ่ายในการบำรุงและดูแลรักษารถ BSI จะเป็นผู้ดูแลค่าใช้จ่ายทั้งหมดนานถึง 5 ปี หรือที่ 100,000 กม.** รวมถึงการเปลี่ยนอะไหล่แท้จากบีเอ็มดับเบิลยู
และ สำหรับท่านเจ้าของรถบีเอ็มดับเบิลยู ที่มีแพ็คเกจ BSI อยู่แล้ว สามารถขยายเวลา การบำรุงและดูแลรักษารถ เพิ่มขึ้นอีก 1 ปี หรือ 20,000 กม. ด้วยแพ็คเกจ BSI Extension ซึ่งรถบีเอ็มดับเบิลยูของท่านจะได้รับการดูแลอย่างมีคุณภาพ เพื่อให้ทุกการขับขี่ของคุณเปี่ยมด้วยความสบายใจและมั่นใจได้ตลอดทุกเส้นทาง
ครอบคลุมบริการต่างๆ ดังต่อไปนี้
- เปลี่ยนน้ำมันเครื่อง รวมถึง Top-ups
- เปลี่ยนแผ่นกรองอากาศ ที่กรองอากาศ หัวเทียน และน้ำมันเบรก
- ผ้าเบรกหน้า และผ้าเบรกหลัง
- ดิสก์เบรกหน้า และดิสก์เบรกหลัง
- ซ่อมบำรุงหรือเปลี่ยนที่ปัดน้ำฝน และหัวฉีดที่ปัดน้ำฝน
- ตรวจเช็กและซ่อมบำรุงมาตรฐานทั่วไป ตามที่ระบุไว้ในคู่มือเจ้าของรถ
- การซ่อมบำรุงอันเกิดจากความผิดพลาดในขั้นตอนการผลิตตามระยะเวลาของสัญญา
*ยกเว้นรุ่น Mู
**ขึ้นอยู่กับว่าถึงกำหนดใดก่อน | โปรดสอบถามเงื่อนไขและรายละเอียดเกี่ยวกับ BSI (BMW Service Inclusive) และโปรมแกรม BMW Extension ได้ที่ผู้จำหน่ายอย่างเป็นทางการของบีเอ็มดับเบิลยู
-
เรื่องค่าบำรุงรักษาและค่าน้ำมันไม่ได้ห่างกันอะไรมาก ขึ้นอยู่กับว่าชอบคันไหนครับ ถ้าชอบ 528i ก้จัดเลยครับขับมันกว่าแน่นอน
525d แรงพอไล่ๆได้แต่ขับไม่สนุกเท่าแน่นอนครับ น่าเบื่อกว่าเยอะ
-
อยู่ที่ตัวเราชอบครับ ไปลองเทสดูก่อน ชอบต้นดึงหนักๆ และเวลาจ่ายค่าน้ำมันจิ๊บๆไปดีเซล ถ้าชอบลากรอบ ชอบเสียงเครื่อง ไปเบนซิน ส่วนตัวผมวิ่งในเมืองเยอะ รถติด เลยไม่เอาเบนซิน
-
528i เถอะครับ ด้วยวัยขนาดนี้ขับเครื่อง diesel ผมว่าจะเบื่อเอา
ไม่ใช่มันไม่แรงนะ แต่มันไม่ต่อเนื่อง เพราะเหยียบไปนิดเดียวรอบหมดละ เกียร์ตัด ลากรอบไม่ได้ :o
-
ชอบ 528 ก็ไป 528 เลยครับ
-
ผมว่า การโฆษณาของบีเอ็มตรงเรื่อง BSI ที่บอกว่าไม่จำกัดระยะทาง มันยังดูคลุมเครืออยู่นะครับ ถ้าอ่านจากข้อมูลที่เพื่อนๆ ข้างบนมาแชร์
ผมว่าแยกเป็น 2 ประเด็นคือ เลือกเครื่องที่ชอบก่อน ถ้าไม่ซีเรียสน้ำมันไป 528I ก็ดีครับ ขับมันส์กว่า
