Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: Theerayuttu ที่ กันยายน 21, 2016, 10:31:26
-
สอบถามหน่อยครับ ถ้าพูดถึงสมรรถนะการขับขี การเข้าโค้งบนถนนปรกติหรือถนนที่เปียกลื่น การเกาะถนน รวมถึงการทรงตัวต่างๆ
เปรียบเทียบกันระหว่างรถขับเคลื่อน 4 ล้อ full time 4WD อย่างเดียวไม่มีระบบตัวช่วยอื่นๆ กับ รถขับเคลื่อน 2 ล้อ (2WD) แต่มีตัวช่วยต่างๆ เช่น TRC/ESC/VSC...ใดๆ สมรรถนะในการขับขีจะแตกต่างกันไหมครับ ตัวไหนจะดีกว่าหรือไม่?
-
ต้องมาแยกก่อนว่า 4wd ของ กระบะ , PPV
หรือ
4wd ของ เก๋ง , SUV
แค่นี้ก็ต่างกันอยู่นะ
-
การทำงานมันต่างกันครับ..
ระบบ Traction Control จะทำงานก็ต่อเมื่อเกิดการลื่นไถล หรือเสียการทรงตัว ระบบจึงจะทำงาน
แต่ระบบ 4x4 Fulltime จะทำงานตลอดเวลา..
ดังนั้นสมรรถนะการเกาะถนนที่ดีทั้งถนนแห้งและเปียก ขับ4 ดีกว่าครับ..
แต่ถ้ามีทั้ง 4x4 fulltime และมี Traction Control ด้วยจะเพอร์เฟคที่สุด
-
ต้องมาแยกก่อนว่า 4wd ของ กระบะ , PPV
หรือ
4wd ของ เก๋ง , SUV
แค่นี้ก็ต่างกันอยู่นะ
ยกตัวอย่างเป็น PPV แล้วกันครับ อาจจะเป็นยี้ห้อเดียวกันรุ่นเดียวกันก็ได้ครับ จริงๆอยากจะทราบความคิดเห็นครับ ในทางทฤษฎี หรือทางการใช้งานจริงๆ ไม่ได้ซีเรียอะไรครับ
-
สมรรถนะในการขับขีจะแตกต่างกันไหมครับ ตัวไหนจะดีกว่าหรือไม่?
สมรรถนะในการขับขี แบบไหนละ ในเมือง ถนนลาดยาง ทางขึ้นเขาลงเขา ทางลูกลัง
ขับในเมือง ที่ราบ สมรรถนะไม่ต่าง ต่างแค่อัตราสิ้นเปลือง 4WD เปลืองกว่า
ขึ้นเหนือ ขึ้นเขา โค้งเยอะ 4WD สมรรถนะดีกว่าทุกด้าน
-
การทำงานมันต่างกันครับ..
ระบบ Traction Control จะทำงานก็ต่อเมื่อเกิดการลื่นไถล หรือเสียการทรงตัว ระบบจึงจะทำงาน
แต่ระบบ 4x4 Fulltime จะทำงานตลอดเวลา..
ดังนั้นสมรรถนะการเกาะถนนที่ดีทั้งถนนแห้งและเปียก ขับ4 ดีกว่าครับ..
