Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: oatzamag ที่ ตุลาคม 05, 2016, 09:01:42
-
สวัสดีครับพี่ๆ สมาชิก Headlight mag ผมมีข้อสงสัยครับ เนื่องจาก เพิ่ง ได้รถใหม่ มา ในคู่มือของ Ford ranger คือให้เข้าเช็ค ระยะ ที่ 15,000 แต่ผมเคยอ่านกระทู้ของพี่ๆ มา ว่า น้ำมันเครื่อง ควรถ่ายที่5,000-7000โล ถ้าสังเคราะห์100% อย่างดี ก็10,000 เลยมีข้อสงสัยว่า เรารอให้ 15,000ค่อย ถ่าย หรือ ถ่ายก่อนครับ และอีกอย่าง ผมใช้รถ แค่อาทิตย์ละ วัน วันละ ไม่เกิน 100กิโล ผมจำเป็นต้อง สตาร์ รถทุกเช้าไหมครับ เพื่อกันแบตเสื่อม ผมเป็นคน ไม่มีประสบการ์จริงความรู้เรื่องรถเท่าไหร่ครับ ขอฝากคำถามนี้ ถึงพี่ๆ ด้วยครับ ขอบคุณครับ
-
ทำตามคู่มือรถ ระยะ กิโล หรือ ระยะเดือน
2-3 วัน start มีก็ได้
อ่านคู่มือรถ แล้วจะรู้เกี่ยวกับรถตัวเอง
-
ก็ตามคู่มือเลยครับ ทุกๆ 15,000 km น้ำมันที่ศูนย์ใช้เป็น Fully synthetic
จอดแค่สัปดาห์เดียว ไม่เป็นไรครับ ถ้า 2-3 สัปดาห์ ก็เอาออกไปวิ่งบ้าง แต่ไม่วิ่งก็ไม่เป็นไรครับ
ตอนสตาร์ทเครื่องใหม่ ให้รอไฟ cool temp สีฟ้าหายก่อน เพราะถ้าไม่หาย แล้วออกตัว เครื่องมันเขก เสียงดัง กดคันเร่งให้ตายก็ ความเร็วไม่ขึ้นมาก รถมัน safe ไว้ให้
ตามคู่มือบอกเปลี่ยนน้ำมันเกียร์ AT ที่ 195,000 km ซึ่งยาวนานเกินไป ขอสัก ทุกๆ 40,000 km ละกัน play safe better
ผมพังมาแล้ว ที่ 26x,xxx km ลองไปอ่านกระทู้เก่าๆดูครับ
Enjoy driving ครับ ;D
แต่ไม่ enjoy กับเงินในกระเป๋า เท่าไหร่ 2.2 L ไม่ได้ประหยัดเท่าไหร่
ตอนปี 2012 มันเป็นเครื่องที่สมรรถนะ ถือว่ายอดเยี่ยมเลยแระ เมื่อเทียบกับ กระบะ ยุคนั้น แต่ตอนนี้มันโดน สมถรรนะ เครื่องยนต์ตัวอื่น นำหน้าไปหมดแล้ว :-X
ถ้าเป็นมือใหม่ หัดฟอร์ด ก็แวะเวียนมาถามในนี้ หรือในคลับ :) อย่าเพิ่งไปเบื่อศูนย์มัน ทนๆไว้ก่อน ตอน 3 ปีแรก
ปล. แนะนำให้ซื่อประกัน ขยายเป็น 5 ปีด้วยครับ
-
น้ำมันเครื่องรถสมัยนี้ สังเคราะห์แท้ รองรับได้ถึง 2 หมื่นโล
กึ่งสังเคราะห์ ได้ 1 หมื่นโล ทุกยี่ห้อแล้วครับ
5 พันโลมันสมัย เพนซอย อ่ะ
-
ผมเปลี่ยนตามผู้ผลิตครับ
ถ้ามันเปลี่ยนในระยะที่ให้ไม่ได้ ก็ถือว่าผู้ผลิตบกพร่องครับ เค้าตั้งใจชูระยะว่าเหนือคู่แข่งเพื่อลดรายจ่าย รถมันก็ต้องไหวนะ
-
จริงๆแล้วเปลี่ยนตามคุณภาพน้ำมันเครื่องครับ แต่ถ้ารถใหม่ เปลี่ยนตามคู่มือรถครับ เพื่อรักษาการรับประกันเอาไว้ครับ
-
จริงๆต้องดูตามลักษณะการใช้งานด้วยไหมครับ
เพราะในคู่มือ(รถผมนะ) มันก็เขียนไว้ว่า ประมาณ 1 หมื่นโลอ่ะเปลี่ยน แต่มันจะมีกาดาวเอาไว้ และดาวข้างล่างจะเขียนประมาณว่า in normal driving only และบรรทัดต่อไปก็จะเขียน condition อีกว่า ถ้าขับแบบกระโชกโฮกฮาก เหยียบเต็มตีน ขับในสภาวะฝุ่นเยอะๆ ให้เปลี่ยนเร็วกว่านั้นแต่ไม่ได้บอกระยะไว้
