Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: jaesz ที่ ตุลาคม 06, 2016, 08:55:10
-
ใช้รถ1.2มาสามคัน สองรุ่น March M/t ,CVT, Yaris 1.2
เทียบกับ Vios สองรุ่นก่อน, Jazz สามรุ่นCVT,Auto,CVT
ไม่มีทีท่าว่า1.5จะประหยัดเท่า1.2ที่ความเร็วเท่ากันเลยครับ จะว่าไปโหลดก็ใกล้เคียงกันน้ำหนักรถบนตาชั่งขนส่งก็ 9xxกก. พอๆกัน แต่กินมากกว่า25%เลย
เพราะอัตราทดเกียร์ หรือจูนมาแรง? หรืออะไรครับ?
-
ตัวแปรเยอะ ขนาดเครื่องเท่ากัน ระหว่างโตโยต้า กับ nissan การกินน้ำมันยังไม่เท่ากันเลย
-
ในความรู้สึกผม 4AT รอบมันสูงครับ ขับ 100 รอบปาไป 3000
-
เออ จริงหรือครับ
ผมสงสัยมาก เพราะเคยมีเพื่อนๆ บางท่านบอกผมว่า
Vios G2 กินพอๆ กับ March CVT ผม
ถ้าแบบนี้ผมใจแป้วเลย เพราะซื้อรถมากินพอๆ กันเซ็งเป็ด
-
ผมขับ 1.5 มาหลายคัน ที่ความเร็วเท่ากัน ยังไงๆ 1.2 ก็ประหยัดกว่าครับ
แต่ 1.2 ก็แรงไม่เท่า 1.5 ทุกช่วงความเร็ว ทั้งช่วงออกตัวหรือช่วงลอยลำแล้วต้องกดคันเร่ง
1.2 ประหยัดกว่า
1.5 แรงกว่า
-
ขับความเร็วคงที่เท่ากัน
รถติดแบบไม่เขยื้อนเท่าเครื่องเล็กก็จะกินน้ำมันน้อยตามครับ
แต่ถ้าเอามาขับแบบรถติดๆขยับๆบ่อยกว่าจอดสนิท
1.2จะเปลืองกว่าหรือเทียบเท่าครับ ยิ่งมีผดส นั่งเท่ากัน
กินกว่าเครื่อง 1.5 เลย
เวลามุดก็เช่นกันครับ 1.2 นี่เรียกว่าซดเลย
-
เออ จริงหรือครับ
ผมสงสัยมาก เพราะเคยมีเพื่อนๆ บางท่านบอกผมว่า
Vios G2 กินพอๆ กับ March CVT ผม
ถ้าแบบนี้ผมใจแป้วเลย เพราะซื้อรถมากินพอๆ กันเซ็งเป็ด
Vios G2 08 ออโต้ ผมไม่เคยทำได้เกิน16กม/ลิตร ขับแบบถนอนคันเร่งไม่เกิน90-110 นอกเมือง รถเยอะ แต่ถ้ามาร์ช ยาริส เกือบ18-20กม/ลิตร หรือ 22 ในมาร์ช MT นี่ง่ายๆเลยครับ
Jazz CVTปัจจุบัน ขับ100นึงดีสุด17กม/ลิตรเอง ทั่วๆไป15 กม/ลิตร เจ้าของรถบ่นอุบเลยเพิ่งเผลี่ยนจากMarch M/T นึกว่าจะประหยัด
-
ผมขับ 1.5 มาหลายคัน ที่ความเร็วเท่ากัน ยังไงๆ 1.2 ก็ประหยัดกว่าครับ
แต่ 1.2 ก็แรงไม่เท่า 1.5 ทุกช่วงความเร็ว ทั้งช่วงออกตัวหรือช่วงลอยลำแล้วต้องกดคันเร่ง
