Headlight Magazine : community

General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: iamnobody ที่ สิงหาคม 18, 2016, 17:14:32

หัวข้อ: ทำไมถึงแนะนำว่าถ้าใช้รถปีนึงเยอะๆ ให้ใช้รถญี่ปุ่นดีกว่าครับ
เริ่มหัวข้อโดย: iamnobody ที่ สิงหาคม 18, 2016, 17:14:32
คุยๆ กับหลายคน บอกว่าถ้าใช้รถปีละ 3-4 หมื่น กม. ให้ใช้รถญี่ปุ่นดีกว่า
(จะให้ชัดกว่านั้นคือให้ใช้โตโยต้าครับ)
ตามที่ผมเคยใช้มาก็ว่าโตโยต้ามันทนจริง แต่ก็คิดว่ารถยุโรปมันน่าจะทนกว่าหรือเปล่าครับ
คือตัวรถก็แพงกว่า อะไหล่ก็แพงกว่า มันน่าจะทนทานกว่ารถญี่ปุ่นหรือเปล่า
หรือมันมีเหตุผลอื่นนอกจากนี้ครับ เช่นพวกค่าบำรุงรักษาที่สูงมาก (ที่ใช้อยู่ทุกวันนี้เช็คระยะทุกหมื่นโลก็เลียประมาณ 3-4 พันครับ มีบางครั้งที่โดดไปเกือบหมื่น)

โดยปกติผมก็ใช้รถเยอะพอสมควรครับ ตกปีละ 3 หมื่น กม. นิดๆ คือใช้คันเดียวกับภรรยา
วิ่งไปวิ่งมาเกือบทั้งวัน ส่วนใหญ่จะไปไหนด้วยกันตลอดเลยไม่จำเป็นต้องใช้รถแยกกันครับ
แต่ก็จะใช้งานประมาณไม่เกิน 1.5 แสนโลแล้วก็เปลี่ยนครับ ตอนนี้ใจผมไปค่ายยุโรปแล้วครับ
แต่มาดู option camry แล้วหวั่นไหวครับ  :P
หัวข้อ: Re: ทำไมถึงแนะนำว่าถ้าใช้รถปีนึงเยอะๆ ให้ใช้รถญี่ปุ่นดีกว่าครับ
เริ่มหัวข้อโดย: ซิ่งเข้าส้วม ที่ สิงหาคม 18, 2016, 17:21:55
แพงกว่าเพราะวัสดุ เทคโนโลยี ภาษีและความพรีเมี่ยม แต่ไม่ได้แพงเพราะทนทานครับ
หัวข้อ: Re: ทำไมถึงแนะนำว่าถ้าใช้รถปีนึงเยอะๆ ให้ใช้รถญี่ปุ่นดีกว่าครับ
เริ่มหัวข้อโดย: ภูมิใจไหม? ที่ สิงหาคม 18, 2016, 17:24:41
วิ่งเยอะ รถอะไรก็พังครับ

ซื้อรถที่ราคาถูกกว่างบประมาณที่ตั้งไว้ก็ดีครับ

อย่าให้ถึงเพดานงบ หรือเกินงบ เอาแบบสบาย ๆ รถเสื่อมมากจะได้ไม่เสียดายเงิน

คราวนี้ก็อยุ่ที่งบละครับ ว่ากี่ล้าน  8)
หัวข้อ: Re: ทำไมถึงแนะนำว่าถ้าใช้รถปีนึงเยอะๆ ให้ใช้รถญี่ปุ่นดีกว่าครับ
เริ่มหัวข้อโดย: akewizard ที่ สิงหาคม 18, 2016, 17:29:48
ผมยังไม่ค่อยเจอใครมาคุยประมาณนี้นะครับ..

แต่เดาเอาว่าน่าจะเป็นเรื่องค่าบำรุงรักษา เวลาคิดต่อปีแล้วรถญี่ปุ่นมันถูกกว่ารถฝั่งยุโรปชัดเจน คือมันดูคุ้มค่ากว่านั่นเอง
หัวข้อ: Re: ทำไมถึงแนะนำว่าถ้าใช้รถปีนึงเยอะๆ ให้ใช้รถญี่ปุ่นดีกว่าครับ
เริ่มหัวข้อโดย: Slipknot` ที่ สิงหาคม 18, 2016, 17:31:18
ประหยัดคชจ.ไงครับ รถถูกกว่า ซ่อมบำรุงและคชจ.อื่นๆถูกกว่า
รถเน้นใช้งานไม่ต้องแพงระดับยุโรปก็ได้ แต่ถ้าเหลือๆไม่สนใจอะไร จะใช้อะไรก็แล้วแต่ชอบเลยครับ
ลองมองกลับกัน ใช้เยอะๆอยู่กับมันแทบจะทุกเวลา ถ้าได้รถดีความปลอดภัยมันก็สำคัญสำหรับชีวิต
หัวข้อ: Re: ทำไมถึงแนะนำว่าถ้าใช้รถปีนึงเยอะๆ ให้ใช้รถญี่ปุ่นดีกว่าครับ
เริ่มหัวข้อโดย: Pegasus7700 ที่ สิงหาคม 18, 2016, 17:41:19
มีแต่คนเชียยุโรปนะ ไปฟังที่ไหนมาละ เชลโตน้าป่าวคะ
หัวข้อ: Re: ทำไมถึงแนะนำว่าถ้าใช้รถปีนึงเยอะๆ ให้ใช้รถญี่ปุ่นดีกว่าครับ
เริ่มหัวข้อโดย: iamnobody ที่ สิงหาคม 18, 2016, 17:51:27
จริงๆ แล้วซื้อรถแพงๆ มาใช้งานเยอะๆ ผมก็เสียดายนะครับ
แต่จะซื้อมาจอดเป็นส่วนใหญ่เวลาขับก็ต้องระวังๆ ก็รู้สึกใช้งานไม่คุ้ม

รถที่ใช้อยู่ปัจจุบันก็ไม่ได้ใช้งานทุกวันครับ เดือนนึงน่าจะขับสัก 20 วัน วันละเกินร้อยโลครับ
ตอนนี้แสนกว่าโลแล้วก็ยังรู้สึกว่ามันยังไม่โทรมเลยครับ หนังที่เบาะยังไม่มีรอยยับเลย
ที่อยากลองรถยุโรปซักครั้งเนื่องจากต้องการสนองความฝันเกือบ 100% เลยครับ
นี่ก็อายุเยอะแล้วเดี๋ยวจะไม่มีแรงขับซะก่อนครับ
ส่วนเรื่องภาพลักษณ์ผมไม่ได้ซีเรียสครับ เวลาจอดรถชอบไปแอบๆ จอดตรงมุมๆ อยู่แล้ว (จะได้ไม่โดนใครเปิดประตูชน)

