Headlight Magazine : community

General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: oatekung ที่ กรกฎาคม 26, 2016, 20:49:47

หัวข้อ: พวกเคลือบกระจก ฟิล์มแก้ว นี่มันได้จริงๆเหรอครับ
เริ่มหัวข้อโดย: oatekung ที่ กรกฎาคม 26, 2016, 20:49:47
คือในชีวิตจริงยังไม่เคยเห็นรถ4-5ปี
ใหม่แบบสังเกตได้เมื่อเทียบกับเพื่อนรุ่นเดียวกันหนะครั บ ที่โฆษณาๆกันส่วนใหญ่อัดไฟนีออนเอาอ่ะครับ
ใครคิดว่ามันคุ้มค่าบ้างหนะครับผม > <
หัวข้อ: Re: พวกเคลือบกระจก ฟิล์มแก้ว นี่มันได้จริงๆเหรอครับ
เริ่มหัวข้อโดย: jaesz ที่ กรกฎาคม 26, 2016, 22:21:12
คือในชีวิตจริงยังไม่เคยเห็นรถ4-5ปี
ใหม่แบบสังเกตได้เมื่อเทียบกับเพื่อนรุ่นเดียวกันหนะครั บ ที่โฆษณาๆกันส่วนใหญ่อัดไฟนีออนเอาอ่ะครับ
ใครคิดว่ามันคุ้มค่าบ้างหนะครับผม > <

รู้จัก Mohs scaleไหมครับ ที่วัดความแข็งของเพชรได้10H

แล้วเห็นโฆษณากัน 9H

....พูดต่อไม่ได้เลย
หัวข้อ: Re: พวกเคลือบกระจก ฟิล์มแก้ว นี่มันได้จริงๆเหรอครับ
เริ่มหัวข้อโดย: neung23 ที่ กรกฎาคม 26, 2016, 22:47:38
คือในชีวิตจริงยังไม่เคยเห็นรถ4-5ปี
ใหม่แบบสังเกตได้เมื่อเทียบกับเพื่อนรุ่นเดียวกันหนะครั บ ที่โฆษณาๆกันส่วนใหญ่อัดไฟนีออนเอาอ่ะครับ
ใครคิดว่ามันคุ้มค่าบ้างหนะครับผม > <

รู้จัก Mohs scaleไหมครับ ที่วัดความแข็งของเพชรได้10H

แล้วเห็นโฆษณากัน 9H

....พูดต่อไม่ได้เลย

ก่อนทำแข็งระดับเพชร หลังทำแล้วเป็นรอย อ๋อหน่วยคือ pencil hardness  :-X
หัวข้อ: Re: พวกเคลือบกระจก ฟิล์มแก้ว นี่มันได้จริงๆเหรอครับ
เริ่มหัวข้อโดย: iamnobody ที่ กรกฎาคม 26, 2016, 22:56:15
ขัดเคลือบเองไม่ต้องลงเคลือบแก้วก็สวยได้ครับ
แต่เคลือบแก้วมันดีตรงที่เหมาะกับคนไม่มีเวลา (ลงเคลือบแก้วเองก็ไม่ได้แพงแบบที่ร้านทำหรอกครับ)
ส่วนเรื่องกันรอย ถ้าโดนหินดีดใส่อะไรก็เอาไม่อยู่ละครับ แต่ถ้ากันรอยขีดข่วนเล็กๆ น้อยๆ ก็กันได้บ้าง

อย่างของผมนี่ไม่ได้เคลือบแก้วเลย
4 ปีแล้วผ่านเส้นทางมาแสนกว่าโล ผมว่าความเงาไม่แพ้ใครครับ แต่อย่าไปเทียบกับรถสีเข้มนะครับ
รอยขนแมว รอย swirl ก็ไม่มีด้วย เอาไฟฉายส่องสีรถมาส่องเทสได้เลย

(http://www.mx7.com/i/918/KGINQ1.jpg)

(http://www.mx7.com/i/ade/GpnD6e.jpg)

ขยันดูแล ไม่ต้องเคลือบแก้ว สีรถก็สวยได้เป็น 10-20 ปีครับ
รถผมยังติดอยู่อย่าง คือผมยังไม่กล้าขัดผิวส้มออกไป  (ที่ทำให้เงาสะท้อนดูเป็นคลื่นๆ ไม่เรียบ) ถ้าขัดก็ต้องขัดด้วยกระดาษทรายทั้งคัน
แต่ขัดแล้วผิวจะเงาเป็นกระจกเลย... ปัญหาคือชั้นแลคเกอร์หลังขัดจะบางมาก เสี่ยงกับการเป็นรอยครับ