แต่ถ้ามีทั้ง 4x4 fulltime และมี Traction Control ด้วยจะเพอร์เฟคที่สุด
จริงๆครับ ถ้ามี 4WD แล้วมีระบบตัวช่วยอื่นๆอีกด้วย จะเพอร์เฟคที่สุดครับ
แต่ถ้าสมมุติว่า มีรถ 2 คันตามเงื่อนไขนี้ ถ้าเราเผลอเข้าโค้งแรงๆ ในถนนที่เปียกและลื่น คันไหนจะ safety ที่สุด หรือ safety พอกัน
-
ผมยกตัวอย่างแล้วกัน รถประเภท PPV เป็นการขับบนถนนลาดยางในต่างจังหวัดวิ่งยาวๆ ข้ามจังหวัด ถ้าเราเผลอเข้าโค้งแรงๆ ในถนนที่เปียกและลื่น และรถกำลังจะเกิดอาการเสียการทรงตัว คันไหนจะ safety ที่สุด หรือ safety พอๆกัน
-
Fulltime 4WD เกาะถนนกว่า เข้าโค้งมั่นใจกว่าครับ แต่ถ้าหักหลบบนถนนลื่นมากๆเนี่ย ไม่รู้ว่าจะคุมได้เท่า ESP ไหมนะครับ
ส่วน 2WD ด้อยกว่าก็จริง แต่ถ้าหลุดขึ้นมามันมี ESP ที่มันสามารถเข้ามาช่วยได้ดีกว่านะครับ(ถ้า Program มัน Set มาดีนะครับ)
ที่เคยเทียบกันก็ Fortuner รุ่นแรกสุด Fulltime 4WD (เปลี่ยนโช๊ค) กับ Fortuner 2WD Minor Change ApertoI
การขับขี่ทั่วไปรุ่นแรกมั่นใจกว่าหมด เลี้ยวทางดินมีอาการลื่นๆนิดๆ เลี้ยวได้เร็วกว่าเหยียบต่อได้สบาย(อาจจะเพราะโช๊คด้วยแหละ)
แต่คัน 2WD มีอาการก่อนตลอด ยกเว้นตอนที่ไปเจอดินโคลนทางโค้ง อันนี้เห็นเลยว่า ESP มันดึงรถได้ดีมากครับ
-
Fulltime 4WD เกาะถนนกว่า เข้าโค้งมั่นใจกว่าครับ แต่ถ้าหักหลบบนถนนลื่นมากๆเนี่ย ไม่รู้ว่าจะคุมได้เท่า ESP ไหมนะครับ
ส่วน 2WD ด้อยกว่าก็จริง แต่ถ้าหลุดขึ้นมามันมี ESP ที่มันสามารถเข้ามาช่วยได้ดีกว่านะครับ(ถ้า Program มัน Set มาดีนะครับ)
ที่เคยเทียบกันก็ Fortuner รุ่นแรกสุด Fulltime 4WD (เปลี่ยนโช๊ค) กับ Fortuner 2WD Minor Change ApertoI
การขับขี่ทั่วไปรุ่นแรกมั่นใจกว่าหมด เลี้ยวทางดินมีอาการลื่นๆนิดๆ เลี้ยวได้เร็วกว่าเหยียบต่อได้สบาย(อาจจะเพราะโช๊คด้วยแหละ)
แต่คัน 2WD มีอาการก่อนตลอด ยกเว้นตอนที่ไปเจอดินโคลนทางโค้ง อันนี้เห็นเลยว่า ESP มันดึงรถได้ดีมากครับ
:-* แสดงว่ามันมีดีพอๆกัน แต่ 4WD น่าจะดีกว่า
-
ของคนละอย่างกันครับ พวกระบบคุมทรงตัว มันต้องลื่นต้องปัดก่อนถึงจะทำงาน แต่ช่วยได้ขนาดไหนเป็นอีกเรื่องนึง
แต่ 4wd fulltime มันหมุน4ล้อตลอด คือมันเกาะขึ้นทันที แต่ถ้าหลุดและหมุนมันก็ไปเลย เช่นขับบนหิมะลื่น4ล้อ
หรือคล้ายๆกับรถ 4wdติดหล่ม
-