ผมว่าก็ดูตามการใช้งานเลยครับ ถ้าขับเหมือนคนทั่วๆไปขับ 10000-15000 ผมว่าโอเคนะ แต่ถ้าซิ่งมากๆ ไม่ควรถึงหมื่นครับ
-
15000กิโลเป็นมาตรฐานถนนประเทศอื่นๆครับ แต่ในไทยไม่เกิน10000ดีที่สุดเพราะอากาศสกปรกและรถติดความร้อนสะสมในเครื่องยนต์สูงมาก น้ำมันเกียร์สัก70000กิโลก็เปลี่ยนได้แล้วอย่ารอแสนกิโลหรือคาดหวังตลอดอายุการใช้งานครับ :-X เรื่องของค่าใช้จ่ายในศุนย์ที่ค่ายรถต่างๆชอบเอามาโฆษณาว่าถูกอย่างนั้นต่ำอย่างนี้ระวังให้ดีเชียวเพราะว่าแนวคิดของเค้าคือเปลี่ยนเมื่อจวนเจียนจะหมดอายุการใช้งานแล้วไม่ใช่เปลี่ยนในระยะปลอดภัยก่อนเริ่มออกอาการ ผมเคยเอาเข้าศูนย์ไปเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องครบเวลา6เดือนพอมาดูใบเสร็จพบว่าไม่ได้เปลี่ยนกรองอากาศให้ พอถามดูก็พบว่าที่ระยะ70000กิโลในแผนบำรุงรักษาไม่ได้ให้เปลี่ยนกรองอากาศด้วย :-\
-
ถ้าเป็นน้ำมันสเปกศูนย์ ผมให้แค่ 10,000 ครับ (ฟอร์ด กับมาสด้า ใช้เครื่องเดียวกัน แต่ในคู่มือ ฟอร์ดให้ 15,000 มาสด้าให้ 10,000)
แต่มีอีกแนวทางนึง คือ ใช้น้ำมันเครื่องเกรดดีกว่าเสปกศูนย์ อันนี้ 15,000 ได้ชัวร์ๆ
-
ลองเปลี่ยนเป็น นับชั่วโมงการทำงานดูนะครับ
สังเคราะห์แท้ เปลี่ยนที่ 20,000km วิ่ง 60km/h จะได้ประมาณ334ชั่วโมง
ดังนั้น ถ้ารถเมืองไทย รถติด รถวิ่งระดับ100km/hr รวมวิ่งต่อวัน ได้ 3 ชั่วโมง ก็ใช้ได้แค่ประมาณ 111 วันเท่านั้นเองครับ
แต่อย่างของผม วิ่ง วันละ 1ชั่วโมง ไปเช้าจอดกลับเย็น ก็จะได้ 334วัน
เพราะรถในกรุงเทพ ส่วนใหญ่เครื่องยนต์ติด รถอยู่บนถนน ยิ่งฝนตก รถวิ่ง 1กิโลเมตรใช้เวลา 2-3 ชั่วโมง ผมว่าใช้งานหนักนะครับ
-
เมื่อก่อนผมเปลี่ยนทุกๆๆ 1 หมื่นกิโลเมตรครับ ถ้าอย่างไรอย่างหนึ่งถึงก่อน
แต่เดี๋ยวนี้เปลี่ยนทุกๆๆ 6 เดือน ครับ ใช้น้ำมันกึ่งสังเคราะห์แทน 6เดือนวิ่งไปราวๆๆ 5 พันกิโลเมตร บวกลบ500กิโลเมตร เปลี่ยนทั้งน้ำมันเครื่องเปลี่ยนทั้งกรองน้ำมันเครื่อง สบายใจ
-
ถ้าเป็นน้ำมันสเปกศูนย์ ผมให้แค่ 10,000 ครับ (ฟอร์ด กับมาสด้า ใช้เครื่องเดียวกัน แต่ในคู่มือ ฟอร์ดให้ 15,000 มาสด้าให้ 10,000)
แต่มีอีกแนวทางนึง คือ ใช้น้ำมันเครื่องเกรดดีกว่าเสปกศูนย์ อันนี้ 15,000 ได้ชัวร์ๆ
ไม่จริงครับ
Ford Ranger & Mazda BT50-Pro ที่ศูนย์ ใช้น้ำมันเครื่องเบอร์เดียวกัน Castrol Magnatec Professional A5 Fully Synthetic 5W-30
ทั้งเครื่องยนต์ 2.2L & 3.2L และ Ranger ที่เป็น 2.2 L version ปรับปรุง 160 hp ก็ยังใช้น้ำมันเครื่องเบอร์เดิม
แต่วิศวกร Mazda คงมีวิชาเหนือกว่า จึงจูนเครื่องได้เทพกว่า :-X ทำให้ BT-50 Pro เปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง ทุกๆ 20,000 km
ทั้งเครื่อง 2.2 L & 3.2 L
ที่น่าทึ่งยิ่งกว่า คือ น้ำมันเฟืองท้าย และน้ำมันเกียร์ AT เปลี่ยนทุกๆ 250,000 km โคตรเทพ !!!!
