Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: OXYGEN2 ที่ กันยายน 12, 2016, 19:14:41
-
ปัญหาร้อนแบบนี้ ถือว่าเป็นปกติหรือเปล่าครับ
ตอนแรกที่เจอปัญหาแบบพี่แพนและท่านอื่นบอกว่าร้อนเกินไป คิดว่าเปลี่ยนน้ำมันเครื่องแล้วความร้อนจะน้อยลง
แต่เท่าที่ใช้งานดู ร้อนเร็วกว่าเดิมครับ
วิ่งน่าจะไม่เกิน 180 กม./ชั่วโมง ความร้อนขึ้นไปที่ 128C ผมจึงถอน และถ่ายรูปได้ตอน 127C
(http://i.imgur.com/NU3pgCY.jpg)
ขับที่ 110 สักพัก
(http://i.imgur.com/jQJoohA.jpg)
ควาามร้อนมาอยู่ที่ 119C
(http://i.imgur.com/t6BuQDL.jpg)
จอดติดเครื่องไว้รอแฟนประมาณเกือบชั่วโมง
(http://i.imgur.com/qZs81pB.jpg)
ความร้อนเหลือ 98C
(http://i.imgur.com/BDTduwr.jpg)
ขับในเมือง
(http://i.imgur.com/n5ugBqX.jpg)
ความร้อนประมาณ 100C (มากสุดไม่เกิน 102C)
(http://i.imgur.com/QdhMapF.jpg)
น้ำมันเครื่องที่ใช้ Motul 300V 5W30
(http://i.imgur.com/zpldqGQ.jpg)
ระยะเปลี่ยนน้ำมันเครื่อง 5,000 กม. ตอนนี้วิ่งมาร้อยกว่ากิโล ค่าใช้จ่ายในการเปลี่ยนน้ำมันเครื่อง รู้สึกได้ว่าค่อนข้างโหด เมื่อเทียบกับราคารถ
(http://i.imgur.com/KOvUXGv.jpg)
ขอคำแนะนำหน่อยครับ ที่ 10,000 กม. ควรใช้น้ำมันเครื่องตัวไหนดีครับ (ที่ Motor Image มี) หรือว่าถ่ายข้างนอก แล้วใช้น้ำมันเครื่องเกรดดีกว่านี้ และยอมเสียการรับประกันไป
-
motul 300v ก้อถือว่าดีมากแล้วครับ
แต่เรื่องอุณหภูมิน้ำมันเครื่อง รุ่นนี่เท่าที่อ่านก้อสูงเวลาใช้งานหนักๆ
ในusa ขึ้นไปถึง 250-260F
-
งง ผมเข้าใจผิดหรือเปล่า น้ำมันเครื่องขวดขนาด 2 ลิตร ใข้ 6 ขวด = 12 ลิตรเลยเหรอครับ ไม่น่าใช่ละ ราคาถึงได้พุ่งไป 6,600 บาท
เขาน่าจะใช้แค่ 3 ขวด ราคา 3,300 บาท ?
-
ไม่อยากใช้โมตุล เข้าศูนย์ที่เป็นตัวแทนสิครับ เพราะเข้าศูนย์ของมอเตอร์อิมเมจ จะมีแค่เชลล์กะโมตุล
อย่างผมใช้ xv ผมซื้อจากศูนย์บสงนาของมอเตอร์อิมเมจ แต่ไป service ที่ j auto ข้างซีคอน เป็นตัวแทนอย่างเป็นทางการ มี โมตุล มี คลาสตรอล มี โมบิล ให้เลือกใช้ได้เลยครับ ประกันไม่ขาดด้วย
ส่วนเรื่องอุณหภูมิ น้ำมันเครื่อง ผมไม่รู้เหมือนกันเพราะรถผมไม่มีตัววัด แต่ได้ข่าวมาว่า xv ก็ร้อนอยู่ แต่ผมไม่สน หากความร้อนไม่ขึ้นผมก็ขับไปแหละ ไม่น่าจะพังก่อนเปลี่ยนรถ ขนาดรถคีนอื่นที่บ้านใช้แกสมาจะ 10 ปีละเครื่องยังไม่พังเลย
-
ถ้า 300V ยังร้อน ก็ไม่รู้จะหาอะไรมาแทนละครับ 5555+