ในกรณีของรถเหลือนกัน ต่างแค่ระบบ กับระบบขับเคลื่อนนะครับ
4wd สมรรถนะดีกว่าครับ ตามกรณีที่คุณบอกมา (การเข้าโค้งบนถนนปรกติหรือถนนที่เปียกลื่น การเกาะถนน รวมถึงการทรงตัวต่างๆ)
2wd ที่มีระบบควบคุมการทรงตัว จะถูกตัดกำลัง เมื่อมันเสียtractionครับ
สมตินะครับ 4wd กับ2wd ไม่มีระบบควบคุมการทรงตัวทั้งคู่
อยู่ในโค้งลื่น รถ4wd จะมีtraction มากกว่าจากระบบขับเคลื่อน ทำให้วิ่ง+เร่งได้เร็วกว่า2wd
รถ2wd จะมีtraction น้อยกว่าจากการที่มันขับเคลื่อน2ล้อ ทำให้วิ่ง+เร่งได้ช้ากว่า4wd
ในกรณี 4wd vs 2wd+ระบบควบคุมการทรง
รถ4wdก็ จะมีtraction มากกว่า ทำให้วิ่ง+เร่งได้เร็วกว่า2wdอยู่ดี แต่จะวิ่งได้ถึงจุดสุดท้ายที่ยังเหลือ traction ถ้าเกินเมื่อไหร่ก็ต้องแก้อาการเอง หรือถ้าไม่เตรียมตัวก็ลงข้างทางไป
รถ2wdก็ จะมีtraction น้อยกว่า ทำให้วิ่ง+เร่งได้ช้ากว่า4wdอีกแล้ว แต่คุณก็ยังสามารถเติมคันเร่งไปเรื่อยๆ พอถึงจุดที่เกินtraction เมื่อไหร่ ระบบก็จะสั่งให้ตัดกำลัง + เบรคข้างที่ยังมีtractionเหลือ ทำให้คุณประคองรถตามพวงมาลัยควบคุมต่อไปได้
สรุปนะครับ ยังไงพวกระบบต่างหรือ4wd 2wd ก็ไม่หนีจากหลัก physicsไปได้ครับ และมนุษย์สู้ระบบคอมพิวเตอร์ไม่ได้(มนุษย์สั่งเบรคล้อใดล้อหนึ่งไม่ได้ สั่งตัดกำลังล้อใดล้อหนึ่งไม่ได้ แต่ระบบคอมพิวเตอร์ต่างๆ ทำได้)
ดังนั้น ขับขี่ปลอดภัยครับ
-
4wd แบบawdเท่าที่ดูรถตอนนี้ในตลาด คือมีกันล้อลื่นกันหมดทุกรุ่นแล้วมั้งคับ ยกเว้นจะเป็นรุ่นเก่าๆ
ส่วนพวกกระบะจะเป็นขับ4ที่เอาไว้ใช้ทางลูกรังเท่านั้น ทางถนนดำน่าจะใช้ไม่ได้นะคับ
-
ในกรณีของรถเหลือนกัน ต่างแค่ระบบ กับระบบขับเคลื่อนนะครับ
4wd สมรรถนะดีกว่าครับ ตามกรณีที่คุณบอกมา (การเข้าโค้งบนถนนปรกติหรือถนนที่เปียกลื่น การเกาะถนน รวมถึงการทรงตัวต่างๆ)
2wd ที่มีระบบควบคุมการทรงตัว จะถูกตัดกำลัง เมื่อมันเสียtractionครับ
สมตินะครับ 4wd กับ2wd ไม่มีระบบควบคุมการทรงตัวทั้งคู่
อยู่ในโค้งลื่น รถ4wd จะมีtraction มากกว่าจากระบบขับเคลื่อน ทำให้วิ่ง+เร่งได้เร็วกว่า2wd
รถ2wd จะมีtraction น้อยกว่าจากการที่มันขับเคลื่อน2ล้อ ทำให้วิ่ง+เร่งได้ช้ากว่า4wd
ในกรณี 4wd vs 2wd+ระบบควบคุมการทรง
รถ4wdก็ จะมีtraction มากกว่า ทำให้วิ่ง+เร่งได้เร็วกว่า2wdอยู่ดี แต่จะวิ่งได้ถึงจุดสุดท้ายที่ยังเหลือ traction ถ้าเกินเมื่อไหร่ก็ต้องแก้อาการเอง หรือถ้าไม่เตรียมตัวก็ลงข้างทางไป