https://www.mazda.co.th/assets/customer-cares/scheduled-maintenance/2016/bt-50-22l-auto.pdf
https://www.mazda.co.th/assets/customer-cares/scheduled-maintenance/2016/bt-50-32l-auto.pdf
ในขณะที่ Ford Ranger เปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องทุกๆ 15,000 km ทั้งเครื่อง 2.2 L & 3.2 L
และ น้ำมันเฟืองท้าย และน้ำมันเกียร์ AT เปลี่ยนทุกๆ 195,000 km ที่ยาวนาน เกินไป จนผมเกียร์พังไปแล้ว
http://www.ford.co.th/ford-owners/services/maintenance#overlay=1249191323866
http://www.ford.co.th/ford-owners/services/ford-engine-oil
แต่ก็นั้นละฮ่ะ เซียนน้ำมันเครื่อง หลายท่านในนี้ บอกว่า Fully Synthetic Engine Oil เนี่ย มันลากได้ถึง 20,000 km สบายๆ เลยนะ
แต่ที่นี่เมืองไทย ประเทศร้อนชื้น รถโคตรติดโคตรร้อนใน กทม ก็ไม่รู้ว่า ประสิทธิภาพน้ำมันเครื่อง จะคงที่จนถึง 20,000 km ไหม
-
ศูนย์บอกให้เปลี่ยนเท่าโน้นเท่านี้ก็ฟังไว้ได้ครับ
แต่ถ้าผมเป็นเจ้าของผมเปลี่ยนก่อนกำหนดครับ
รถผมผมรับผิดชอบ ผมยอมจ่ายเอง
สบายใจกว่าที่ลากระยะเปลี่ยนถ่ายมากจนเกินไป
สุดท้ายอาจไปเสียตอนหมดประกัน อันนั้นเราต้องจ่ายเองก้อนใหญ่เลยครับ
ส่วนจะเปลี่ยนที่ตอนไหน
เพื่อนๆได้แนะนำไว้หมดแล้วตามนั้นเลยครับ
-
รถจอดนานๆ ระวังหนูขึ้นรถ กัดสายไฟ ทำรัง
หาวิธี ป้องกันหนูด้วยครับ ถ้าเลี้ยงแมว ก็ดีครับ
ถ้าไม่เลี้ยงแมว ทำกับดักหนูครับ
-
กราบขอบพระคุณ พี่ๆทุกคน มาก ครับ ผมเพิ่งเลิกงานเลย ตอบ ช้า หน่อย ได้ความรู้มาก ครับ ในความคิดของ ผม ใน15,000 คงถ่ายไปตามคู่มือก่อน เพราะคิดว่าเครื่องใหม่ๆคงยังไม่สกปรก มาก ยังไม่มีเศษโลหะต่าง แยอะเกินไปน้ำมันเครื่องคงไหวอยู่ แล้วอีกคำถามนึงครับ เมื่อถึงระยะ15,000ถ้าผมจะเอาน้ำมันเครื่อง ของMobil ไปให้ศูนย์เปลี่ยน ได้ไหม ครับ หรือเค้า บังคับใช้ของเค้า เท่านั้น
และเมื่อเย็นนี้เกิดปัญที่ทำให้ผม นอยมากๆ คือ รถไม่ค่อยได้ใช้ ก็เลยไปสตาร์ทรถ ดู ปรากฎว่า ขี้นไฟเอนจิ้นโชว์ ลองดับและสตาร์ท ใหม่แล้ว ก็ยังคงขึ้นอยู่ ผม ขาอ่อน เลยเพราะรถพึ่ง วิ่งได้ 275กิโลเอง โทรไปสอบถามเซลล์ (เซลล์ดูแลดีมากครับ)เซล์ล บอกว่า น่าจะเป็น ที่เซนเซอร์ EGR วันเสาร์เข้ามาลบโค้ด ได้เลยครับ เลยทำให้ผมยิ้มได้เล็ดน้ออย อยากถาม พี่ๆที่มีความรู้และคนขับเลย เจอว่าเคย เจออาการนี้ ตั้งแต่ รถขับยังไม่ถึง300 กิโลไหมครับ