ผมว่า ลองต่อเกจนอกดูไหมครับ sensor ที่มันอ่านจากเครื่องเข้า ECU มันอาจจะเป็นการแปลผลอีกแบบ ที่แสดงผลออกมาดูสูงเกินจริง(งงไหม) หาเกจนอกเช่น defi หรืออะไรแบบนี้ใส่ดูไหมครับอาจจะตรงกว่า ผมก็อ่านจะรีวิวว่าพวกเครื่องบล๊อค FA FB นี่แอบร้อนตอนแรกสันนิษฐานว่าเป็นน้ำมันศูนย์ ถ้าลง 300V แล้วยังร้อนทะลุฟ้าแบบนี้ ผมว่าอาจจะเป็นที่มันเพี้ยนเองก็ได้นะครับ
-
XV ก็ร้อนครับ แต่ถ้าไฟไม่เตือนผมก็ใช้ไป ไม่เป็นอะไรครับ
แต่ที่งงด้วยคือ จำนวนลิตรน้ำมันเครื่อง กดไป 12 ลิตรเลยหรือครับ หรือจขกทซื้อเก็บด้วยครับ
-
เครื่องร้อนมาก
ขับธรรมดาในเมือง 102 C
ขับ 110 กม.ชม. 119 C
จอดรถรอเมีย 98 C
ผมว่าเป็นความผิดปกติที่ซูบารุมองว่าปกติ
แต่จริงๆ ระยะยาว ไม่ปกติครับ
พวกพลาสติก ประเก็นยางต่างๆ จะกรอบ เสื่อม แตก
หรือพาลให้เปลี่ยนบ่อยหรือเสี่ยงต่อการฮีตหากลืมเปลี่ยน
ทำให้การใช้รถ มันสิ้นเปลืองเกินไป
กระทู้เรื่องความร้อนของเครื่อง Forester ที่ผมตั้งถามในกระทู้ล่างๆ
เพราะผมไปลองขับ Forester 2.0i-P แล้วเกิดความสนใจทันที
แต่มาเจอเรื่องความร้อน และค่าน้ำมันเครื่องโมตูล ซิน 100% 5w30
ลิตรละ 550 บาท เปลี่ยนครั้งละ 6 ลิตร
และไฟเลี้ยวที่อยู่ด้านซ้ายของพวงมาลัย มันขัดใจมาก
ผมรับราชการบ้านๆ เงินเดือนน้อยๆ ขอถอยจาก Forester ครับ
จขกท. ก็ดูแลรักษามันดีๆ นะครับ
-
XV ก็ร้อนครับ แต่ถ้าไฟไม่เตือนผมก็ใช้ไป ไม่เป็นอะไรครับ
แต่ที่งงด้วยคือ จำนวนลิตรน้ำมันเครื่อง กดไป 12 ลิตรเลยหรือครับ หรือจขกทซื้อเก็บด้วยครับ
ราคาน่าจะเป็นต่อลิตร แต่เบิกที 1 ขวด เท่ากับ 2 ลิตรมั๊งครับ มีเหลือกลับบ้านนิดหน่อย
ราคา Service ที่ผมบ่นว่าแพง เพราะมันเท่ารถเครื่อง 2.5 เลย เมื่อก่อนใช้น้ำมันเครื่อง Shell จำได้ว่า 5 พันกว่าบาทครับ
-
เรื่องตัววัด ถ้า Defi แบบนี้มันก็อ่านจาก OBD หรือเปล่าครับ เอา Legacy ไปติด Advance ZD มา 2 หมื่นกว่าบาท รู้สึกได้ว่าแพง
-
มี 2 ทฤษฎี
1. การอ่านค่าของเซนเซอร์ในระบบที่อยู่ในรถไม่เที่ยงตรงแม่นยำ สังเกตจากพวกอัตราการบริโภคน้ำมัน และ ระยะทางที่คงเหลือที่แสดงมักจะไม่แม่นยำซักเท่าไร
2. เป็นที่การออกแบบระบบของ Subaru รุ่นใหม่ๆเองที่ระบายความร้อนไม่ดี
เคยถามพี่ๆ ที่อยู่ใน Subaruclubthailand (เว็บปิดไปแล้วเหลือแต่ FB) ที่ใช้เกจ์แยก อุณหภูมิในรถรุ่นเก่าๆ เช่น GC GD มักไม่ค่อยขึ้นสูงแบบรถรุ่นใหม่ที่มีมิเตอร์ในโมดูลของแผงหน้าปัดหรือจอกลางคอนโซล
-
ผมว่ามันเป็นข้อด้อยของเครื่อง Boxer อย่างหนึ่งเลยนะ เรื่องการระบายความร้อนได้ช้า
แนะนำให้ติด oil cool ครับ ชาว XV หลายๆคันที่ขับแช่ความเร็วสูงนานๆส่วนใหญ่จะติดกันหมด
-
เมื่อก่อนีแต่เข็มๆ เลยไม่คิดมาก พอบอกเป็นตัวเลข เลยคิดมาก
ผมใช้ Im GC ติด Delfi อยากบอกว่า ปรกติครับ ไม่รู้เชื่อป่าว !!!