ส่วนเรื่องระยะทาง และ warranty ไปคุยกับบริษัทที่เราดูเลยครับ ให้เค้าเอามาแจงให้ฟัง ให้อ่านกับตากับหูเราเลย เอาข้อสงสัยที่คาใจ คำถามที่มาถามที่นี่ คุยเลยครับ ถามหลายๆที่ ถ้ามันไม่ตรงกัน ก็เช็คไปที่ call center ของ BMW thailand อีกทีดีกว่าครับ
ผมว่าจะชัวร์ที่สุดละครับ
-
ผมโทรเช็คไปที่ call center bmw แล้วครับ
เพราะมีเคสที่คุยกับศูนย์ว่า จะหมดพร้อมกับ bsi เลยโทรเช็ค สรุปว่าคนละส่วนครับ 5 ปีไม่จำกัดระยะทางครับ
-
เหมือนจะมีการสับสนระหว่าง BSI กับ Warranty
BSI (เปลี่ยนของเหลวต่างๆ เช่น น้ำมันเครื่อง น้ำมันเกียร์) อันนี้มัน 5 ปี ไม่เกิน 100,000 กิโลเมตร ครับ
ส่วนอันที่ 5 ปี ไม่จำกัดระยะทางนั้น เป็นการ รับประกันตัวรถ (Warranty)
ถ้าใช้รถเยอะมาก ปีละ 6-7 หมื่น กม. ใช้ไป 1 ปีครึ่งก็หมด BSI แล้วครับ แต่ยังเหลือรับประกันตัวรถอยู่
ถ้าจะใช้ยาวๆต้องคำนวณดูว่าเรารับกับค่าบำรุงรักษาได้หรือไม่ เพราะต้องจ่ายเองแล้วครับ
-
เหมือนจะมีการสับสนระหว่าง BSI กับ Warranty
BSI (เปลี่ยนของเหลวต่างๆ เช่น น้ำมันเครื่อง น้ำมันเกียร์) อันนี้มัน 5 ปี ไม่เกิน 100,000 กิโลเมตร ครับ
ส่วนอันที่ 5 ปี ไม่จำกัดระยะทางนั้น เป็นการ รับประกันตัวรถ (Warranty)
ถ้าใช้รถเยอะมาก ปีละ 6-7 หมื่น กม. ใช้ไป 1 ปีครึ่งก็หมด BSI แล้วครับ แต่ยังเหลือรับประกันตัวรถอยู่
ถ้าจะใช้ยาวๆต้องคำนวณดูว่าเรารับกับค่าบำรุงรักษาได้หรือไม่ เพราะต้องจ่ายเองแล้วครับ
..ถ้าขับรถแบบไม่มีวันหยุดเลย....วันละร่วม 200 กิโลเมตร...ท่าน จขกท..น่าจะชอบหรือมีธุรกิจหลายๆที่.. ;D ;D
-
ถ้าใช้รถเยอะขนาดนี้ผมว่ามันไม่คุ้มกับ BSI เลยวิ่ง 2ปี ก็หมด BSIละ แต่ประกันตัวรถยังมีอยู่
ถ้ามีงบถึง 528 ประมาณ 3.8 ผมเสนอแบบนี้ดีกว่าไหม
520d Elite 2.99 (น่าจะขอส่วนลดได้อีกนิดนึง 1-1.5 แสน)
งบอีก 9 แสนเอาไปซื้อ กระบะ 4 ประตู ไม่ก็พวก Crossover เอาไว้ใช้แทน series 5 ในกรณีที่ไม่มีความจำเป็นต้องขับ ประหยัด BSI ด้วย
ปล. แต่ถ้าคุณเจ้าของกระทู้ชอบความแรงจริงๆคงต้อง 528i อย่างเดียวแล้วละครับ
-
รถที่ซื้อปี 2016 BSI จะเป็น 5 ปี ไม่จำกัดระยะทาง CEO BMW THAILAND ได้กล่าวไว้ ตามนี้นะครับ
-
รถที่ซื้อปี 2016 BSI จะเป็น 5 ปี ไม่จำกัดระยะทาง CEO BMW THAILAND ได้กล่าวไว้ ตามนี้นะครับ