-
น้ำมันเครื่อง 1.5 หมื่นกิโล ของ0 ไม่มีปัญหาครับ เพราะใช้สังเคราะห์แท้
แต่อยากให้จำไว้ในใจว่า น้ำมันเกียร์ควรเปลี่ยน ไม่ใช่ที่ 195,000 km แต่ให้เปลี่ยนทุก 4 หมื่นกิโลเมตรครับ ไม่งั้นเกียร์มีโอกาสพังก่อนถึง 195,000 km แน่ๆ
-
สำหรับผมเปลี่ยนก่อนหมื่นโลครับ ขับค่อนข้างโหด 8พันโล ก็ดำปี๋แล้ว ผมว่าลองดูสีดีที่สุดครับ ถ้ามันดำก็ควรเปลี่ยนนะครับ
ยิ่งน้ำมันเครื่องเบอร์30ผมว่ามันไม่ค่อยเหมาะกับอากาศเมืองไทยเลย มันเสื่อมเร็ว หรือผมเหยียบหนักไปก็ไม่รู้
-
น้ำมันเครื่อง 1.5 หมื่นกิโล ของ0 ไม่มีปัญหาครับ เพราะใช้สังเคราะห์แท้
แต่อยากให้จำไว้ในใจว่า น้ำมันเกียร์ควรเปลี่ยน ไม่ใช่ที่ 195,000 km แต่ให้เปลี่ยนทุก 4 หมื่นกิโลเมตรครับ ไม่งั้นเกียร์มีโอกาสพังก่อนถึง 195,000 km แน่ๆ
ขอบพระคุณครับ
-
กราบขอบพระคุณ พี่ๆทุกคน มาก ครับ ผมเพิ่งเลิกงานเลย ตอบ ช้า หน่อย ได้ความรู้มาก ครับ ในความคิดของ ผม ใน15,000 คงถ่ายไปตามคู่มือก่อน เพราะคิดว่าเครื่องใหม่ๆคงยังไม่สกปรก มาก ยังไม่มีเศษโลหะต่าง แยอะเกินไปน้ำมันเครื่องคงไหวอยู่ แล้วอีกคำถามนึงครับ เมื่อถึงระยะ15,000ถ้าผมจะเอาน้ำมันเครื่อง ของMobil ไปให้ศูนย์เปลี่ยน ได้ไหม ครับ หรือเค้า บังคับใช้ของเค้า เท่านั้น
และเมื่อเย็นนี้เกิดปัญที่ทำให้ผม นอยมากๆ คือ รถไม่ค่อยได้ใช้ ก็เลยไปสตาร์ทรถ ดู ปรากฎว่า ขี้นไฟเอนจิ้นโชว์ ลองดับและสตาร์ท ใหม่แล้ว ก็ยังคงขึ้นอยู่ ผม ขาอ่อน เลยเพราะรถพึ่ง วิ่งได้ 275กิโลเอง โทรไปสอบถามเซลล์ (เซลล์ดูแลดีมากครับ)เซล์ล บอกว่า น่าจะเป็น ที่เซนเซอร์ EGR วันเสาร์เข้ามาลบโค้ด ได้เลยครับ เลยทำให้ผมยิ้มได้เล็ดน้ออย อยากถาม พี่ๆที่มีความรู้และคนขับเลย เจอว่าเคย เจออาการนี้ ตั้งแต่ รถขับยังไม่ถึง300 กิโลไหมครับ
รอบแรกนี่แหละครับสำคัญที่สุดเพราะจะมีเศษเหล็กมากที่สุด ของผมรอบแรกจะถ่ายไวหน่อยครับ จำได้ว่า 5000 ก็ถ่ายเลย หลังจากนั้นก็ทุก 15,000 กม. ตอนนี้ใช้มาสองแสนโลแล้วครับ ปกติดีครับ,คู่มือทุกอย่างเชื่อได้ยกเว้นน้ำมันเกียร์(ทุก 195,000) ครับ ผมจะถ่ายประมาณทุก 70,000 กม. (ถ่ายแบบเปิดก้นแคร้งค์นะครับไม่ใช่ดูดออก) ที่ทุก 70,000 น้ำมันยังมีสภาพที่ดีครับ อาจเป็นเพราะเคยถ่ายครั้งแรกแบบเปิดแคร้งค์ที่ 30,000 กม.แรก เนื่องจากซีลรั่วเลยไปเคลมฟรีครับ
-