แต่ก็ว่าจะไปลองดู camry ก่อนครับ โชว์รูมหน้าบ้านรู้สึกว่ายังไม่มีรถมาลงเลย
เห็น option แล้วน่าสนใจมากๆ แต่ตัวผมก็เข็ดกับรถไฮบริดพอสมควรครับ ตอนแรกถึงกับตั้งโจทย์ไว้เลยว่าคันใหม่จะไม่เอาไฮบริดเด็ดขาดเลย

หัวข้อ: Re: ทำไมถึงแนะนำว่าถ้าใช้รถปีนึงเยอะๆ ให้ใช้รถญี่ปุ่นดีกว่าครับ
เริ่มหัวข้อโดย: Activehybrid ที่ สิงหาคม 18, 2016, 17:53:35
ขับ Yaris  5 ปี 200,000 กิโลเมตร  เอาไปขายขาดทุนไม่เกิน          150,000

ขับ 118i   5 ปี 200,000 กิโลเมตร  เอาไปขายขาดทุนไม่น่าต่ำกว่า 1,000,000

หัวข้อ: Re: ทำไมถึงแนะนำว่าถ้าใช้รถปีนึงเยอะๆ ให้ใช้รถญี่ปุ่นดีกว่าครับ
เริ่มหัวข้อโดย: OXYGEN2 ที่ สิงหาคม 18, 2016, 17:55:55
ถ้าบำรุงรักษาถึง รถยุโรบก็ไม่น่าจะพังครับ
หัวข้อ: Re: ทำไมถึงแนะนำว่าถ้าใช้รถปีนึงเยอะๆ ให้ใช้รถญี่ปุ่นดีกว่าครับ
เริ่มหัวข้อโดย: maxillofacial surgeon ที่ สิงหาคม 18, 2016, 17:58:32
ด้วยความเคารพน่ะครับ
   
 ก็คงต้องเอาเหตัผลหลายๆอย่างมาประกอบกัน   แต่ส่วนตัวผมคิดว่า
 ผมนั่งbm แล้วรู้สึกมั่นใจในความปลอดภัยมากกว่า  camry   
  Camry  ผมก็มีครับ
ยิ่งชอบขับรถเร็วแล้วด้วย   มันอาจจะเป็นแค่ส่วนประกอบในการตัดสินใจด้วยส่วนนึง
ในตอนที่ยังเลือกไม่ได้  ก็ตามงบประมาณที่ผมมีครับ
หัวข้อ: Re: ทำไมถึงแนะนำว่าถ้าใช้รถปีนึงเยอะๆ ให้ใช้รถญี่ปุ่นดีกว่าครับ
เริ่มหัวข้อโดย: belkw202 ที่ สิงหาคม 18, 2016, 18:10:12
ผมคิดว่ามันเป็นเรื่องเงินล้วนๆครับ ความคุ้มค่าของเงินในความคิดเห็นแต่ละคนมันไม่เท่ากัน
ถ้าให้เลือกขับรถสักคันไม่ว่าจะแค่ 1 กิโล หรือกี่ปีก้ตามฟรีๆ ผมเชื่อว่าทุกคนก็ต้องอยากขับรถที่ดีกว่าอยู่แล้ว
ทีนี้พอมีเรื่องของคชจเข้ามาเกี่ยวข้องเลยทำให้แต่ละคนมองแตกต่างกันไป เงินคุณเองคุ้มไม่คุ้มมันอยู่ที่คุณครับ
หัวข้อ: Re: ทำไมถึงแนะนำว่าถ้าใช้รถปีนึงเยอะๆ ให้ใช้รถญี่ปุ่นดีกว่าครับ
เริ่มหัวข้อโดย: veturilo ที่ สิงหาคม 18, 2016, 18:10:40
หลักๆค่าบำรุงรักษามันถูกกว่าครับ ไม่จุกจิก ช่างไหนๆก็ซ่อมได้ ถ้าเป็นรถตลาด
สิ่งที่ผมพบอีกอย่างคือรถญี่ปุ่นมันถูกกับอากาศบ้านเราครับ
MB, BMW มันจะเริ่มออกอาการหลังจาก 5 ปีไปแล้ว
ถ้าใช้เยอะแต่ขายก่อนแสนห้าหมื่นโลแน่ๆ แปลว่าขายก่อน 5 ปีแน่ๆ
จัดยี่ห้ออะไร ยุโรป ญี่ปุ่น ก็ได้ครับที่ไม่มีข่าวขึ้นรถลากบ่อยๆ

ส่วนรถจำพวก Hybrid (HV), PHV (Plug-in), หรือรถไฟฟ้าล้วนๆ (BEV)
ยังมีจุดอ่อนที่ Battery กับสภาพอากาศบ้านเราครับ
บ้านเรามันร้อนตลอดโคตรๆทั้งปี ขณะที่เมืองอื่นๆเค้าร้อนบ้างเย็นบ้างตามฤดูกาล
ดังนั้น ถ้าใครกลัวว่า Battery มันจะเน่าก่อนวัยอันควรก็เลี่ยงๆไปก่อนก็ได้ครับ
หัวข้อ: Re: ทำไมถึงแนะนำว่าถ้าใช้รถปีนึงเยอะๆ ให้ใช้รถญี่ปุ่นดีกว่าครับ
เริ่มหัวข้อโดย: Nonlamer ที่ สิงหาคม 18, 2016, 18:13:20
น่าจะเพราะค่าบำรุงรักษาครับ อีกส่วนนึงอาจจะเป็นเพราะถ้าเกิดต้องซ่อมต้องเปลี่ยนอะไหล่จะมีแนวโน้มที่จะกลับมาใช้งานได้เร็วกว่าทำให้ไม่ต้องรอนานครับ
หัวข้อ: Re: ทำไมถึงแนะนำว่าถ้าใช้รถปีนึงเยอะๆ ให้ใช้รถญี่ปุ่นดีกว่าครับ
เริ่มหัวข้อโดย: sukhontha ที่ สิงหาคม 18, 2016, 19:16:06
....รถกะบะ  ผมใช้ ญี่ปุ่น
  ..... เก๋ง  ผมใช้ มือสอง  แต่ไม่เลือกยุ่น  ด้วยเหตุผล...
   -  ความปลอดภัย  อันดับ 1  ซึ่ง ยุ่นให้ไม่ได้ในราคานี้
   -  ราคาพอรับได้  ไม่ใช่แพงระยับถ้าออกป้ายแดง
   -  ค่าดูแลรับได้

    ผมใช้เพียงยี่ห้อเดียว ซึ่งคนไม่กล้าใช้กัน  ตอนนี้ยังใช้อยู่ 2 คัน

     คันแรก ซื้อมา 3 ปีที่แล้ว    ผมซื้อห้าแสนเก้า (ถ้าป้ายแดง  สองล้านเจ็ด) เปลี่ยนยางใหม่ ติดแก๊สลงไป ไม่ต้องปรับสภาพ..ใช้มาหกหมื่นโล  ค่าใช้จ่าย   ไม่รวมของเหลว ยาง และเชื้อเพลิง ... จ่ายเพิ่มยังไม่เกินสองหมื่น...ก็ไม่เห็นจุกจิกตรงไหน?
     คันล่าสุด ซื้อมา ปีครึ่ง  ..สองแสนเจ็ด  (ป้ายแดง  สามล้านสอง) ปรับสภาพ+แก๊ส ประมาณ 8 หมื่น  ตอนนี้ใช้มาสองหมื่นโล  ก็ไม่เห็นจุกจิกอะไร เปลี่ยนคอมแอร์เพิ่มไปลูกหนึ่ง หกพัน ที่เหลือจ่ายเฉพาะค่า เชื้อเพลิง+ของเหลว

