Headlight Magazine : community

General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: ซิ่งเข้าส้วม ที่ กรกฎาคม 20, 2016, 08:44:24

หัวข้อ: EV ในไทยใกล้เป็นจริงแล้วครับ
เริ่มหัวข้อโดย: ซิ่งเข้าส้วม ที่ กรกฎาคม 20, 2016, 08:44:24
http://m.posttoday.com/auto/news/443659

กระทรวงพลังงานเตรียมผุดแท่นชาร์จ 690 แห่งทั่วประเทศ เสร็จภายในแค่ 20 ปีเท่านั้น ไม่ได้ 50-100 ปีอย่างที่ใครๆ เข้าใจกัน ใครที่มีแผนจะซื้อรถไฟฟ้าก็เก็บตังรอได้เลยครับ
หัวข้อ: Re: EV ในไทยใกล้เป็นจริงแล้วครับ
เริ่มหัวข้อโดย: sukhontha ที่ กรกฎาคม 20, 2016, 08:54:05
สำหรับผม  รอแบตฯ ถูกลง  ชาร์ตเร็วขึ้น  วิ่งได้ยาวนานขึ้น  3 อย่าง นี้มาครบก่อนถึงจะคิดครับ
หัวข้อ: Re: EV ในไทยใกล้เป็นจริงแล้วครับ
เริ่มหัวข้อโดย: ซิ่งเข้าส้วม ที่ กรกฎาคม 20, 2016, 09:36:53
จำนวนแท่นชาร์จ นะไม่เท่าไรครับ ที่ปัญหาคือระยะเวลาในการชาร์จ มันต้องใช้เวลาพอสมควร

ไหนราคาของรถไฟฟ้าอีกละครับ ความเชื่อมั่นในรถประเภทนี้ไม่ค่อยดีในสายตาคนไทย แค่ทุกวันนี้ รถ Hybrid ก็บ่นกันยาวแล้วครบ

สมมุติ ตั้งราคารถจริงๆ 8-9 แสนบาท จะมีใครกี่คนที่อยากจะเสี่ยงซื้อละครับ ขับระยะทางไกลออกต่างจังหวัด ก็มีข้อจำกัด 250-300 กม. ก็หมดไฟแล้ว

สุดท้ายก็มาลง น้ำมันแบบเดิม เติมเต็มถัง ใช้เวลาไม่กี่นาที รถไฟฟ้าแบบนี้เหมาะสำหรับในเมืองมากกว่าครับ ระยะทางใกล้ๆ

แต่ก็ต้องระวังน้ำท่วม ท่วมทั้งรถ ท่วมทั้งแท่นชาร์จ เพราะรถประเภทนี้ แบต มันอยู่ที่พื้นรถเลย ห่างจากพื้นถนนไปไม่กี่นิ้ว ขับลุยน้ำบ่อยๆ ได้มีงานเข้า

รถไฟฟ้าระดับ hi end อย่าง Tesla ออปชั่นจัดเต็ม ราคาคงหลายล้านครับ คงต้องมองๆ รถไฟฟ้าจากประเทศจีนครับ ราคาไม่กี่แสนบาท ถึงล้านต้นๆ

ถ้ารถแบบ Plug-In Hybrid ยังมีหลายๆยี่ห้อที่ขายอยู่ตอนนี้ แต่ราคาก็ ไกลเกินมนุษย์เงินเดือนทั่วๆไปจะสู้ไหว อยากได้ต้องกัดฟันหน่อย

20 ปีนี่มันนานมากเลยนะครับ คิดว่ากว่าจะถึงตอนนั้นแบ็ตวิ่งได้เป็นพันกม. แล้วครับ
หัวข้อ: Re: EV ในไทยใกล้เป็นจริงแล้วครับ
เริ่มหัวข้อโดย: ismael ที่ กรกฎาคม 20, 2016, 10:04:45
sale dream
หัวข้อ: Re: EV ในไทยใกล้เป็นจริงแล้วครับ
เริ่มหัวข้อโดย: rojsak2021 ที่ กรกฎาคม 20, 2016, 10:34:32
นานจัง
หัวข้อ: Re: EV ในไทยใกล้เป็นจริงแล้วครับ
เริ่มหัวข้อโดย: ps000000 ที่ กรกฎาคม 20, 2016, 10:45:32
ถ้า วิ่งได้ไม่กี่ร้อยโล แล้ว ชาร์จที 6-7 ชั่วโมง ผมคงไม่เอาด้วย :'(
หัวข้อ: Re: EV ในไทยใกล้เป็นจริงแล้วครับ
เริ่มหัวข้อโดย: ceberos ที่ กรกฎาคม 20, 2016, 11:16:02
เดี๋ยวมันต้องมี Technologyแบบ Quick Charge ของAndroidแน่นอนครับ

ทุกวันนี้โลกเรามันก้าวกระโดดไวมากจนญี่ปุ่นไม่ใช่ยักษ์ใหญ่ของนวัตกรรมใหม่ ๆ ในโลกแล้ว

ขอภาวนาให้สินค้าประเทศจีนตั้งตัวแบบพรีเมี่ยมแบบมือถือครับ สมัยนี้ข้อมูลมีให้เสพมากมายและคนรีวิวอีกนับไม่ถ้วน

เราอาจจะได้ใช้ของถูกและดี มีในโลกก็ได้ครับ
หัวข้อ: Re: EV ในไทยใกล้เป็นจริงแล้วครับ
เริ่มหัวข้อโดย: YZA ที่ กรกฎาคม 20, 2016, 11:21:48
อีก 20 ปี :o
คงใช้รถแบบเติมน้ำมันไปอีก 2-3 คันได้
หัวข้อ: Re: EV ในไทยใกล้เป็นจริงแล้วครับ
เริ่มหัวข้อโดย: CookiE ที่ กรกฎาคม 20, 2016, 11:22:40
เทคโนโลยีไปไกลและไปเร็วมากครับ

