Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: kris-lack ที่ สิงหาคม 15, 2016, 17:03:33
-
สวัสดีเพื่อนสมาชิกทุกท่าน
กระทู้นี้คงไม่มาถามว่าจะอุดหรือไม่อุด เพราะมีกระทู้ข้อถกเถียงกันมากมาย ทั้งดีทั้งไม่ดี ส่วนตัวได้ข้อสรุปว่าคงไม่อุด
ที่นี้คำถามคือ เจ้าคราบดำๆที่เขาบอกว่าเกิดจากไม่อุด EGR นี้เราสามารถป้องกันหรือดูแลรักษาเครื่องยนต์ของเราอย่างไรบ้างให้มันไม่เกิด หรือชะลอการเกิด
และระบบ EGR และส่วนที่เกี่ยวข้อง ต้องมีการดูแลอะไรเป็นพืเศษมั้ย หรือเข้าศูนย์และเปลี่ยนถ่ายตามระยะก็ ok แล้ว
ขอบคุณทุกท่านค่ะ
-
ล้างลิ้นปีกผีเสื้อ และล้างท่อร่วมไอดี บ่อยๆครับ ....
คือถ้าเคยเห็นรูปรถที่เค้าถอด ออกมาเนี่ย ลิ้นปีก และในท่อร่วมไอดี จะมีเขม่าสะสม เป็นเมือกโคลน ครับ ถ้าล้างไม่บ่อย ก็ตัน อากาศผ่านได้ไม่ดี จนทำให้รถไม่มีแรงและกินน้ำมันได้ ..
ดังนั้น ถ้ารักรถ ถอดล้างบ่อยๆ เท่าที่จะสามารถทำได้ครับ
เห็นว่ามีคนรับจ้างล้างอยู่นะครับ ครั้งละ 1-2 พันบาทนี่แหละ .....
-
ล้างลิ้นปีกผีเสื้อ และล้างท่อร่วมไอดี บ่อยๆครับ ....
คือถ้าเคยเห็นรูปรถที่เค้าถอด ออกมาเนี่ย ลิ้นปีก และในท่อร่วมไอดี จะมีเขม่าสะสม เป็นเมือกโคลน ครับ ถ้าล้างไม่บ่อย ก็ตัน อากาศผ่านได้ไม่ดี จนทำให้รถไม่มีแรงและกินน้ำมันได้ ..
ดังนั้น ถ้ารักรถ ถอดล้างบ่อยๆ เท่าที่จะสามารถทำได้ครับ
เห็นว่ามีคนรับจ้างล้างอยู่นะครับ ครั้งละ 1-2 พันบาทนี่แหละ .....
ขอถามต่อนิดนึงค่ะ
การล้างที่ว่านี้คือ ไม่ใช่การรื้อเครื่องยนต์?? ไม่แน่ใจที่เขาเรียกว่า เปิดฝาเครื่อง??
-
ผมได้อ่านมาไม่รู้จริงไหมเขาว่า EGR จะทำงานตอนที่เราใช้ความเร็วต่ำและจะตัดการทำงานเมื่อรอบเครื่องยนต์ถึงรอบตามที่โปรแกรมตั้งไว้ซึ่งแต่ละยี่ห้อคงไม่เท่ากัน
สำหรับผมไม่เคยถอดออกมาล้างเขม่าเลยตั้งแต่ซื้อรถมาจะครบเก้าปีแล้วกับระยะทางแสนแปดหมื่นกิโล มอเตอร์ EGR พังไปตัวนึงตอนหกหมื่นโล ตัวที่สองวิ่งมาแสนสองหมื่นโลแล้วยังไม่พัง(ผมใช้ดีแม็ก) แต่ของเพื่อนผมวีโก้ซื้อพร้อมๆกันยังไม่เคยเสียเลย
ฉะนั้นใช้ไปปกติเถอะครับไม่ต้องวิตก ดูแลรักษาตามคู่มือ ผมว่ารถรุ่นใหม่ๆเขาคงปรับปรุงระบบเผาไหม้มาดีแล้วคงใช้ยาวจนขายทิ้งก่อนที่ EGR จะพังถึงพังก็ตัวละไม่กี่พันถ้านับเทียบระยะทางก็คุ้มแล้ว
-