     ให้ผมไม่ขับ ยุ่นที่ค่าดูแลเท่า ๆกัน ปีเท่า ๆ กัน  ทำใจไม่ได้  หารออกมามันแพง...คันที่ซื้อห้าแสนเก้า รถ 10 ปี  ซื้อในราคาลด ร้อยละ80...
หัวข้อ: Re: ทำไมถึงแนะนำว่าถ้าใช้รถปีนึงเยอะๆ ให้ใช้รถญี่ปุ่นดีกว่าครับ
เริ่มหัวข้อโดย: focus2012 ที่ สิงหาคม 18, 2016, 19:23:07
ผมว่าจริงนะครับ รถญี่ปุ่นทนกว่า พวกรถยุปโรป รถอเมริกันเยอะเหมือนกันครับ ทั้งจับดมแก๊สยิ่งเห็นผลนะครับผมว่า
หัวข้อ: Re: ทำไมถึงแนะนำว่าถ้าใช้รถปีนึงเยอะๆ ให้ใช้รถญี่ปุ่นดีกว่าครับ
เริ่มหัวข้อโดย: dekdemo ที่ สิงหาคม 18, 2016, 19:38:27
option อะไรทำให้หวั่นไหวครับ ช่วยpmบอกผมทีครับ และผมอนุญาติขอเบอร์เซลล์ +รายละเอียดส่วนลดรถยุโรปทีครับ ขอบคุณครับ
หัวข้อ: Re: ทำไมถึงแนะนำว่าถ้าใช้รถปีนึงเยอะๆ ให้ใช้รถญี่ปุ่นดีกว่าครับ
เริ่มหัวข้อโดย: Auto ที่ สิงหาคม 18, 2016, 20:11:39
ใช้งานประมาณไม่เกิน 1.5 แสนโลแล้วก็เปลี่ยน

ถ้าไม่มีปัญหาเรื่องการเงินและการเปลี่ยนรถด้วยเวลาขนาดนี้ผมว่าไปยุโรปก็ดีครับ
หัวข้อ: Re: ทำไมถึงแนะนำว่าถ้าใช้รถปีนึงเยอะๆ ให้ใช้รถญี่ปุ่นดีกว่าครับ
เริ่มหัวข้อโดย: Seco ที่ สิงหาคม 18, 2016, 20:20:03
แพงกว่าเพราะวัสดุ เทคโนโลยี ภาษีและความพรีเมี่ยม แต่ไม่ได้แพงเพราะทนทานครับ
ไม่ได้แพงเพราะทนทานนี่ยังไงหรอคับ งง เคยมีประสบการณ์หรือฟังเค้ามาคับ
หัวข้อ: Re: ทำไมถึงแนะนำว่าถ้าใช้รถปีนึงเยอะๆ ให้ใช้รถญี่ปุ่นดีกว่าครับ
เริ่มหัวข้อโดย: iamnobody ที่ สิงหาคม 18, 2016, 20:35:11
option อะไรทำให้หวั่นไหวครับ ช่วยpmบอกผมทีครับ และผมอนุญาติขอเบอร์เซลล์ +รายละเอียดส่วนลดรถยุโรปทีครับ ขอบคุณครับ

มันก็ไม่ได้ขนาดนั้นหรอกครับ แต่นอกเหนือจาก cx-5 ที่อัด option ด้านความปลอดภัยและเทคโนโลยีมาเต็ม (แต่เรื่องหน้าตากับฟิลลิ่งการขับไม่ค่อยตรงใจผมเท่าไหร่)
ก็เห็นมี camry นี่แหละที่ผมดูแล้วชอบ option ครับ และก็พวกเบาะเป่าลมนี่ผมว่ามันใช้งานได้จริงครับ
จะว่าไป accord ก็ให้มาไม่น้อยหน้าแต่ผมเคยใช้ซีวิค fd แล้วรู้สึกอะไหล่บางตัวมันไม่ค่อยทนทานนักครับ

ส่วนเรื่องส่วนลดค่อยยุโรปตอนนี้ผมได้เงื่อนไขมาแค่ 320i luxury ลดเกือบ 4 แสน  และ c class estate ลด 3.5 แสนน่ะครับ
หัวข้อ: Re: ทำไมถึงแนะนำว่าถ้าใช้รถปีนึงเยอะๆ ให้ใช้รถญี่ปุ่นดีกว่าครับ
เริ่มหัวข้อโดย: SETTHASART ที่ สิงหาคม 18, 2016, 21:23:45
ผมว่าเรื่องทนทานมันก็ไม่ได้เกินหน้าเกินตากันซักเท่าไหร่หรอกครับ แต่เมืองไทยส่วนมากรถญี่ปุ่นเป็นเจ้าตลาด มันน่าจะสะดวกเรื่องเซอร์วิสมากกว่า
หัวข้อ: Re: ทำไมถึงแนะนำว่าถ้าใช้รถปีนึงเยอะๆ ให้ใช้รถญี่ปุ่นดีกว่าครับ
เริ่มหัวข้อโดย: ttcl ที่ สิงหาคม 18, 2016, 21:41:26
ผมว่าผมใช้รถรุ่นเดียวกับคุณเจ้าของกระทู้อยู่คันนึงนะ  ;)
สอบถามหน่อยครับที่บอกว่าเข็ดกับรถไฮบริด นี่เพราะอะไรครับ ผมจะได้เตรียมตัวไว้  :)

ผมก็มีอายุพอสมควรแล้วเหมือนกัน ไม่ใช่วัยรุ่นแล้ว เคยใช้รถมาทั้งรถญี่ปุ่นและรถยุโรป ไม่ได้ตั้งแง่รังเกียจรถใดๆเป็นพิเศษ
( ผมตอบยาวหน่อย เห็นว่ามีอายุแล้วเหมือนกัน และใช้รถรุ่นเดียวกันอยู่ คงมีมุมมองในบางเรื่องคล้ายๆกัน )

ผมเห็นด้วยกับหลายๆท่านนะ ว่า รถมันก็มีหลายมุม แต่ละคนก็ให้น้ำหนักความสำคัญในแต่ละมุมไม่เท่ากัน ขึ้นอยู่กับบริบทของแต่ละคน เช่น อายุ ฐานะ สภาพการใช้งาน สภาพถนนที่ใช้ประจำ ความชอบส่วนตัว ความฝัน ฯลฯ

