Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: boldbenn ที่ กันยายน 17, 2016, 19:52:25
-
พอดีผมมีแพลนจะซื้อรถครับ แล้วไปถูกใจ Mazda2 ตัวใหม่ที่พึ่งออกมา แต่มันมีเครื่องเบนซิน และ ดีเซล
เลยอยากทราบว่ามันต่างกันยังไงครับ และอยากสอบถามผู้ที่ใช้งาน Madza 2 อยู่แล้ว รึว่ามีประสบการณ์ ช่วยตอบปัญหาโลกแตก
ก็คือ ผมได้ยินมาว่า Mazda กินน้ำมัน เลยอยากทราบว่าจริงๆแล้ว มันกินน้ำมันจริงมั้ยครับ
(http://ohhauto.com/wp-content/uploads/2016/02/capture-20160201-155816.jpg)
-
ใช้ตัวดีเซลอยู่
ความต่างหลักๆ ของทั้ง 2 เครื่องนี้คือสมรรถนะครับ
อัตราเร่งดีเซลดีกว่าเบนซิน ซึ่งตัวเลขจับเวลาของเว็บได้จัดไว้แล้วในกระทู้ปักหมุดบนสุด
ซึ่งตัวเลขที่ต่างกันก็ถือว่ามากพอสมควร แต่ความรู้สึกและพฤติกรรมการใช้งานที่ตัว จขกท. ต้องไปลองขับเองดูครับ
ถ้าอัตราเร่งเบนซินพอต่อเท้า ใช้งานแต่ในเมือง แทบไม่ได้เอาไปเร่งแซงที่ไหน การเซฟเงินแสนกว่าบาทเลือกเบนซินก็ถือว่าเป็นทางเลือกที่คุ้มค่าครับ
แต่ถ้าขับแล้วไม่พอเท้า มีโอกาสได้ขับทางยาวบ่อยๆ การเพิ่มเงินแสนเลือกดีเซลก็คุ้มค่าเช่นกัน
ที่เหลือก็พวกออพชั่นปลีกย่อยนิดหน่อยในรุ่นย่อยเทียบเคียงกัน แต่ลูกเล่นการใช้งานเหมือนกันครับ
ส่วนความประหยัด ลืมภาพ Mazda เดิมๆ ทิ้งไปได้เลยเมื่อมาเจอในยุค Skyactiv
น้อง 2 อัตราสิ้นเปลืองตามที่เว็บทดสอบตามาตรฐานของเว็บเองก็ยังประหยัดสุดจากที่ทดสอบมา
และพอผมได้ใช้จริงๆ ขนาดเจอแต่ไฟแดง ก็ยังทำถังแรกได้ถึง 18.48 กม./ลิตร สุดยอดความประหยัดจริงครับตัวนี้
ยังไงไปลองขับเพิ่มเติมดูครับ
-
Mazda 2 Skyactiv นับว่าเป็นรถน้ำมันที่ประหยัดน้ำมันที่สุดในขณะนี้เลย (เอาที่มีโรงงานในไทย) ระดับ 22+ โลลิตร ประหยัดกว่า Eco Car ทุกคัน
ตัวรถมาด้วยข้อเสียแทบจะอย่างเดียวเลย คือท้ายแคบ ศูนย์บริการอยู่ในระดับกลางๆ เช่นเดียวกับปริมาณศูนย์ก็กลางๆ เช่นกัน ไม่ใช่ว่าไม่มีเลย