-
XV ผมขับแช่ 110-120 วิ่งไกล 500km+ อุณหภูมิไม่เคยเกิน 105องศา ครับ รถวิ่งมา 1500km
120องศา ผมว่าแปลกๆครับ
พึ่งเข้าไปเชคระยะ 1,000 ใช้น้ำมันเครื่อง Castrol 0-w20 หมดไปราวๆ 1,8xx บาท อุณหภูมิน้ำมันเครื่องเท่าๆเดิมครับ
-
300V นี่น้ำมันของโคตรน้ำมันแล้วนะครับ ถ้าผมใช้ 300V ในรถคันไหน คันนั้นคือจะเอาไปแข่งแล้วครับ
ส่วนเรื่องอุณหภูมิน้ำมัน ผมก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมโดดไปได้ขนาดนั้น แล้วยิ่งร้อนเร็วและลงช้าเหมือน HTech นี่ยิ่งรู้สึกประหลาดครับ 300V เท่าที่ลองมาในรถคันอื่น มันจะร้อนไปถึง 105-110 เร็วครับ แต่จาก 110 ไป 120 นั้นนานมาก
ลักษณะมันแปลกๆ คือตอนผมเทสต์ XV กับ Forester ผมก็ทำแบบเจ้าของกระทู้เวลาทดสอบ แล้วก็ได้ค่าความร้อนใกล้เคียงกัน..แต่รถทดสอบผมใช้ HTech นะ
และอีกอย่างคือกับรถเทอร์โบอย่าง Levorg ตอนเทสต์รอบแรกแทบทดสอบความเร็วสูงสุดไม่ได้เพราะ temp ขึ้นเร็วมาก เรากลับไปที่เสรีไทย ไปเปลี่ยนน้ำมัน ศูนย์จะเอา 300V เติมให้ จิมมี่ถามว่าใช้ได้ไหม ผมตอบว่าไม่ให้ใช้ เพราะเครื่อง 1.6 ม้าไม่ถึง 200 เจ้าของส่วนใหญ่คงไม่ต้องการเติมน้ำมันเกรดมอเตอร์สปอร์ต สรุปเลยเอา Shell ที่ศูนย์ใส่ ลองมาวิ่งอีกรอบ ทดสอบจบ สวย Temp ไม่มีเกิน 120 ตลอดการทดสอบ มากสุดที่เห็นคือ 117 ในขณะที่ตอนเป็น HTech วิ่งไป 200 ปุ๊บ Temp จะเกิน 120 เอา ต้องจอดให้น้ำมันลงมาเหลือ 98 แล้ววิ่งทำท้อปสปีดอีกรอบ
ถ้าเป็นเคสแบบนี้ สมมติเป็นรถผม ผมลอง 2 อย่าง
1. ติด Defi แบบมิเตอร์เดียว ต่อสาย Temp วัดจากอ่างไปเลย ซึ่งต้องเจาะอ่างน้ำมันเครื่อง ถ้าไม่กลัวนะ
2. อาจลองเปลี่ยนน้ำมันเครื่องเป็น Shell ซึ่งที่เสรีไทยมี
แต่ส่วนตัวผมงงกับเคสนี้มาก ลองคิดง่ายๆว่าน้ำมันเกรดมอเตอร์สปอร์ต ร้อนเร็วได้ แต่ต้องยันอุณหภูมิไว้ได้จุดนึงนาน และเวลาใช้รอบต่ำวิ่งเรื่อยๆ Temp ต้องลงเร็ว ถ้าขึ้นเร็วแล้วลงช้า แล้วขาย 6 ลิตร 6000 บาท ผมว่าคนเอาน้ำมันไปปาใส่ออฟฟิศ Motul นานแล้วครับ
-
ไม่แน่ใจว่าเครื่อง forester ให้ใช้น้ำมันเกรดไหน ถ้า 0w-20 แล้วใช้ 5w-30 แล้วร้อนเร็ว ลองมาใช้ 0w-20 ดู ผมเข้าใจเองว่าการหล่อลื่นไม่น่าจะดีพอ