คนที่บอกว่ารถญี่ปุ่นดีกว่า ก็ไม่ผิด เพราะในบริบทของตัวเค้า เค้าก็อาจให้ความสำคัญในเรื่องที่รถญี่ปุ่นทำได้ดีกว่า ที่คุณเจ้าของกระทู้บอกว่าคุยกับหลายๆคน ก็ต้องดูบริบทของคนๆนั้นครับว่าทำไมถึงบอกเช่นนั้น คงต้องถามต่อว่าเพราะอะไรถึงบอกเช่นนั้น เราก็จะรู้ว่าเค้าให้ความสำคัญในประเด็นไหน
บางคนไม่ได้ชอบเรื่องรถ ไม่ได้มีกิเลสด้านนี้ ไม่ได้ให้ความสำคัญกับเรื่องรถเท่าไหร่ มองรถแค่เป็นพาหนะพาจากจุด a ไปจุด b เพื่อไปทำงานหรือทำสิ่งที่เค้าให้ความสำคัญ ถึงแม้เค้าจะมีอายุ มีกำลังทรัพย์พอที่จะซื้อรถยุโรปได้ เค้าก็อาจจะซื้อรถญี่ปุ่น ซึ่งก็เห็นเป็นแบบนี้หลายคน

ส่วนคนที่บอกว่ารถยุโรปดีกว่า ก็ไม่ผิดในบริบทของเค้าเช่นกัน เค้าก็อาจให้น้ำหนักความสำคัญในเรื่องที่รถยุโรปทำได้ดีกว่า ตอบโจทย์ได้มากกว่า
อย่างเช่นคุณเจ้าของกระทู้บอกว่าใจไปค่ายยุโรปแล้ว ก็ด้วยบริบทที่เคยใช้รถญี่ปุ่นมาแล้ว ยังไม่เคยใช้รถยุโรป และเนื่องจากตอนนี้มีอายุเยอะแล้ว มีกำลังทรัพย์พอที่จะซื้อได้ ประกอบกับชอบเรื่องรถ จึงอยากจะสนองความฝัน

ผมบอกได้เฉพาะคันที่ผมเคยใช้มา (ย้ำครับว่าเฉพาะคันที่เคยใช้) ถ้าในด้านความทนทานของอะไหล่ที่ว่าอะไหล่แพงกว่าน่าจะทนกว่า ผมยังไม่เห็นความแตกต่างอย่างมีนัยยะสำคัญนะครับ

ที่แตกต่างก็คือ รถญี่ปุ่นที่ผมใช้เวลาเข้าศูนย์ ศูนย์จะซ่อมเรื่องไหนหรือจะเปลี่ยนอะไหล่ตัวไหน ราคาก็ไม่แพง
แต่รถยุโรปที่ใช้ ราคาเฉลี่ยต่อครั้งที่เข้าศูนย์ แพงกว่าตามสัดส่วนราคารถน่ะครับ ซึ่งตอนนี้ผมมีอู่นอกที่สนิทกันแล้วเนื่องจากใช้บริการกันมานาน เลยไม่มีปัญหาตรงนี้
อีกเรื่องคือ รถญี่ปุ่นคันที่ผมใช้เข้าศูนย์ ถ้าแค่เช็คระยะ ไม่ต้องนัดคิว และรับกลับได้เลยวันนั้น หรือถ้าค้างก็ใช้เวลาแค่ 2-3 วัน
ส่วนรถยุโรปที่ใช้ ถ้าเข้าศูนย์ มีหลายครั้งที่ใช้เวลาประมาณ 1 อาทิตย์ และบางยี่ห้อต้องนัดคิวเข้าซ่อมด้วย

แต่เดี๋ยวนี้รถยุโรปหลายค่ายมี warranty และบำรุงรักษาฟรี
 ไม่เหมือนรถที่คุณเจ้าของกระทู้กับผมใช้อยู่ ที่ warranty 3 ปี (แบต 10 ปี , inverter ถ้าเคยอัพเดท software จากจดหมายที่เรียกให้อัพเดท ก็ประกัน inverter เพิ่มเป็น 10 ปี) ส่วนค่าบำรุงรักษา เจ้าของรถต้องจ่ายเองตั้งแต่ปีแรก
รายละเอียดแต่ละค่ายที่ให้บำรุงรักษาฟรี ก็ไม่เท่ากัน คงต้องไปดูในรายละเอียดของแต่ละค่าย (ไม่ได้ฟรีทุกรายการอะไหล่)

ถ้าคุณเจ้าของกระทู้บอกว่าใช้รถปีละสามหมื่นกว่ากิโล ใช้ประมาณ 150,000 กิโล แล้วขาย ก็เลือกค่ายที่ให้บำรุงรักษาฟรี 5 ปี ก็ได้ครับ และตอนขายก็ขายให้มีระยะเวลา warranty และบำรุงรักษาฟรีให้ผู้ซื้อไว้หน่อย เพื่อให้ผู้ซื้อเกิดความมั่นใจ ก็จะได้ราคาที่ดีกว่าขายเมื่อหมด warranty หมดบำรุงรักษาฟรี

พอมี warranty และบำรุงรักษาฟรีแล้ว ทีนี้มาดูเรื่องราคาขายต่อ ซึ่งแต่ละยี่ห้อก็ลดลงใน % ที่ไม่เท่ากัน เท่าที่ผมเคยใช้เองและเคยศึกษาราคามาบ้าง ถ้ารถทั่วๆไป ไม่ใช่รถแนวพิเศษอะไร พอถึง 5 ปี benz bmw ราคาเหลือประมาณ 50% ของราคาที่ซื้อมา , volvo เหลือประมาณ 30% (ลองดูในเว็บพวก taladrod ก็ได้ครับ ปีนี้ปี 16 เราก็ดูรถปี 11 ว่าราคาเหลือประมาณกี่ % ของราคารถใหม่คันนั้น)

พอจะบอกได้มั๊ยครับว่าสนใจรถรุ่นไหนไว้บ้าง
หัวข้อ: Re: ทำไมถึงแนะนำว่าถ้าใช้รถปีนึงเยอะๆ ให้ใช้รถญี่ปุ่นดีกว่าครับ
เริ่มหัวข้อโดย: Pan Paitoonpong ที่ สิงหาคม 18, 2016, 22:03:15
ถ้าแพงกว่าแล้วต้องทนกว่า Rolls-Royce คงทนที่สุดในบรรดารถเก๋งแล้วครับ

ส่วนเรื่องใช้งานปีละเยอะๆ..ผมดูก่อนเยอะแค่ไหน ถ้าแค่ 30,000 โลผมจัดว่าปานกลางครับ ถ้าคำว่าเยอะของผมหมายถึงพวกวิ่งปีละ 50,000 กิโลเมตรขึ้นไป รถพวกนี้ใช้ 5 ปี ตอนขายก็วิ่งไป 250,000 แล้ว รายการที่จะต้องทำมันเยอะครับ ต่อให้บางคนบอกเครื่องทนได้ เกียร์ทนได้ แต่เราไม่มีทางรู้ว่าทุกคนจะรักษารถเท่ากันหรือเปล่า การแนะนำให้คนใช้รถญี่ปุ่น..ผมคงต้องบอกด้วยว่าต้องเป็นรถญี่ปุ่น 1.2-1.8 ลิตร Ecocar- C-segment นะ เพราะถ้าเล่นญี่ปุ่นแบบ Lexus ตอนมันไม่เสียมันก็ไม่เสีย แต่พอมันเสียขึ้นมา ค่าซ่อมก็ไม่ใช่ถูกๆครับ