ตัว 1.3 เบนซิน ออกตัวจะอืดหน่อย ระดับเดียวกับ Eco Car ตัว 1.5 ดีเซล จะออกตัวพุ่งในระดับรถ 1500cc ที่สำคัญคือ มันเป็นน้ำมันดีเซลที่ ภาครัฐอุ้มราคาไว้ เพราะเป็นน้ำมันภาคการขนส่ง ถ้าภาครัฐปล่อยให้ขึ้นราคาเท่าเบนซิน สินค้าอุปโภคจะทะยอยขึ้นราคา และไม่ลงมาอีกเลย แต่เนื่องจากสภาะน้ำมันโลกในปัจจุบัน น่ำมันมีราคาต่ำกว่าเมื่อปีที่แล้ว ทำให้ราคาเบนซิน และดีเซลเลยพอกัน (ก่อนหน้านี้ เบนซินพุ่งไป 38 ได้มั้งสำหรับ 95 ดีเซลอยู่แค่ 29) ตอนนี้ตอบได้ยากว่า ราคาน้ำมันจะหันไปในทิศทางใด
-
ไปทดลองขับมาแล้วครับ แต่เป็นตัวรุ่นลองท็อปของฝั่งเบนซิน
เลยอยากรู้ว่ามันโอเคมั้ยครับ โดยส่วนตัวผมชอบ เพราะว่าช่วงล่างดูนุ่นดีครับ
แต่ก็ลังเลเพราะมีแต่คนเชียร์ว่าถ้าจะเอา Mazda2 ดีเซล ดีกว่า :'( :'(
-
ตัวท็อปทั้งคู่ ต่างกันราวๆ 1.4แสน ถ้าใช้น้ำมันสัปดาห์ละ 6,000 บาท ปีนึงก็ 72,000 เท่ากับว่า คุณจะมีเงินเติมน้ำมันประมาณ 2ปี OK เลยน่ะ เป็นผมเลือกเบนซินพอแล้วครับ ไม่งั้นจะขยับไปเล่น C-seg ตัวล่างแทน เพราะผมเน้นความสบายและประหยัดมากกว่า option ซึ่งไม่ค่อยได้ใช้
-
มีใครใช้ตัว เบนซิน อยู่บ้างมั้ยครับ พอดีผมลังเลมากๆ
เห็นมีแต่ใช้ดีเซลกันหมด :'( :'(
-
มีใครใช้ตัว เบนซิน อยู่บ้างมั้ยครับ พอดีผมลังเลมากๆ
เห็นมีแต่ใช้ดีเซลกันหมด :'( :'(
กลุ่มตลาด มันแยกกันชัดเจนนะครับ ขึ้นอยู่กับว่าเราใช้งานมันยังไง... มากกว่าครับ
-
ผิดแล้วครับ เรื่องเปลืองน้ำมัน กลับกันประหยัดกว่าไฮบริดบางคันอีกนะ 55+
-
มีใครใช้ตัว เบนซิน อยู่บ้างมั้ยครับ พอดีผมลังเลมากๆ
เห็นมีแต่ใช้ดีเซลกันหมด :'( :'(
ดีเซล แพงกว่า แรงกว่า ประหยัดกว่า เท่านั้นครับ (ตัวท๊อปมีไฟหน้า LED)
-
กทม. เป็นผมคงเลือกเบนซินประหยัดไปหลักแสน
แต่ถ้า ตจว. ต้องดีเซลเท่านั้นครับ
อัตราเร่งเหลือก็ดีกว่าขาดด ยิ่งถนนสองเลนสวน ถ้ากะความเร็วคันหน้าผิด หรือโดนกวนตรีนแบบว่าเราจะแซง มันก็กดคันเร่งตาม อันนี้เจอบ่อย โดยเฉพาะคันที่ติดสติกเกอร์ซิ่งๆอะไรต่างๆ
-
ถ้าเป็นขับไม่ค่อยไกลเท่าไร ปีนึงออก ตจว สัก 1 ครั้ง เบนซิน จะโอเคมั้ยครับ
เพราะจะต้องขับไป เชียงใหม่ ทุกๆปี เพราะผมมองตัว เบนซิน ไว้อะครับ ?
-
ถ้าเป็นขับไม่ค่อยไกลเท่าไร ปีนึงออก ตจว สัก 1 ครั้ง เบนซิน จะโอเคมั้ยครับ
เพราะจะต้องขับไป เชียงใหม่ ทุกๆปี เพราะผมมองตัว เบนซิน ไว้อะครับ ?