ส่วน WARRANTY 5)ปีตามเดิม
-
รถที่ซื้อปี 2016 BSI จะเป็น 5 ปี ไม่จำกัดระยะทาง CEO BMW THAILAND ได้กล่าวไว้ ตามนี้นะครับ
ส่วน WARRANTY 5)ปีตามเดิม
ใช่เหรอพี่ สับกันป่าว
-
เหมือนจะมีการสับสนระหว่าง BSI กับ Warranty
BSI (เปลี่ยนของเหลวต่างๆ เช่น น้ำมันเครื่อง น้ำมันเกียร์) อันนี้มัน 5 ปี ไม่เกิน 100,000 กิโลเมตร ครับ
ส่วนอันที่ 5 ปี ไม่จำกัดระยะทางนั้น เป็นการ รับประกันตัวรถ (Warranty)
ถ้าใช้รถเยอะมาก ปีละ 6-7 หมื่น กม. ใช้ไป 1 ปีครึ่งก็หมด BSI แล้วครับ แต่ยังเหลือรับประกันตัวรถอยู่
ถ้าจะใช้ยาวๆต้องคำนวณดูว่าเรารับกับค่าบำรุงรักษาได้หรือไม่ เพราะต้องจ่ายเองแล้วครับ
ชัดเจน...ตามนี้ครับ
ลองคิดดูครับ ถ้าไม่จำกัดระยะทางแบบเคส จขกท. นี้ BSI จุกแน่นอน
-
:-\ :-X
........ ตอบกันไปได้เรื่อยๆนะครับ
ข้าพเจ้าอ่านแล้วจากเดิมที่ไม่งง ---- >> จะกลายเป็นงงซะแทน
BSI จำกัดระยะทางที่ หนึ่งแสนกิโลเมตรครับ
ส่วนประกันของค่ายมิวนิคน่ะ สมัยก่อนๆ 2 ปีครับ ปัจจุบัน(เริ่มๆปลายปี 2015) ให้ 5 ปี
ส่วนประกันของค่ายสตุ๊ดการ์ด ให้ 3 ปีมานานแล้วครับ
(ใครรู้สมัย Benz 190E ตอบหน่อยครับ ว่า "ประกันสมัยนั้นกี่ปี" แบบว่าเกิดไม่ทันคร้าบบ))
-
รถที่ซื้อปี 2016 BSI จะเป็น 5 ปี ไม่จำกัดระยะทาง CEO BMW THAILAND ได้กล่าวไว้ ตามนี้นะครับ
ส่วน WARRANTY 5)ปีตามเดิม
ใช่เหรอพี่ สับกันป่าว
ผมคงฟังผิดหรือคนแปล ไม่เคลียร์ เลยโทรไปที่ bm th.แล้ว สรุปว่า bsi 5ปี 1 แสนโล warranty จาก 2 ปี 2แสนโล เพิ่มเป็น 5ปี ไม่จำกัดระยะทาง ตอนนี้คงตามนี้ไปก่อน รอเอกสารยืนยันจาก bm th.อีกครั้งครับ
ปล ในงานวันนั้นคนปรบมือกันลั่นเลย bsi 5ปีไม่จำกัดระยะทาง รอท่านอื่นมาช่วยให้ชัดเจนครับ
-
รถที่ซื้อปี 2016 BSI จะเป็น 5 ปี ไม่จำกัดระยะทาง CEO BMW THAILAND ได้กล่าวไว้ ตามนี้นะครับ
ส่วน WARRANTY 5)ปีตามเดิม
ใช่เหรอพี่ สับกันป่าว
นั่นสิครับ เดิมทีมัน BSI 5 ปี / 100,000 กิโลเมตร และ Warranty 2 ปี จำกิโลเมตรไม่ได้ แต่ต่อมาเค้าเปลี่ยนเป็น BSI ซื้อเพิ่มได้ 1 ปี / 20,000 กิโลเมตร ซึ่งออกมาก่อน แล้วตามด้วยเปลี่ยนเป็น Warranty 5 ปี ไม่จำกัดระยะทางไม่ใช่หรอครับ หรือผมจำผิด ?