คือบำรุงรักษาตามระยะเวลาที่กำหนดนี่แหละครับ วิธีที่ดีที่สุด รถผมทุกคันไม่เคยอุดอีจีอาร์
น้ำมันเครื่องสมัยนี้ดีกว่าสมัยก่อนเยอะ ลดการเกิดคราบตะกอน คราบเขม่า ก้อนเหนียวได้เยอะ
น้ำมันเครื่องนี่สำคัญ บำรุงรักษาดีๆ เช็คตามกำหนด 10ปีรถผมยังไม่พังเลยสักคัน
รูปหากินของชาวอุดอีจีอาร์คือรูปคราบเขม่า ติดเยอะๆ เหนียวๆ ไม่ต้องซีเรียตครับ ถ้าคุณดูแลดีๆ มันไม่เยอะขนาดนั้นหรอก
ทำไมรถผมไม่อุดไม่พัง จะว่าไปก็10ปีละ มันเกินคุ้มสำหรับการใช้งานละครับ 10ปีเนี่ย
-
คือบำรุงรักษาตามระยะเวลาที่กำหนดนี่แหละครับ วิธีที่ดีที่สุด รถผมทุกคันไม่เคยอุดอีจีอาร์
น้ำมันเครื่องสมัยนี้ดีกว่าสมัยก่อนเยอะ ลดการเกิดคราบตะกอน คราบเขม่า ก้อนเหนียวได้เยอะ
น้ำมันเครื่องนี่สำคัญ บำรุงรักษาดีๆ เช็คตามกำหนด 10ปีรถผมยังไม่พังเลยสักคัน
รูปหากินของชาวอุดอีจีอาร์คือรูปคราบเขม่า ติดเยอะๆ เหนียวๆ ไม่ต้องซีเรียตครับ ถ้าคุณดูแลดีๆ มันไม่เยอะขนาดนั้นหรอก
ทำไมรถผมไม่อุดไม่พัง จะว่าไปก็10ปีละ มันเกินคุ้มสำหรับการใช้งานละครับ 10ปีเนี่ย
เขม่าตรงท่อน่ะเด็กๆครับ คุณลองถอดหัวฉีดออกมาดูสิ คันไหนไม่ได้อุดน่ะเขม่าดำแข็งๆเกาะเพียบ สมัยก่อนผมทดสอบกับรถตัวเอง 4 หมื่นโลแรกไม่ได้อุด EGR มีเขม่าตามท่อกับเกาะตามหัวฉีดเต็มไปหมด หลังจากนั้นผมก็อุด EGR ผ่านไป 4 หมื่นโล เช็คท่อกับหัวฉีดดูอีกสะอาดใสกริ๊บ ผมเลยไม่ถอดแผ่นอุดออกล่ะครับ คันใหม่ปัจจุบันซื้อมาปุ๊บก็จับอุดเลย แต่ความคิดผมใครอยากอุดก็อุดไป ใครไม่อยากอุดก็ตามสบายต่างคนต่างมีเหตุผลของตัวเอง
-
คือบำรุงรักษาตามระยะเวลาที่กำหนดนี่แหละครับ วิธีที่ดีที่สุด รถผมทุกคันไม่เคยอุดอีจีอาร์
น้ำมันเครื่องสมัยนี้ดีกว่าสมัยก่อนเยอะ ลดการเกิดคราบตะกอน คราบเขม่า ก้อนเหนียวได้เยอะ
น้ำมันเครื่องนี่สำคัญ บำรุงรักษาดีๆ เช็คตามกำหนด 10ปีรถผมยังไม่พังเลยสักคัน
รูปหากินของชาวอุดอีจีอาร์คือรูปคราบเขม่า ติดเยอะๆ เหนียวๆ ไม่ต้องซีเรียตครับ ถ้าคุณดูแลดีๆ มันไม่เยอะขนาดนั้นหรอก
ทำไมรถผมไม่อุดไม่พัง จะว่าไปก็10ปีละ มันเกินคุ้มสำหรับการใช้งานละครับ 10ปีเนี่ย
เขม่าตรงท่อน่ะเด็กๆครับ คุณลองถอดหัวฉีดออกมาดูสิ คันไหนไม่ได้อุดน่ะเขม่าดำแข็งๆเกาะเพียบ สมัยก่อนผมทดสอบกับรถตัวเอง 4 หมื่นโลแรกไม่ได้อุด EGR มีเขม่าตามท่อกับเกาะตามหัวฉีดเต็มไปหมด หลังจากนั้นผมก็อุด EGR ผ่านไป 4 หมื่นโล เช็คท่อกับหัวฉีดดูอีกสะอาดใสกริ๊บ ผมเลยไม่ถอดแผ่นอุดออกล่ะครับ คันใหม่ปัจจุบันซื้อมาปุ๊บก็จับอุดเลย แต่ความคิดผมใครอยากอุดก็อุดไป ใครไม่อยากอุดก็ตามสบายต่างคนต่างมีเหตุผลของตัวเอง