ถ้ามองเบนซินไว้ก็ซื้อเลยครับ อย่างกลัวที่จะซื้อเพราะคนซื้อดีเซลหมด 1.3 มันก็ขับ ตจว. ได้ 1.5 ดีเซลมันก็ขับในเมืองได้
อยู่ที่ความชอบล้วนๆครับ
ปล. รวมถึงงบด้วย
-
ประหยัดสุดในรถที่ขายในไทยตอนนี้แล้วมั้งครับ ส่วนจะเอาเบนซินหรือดีเซล ถ้าเป็นคนไม่ได้เน้นอัตราเร่งอะไรมากมาย เบนซินก็เพียงพอแล้วครับ อนาคตการซ่อมบำรุงถูกกว่าตัวดีเซล ตอนซื้อก็ถูกกว่า เอาเป็นว่าถ้าคุณเคยขับ อีโคคาร์รุ่นอื่นๆ หรือมาสด้า2 ตัวเก่าแล้วพบว่ามันพอแล้วสำหรับคุณ คุณก็เล่นตัวเบนซินไปเถอะครับ เก็บตังส่วนต่างไปซื้อ ไฟหน้าตัวท๊อปมาใส่ประมาณ2หมื่น ที่เหลือเอาไปเติมน้ำมัน แค่นี้ก็ใช้ได้ยาวๆแล้วครับ
-
มีใครใช้ตัว เบนซิน อยู่บ้างมั้ยครับ พอดีผมลังเลมากๆ
เห็นมีแต่ใช้ดีเซลกันหมด :'( :'(
ยอดขายส่วนใหญ่ตาม Sale Report ส่วนใหญ่เป็นเบนซินนะครับ
-
ถ้าคุณขับไม่เร็ว ไปเรื่อยๆ ขับแต่ในเมืองเป็นส่วนมาก
เบนซินเป็นคำตอบที่เหมาะ เพราะประหยัดเงินไปได้เยอะ+ราคาน้ำมันก็สูสีกัน
ถ้าขยับแล้วไหว เลือกดีเซลเถอะ อัตราเร่งบางครั้งทำให้เรารอดพ้นจากอันตรายได้ เอาไว้เผื่อเหลือเผื่อขาด หรือจังหวะแซง
ส่วนมาสด้ากินน้ำมันน่าจะยุคเก่าๆแล้วครับ อย่างมาสด้า2โฉมที่แล้ว มาสด้า3โฉมแรก รายนั้นกินดุเกิ๊น ส่วนมาสด้าสองตัวใหม่นี้ประหยัดโคตรๆทั้งเบนซินและดีเซล
-
จริงๆ ถ้า จขกท. ชอบเบนซิน ขับแล้วโอเคในช่วงล่าง โอเคในอัตราเร่ง ใช้งานกัน 2 คนเป็นหลัก
จัดเบนซินมาได้เลยครับ ไม่ต้องเพิ่มเงินมาเล่นดีเซลอีกแสนกว่าบาทในรุ่นย่อยเทียบเคียงกัน
เพราะสิ่งสำคัญที่จะทำให้ จขกท. ลังเลคือเห็นคนใช้และแนะไปดีเซลหมด ซึ่งการใช้งานแต่ละคนไม่เหมือนกันครับ
อย่าง จขกท. ก็พอใจในเบนซินแล้ว อัตราเร่งใช้งานได้ตามเท้าที่ต้องการ ก็เลือกเบนซิน
อย่างผม เคยมีรถเครื่อง 1,600 MT มาก่อน ใช้ใน ตจว. เป็นหลัก ขับทางไกลที่ติดอัตราเร่งที่ดีไปแล้ว การเลือกดีเซลจึงเป็นทางเลือกที่เหมาะสำหรับผมมากกว่า ก็เท่านั้นครับ
เอาจริงๆ ในคลับนี่สัดส่วนเบนซินเยอะกว่าด้วยครับ เพราะราคามันก็ไม่ได้แพงไปกว่า Eco car เจ้าอื่นมาก แต่รถมีจุดเช่นที่ handling ช่วงล่างการควบคุมที่ดี ความประหยัดน้ำมันที่ดีมากและทำได้จริง ออพชั่นความปลอดภัยที่ครบขึ้นมา เสียแค่ด้านหลังแคบเท่านั้นเองครับ
ปล.ตอบหลังไมค์แล้ว
-
เลือกดีเซลต้องเป็นคนเน้นอัตราเร่งคับ ถ้าเน้นแค่ประหยัดไม่คุ้มกับราคาที่แพงกว่าเบนซิล