จริงๆแล้ว เอารถเก่าๆ โทรมๆ สีด้านๆ มาคันนึง ขัดเต็มระบบ ให้เวลาสัก 2-3 วันก็สามารถสวยได้ไม่ต่างจากรถที่เคลือบแก้วเลยครับ
หัวข้อ: Re: พวกเคลือบกระจก ฟิล์มแก้ว นี่มันได้จริงๆเหรอครับ
เริ่มหัวข้อโดย: sixaxis ที่ กรกฎาคม 26, 2016, 23:47:12
จริงหรือไม่จริงก็ไม่รู้
สำหรับผมไม่ถึง 6 เดือน ลองฉีดน้ำ ไม่เห็นว่าน้ำมันจะเกาะตัวเป็นหยดๆเหมือนตอนแรกเลยครับ
เสียดายเงินมาก
หัวข้อ: Re: พวกเคลือบกระจก ฟิล์มแก้ว นี่มันได้จริงๆเหรอครับ
เริ่มหัวข้อโดย: Visual ที่ กรกฎาคม 27, 2016, 01:17:01
มันต่างจากเคลือบ wax ตรงที่ผิวมันลื่นกว่าครับ โดยเฉพาะตอนเคลือบใหม่ๆ และอยู่ได้นานกว่าทำให้ไม่ต้องเคลือบบ่อย ปีนึงเติม 2 ครั้ง
นอกนั้นสู้ wax ไม่ได้หรอก โดนเฉพาะความเงางาม
เรื่องป้องกันคราบหรือรอย ก็ไม่ได้ดีไปกว่ากันซักเท่าไหร่

ข้อดีคือมันเหมาะกับคนที่รักรถแต่ไม่มีเวลาเอาไปรอเคลือบบ่อยๆ
เดี๋ยวนี้การแข่งขันสูง ราคาหมื่นเศษๆ service 3 ปีก็มีเยอะแยะ ผมว่าราคาเท่านี้พอรับได้เมื่อเทียบกับเคลือบ wax ดีๆ 3 ปี ค่าใช้จ่ายก็ไม่ต่างกันมาก ถือว่าซื้อเวลา
แต่ถ้าราคา 3-5 หมื่นนี่ไม่ไหวครับ เกินความจำเป็น
หัวข้อ: Re: พวกเคลือบกระจก ฟิล์มแก้ว นี่มันได้จริงๆเหรอครับ
เริ่มหัวข้อโดย: promt ที่ กรกฎาคม 27, 2016, 02:06:02
เหมาะสำหรับคนมีเงินครับ
หัวข้อ: Re: พวกเคลือบกระจก ฟิล์มแก้ว นี่มันได้จริงๆเหรอครับ
เริ่มหัวข้อโดย: rutxthe ที่ กรกฎาคม 27, 2016, 05:24:08
รถผมสีดำเคลือบมา 3 เดือน ราคา 25,000 ประกัน 3 ปี เซอร์วิสทุก 6 เดือน
ตอนนี้ก็เริ่มมีบางมุมเหลี่ยม ๆ น้ำเริ่มเกาะแล้ว ไม่รู้เป็นเพราะอะไร

ถามว่าคุ้มไหม ไม่คุ้มครับ มันก็เงากว่าเดิมไม่มาก แต่ถามว่าพอใจไหม โอเคเลยครับ
เพราะไม่ต้องล้างรถบ่อย ๆ เทียบกับคันที่ไม่ได้ทำ ผมล้างน้ำเปล่าแปปเดียวเสร็จ ถ้ามีฝุ่นข้างในเยอะ ๆ ค่อยเข้าคาร์แคร์ ::)
หัวข้อ: Re: พวกเคลือบกระจก ฟิล์มแก้ว นี่มันได้จริงๆเหรอครับ
เริ่มหัวข้อโดย: ps000000 ที่ กรกฎาคม 27, 2016, 06:54:17
ผมสงสัยกำไรคงดี

สามสี่ปีมานี่ ร้านรับทำผุดเป็นดอกเห็ด
หัวข้อ: Re: พวกเคลือบกระจก ฟิล์มแก้ว นี่มันได้จริงๆเหรอครับ
เริ่มหัวข้อโดย: Tien.W ที่ กรกฎาคม 27, 2016, 07:20:30
ค่าน้ำยา เคลือบแก้ว เมืองนอก มีขายมากมาย ไม่กี่บาทเองครับ แพงกว่า wax ในบ้านเรานิดเดียว ที่เหลือก็ค่าล้าง / ยาขัด ตั้งราคาสัก 8 - 9 พันบาท ยังกำไร ร่วมๆ 50% เลยครับ