1.2 ประหยัดกว่า
1.5 แรงกว่า
1.5แรงกว่ามากมายเลยครับ ผมว่าตรงนี้รึเปล่าที่ทำให้มันกิน จูนมาแรง เน้นแซงขึ้นเขาเก่งๆ
ยิ่งตัว Jazz M/Tนี่ จัดจ้านมาก เร่งเป็นมาเลย ทำเอ่March M/T กร่อยๆไป
-
ในความรู้สึกผม 4AT รอบมันสูงครับ ขับ 100 รอบปาไป 3000
มาร์ชM/T รอบสามพันก็ประมาณร้อยครับ แต่คงเทียบไม่ได้เพราะไม่เสียแรงในTorqur Converter
-
เออ จริงหรือครับ
ผมสงสัยมาก เพราะเคยมีเพื่อนๆ บางท่านบอกผมว่า
Vios G2 กินพอๆ กับ March CVT ผม
ถ้าแบบนี้ผมใจแป้วเลย เพราะซื้อรถมากินพอๆ กันเซ็งเป็ด
Vios G2 08 ออโต้ ผมไม่เคยทำได้เกิน16กม/ลิตร ขับแบบถนอนคันเร่งไม่เกิน90-110 นอกเมือง รถเยอะ แต่ถ้ามาร์ช ยาริส เกือบ18-20กม/ลิตร หรือ 22 ในมาร์ช MT นี่ง่ายๆเลยครับ
Jazz CVTปัจจุบัน ขับ100นึงดีสุด17กม/ลิตรเอง ทั่วๆไป15 กม/ลิตร เจ้าของรถบ่นอุบเลยเพิ่งเผลี่ยนจากMarch M/T นึกว่าจะประหยัด
ขอบคุณครับ
แต่ผมว่าถ้าลอง Vios ตัวใหม่ อาจจะดีก็ได้นะครับ
เพราะเครื่องใหม่ ผมเคยลอง ไม่ได้รู้สึกแรงนะคับ ออกจะอืดๆ ด้วยซ้ำ (น่าจะ set ประหยัด)
แต่พอสับ mode 7 speed แรงมากมายจนติดใจครับ
-
ใช้VIOS 2016, CVT7speeds ครับ
Eco mode รอบต่ำ แต่แรงน้อยกว่า โหมดปกติ น้ำมันE20
ขับแบบไม่ประคองคันเร่ง ได้ 13-14km. (ในเมือง+ชานเมืองเชียงใหม่)
ขับแบบประคองคันเร่ง ได้ 16.xx km. (ในเมือง+ชานเมืองเชียงใหม่)
ขับยาว กทม.-เชียงใหม่ ได้ 18.xx km.
เทียบกับ Suzuki Swift1.2 E20 (ขับ2วัน , E20)
ขับแบบไม่คองคันเร่ง ได้ 13-14km.
หมายเหต วัดโดยการเติมน้ำมันกลับเต็มถังครับ
ผมเข้าใจว่า รถที่เกียร์มีมากกว่า จะประหยัดกว่าครับ
-
ใช้VIOS 2016, CVT7speeds ครับ
Eco mode รอบต่ำ แต่แรงน้อยกว่า โหมดปกติ น้ำมันE20
ขับแบบไม่คองคันเร่ง ได้ 13-14km. (ในเมือง+ชานเมืองเชียงใหม่)
ขับแบบประคองคันเร่ง ได้ 16.xx km. (ในเมือง+ชานเมืองเชียงใหม่)
ขับยาว กทม.-เชียงใหม่ ได้ 18,xxkm.
เทียบกับ Suzuki Swift1.2 E20 (ขับ2วัน , E20)
ขับแบบไม่คองคันเร่ง ได้ 13-14km.