กราบขอบพระคุณ พี่ๆทุกคน มาก ครับ ผมเพิ่งเลิกงานเลย ตอบ ช้า หน่อย ได้ความรู้มาก ครับ ในความคิดของ ผม ใน15,000 คงถ่ายไปตามคู่มือก่อน เพราะคิดว่าเครื่องใหม่ๆคงยังไม่สกปรก มาก ยังไม่มีเศษโลหะต่าง แยอะเกินไปน้ำมันเครื่องคงไหวอยู่ แล้วอีกคำถามนึงครับ เมื่อถึงระยะ15,000ถ้าผมจะเอาน้ำมันเครื่อง ของMobil ไปให้ศูนย์เปลี่ยน ได้ไหม ครับ หรือเค้า บังคับใช้ของเค้า เท่านั้น
และเมื่อเย็นนี้เกิดปัญที่ทำให้ผม นอยมากๆ คือ รถไม่ค่อยได้ใช้ ก็เลยไปสตาร์ทรถ ดู ปรากฎว่า ขี้นไฟเอนจิ้นโชว์ ลองดับและสตาร์ท ใหม่แล้ว ก็ยังคงขึ้นอยู่ ผม ขาอ่อน เลยเพราะรถพึ่ง วิ่งได้ 275กิโลเอง โทรไปสอบถามเซลล์ (เซลล์ดูแลดีมากครับ)เซล์ล บอกว่า น่าจะเป็น ที่เซนเซอร์ EGR วันเสาร์เข้ามาลบโค้ด ได้เลยครับ เลยทำให้ผมยิ้มได้เล็ดน้ออย อยากถาม พี่ๆที่มีความรู้และคนขับเลย เจอว่าเคย เจออาการนี้ ตั้งแต่ รถขับยังไม่ถึง300 กิโลไหมครับ
น้องใหม่ โดนเซล และ ศูนย์ฟอร์ด รับน้องแล้วครับ
นี่แระครับ ความฟอร์ด
เซลมันแถ มันมั่ว ฝากตบกะโหลก ที
ไฟ Engine โชว์ มันเป็นได้หลายสาเหตุ
และวิธีที่ถูกต้อง เครื่อง เสียบเครื่องมือวิเคราะห์ ของศูนย์ Ford (Ford Vehicle Communication Module II (VCM II))
แล้ว ดูความหมาย Error code ว่าอาการที่แท้จริงคืออะไร แล้วก็ Analyst ต่อ
ไม่ใช่ลบเฟ้ย!! แม่งทำแบบขอไปที
มีอะไรให้โทรถาม Hot line แล้วขอสายช่างเทคนิค ดีกว่าถามเซล เยอะครับ
ปล.1 Dash board T7 สวยมาก เจ้าของ T6 เห็นแล้ว สะเทือนใจ :(
ปล.2 บางศูนย์ให้หิ้ว น้ำมันเครื่องเข้าไปได้ แต่ผมจำไม่ได้ละ ลองไปถามในครับดู แต่จริงๆแล้ว Castrol Magnatec Professional A5 Fully Synthetic 5W-30 ก็ไม่ขี้เหร่ นะครับ รถผม ก็ใช้ตัวนี้ตลอด จากวันแรก ถึงวันนี้ ยังรู้สึกเหมือนเดิม
-
กราบขอบพระคุณ พี่ๆทุกคน มาก ครับ ผมเพิ่งเลิกงานเลย ตอบ ช้า หน่อย ได้ความรู้มาก ครับ ในความคิดของ ผม ใน15,000 คงถ่ายไปตามคู่มือก่อน เพราะคิดว่าเครื่องใหม่ๆคงยังไม่สกปรก มาก ยังไม่มีเศษโลหะต่าง แยอะเกินไปน้ำมันเครื่องคงไหวอยู่ แล้วอีกคำถามนึงครับ เมื่อถึงระยะ15,000ถ้าผมจะเอาน้ำมันเครื่อง ของMobil ไปให้ศูนย์เปลี่ยน ได้ไหม ครับ หรือเค้า บังคับใช้ของเค้า เท่านั้น