เคยเจอกับรถที่บ้าน รถใหม่ๆ ใช้ 0w-20 เครื่องยนต์หลังสตารท์เงียบสุด คันเร่งเบา กดรอบขึ้นไวสุด (5000-7000 รอบ) ชอบคิกดาวน์บ่อยๆ (ยี่ห้อสำคัญกว่าเบอร์ ที่เจอกับตัว เบอร์ 20 บางยี่ห้อกดแล้วอยู่กะที่นะ มีแต่กลิ่นไหม้) ไม่ได้อุปทาน เพราะผมลองใช้ทุกเบอร์ 30 ตามด้วย 40 (รถ 40000 - 50000 โล เบอร์นี้สตาร์ทแล้วเครื่องดังมากสุดเลย อืดมาก ลองแล้วไม่ไหว กลัวจะหล่อลื่นไม่ทันเท้าที่ชอบคิกดาวน์) แล้วต่อด้วยเบอร์ 20 กลับมาลองหลังสุด ทั้งที่วิ่งระยะทางไปมากกว่าในรถคันเดียว
ถ้าน้ำมันศูนย์ก็มีคลาสตอล ผมก็ใช้ตัวนี้ คลาสตอลใช้ฟรี 5555 ลื่นดีใหม่ๆ ความลื่นหายไปบ้างพอประมาณ แต่ก็ไม่แย่มากเท่า Motul H tech รายนั้นไปไวแบบน่าเกลียด เคยใช้สองสามรอบ เข็ด และที่ในคลับ xv นิยมนอกศูนย์ก็ Amsoil sig 0w-20 ของอย่างงี้คงต้องลองเอง เอาให้ครบทุกยี่ห้อ 5555 แต่ Motul เกรด H tech ห่วย ผลิตประเทศเพื่อนบ้าน ไม่ต้องมีเครื่องวัดผมก็รู้สึกว่าห้องเครื่องร้อนจัง ยืนใกล้ๆ ก็รู้สึก ส่วน 300V ก็ไม่น่าเหมาะกับรถบ้านและอากาศบ้านเรา ผมไม่เคยลอง
(https://scontent.fbkk1-1.fna.fbcdn.net/t31.0-8/14305296_1282476615119384_9212074983617831839_o.jpg)
ส่วนใหญ่ลองน้ำมันมาหลายตัวกับรถที่บ้าน ยกเว้นเจ้า xv ฟรีของเหลวและค่าแรง 3 ปี เป็นคลาสตรอล
-
ใช้ 300v แล้วอุณหภูมิน้ำมันเครื่องยังร้อนขนาดนี้ ผมว่า sensor น่าจะเพี้ยนครับ ลองต่อเกจวัดแยกน่าจะดีกว่าครับ
-
น้ำมันเครื่องใช้งานก็ไม่น่าจะเกิน 120 นะ
ถ้ามันเกิน ผมจะทำอย่างนี้
1. ลองเปลี่ยนยี่ห้อน้ำมันเครื่อง (ทำเองนี่แหละ) เอายี่ห้ออื่น ๆ มาลองแล้วเทียบเคียง ทำสักสามแบรนด์ ก็คงรู้แล้ว...
2. กลับไปดูอุณหภูมิของหล่อเย็น ว่าเขาให้หล่อเย็นทำงานที่กี่องศา ถ้า อยู่ระหว่าง 90-105 องศา ผมจะหาวาล์วน้ำเบอร์ต่ำลงสัก 5 องศา เปลี่ยน ...มันมีผลมากครับ
3. ถ้าข้อ 2 ทำแล้วยัง ไม่หาย ถ้าไม่มีออยล์คูลเลอร์ ผมติดออยล์...
ไม่หายอีก ผมหมดมุก ครับ.....
-
รู้สึกไม่มั่นใจเมื่ออ่านกระทู้นี้ :'( :'( :'(
-
ถ้า Motul 300V ใช้งานน้ำมันเครื่องร้อนขนาดนี้ ลองของ Amsoil ดูครับ
ดูระบบหล่อเย็น เปิดกี่องศา ตอนจอดกี่องศา ตอนวิ่ง 100-120 KM/Hr.กี่องศา ตอนแช่ยาวๆกี่องศาด้วยครับ
-
ผมไม่ค่อยมีความรู้เท่าไหร่ เรื่องพวกนี้ แต่ที่อ่านดูคือ ยังไม่รู้ว่าเพราะอะไร ??? ??? ??? ???