คนที่บอกว่าวิ่งรถปีละเยอะๆให้ใช้รถญี่ปุ่นดีกว่า เขามองจากเรื่องการเซฟเงินกับความจุกจิกครับ ไม่ได้มองจากเรื่องอรรถรสการขับขี่ ความผ่อนคลายเวลาขับ หรือเรื่องเซฟตี้ เวลาผมแนะใครซื้อรถผมก็ดูก่อน ถ้าวิ่งปีละเยอะจริง แต่บ้านรวยมาก ก็ไม่ผิดที่จะซื้อรถยุโรป ถ้าวิ่งเยอะ บ้านรวยปานกลาง แต่ซ่อมและดูแลรถเป็น..ไปยุโรปได้เหมือนกัน แต่ถ้าวิ่งเยอะ ฐานะปานกลาง ไม่ค่อยมีเวลาในการดูแลรถ ไม่มีช่างหรืออู่ประจำที่ไว้ใจได้ ผมก็แนะให้ห่างๆรถยุโรปไว้ก่อน

ผมเจอมาอย่างน้อย 3 คนแล้ว ซื้อรถยุโรปเพราะคิดว่าราคาหลายล้าน ทุกอย่างต้องทน ต้องดีไปตามราคา สุดท้ายน้ำเข้าไฟหน้า ไฟรวน กล่องเกียร์รวน ใช้เป็นรถคันเดียวในบ้าน เก็บเงินมานานเพราะอยากเล่นยุโรป แบบนี้เป็นทุกข์ในลาภ มันถึงต้องอยู่ที่รูปแบบการใช้งานด้วย หรือเอาเพื่อนผมอีกคน..หรือสองคน..ก็ได้ รถยุโรป ราคาเท่าญี่ปุ่น D-Segment น้ำมันเครื่องหาย รถวิ่งไม่กี่กิโล น้ำมันเครื่องหายจนเครื่องพัง รถใหม่ไม่กี่ปียกเกียร์ไปสี่ลูก ช่างวิเคราะห์ไปส่งๆ ช่างเก่งๆหนีไปทำอู่นอกกันหมด นี่ขนาดรถขายหลักปีละร้อยคัน ยังเจอเคสมากกว่ารถญี่ปุ่นบางรุ่นที่ขายปีละหลักพันหลักหมื่นคัน เราดูกันตามสถิติรถที่ขายไป/รถที่มีเคสร้องเรียนก็เป็นสถิติเบื้องต้นได้ครับ ไม่ใช่นั่งเทียนเอา

ผมไม่ได้แอนตี้รถยุโรป มันจะมีทั้งรุ่นที่มีปัญหาประจำตัว และไม่มีปัญหาประจำตัว แต่ถ้าเล่นยุโรป ขอให้เผื่อเรื่องการเสียเวลาซ่อมเอาไว้บ้างสำหรับคนที่วิ่งใช้งานแบบสมบุกสมบันหรือทำระยะทางเยอะๆในแต่ละปี แต่ถ้าใครจะมองว่ายอมแลกเรื่องพวกนี้กับความรู้สึกดีๆเวลาขับ อันนั้นผมก็คงไม่เถียงครับ แค่เลือกให้มันถูกกับชีวิตของเรา และฟิตกับงบประมาณของเราก็พอ


หัวข้อ: Re: ทำไมถึงแนะนำว่าถ้าใช้รถปีนึงเยอะๆ ให้ใช้รถญี่ปุ่นดีกว่าครับ
เริ่มหัวข้อโดย: Pegasus7700 ที่ สิงหาคม 18, 2016, 22:26:41
เดาว่าเจ้าของกระทู้คงคุยอยุ่กับเชลโตต้านะ

หากใช้หลักคิดแบบนั้น  บางคนอาจจะย้อนถามว่า
งั้นใช้รถ eco  car jap  ดีกว่า d seg jap

ราตาต่างกัน2.xเท่า
หัวข้อ: Re: ทำไมถึงแนะนำว่าถ้าใช้รถปีนึงเยอะๆ ให้ใช้รถญี่ปุ่นดีกว่าครับ
เริ่มหัวข้อโดย: oatekung ที่ สิงหาคม 18, 2016, 22:31:36
ยิ่งใช้รถเยอะ ยิ่งต้องหารถที่ปลอดภัยสิครับ
bmw ประกัน5ปีไม่จำกัดระยะทาง
เบนซ์3ปี แต่เพิ่มอีก2ปีได้  ใช้เยอะๆหมดwarrantyก็ขายครับ น่าจะตอบโจทย์กว่านะครับ
หัวข้อ: Re: ทำไมถึงแนะนำว่าถ้าใช้รถปีนึงเยอะๆ ให้ใช้รถญี่ปุ่นดีกว่าครับ
เริ่มหัวข้อโดย: kittiphat123 ที่ สิงหาคม 18, 2016, 22:35:26
ถ้าแพงกว่าแล้วต้องทนกว่า Rolls-Royce คงทนที่สุดในบรรดารถเก๋งแล้วครับ

ส่วนเรื่องใช้งานปีละเยอะๆ..ผมดูก่อนเยอะแค่ไหน ถ้าแค่ 30,000 โลผมจัดว่าปานกลางครับ ถ้าคำว่าเยอะของผมหมายถึงพวกวิ่งปีละ 50,000 กิโลเมตรขึ้นไป รถพวกนี้ใช้ 5 ปี ตอนขายก็วิ่งไป 250,000 แล้ว รายการที่จะต้องทำมันเยอะครับ ต่อให้บางคนบอกเครื่องทนได้ เกียร์ทนได้ แต่เราไม่มีทางรู้ว่าทุกคนจะรักษารถเท่ากันหรือเปล่า การแนะนำให้คนใช้รถญี่ปุ่น..ผมคงต้องบอกด้วยว่าต้องเป็นรถญี่ปุ่น 1.2-1.8 ลิตร Ecocar- C-segment นะ เพราะถ้าเล่นญี่ปุ่นแบบ Lexus ตอนมันไม่เสียมันก็ไม่เสีย แต่พอมันเสียขึ้นมา ค่าซ่อมก็ไม่ใช่ถูกๆครับ