รถ2wdก็ จะมีtraction น้อยกว่า ทำให้วิ่ง+เร่งได้ช้ากว่า4wdอีกแล้ว แต่คุณก็ยังสามารถเติมคันเร่งไปเรื่อยๆ พอถึงจุดที่เกินtraction เมื่อไหร่ ระบบก็จะสั่งให้ตัดกำลัง + เบรคข้างที่ยังมีtractionเหลือ ทำให้คุณประคองรถตามพวงมาลัยควบคุมต่อไปได้
สรุปนะครับ ยังไงพวกระบบต่างหรือ4wd 2wd ก็ไม่หนีจากหลัก physicsไปได้ครับ และมนุษย์สู้ระบบคอมพิวเตอร์ไม่ได้(มนุษย์สั่งเบรคล้อใดล้อหนึ่งไม่ได้ สั่งตัดกำลังล้อใดล้อหนึ่งไม่ได้ แต่ระบบคอมพิวเตอร์ต่างๆ ทำได้)
ดังนั้น ขับขี่ปลอดภัยครับ
:-* สุดยอด เป็นความรู้ที่ดีมากครับ
-
รถคันเก่าของผมเป็น Fortuner 3.0 Full Time 4WD
คันปัจจุบัน MU X 3.0 2WD ( ที่ไม่เลือก 4WD เพราะเป็น Part Time )
รถติดกล่องดันราง+ยกหัวฉีด เปลี่ยนโช๊ค/สปริง แม็ค/ยางญี่ปุ่น 265/50/20 ทั้ง 2 คัน
ขับตอนฝนตกหรือขึ้นเขาขึ้นดอย ผมมั่นใจในเจ้าจูนมากกว่าครับ
มิว เวลาออกตัวที่เกียร์ 1 กดคันเร่งลึกๆ แล้วโยกแซง ล้อหลังฟรีทิ้งบ่อยๆ แต่ก็มีระบบ ESC มาช่วยไว้
เจ้าจูน แรงม้าจะถูกเฉลี่ยไปที่ล้อหน้า 20% อาการล้อหลังฟรีจึงไม่เกิดขึ้น
ปล.ใช้เจ้าจูน 7 ปี เดินทางไกลไปทั่วทุกภาค ไม่เคยเกิดอุบัติเหตุเลยแม้แต่ครั้งเดียวครับ
-
ถ้าพูดถึงการยึดเกาะถนน ผมให้ Full time ชนะในหลายๆ กรณีครับ
โดยรวมแล้วดีกว่าเยอะพอสมควรครับ
-
ขอเรียก AWD ไม่มีตัวช่วยอื่น(ยกเว้น ABS) ว่า AWD 90s ส่วนขับสองที่มีทุกอย่าง ก็ FWD+DA, RWD+DA (DA=Driver's Aid)
สมมติว่ารถทั้ง 3 คัน หนัก 1.35 ตันเหมือนกันหมด และใช้ยาง AD08 215/45/17 หมด
หากความเร็วในโค้งไม่มีการเร่ง แต่เป็นการเบรก (Trailbrake) ในจังหวะที่เข้าด้วย เบรกไปด้วย รถทั้ง 3 คันไปได้เร็วเท่ากันหมด เพราะระบบขับสี่ไม่ได้มีส่วนช่วยตอนเบรก AWD 90s ถ้าคุณขับเข้าโค้งแรงมากในรถที่เป็น Open diff สิ่งที่คุณจะเจอคืออาการที่เหมือนกับรถขับเคลื่อนล้อหน้า ตอนพุ่ง คุณพุ่งดีเพราะขับสี่เอาม้าลงพื้นหมด ตอนเบรก ขับสี่ไม่ได้ช่วย
