Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: OXYGEN2 ที่ กรกฎาคม 22, 2016, 04:02:05
-
วันนี้ผมได้ขับ Forester 2.0 เครื่อง NA จากกรุงเทพมาจันทบุรีครับ ขับที่ความเร็ว(น่าจะ)สูงสุด 190 กม./ชม. อุณหภูมิน้ำมันเครื่องสูงไปถึง 132°C ครับ จากนั้นเหมือนเครื่องจะเข้า Safe Mode หรือไม่ก็ไม่ทราบครับ เพราะถ้าถอนคันเร่ง แล้วเหยียบใหม่ จะได้แค่ 180 กม./ชม.ครับ อุณหภูมิน้ำมันเครื่องจากที่สูง 132°C จะลดไปเรื่อยๆ เหลือ 120°C พอต่ำกว่านี้ ก็ทำความเร็วได้ 190 กม./ชั่วโมงอีกครั้งครับ ลองทำดู 2 ครั้ง อุณหภูมิน้ำมันเครื่องผมคิดว่าสูงมากครับ
อยากทราบว่าเป็นเพราะเหตุใด อุณหภูมิน้ำมันเครื่อง ถึงได้สูงขนาดนี้ครับ เพราะตอนขับ Legacy Turbo ขับแบบทำเวลา ความเร็วประมาณ 230-240 กม./ชั่วโมง ยังขึ้นไปแค่ 127°C ครับ เป็นไปได้ไหมครับว่าตัว Sensor ใน Forester ผิดปกติ เพราะเครื่อง NA ไม่น่าจะทำให้อุณหภูมิน้ำมันเครื่องสูงไปขนาดนั้น
1. อุณหภูมิน้ำมันเครื่อง 132°C ใน Forester ผมดูจากจอตรงกลางของรถ
2. อุณหภูมิน้ำมันเครื่อง 127°C ใน Legacy ผมดูจาก Defi Advance ZD
ขอบคุณมากครับ
-
เดี๋ยวลองให้พี่แพน และทีมงานมาตอบครับ
เห็นในคลิปเคยเทสต์ Outback n/a แล้วบอกผระมาณๆว่าอุณหภูมิน้ำมันเครื่องน่ากลัวอยู่
ส่วน Xv และ forester minor ก็น่าจะดูอุณหภูมิน้ำมันเครื่องด้วยเช่นเดียวกัน
พอดีผมใช้ xv ตัวเก่า ไม่มีจอเลย เลยไม่มีข้อมูล
ปล. สอบถามเพิ่มเติม ขับ forester 2.0 ที่ความเร็วสูง
ช่วงล่าง เสียงฟิลพวงมาลัยเป็นอย่างไรบ้างครับ
-
130+ สูงไปนะครับ
เครื่องเทอร์โบ กดแช่ยาวๆหลายรุ่นไม่ถึง 130 นะครับ ~115-125
-
น้ำมันเครื่องเบอร์ใสไปครับ
ให้เพิ่มเป็น 30 ขึ้นไปหรือถ้า 40 ได้เลยยิ่งดี
-
อันนี้ service รึยังครับ น้ำมันเครื่องเติมยี่ห้อไหนตัวไหนมาครับ ถ้าเข้า service แล้วไม่ได้เฝ้าเค้าเปลี่ยนระวังเจอตัวต่ำของ Motul นะครับ งานจะเข้าเอา
-
Subaru น้ำมันเครื่องสำคัญมากนะ หาดีๆใส่จะดีที่สุด
-
ทางไปจันทบุรีช่วงไหนมันทำความเร็วได้ขนาดนั้นครับเนี่ย? ที่ผมไปมาเจอแต่หลุมบ่อทั้งนั้น ขนาดนั่งในรถตู้ยังหวั่นเลยว่าช่วงล่างจะพังไหมวะ? :-\ คิดถึงหลายปีก่อนที่ถนนเรียบกริ๊บตลอดเส้นทางจริงๆ :(
-
เอาง่ายๆนะครับ ถ้าเป็นผม ผมถอนตั้งแต่ 120 องศาแล้วครับ เพราะไม่ชอบเสี่ยงกับการพังของเครื่อง
แต่ถ้ามันติดพันจริงๆ บางครั้งผมยอมให้ได้ถึง 125 แต่มากสุดแค่นั้น ใครบอกผมป๊อดก็ไปลาก 125 ค้างสัก 10-15 นาทีแล้วรุ่งเช้าเปิดเครื่องดูแล้วกัน
ถ้าคุณไม่อยากเจอ 132 องศา ลองเปลี่ยนน้ำมันดูครับ ผมไม่แน่ใจว่าของเดิมคุณในเครื่องจะเป็น Motul H-Tech ตัวล่างหรือเปล่า ถ้าใช่ก็ไม่แปลกใจ เพราะ Subaru ที่เติมตัวนี้ ร้อนเร็วทุกคันที่เราเอามาลอง เพราะเขาเติมใส่ทุกคัน ตั้งแต่ XV ยัน STi!!