และเมื่อเย็นนี้เกิดปัญที่ทำให้ผม นอยมากๆ คือ รถไม่ค่อยได้ใช้ ก็เลยไปสตาร์ทรถ ดู ปรากฎว่า ขี้นไฟเอนจิ้นโชว์ ลองดับและสตาร์ท ใหม่แล้ว ก็ยังคงขึ้นอยู่ ผม ขาอ่อน เลยเพราะรถพึ่ง วิ่งได้ 275กิโลเอง โทรไปสอบถามเซลล์ (เซลล์ดูแลดีมากครับ)เซล์ล บอกว่า น่าจะเป็น ที่เซนเซอร์ EGR วันเสาร์เข้ามาลบโค้ด ได้เลยครับ เลยทำให้ผมยิ้มได้เล็ดน้ออย อยากถาม พี่ๆที่มีความรู้และคนขับเลย เจอว่าเคย เจออาการนี้ ตั้งแต่ รถขับยังไม่ถึง300 กิโลไหมครับ
รอบแรกนี่แหละครับสำคัญที่สุดเพราะจะมีเศษเหล็กมากที่สุด ของผมรอบแรกจะถ่ายไวหน่อยครับ จำได้ว่า 5000 ก็ถ่ายเลย หลังจากนั้นก็ทุก 15,000 กม. ตอนนี้ใช้มาสองแสนโลแล้วครับ ปกติดีครับ,คู่มือทุกอย่างเชื่อได้ยกเว้นน้ำมันเกียร์(ทุก 195,000) ครับ ผมจะถ่ายประมาณทุก 70,000 กม. (ถ่ายแบบเปิดก้นแคร้งค์นะครับไม่ใช่ดูดออก) ที่ทุก 70,000 น้ำมันยังมีสภาพที่ดีครับ อาจเป็นเพราะเคยถ่ายครั้งแรกแบบเปิดแคร้งค์ที่ 30,000 กม.แรก เนื่องจากซีลรั่วเลยไปเคลมฟรีครับ
+1 รอบแรกๆ นี่แหละครับ เศษโลหะเยอะแน่ๆ
จขกท คงเข้าใจผิดแล้วล่ะ
-
ลองอ่านดูประกาศของ Mercedes Benz Thailand ดูที่เคยเจอปัญหาน้ำมันเครื่องเป็นโคลนจึงให้0เปลี่ยนที่1หมื่นกิโลเมตรครับ
-
น้ำมันเครื่องรถสมัยนี้ สังเคราะห์แท้ รองรับได้ถึง 2 หมื่นโล
กึ่งสังเคราะห์ ได้ 1 หมื่นโล ทุกยี่ห้อแล้วครับ
5 พันโลมันสมัย เพนซอย อ่ะ
ตามนี้เลยครับ อยากให้รู้กันมากขึ้น จะได้ไม่เป็นเหยื่อของการตลาด
น้ำมันเครื่องสังเคราะห์แท้ 20000 โล แต่ต้องเปลี่ยนกรองน้ำมันเครื่องทุก 10000 โลนะครับ ถ้าขับซิ่งมากก็เปลี่ยนทุก 15000 โล
ยี่ห้อที่ไว้ใจได้ก็ mobil1 , sunoco , redline , motul , shell และเลี่ยงยี่ห้อ C นะครับ เพราะมีปัญหาเรื่องน้ำมันเครื่องเป็นโคลน ถ้าไม่มั่นใจยี่ห้อและรุ่นที่จะซื้อก็มาถามในบอร์ดก่อน
น้ำมันเครื่องกึ่งสังเคราะห์ 10000 โล
-
กราบขอบพระคุณ พี่ๆทุกคน มาก ครับ ผมเพิ่งเลิกงานเลย ตอบ ช้า หน่อย ได้ความรู้มาก ครับ ในความคิดของ ผม ใน15,000 คงถ่ายไปตามคู่มือก่อน เพราะคิดว่าเครื่องใหม่ๆคงยังไม่สกปรก มาก ยังไม่มีเศษโลหะต่าง แยอะเกินไปน้ำมันเครื่องคงไหวอยู่ แล้วอีกคำถามนึงครับ เมื่อถึงระยะ15,000ถ้าผมจะเอาน้ำมันเครื่อง ของMobil ไปให้ศูนย์เปลี่ยน ได้ไหม ครับ หรือเค้า บังคับใช้ของเค้า เท่านั้น