คุยกันเรื่องพวกนี้ยาวครับ ผมทะเลาะกับทีมอุดมาเป็นสิบปีละ (และทุกปีต้องทะเลาะเรื่องนี้ ในทุกคลับที่ผมสถิตย์)
ต่างคนต่างมีเหตุผลของตัวเอง ตราบใดที่รถผมใช้ทุกวัน ตลอด10ปี ยังไม่พัง
เพราะการไม่ได้อุดอีจีอาร์ ผมถือว่า ข้ออ้างนั้น ไม่ผ่านสำหรับผม
หรือมันจะพังปีที่ 11 ก็คงไม่มีน้ำหนักพอให้ผมต้องอุดอีจีอาร์
-
รถผมอิสุสุ วิ่งมาสามแสนโลละ ไม่ได้อุด ก็ไม่มีปัญหาอะไรกับ egr น่าจะเป็นเพราะว่าผมขับให้ egr มันขยับเปิดปิดอยู่เสมอ มันเลยไม่ติด เพราะปกติ egr มันจะเปิดเอาไอเสียมาเผาไหม้อีกและเมื่อเราขับเร็วถึงรอบที่กำหนดไว้มันจะปิด ซึ่งผมว่าเราไม่จำเป็นต้องไปอุดมันหรอก เพราะที่สำคัญคือมันช่วยให้ไอเสียสะอาดขึ้น ช่วยลดมลพิษที่ทำร้ายโลกเราด้วย
-
EGR ไม่จำเป็นต้องอุดครับ ส่วนเรื่องของการรักษา ถ้าเป็นคนขับรถเร็ว กระแทกคันเร่งเป็นบ้างครั้ง EGR จะค่อนข้างเขม่าน้อยครับ ผม ranger วิ่งได้ แสนโล เลยถอดล้างครั้งนึง แทบไม่มีเขม่าครับ (เสียดายไม่ได้ถ่ายรูปเก็บไว้) แต่เทียบคันอื่นๆ ที่วิ่งปกติ ไม่ได้เร็วมาก จะมี คราบดำๆ เป็นเหมือกเกาะเต็มครับ ถ้าเป็นไปได้ลองถอดล้างดูครับ แต่ให้ศูนย์หรือให้ผู้เชียวชาญทำครับ เพราะแกะยาก ใช้เวลาพอสมควรครับ
-
เรื่องอุดหรือไม่อุดระบบ EGR อันนี้แล้วแต่ส่วนบุคคลครับ
รถวิ่งในเมืองหรือวิ่งรถติดๆ วิ่งเรื่อยๆ ระบบEGR ทำงานอยู่ คราบดำและเขม่าจะเกาะทางเข้าไอดีและลิ้นปีกผีเสื้อเยอะกว่า
เมื่อวิ่งความเร็วสูงหรือวิ่งต่างจังหวัดบ่อยๆหรือคิกดาวน์บ่อยๆ ระบบEGR จะปิด 100% คราบดำและเขม่าจะเกาะทางเข้าไอดีและลิ้นปีกผีเสื้อบางๆครับ
-
เปลี่ยนกรองโซล่าทุก2-3ปีครั้ง วิ่งมาก40,000กม. พร้อมน้ำมันเกียร์
ใช้น้ำมันเครื่องสังเคราห์ที่ได้มาตรฐานvds4 หรือdexos2
ของไทยมีทุกยี่ห้อ7ลิตรไม่เกินสองพัน รวมของแถม
เติมน้ำมันดีเซล ยูโร5 มียี่ห้อเดียว ถ้าหาไม่ได้เติมยี่ห้ออื่นเป็นยูโร4 ได้ทั้งหมด
ห้ามเติมปั้มหลอดที่มาจากประเทศเพื่อนบ้าน
ใส่หัวเชื้อดีเซลหรือที่ศูนย์เรียกน้ำยาล้างหัวฉีด แต่ราคาของห้างจะแพงกว่ามาก
ถ้าซื้อของเสือกระป๋องทองใหญ่ไม่เกินสองร้อย เติมทุก5,000กม.