ยิ่งเทคโนโลยีก้าวหน้า เทคโนโลยีใหม่ๆ ก็จะยิ่งเติบโตแบบก้าวกระโดด

กว่ากระทรวงพลังงานจะติดตั้ง 690 จุดในอีก 20 ปี เผลอๆ ต้องมาไล่เปลี่ยนแท่นเติมเพราะเทคโนโลยีมันเปลี่ยนอีก

ถ้ารถไฟฟ้าคุณภาพใกล้เคียงเทสล่า รูปทรงสวยแบบนั้น ราคาไม่แพงไปกว่าพวกรถยุโรปปัจจุบันตัวธรรมดาสัก 3 ล้าน

ผมเชื่อว่าคนซื้อเยอะแหละครับ
หัวข้อ: Re: EV ในไทยใกล้เป็นจริงแล้วครับ
เริ่มหัวข้อโดย: kiwiwi ที่ กรกฎาคม 20, 2016, 11:30:05
จำนวนแท่นชาร์จ นะไม่เท่าไรครับ ที่ปัญหาคือระยะเวลาในการชาร์จ มันต้องใช้เวลาพอสมควร

ไหนราคาของรถไฟฟ้าอีกละครับ ความเชื่อมั่นในรถประเภทนี้ไม่ค่อยดีในสายตาคนไทย แค่ทุกวันนี้ รถ Hybrid ก็บ่นกันยาวแล้วครบ

สมมุติ ตั้งราคารถจริงๆ 8-9 แสนบาท จะมีใครกี่คนที่อยากจะเสี่ยงซื้อละครับ ขับระยะทางไกลออกต่างจังหวัด ก็มีข้อจำกัด 250-300 กม. ก็หมดไฟแล้ว

สุดท้ายก็มาลง น้ำมันแบบเดิม เติมเต็มถัง ใช้เวลาไม่กี่นาที รถไฟฟ้าแบบนี้เหมาะสำหรับในเมืองมากกว่าครับ ระยะทางใกล้ๆ

แต่ก็ต้องระวังน้ำท่วม ท่วมทั้งรถ ท่วมทั้งแท่นชาร์จ เพราะรถประเภทนี้ แบต มันอยู่ที่พื้นรถเลย ห่างจากพื้นถนนไปไม่กี่นิ้ว ขับลุยน้ำบ่อยๆ ได้มีงานเข้า

รถไฟฟ้าระดับ hi end อย่าง Tesla ออปชั่นจัดเต็ม ราคาคงหลายล้านครับ คงต้องมองๆ รถไฟฟ้าจากประเทศจีนครับ ราคาไม่กี่แสนบาท ถึงล้านต้นๆ

ถ้ารถแบบ Plug-In Hybrid ยังมีหลายๆยี่ห้อที่ขายอยู่ตอนนี้ แต่ราคาก็ ไกลเกินมนุษย์เงินเดือนทั่วๆไปจะสู้ไหว อยากได้ต้องกัดฟันหน่อย

20 ปีนี่มันนานมากเลยนะครับ คิดว่ากว่าจะถึงตอนนั้นแบ็ตวิ่งได้เป็นพันกม. แล้วครับ

ใช่ครับถึงเวลานั้นมันอาจวิ่งได้จริง แต่อย่าลืมว่า ยิ่งขนาดแบตใหญ่ขึ้น ก็ต้องใช้เวลาในการชาร์จนานมากขึ้นเช่นกัน

ปัญหามันอยู่ตรง เทคโนโลยีในการชาร์จไฟเข้าไปยัง ตันๆอยู่ครับ ตอนนี้ 4-6 ชั่วโมงกว่าจะเต็ม มันไม่สามารถทำให้เร็วไปมากกว่านี้แล้ว

ถ้าวิ่งได้เป็น 300-400 กม. แต่ใช้เวลาชาร์จไฟจนเต็ม ใช้เวลา 5-10 นาที แบบนี้ยังดีกว่าครับ

ทางแก้มันอยู่ที่การเปลี่ยนแบตครับ เมื่อขับมาจนแบตใกล้หมด ก็เข้าสถานนีชาร์จ เพื่อทำการเปลี่ยนแบตก้อนใหม่ที่ชาร์จเต็มแล้ว เข้าไปแทนลูกเดิม

ส่วนแบตที่ใกล้หมด ก็นำไปชาร์จต่อจนเต็ม เพื่อเปลี่ยนใส่รถคนอื่นต่อ หมุนวนแบบนี้ มันจะง่ายกว่าและประหยัดเวลาลงไปได้เยอะ

ซึ่งแนวทางในการเปลี่ยนแบตได้อย่างรวดเร็ว ง่ายๆแบบเปลี่ยนถ่านรีโมททีวี เชื่อว่าหลายๆบริษัทก็คงกำลังหาวิธีกันอยู่

ต้องมีแบต 3:1 หรือ 4:1
ยังไม่อยากคิดถึงมลพิษที่จะเกิดขึ้นกับแบตเตอรี่เลย

ผมเกิดและโตมาในวงการแบตเตอรี่ ทุกวันนี้ผมเปลี่ยนจากวิจัยแบตตะกั่วมาเป็นลิโพ

ลิเทียมอันตรายมากครับ คนเก็บขยะแถวที่ทำงานผมเสียชีวิตทันที ที่ขโมยแบตจากสถานที่ของผมไปแกะเล่น...