หมายเหต วัดโดยการเติมน้ำมันกลับเต็มถังครับ
ใช่ ผมว่า vios ใหม่น่าจะประหยัดนะครับ
-
ฉไหน มาคนละแนวกับพวกอวย 1500
ตามในคลับ 1500 คุยบอก ประหยัด 19 โลลิตร ไม่รู้จะซื้ออีโค่ไปทำไม
เหอๆ ความเร็วที่คุณขับ 19 โลลิตร รถอีโค่เขาก็ 25 โลลิตรอ่ะ
น้าผมมี แจ๊ส ตัวที่แล้ว สลับกันขับก็บ่อยครั้ง น้าผมก็ยืนเป็นเสียงเดียวเหมือนในนี้ว่า 1200 ประหยัดกว่า1500 อยู่ทุกช่วงความเร็ว
แค่ 1500 มันได้อัตราเร่งดีกว่า
-
ถ้าทดเกียร์มาให้วิ่งที่ความเร็วเท่ากันใช้รอบใกล้เคียงกัน ... ต่างกัน 25% ก็ถูกแล้วหรือเปล่าครับ เพราะแต่ละรอบการหมุนของเครื่อง เครื่อง 1.5 ดูดอากาศมากกว่าเครื่อง 1.2 คิดเป้น 25% (1500/1200 = 1.25) อยู่แล้ว ... ดูดอากาศมากกว่า ก็ต้องใช้น้ำมันเยอะกว่า ... ก็ปกตินี่ครับ (หรือผมเข้าใจอะไรผิด)
-
ฉไหน มาคนละแนวกับพวกอวย 1500
ตามในคลับ 1500 คุยบอก ประหยัด 19 โลลิตร ไม่รู้จะซื้ออีโค่ไปทำไม
เหอๆ ความเร็วที่คุณขับ 19 โลลิตร รถอีโค่เขาก็ 25 โลลิตรอ่ะ
น้าผมมี แจ๊ส ตัวที่แล้ว สลับกันขับก็บ่อยครั้ง น้าผมก็ยืนเป็นเสียงเดียวเหมือนในนี้ว่า 1200 ประหยัดกว่า1500 อยู่ทุกช่วงความเร็ว
แค่ 1500 มันได้อัตราเร่งดีกว่า
คลับไหนล่ะ ถ้ามาสด้า 2 ดีเซล ผมก็กล้ายืนยันเหมือนกันว่า 1.5 ประหยัดกว่า 1.2 ทุกช่วงความเร็ว
อย่ามาบอกว่าตัวนี้ยกเว้นเพราะเนื้อหาคุณบอกอยู่ว่า 1.5 ไม่ได้บอกน้ำมันอะไร
-
ฉไหน มาคนละแนวกับพวกอวย 1500
ตามในคลับ 1500 คุยบอก ประหยัด 19 โลลิตร ไม่รู้จะซื้ออีโค่ไปทำไม
เหอๆ ความเร็วที่คุณขับ 19 โลลิตร รถอีโค่เขาก็ 25 โลลิตรอ่ะ
น้าผมมี แจ๊ส ตัวที่แล้ว สลับกันขับก็บ่อยครั้ง น้าผมก็ยืนเป็นเสียงเดียวเหมือนในนี้ว่า 1200 ประหยัดกว่า1500 อยู่ทุกช่วงความเร็ว
แค่ 1500 มันได้อัตราเร่งดีกว่า
คลับไหนล่ะ ถ้ามาสด้า 2 ดีเซล ผมก็กล้ายืนยันเหมือนกันว่า 1.5 ประหยัดกว่า 1.2 ทุกช่วงความเร็ว
อย่ามาบอกว่าตัวนี้ยกเว้นเพราะเนื้อหาคุณบอกอยู่ว่า 1.5 ไม่ได้บอกน้ำมันอะไร
คนละเชื้อเพลิงกัน เทียบกันไม่ได้ครับ ต้องเบนซินด้วยกันสิ
-
ไม่มากครับ แต่จะให้ประหยัดกว่าคงไม่ได้
จากการบันทึก 1.2 ก็ประหยัดกว่าในช่วงการใช้ mixed ประมาณ 25% แหละครับ
แต่ถ้าเป็นแบบ hwy นั้น ความแตกต่างลดลงมาอยู่ที่ประมาณ 10% เองนะครับ
-
ถ้าทดเกียร์มาให้วิ่งที่ความเร็วเท่ากันใช้รอบใกล้เคียงกัน ... ต่างกัน 25% ก็ถูกแล้วหรือเปล่าครับ เพราะแต่ละรอบการหมุนของเครื่อง เครื่อง 1.5 ดูดอากาศมากกว่าเครื่อง 1.2 คิดเป้น 25% (1500/1200 = 1.25) อยู่แล้ว ... ดูดอากาศมากกว่า ก็ต้องใช้น้ำมันเยอะกว่า ... ก็ปกตินี่ครับ (หรือผมเข้าใจอะไรผิด)