-
ถ้า BSI 5ปี ไม่จำกัดระยะทาง มีเจอกันแน่นอน
หรือถ้ามีจริงราคาต้องขึ้นไปอีกแน่ ไม่มีอะไรฟรีหรอก
-
ใช้ไปปีกว่าๆ BSI หมดก็ไม่เป็นไรครับ
เข้าศูนย์ตามปกติ จ่ายแค่ค่าบำรุงรักษา
ส่วนที่เหลือมีประกัน 5 ปี คุ้มครองอยู่แล้ว สบายมากๆครับ
ถ้าใช้รถเยอะแนะนำเลยครับ
ไม่มียี่ห้อไหนให้ประกัน 5 ปีไม่จำกัดระยะทาง
BMW คุ้มสุดแล้วครับในกรณีที่ใช้รถเยอะมากๆแบบ จขกท
-
ใช้หนักมากเลยครับหารถแบ่งวิ่งไม๊แล้วแต่ชอบนะครับตอนนี้ราคาดีกำลังจะเปลี่ยนโฉม
-
เบนซ์ก้อ5 ปีไม่จำกัดระยะครับ
แต่เข้าศูนย์จ่ายนะ > <
ใช้5ปีแล้วขายกำลังสวยครับ เหลือเงินดาวน์คันถัดไป แหะๆ
-
ไอตรงวารันตีผมไม่ชัวร์รอท่านอื่นมาเสริม
แต่ใช้รถเยอะแบบนี้ดีเซลมันดีตรงที่ประหยัดน้ำมันกว่าพอสมควรเลยครับ
แต่ดีเซลเสียทีก็เอาเรื่องอยู่เหมือนกัน ต้องแลกเอาครับจะจ่ายทีเดียวหนักหรือทะยอยจ่ายเหมือนผ่อนส่ง(ฮาๆ เปรียบเปรยเฉยๆนะ)
เป็นผมเลือก528iนะ เพราะตอนนี้น้ำมันเบนซินถูกกว่าเยอะเลย กินส่วนต่างตรงประหยัดน้อยกว่าดีเซลตกแล้วก็พอๆกัน
-
ข้อมูลจริงคือ อันนี้ 100 % จากคนใช้ BMW F10 ถาม จนท. ฝ่ายบริการครับ
-BSI ยังเหมือนเดิม คือ 5 ปี 100000 กม แล้วแต่ว่า อันไหน ถึงก่อน ( เหมือนเดิม )
**** ที่เปลี่ยนแปลงใหม่คือ
- เมื่อก่อน Warranty BMW ให้ 2 ปี แต่ ปัจจุบัน ใครที่ซื้อรถ ตั้งแต่ปี 2016 จะได้ เป็น
Warranty 5 ปี ไม่จำกัด ระยะทาง
- ความหมายของ ความคุ้มครอง Warranty คือ Bmw จะเปลี่ยนอุปกรณ์ ที่เสีย ให้ทุกอย่าง ในกรณีที่เสียเกิดจาก ขบวนการผลิต
\
ที จขทก. ถามว่า ถ้าใช้ รถ ใน 5 ปี วิ่งไป 3xxxxx กม.