ผมยังมองไม่ค่อยเห็นความจริงที่รถไฟฟ้าจะมาใช้ในระดับแมสโปรดักส์ได้เลย
หัวข้อ: Re: EV ในไทยใกล้เป็นจริงแล้วครับ
เริ่มหัวข้อโดย: MUK ที่ กรกฎาคม 20, 2016, 12:54:29
แผนยาวเกิน ผมว่า 20 ปี ต้องมีอะไรเปลี่ยนมากกว่านี้แน่ๆ
แบตมือถือยังมีแบบชาร์เร็ว  20 ปีนานเกิน ไม่รู้ว่าจะเกิดอะไร
หัวข้อ: Re: EV ในไทยใกล้เป็นจริงแล้วครับ
เริ่มหัวข้อโดย: lacked ที่ กรกฎาคม 20, 2016, 13:11:07
ปตท ทำสถานีเปลี่ยนแบต รับเปลี่ยนเฉพาะแบตที่เป็นของ ปตท เท่านั้น
ผู้ใช้ไม่ต้องรับภาระการดูแลรักษาแบต หนุนโดยรัฐบาล เริ่มที่ taxi กับรถโดยสารขนาดใหญ่ ใช้เวลาเปลี่ยนแบตซักสองนาที
ผมว่าน่าสนใจว่าเติมแก๊สนะ รถทั่วไปก็คุยกับค่ายรถเพื่อหามาตรฐานของก้อนแบตสำหรับใช้ร่วมกันทุกค่ายรถ

ค่าดูแลรักษารถคงน้อยกว่ามากเพราะชิ้นส่วน หรือของเหลวหลายอย่างหายไป

เรื่องไฟฟ้าไม่พออย่าพึ่งห่วงเลยครับ เรากำหนดเองได้ แต่น้ำมันนี่เรากำหนดเองไม่ได้ครับ สุดท้ายเรื่องไฟฟ้าไม่พอยังไงก็มีทางออก
หัวข้อ: Re: EV ในไทยใกล้เป็นจริงแล้วครับ
เริ่มหัวข้อโดย: ming1973 ที่ กรกฎาคม 20, 2016, 15:16:20
ปตท ทำสถานีเปลี่ยนแบต รับเปลี่ยนเฉพาะแบตที่เป็นของ ปตท เท่านั้น
ผู้ใช้ไม่ต้องรับภาระการดูแลรักษาแบต หนุนโดยรัฐบาล เริ่มที่ taxi กับรถโดยสารขนาดใหญ่ ใช้เวลาเปลี่ยนแบตซักสองนาที
ผมว่าน่าสนใจว่าเติมแก๊สนะ รถทั่วไปก็คุยกับค่ายรถเพื่อหามาตรฐานของก้อนแบตสำหรับใช้ร่วมกันทุกค่ายรถ

ค่าดูแลรักษารถคงน้อยกว่ามากเพราะชิ้นส่วน หรือของเหลวหลายอย่างหายไป

เรื่องไฟฟ้าไม่พออย่าพึ่งห่วงเลยครับ เรากำหนดเองได้ แต่น้ำมันนี่เรากำหนดเองไม่ได้ครับ สุดท้ายเรื่องไฟฟ้าไม่พอยังไงก็มีทางออก

+1 ;D ;D ;D ;D <ไม่ต้องพิมพ์ ผมสาย+++>
หัวข้อ: Re: EV ในไทยใกล้เป็นจริงแล้วครับ
เริ่มหัวข้อโดย: fuhrer ที่ กรกฎาคม 20, 2016, 16:42:29
ทำไมถึงคิดกันแต่ว่าจะต้องใช้แบตแค่ก้อนเดียวล่ะคับ ว่าจะต้องใช้ได้แค่นี้แล้วต้องรอชาจ
ดูอย่างเครื่องใช้ไฟฟ้าอื่นๆหรือพวกรถเครื่องบินบังคับ ถ้าแบตหมดก้เอาแบตสำรองอีกก้อนพกไปเปลี่ยนแล้วใช้ต่อได้ รถวันนี้แบตยังก้อนใหญ่อยู่แต่ไม่แน่เทคโนโลยีวันข้างหน้าอาจทำออกมาให้เล็กลง หรือใช้แบตติดรถเป็นแบบก้อนใหญ่พกพาไม่ได้ สมมติว่าแบตติดรถวิ่งได้400โล
อาจจะทำแบตเสริมเท่ากับแบตรถมอไซหรือใหญ่กว่าอีกหน่อยที่เราชาจมาจากบ้านไว้เลยติดรถมา
สามารถไปต่อได้อีก150-200โลสำหรับแบตสำรองก้อนเล็กไม่ใช่แบตติดรถ
คูณเข้าไปก้วิ่งได้อีกเป้น550-600โลและถ้าใครวิ่งยาวๆกว่านั้นก้เพิ่มแบตสำรองติดท้ายรถเข้าไปเพิ่มอีก
เท่านี้ก้ไม่ต้องมานั่งห่วงเรื่องชาจเร็วอีกแล้วถ้ากลัวเรื่องแตติดรถ(ก้อนใหญ่)เสื่อม
ผมว่าวันนึงผู้ผลิตรถก้ตัองคิดเรื่องนี้ไม่แน่ ใน10ปีนี้น่าจะเป็นรูปธรรมเอามากๆแล้ว
ส่วนเรื่องโรงงานไฟฟ้าก้ไม่ต้องไปง้อรัฐถ้าทำโรงงานผลิตไม่ได้แล้วมาขึ้นราคาลงทุนทำสถานีเองที่บ้านไปเลย
ติดตั้งโซล่าเซลชาจแสงอาทิตย์ปั่นไฟมาลาจรถที่บ้านโดยเฉพาะ ระยะยาวยังไงนับกันแค่เรื่องใช้พลังงานไม่นับเรื่องค่าซ่อมบำรุงยังไงก้ถูกกว่าน้ำมันแน่นอน
รถน้ำมันวันข้างหน้าที่จะเหลือวิ่งตามต่างจังหวัดพวกรถกระบะ หรือ4x4ที่ต้องใช้พละกำลังจากเครื่องยนต์
แต่ก้น่าจะ10ปีขึ้นไป ถึงจะทำให้รถน้ำมันย์เกือบสูญพันธ์ ในวันนั้นระบบไฟฟ้าอาจให้กำลังที่เทียบกับไฟฟ้าได้ แล้วชาจแค่1ครั้งวิ่งได้800-1000โล
หัวข้อ: Re: EV ในไทยใกล้เป็นจริงแล้วครับ
เริ่มหัวข้อโดย: Smith686 ที่ กรกฎาคม 20, 2016, 21:59:58
ถ้า วิ่งได้ไม่กี่ร้อยโล แล้ว ชาร์จที 6-7 ชั่วโมง ผมคงไม่เอาด้วย :'(
  แค่ 40 นาทีครับ
หัวข้อ: Re: EV ในไทยใกล้เป็นจริงแล้วครับ
เริ่มหัวข้อโดย: mamaman ที่ กรกฎาคม 21, 2016, 09:30:43