คนที่บอกว่าวิ่งรถปีละเยอะๆให้ใช้รถญี่ปุ่นดีกว่า เขามองจากเรื่องการเซฟเงินกับความจุกจิกครับ ไม่ได้มองจากเรื่องอรรถรสการขับขี่ ความผ่อนคลายเวลาขับ หรือเรื่องเซฟตี้ เวลาผมแนะใครซื้อรถผมก็ดูก่อน ถ้าวิ่งปีละเยอะจริง แต่บ้านรวยมาก ก็ไม่ผิดที่จะซื้อรถยุโรป ถ้าวิ่งเยอะ บ้านรวยปานกลาง แต่ซ่อมและดูแลรถเป็น..ไปยุโรปได้เหมือนกัน แต่ถ้าวิ่งเยอะ ฐานะปานกลาง ไม่ค่อยมีเวลาในการดูแลรถ ไม่มีช่างหรืออู่ประจำที่ไว้ใจได้ ผมก็แนะให้ห่างๆรถยุโรปไว้ก่อน

ผมเจอมาอย่างน้อย 3 คนแล้ว ซื้อรถยุโรปเพราะคิดว่าราคาหลายล้าน ทุกอย่างต้องทน ต้องดีไปตามราคา สุดท้ายน้ำเข้าไฟหน้า ไฟรวน กล่องเกียร์รวน ใช้เป็นรถคันเดียวในบ้าน เก็บเงินมานานเพราะอยากเล่นยุโรป แบบนี้เป็นทุกข์ในลาภ มันถึงต้องอยู่ที่รูปแบบการใช้งานด้วย หรือเอาเพื่อนผมอีกคน..หรือสองคน..ก็ได้ รถยุโรป ราคาเท่าญี่ปุ่น D-Segment น้ำมันเครื่องหาย รถวิ่งไม่กี่กิโล น้ำมันเครื่องหายจนเครื่องพัง รถใหม่ไม่กี่ปียกเกียร์ไปสี่ลูก ช่างวิเคราะห์ไปส่งๆ ช่างเก่งๆหนีไปทำอู่นอกกันหมด นี่ขนาดรถขายหลักปีละร้อยคัน ยังเจอเคสมากกว่ารถญี่ปุ่นบางรุ่นที่ขายปีละหลักพันหลักหมื่นคัน เราดูกันตามสถิติรถที่ขายไป/รถที่มีเคสร้องเรียนก็เป็นสถิติเบื้องต้นได้ครับ ไม่ใช่นั่งเทียนเอา

ผมไม่ได้แอนตี้รถยุโรป มันจะมีทั้งรุ่นที่มีปัญหาประจำตัว และไม่มีปัญหาประจำตัว แต่ถ้าเล่นยุโรป ขอให้เผื่อเรื่องการเสียเวลาซ่อมเอาไว้บ้างสำหรับคนที่วิ่งใช้งานแบบสมบุกสมบันหรือทำระยะทางเยอะๆในแต่ละปี แต่ถ้าใครจะมองว่ายอมแลกเรื่องพวกนี้กับความรู้สึกดีๆเวลาขับ อันนั้นผมก็คงไม่เถียงครับ แค่เลือกให้มันถูกกับชีวิตของเรา และฟิตกับงบประมาณของเราก็พอ
+1 เลยครับ ข้อมูลและเหตุผลดีมากเลยครับคุณแพน
หัวข้อ: Re: ทำไมถึงแนะนำว่าถ้าใช้รถปีนึงเยอะๆ ให้ใช้รถญี่ปุ่นดีกว่าครับ
เริ่มหัวข้อโดย: frame@kk ที่ สิงหาคม 19, 2016, 03:23:43
ขอไม่ใช้ทนกว่าขอให้คำว่าประหยัดค่าใช้จ่ายกว่าดีกว่านะครับ
อย่างผมใช้รถวีออสวิ่งปีๆนึงนี่ก็พอๆกับจขกท. เปลี่ยนน้ำมันเครื่องที่ไม่ถึงพัน ซ่อมโน้นนี่นั่นเช็คระยะใหญ่ๆไม่เกิน5-6พันแน่ๆ
แต่ถ้าเกิดเป็นรถยุโรปเอาเข้าไปเช็คระยะ ค่าบำรุงรักษามันก็เพิ่มขึ้นมาเป็นเงาตามตัว
ถามว่ามีมั้ยที่คนใช้รถยุโรปแล้วใช้เยอะๆ มีครับ อย่างผู้บริหารบ.ผมเขาก็ใช้ e-class วิ่งเยอะมาก แต่ซ่อมทีนี่ก็หลายตัง เป็นหมื่นก็มี ล่าสุดเปลี่ยนโช๊คก็มีคู่ละสองหมื่นอัพๆ ถ้าเป็นรถญี่ปุ่นเปลี่ยนโช๊คทีหลักพัน ไหนจะค่ายาง ค่าอะไหล่ส่วนอื่นๆอีก เวลาเข้าศูนย์ก็นานกว่า ต้องมีรถสลับใช้อีกคัน
อีกอย่างรถที่วิ่งเยอะๆเนี้ยเพื่อนผมวิ่งงานเซลล์เซอร์วิส เดือนๆนึงมีตก 5000 โลได้ ปีนึงนี่มีเกินกว่าที่พี่แพนบอกไว้อีก

รถมันไม่มีทางอยู่ยั้งยืนยงหรอก ยังไงมันก็มีเสียมีพังเป็นธรรมดา อย่างจขกท. ยิ่งใช้รถแสนห้าโลแล้วเปลี่ยนด้วย ระยะแค่นี้รถมันไม่พังหรอกครับไม่ว่าจะรถญี่ปุ่นหรือรถยุโรป ใจไปทางรถยุโรปแล้วถ้าใช้รถประมาณนี้แล้วรับได้กับค่าใช้จ่ายได้ก็จัดเลยครับ จากโจทย์ที่ตั้งมานี่จขกท.เหมาะที่ใช้นะครับ เพราะไม่ได้ใช้รถยาว ขายต่อก็ยังพอได้อยู่


 
หัวข้อ: Re: ทำไมถึงแนะนำว่าถ้าใช้รถปีนึงเยอะๆ ให้ใช้รถญี่ปุ่นดีกว่าครับ
เริ่มหัวข้อโดย: punn ที่ สิงหาคม 19, 2016, 04:24:26
คนมาคุยกับผม ผมก็พูดแนวๆนี้ครับ  ::) (ไม่ใช่เซลนะเออ)

เพราะที่เจอมา คำว่าใช้รถปีนึงเยอะๆเนี่ย มักจะวิ่งเที่ยวทั่วไทยครับ
ทีนี้รถยนต์ไม่ว่ายี่ห้อไหนก็มีโอกาสเสียทั้งนั้น

ในมุมนี้ถ้าไปเสียต่างจังหวัดไกลๆนี่ลำบากนะครับ ถ้าเป็นรถยุโรป
แต่ถ้ารถญี่ปุ่นนี่ ยิ่งพวกรุ่นยอดนิยมหาศูนย์หาอู่ได้ทั่วไปมากกว่า

