Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: lay ที่ กรกฎาคม 25, 2016, 21:03:23
-
ลดภาษีเหลือ0%รถยนต์ไฟฟ้านำเข้า มีใครมองรุ่นไหนเอาไว้บ้างครับ ? คิดว่าอีก2ปีข้างหน้า รถยนต์ไฟฟ้าในเมื่องไทยจะมาแรงเปล่าครับ?
-
E-Golf ครับ แต่ ถ้าเปิดแอร์ด้วยวิ่งได้แค่80กิโลเมตร ผมไม่เอา
-
Tesla แน่ๆล่ะครับ ;D ;D ;D P60 รุ่นดาวเกรด น่าสน
-
ชอบคันเล็กๆ แบบ nissan leaf ครับ
-
สำคัญว่ามันมีรุ่นไหนให้เลือกบ้างล่ะ
-
สำคัญว่ามันมีรุ่นไหนให้เลือกบ้างล่ะ
5555 จริงด้วยสิ ::) ::) ::) ::)
-
Tesla Model X P90D 8)
-
Tesla model 3
-
สำคัญว่ามันมีรุ่นไหนให้เลือกบ้างล่ะ
ใช่เลยครับ สำคัญที่สุดคือจะมีให้เลือกอยู่กี่รุ่น
-
สำคัญว่ามันมีรุ่นไหนให้เลือกบ้างล่ะ
ถึงสิบไหมอ่ะ?
-
Tesla model S p90d ถ้าเอาที่ยังเป็น concept ด้วยเอา porsche mission e
-
ผมขอ Leaf ครับ ตอนนี้รุ่นล่างสุดในญี่ปุ่นขาย 23,000USD ถ้าภาษี0% เสียสรรพามิต 5% ราคาน่าจะประมาณ 1ล้าน อีกคันครับถ้า tesla 3 ถ้ามาในราคาไม่เกิน 1,500,000
-
ถ้ามันเก็บแค่นั้นจริง ๆ ไม่มีแวตฯหน้า แวตฯหลัง แวตฯใน แวตฯ นอก แบบน้ำมัน ผมเลือก เทสล่า 3 แค่นั้นก็หาถนนวิ่งไม่ได้แล้ว....
-
BMW I3 ครับ
ราคาน่ามาที่ ล้านสี่
-
เค้าลดแล้วเหรอครับ ข่าวดีนะเนี่ย
ที่มีความเป็นไปได้ที่สุดก็ i3 ครับ
ในบ้านเราน่าจะขายดีตาม iphone และ ipad ครับ อิอิ
-
อยากได้ TESLA MODEL 3 ครับ อิอิ
ไม่รู้เหมือนกันราคาจะเท่าไหร่หนอ...
-
0% จิงหรือป่าวคับ
เพราะอย่างคนที่ไปเรียนเมืองนอก ก็สามารถเอารถเข้ามาได้ ด้วยเรทภาษีนำเข้า 0% ....แต่มันไม่ 0% จริงนะคับ มันโดน VAT มันโดนภาษีอื่น ๆ โดนค่าตรวจสภาพ โดนอีกหลายอย่าง สรุปที่บอกว่า 0% เนี่ย โดนจริงหลายสิบ % ( แต่ก็ยังดีกว่า ภาษีนำเข้า 200% )
-
ขอ Tesla 3 เหมือนกันครับ แต่กว่าจะผลิตจะส่งมอบครบยอดจองปัจจุบัน สงสัยเลยปี 2020 ;D
-
แล้วพวก alphard vellfire ที่เป็นไฮบริดอยู่ในกลุ่มนี้ด้วยมั๊ยครับ
ถ้าใช่พวก grey อ่วมเลยป่าวครับเนี่ย
-
นำเข้า 0 แต่อย่างอื่นเสียเพิ่มตามปกติครับ
-
เล็งตัวนี้ไว้ครับ ถ้าผลิตตัวจริงออกมาขายราคาไม่เกิน120k ก็น่าสน ไว้ใช้เที่ยวทะเล
-
ข่าวบอกว่าลดภาษีนำเข้าเหลือ0%และภาษีสรรพสามิตรเก็บแค่5% นะครับ เป็นความร่วมมือของภาครัฐที่จะสนับสนุนให้คนไทยหันมาใช้รถไฟฟ้าให้มากที่สุด!