ผมล้างรถเอง ลงwax ทุกเดือน ผมก็ว่า รถผมเงาไม่แพ้ใคร ที่แน่ๆ เงากว่า X1 ของน้องเขย ที่ไปเคลือบแก้วมา 3 หมื่นกว่าบาท แถมรถอายุน้อยกว่ารถผมด้วยสิ
หัวข้อ: Re: พวกเคลือบกระจก ฟิล์มแก้ว นี่มันได้จริงๆเหรอครับ
เริ่มหัวข้อโดย: jaesz ที่ กรกฎาคม 27, 2016, 07:43:48
เหมาะสำหรับคนมีเงินครับ

ตรงประเด็น..
 ::)
หัวข้อ: Re: พวกเคลือบกระจก ฟิล์มแก้ว นี่มันได้จริงๆเหรอครับ
เริ่มหัวข้อโดย: tigercovers ที่ กรกฎาคม 27, 2016, 08:19:38

เคลือบไว้มันก็ดีกว่าไม่เคลือบครับ

- เรื่องคุ้มไม่คุ้มอยู่ที่ความพอใจแต่ละคนมากกว่า
 
   บางคนรักรถมากๆมีเงินไม่ขัดสน ก็เคลือบกันไป

   บางคนลงwaxเองได้ออกกำลังกายไปด้วย ประหยัดด้วย ที่สำคัญมันเป็นความสุขทางใจด้วย ก็ว่ากันไปครับ

  แต่ยังยืนยันว่าการดูแลรักษาสีรถนั้นเป็นสิ่งที่ถูกต้องครับ   

หัวข้อ: Re: พวกเคลือบกระจก ฟิล์มแก้ว นี่มันได้จริงๆเหรอครับ
เริ่มหัวข้อโดย: ภูมิใจไหม? ที่ กรกฎาคม 27, 2016, 08:21:26
ค่าน้ำยา เคลือบแก้ว เมืองนอก มีขายมากมาย ไม่กี่บาทเองครับ แพงกว่า wax ในบ้านเรานิดเดียว ที่เหลือก็ค่าล้าง / ยาขัด ตั้งราคาสัก 8 - 9 พันบาท ยังกำไร ร่วมๆ 50% เลยครับ

ผมล้างรถเอง ลงwax ทุกเดือน ผมก็ว่า รถผมเงาไม่แพ้ใคร ที่แน่ๆ เงากว่า X1 ของน้องเขย ที่ไปเคลือบแก้วมา 3 หมื่นกว่าบาท แถมรถอายุน้อยกว่ารถผมด้วยสิ

เอารูปมาโชว์ด่วนเลยครับ  :D
หัวข้อ: Re: พวกเคลือบกระจก ฟิล์มแก้ว นี่มันได้จริงๆเหรอครับ
เริ่มหัวข้อโดย: Newhang ที่ กรกฎาคม 27, 2016, 08:55:00
ล้างรถเอง ไม่ต้องลง wax อะไรก็เงากว่าคนอื่นอยู่แล้ว เชื่อผมดิ
หัวข้อ: Re: พวกเคลือบกระจก ฟิล์มแก้ว นี่มันได้จริงๆเหรอครับ
เริ่มหัวข้อโดย: SM. ที่ กรกฎาคม 27, 2016, 09:32:34

เคลือบไว้มันก็ดีกว่าไม่เคลือบครับ

- เรื่องคุ้มไม่คุ้มอยู่ที่ความพอใจแต่ละคนมากกว่า
 
   บางคนรักรถมากๆมีเงินไม่ขัดสน ก็เคลือบกันไป

   บางคนลงwaxเองได้ออกกำลังกายไปด้วย ประหยัดด้วย ที่สำคัญมันเป็นความสุขทางใจด้วย ก็ว่ากันไปครับ

  แต่ยังยืนยันว่าการดูแลรักษาสีรถนั้นเป็นสิ่งที่ถูกต้องครับ

+1
หัวข้อ: Re: พวกเคลือบกระจก ฟิล์มแก้ว นี่มันได้จริงๆเหรอครับ
เริ่มหัวข้อโดย: mothsan ที่ กรกฎาคม 27, 2016, 09:58:22
บางทีผมก็คิดนะ ว่าเคลือบแก้วเป็นหมื่นๆ