ผมท้วงไปแล้วว่าถ้าใส่ในรถบ้านตีนไม่หนัก ก็ใส่ไป แต่กับรถเทสต์ของคนตีนหนัก อย่าใส่น้ำมันแบบนี้ได้ไหม ถึงว่า ตอนไดโน่ WRX, STi ม้าร่วงเอาร่วงเอาทั้งที่ระดมพรมน้ำหม้อน้ำกับอินเตอร์ช่วยเต็มที่แล้ว เพราะ Oil Temp มันสูงนี่เอง รถเครื่อง FB20 จอดเดินเบา 96 ตื้บคันเร่งมิด 1.5 กิโลเมตร ไต่ทะลุ 110 องศาไปได้ ผมว่าไม่เหมาะกับคนตีนหนัก
ถ้าเป็นรถผมเองอย่าง Tiida/NX ซึ่งวัดโดยใช้ Pivot, Defi ผมอัดดุเดือดยังไงก็ไม่เกิน 122 องศา ส่วนมากจะอยู่ที่แค่ 115-118 แต่ไม่เกินนั้นครับ
ถ้าเป็นผม ผมเปลี่ยนชนิดน้ำมันเครื่องครับ ถ้าชอบ Motul ก็ใช้ตัว 8100 ตัวนั้นดีกว่า HTech จม รถเทอร์โบใช้ยังพอเลย แต่ศูนย์ซูบารุเอามาขายหรือยังก็ไม่รู้ ถ้าไม่เอามาขายก็ซวย เพราะหิ้วน้ำมันเข้าไปเองเขาก็ไม่ให้ ก็ต้องลองถามดูว่ามีเชลล์สังเคราะห์ไหม ถ้ามีก็เอาตัวนั้นแหละครับ พวกผมพิสูจน์กันมาแล้วกับ Levorg 1.6 ตอนเติม HTech วิ่งทำท้อปสปีดกันแทบไม่ได้เพราะ Temp ขึ้นเร็วมาก ถ่ายออก เปลี่ยนเป็นเชลล์ที่ศูนย์เสรีไทย คราวนี้วิ่งสบาย Temp เดินช้า ทำงานจบไว ไม่เครียด
-
เข้ามาเก็บความรู้ 8) 8) 8)
-
ทางไปจันทบุรีช่วงไหนมันทำความเร็วได้ขนาดนั้นครับเนี่ย? ที่ผมไปมาเจอแต่หลุมบ่อทั้งนั้น ขนาดนั่งในรถตู้ยังหวั่นเลยว่าช่วงล่างจะพังไหมวะ? :-\ คิดถึงหลายปีก่อนที่ถนนเรียบกริ๊บตลอดเส้นทางจริงๆ :(
เห็นมีอยู่ช่วงเดียวครับ ตรงลงจากเนินสูง เข้าตัวเมืองนะครับ ได้สัก 5 กม.ได้ครับ นอกนั้น หลุมซ้าย หลุมขวา แช่ขวากันหมด ::)
-
...ที่เข้ามา ไม่ได้ห่วงเรื่องน้ำมันเครื่องร้อน แต่ห่วงเรื่องเร็ว. มันตรายนะครับ..ผมไม่เคยเร็วปานนั้น สูงสุด 180 ก็แค่ครั้งเดียว.....ราว ๆ สองนาที...เท่านั้นเอง
-
เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมาไปศูนย์เสรีไทย เห็นมีน้ำมันเครื่องตัวใหม่มาขายนะครับ ยี่ห้อใดมิทราบเห็นว่าราคาโหดมาก เลยไม่ได้สนใจเพราะมันเกินความจำเป็นส่วนตัวไปเยอะ
แต่ เจ้า100 ที่ขายปกติ นอกจากจะไม่ค่อยแจ่มแล้ว ราคายังโหดเอาเรื่อง :'(
-
เดี๋ยวลองให้พี่แพน และทีมงานมาตอบครับ
เห็นในคลิปเคยเทสต์ Outback n/a แล้วบอกผระมาณๆว่าอุณหภูมิน้ำมันเครื่องน่ากลัวอยู่
ส่วน Xv และ forester minor ก็น่าจะดูอุณหภูมิน้ำมันเครื่องด้วยเช่นเดียวกัน