เน้นแรงดีเซล เน้นประหยัดเบนซิลคับ
-
ฟังหูไว้หูนะ. เบนซิลอืดแบบไม่ผ่าน. ไปดีเซลดีกว่า
แต่งบดีเซลผมว่าแพงไป. เปิดใจอีโค่นิสสันกับฮอนด้า
ขับดีพอกันแต่ได้ฟีลแรงกว่า
-
ถ้าใช้ 4-5 ปีขาย ดีเซลถึงแม้ส่วนต่างเยอะ แต่ว่าตอนขายก็น่าจะได้ราคาที่ดีกว่าเหมือน BMW Diesel กับ Benzene ผมว่าดูหลายๆอย่างประกอบ และ ไปขอลองขับดีกว่าครับ เพราะ เราใช้ทียาวๆครับ
-
ฟังหูไว้หูนะ. เบนซิลอืดแบบไม่ผ่าน. ไปดีเซลดีกว่า
แต่งบดีเซลผมว่าแพงไป. เปิดใจอีโค่นิสสันกับฮอนด้า
ขับดีพอกันแต่ได้ฟีลแรงกว่า
จากประสบการณ์ใช้ eco ของนิสสัน บอกเลยว่าลาขาดครับ อืดมาก ช่วงล่างก็แย่ สู้มาสด้าไม่ได้เลยนอกจากขนาด ส่วนบริโอ้ไม่เคยขับแต่ผมว่ามาสด้าก็น่าจะขับดีกว่าพอสมควรนะ
-
ถ้ามองในแง่ความประหยัด ซื้อดีเซลคงไม่คุ้มเพาะรถเบนซิลค่าน้ำมันประมาณกิโลเมตรละ 2 บาท ส่วนดีเซลค่าน้ำมันกิโลเมตรละ 1 บาท คนทั่วๆไปขับรถประมาณปีละ 20,000 กิโลเมตร ค่าน้ำมันก็ต่างกันปีละ 20,000 บาท เอาส่วนต่างของราคามาจ่ายค่าน้ำมันได้หลายปีเลยนะ แค่ถ้าชอบความแรงไปดีเซลดีกว่า ถ้ารถเอาแรงน้อย บางทีโดนพวกขับจี้ข้างหลังรำคาญมาก
-
อืด โคตรๆ
กับ
มันส์มากๆ
ดีเซลเถอะครับ
ตัวล่างสุดก็ยังดี
-
ตัว 1.3 เบนซิน มันก็แรงพอๆกับ 1.5 เบนซิลตัวเก่า แต่ประหยัดกว่ากันเท่าตัว ส่วนดีเซล นี่ทั้งแรงทั้งประหยัดเลย แต่ถ้าให้ออกจริงๆผมคงออก 1.3+เปลี่ยนไฟหน้าไปตัวtop เพราะเอาส่วนต่างมาเติมน้ำมันได้จนลืม
-
ผมอีกคนเลือกเบนซินครับ เพราะถูกกว่าและอัตราสิ้นเปลืองกิโลต่อลิตรดีกว่า จะติดแก็สถ้าชอบนะก็ยังง่ายกว่าดีเซลถ้าซื้อผ่อนอย่าลืมบวกส่วนต่างดอกเบี้ยด้วยนะครับ
-
ยิ่งอ่านคอมเม้นต์ยิ่งสับสน
-
ที่ต่างกันคือ ดีเซล ไม่ต้องเปลี่ยนหัวเทียนตลอดอายุ (เพราะมันไม่มี)
เบนซินต้องเปลี่ยนหัวเทียน เห็นว่าแพง 555
-
ถ้าคุณขับไม่เร็ว ไปเรื่อยๆ ขับแต่ในเมืองเป็นส่วนมาก
เบนซินเป็นคำตอบที่เหมาะ เพราะประหยัดเงินไปได้เยอะ+ราคาน้ำมันก็สูสีกัน
ถ้าขยับแล้วไหว เลือกดีเซลเถอะ อัตราเร่งบางครั้งทำให้เรารอดพ้นจากอันตรายได้ เอาไว้เผื่อเหลือเผื่อขาด หรือจังหวะแซง
ส่วนมาสด้ากินน้ำมันน่าจะยุคเก่าๆแล้วครับ อย่างมาสด้า2โฉมที่แล้ว มาสด้า3โฉมแรก รายนั้นกินดุเกิ๊น ส่วนมาสด้าสองตัวใหม่นี้ประหยัดโคตรๆทั้งเบนซินและดีเซล
+1
-
