Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: Sora ที่ กันยายน 24, 2016, 00:37:27
-
สอบถามพี่ๆหน่อยครับ
พอดีผมกำลังหารถมือสอง งบประมาณ 700k-900k อะครับ กำลังเล็งๆ IS250 ไว้อยู่ส่วนตัวชอบเพราะรูปทรงแล้วก็ได้ยินมาว่าตัวนี้ไม่จุกจิกมาก (มั้ง) อยากรู้ว่า
1.ตัวนี้ยังน่าเล่นมั้ยอะครับ
2.จุกจิกรึเปล่า (เคยได้ยินว่าภายในเสื่อมสภาพง่าย)
3.ค่าบำรุงรักษาเป็นไงบ้างหนักกว่าพวกค่ายยุโรปรึเปล่า
4.แล้วก็งบประมาณนี้ควรเล่นรุ่นไหน ปีไหนดีครับ หรือว่าไปมองตัวอื่นเลย จริงๆก็มีแอบมอง ซีรี่ส์ 3 เครื่อง ดีเซล อยู่เหมือนกัน แต่กลัวเรื่องค่าบำรุงรักษาจะแพง ไม่รู้ว่า lexus กับ bmw อันไหนจะแพงกว่ากัน
รบกวนด้วยครับ
-
น่าเล่นมากครับ เป็นรุ่นที่ Design ลงตัวมากๆ รุ่นนึงเลย เรื่องความจุกจิกน้อยกว่า Benz Bmw ครับ
แถมเครื่อง V2.5 แรงและเงียบมากๆ วัสดุภายในคุณภาพดีกว่ารถยุโรปครับ มีปัญหาแค่ Console เสื่อมบางคัน
ตัว Minorchange จะหน้าตาดูทันสมัยขึ้น หารถที่มี Book service ครบๆละเอียดๆ นะครับ
-
ผมคิดว่ายังน่าเล่นนะครับ ผมให้แฟนไว้ใช้ส่งลูกไปโรงเรียน และใช้เองบ้างเสาร์อาทิตย์ เอาจริงๆ นะครับ ผมเคยคิดว่าจะซื้ออีกคันมาใช้ขับไปทำงานแทนเจ้า MX-5 NC ด้วยซ้ำ
เท่าที่ใช้มาไม่จุกจิก ขับสบาย พวงมาลัยตอบสนองดี ความแรงรอบต่ำอาจจะน้อยกว่าที่คาดหน่อย (คิดว่าเพราะรถเซตมาให้มีบุคลิกสุขุมมากกว่า) ในเมืองกินน้ำมันหน่อย ประมาณ 9 km/l แต่ทางไกลผมว่าประหยัดกว่ากันเอาเรื่อง 12-14 km/l
เช้าศูนย์แพงกว่า MX-5 แต่เท่าที่เจอก็ไม่ได้แพงจนรับไม่ได้ ล่าสุดผมเช็ค 6 หมื่นโลไป ประมาณหมื่นนึงครับ
ส่วนตัวผมชอบ sunroof ก็เลยเลือกตัวท็อปครับ ถ้าไม่ชอบแบบผมอาจจะเหลือเงินแต่งรถได้อีกเพราะที่เห็นราคาต่างกันเกินแสน ถ้างบนี้ผมคิดว่าน่าจะหาก่อน minor ได้ แต่ถ้าโชคดีก็อาจจะได้ minor มาแล้ว เป็นผม ผมเน้นสภาพรถมากกว่า
ความยากนิดหน่อยคือเจ้าของส่วนมากมีกำลัง ไม่ได้ร้อนขาย ต้องค่อยๆ หา ใจเย็นๆ คุยดีๆ เผลอๆ ได้รถสภาพเยี่ยมมาใช้ในราคาถูกกว่า c segment ป้ายแดง
โชคดีครับ ::)
-
เก็บข้อมูลๆๆ เหล่ไว้เหมือนกันครับ
-
รถเก่า มีจุกจิกตามสภาพ จะบอกไม่ซ่อมเลยก็พูดไม่ได้ครับ