แล้ว เครื่องพัง + เกียร์พัง อันนี้โดยเกิดจากการใช้งานปกติ อันนี้ อยู่การรับประกันคร้บ จะได้รับการเปลี่ยนเครื่องใหม่+ เกียร์ใหม่ให้ครับ
( ที่อยู่ใน Warranty ตัวอย่างเช่น
- วิทยุ cd dvd
-ระบบ Idrive
- ระบบ ecu ระบบไฟฟ้าในรถ
- เครื่องยนต์ + เกียร์
- ถุงลมนิรภัย
- ชิ้นส่วนพลาสติก ภายในลอก ปุ่มกด ต่างๆ ในรถ เคลมได้ครับ
- ระบบ Comfort access
- กระจกไฟฟ้า
เท่าที่นึกออกตอนนี้ครับ
( ที่ไม่อยู่ใน Warranty คือ พวกอะไหล่ สิ้นเปลือง หรือ ที่ ต้องเปลี่ยนตาม การเช็คระยะ ครับ เหมือนรถทั่วไปครับ )
- ส่วน รถ BENZ ปัจจุบัน ให้ Warranty 3 ปี ไม่จำกัดระยะทางครับ
-
ถ้าชอบขับรถที่เครื่องตอบสนองดีๆ เร่งต่อเนื่องแนะนำ 528i คับ ผมขับชอบมาก แซงง่าย ลากได้นาน ขับในเมืองเครื่องไม่สั่น ไม่ดังน่ารำคาญ แรง ขับสนุกมาก
ถ้าดีเซล 525 ยังเป็น 6 สูบเชียร์ตัวนี้แบบไม่คิดเลยคับ แต่มันไม่มีแล้ว 525d เหลือแต่ 4 สูบ
ซึ่งผมใช้ 520d อยู่ ข้อเสียเลยคือ ติดไฟแดงมันสั่นแต่ถามว่าไม่น่าเกลียด แต่ผมใช้เบนซิน6สูบมาตลอด พอเจอดีเซลเลยออกอาการหนักกว่าชาวบ้าน -*- เสียงตอนเดินเบา ผมชินกับเบนซิน6สูบมาตลอด ผมพอรับได้นะคับ ดังแต่ไม่ถึงขนาดกระบะเงียบกว่าพอสมควร มีวัสดุใยแก้วหุ้มเครื่องแทบทั้งตัว เสียงลอดออกมาน้อยมาก
ข้อ2 ตอนบูสท์เทอร์โบไม่มา ไม่มีแรงเลย!!!!!!!!! ค่อนข้างรำคาญมากๆ จะแซงช่องแคบๆกลายเป็นไม่กล้าแซง เพราะต้องรอบูสท์มากว่าจะมาก็ไม่ทันช่องนั้นซะแล้ว คือจับจังหวะยาก ขับอยู่6เดือนยังไม่ชินเลยคับ พอกดลึกๆมันพุ่งเป็นจรวดเลยยิ่งคันผมทำกล่องมาด้วย กดทีหน้าหงายตลอด แรงบิดสะใจจริงๆ แต่แปปๆหมดเปลี่ยนเกียร์ๆๆ ซึ่ง 1 2 3 4 5 เปลี่ยนไวมากกกก เกียร์ทำงานดีมาก เปลี่ยนไวตอบสนองดี แต่วิ่งทางยาวผมชอบมาก อัตราเร่งมาตลอด แซง ซิ่งมันมาก เพราะวิ่งในเมืองรอบมันไม่อยู่ในช่วงบูสท์
นอกนั้นถือว่าสอบผ่านคับ ระบบเลี้ยว4ล้อ ในบางรุ่น ผมชอบมากเข้าออกซอยแคบๆง่ายขึ้นเห็น หมุนพวงมาลัยไม่ต้องเยอะ ออกพ้นสบายๆ
ส่วน BSI คุ้มไม่คุ้ม มีไว้ยังดีกว่าคับ 5ปีหมด warranty มีเกินแสนกิโลจ่ายค่าเช็คระยะเองก็จริง แต่ถ้าเกียร์พังขึ้นมา warranty ยังช่วยได้อยู่คับ
-
525d VS 528i
http://community.headlightmag.com/index.php?topic=47250.0
-
ผมว่าถ้าขับเยอะๆ ดีเซลประหยัดน้ำมันกว่าเยอะนะครับ
ถึงขับน้อย ดีเซลก็ยังประหยัดกว่าเยอะอยู่ดี เพราะตัวเลข
ที่ บ.ให้มามันไม่จริง
เทียบๆ กัน
ผมใช้รถน้อย ขับในเมืองหาดใหญ่ส่วนมากช่วงรถติด
528i เติมน้ำมันเดือนละสองครั้ง ถ้า 520D เติมเดือนละครั้งเองครับ
นอกจากนี้ผมว่า เบนซิล มันนิ่งและเงียบกว่า รื่นกว่า เท่านั้นครับ