-
รถผม SUBARU XV MC 2.0i-P '16 เครื่อง FB20 เดียวกับ รถ จขกท แต่ต่างกันที่ dual AVCS ซึ่งไม่น่าใช่ประเด็น
วันอาทิตย์ที่ผ่านมา Engine oil temp ดูจาก MFD ก็ไต่พุ่งขึ้นไป 125 C ผมจึงรีบถอนคันเร่ง เพราะมันยังขึ้นเรื่อยๆ
สภาวะการขับขี่ของผมตอนนั้นคือ นั่ง 6 คน (มีคนน้ำหนัก เกิน 100 kg 1 คน) และสัมภาระใหญ่มาก เต็มท้าย สำหรับคนไป US 3 ปี
วิ่งมอเตอร์เวย์ ไปพัทยา ผมใช้ความเร็ว 140, 150, 160, 170 km/hr พยายามจะลากไปให้ถึง 180 km/hr แต่ไม่ไหว เค้นเครื่องเกินไป เห็น Engine oil temp 125 C เลยถอน ตลอดการเดินทางผมเปิดแอร์ พัดลมเบอร์ 3 ความเย็น 23 C บางจังหวะ ตอนรอบสูง และ Engine oil temp พีค แอร์ไม่มีความเย็น มีแต่ลม ก็ยังไม่เข้าใจว่าทำไมจังหวะนั้น คอมแอร์ ถึงไม่ทำงาน ไม่ปั้มน้ำยา หรือ หน้าคลัชคอมแอร์ อาจจะไม่จับ
รถผมตอนนี้วิ่งไปประมาณ 5000 km เมื่อตอน เช็คระยะ 1000 km ใส่น้ำมันเครื่อง
Motul 0W-20 สังเคราะห์แท้ ลิตรละ 561 บาทไม่รวม Vat และ XV ใช้ 5 ลิตร = 2,805 บาท
จริงๆ ต้อง 4.8 ลิตร พร้อมเปลี่ยนกรอง ดึงก้านวัด เลยขีด MAX กะด้วยสายตาประมาณ 0.25 ลิตร
-
แอบเหล่รุ่นนี้อยู่ แบบนี้มีเขว
-
ช่วงเดินคันเร่งเร็วๆ คอมแอร์จะโดนตัดครับ
ถ้าอยากรู้ว่าจะเป็นอันตรายต่อเครื่องไหมคงต้องติด oil pressure
ดูว่าตอนที่อุณหภูมิสูงๆ pressure ลดลงไหม
ถ้าoil pressure ตก ก็ตัวใครตัวมัน
-
ผมอ่านความเห็นของคุณแพนแล้ว แอบปิ๊งทฤษฎีใหม่....
เป็นไปได้ไหมครับว่าศูนย์เติมน้ำมันให้ผิด คือเติม H-tech แต่ในใบเสร็จลงเป็น 300V แทน (เพราะพฤติกรรมของอุณหภูมิน้ำมันเครื่องของ จขกท. มันตรงกับ H-tech ตามที่คุณแพนเล่ามา)
ถ้าความเห็นผมผิดกฎระเบียบของบอร์ดฯ ลบได้เลยนะครับ...
-
ติดตามครับ เริ่มหวั่นๆ เพราะเล็ง forester ไว้ด้วย
-
ผมอ่านความเห็นของคุณแพนแล้ว แอบปิ๊งทฤษฎีใหม่....
เป็นไปได้ไหมครับว่าศูนย์เติมน้ำมันให้ผิด คือเติม H-tech แต่ในใบเสร็จลงเป็น 300V แทน (เพราะพฤติกรรมของอุณหภูมิน้ำมันเครื่องของ จขกท. มันตรงกับ H-tech ตามที่คุณแพนเล่ามา)
ถ้าความเห็นผมผิดกฎระเบียบของบอร์ดฯ ลบได้เลยนะครับ...