อะไหล่ที่เห็นๆเขาขายกันแล้ว เคยๆได้ขายเองและ/ หรือดูเขาซ่อม ก็มีตั้งแต่ หม้อน้ำ คอยล์จุดระเบิด แผงแอร์หน้ารถ ตู้แอร์ในรถ คอมแอร์ ไดชาร์จ ชุดซ่อมฝา ท่อน้ำ สวิทช์กระจกไฟฟ้า เซนเซอร์เพลา จะเรียกว่าของสึกหรอทั้งหลายก็ไม่ผิด
ตัวไหนใช้ร่วมกับรุ่นที่มีโตโยต้า ไม่สนของแท้ก็ไม่แพงครับ อย่างตู้แอร์เดนโซ่ ถ้าเอาตราเลกซัสแปะมันก็แพง ของเหมือนกันโรงงานเดียวกัน
คอมแอร์ แท้ๆเบิกใหม่ 2.8หมื่นบาท ถ้าซ่อม ก็ไม่เกิน5พัน เปลี่ยนแค่วาวล์ ลูกปืน หน้าคลัทช์ ใช้อะไหล่เดนโซ่ได้หมด ก็มันของโตโยต้า
ซื้อรถคันนึง ถ้าห่วงเรื่องซ่อมนึกถึงworst case scenario ครับ ว่าถ้าเกิดกับเราจะแก้ได้ไหม หาราคาของที่ผมว่ามาดู หาร้านซ่อมดู ว่าถ้าซ่อมสักหนึ่งถึงสองอย่างนี้คุณหาของที่ไหน ได้เท่าไหร่ ใครซ่อมให้ ถ้าตีโจทย์นี้ได้ผ่าน รับได้ ก็ไม่ยากทีาจะซื้อ
แน่นอนครับมีคนที่ใช้แล้วไม่มีปัญหาเลยก็มี การใช้งาน สภาพรถ มันไม่เหมือนกัน ถ้าปัญหาเกิดกับเรา ไม่มีใครมาออกเงินหรือออกแรงช่วยเราซ่อมหรอก
ถ้าให้ผมบอกว่ามันเป็นรถดีซื้อเลย เกิดมีปัญหาหนักๆแล้วคุณจขกท.รับไม่ได้ ผมก็ไม่ไปช่วยซ่อมแน่ๆ
คิดให้ดีครับ ซื้อรถยอดขายน้อยๆ อะไหล่ใครจะมาเก็บรอคุณครบๆทุกชิ้น? บางอย่างช่างไม่เคยทำ? รับได้ไม่ได้อยู่ที่ตัวคุณเอง คิดในแง่ลบที่สุดไว้ก่อน
-
รถดีครับ ผมวิ่งมาแสนห้า ยังไม่มีอะไรเสีย ส่วนที่ต้องเปลี่ยน ของสึกหลอทั่วไปก้เปลี่ยนตามระยะ
ถ้าคุณจะใช้ ต้องหาอู่นอกไว้service. เข้าศูนย์มีแต่หัวแบะครับ ผมเคยเช็คกับที่ศูนย์ว่าจะเข้าservice ระยะ แสนห้า จะต้องใช้เงินเท่าไหร่
เขาเรียก สองแสนบาทครับ
อ่านไม่ผิด
จะเปลี่ยนตั้งแต่ ปั้มน้ำ วาวล์น้ำ coolant สายพาน นู่นนี่ เต็มไปหมดครับ
ใช้รถเก่า เปลี่ยนถ่ายของเหลว เกรดดีๆ ตามระยะ คอยสังเกตุอาการ รถ มีอะไรเสียแล้วค่อยทำครับ อย่าพึ่งรื้อถ้าไม่จำเป็น รถใช้มานาน วัสดุในห้องเครื่องเสื่อมได้จากความร้อน เวลารื้อ กริ๊ปแตก สายไฟขาด นู่นนี่นั่นแล้วปัญหาจะตามมาเย้อะครับ
ตัวรถหนะไม่มีปัญหา ทนมากครับ วัสดุก้ถือว่าดีมากเมื่อเทียบกับรถclass เดียวกัน ที่บ้านผมมี E90 ตัวminorchanged สุดท้าย วิ่งไปแสนโล ภายในไปหมดละครับ ได้ยินเสียงกร๊อบแกร๊บ ตลอดเวลา
ถ้าตีนหนัก อนาคตเอาตัว เครื่อง350 จากนอกมาลงได้ ย้ายใส่จบเลย จูนแล้ว 3ร้อยกว่าม้า ที่ล้อ