พอดีผมใช้ xv ตัวเก่า ไม่มีจอเลย เลยไม่มีข้อมูล
ปล. สอบถามเพิ่มเติม ขับ forester 2.0 ที่ความเร็วสูง
ช่วงล่าง เสียงฟิลพวงมาลัยเป็นอย่างไรบ้างครับ
XV MC น้ำมันเครื่องติดรถ จากโรงงาน ขับรอบสูง หรือรถติดร้อนๆกลางวัน ถนนลาดพร้าว สูงสุดไม่เคยเกิน 98 C
พอครบ 1000 km ถ่ายเป็น Motul 0w-20 ของศูนย์ ขับรถติดๆ คลานๆ ตอนมืดถนนอโศก 102 C หรือขับรองสูงทางไกลตอนลางวันเห็นมี 115 C บ้าง
-
เอาง่ายๆนะครับ ถ้าเป็นผม ผมถอนตั้งแต่ 120 องศาแล้วครับ เพราะไม่ชอบเสี่ยงกับการพังของเครื่อง
แต่ถ้ามันติดพันจริงๆ บางครั้งผมยอมให้ได้ถึง 125 แต่มากสุดแค่นั้น ใครบอกผมป๊อดก็ไปลาก 125 ค้างสัก 10-15 นาทีแล้วรุ่งเช้าเปิดเครื่องดูแล้วกัน
ถ้าคุณไม่อยากเจอ 132 องศา ลองเปลี่ยนน้ำมันดูครับ ผมไม่แน่ใจว่าของเดิมคุณในเครื่องจะเป็น Motul H-Tech ตัวล่างหรือเปล่า ถ้าใช่ก็ไม่แปลกใจ เพราะ Subaru ที่เติมตัวนี้ ร้อนเร็วทุกคันที่เราเอามาลอง เพราะเขาเติมใส่ทุกคัน ตั้งแต่ XV ยัน STi!!
ผมท้วงไปแล้วว่าถ้าใส่ในรถบ้านตีนไม่หนัก ก็ใส่ไป แต่กับรถเทสต์ของคนตีนหนัก อย่าใส่น้ำมันแบบนี้ได้ไหม ถึงว่า ตอนไดโน่ WRX, STi ม้าร่วงเอาร่วงเอาทั้งที่ระดมพรมน้ำหม้อน้ำกับอินเตอร์ช่วยเต็มที่แล้ว เพราะ Oil Temp มันสูงนี่เอง รถเครื่อง FB20 จอดเดินเบา 96 ตื้บคันเร่งมิด 1.5 กิโลเมตร ไต่ทะลุ 110 องศาไปได้ ผมว่าไม่เหมาะกับคนตีนหนัก
ถ้าเป็นรถผมเองอย่าง Tiida/NX ซึ่งวัดโดยใช้ Pivot, Defi ผมอัดดุเดือดยังไงก็ไม่เกิน 122 องศา ส่วนมากจะอยู่ที่แค่ 115-118 แต่ไม่เกินนั้นครับ
ถ้าเป็นผม ผมเปลี่ยนชนิดน้ำมันเครื่องครับ ถ้าชอบ Motul ก็ใช้ตัว 8100 ตัวนั้นดีกว่า HTech จม รถเทอร์โบใช้ยังพอเลย แต่ศูนย์ซูบารุเอามาขายหรือยังก็ไม่รู้ ถ้าไม่เอามาขายก็ซวย เพราะหิ้วน้ำมันเข้าไปเองเขาก็ไม่ให้ ก็ต้องลองถามดูว่ามีเชลล์สังเคราะห์ไหม ถ้ามีก็เอาตัวนั้นแหละครับ พวกผมพิสูจน์กันมาแล้วกับ Levorg 1.6 ตอนเติม HTech วิ่งทำท้อปสปีดกันแทบไม่ได้เพราะ Temp ขึ้นเร็วมาก ถ่ายออก เปลี่ยนเป็นเชลล์ที่ศูนย์เสรีไทย คราวนี้วิ่งสบาย Temp เดินช้า ทำงานจบไว ไม่เครียด
Motul H-tech 100 นี่ปัญหาใหญ่ในคลับ เลยครับ FB20 NA พอถูไถ และจากการผลักดันของ สมช ในคลับ ในที่สุด Amsoil ก็ได้รับเกียรติจาก MIT เอาไปทดสอบในแลป และผลคือผ่าน!!!