ไฟฟ้า กำหนดเองได้ เพราะไม่ได้ ขายหุ้น
แต่พอใช้เยอะ ๆ ต้องหาแหล่งพลังงานเสริม บ้านเรา มีเหลือนะ ถ้ารัฐเอาจริง

แต่ผมขอ รถไฟฟ้า รางคู่ เชื่อมต่อกับรถเมล์ รถไฟฟ้า พร้อมที่จอดรถ ได้ไหม
หัวข้อ: Re: EV ในไทยใกล้เป็นจริงแล้วครับ
เริ่มหัวข้อโดย: jaesz ที่ กรกฎาคม 21, 2016, 10:12:52
น่าจะทำได้นะครับ  สำหรับคนเดินทางทุกวันระยะสั้น จอดยาว เช่นพนักงานบริษัท ถึงที่ทำงานจอดแปดชั่วโมงก็ชาร์จไฟรอ เย็นขับกลับบ้านก็ชาร์จไฟจ้ามคืนได้อีก

กลุ่มนี้กลุ่มเดียวต้องมีเกินล้านคนแล้ว

เอารถขนาดJazz Vios March มาทำไฟฟ้า สบายๆครับ

ปีนึงยอดขายห้าหกพันคันอยู่ได้แล้ว
หัวข้อ: Re: EV ในไทยใกล้เป็นจริงแล้วครับ
เริ่มหัวข้อโดย: h22a ที่ กรกฎาคม 21, 2016, 10:14:56
ได้ยินมาว่าเมืองนอก Swap แบตที่ปั้มนี่ครับ เหมือนเปลี่ยนถังแก๊สในครัว  ;)
ถ้าทุกยี่ห้อใช้แบตสหกรณ์ คือขนาดเท่ากัน และสเป็คเดียวกัน น่าจะทำการswapได้
หัวข้อ: Re: EV ในไทยใกล้เป็นจริงแล้วครับ
เริ่มหัวข้อโดย: SLuang ที่ กรกฎาคม 21, 2016, 10:36:16
เทคโนโยลี ไม่ต้อง 20 ปีข้างหน้า  แค่ ณ เวลานี้ ก็เหมาะสมอย่างยิ่งแล้ว สำหรับรถในเมือง และรถวิ่งไปทำงาน ไปกลับ ไม่เกิน 150  กม
เป็นผมถ้าราคาเอื้อมได้ คว้ามานานแล้ว   เพราะการใช้รถของผม อยู่ในเงื่อนไขนี้ 95%  อีก 5% คงไม่เป็นปัญหาสำหรับผม
หัวข้อ: Re: EV ในไทยใกล้เป็นจริงแล้วครับ
เริ่มหัวข้อโดย: SM. ที่ กรกฎาคม 21, 2016, 11:00:32
รอดูกันต่อไป
หัวข้อ: Re: EV ในไทยใกล้เป็นจริงแล้วครับ
เริ่มหัวข้อโดย: Smith686 ที่ กรกฎาคม 21, 2016, 11:24:03
ช่วงนี้ข่าวความเคลื่อนไหวของรถยนต์นั่งขับเคลื่อนด้วยพลังไฟฟ้า 100% โดย "บ.เทสลา ออร์โตทีฟ" สหรัฐ อเมริกา จะเข้าทำตลาดในไทยกำลังฮือฮาจนดูเหมือนว่าโอกาสที่เราจะได้เห็นรถยนต์ที่ไม่ใช้น้ำมันในบ้านเราในอีกไม่ช้าไม่นาน



แต่เชื่อเถอะเส้นทางของรถยนต์นั่งไฟฟ้าไม่ได้เพริศแพร้วศิวิไลซ์อย่างที่คิดแน่ๆ ยังต้องเจอวิบากกรรมอีกมากมายหลายรูปแบบ ดูอย่างกรณี "รถไฟฟ้า" นับจากวันที่เรามีการเปิดประมูลครั้งแรกจนถึงวันที่ได้ใช้จริงใช้เวลารอคอยนานถึง 2 ทศวรรษ



จำได้ว่าเราเริ่มโครงการรถไฟฟ้าก่อนมาเลย์ด้วยซ้ำ แต่เราได้ใช้ทีหลังหลายปี



วิบากกรรมด่านแรกที่ "เทสลา" จะต้องเจอนั่นคือแรงต้านจากผู้ผลิตรถยนต์นั่งยักษ์ใหญ่ในประเทศเจ้าเดิมๆ ที่ผลิตรถใช้น้ำมันซึ่งมี "ฐานการผลิตใหญ่" ในไทย ทั้งจากค่ายญี่ปุ่น ยุโรป สหรัฐ ที่เคยโปรโมตเป็น "ดีทรอยต์เอเชีย" ย่อมเสียประโยชน์แน่ๆ