และเมื่อเย็นนี้เกิดปัญที่ทำให้ผม นอยมากๆ คือ รถไม่ค่อยได้ใช้ ก็เลยไปสตาร์ทรถ ดู ปรากฎว่า ขี้นไฟเอนจิ้นโชว์ ลองดับและสตาร์ท ใหม่แล้ว ก็ยังคงขึ้นอยู่ ผม ขาอ่อน เลยเพราะรถพึ่ง วิ่งได้ 275กิโลเอง โทรไปสอบถามเซลล์ (เซลล์ดูแลดีมากครับ)เซล์ล บอกว่า น่าจะเป็น ที่เซนเซอร์ EGR วันเสาร์เข้ามาลบโค้ด ได้เลยครับ เลยทำให้ผมยิ้มได้เล็ดน้ออย อยากถาม พี่ๆที่มีความรู้และคนขับเลย เจอว่าเคย เจออาการนี้ ตั้งแต่ รถขับยังไม่ถึง300 กิโลไหมครับ
รอบแรกนี่แหละครับสำคัญที่สุดเพราะจะมีเศษเหล็กมากที่สุด ของผมรอบแรกจะถ่ายไวหน่อยครับ จำได้ว่า 5000 ก็ถ่ายเลย หลังจากนั้นก็ทุก 15,000 กม. ตอนนี้ใช้มาสองแสนโลแล้วครับ ปกติดีครับ,คู่มือทุกอย่างเชื่อได้ยกเว้นน้ำมันเกียร์(ทุก 195,000) ครับ ผมจะถ่ายประมาณทุก 70,000 กม. (ถ่ายแบบเปิดก้นแคร้งค์นะครับไม่ใช่ดูดออก) ที่ทุก 70,000 น้ำมันยังมีสภาพที่ดีครับ อาจเป็นเพราะเคยถ่ายครั้งแรกแบบเปิดแคร้งค์ที่ 30,000 กม.แรก เนื่องจากซีลรั่วเลยไปเคลมฟรีครับ
ขอบคุณมากครับ
-
น้ำมันเกียร์น่าเป็นห่วง เปลี่ยนบ่อยๆนะครับ
-
ทุกอย่างตามคู่มือใช้อ้างอิงได้ แต่ถามว่าครรปฏิบัติตามไหมนั้น นานาจิตตัง นะครับ
น้ำมันเครื่องสูตรใหม่ ใช้ได้ 15000 กิโล ( ผม ถามเล่นๆว่า มันไม่ได้บอกว่าใช้ 15,000-20,000 กิโล มันบอกว่า " ใช้ได้สูงสุด 15,000-20,000 กิโล " ตั้งหากครับ
อากาศบ้านเราร้อนมาก ผมถามว่าพี่ๆน้องๆเคยทราบ Engine Oil Temp ในระหว่างที่เราขับขี่กันไหมครับผม มันสูงกว่า Water Temp อีกนะ เวลาวิ่งใช้ความเร็ว
ดังนั้น ผมสรุปคราวๆว่า ใช้ได้ได้ตามคู่มือ แต่ในระยะยาวๆ หรือใครที่ใช้รถหนัก หรือใช้รถคันเดียวลากยาว 10 ปี นั้นไม่เป็นผลดีแน่นอนครับผม อัตราการสึกหรอ ภายในเครื่องยนต์นั้นสูงมากครับผม ผมกล้าพูดเลย
ถ้าใครขับเรื่อยๆ วิ่งไม่เร็วไม่ได้ใช้รอบสูง ใช้น้ำมันเครื่องเทพๆ สามารถลากเกินได้ครับผม แต่ถ้าใครขับเร็วซัดหนักๆ ควรเพื่อระยะเปลี่ยนถ่ายไว้สัก 40-50% จะปลอดภัยสุดครับผม
ยกตัวอย่าง
นาย A ขับรถ 1500 CC. ขับเฉลี่ย 100-120 รอบที่ใช้สูงสุด ราวๆ 3000-3500 รอบ น้ำมันเครื่องใช้ หมื่นกิโล
นาย B ขับรถ 1500 CC. ขับเฉลี่ย 140-180 รอบที่ใช้สูงสุด ราวๆ 4500-7000 รอบ น้ำมันเครื่อง คุณควรจะเปลี่ยนถ่ายไว้ขึ้น ไม่ใช้หมื่นกิโลตามที่คิดกัน ควรจะถ่าย ที่ 6000-7500 กิโล ด้วยซ้ำ เพราะคุณขับรอบสูงกว่า ความร้อนสะสมสูงกว่า
คราวๆประมาณนี้ก่อนนะครับผม
ในคู่มือก็มีเขียนว่า ถ้าขับโหด ขับเร็ว ใช้งานหนัก ให้เปลี่ยนก่อนถึงกำหนด
-