แฟนขับเบนซิน ตัวท็อป จะครบ 1 ปี สิ้นเดือนนี้ วิ่งไป 14,000 กม. วิ่งในเมืองรถติดๆ ก็ได้ 11-13กม./ลิตร (4กม. ใช้เวลา 40นาที)
อืดกว่าดีเซลเยอะครับ แต่สำหรับบางคน เพียงพอแล้ว และวิ่งต่างจังหวัดก็ทำได้ดีทีเดียว แป๊บๆ 130 - 140 ละ ขับเพลินๆ
:D
-
ผมใช้มาสด้า 2 ปี 2011 วิ่งชานเมือง รถติดบ้าง ไม่ติดบ้าง อัตราสิ้นเปลือง 9.3-9.8 กม./ลิตร
แนะนำให้ไปลองขับ ถ้าชอบแบบไหน ก็ซื้อแบบนั้น
เรื่องส่วนต่างราคา อย่าไปเอามาคิดเลยครับ เครื่องดีเซลตอนซื้อ จ่ายแพงกว่า แต่ตอนขาย ก็น่าจะได้ราคาสูงกว่าเช่นกัน
-
ดูจากคอมเม้นข้างบนแล้ว เน้นทางไปทาง ตัวดีเซล ประหยัด อัตราเร่งดีครับ
ลองไปขับตัวเบนซิล และ ตัวดีเซล จะได้ตัดสินใจได้ง่ายขึ้นครับ
-
ตัดสินใจไม่ได้ ให้ถามแฟน
ว่า
"เอาตัวท้อปนะ โอเคไหม"
-
เบนซินไม่อืดขนาดนั้น ภรรยาผมซื้อให้พ่อเธอขับ ผมก็ได้ขับจริงใช้จริง ประหยัดอีกต่างหาก ผมเลือกให้กับมือลองมาทุกยี่ห้อในตลาด ดีเซลแพงไป
-
เคยนั่ง 2 เบนซินรุ่นพี่ไปบางแสน ก็ไม่อืดเท่าไรนะครับ แต่ จขกท. ไม่มีปัญหาเรื่องงบล่ะก็จัดตัวดีเซลไปเลยก็ได้ครับ จะได้ไม่เสียใจทีหลัง ::)
-
ขอบคุณทุกๆคอมเม้นต์นะครับ ตอนนี้ผมได้ตัดสินใจเรียบร้อยแล้วครับ ผมคงเลือกตัวเบนซิน :)
ขอบคุณที่ช่วยให้ความรู้ในเรื่องของตัวเบนซินและดีเซลนะครับ
ขอบคุณจริงๆครับ ถ้ามีปัญหาผมจะมาสอบถามใหม่ครับ :)
-
ดีเซลเถอะ แล้วจะติดใจ มันไม่แพงเลยกับสมรรถนะที่ได้
บทเวลาจำเป็นต้องใช้แซง แรงบิดดีกว่ารถ 2.0 อีก มันช่วยได้เยอะ
เบนซิน ถ้าเทียบกับคู่แข่งมันไม่อืดหรอก แต่ถ้าไปเทียบกับตัวดีเซลคืออืดเลย
ถามตัวเองซื้อมาแล้วจะทนได้ไหม เหนดีเซลเค้าเร่งแซงเอา แซงเอา
เกิดเสียดายทีหลัง รู้งี้ เพิ่มอีกนิดดีกว่า
ปล. ไฟหน้า DRL ซื้อติดเอง ประกันขาดทันที เบิกศูนย์ ศูนย์ก็ไม่ติดให้
อยากได้ ต้องตัวท๊อปออกจากโรงงานดีที่สุด
-
ถ้ามาถามในนี้ ยังไงก้อ "ดีเซล" ครับ
แต่ถ้าถามคนใกล้ตัวอาจจะได้ "เบนซิน" ครับ
บอกเลยว่า ถ้าไม่ขัดสนเรื่องงบนะ "ดีเซล" เถอะครับ
ไม่ผิดหวังเพราะที่บ้านผมใช้อยู่ ตอนแรกจองเบนซินไปแล้ว
เสรจมาอ่านรีวิวพี่จิมมี่ข้องใจในตัวเลข
ก็เลยขอเทสไดรว์ ขอเปลี่ยนแทบไม่ทัน
สั้นๆ เลย เบนซิน "อืดสาดดดดดดดด" ตามนั้นครับ
-
ใช้ดีเซลอยู่ครับ
แต่จะตอบว่า เบนซินเหอะ
เบนซินไม่ได้อืดนะ ถามผมมันก็พอๆกับ 2 เก่า Jazz idsi 06 ซึ่งผมก็ขับเจ้าพวกนี้ไปทั่วไทยแล้วนะ
..................