เฉพาะอย่างยิ่งรัฐบาลส่งเสริมโครงการผลิตรถรุ่นประหยัดน้ำมัน "อีโคคาร์" เชิญชวนให้บริษัทรถยนต์ในประเทศร่วมผลิต โดยมีการทำเอ็มโอยูร่วมกันจะต้องมีนโยบายปกป้องไม่ให้ได้รับผลกระทบ มิเช่นนั้นจะไม่มีใครเชื่อถือรัฐบาลอีกต่อไป



จึงเป็นไปไม่ได้ที่รถยนต์ไฟฟ้าจะเข้ามาแย่งส่วนแบ่งตลาดจากเจ้าเก่าได้ง่ายๆ



คนในวงการรถยนต์เล่าให้ฟังว่า ในช่วงที่รัฐบาลสมัยนั้นต้องการส่งเสริมให้ผลิตรถยนต์นั่งรุ่นประหยัดน้ำมันบริษัทรถยนต์เสนอโมเดล "รถอีโคคาร์" กับ "รถยนต์ไฟฟ้า" ในที่สุดรัฐบาลยุคนั้น ตัดสินใจให้การส่งเสริมการลงทุนกับโครงการอีโคคาร์แทน



ฉะนั้นถ้าหากรัฐบาลปล่อยให้รถยนต์นั่งขับเคลื่อนด้วยพลังไฟฟ้าเข้ามาง่ายๆ ก็จะกระทบกับผู้ผลิตรถยนต์ยักษ์ใหญ่ที่ฝังรากลึกมานานนั้น คงไม่ใช่เรื่องง่ายๆ



เหนือสิ่งใดหาก "เทสลา" นำเข้ารถยนต์นั่งขับเคลื่อนด้วยพลังไฟฟ้าจริงๆ ยังต้องฝ่าด่านผู้ผลิตชิ้นส่วนที่เป็น "ซับพลายเออร์" ป้อนให้กับบริษัทรถยนต์เหล่านี้กว่า 1 พันบริษัท ที่มีคนงานกว่า 6-7 แสนคน



กลุ่มผู้ผลิตชิ้นส่วนคงคัดค้านเต็มที่ เพราะรถยนต์นั่งไฟฟ้าใช้ชิ้นส่วนน้อยมากๆ แม้จะไม่กระทบในทันทีก็ตาม แต่จะเป็นข้ออ้าง      http://www.khaosod.co.th/view_newsonline.php?newsid=1469015448 (http://www.khaosod.co.th/view_newsonline.php?newsid=1469015448)
หัวข้อ: Re: EV ในไทยใกล้เป็นจริงแล้วครับ
เริ่มหัวข้อโดย: rapee001 ที่ กรกฎาคม 21, 2016, 11:56:03
เรื่องเวลาชาร์จไม่น่าใช่ปัญหาเพราะตอนนี้มีเทคโนโลยี quick charge แล้ว (tesla supercharge สามารถชาร์จแบต 80% ได้ใน 5 นาที)

ส่วนเรื่องระยะเวลา ผมว่าใน 10 ปีต้องมีรถไฟฟ้าวิ่งแล้ว แต่คงกระจุกตามหัวเมืองต่างๆเท่านั้นล่ะ
หัวข้อ: Re: EV ในไทยใกล้เป็นจริงแล้วครับ
เริ่มหัวข้อโดย: mamaman ที่ กรกฎาคม 21, 2016, 12:02:37
เรื่องเวลาชาร์จไม่น่าใช่ปัญหาเพราะตอนนี้มีเทคโนโลยี quick charge แล้ว (tesla supercharge สามารถชาร์จแบต 80% ได้ใน 5 นาที)

ส่วนเรื่องระยะเวลา ผมว่าใน 10 ปีต้องมีรถไฟฟ้าวิ่งแล้ว แต่คงกระจุกตามหัวเมืองต่างๆเท่านั้นล่ะ