ล้างท่อไอดีแต่ต้องเปลี่ยนประเก็นท่อ 50,000กม.ล้างที ถ้าเดินเบาเรียบ เร่งไม่อั้น
หลังจากตัดแคททิ้งแล้ว ล้างหม้อพักไอเสียส่วนท้ายปีละครั้ง ไม่งั้นตรวจสภาพไม่ผ่าน
เอาน้ำเติมลงไปให้ล้น แล้วเร่งเครื่องดันน้ำกับเขม่าออกมาจนใส สิบล้อทำประจำ
-
เคยได้ยินมาประมาณนี้ ถ้าขับในเมืองรถติดประจำ สัก 2-3 เดือนพยายามวิ่งถนนโล่งๆ กดคันเร่งเพิ่มสักนิดเพื่อลดคราบเขม่า จริง/เท็จไม่มีข้อมูล
รถวิ่งในเมืองหรือวิ่งรถติดๆ วิ่งเรื่อยๆ ระบบEGR ทำงานอยู่ คราบดำและเขม่าจะเกาะทางเข้าไอดีและลิ้นปีกผีเสื้อเยอะกว่า
เมื่อวิ่งความเร็วสูงหรือวิ่งต่างจังหวัดบ่อยๆหรือคิกดาวน์บ่อยๆ ระบบEGR จะปิด 100% คราบดำและเขม่าจะเกาะทางเข้าไอดีและลิ้นปีกผีเสื้อบางๆครับ
-
รักรถ ดูแลรถเอาตามความเชื่อที่มีของแต่ละคนเถอะครับ
อุดไม่อุด เวลาวิ่งบนถนน ไม่มีใครรู้หรอกครับ ขับแล้ว สบายใจ ถ้าถอดล้าง แล้วสบายใจ ถ้าอุดแล้ว สบายใจ ก็สุดแท้แต่จะเลือกปฏิบัติครับ ...
เลือกทำตามความเชื่อที่มี รถใครรถมันครับ ....
-
ตอนใช้ Pajero ตัวแรกไม่ได้อุดคับ ...แล้ววันหนึ่งขับๆ อยู่ EGR มันก็ตัน (จริงๆ มันสะสมมาเรื่อยๆ แต่เพิ่งออกอาการ) ระยะวิ่งประมาณแสนสี่... เครื่องกระพือ เกียร์ไม่ยอมเปลี่ยน เสียงคำรามน่ากัวมาก...ดีที่ว่าอยู่ใกล้บ้านไม่ใช่จังหวะเที่ยวอยู่บนดอย ก็ขับถูไถกลับไปได้...วิธีแก้ก็ง่ายๆ ครับ ถอด clean ทั้งระบบ รื้อกระจาย แต่ก็ไม่มีอะไรพัง
นับจากนั้นมาซื้อรถใหม่ จับอุดมันทุกคัน...
8)
-
รถผม dmax'12 ออกป้ายแดงไม่อุด จน4หมื่นอุด แล้ววิ่งไปอีก 4หมื่นเอาออก การขับขี่ผมไม่รู้สึกว่าต่างนะ ส่วนเรื่องคราบจะมากน้อยที่ปีกผีเสื้อหรือหัวฉีดค่อยว่ากันอีกที วิ่งมาจะแสนโลก็แฮ้ปปี้ดี อ่อ.. ยังไม่เคยล้างปีกและหัวฉีดเลยนะครับ
-
เครื่องคอมมอนเรลสมัยนี้ อุดไม่อุด ผมคิดว่าแทบไม่ต่างนะ แต่ลองเป็นเครื่องรุ่นเก่า อย่างเครื่องของดีแม้กตัวแรก ที่เป็นเครื่อง ไดเรค อะครับ ถ้าไม่อุดนี่ใช้ไปนานๆรู้เรื่องเลย
อืดอาดยืดยาด สุดๆ ควันนี่ดำยิ่งกว่ารถดันรางอีก