ผมเอาตังค์ไปทำสีใหม่เลยดีกว่า จบๆ งบพอๆกัน เผลอเนื้อสีดีกว่า รง อีก
หัวข้อ: Re: พวกเคลือบกระจก ฟิล์มแก้ว นี่มันได้จริงๆเหรอครับ
เริ่มหัวข้อโดย: chaithawat ที่ กรกฎาคม 27, 2016, 10:34:18
ถ้าเคลือบกระจกฟิลม์แก้วนี่ น่าจะไม่มีนะครับมีแต่พวกน้ำยานาโนเทคที่น้ำไม่เกาะมากกว่า
แต่ถ้าเคลือบสีนี่ผมไม่รู้หรอกนะว่าแก้วจริงรึป่าวหรือแค่ส่วนผสมพวกไมก้าซิลิก้าเบส
ผมเคลือบมาแล้วล้างรถง่ายกว่าเก่าเยอะเพราะมันลื่นดี แต่....ข้อเสียคือลงแว๊กซ์เพิ่มไม่ได้เพราะเวลาวนน้ำยาไม่ค่อยเกาะผิวเท่าไร
แล้วก็ต้องเลือกน้ำยาที่จะลงผิวรถ เช่นงดพวกสเปรย์ละลายคราบยางมะตอยแมลง ที่มีโซลเว้นประกอบ และก็ต้องหนีพวกน้ำปูนพวกถนนที่กำลังก่อสร้าง ผมโดนมาแล้วด่างทั้งฝากระโปรงเลยเคลือบแก้วก็เอาไม่อยู่เหมือนกันถ้าทิ้งไว้ไม่ล้างทันที ร่อนทั้งปูนทั้งแก้วออกมาให้เห็นเลย แล้วก็ในซุ้มนี่แคะปูนไม่ออกเลย
ผมสังเกตุกันว่าชนหน้าและหลังซุ้มล้อที่ฉีดล้างบ่อยๆ  แก้วที่เคลือบไว้มันจะร่อนเป็นสะเก็ดขาวด่างๆเป็นเหมือนผิวขี้กลากหย่อมๆประมาณนั้น ถ้าเอาไฟส่องจะชัดเจนมาก คือไม่มันเรียบเงาเหมือนตะก่อน สงสัยต้องเอาเข้าไปเติมทุกปีที่เขาว่าจริงๆ
ข้อเสียมันคือจุดนี้จริงๆ นอกนั้นผมว่าดีหมดนะ
หัวข้อ: Re: พวกเคลือบกระจก ฟิล์มแก้ว นี่มันได้จริงๆเหรอครับ
เริ่มหัวข้อโดย: SLuang ที่ กรกฎาคม 27, 2016, 10:43:45
บางทีผมก็คิดนะ ว่าเคลือบแก้วเป็นหมื่นๆ

ผมเอาตังค์ไปทำสีใหม่เลยดีกว่า จบๆ งบพอๆกัน เผลอเนื้อสีดีกว่า รง อีก
   หาอู่ทีทำสีแล้วออกมาดี สม่ำเสมอเทียบเท่าสีโรงงาน   ยากพอๆ  กับงมเข็มในมหาสมุทรครับ เชื่อผมสิ
รถเคลม รถซ่อม จะซ่อมห้าง ซ่อมอู่ ไม่มีคันไหนได้สีสวยเรียบสนิทเหมือนสีโรงงาน 100% ต่อให้ทำทั้งคันก็เหอะ  อีกอย่างอายุของสีก็สู้สีโรงงานไม่ได้
หัวข้อ: Re: พวกเคลือบกระจก ฟิล์มแก้ว นี่มันได้จริงๆเหรอครับ
เริ่มหัวข้อโดย: NavaneS ที่ กรกฎาคม 27, 2016, 11:13:06
เคลือบสีธรรมดากับเคลือบแก้ว  ความเงางามก้อต่างกันนะครับ แต่จะคุ้มหรือป่าว ความคุ้มแต่ละคนไม่เท่ากันละ อันนี้วัดยาก

ถ้าสำหรับผม ถ้าต้องเคลือบแก้วราคาสามหมื่นอัพ.. อันนี้ไม่ค่อยคุ้มแล้ว
ถ้าหมื่นกว่าๆ พอรับได้

แต่รถสีดำเนี่ย..ทำแล้วมันสวยใสดีมากๆ แต่รถผมสีขาวเลยเฉยๆ ไม่ตื่นตาตื่นใจเท่าไหร่
หัวข้อ: Re: พวกเคลือบกระจก ฟิล์มแก้ว นี่มันได้จริงๆเหรอครับ
เริ่มหัวข้อโดย: madboy ที่ กรกฎาคม 27, 2016, 11:48:21
เท่าที่ลองเทียบ คันนึงเคลือบแก้ว คันนึงเคลือบสี ยี่ห้อวัตถุดิบเดียวกัน