รถใหม่จะเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องครั้งแรก+น้ำมันเกียร์+น้ำมันเฟืองท้าย เพราะมีเศษเยอะมากที่สุด ถ่ายก่อนกำหนด โอเคกว่าดีต่อรถ
ใช้น้ำมันเครื่องสังเคราะห์แท้ ไม่เกิน 10,000 กิโลพอแล้วครับ
-
ถ้าเป็นน้ำมันสเปกศูนย์ ผมให้แค่ 10,000 ครับ (ฟอร์ด กับมาสด้า ใช้เครื่องเดียวกัน แต่ในคู่มือ ฟอร์ดให้ 15,000 มาสด้าให้ 10,000)
แต่มีอีกแนวทางนึง คือ ใช้น้ำมันเครื่องเกรดดีกว่าเสปกศูนย์ อันนี้ 15,000 ได้ชัวร์ๆ
ไม่จริงครับ
Ford Ranger & Mazda BT50-Pro ที่ศูนย์ ใช้น้ำมันเครื่องเบอร์เดียวกัน Castrol Magnatec Professional A5 Fully Synthetic 5W-30
ทั้งเครื่องยนต์ 2.2L & 3.2L และ Ranger ที่เป็น 2.2 L version ปรับปรุง 160 hp ก็ยังใช้น้ำมันเครื่องเบอร์เดิม
แต่วิศวกร Mazda คงมีวิชาเหนือกว่า จึงจูนเครื่องได้เทพกว่า :-X ทำให้ BT-50 Pro เปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง ทุกๆ 20,000 km
ทั้งเครื่อง 2.2 L & 3.2 L
ที่น่าทึ่งยิ่งกว่า คือ น้ำมันเฟืองท้าย และน้ำมันเกียร์ AT เปลี่ยนทุกๆ 250,000 km โคตรเทพ !!!!
https://www.mazda.co.th/assets/customer-cares/scheduled-maintenance/2016/bt-50-22l-auto.pdf
https://www.mazda.co.th/assets/customer-cares/scheduled-maintenance/2016/bt-50-32l-auto.pdf
ในขณะที่ Ford Ranger เปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องทุกๆ 15,000 km ทั้งเครื่อง 2.2 L & 3.2 L
และ น้ำมันเฟืองท้าย และน้ำมันเกียร์ AT เปลี่ยนทุกๆ 195,000 km ที่ยาวนาน เกินไป จนผมเกียร์พังไปแล้ว
http://www.ford.co.th/ford-owners/services/maintenance#overlay=1249191323866
http://www.ford.co.th/ford-owners/services/ford-engine-oil
แต่ก็นั้นละฮ่ะ เซียนน้ำมันเครื่อง หลายท่านในนี้ บอกว่า Fully Synthetic Engine Oil เนี่ย มันลากได้ถึง 20,000 km สบายๆ เลยนะ
แต่ที่นี่เมืองไทย ประเทศร้อนชื้น รถโคตรติดโคตรร้อนใน กทม ก็ไม่รู้ว่า ประสิทธิภาพน้ำมันเครื่อง จะคงที่จนถึง 20,000 km ไหม
อ่ะ เอาใหม่ครับ ดีเซล นี่ผมไม่ทราบ เพิ่งทราบเหมือนกันว่า มาสด้าเทพกว่าฟอร์ดเสียอีก 555
3แต่ ที่เขียนไป คือ เบนซิน ครับ มาสด้า 2 กะ เฟียสต้า รุ่นที่ยังแชร์แพลตฟอร์มกันอยู่
ช่างที่ศูนย์เค้าบอกมาครับว่าใช้นมค.ตัวเดียวกัน แต่มาสด้าเขียนไว้ในตารางให้เปลี่ยนแค่ 10,000
ส่วนเฟียสต้า เปลี่ยนที่ 15,000