ตอนนี้ที่ เสรีไท ที่เดียว เพิ่มทางเลือกให้ลูกค้ามี Amsoil signature 0W-20 and 5W-30
-
อุณหภูมิน้ำมันเครื่อง เอาแบบเซฟๆ รถอัดๆ วัดที่อ่าง ไม่ควรเกิน110จะดีมากครับ
ถ้าอยู่ในอ่างวัดได้110เวลาอยู่บนฝาวาวล์ หรือผนังสูบคงไปเกิน150ไม่ยาก
ใช้น้ำมันเครื่องในช่วงMixed Lubricationปลอดภัยที่สุดครับ
-
งานจะเข้าเอานะคับ ขนาดน้ำมันเครื่อง 132 แล้วโลหะภายในเครื่องจะเท่าไร
-
ขอบคุณทุกๆ ท่านมากเลยครับที่ให้ความรู้ครับ ช่วงทำความเร็วจากกรุงเทพ -> จันทบุรี มีหลายช่วงครับ ตอนนี้ถนนก็ราดยางใหม่หลายส่วนแล้วครับ ที่ทำความเร็วได้เลยก็ Motorway ครับ แล้วก็เส้นที่ต่อจากบ้านบึงไปจนถึงแกลงครับ ขับยาวๆ ได้เลย ผมเน้นออกรถตอนดึกมากกว่าครับ เช่นเมื่อวานออกตอน 22.15 น. ถึงจันทบุรี 00.25 น.ครับ ถ้าจะทำเวลาดีที่สุดก็ขับ Legacy ออก 04.00 ถึงจันทบุรี 5.45 น.ครับ
เรื่องน้ำมันเครื่องผมเริ่มกลัวแล้วครับ เดี๋ยวเอาเจ้า Forester ไปเปลี่ยนก่อนเลยครับ น้ำมันเครื่องตัวนี้ตั้งแต่ได้รับรถมายังไม่ได้เอาไปถ่ายเลยครับ วิ่งไปได้ประมาณ 3 พันกม.แล้วครับ ตอนแรกคิดว่า 5 พันกม. แล้วไปถ่าย เป็นน้ำมันเครื่องติดมาจากโรงงานประกอบ เลยไม่รู้ว่าเกรดไหนครับ
ส่วน Legacy ผมไป Service ที่อู่พี่พนม บีวาครับ เพราะไปที่ศูนย์เข้าให้ใส่แต่ Motul ตัวต่ำครับ เลยบอกพี่พนมไปว่าเอาเกรดที่ดีที่สุด เห็นเขาใส่ Pacer มาให้ครับ
ขอถามเพิ่มเติมครับ ถ้ากรณีปลอดภัยๆ คือ ไม่ควรเกิน 125°C หรือเปล่าครับ? แล้วกรณีรถไม่มีตัววัดอุณหภูมิน้ำมันเครื่อง ถ้ามันร้อนจัดมากเกินไป มันจะต้องไปดูที่ไหนครับ ดูที่ Water Temp แทนได้ไหมครับ ปกติแล้วถ้าถนนว่างก็จะขับเร็วแบบทำเวลาครับผม
-
ปล. สอบถามเพิ่มเติม ขับ forester 2.0 ที่ความเร็วสูง
ช่วงล่าง เสียงฟิลพวงมาลัยเป็นอย่างไรบ้างครับ