หรือถ้ายังไม่สะใจก้เอา ISf มาลงครับ 5ลิตร V8 ดึงตั้งแต่ยังไม่กดคันเร่ง
ตัว 250นี่มีปัญหาเรือง แรงบิดรอบกลางหน่อยครับแต่แก้ด้วยการจูนก้หาย แล้วก้ตกแต่งเครื่องยนตร์มากไม่ได้ step NA ทำสุดๆ เปลี่ยนhead กรอง ท่อ จูนกล่อง ได้ใกล้ๆ 200ม้าที่ล้อ จากรถ std ที่ประมาณ 16X ที่ล้อครับ เรื่องset bo หรือ. Sup ลืมไปเลยครับ มีคนลองมาแล้วไม่คุ้ม
กินน้ำมัน ตามเท้าครับ แต่ประหยัดสุด วิ่งทางไกล เรื่อยๆ. 12-13 โลลิตร มีให้เห็น ในเมืองรถติดหนัก หรือถ้าตีนหนัก เลขตัวเดียวสบายๆ
พยายามหารถที่ service มาดีครับ วิ่งเย้อะไม่เย้อะ ไม่น่าเป็นประเด็นเท่ากับสภาพจริงๆของรถ ถ้าจอดมากกว่าวิ่งพลาน จะเสียเอามากกว่าครับ
ปล.มีรุ่นพี่คนหนึ่ง พึ่งยกเครื่องออกไปลง ISf เครื่องเก่า วิ่งไป สองแสนแปด ตีนโคตรผี วิ่งลงtrack ตลอด เปลี่ยนยางแท่นเครื่อง และแท่นเกียร อย่างละ4 รอบตลอดการใช้งาน... สอบถามได้ความว่า เครื่องยังไม่กินน้ำมันเครื่อง แล้ว เกียร์ยังไม่มีปัญหาครับ
ปล.2 ถ้ารับได้ในความแคบ จัดครับ หลายอย่างดีกว่าE90 หลายอย่าง พอกัน บางอย่างแย่กว่า
แต่ก่อย่าเชื่อผมมาก ไปลองเองครับ :)
-
ผมคิดแบบเดียวกับคุณ Jae แทบทุกประการเลย
ส่วนตัวผมไม่ได้เน้นรถที่อะไหล่แพง ค่า่ซ่อมแพงและเน้นรถเข้าศูนย์ซ่อมได้เลยมากกว่าซ่อมที่อู่นอก
มาดูข้อดี เลกซัส
1.เป็นรถที่ไม่จุกจิกตามสไตล์พี่โตเขาแหละ
2.อะไหล่บางอย่างใช้ร่วมกับพี่โตได้ แต่อันนี้ต้องศึกษาเอาและมีความรู้บ้าง
3. งานประกอบและวัสดุปราณีต ออกแนวพรีเมี่ยมสำหรับลูกค้ากลุ่มระดับ บน บน
4.ราคามือ 2 ถูกจริงไรจริง เห็นแล้วชวนน่าเล่นมากแทนที่จะซื้อคัมรี่มือ 2 มองเลกซัสมือ 2 คันนี้ดีกว่า
5.มันมีสไตล์ของตัวเอง ยังไงก็ดูต่างจากโตโยต้า
ข้อเสีย
1. ถ้าเข้าศูนย์บริการ เป็นรถที่ค่าซ่อม ชั่วโมงแรงงานการซ่อมแพงสุดในประเทศไทย
2. ถ้าเข้าศูนย์บริการ เวลาซ่อมเปลี่ยนอะไหล่แพงแบบพรีเมี่ยมจริง ๆ ผมเคยอยากได้นะเพราะราคามือ 2 แต่จากลาเพราะราคาอะไหล่ กับการซ่อมที่ศูนย์เลกซัสมันสวนทางกับราคามือ 2 แบบคนละขั้ว
3. อู่นอกมีแต่ว่า ราคามันก็ไม่ไ่ด้ถูกเหมือนซ่อมคัมรี่หรืออัลติสแน่นอน และไมไ่ด้แพร่หลายนัก อู่ออฟโรดยังมีมากกว่า