โอกาสแก้อาการเสียได้มากกว่า โอกาสขับกลับได้สูงกว่าทำนองนี้ครับ

-------

นอกเรื่องนิดครับ
เหมือนคนมาถามติดแก๊ส ngv กะ lpg
ถ้าวิ่งทั่วไทย ผมก็แนะนำ lpg ครับ ปั๊มเยอะกว่า หาเติมง่ายกว่าทำนองเดียวกันครับ

หัวข้อ: Re: ทำไมถึงแนะนำว่าถ้าใช้รถปีนึงเยอะๆ ให้ใช้รถญี่ปุ่นดีกว่าครับ
เริ่มหัวข้อโดย: earrt ที่ สิงหาคม 19, 2016, 07:52:25
มันก็ควรเป็นแบบนั้นแล้วหนิครับ

ก็ที่ราคารถยุโรปมือสองราคาตกมากเพราะค่าบำรุงรักษาไม่ใช่เหรอ
หัวข้อ: Re: ทำไมถึงแนะนำว่าถ้าใช้รถปีนึงเยอะๆ ให้ใช้รถญี่ปุ่นดีกว่าครับ
เริ่มหัวข้อโดย: rutxthe ที่ สิงหาคม 19, 2016, 08:11:33
ไม่ต้องคิดไรมากเลย ถ้ามีเงินเยอะก็ซื้อยุโรป ถ้าไม่ค้อยมีตังก็ซื้อญี่ปุ่น
ราคามันก็ตามคุณภาพอยู่แล้ว แต่ถ้าเงินเหลือเยอะก็ซื้อทั้งสอง

จะใช้เยอะใช้น้อย ผมซื้อไว้สองคัน เผื่อไว้
เกินดีกว่าขาด ใช้สลับ ๆ กัน คันไหนเสียก็ยังมีอีกคัน อิอิ
หัวข้อ: Re: ทำไมถึงแนะนำว่าถ้าใช้รถปีนึงเยอะๆ ให้ใช้รถญี่ปุ่นดีกว่าครับ
เริ่มหัวข้อโดย: zgmx9900 ที่ สิงหาคม 19, 2016, 09:55:18
อยู่ที่ว่าจะใช้รถคันนี้กี่ปีด้วย ถ้ากะใช้มากกว่า7ปีขึ้นไป ผมก็เลือกญี่ปุ่น
หัวข้อ: Re: ทำไมถึงแนะนำว่าถ้าใช้รถปีนึงเยอะๆ ให้ใช้รถญี่ปุ่นดีกว่าครับ
เริ่มหัวข้อโดย: SM. ที่ สิงหาคม 19, 2016, 09:55:49
คชจ ไงครับ ไม่งั้นพอวิ่งพ้น แสนโลไปแล้ว จะเริ่มมีอะไรต้องแก้แล้วล่ะครับ
หัวข้อ: Re: ทำไมถึงแนะนำว่าถ้าใช้รถปีนึงเยอะๆ ให้ใช้รถญี่ปุ่นดีกว่าครับ
เริ่มหัวข้อโดย: 2k ที่ สิงหาคม 19, 2016, 10:01:51
ขึ้นอยู่กับคนใช้ว่าให้ความสำคัญอะไรมากกว่ากัน ถ้าเน้นประหยัดเป็นหลักก็เอารถราคาค่าซ่อมถูกๆเป็นหลัก ถ้าเน้นเอาความปลอดภัยในชีวิตเป็นสำคัญแอร์แบกต้องครบโครงสร้างต้องรับแรงปะทะได้ดีก็ไปรถยุโรปออพชั่นเยอะๆแต่ราคาแพงกว่า  :-X ส่วนตัวผมมองว่าถนนเมืองไทยไม่เหมาะกับการใช้รถยุโรปหรือรถญี่ปุ่นราคาแพงเดินทางระยะเยอะๆเพราะว่าถนนหนทางบ้านเรามันมีแต่หลุมบ่อลึกๆกับน้ำท่วมขังที่เจอได้ทั่วประเทศ ซ่อมช่วงล่างไปแป๊บๆเดี๋ยวมันก็พังซ้ำแล้วซ้ำอีก(ไม่เกี่ยวว่ารถญี่ปุ่นจะทนกว่านะถนนประเทศไทยรถญี่ปุ่นเจอก็พังเหมือนกัน) แต่ถ้าหากว่าประเทศไทยลดการโกงกินลงมีถนนพื้นเรียบให้ถนไทยใช้ทั่วประเทศผมก็ยอมที่จะใช้รถยุโรปไปไหนมาไหนทั่วประเทศมากกว่าแม้มันจะซ่อมแพงก็ตาม นานๆซ่อมทีแต่สุนทรีย์ระหว่างการเดินทางมันสำคัญกว่าเยอะ  ;D ดังสโลแกนของหูฟัง monster turbine pro ที่กล่าวไว้ว่า "life's too short to listen to bad headphones"  ;D     
หัวข้อ: Re: ทำไมถึงแนะนำว่าถ้าใช้รถปีนึงเยอะๆ ให้ใช้รถญี่ปุ่นดีกว่าครับ
เริ่มหัวข้อโดย: jaesz ที่ สิงหาคม 19, 2016, 10:35:04
ถ้าตอบแบบรวมๆ ผมยอมรับว่าจริง

ไม่ใช่เพราะรถยี่ปุ่นมันทนกว่า แต่เพราะเวลาเสียหาช่างหาอะไหล่ง่ายกว่า

เอาใกล้ๆตัวผม

C207 ใช้ไปแสนกว่าโลในห้าปี เจอตั้งแต่น้ำหาย ไดพัง สตาร์ทเงียบ เฟืองท้ายหอน

ขึ้นรถไสลด์สองที พอละ ขายทิ้งดีกว่า

ถ้ามาคิดว่าเป็นCamry อาการที่ว่ามานี่จบด้วยช่างข้างทางได้หมด ไม่นับว่ากุญแจไขไม่มีปัญหาสตาร์ทเงียบ

ใช้มาเองทั้งคู่เข้าใจเลยว่าพวกไฮเทกมาก ซ่อมยากเกินช่างทั่วไปแล้วครับ

เบื่อที่จะพกคอมกับเครื่องแสกนไว้ในรถละ
หัวข้อ: Re: ทำไมถึงแนะนำว่าถ้าใช้รถปีนึงเยอะๆ ให้ใช้รถญี่ปุ่นดีกว่าครับ
เริ่มหัวข้อโดย: CarameLon ที่ สิงหาคม 19, 2016, 11:53:56
เน้นถูกคุ้ม ไปญี่ปุ่น
แต่ตังเหลือๆ ก็ไปยุโรป