ไม่ต้องไฟฟ้าก็ได้ เอา ปลั๊กอิน ไฮบริตก็ยังดี
หัวข้อ: Re: EV ในไทยใกล้เป็นจริงแล้วครับ
เริ่มหัวข้อโดย: Ball and The HellCat ที่ กรกฎาคม 21, 2016, 15:41:41
ฝ่าด่านพวกมีผลประโยชน์ใน ปตท ให้ได้ก่อน แล้วค่อยมาว่ากัน
ในอนาคตการไฟฟ้าอาจใหญ่กว่า ปตทก็ได้นะ 555
หัวข้อ: Re: EV ในไทยใกล้เป็นจริงแล้วครับ
เริ่มหัวข้อโดย: Smith686 ที่ กรกฎาคม 21, 2016, 21:38:16
ค่ายชิ้นส่วนยานยนต์ค้านแหลกรถยนต์ไฟฟ้าทุบระบบซัพพลายเชนล่ม หวั่นแรงงาน 6 แสนคนกระทบ ระบุใช้ชิ้นส่วนน้อยกว่าเครื่องยนต์หลายพันเท่า ยื่นหนังสือ สศอ.ขอทบทวน ย้ำควรมีโรดแมปชัดเจน ด้านพลังงานเตือนไฟฟ้าขาด ปตท.รับลูกเร่งขยายสถานีชาร์จ
 ผลกระทบจากการที่คณะรัฐมนตรีเห็นชอบสนับสนุนการผลิตยานยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าในประเทศไทย โดยอยากเห็นโครงการดังกล่าวเป็นรูปธรรมชัดเจนภายในปี 2560 และให้กระทรวงอุตสาหกรรมร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการ เพื่อให้สามารถนำรถยนต์ ขับเคลื่อนด้วยพลังไฟฟ้ามาใช้งานจริงภายใน เดือนพฤศจิกายน 2559 โดยช่วงเวลาที่ผ่านมามีบริษัทยักษ์ใหญ่จากหลายประเทศเข้า หารือและพร้อมดำเนินการอย่างจริงจัง เกี่ยวกับเรื่องนี้ปรากฏว่ามีการวิพากษ์วิจารณ์ในวงกว้าง โดยเฉพาะผลกระทบที่จะตามมาจากการเปลี่ยนผ่านจากเครื่องยนต์สันดาปภายในมาเป็นมอเตอร์ไฟฟ้า
 ชิ้นส่วนหวั่นซัพพลายเชนล่ม
 นางอัชณา ลิมป์ไพฑูรย์ นายกสมาคมผู้ผลิต ชิ้นส่วนยานยนต์ไทย เปิดเผยว่า สมาคมผู้ผลิตชิ้นส่วนได้ถึงทำหนังสือถึงสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม กระทรวงการคลัง เพื่อให้ทบทวนเกี่ยวกับเรื่องนี้ โดยพยายามสะท้อนถึงผลกระทบที่ตามมา ซึ่งจริง ๆ ทางสมาคมเข้าใจถึงการเปลี่ยนแปลงซึ่งถือเป็นเทรนด์ใหม่ที่ต้องเกิด แต่อยากให้รัฐบาลมีแผนงานหรือโรดแมปที่ชัดเจน
 สำหรับผลกระทบที่กลุ่มนำเสนอคือ ระบบซัพพลายเชนและการจ้างงาน จากเดิมที่รถยนต์ใช้เครื่องยนต์สันดาปภายในการขับเคลื่อนซึ่งมีชิ้นส่วนที่นำมาผลิต ตัวอย่างแค่ระบบการขับเคลื่อนซึ่งมีมากกว่า 2,000 ชิ้น ในจำนวนนี้มีผู้ประกอบการ ที่เกี่ยวข้องมากกว่า 2,500 ราย และมีการจ้างงานในอุตสาหกรรมชิ้นส่วนมากกว่า 600,000 คน ตรงนี้จะได้รับผลกระทบแน่นอน เพราะเมื่อเปลี่ยนมาใช้มอเตอร์ไฟฟ้าขับเคลื่อนจะใช้ชิ้นส่วนเพียงไม่กี่ชิ้น เท่านั้น อาทิ ระบบทำความเย็น (Inverter) ระบบมอเตอร์ขับเคลื่อน (Motor) ระบบชาร์จไฟ (Charger) และแบตเตอรี่ (Lithium-ion Batteries) เท่านั้น และอาจจะก่อให้เกิดความเสียหายต่อมูลค่าการส่งออกและนำเข้าชิ้นส่วนยานยนต์ เนื่องจากประเทศไทยอาจจะต้องนำเข้าชิ้นส่วนยานยนต์เพื่อนำมาผลิตรถไฟฟ้า ทดแทนการผลิตเพื่อ ใช้งานในประเทศและส่งออกด้วย
 ปัจจุบันประเทศไทยมีมูลค่าการส่งออก ชิ้นส่วนยานยนต์กว่า 570,000 ล้านบาท ขณะที่มีมูลค่าการนำเข้าชิ้นส่วนอยู่ ที่ 480,000 ล้านบาท และยังคงมีแนวโน้มการนำเข้าเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งหากรัฐบาลสนับสนุนให้เกิดการใช้ยานยนต์ไฟฟ้าอย่างไม่เป็นระบบหรือมีแผนงาน ที่ไม่ชัดเจนย่อมส่งผลกระทบแน่นอน ดังนั้น รัฐบาลควรพิจารณาแบบค่อยเป็นค่อยไป หรือเป็นไปตามกลไกของเทคโนโลยี อุปสงค์อุปทานของการตลาดที่แท้จริง
 นอกจากนี้ในแง่ของการส่งเสริมการลงทุน ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมารัฐบาลส่งเสริมการลงทุนสำหรับการผลิตรถปิกอัพและอีโคคาร์ ซึ่งถือเป็นตลาดหลัก โดยเฉพาะอีโคคาร์ยังเดินมาไม่ถึงครึ่งทาง หากรัฐบาลสนับสนุนรถไฟฟ้าให้เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วและไม่มีโรดแมปให้ผู้ประกอบการได้เตรียมตัว เชื่อว่าน่าจะกระทบต่อความเชื่อมั่นและความมั่นใจต่อการลงทุนของประเทศไทยอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
 นอกจากนี้ระบบอำนวยความสะดวก สถานีชาร์จไฟ ระบบมาตรฐานการรองรับยานยนต์ไฟฟ้าของประเทศไทยก็ยังไม่มีความชัดเจนตามมาตรฐานสากลเช่นในอเมริกาหรือในญี่ปุ่น รวมทั้งควรต้องคำนึงถึงนโยบายด้านพลังงานของประเทศ โดยเฉพาะไฟฟ้าเพียงพอหรือไม่ และก่อนหน้านี้รัฐบาลก็รณรงค์ให้เกษตรกรปลูกพืชเศรษฐกิจที่นำมาแปรรูปเป็นพลังงานทดแทน
“เรายังเตรียมจะยื่นหนังสือขอความเห็นใจจากนายกรัฐมนตรีในเร็ว ๆ นี้อีกด้วย”
http://www.industrialnew.com/%E0%B8%84%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B9%81%E0%B8%9C%E0%B8%99%E0%B8%A3%E0%B8%B1%E0%B8%90%E0%B8%AB%E0%B8%99%E0%B8%B8%E0%B8%99%E0%B8%9C%E0%B8%A5%E0%B8%B4%E0%B8%95%E0%B8%A3%E0%B8%96%E0%B8%A2%E0%B8%99%E0%B8%95%E0%B9%8C%E0%B9%84%E0%B8%9F%E0%B8%9F%E0%B9%89%E0%B8%B2-%E0%B8%97%E0%B8%B8%E0%B8%9A%E0%B8%AD%E0%B8%B8%E0%B8%95%E0%B8%AF%E0%B8%8A%E0%B8%B4%E0%B9%89%E0%B8%99%E0%B8%AA%E0%B9%88%E0%B8%A7%E0%B8%996%E0%B9%81%E0%B8%AA%E0%B8%99%E0%B9%81%E0%B8%A3%E0%B8%87%E0%B8%87%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B9%80%E0%B8%84%E0%B8%A7%E0%B9%89%E0%B8%87/ (http://www.industrialnew.com/%E0%B8%84%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B9%81%E0%B8%9C%E0%B8%99%E0%B8%A3%E0%B8%B1%E0%B8%90%E0%B8%AB%E0%B8%99%E0%B8%B8%E0%B8%99%E0%B8%9C%E0%B8%A5%E0%B8%B4%E0%B8%95%E0%B8%A3%E0%B8%96%E0%B8%A2%E0%B8%99%E0%B8%95%E0%B9%8C%E0%B9%84%E0%B8%9F%E0%B8%9F%E0%B9%89%E0%B8%B2-%E0%B8%97%E0%B8%B8%E0%B8%9A%E0%B8%AD%E0%B8%B8%E0%B8%95%E0%B8%AF%E0%B8%8A%E0%B8%B4%E0%B9%89%E0%B8%99%E0%B8%AA%E0%B9%88%E0%B8%A7%E0%B8%996%E0%B9%81%E0%B8%AA%E0%B8%99%E0%B9%81%E0%B8%A3%E0%B8%87%E0%B8%87%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B9%80%E0%B8%84%E0%B8%A7%E0%B9%89%E0%B8%87/)
หัวข้อ: Re: EV ในไทยใกล้เป็นจริงแล้วครับ
เริ่มหัวข้อโดย: Newhang ที่ กรกฎาคม 21, 2016, 22:04:26
มันแปลก ไก่กับไข่อะไรเกิดก่อนกัน