ผมชอบ Feeling ของ Forester ตัวนี้มากเลยครับ ถ้าตัดเรื่องความอืดของเครื่อง ขอเรียกได้ว่าประทับใจมากครับ คือขับที่ความเร็วสูงสุดของรถเท่าที่มันจะไปไหว คือ 180 - 190 กม./ชั่วโมง รู้สึกได้ว่ารถยังนิ่ง คุมอยู่ ขับสบายมากครับ ถ้าเทียบกับ Legacy Turbo (BM9) ผมว่า Legacy ขับไม่ดีเท่า Forester ครับ ขับเกิน 170 กม./ชั่วโมงก็รู้สึกว่าเริ่มเครียดแล้วครับ เสียดายที่ไม่ได้ลองขับคันนี้ก่อน ไม่งั้นซื้อตัว Turbo มาใช้แล้วครับ ตอนนั้นซื้อ Forester 2.0 เอามาแทน CR-V G4 2.4 ครับ เน้นขับง่ายใช้สบายทั้งครอบครัวครับ เลยไม่ได้มองไปที่ตัว Turbo เลยครับ เดี๋ยวถ้า Forester รุ่นหน้าออก ผมคงไปจัดตัว Turbo มาขับเองสักคันครับ
-
ปล. สอบถามเพิ่มเติม ขับ forester 2.0 ที่ความเร็วสูง
ช่วงล่าง เสียงฟิลพวงมาลัยเป็นอย่างไรบ้างครับ
ผมชอบ Feeling ของ Forester ตัวนี้มากเลยครับ ถ้าตัดเรื่องความอืดของเครื่อง ขอเรียกได้ว่าประทับใจมากครับ คือขับที่ความเร็วสูงสุดของรถเท่าที่มันจะไปไหว คือ 180 - 190 กม./ชั่วโมง รู้สึกได้ว่ารถยังนิ่ง คุมอยู่ ขับสบายมากครับ ถ้าเทียบกับ Legacy Turbo (BM9) ผมว่า Legacy ขับไม่ดีเท่า Forester ครับ ขับเกิน 170 กม./ชั่วโมงก็รู้สึกว่าเริ่มเครียดแล้วครับ เสียดายที่ไม่ได้ลองขับคันนี้ก่อน ไม่งั้นซื้อตัว Turbo มาใช้แล้วครับ ตอนนั้นซื้อ Forester 2.0 เอามาแทน CR-V G4 2.4 ครับ เน้นขับง่ายใช้สบายทั้งครอบครัวครับ เลยไม่ได้มองไปที่ตัว Turbo เลยครับ เดี๋ยวถ้า Forester รุ่นหน้าออก ผมคงไปจัดตัว Turbo มาขับเองสักคันครับ
คุณ OXYGEN2 คิดเหมือนผมเลย ตัวผมเอง ถ้าย้อนกลับไปได้ผมจอง XT 2016 แน่ๆ ยอมรอนิดหน่อย 2.0ip ทุกอย่างผมชอบหมด (ไม่นับการประกอบมาเลย์) ก็จะเป็นเรื่องที่ไม่ทันเท้าเท่าไร ไม่ทันเท้าคือดันไปเร่งแข่ง 1/4 mile กลายๆ กับกระบะจูนกล่อง-ดันราง + เปลี่ยนกระบะหลังเป็นอลูอีก แพ้หลุดลุ่ย ขนาดเห็นเค้ามาหลังไวๆแล้ว kick down ก่อนสักสามวิ ( 555 ไม่เจียมตัว)
ได้ XT 2016 งานญี่ปุ่นยิ่งหมดปัญหา ยอมจ่ายเพิ่มเอาความแรงในร่าง SUV ขับดีๆสักคัน
ผมเปลี่ยน นมค. semi 5w-30 ศูนย์มารอบ 1000 km (free MA) รู้สึกอืดขึ้น แต่ Oil temp ไม่เกิน 102 deg C ครับ ผมขับไม่เกิน 120 ด้วยนานๆทีไป 130 ครับ
-
ผมเคย ลาก 136C
ความเร็วประมาณ 195
ช่วง เที่ยงคืน มอเตอร์เวย?