แต่จังหวะไหนที่ AWD 90s ชนะ? มันคือจังหวะที่อยู่ในโค้ง และมีการป้อนคันเร่ง การที่ล้อทั้งสี่แบ่งม้ากันรับ คุณสามารถที่จะเล่นกับความลึกในการกดคันเร่งระดับต่างๆโดยที่รถไม่เสียแรงยึดเกาะ และไม่เสียเสถียรภาพ รถอย่าง Forester ตัวแรกๆ ที่เข้าโค้งดีส่วนหนึ่งเพราะการบาลานซ์แชสซีส์ช่วยในจังหวะเบรกและเลี้ยงความเร็ว แต่พอเริ่มจุ่มคันเร่ง นั่นคือส่วนที่เริ่มได้เปรียบ แม้ว่าจะจุดที่เราจุ่มคันเร่งไปจะยังไม่สร้างพลังจนถึงจุดที่สามารถชนะแรงยึดเกาะของยางได้ก็ตาม
แต่พอทางตรงปุ๊บ AWD 90s มีเพลาหลายตัว เสียกำลังขับเคลื่อนมากกว่ารถขับสอง ดังนั้นต่อให้น้ำหนักรถเท่ากันและแรงม้าเท่ากัน AWD อาจได้เปรียบที่ 60 ฟุตแรกตอนดีดออกตัว (คนขับต้องดีดออกให้เป็นด้วย) แต่เกิน 100 ไป ระบบขับเคลื่อนจะกลายเป็นภาระแทน
และถ้าคุณขืนทำอะไรแบบที่ไม่น่าทำ รถ AWD 90s หลุดยาก แต่พอหลุดแล้ว ไปแบบทั้งคัน ไม่มีระบบบริหารคันเร่ง ระบบกระจายการเบรกแยกล้อที่สามารถกันไม่ให้รถเสียการควบคุมไปมากขึ้นได้ ในขณะที่รถ FWD+DA, RWD+DA ตราบใดที่ระบบทำงานรถอาจจะไม่เร็วในโค้ง แต่มันจะยากมากที่จะหมุนหรือเสียการทรงตัว
ดังนั้นตราบใดก็ตามที่ไม่มีการจุ่มคันเร่ง หรือตอกคันเร่ง รถขับสองแทบไม่มีความเสียเปรียบ แต่ถ้าเป็นรถที่มีพลังแรงบิดสูง พอคุณเริ่มกดคันเร่ง มันขึ้นอยู่กับลักษณะการมาของแรงบิดและความละเมียดของตีนคนขับ สมมติเอายางที่รับแรงบิดได้ 200Nm มาใส่ 4 เส้น แต่เครื่องยนต์มีพลัง 800Nm ตอนผ่านจุดหักสุดของโค้งคนขับค่อยๆลงคันเร่ง แต่พอสะดุดถนนเป็นหลุม ตีนคนขับเผลอแย๊งค์คันเร่งไปหน่อยนึง แรงบิดโผล่มา 600 Nm จังหวะนั้น ถ้าเป็นรถขับหน้า แรงบิดเครื่องชนะยาง ก็หน้าแถ ถ้าเป็นรถขับหลัง ล้อหลังก็เสียแทร็คชั่นในจังหวะนั้น แต่ถ้าเป็นรถขับสี่ สบาย ล้อวงนอกโค้งที่ Grip เต็มที่รับไปแล้ว 400Nm ส่วนล้อวงในโค้งแตะๆพื้นหน่อยก็กระจายกันรับ 200Nm ที่เหลือได้
สรุป คือ ระหว่าง AWD 90s กับ 2WD+DA บนรถที่หนักเท่ากัน ยางเท่ากันประเภทเดียวกันและกระจายน้ำหนักต่างกันไม่มาก รถ AWD ไม่มีความได้เปรียบจนกว่าจะเป็นจังหวะที่ลงคันเร่งได้
ทั้งนี้.. เวลาไปเถียงนอกจอ มันจะมีหลายความเห็น บางคนอาจจะบอกขับสี่ไม่เกาะอย่างที่คิด..