คิดเหมือนผมเลยครับ ถ้าน้ำมันเครื่องขนาดนั้นแล้วละก็ ผลลัพธ์มันไม่ควรจะเหมือนกันขนาดนี้น่ะครับ มันน่าจะมีความแตกต่างบ้าง :-\
-
Oil temp sensor ติดรถ เค้าเสียบอยู่ตรงส่วนไหนของเครื่องครับ ท่านใดพอจะทราบบ้างครับ ;)
-
ผมอ่านความเห็นของคุณแพนแล้ว แอบปิ๊งทฤษฎีใหม่....
เป็นไปได้ไหมครับว่าศูนย์เติมน้ำมันให้ผิด คือเติม H-tech แต่ในใบเสร็จลงเป็น 300V แทน (เพราะพฤติกรรมของอุณหภูมิน้ำมันเครื่องของ จขกท. มันตรงกับ H-tech ตามที่คุณแพนเล่ามา)
ถ้าความเห็นผมผิดกฎระเบียบของบอร์ดฯ ลบได้เลยนะครับ...
คิดเหมือนผมเลยครับ ถ้าน้ำมันเครื่องขนาดนั้นแล้วละก็ ผลลัพธ์มันไม่ควรจะเหมือนกันขนาดนี้น่ะครับ มันน่าจะมีความแตกต่างบ้าง :-\
ผมเองก็เกือบคิดแบบนั้น แต่สังเกตที่เจ้าของกระทู้ถ่ายรูปแกลลอนน้ำมันเครื่อง 300V มาและบอกว่า "มีเหลือกลับบ้านนิดหน่อย" ผมเดาว่าเจ้าของกระทู้น่าจะได้ยืนดูการเปลี่ยนถ่ายด้วยตัวเองแล้วว่าเติม 300V จริงๆ ถ้าช่างเติมผิด แล้วน้ำมันที่เหลือในแกลลอนนั้นมายังไง คงไม่ซวยถึงขนาดเอาน้ำมันถ่ายผิดกับรถที่จอดข้างๆกัน แล้วเอาแกลลอนน้ำมันเหลือเก็บไว้ให้เจ้าของกระทู้หรอกมั้งครับ
-
ว่าแต่ชักก้านน้ำมันเครื่องดูแล้ว มันมีน้ำมันอย่างน้อยกึ่งกลางระหว่าง min กับ max ถูกมั้ยครับ
-
รถผม SUBARU XV MC 2.0i-P '16 เครื่อง FB20 เดียวกับ รถ จขกท แต่ต่างกันที่ dual AVCS ซึ่งไม่น่าใช่ประเด็น
วันอาทิตย์ที่ผ่านมา Engine oil temp ดูจาก MFD ก็ไต่พุ่งขึ้นไป 125 C ผมจึงรีบถอนคันเร่ง เพราะมันยังขึ้นเรื่อยๆ
สภาวะการขับขี่ของผมตอนนั้นคือ นั่ง 6 คน (มีคนน้ำหนัก เกิน 100 kg 1 คน) และสัมภาระใหญ่มาก เต็มท้าย สำหรับคนไป US 3 ปี
วิ่งมอเตอร์เวย์ ไปพัทยา ผมใช้ความเร็ว 140, 150, 160, 170 km/hr พยายามจะลากไปให้ถึง 180 km/hr แต่ไม่ไหว เค้นเครื่องเกินไป เห็น Engine oil temp 125 C เลยถอน ตลอดการเดินทางผมเปิดแอร์ พัดลมเบอร์ 3 ความเย็น 23 C บางจังหวะ ตอนรอบสูง และ Engine oil temp พีค แอร์ไม่มีความเย็น มีแต่ลม ก็ยังไม่เข้าใจว่าทำไมจังหวะนั้น คอมแอร์ ถึงไม่ทำงาน ไม่ปั้มน้ำยา หรือ หน้าคลัชคอมแอร์ อาจจะไม่จับ
รถผมตอนนี้วิ่งไปประมาณ 5000 km เมื่อตอน เช็คระยะ 1000 km ใส่น้ำมันเครื่อง
Motul 0W-20 สังเคราะห์แท้ ลิตรละ 561 บาทไม่รวม Vat และ XV ใช้ 5 ลิตร = 2,805 บาท
จริงๆ ต้อง 4.8 ลิตร พร้อมเปลี่ยนกรอง ดึงก้านวัด เลยขีด MAX กะด้วยสายตาประมาณ 0.25 ลิตร
ตอนเร่งรอบสูง หรือเหยียบอัดรถหนักๆ คอมแอร์จะตัดการทำงานเพื่อ เซฟ ตัวมันเองครับ
-
ผมอ่านความเห็นของคุณแพนแล้ว แอบปิ๊งทฤษฎีใหม่....