ส่วนตัว ถ้ารถมา แล้ววิ่งได้ระดับ200km ต่อการชาจน์1ครั้ง ผมชาจน์ปลั๊กบ้านก็ได้
หัวข้อ: Re: EV ในไทยใกล้เป็นจริงแล้วครับ
เริ่มหัวข้อโดย: adsajan ที่ กรกฎาคม 21, 2016, 22:27:26
evมาเร็วแน่นอนครับ เทคโนโลยีมันพร้อมแล้ว แค่ทำให้ถูกลง อีกไม่กี่ปีข้างหน้าใช้เวลาชาร์จพอๆกับเติมngv
แต่ได้ระยะทางมากกว่า ปัจจุบันก็20-30นาทีสำหรับสถานีชาร์จที่ว่า 7-8ชั่วโมงนั่นมันชาร์จไฟบ้านครับ
หัวข้อ: Re: EV ในไทยใกล้เป็นจริงแล้วครับ
เริ่มหัวข้อโดย: MacH1 ที่ กรกฎาคม 23, 2016, 12:18:47
ค่ายชิ้นส่วนยานยนต์ค้านแหลกรถยนต์ไฟฟ้าทุบระบบซัพพลายเชนล่ม หวั่นแรงงาน 6 แสนคนกระทบ ระบุใช้ชิ้นส่วนน้อยกว่าเครื่องยนต์หลายพันเท่า ยื่นหนังสือ สศอ.ขอทบทวน ย้ำควรมีโรดแมปชัดเจน ด้านพลังงานเตือนไฟฟ้าขาด ปตท.รับลูกเร่งขยายสถานีชาร์จ
 ผลกระทบจากการที่คณะรัฐมนตรีเห็นชอบสนับสนุนการผลิตยานยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าในประเทศไทย โดยอยากเห็นโครงการดังกล่าวเป็นรูปธรรมชัดเจนภายในปี 2560 และให้กระทรวงอุตสาหกรรมร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการ เพื่อให้สามารถนำรถยนต์ ขับเคลื่อนด้วยพลังไฟฟ้ามาใช้งานจริงภายใน เดือนพฤศจิกายน 2559 โดยช่วงเวลาที่ผ่านมามีบริษัทยักษ์ใหญ่จากหลายประเทศเข้า หารือและพร้อมดำเนินการอย่างจริงจัง เกี่ยวกับเรื่องนี้ปรากฏว่ามีการวิพากษ์วิจารณ์ในวงกว้าง โดยเฉพาะผลกระทบที่จะตามมาจากการเปลี่ยนผ่านจากเครื่องยนต์สันดาปภายในมาเป็นมอเตอร์ไฟฟ้า
 ชิ้นส่วนหวั่นซัพพลายเชนล่ม
 นางอัชณา ลิมป์ไพฑูรย์ นายกสมาคมผู้ผลิต ชิ้นส่วนยานยนต์ไทย เปิดเผยว่า สมาคมผู้ผลิตชิ้นส่วนได้ถึงทำหนังสือถึงสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม กระทรวงการคลัง เพื่อให้ทบทวนเกี่ยวกับเรื่องนี้ โดยพยายามสะท้อนถึงผลกระทบที่ตามมา ซึ่งจริง ๆ ทางสมาคมเข้าใจถึงการเปลี่ยนแปลงซึ่งถือเป็นเทรนด์ใหม่ที่ต้องเกิด แต่อยากให้รัฐบาลมีแผนงานหรือโรดแมปที่ชัดเจน
 สำหรับผลกระทบที่กลุ่มนำเสนอคือ ระบบซัพพลายเชนและการจ้างงาน จากเดิมที่รถยนต์ใช้เครื่องยนต์สันดาปภายในการขับเคลื่อนซึ่งมีชิ้นส่วนที่นำมาผลิต ตัวอย่างแค่ระบบการขับเคลื่อนซึ่งมีมากกว่า 2,000 ชิ้น ในจำนวนนี้มีผู้ประกอบการ ที่เกี่ยวข้องมากกว่า 2,500 ราย และมีการจ้างงานในอุตสาหกรรมชิ้นส่วนมากกว่า 600,000 คน ตรงนี้จะได้รับผลกระทบแน่นอน เพราะเมื่อเปลี่ยนมาใช้มอเตอร์ไฟฟ้าขับเคลื่อนจะใช้ชิ้นส่วนเพียงไม่กี่ชิ้น เท่านั้น อาทิ ระบบทำความเย็น (Inverter) ระบบมอเตอร์ขับเคลื่อน (Motor) ระบบชาร์จไฟ (Charger) และแบตเตอรี่ (Lithium-ion Batteries) เท่านั้น และอาจจะก่อให้เกิดความเสียหายต่อมูลค่าการส่งออกและนำเข้าชิ้นส่วนยานยนต์ เนื่องจากประเทศไทยอาจจะต้องนำเข้าชิ้นส่วนยานยนต์เพื่อนำมาผลิตรถไฟฟ้า ทดแทนการผลิตเพื่อ ใช้งานในประเทศและส่งออกด้วย