ใช้ปีนึงเยอะๆให้ใช้รถญี่ปุ่น ผมคิดว่าคนพูดคงไม่กล้าเอารถแพงๆมาวิ่งเยอะๆครับ 8)
เพราะบางคนเขาไม่อยากเอาของแพงๆมาใช้ทุกวัน
หัวข้อ: Re: ทำไมถึงแนะนำว่าถ้าใช้รถปีนึงเยอะๆ ให้ใช้รถญี่ปุ่นดีกว่าครับ
เริ่มหัวข้อโดย: yourturle ที่ สิงหาคม 19, 2016, 13:56:32
ใช้งานเยอะ สึกหรอมาก เวลาซ่อม เปลี่ยน อะไหล่ ค่ายญี่ปุน โดยเฉพาะ โตต้า ราคาเขาถูก เพราะ volume การจำหน่ายรถออก และคนใช้มาก
อะไหล่จึงไม่แพงเกินไป

รถยูโรป ทนกว่า แข็งแรงกว่า แต่ค่าใช้จ่ายๆ ก็สูงเป็นเงาตามค่าตัวมันด้วย ระบบไฟต่างๆ ช่วงหลังจึงมี program ต่างๆออกมา เพื่อสร้างความมั่นใจให้ผู้ใช้
ว่าจะไม่มีค่าใช้จ่าย ในระยะ 5ปีแรก ทุกคนจึงบอกให้ซื้อใช้ 4 ปีขาย ก่อนหมด จะได้ราคา

ดูแทกซื ซิครับ ทนชิบ รถญี่ปุ่นทั้งนั้น

*ค่าประกันภัยต่อปีก้อ คนละทวีปแล้ว*
หัวข้อ: Re: ทำไมถึงแนะนำว่าถ้าใช้รถปีนึงเยอะๆ ให้ใช้รถญี่ปุ่นดีกว่าครับ
เริ่มหัวข้อโดย: bahamu ที่ สิงหาคม 19, 2016, 15:28:54
ซื้อรถยุโรปต้องมีสองคัน เวลาเสียจะได้มีสำรองใช้

ตรรกะที่ว่าป้ายแดงไม่ตายกลางทาง คงใช้กับรถที่ไม่มีระบบไฟฟ้า
ซึ่งหาซื้อยากมาก คนส่วนใหญ่ต้องการไฟฟ้าเยอะๆ
แต่ไม่อยากซ่อมเวลามันเสีย และหาเหตุผลเข้าข้างตัวเอง
พอรถเสียให้รำคาญใจก็พาลขายทิ้ง แต่ตอนดีๆไม่รวนก็ไม่อยากขาย
เผอิญอาการเสียแบบวัดดวงนี่ เกิดได้กับทุกยี่ห้อและทุกราคาด้วย

รถแพงเวอร์ๆ ลองมาวิ่งไม่ดับเครื่องเดือนหนึงแบบแท๊กซี่ไทยดูได้
ส่วนใหญ่พังทั้งนั้น เพราะออกแบบไม่สนใจอากาศบ้านเรา
อบร้อนจนเครื่อง เกียร์ ไฟ อายุสั้นหมด พอหมดประกันนิยมขายทิ้ง

ยิ่งที่บอกราคาไม่ตก คงไว้หลอกตัวเองอีก รถแพงแค่ไหน รอนานยังไง
ก็ราคาตกเยอะ คนรวยไม่ซื้อรถคนใช้แล้วหรอก จ่ายมากขนาดนั้นสั่งใหม่ได้
บ.รถถึงหามุกทำน้อย ขายน้อยมาล่อ ให้คนมีเงินจำต้องซื้อรถใช้แล้ว

รถญี่ปุ่นแพงๆ ทนกว่ายุโรปแต่บ้านเราส่วนใหญ่ไม่นิยมซื้อ
ยุโรปทนถ้าเจ้าของดูแลรถเป็น ถ้าขับเป็นอย่างเดียว พึ่งศูนย์ไม่รู้ช่าง
กินข้าวลิง หรือรอรถยกสักครั้ง จะเข้าใจความหวังดีของชาวบ้านว่าทำไมไม่ให้เล่น
หัวข้อ: Re: ทำไมถึงแนะนำว่าถ้าใช้รถปีนึงเยอะๆ ให้ใช้รถญี่ปุ่นดีกว่าครับ
เริ่มหัวข้อโดย: Arado_kung ที่ สิงหาคม 19, 2016, 17:47:53
ถ้าตอบแบบรวมๆ ผมยอมรับว่าจริง

ไม่ใช่เพราะรถยี่ปุ่นมันทนกว่า แต่เพราะเวลาเสียหาช่างหาอะไหล่ง่ายกว่า

เอาใกล้ๆตัวผม

C207 ใช้ไปแสนกว่าโลในห้าปี เจอตั้งแต่น้ำหาย ไดพัง สตาร์ทเงียบ เฟืองท้ายหอน

ขึ้นรถไสลด์สองที พอละ ขายทิ้งดีกว่า

ถ้ามาคิดว่าเป็นCamry อาการที่ว่ามานี่จบด้วยช่างข้างทางได้หมด ไม่นับว่ากุญแจไขไม่มีปัญหาสตาร์ทเงียบ

ใช้มาเองทั้งคู่เข้าใจเลยว่าพวกไฮเทกมาก ซ่อมยากเกินช่างทั่วไปแล้วครับ

เบื่อที่จะพกคอมกับเครื่องแสกนไว้ในรถละ

อันนี้เรื่องจริงเลยครับ อย่าว่าแต่รถยุโรปพวกรถทั่วๆไปอย่าง Ford,Chev,Mazda(รุ่นใหม่ๆที่เป็น skyactive) ไปเดี้ยงกลางทางหาช่างซ่อมกับอะไหล่ยากมากๆ วิ่งหาร้านอะไหล่ทั้งจังหวัดก็ยังไม่มี เพื่อนผมเคยโดนมาล่ะ
หัวข้อ: Re: ทำไมถึงแนะนำว่าถ้าใช้รถปีนึงเยอะๆ ให้ใช้รถญี่ปุ่นดีกว่าครับ
เริ่มหัวข้อโดย: iamnobody ที่ สิงหาคม 19, 2016, 19:58:00
เพิ่งมีเวลาเข้ามาดูครับ
วันนี้ออกจากสทนไหมไปพระราม3
ไปธุระที่พระราม9 กลับมาพระราม3แล้วไปพระราม9อีกรอบ
ไปสระบุรีแล้วกลับมาพระโขนง เดี๋วไปดอนเมืองต่อครับ :'(
หัวข้อ: Re: ทำไมถึงแนะนำว่าถ้าใช้รถปีนึงเยอะๆ ให้ใช้รถญี่ปุ่นดีกว่าครับ
เริ่มหัวข้อโดย: john ที่ สิงหาคม 22, 2016, 10:06:10
ถ้างบจำกัด รถญี่ปุ่นดีกว่าครับเพราะค่าดูแลรักษาประหยัดกว่า
แต่สิ่งที่รถญี่ปุ่นสู้ไม่ได้คือความปลอดภัยครับ ใช้รถผมเน้นเรื่องนี้เป็นสำคัญ (รถญี่ปุ่นก็ปลอดภัยนะครับ แต่ยังสู้รถยุโรปไม่ได้) ผมยอมซ่อมนาน รอคิว ค่าใช้จ่ายสูงดีกว่า