ก็แล้วแต่ ผมมักถามกลับว่าคุณกำลังเอา Honda Accord งูเห่ามาเทียบกับ Legacy หรือเปล่าล่ะ คุณเอารถที่น้ำหนักและรูปแบบของรถมาเทียบกันหรือเปล่า? ถ้าเอา Impreza GC ยาง 215 มาเจอ Jazz GE ยาง 205 แล้วบอกว่าขับหน้าทำเวลาได้ดีกว่า ลืมไปหรือเปล่าว่า Jazz GE เบากว่ากันตั้ง 200 โล จังหวะยิงเข้าโค้งจุดที่ GC ต้องเริ่มเบรก Jazz ยังกดคันเร่งอยู่ ตอนเดินคันเร่งกลางโค้ง น้ำหนักของรถก็จะคอยดึงรถออกนอกไลน์ รถที่เบากว่ามากๆก็ชนะ ขับสี่ถึงมีพลังเยอะแต่ก็ยังปล่อยทั้งหมดไม่ได้ นี่คือเสี้ยววินาทีที่รถขับหน้าเบาๆได้เปรียบก่อนที่ AWD จะตั้งหลักและตอกคันเร่งเอาพลังลงพื้นได้
-
เข้ามาเก็บความรู้ด้วยคนครับ :o
รถตลาดสมัยนี้ option กลางๆไม่ยอมให้ awd มาเลยฮะ
ส่วนตัวใช้น้องจูนโมเดลก่อน ขับมาทุกภาคในประเทศแบบคนปกติ 110-150
ทุกสภาพอากาศ ไม่เคยหลุดโค้งแม้แต่ครั้งเดียว ประทับใจ awd สุดๆ(ขนาดไม่มีตัวช่วยนะเนี่ย)
เรื่องสะเทิ้นน้ำด้วยครับ ตอนขับเก๋งเจอถนนเปียก เจอแอ่ง มีเสียววาบหลายครั้งจนนับไม่ได้
แต่น้องจูนเดิมๆนี่นิ่งแน่นแบบหาคำบรรยายไม่ถูก(กองอวยรถตกรุ่น ฮา ;D )
เวลาเลี้ยวอีก รู้สึกว่าแรงลงทั้งหน้าหลังช่วยกันเลี้ยว ไม่เหมือนที่ขับหน้า เลี้ยวแบบขาดๆแรงหลัง
เสียอย่างเดียว ซดน้ำมันโฮกๆ
(ค่าน้ำมันซื้อรถได้อีกคันเบย :'( )
-
:-* โอโห้ สุดยอด ความรู้ทั้งนั้นเลยครับ ชอบๆ ถ้าจะดีที่สุดครับ คงต้อง AWD+DA ในตลาดบ้านเราก็ต้องตัวท๊อปๆ
-
รถที่เป็น Fulltime AWD แบบไม่มีตัวช่วยอะไรเลย มันคือรถยุค 90 หรือเกือบๆ 30 ปีที่แล้วตามที่คุณแพนว่าไว้ครับ
มันเหมือนกับรถขับสองที่มีระบบช่วยการทรงตัวที่ดีทึ่สุด ไปเทียบกับรถ AWD เมื่อเกือบ 30 ปีที่แล้วเลยนะ..........
ถ้าเป็นรถสมัยนี้ มันมีทั้ง AWD มีทั้งตัวช่วยรักษาการทรงตัว มี torque vector ครบๆกันหมดแล้วครับ ขับง่ายกว่าแต่ก่อนพอสมควร
-
Fortuner Full time 4WD เข้าโค้งดีกว่า Fortuner RWD+VSC แน่นอน
แต่ Focus MK3, 3.5 FWD+VTC+ESP ผมชอบตอนเข้าโค้งมากกว่า XV Fulltime
4WD(AWD)+VTC+VSA ทั้งโค้งแคบ โค้งกว้าง โดยทั้งคู่ผมเลี้ยงคันเร่งนิดๆ
โช๊ค สปริง การกระจายน้ำหนัก ก็เป็นอีกปัจจัย ไม่ใช่แต่แรงบิดลงล้อ
-
เคยดูคลิปช่วยการทรงตัวได้แทบไม่ต่างกันเลย
-
ขึ้นเขาคิชกุด 4x4 ทั้งนั้น ขออภัยเขียนไม่ถูกจริงๆ
-
เคยใช้จูนรุ่นแรกขับสี่ฟูลชอบมากครับเกาะในโค้งจริงๆเติมคันเร่งสบายเลยติดใจพวกรถขับฟูล ตอนนี้เปลี่ยนคันมาก็ใช้ขับสี่ฟูลอยู่
-
VSC ESC มันเป็นสิ่งที่ทำมาแก้อาการเมื่อรถจะเสียการทรงตัว(คล้ายๆกับการแก้ที่ปลายเหตุ)