แต่วิ่งปรกติ 105-120 C
ความเร็ว 130-150/
-
ใช้ amsoil 0w-20 sig series ดีกว่าเยอะ
-
ขอบคุณทุกๆ ท่านมากเลยครับที่ให้ความรู้ครับ ช่วงทำความเร็วจากกรุงเทพ -> จันทบุรี มีหลายช่วงครับ ตอนนี้ถนนก็ราดยางใหม่หลายส่วนแล้วครับ ที่ทำความเร็วได้เลยก็ Motorway ครับ แล้วก็เส้นที่ต่อจากบ้านบึงไปจนถึงแกลงครับ ขับยาวๆ ได้เลย ผมเน้นออกรถตอนดึกมากกว่าครับ เช่นเมื่อวานออกตอน 22.15 น. ถึงจันทบุรี 00.25 น.ครับ ถ้าจะทำเวลาดีที่สุดก็ขับ Legacy ออก 04.00 ถึงจันทบุรี 5.45 น.ครับ
เรื่องน้ำมันเครื่องผมเริ่มกลัวแล้วครับ เดี๋ยวเอาเจ้า Forester ไปเปลี่ยนก่อนเลยครับ น้ำมันเครื่องตัวนี้ตั้งแต่ได้รับรถมายังไม่ได้เอาไปถ่ายเลยครับ วิ่งไปได้ประมาณ 3 พันกม.แล้วครับ ตอนแรกคิดว่า 5 พันกม. แล้วไปถ่าย เป็นน้ำมันเครื่องติดมาจากโรงงานประกอบ เลยไม่รู้ว่าเกรดไหนครับ
ส่วน Legacy ผมไป Service ที่อู่พี่พนม บีวาครับ เพราะไปที่ศูนย์เข้าให้ใส่แต่ Motul ตัวต่ำครับ เลยบอกพี่พนมไปว่าเอาเกรดที่ดีที่สุด เห็นเขาใส่ Pacer มาให้ครับ
ขอถามเพิ่มเติมครับ ถ้ากรณีปลอดภัยๆ คือ ไม่ควรเกิน 125°C หรือเปล่าครับ? แล้วกรณีรถไม่มีตัววัดอุณหภูมิน้ำมันเครื่อง ถ้ามันร้อนจัดมากเกินไป มันจะต้องไปดูที่ไหนครับ ดูที่ Water Temp แทนได้ไหมครับ ปกติแล้วถ้าถนนว่างก็จะขับเร็วแบบทำเวลาครับผม
ปกติ subaru เค้าจะให้เปลี่ยน นมค ครั้งแรกตอน 1000 km
-
ปล. สอบถามเพิ่มเติม ขับ forester 2.0 ที่ความเร็วสูง
ช่วงล่าง เสียงฟิลพวงมาลัยเป็นอย่างไรบ้างครับ
ผมชอบ Feeling ของ Forester ตัวนี้มากเลยครับ ถ้าตัดเรื่องความอืดของเครื่อง ขอเรียกได้ว่าประทับใจมากครับ คือขับที่ความเร็วสูงสุดของรถเท่าที่มันจะไปไหว คือ 180 - 190 กม./ชั่วโมง รู้สึกได้ว่ารถยังนิ่ง คุมอยู่ ขับสบายมากครับ ถ้าเทียบกับ Legacy Turbo (BM9) ผมว่า Legacy ขับไม่ดีเท่า Forester ครับ ขับเกิน 170 กม./ชั่วโมงก็รู้สึกว่าเริ่มเครียดแล้วครับ เสียดายที่ไม่ได้ลองขับคันนี้ก่อน ไม่งั้นซื้อตัว Turbo มาใช้แล้วครับ ตอนนั้นซื้อ Forester 2.0 เอามาแทน CR-V G4 2.4 ครับ เน้นขับง่ายใช้สบายทั้งครอบครัวครับ เลยไม่ได้มองไปที่ตัว Turbo เลยครับ เดี๋ยวถ้า Forester รุ่นหน้าออก ผมคงไปจัดตัว Turbo มาขับเองสักคันครับ
ขอบคุณมากครับ
แอบลุ้นราคา XT ว่าจะลงไหม
ตอนนี้เห็นเงินเยนแข็งขึ้นอีก
จะเอา 2.0 iP ก็อืดเหมือน XVที่ใช้อยู่