4.อะไหล่บางอย่างใช้ร่วมกับพี่โตได้จริง แต่มีเวลาศึกษา มีเวลาหาซื้ออะไหล่เล่นรถแบบนี้หรือเปล่า ถ้ามีเวลาเหลือเฟือน่าเอามาใช้ครับเพราะรถดี และไม่ไ่ด้มีปัญหาเรื่องซ่อมเท่าไหร่ นาน ๆ ซ่อมที แต่สำหรับผมไม่มี ส่งรถเข้าศูนย์บริการก็จบ เอาเวลาไปทำอย่างอื่นดีกว่าคงไม่เหมาะใช้รถแบบนี้
-
น่าเล่นมากๆเลยครับ ผมก็กำลังเล็งๆอยู่ เพื่อนใช้อยู่ไม่จุกจิกอะไรเลยครับ วัสดุดี เครื่องแรง เงียบด้วยครับ
ผมเคยนั่งแล้วชอบมากกว่า E90 LCI กับ W204 อีกครับ
-
Lexus ถ้าใจชอบก็น่าเล่นครับ ถ้าชอบฟังเพลงให้หาตัวที่มี Mark Levinson ติดรถมาครับ จบไม่ต้องทำเครื่องเสียงต่อ เพราะตัว MC Lot หลังๆไม่ให้ Mark แล้ว ลองหาคันที่เคลมภายในแล้วครับ ถ้าเอาตัว MC สุดท้ายจะได้ไฟ DRL แต่น่าจะเกินงบ
รถอายุมันเลย 5 ปีก็มีอะไหล่สึกหรอต้องเปลี่ยนเป็นเรื่องธรรมดาครับ เข้าศูนย์แพงครับ เพราะอะไหล่แปะตรา Lexus และค่าแรงช่างก็คิดเรท BM, BMW แต่รถไม่จุกจิก วัสดุและประกอบดี แรงพอไหว ซดตามเท้า ทน ศูนย์บริการดีงาม
ราคาอะไหล่ต้องลองเทียบครับ บางอย่างก็ไม่ได้แพง บางอย่างแพงครับ คอนโซลเคลมทั้งคัน ราคาศูนย์เป็นแสน ของผมบูชปีกนกหน้าขาดศูนย์ให้เปลี่ยนทั้งปีกบนล่าง 5 หมื่นกว่า พัดลมและมอเตอร์หน้าเครื่อง 2 ตัว 2 หมื่น ยางขอบประตูเปลี่ยนทั้งคันแถวๆ 2 หมื่น Subwoofer Mark เสียเกือบ 3 หมื่น ตู้แอร์หมื่นกว่า เซนเซอร์ถอยตัวละ 7 พัน โช็คฝากะโปรงหน้าต้นละ 6 พันห้าเปลี่ยน 2 ต้น หัวเทียนหัวละพันสี่ 6 หัว เอาจริงอะไหล่ทั่วไปหาเอาข้างนอกได้ถูกกว่า แต่เล่นรถขายน้อยบางตัวผมก็สั่งนอกเอาเอง ร้านอะไหล่ไม่มีเก็บครับ
เทียบ 320D เพื่อนผม แรกๆใช้ดีใช้ทน หมด BSI ก็บ่นไฟโชว์ซ่อมเหนื่อยซ่อมแพงขายทิ้งไปละครับ อีกคนก็ใช้เรื่อยๆซ่อมไปตามสภาพ ของแบบนี้อยู่ที่คนใช้
ขอให้โชคดีได้รถถูกใจครับ
-
ใช้ดีครับ ได้มือ2มาเหมือนกันครับ รถปลายปี 2007 โชคดีได้มาก็เอาไปเคลมconsole ฟรีครับ ระยะประกันมัน10ปี และก็เปลี่ยนของเหลวใหม่หมด ใช้มา3เดือนขับดีนุ่มเงียบครับ
-
น่าสนๆๆๆ
-
สวยอมตะจริงๆ ออกมาพร้อม e90 w204 ตอนนั้นดูสวยพอๆ กัน ปัจจุบันเพื่อนร่วม segment แก่หนังเหี่ยวกันไปมากแล้ว แต่เจ้า is250 ยังดูดีเต่งตึงอยู่เลย
-
ขับดีมาก เครื่องนิ่ม อาหลั่ยบางตัวแพงเหมือนกันนะครับ เพื่อนใช้อยู่