-
เร็วๆนี้จะเรียกผู้ผลิตไปหารือครับ แต่ได้ทราบมาว่า ภาครัฐอยากต่อรองให้มาประกอบในบ้านเราครับ ซึ่งมาจากการจะดันให้ไทยเราเป็นศูนย์กลางการผลิตรถไฟฟ้าตั้งแต่ต้นน้ำจนปลายน้ำ เพราะการยกเว้นภาษีนำเข้า เท่ากับไม่จำเป็นต้องมาประกอบในประเทศทันที
จะมีความชัดเจนยังไง รอดูกันครับ
-
http://www.feelthecar.com/automotive-news/%E0%B8%A3%E0%B8%96%E0%B8%A2%E0%B8%99%E0%B8%95%E0%B9%8C%E0%B9%84%E0%B8%9F%E0%B8%9F%E0%B9%89%E0%B8%B2-%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%81%E0%B8%A4%E0%B8%95%E0%B8%99%E0%B9%89%E0%B8%B3%E0%B8%A1%E0%B8%B1%E0%B8%99/ (http://www.feelthecar.com/automotive-news/%E0%B8%A3%E0%B8%96%E0%B8%A2%E0%B8%99%E0%B8%95%E0%B9%8C%E0%B9%84%E0%B8%9F%E0%B8%9F%E0%B9%89%E0%B8%B2-%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%81%E0%B8%A4%E0%B8%95%E0%B8%99%E0%B9%89%E0%B8%B3%E0%B8%A1%E0%B8%B1%E0%B8%99/)
ค่าแบตเตอรี่คือต้นทุน 1 ใน 3 ของการสร้างรถไฟฟ้า เพราะฉะนั้นการที่รถไฟฟ้าจะมีราคาถูกและถูกใช้อย่างแพร่หลาย 1 ใน 4 อย่างนี้ต้องเกิดขึ้น
1. รัฐบาลต้องเข้ามาช่วยเหลือเพื่อลดต้นทุน
2. ผู้ผลิตต้องยอมรับอัตรากำไรที่ต่ำมาก
3. ผู้ใช้ต้องยอมจ่ายแพงเพื่อรถยนต์ไฟฟ้า
4. ต้นทุนการผลิตแบตเตอรี่ต้องลดลง
คงจะต้องรอดูต่อไปครับ ว่า technology การผลิตแบตเตอรี่ มาเป็นอย่างไร
^^
-
รถจากประเทศจีนครับ
-
Tesla คับผม แต่รุ่นไหนคงต้องดูราคา :-X
-
ที่ผมห่วงคือ บ้านเราพร้อมเรื่องพวกนี้จริงๆเหรอ หรือจะเอาตามกระแสโลก
โรงไฟฟ้าบ้านเราเพียงพอเหรอ สถานีผมไม่กลัวนะ เพราะ ปตท พร้อมรอละ
แต่ที่ผมห่วงสุดๆคือ ไฟฟ้า บ้านเรามันพร้อม มันพอเพียง สำหรับเรื่องพวกนี้แล้วเหรอ
ทุกวันนี้เราซื้อจากเพื่อนบ้านใช้แล้ว จะไหวเหรอ
-
ที่ผมห่วงคือ บ้านเราพร้อมเรื่องพวกนี้จริงๆเหรอ หรือจะเอาตามกระแสโลก
โรงไฟฟ้าบ้านเราเพียงพอเหรอ สถานีผมไม่กลัวนะ เพราะ ปตท พร้อมรอละ
แต่ที่ผมห่วงสุดๆคือ ไฟฟ้า บ้านเรามันพร้อม มันพอเพียง สำหรับเรื่องพวกนี้แล้วเหรอ
ทุกวันนี้เราซื้อจากเพื่อนบ้านใช้แล้ว จะไหวเหรอ
ทุกอย่างต้องเดินหน้าครับ เมื่อไฟฟ้ามันถูกกว่าน้ำมัน ก็ซื้อไฟฟ้าดีกว่าครับ
แต่ปัญหาคือ การแย่งกันใช้กลางวัน ซื้อเค้าก็ให้ใช้ในอัตราที่แพงกว่ากลางคืน
ปัญหานี้เหมือน ไก่กับใข่ครับ อะไรเกิดก่อนกัน
ส่วนตัวผมไม่ค่อยกังวลครับ เป็นทางเลือก ไม่ได้บังคับให้ใช้ทุกคนซะที่ไหน ใครไม่เหมาะก็ใช้รถอื่น
บางคนใช้รถไม่มาก วันนึงไม่ถึง200km กลับไปนอนชาจน์ค้างคืนที่บ้านก็ได้ 7-8ชม เต็มก็วิ่งต่อ
ได้ข่าวว่าใครชาจน์กลางวันจ่ายแพงกว่ากลางคืน 2-3 เท่า
ยังไงรอความชัดเจนครับ ผมว่าเค้าคงคิดมาดีแล้ว ถือว่าค่อยเป็นค่อยไป
-