เป็นไปได้ไหมครับว่าศูนย์เติมน้ำมันให้ผิด คือเติม H-tech แต่ในใบเสร็จลงเป็น 300V แทน (เพราะพฤติกรรมของอุณหภูมิน้ำมันเครื่องของ จขกท. มันตรงกับ H-tech ตามที่คุณแพนเล่ามา)
ถ้าความเห็นผมผิดกฎระเบียบของบอร์ดฯ ลบได้เลยนะครับ...
คิดเหมือนผมเลยครับ ถ้าน้ำมันเครื่องขนาดนั้นแล้วละก็ ผลลัพธ์มันไม่ควรจะเหมือนกันขนาดนี้น่ะครับ มันน่าจะมีความแตกต่างบ้าง :-\
ผมเองก็เกือบคิดแบบนั้น แต่สังเกตที่เจ้าของกระทู้ถ่ายรูปแกลลอนน้ำมันเครื่อง 300V มาและบอกว่า "มีเหลือกลับบ้านนิดหน่อย" ผมเดาว่าเจ้าของกระทู้น่าจะได้ยืนดูการเปลี่ยนถ่ายด้วยตัวเองแล้วว่าเติม 300V จริงๆ ถ้าช่างเติมผิด แล้วน้ำมันที่เหลือในแกลลอนนั้นมายังไง คงไม่ซวยถึงขนาดเอาน้ำมันถ่ายผิดกับรถที่จอดข้างๆกัน แล้วเอาแกลลอนน้ำมันเหลือเก็บไว้ให้เจ้าของกระทู้หรอกมั้งครับ
ระดับน้ำมันเครื่องเหมือนจะเกินครับ (ดึงก้านเช็คออกมา ใช้กระดาษทิชชู่เช็ด และเสียบก้านลงไปใหม่ แล้วดึงขึ้นมา มีน้ำมันเครื่องตามรูปด้านล่างครับ รถจอดตั้งแต่เมื่อวานตอนเย็นครับ)
(http://i.imgur.com/vTH9vMEg.jpg)
ส่วนประเด็นเรื่องน้ำมันเครื่องผิด พูดมาแบบนี้ผมเริ่มสงสัยและไม่ค่อยสบายใจแล้วครับ ตอนถ่ายน้ำมันเครื่อง ผมทิ้งรถไว้ตอนเย็น แล้วมาเอาอีกวันนึงครับ ไม่ได้ยืนดู แต่ก็ได้คุยกับเจ้าหน้าที่รับรถครับ ว่า Oil Temp มันสูง ขอให้ถ่าย 300V เลย
ประเด็นนี้ผมควร Recheck ไหมครับ ตอนนี้วิธี Recheck เท่าที่คิดได้คือ
รถเพิ่งไว้ได้ร้อยกว่าโล น้ำมันเครื่องคงไม่เสื่อมสภาพมาก ผมจะทำการถ่ายคลิป Condition ในการใช้งานต่างๆ ว่าอุณหภูมิน้ำมันเครื่องเท่าไหร่ เช่น วิ่ง 110, 160, 180 แช่ไว้ X นาที ประมาณนี้
จากนั้น ซื้อ 300V เกรดเดียวกันจากที่อื่นแล้วถ่ายไปใหม่ และเช็คดูว่าผลมันตรงกันหรือเปล่า ทำแบบนี้โอเคไหมครับ
-
ลองตรวจสอบระดับน้ำมันเครื่องดูตามคู่มืออีกครั้งก็ดีครับเพราะตอนคุณJIMMY test drive XV ก็เขียนไว้ว่าเจอปัญหาศูนย์เติมน้ำมันสำหรับเพลาหน้าน้อยเกินไปครับ
-
จะลองถ่ายคลิปให้ condition เหมือนกันอย่างว่าก็ได้ครับ แต่ถ้าจะลอง 300V สองครั้ง ชักเนื้อไปอีก 5-6 พันเลยนะครับ ขนาดผมยังไม่กล้าแนะคุณอย่างนั้นเลย
ถ้ามี Lab ทดสอบน้ำมันเครื่องดีๆ ผมว่าแค่เอาของในเครื่อง กับของ 300V ที่เหลือในกระป๋อง แล้วจากนั้นซื้อ 300V แบบกระป๋องลิตร กับ Htech แบบกระป๋องลิตร เอาน้ำมันทุกตัวทดสอบเทียบกัน ผมว่ารู้หมู่หรือจ่า แต่เรื่องค่าใช้จ่าย ผมไม่ทราบเหมือนกัน