อยู่ใน HLM จะอยู่กับกลุ่มคนที่เน้นขับขี่ ติดรถแรงนิดๆละครับ คำแนะนำไปดีเซลมากกว่าไม่ใช่เรื่องแปลก
แต่ถ้าเป็นสามัญชน เบนซินเหลือๆ ประหยัดไม่ต่างกัน และเรื่องค่าดูแลรักษาในอนาคต ค่าอะไหล่ถ้าพัง(โบ+อินเตอร์) ยังไงเบนซินก็ดูดีกว่า
และผมคิดว่า ดีเซลตัวนี้มันไม่เหมือนรถกระบะ ที่ทนกว่าเบนซินมากมายนะครับ
ข้อดีถ้าคุณจะไปเอาดีเซลก็คือ คุณ teen หนักแต่อยากประหยัด ใจร้อนอยากเร่งแซงให้จบๆ กับมีเขาให้ปีนประจำหนะครับ
ต่อให้เดินทาง ตจว. บ่อย ถ้าไม่ได้เร่งแซงอะไร วิ่ง 110เปิดแอร์นั่งสองคน(คุ้นๆ) ตัวเบนซินก็วิ่งได้สบายครับ....
-
ผมเคยขับตัวเบนซิลของพี่สาว มันก็ไม่ได้อืดมากมายอะไรเลยนะครับ ส่วนตัวผมคิดว่าเหลือๆ โดยปกติแล้วผมขับกระบะอยู่ เลยได้ลองขับของพี่สาวยาวๆดูแถมมีผู้โดยสารด้วย ไม่ได้อืดน่าเกียจอะไรมากมายเลย ลองไปเทสไดดูนะครับ
-
ไปหาโอกาสลองขับทั้งสองแบบครับ ถ้าเบนซินเพียงพอต่อการใช้งานแล้วดีเซลขับแล้วไม่ได้รู้สึกว่าที่เพิ่มมาจำเป็นอะไรนักก็ประหยัดงบไปได้เยอะเลยละครับ แต่ถ้าคุณรักในการขับขี่ก็คงต้องไปดีเซล ยอดขายส่วนใหญ่เป็นเบนซินตัวท็อปนะครับหมายความว่าคนส่วนใหญ่เค้าเน้นการใช้งานแบบเรื่อยๆมากกว่าแต่ในนี้ส่วนมากรักในการขับขี่ผลเลยกลายเป็นเชียร์ดีเซลซะเยอะ
ป.ล. ระหว่างเลยซินตัวท็อปกับเดีเซลตัวล่าง ผมเลือกเบนซินนะ ส่วนถ้าให้เลือกดีเซลตัวท็อปละก็ไปซื้อรุ่นอื่นเจ้าอื่นในตัวเลือกที่ราคาพอๆกัน
-
คุณพระช่วย!!!......ขออนุญาติอุทานแรดๆหน่อยเถอะ :P จนถึงยุคนี้แล้วยังอุตส่ามีคำครหาว่ามาสด้ากินน้ำมันอีกรึเนี่ย? แสดงว่าตารางอัตราการใช้น้ำมันที่จิมมี่พากเพียรปั้นมานี่โดนอ่านผ่านๆไปไม่น้อยเลย ตัวเลขเบนซินออกมาดีโดดเด่นก็ยั๊งโดนด่าว่ากินน้ำมันที่สุดในรุ่น :-\
-
1. Mazda 2 รุ่นใหม่ ทั้งเครื่องเบนซิน และ ดีเซล ประหยัดดีมาก
เป็น ECOCAR เฟส 2 ตามนโยบายรัฐบาล ผ่านการทดสอบตามมาตรฐาน UNECE เบอร์อะไร จำไม่ได้ (ตามที่รัฐกำหนด)
แต่รุ่น เบนซิน 1.3 ได้ถึง 23.3 กม/ลิตร ส่วนรุ่นดีเซล 1.5 ได้ถึง 26.3 กม/ลิตร
เทียบกับพวก ECOCAR เฟสแรก (เบนซิน 1.2 ล้วนๆ) ส่วนใหญ่ได้กันแค่ 20.xx กม/ลิตร
มีแค่ Mirage อยู่รุ่นเดียว ที่ได้ถึง 22.xx กม/ลิตร
2. แต่ด้วยความที่ Mazda 2 มีเครื่องยนต์ให้เลือกทั้ง 2 ชนิดน้ำมัน และราคาขาย รุ่นระดับเดียวกัน ต่างกันแค่เครื่อง ก็ต่างกันร่วม แสนกว่าบาท