ลืมตอบคำถามเจ้าของ กระทู้ ตอนแรกที่ผมเล็งไว้ก้
นิสสันลีฟ กับ chevrolet volt
ขอราคาดีๆหน่อยเถอะ เมื่อภาษีแบบนี้แล้ว จะสนับสนุนกันแบบนี้แล้ว ผมจะซื้อสักคันไว้หนีเมียตอนกลางคืน
เห็นเค้าว่า วิ่งเงียบมาก ทุกวันนี้ สตาทคันไหนก็สะเทือนทั้งบ้าน เหอๆ คราวนี้แหละ แจ่มแมว
-
นายศุภรัตน์ ศิริสุวรรณางกูร รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(ส.อ.ท.) กล่าวถึงนโยบายส่งเสริมการลงทุนรถยนต์ไฟฟ้าของรัฐบาลว่า ภาคเอกชนยอมรับขณะนี้ยังเร็วเกินไปที่ประเทศไทยจะก้าวกระโดดไปสู่การผลิตรถยนต์ไฟฟ้า อยากให้ภาครัฐสนับสนุนการผลิตรถยนต์ไฮบริดก่อนเพราะมีชิ้นส่วนบางรายการที่สามารถใช้ร่วมกับรถยนต์ไฟฟ้าได้ เช่น มอเตอร์ แบตเตอรี่ ซึ่งจะจูงใจให้ผู้ผลิตชิ้นส่วนในประเทศพัฒนากระบวนการผลิตได้ในระยะเริ่มต้น
ปัจจุบันรถยนต์ไฮบริดยังไม่ได้รับความนิยมมากนักเพราะราคาสูงกว่ารถยนต์นั่งทั่วไป จึงอยากให้รัฐบาลมีมาตรการลดหย่อนภาษีผู้ผลิตเพื่อให้ต้นทุนไม่สูงมากนัก และอยากให้พิจารณาแนวทางการยกเว้นภาษีนำเข้ารถยนต์ไฟฟ้าสำเร็จรูปจากต่างประเทศนำร่องมาขายในประเทศก่อน 5,000 คัน รวมถึงการเสนอแผนการผลิตที่ใช้ชิ้นส่วนในประเทศเป็นหลัก นอกจากนี้กลุ่มผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์อยู่ระหว่างสำรวจผลกระทบว่าผู้ประกอบการรายใดจะได้รับผลกระทบจากการผลิตรถยนต์ไฟฟ้า ซึ่งเบื้องต้นคาดว่าผู้ผลิตชิ้นส่วนถังน้ำมัน ท่อไอเสีย และหม้อน้ำ น่าจะได้รับผลกระทบเป็นกลุ่มแรกๆ
รายงานข่าวจากสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า เร็วๆ นี้กลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ของส.อ.ท.จะยื่นหนังสือถึงนายศิริรุจ จุลกะรัตน์ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม(สศอ.) เพื่อขอให้ทบทวนนโยบายการส่งเสริมรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทย เนื่องจากเห็นว่าไทยยังไม่มีความพร้อมในหลายด้าน ทั้งด้านพลังงานไฟฟ้าที่จะรองรับ ซึ่งยังไม่มีความชัดเจนว่าจะเพียงพอหรือไม่ นอกจากนี้ ยังเสนอแนวคิดว่าภาครัฐควรศึกษาถึงความเหมาะสม โดยเฉพาะผลกระทบของนโยบายที่ภาครัฐเคยสนับสนุนการลงทุนโครงการรถยนต์ประหยัดพลังงาน (อีโคคาร์) และโครงการรถยนต์พลังงานทางเลือก และเยียวยาอุตสาหกรรมที่เกี่ยวเนื่อง
หากเร่งรัดส่งเสริมยานยนต์ไฟฟ้ามากเกินไป จะส่งผลกระทบกับผู้ผลิตชิ้นส่วนในประเทศอาจต้องประสบกับภาวะขาดทุน การจ้างงานในอุตสาหกรรมชิ้นส่วนยานยนต์บางส่วนที่ต้องเลิกกิจการ โดยเฉพาะชิ้นส่วนที่เกี่ยวข้องกับระบบขับเคลื่อน และยังกระทบต่อการส่งออกชิ้นส่วนยานยนต์ ซึ่งปัจจุบันมีมูลค่าถึง 570,000 ล้านบาท. http://www.khaosod.co.th/view_newsonline.php?newsid=1469615883