แต่ในอีกทางหนึ่ง คุณลองไปถามใน siamsubaru ดูว่ามีใครที่ใช้ WRX FA20DIT แล้วใช้ 300V มาบ้างหรือเปล่า แล้ว Temp เขาเท่าเราหรือไม่ โดย common sense เครื่อง FB20 รอบ 6200 NA กับ FA20DIT รอบ 6800 มีโบ อย่างหลังอัดความเร็วสูงๆน่าจะต้มน้ำมันเดือดได้เร็วกว่าอีกด้วยซ้ำไป
เรื่องระดับน้ำมันเครื่องเกิน ถ้าเกินไม่เยอะ ผมว่าไม่เกี่ยวกับการทำให้ตัวน้ำมันร้อนเร็ว
อีกเรื่องที่บางท่านบอกคือตำแหน่งการปัก sensor Oil temp ถ้าปักในเสื้อสูบ ค่าที่ได้ก็จะร้อนกว่าปักที่อ่างหรือตรงฐานกรองน้ำมันเครื่อง..ปัญหาคือผมไม่ทราบว่า Temp ของ FA, FB มันปักตรงไหน
แต่ที่ผมสงสัย คือแม้ว่า sensor จะปักตรงไหนก็ตาม การไต่ของอุณหภูมินี่ล่ะที่ผมติดตรงที่ว่า temp ไต่เร็วกว่า HTech เดิม ทำให้ผมมองว่าจะปัก sensor ตรงไหนก็ไม่เกี่ยว แต่ temp ของ 300V ที่เป็นเกรดมอเตอร์สปอร์ต ไม่น่าไต่ระดับขึ้นเร็วกว่า HTech ที่เป็นน้ำมันรักสันติอีโคาร์กับรถบ้านใช้
-
เครื่อง fb20 ผม ถ้าหลังค่อยๆ รันอินจนนิ่งดีเเล้ว ผมใส่ MoS2 ของ liquimoly ลงใน นมค.คับ ผมใช้ royal purple hps 5w20
ความร้อน นมค.ขึ้นช้า และลงเร็วกว่า กรณีไม่เติม MoS2 ใน นมค. มาก
ผมคิดว่า สูบนอน น้ำหนักกดด้านเดียว ถ้ารถใหม่ๆ บางคัน สูบยังไม่บาล้านดีเท่าไรยังเเกว่งอยู่มาก โลหะเเกว่งครุดกันง่าย ถ้าใส่สารเติมเเต่ง น้ำมันเครื่อง กลุ่ม solid lubricant น่าจะช่วยให้การหล่อลื่น โลหะ ไม่มาเเตะครูดกันได้ดีกว่า เพราะของเเข็ง ทนต่ำน้ำหนักกดทับดีกว่าของเหลว
ผมลองทั้ง ceratec ตัวเเพง mos2 ตัวถูก ผมว่า ตัว ถูก ดีเเล้วคับ
-
เซนเซอ oil temp fb20 รุ้สึกจะฝังเสื้อสูบอยู่หน้าเครื่องๆ เเถวๆปั้มน้ำมันเครื่อง ใกล้ๆ oil pressure switch คับ
-
เซนเซอ oil temp fb20 รุ้สึกจะฝังเสื้อสูบอยู่หน้าเครื่องๆ เเถวๆปั้มน้ำมันเครื่อง ใกล้ๆ oil pressure switch คับ
ขอบพระคุณครับ ;)
-
น้ำมันเครื่องเบอร์30ในโลกนี้ ผมไม่เห็นตัวไหนเอามาใช้เมืองไทยขับอัดๆกับเครื่องมีโบแล้วจะหลุดออกจากboundary lubrication ในStreibeck curve ของน้ำมันได้เลยนะครับ ไม่แปลกที่มันจะสร้างแรงเสียดทานมหาศาลที่รอบเกิน3พันรอบ
ไม่แน่ใจว่าเครื่องรุ่นนี้ยังใช้ น้ำร้อนเป็น heaterอุ่นน้ำมันเครื่องอยู่ไหม ถ้าใช่คงต้องแยกออยเพื่อจะรักษาอุณหภูมิให้เหมือนขับเมืองหนาวครับ