 ปัจจุบันประเทศไทยมีมูลค่าการส่งออก ชิ้นส่วนยานยนต์กว่า 570,000 ล้านบาท ขณะที่มีมูลค่าการนำเข้าชิ้นส่วนอยู่ ที่ 480,000 ล้านบาท และยังคงมีแนวโน้มการนำเข้าเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งหากรัฐบาลสนับสนุนให้เกิดการใช้ยานยนต์ไฟฟ้าอย่างไม่เป็นระบบหรือมีแผนงาน ที่ไม่ชัดเจนย่อมส่งผลกระทบแน่นอน ดังนั้น รัฐบาลควรพิจารณาแบบค่อยเป็นค่อยไป หรือเป็นไปตามกลไกของเทคโนโลยี อุปสงค์อุปทานของการตลาดที่แท้จริง
 นอกจากนี้ในแง่ของการส่งเสริมการลงทุน ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมารัฐบาลส่งเสริมการลงทุนสำหรับการผลิตรถปิกอัพและอีโคคาร์ ซึ่งถือเป็นตลาดหลัก โดยเฉพาะอีโคคาร์ยังเดินมาไม่ถึงครึ่งทาง หากรัฐบาลสนับสนุนรถไฟฟ้าให้เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วและไม่มีโรดแมปให้ผู้ประกอบการได้เตรียมตัว เชื่อว่าน่าจะกระทบต่อความเชื่อมั่นและความมั่นใจต่อการลงทุนของประเทศไทยอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
 นอกจากนี้ระบบอำนวยความสะดวก สถานีชาร์จไฟ ระบบมาตรฐานการรองรับยานยนต์ไฟฟ้าของประเทศไทยก็ยังไม่มีความชัดเจนตามมาตรฐานสากลเช่นในอเมริกาหรือในญี่ปุ่น รวมทั้งควรต้องคำนึงถึงนโยบายด้านพลังงานของประเทศ โดยเฉพาะไฟฟ้าเพียงพอหรือไม่ และก่อนหน้านี้รัฐบาลก็รณรงค์ให้เกษตรกรปลูกพืชเศรษฐกิจที่นำมาแปรรูปเป็นพลังงานทดแทน
“เรายังเตรียมจะยื่นหนังสือขอความเห็นใจจากนายกรัฐมนตรีในเร็ว ๆ นี้อีกด้วย”
http://www.industrialnew.com/%E0%B8%84%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B9%81%E0%B8%9C%E0%B8%99%E0%B8%A3%E0%B8%B1%E0%B8%90%E0%B8%AB%E0%B8%99%E0%B8%B8%E0%B8%99%E0%B8%9C%E0%B8%A5%E0%B8%B4%E0%B8%95%E0%B8%A3%E0%B8%96%E0%B8%A2%E0%B8%99%E0%B8%95%E0%B9%8C%E0%B9%84%E0%B8%9F%E0%B8%9F%E0%B9%89%E0%B8%B2-%E0%B8%97%E0%B8%B8%E0%B8%9A%E0%B8%AD%E0%B8%B8%E0%B8%95%E0%B8%AF%E0%B8%8A%E0%B8%B4%E0%B9%89%E0%B8%99%E0%B8%AA%E0%B9%88%E0%B8%A7%E0%B8%996%E0%B9%81%E0%B8%AA%E0%B8%99%E0%B9%81%E0%B8%A3%E0%B8%87%E0%B8%87%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B9%80%E0%B8%84%E0%B8%A7%E0%B9%89%E0%B8%87/ (http://www.industrialnew.com/%E0%B8%84%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B9%81%E0%B8%9C%E0%B8%99%E0%B8%A3%E0%B8%B1%E0%B8%90%E0%B8%AB%E0%B8%99%E0%B8%B8%E0%B8%99%E0%B8%9C%E0%B8%A5%E0%B8%B4%E0%B8%95%E0%B8%A3%E0%B8%96%E0%B8%A2%E0%B8%99%E0%B8%95%E0%B9%8C%E0%B9%84%E0%B8%9F%E0%B8%9F%E0%B9%89%E0%B8%B2-%E0%B8%97%E0%B8%B8%E0%B8%9A%E0%B8%AD%E0%B8%B8%E0%B8%95%E0%B8%AF%E0%B8%8A%E0%B8%B4%E0%B9%89%E0%B8%99%E0%B8%AA%E0%B9%88%E0%B8%A7%E0%B8%996%E0%B9%81%E0%B8%AA%E0%B8%99%E0%B9%81%E0%B8%A3%E0%B8%87%E0%B8%87%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B9%80%E0%B8%84%E0%B8%A7%E0%B9%89%E0%B8%87/)

ดูที่พวกค่ายรถโวยวายแล้ว จุดจบประกอบรถในประเทศใกล้เข้าไปละ ทั่วโลกเค้าจะเปลี่ยน แต่ตัวเองไม่ยอมเปลี่ยน ปรับตัว หลบในกะลาก็เตรียมพังกันได้เลยครับ