เซอร์วิสเดือนละครั้ง เหมือนๆกัน คันเคลือบแก้ว รอยขนแมวน้อยกว่า(นิดเดียว) แต่ผิวเคลือบแก้วลื่นกว่าในระยะยาวชัดเจน (3 สัปดาห์+)

ก็ขึ้นอยู่กับท่านเจ้าของเงินล่ะครับ แต่ผมว่าไม่คุ้ม 555 ;D
หัวข้อ: Re: พวกเคลือบกระจก ฟิล์มแก้ว นี่มันได้จริงๆเหรอครับ
เริ่มหัวข้อโดย: bia ที่ กรกฎาคม 27, 2016, 13:35:38
ผมว่ามันน่าจะเหมาะกับรถสีเข้ม ไม่ก็คนขี้เกียจล้างอ่ะ เพราะมันล้างง่ายดี ว่าจะลองซื้อน้ำยามาลงเองคุ้มดี
หัวข้อ: Re: พวกเคลือบกระจก ฟิล์มแก้ว นี่มันได้จริงๆเหรอครับ
เริ่มหัวข้อโดย: beerrl ที่ กรกฎาคม 28, 2016, 21:28:27
ตอบเจ้าของกระทู้ก่อนครับ ถ้าเจอร้านที่ดี ทำถูกวิธี น้ำยาเคลือบคุณภาพดี ปกป้องได้ดีจริงครับ
แต่ ส่วนมากคนที่ทำมาแล้ว ตอนใหม่ๆดี ผ่านไปไม่ถึง 3เดือน น้ำเริ่มเกาะแล้ว อันนั้นส่วนใหญ่น่าจะโดนน้ำยาไม่ดี การทำเร่งทำให้เสร็จเร็ว พวกทำไม่กี่ ชั่วโมงเสร็จ (ผมไม่ใช่ร้านทำพวกนี้นะ เพียงแต่โดนมาแล้ว และก็ทำร้านที่ดี เห็นความต่างแบบฟ้ากับเหวมาแล้วครับ)
ส่วนการเคลือบ wax (อันนี้ก็เคยทำมาเหมือนกัน ปรกติไม่ล้างรถเอง เข้าร้านอย่างเดียว) ข้อดีคือได้ความเงา ฉ่ำ แบบเห็นแล้ว สีรถเย๊ม เงา เด้งขึ้นมาเลย ดีกว่าเคลือบแก้วแน่นอน สำหรับคนชอบแนวนี้ แต่ข้อเสียของ waxคือ ตัว waxเองมันจะมีส่วนผสมของน้ำมัน หรือ ชื่ออย่าง canuba เองก็ต้องยอมรับว่ามัน มันจะจับฝุ่นได้ดีกว่า เคลือบแก้ว ดังนั้น หลังจากล้างรถ ลง waxแล้ว มาใช้งานปรกติ ฝุ่นจะติดรถมากกว่ารถที่เคลือบแก้วมา และ ยิ่งถ้าฝนตก หลังจากจอดรถแล้วไม่ได้เช็ดน้ำออก ตอนเช้า คราบน้ำที่ติดรถลง wax จะเห็นคราบน้ำเยอะกว่า
ผม สรุปง่ายๆครับ คือ ถ้าไม่มีเวลาล้างรถเอง อยู่คอนโด ล้างรถเองไม่ได้ เคลือบแก้วดีแน่ๆ ได้การปกป้องคือ ทนกรดด่าง การขีดข่วนที่ดีกว่า wax แต่ ต้องจ่ายเงินแพงในครั้งแรก และ ต้องเจอร้านดีๆด้วยนะครับ (บอกใบ้ ให้ครับ ร้านดีๆส่วนใหญ่ ราคาที่เขาตั้งไว้ จะไม่มีมาลด แลก แจกแถม หรือ อาจจะลดหรือแถมนิดๆหน่อยๆได้บ้างครับ แต่พวกที่ลดครึ่งราคา หรือ ตั้งหมื่นเก้าเหลือเก้าพัน แบบนี้ต้องตั้งข้อสังเกตุก่อนนะครับว่า ลดเป็นหมื่นแล้วของที่มาทำให้เราหรือขั้นตอนจะลดไหม?)

แต่ถ้ามีเวลาล้างรถเอง ชอบลอง wax รุ่นนั้นรุ่นนี้ ดูแลรถเองเป็นประจำหรือเข้า car care บ่อยอยู่แล้ว เคลือบแก้วก็มีความจำเป็นน้อยครับ ยิ่งใครที่ชอบ ให้รถ ฉ่ำๆ เย๊มๆ แล้วด้วยละก้อ ล้างรถ ลง wax ดีกว่าครับ