แต่4WD FT มันทำให้โอกาสที่รถจะเสียการทรงตัวมีน้อยกว่าพวก2WD(แก้ที่ต้นเหตุ)
ตอบคำถาม...เรื่องการขับขี่4WD FT เหนือกว่า2WD ส่วนพวกระบบช่วยที่กล่าวมาข้างต้น มันไม่ได้ทำให้สมถรรณะรถดีขึ้นแต่อย่างใดครับ
-
ถ้าขับปกติ และขับช้าทั้ง 2 ระบบไม่ได้สำแดงอาการทั้งคู่
แต่เมื่อใดที่เริ่มขับเร็ว ขับทางโค้งโดยเฉพาะการไต่เขาหรือเข้าโค้งแรง ๆ สมรรถนะทั้ง 2 แบบจะเริ่มแสดงอาการแต่ว่าระบบ 4wd fulltime จะเหนือกว่าและแสดงออกทางด้านการใช้งานจริงได้มากกว่า ถ้าเรียงลำดับเอาเลยในความน่าใช้งาน
1. 4wd fulltime + vsc trc
2. 4wd
3. 2wd + Vsc TRC
ยิ่งมีก็ได้ใช้มากถ้ารู้จักใช้ มีน้อยใช้น้อยเพราะมันมีให้ใช้แค่นั้น
-
เล่าให้ฟังในรถคันเดียวกัน
All New PJS 4X4 Top ตัวปัจจุบัน รถเดิมๆ ทั้งคัน
เพราะมันสามารถ เลือกขับ 2 ขับ 4 ได้ในคันเดียว
ขับ2 ขับ4
วิ่งแห้ง ทางดำ ออกตัวเร็ว และเบากว่า อืดกว่า พวงมาลัยจะตึงกว่า
เข้าโค้งไม่เร็ว สบายๆ เข้าโค้งไม่เร็ว สบายๆ แต่มั่นใจกว่า
เข้าเร็ว หวิวๆ นะ เข้าเร็ว สบายๆ
วิ่งแห้ง ทางกรวดลอย ลื่น ตั้งแต่ทางตรง มาจากยาง H/T รู้สึกปกติ แม้จะเป็นยาง H/T
เข้าโค้งไม่เร็ว ท้ายจะออกๆ บ้าง มันเข้าไปแบบนิ่งๆ
เข้าเร็ว เหวี่ยงเลย พร้อมจะหมุน ระบบช่วยเหลือทำงาน สบายๆ แต่มีลื่นนะ
วิ่งเปียก ทางดำ ไม่เร็วก็ สบายๆ เร็วก็เกร็งมือมากหน่อย ไม่เร็ว ก็ไม่ต่างวิ่งแห้ง เร็วก็ไม่น่ากลัวอะไร เสียวแต่ยางเหิรน้ำ
เข้าโค้งไม่เร็ว สบายๆ แต่หวิวๆ เข้าโค้งไม่เร็ว ก็ปกติเลย
เข้าโค้งเร็ว รู้สึกไม่กล้านะ เข้าโค้งเร็ว ก็เกร็งมือมากหน่อย
ปล. โค้ง คือ โค้งทั่วๆไป ไม่ใช่โค้งหักศอก
สรุปโดยส่วนตัว ผมอยู่บ้านนอก ตจว. ถ้ารุ่นเดียวกันมีขับ4 Option เท่ากันและราคาไม่เกินไป เอา ขับ4 ดีกว่า
เช่น New PJS Top ขับ4 ที่ผมใช้อยู่ ราคาตอนเปิด ห่างกับตัว Top ขับ2 ประมาณ 180,000 บาท
แค่ขับ4 อย่างเดียว ก็เกือบคุ้มแล้ว เพราะเอาไปแปลงข้างนอก
น่าจะประมาณ 160,000 แต่ไม่รู้ว่าจะจบหรือเปล่า (แค่แปลงขับ2เป็นขับ4 ไม่ได้วางคานหรืออื่นๆ เพิ่ม และอุปกรณ์มือสองผสมของใหม่บ้างตัว)
และ option ต่างกันเยอะพอควร เช่น ถุงลมมากกว่าอีก 5 ใบ กล้องรอบคัน ฯลฯ แต่ต้องยอมรับว่า อัตราเร่งด้อยกว่า กิน นม.มากกว่า
ดังนั้น ใครที่จะออกรถใหม่ และใช้ยาว ใช้นานควรคำนึงถึงข้อนี้ด้วยครับ