ฉนั้น ... ถ้ามีตังค์มากพอ จ่ายแพงได้ และทนเสียงเครื่องดังกว่าเล็กน้อย ก็...เลือกรุ่นดีเซล อัตราเร่งของรถ เทียบได้กับรถเก๋ง 1.5 ลิตร เช่น City , Jazz , Vios ไม่ต้องไปกลัวเลย
แต่ถ้างบจำกัด เอาแค่ เบนซิน 1.3 ก็พอ เซฟตังค์ได้อีกราวๆ 1.3 แสนได้ ถึงจะแรงสู้รุ่นดีเซลไม่ได้ แต่ก็แรงกว่า ECOCAR 1.2 ส่วนใหญ่แล้วกัน
-
ลองเอาไปเทียบกับคันที่ขับอยู่ครับ ตอบโจทย์ตัวเองได้ก็ซื้อครับ
-
ผมใช้เบนซินอยู่นะครับ ตัวท้อป อืดนะครับ แต่ไม่มาก ไม่ได้อืดแบบเต่าคลานอะไรแบบนี้
แต่ตอนเร่งแซง อาจจะต้องใช้พลังกำลังมากหน่อยนิดนึง แต่พาขึ้นเขาได้สบาย แรงเหลือเฟือ
การประกอบภายใน โอเคเลยแหละ นี่คือสิ่งที่ผมเลือกมาสด้า 2 เพราะภายในเทียบกับคู่แข่งนี่เกินหน้าเกินตามาก ระบบความปลอดภัยก้อครบ
ขับทางไกลก้อโอเคนะครับ ทุกสัปดาห์ ผมขับไป-กลับบ้าน 200 กว่าโล ประหยัดใช้ได้เลยครับ
ทั้งที่ทั้งนั้นอยู่ที่ จขกท ต้องไปลองขับเองก่อนครับ แล้วค่อยมาตัดสินใจ
-
ถามผมถ้างบพอไหวดีเซลก็ดีเซลครับ
ตอนแรกผมจองเบนซิน รู้สึกว่าเพียงพอนะครับไม่อืดอะไรมาก (เมื่อก่อนใช้ yaris 2010)
พอได้ลองดีเซลเท่านั้นแหละ 5555 เรื่องกำลังสำหรับผมเหลือดีกว่าขาดครับ
ผมขับรถไปกลับกรุงเทพชลบุรีวันละร้อยกว่าโลทุกวัน
รถติดในเมืองสลับทางไกลเฉลี่ยน้ำมันตกอยู่ที่ประมาณ 23km/l (คำนวนจากระยะทางที่ขับหารด้วยน้ำมันที่เติมกลับ)
ได้รถมา 9 เดือน 30,000โล ยังไม่มีปัญหาอะไรครับ
-
ต่อให้สมาชิกทั้งเวบบอกว่าอืด. หากคุณลองแล้วโอเคก้อจบครับ
ในทางกลับกัน คนทั้งเวบบอกว่าแรง. คุณไปลองแล้วอืด. มันก้อเฟลครับ
เพราะการใช้งานมันต่างกัน. ให้ผมใช้เบนซิลขับไปกลับมอเตอร์เวย์ เข้ามากทม. ทุกๆวันผมว่ามันอืดไป
บางคนขับชิวๆ มันก็แรงชิครับ
-
ผมใช้ 2ดีเซลครับ
เพื่อนผมใช้ 2เบนซิน
จากการลองขับ 2เบนซินของเพื่อน ในกรณีที่ขับขี่ประมาณ 1/4 คันเร่ง พบว่าขับได้ดีเร่งลื่นไหลกว่า 2ดีเซลนิดๆครับ
2ดีเซล ช่วง 1/4คันเร่งผมว่าอืดไปหน่อย จะเร่งได้ดีกว่า 2เบนซิน คือช่วงตั้งแต่ 1/2คันเร่งไปจนถึงเต็มคันเร่งครับ
ท่านที่มีลักษณะการขับขี่เท้าเบา ส่วนใหญ่ขับขี่ที่ 1/4คันเร่ง จึงมักตอบว่า 2เบนซิน พอเพียงเหลือเฟือ
ท่านที่มีลักษณะการขับขี่ ที่ส่วนใหญ่ขับขี่ที่ 1/2 คันเร่งขึ้นไป จึงมักแนะนำ 2ดีเซลครับ
ลองพิจารณาตามความเหมาะสมครับ ::)