ผมมองในแง่พลังงาน รถที่มีปีกผีเสื้อควบคุม มีวาวล์แปรผันที่ใช้มา 1.5 หรือ 1.2 ถ้าโหลดเท่าๆกันไม่น่าจะกินต่างกันมาก 3000รอบของ1.5ิกับ 3000รอบของ 1.2 คงดูดอากาศเท่าๆกันน่ะครับ เว้นแต่จะมีการปรับจูนอะไรบางอย่างที่ผมไม่ได้เอามาเทียบ
-
ของผมจะแปลกกว่าคนอื่นเพราะ
ที่บ้านมี 1.5 กระปุก กับ 1.2 ออโต้
พอมาเป็น Condition นี้ 1.5 กระปุกดันประหยัดกว่าในภาพรวม
เวลาเจอสภาพจราจรชานเมือง ที่ทำความเร็วอยู่ดี ๆ แล้วมีข้างหน้ารถชลอตัวแล้วก็กลับมาโล่ง
1.2 ออโต้ใช้เวลาในการขยี้คันเร่งกลับไปที่ความเร็วที่ต้องการ
นานกว่า 1.5กระปุก ซึ่งมันตบเกียร์ต่ำรอไว้ล่วงหน้าได้
-
น่าจะปกติครับ
เครื่องใหญ่กว่าซดเยอะกว่าเครื่องเล็ก
เมียตัวใหญ่กว่ากินจุกกว่าเมียตัวเล็ก
มีไม่มากครับที่ตรงกันข้าม
-
น่าจะปกติครับ
เครื่องใหญ่กว่าซดเยอะกว่าเครื่องเล็ก
เมียตัวใหญ่กว่ากินจุกกว่าเมียตัวเล็ก
มีไม่มากครับที่ตรงกันข้าม
แหมเปรียบเทียบซะ 5555
คือผมเทียบกับCamry 2.0 กับ 2.4AcV40 เครื่องโตกว่าประหยัดกว่าเกือบ50% เลย เทียบๆกันแบบขับทางเดียวกันตามๆกันไป หรือจะคนขับคนเดียว ยังงัย2.4ก็กอนน้อยกว่า เคยคิดว่าเจ้า2.0มีปัญหารึเปล่า พอไปถามคนอื่นก็เลยทราบว่าเป็นปรกติแบบนี้
กลับมามองรถเล็ก มันกลายเป็นตรงกันข้ามแฮะ
-
เออ จริงหรือครับ
ผมสงสัยมาก เพราะเคยมีเพื่อนๆ บางท่านบอกผมว่า
Vios G2 กินพอๆ กับ March CVT ผม
ถ้าแบบนี้ผมใจแป้วเลย เพราะซื้อรถมากินพอๆ กันเซ็งเป็ด
ไม่น่ากินเท่ากันได้ ถ้าวิออสจะประหยัดเท่ามาช ต้องเป็นวีออสเกียแมนนวลตบเกียร์สุดท้ายวิ่ง 80 แช่ถึงจะเห็นความประหยัด แต่เทียบมาชวิ่งแช่ 80 ไงก็แพ้ครับ ผมเคยเทียบซิตี้กับบริโอวิ่งความเร็วเท่ากันทางเส้นเดียวกันบริโบประหยัดกว่าครับ
-
เออ จริงหรือครับ
ผมสงสัยมาก เพราะเคยมีเพื่อนๆ บางท่านบอกผมว่า
Vios G2 กินพอๆ กับ March CVT ผม
ถ้าแบบนี้ผมใจแป้วเลย เพราะซื้อรถมากินพอๆ กันเซ็งเป็ด
ไม่น่ากินเท่ากันได้ ถ้าวิออสจะประหยัดเท่ามาช ต้องเป็นวีออสเกียแมนนวลตบเกียร์สุดท้ายวิ่ง 80 แช่ถึงจะเห็นความประหยัด แต่เทียบมาชวิ่งแช่ 80 ไงก็แพ้ครับ ผมเคยเทียบซิตี้กับบริโอวิ่งความเร็วเท่ากันทางเส้นเดียวกันบริโบประหยัดกว่าครับ
แบบนี้ค่อยสบายใจหน่อยครับ
-
ทำไมผมว่า1.2กินพอๆกับ1.5เลย แต่อัตราเร่งนี่คือแบบ มองบนอ่ะ ฮา...
-
ลองขับเร็วๆ สักเกิน 120+ แล้ววัดดู
ผมท้าว่ามาร์ชกับแจ็ส M/T แจ็สประหยัดกว่า
แต่ถ้าตั้งแต่ 110 ลงมา มาร์ชประหยัดกว่าทุกช่วงความเร็ว
กลับมาที่ CVT ถ้ารถติดๆ เบรกๆ หยุดๆ มาร์ชก็ใช่จะประหยัดมาก เกียร์ต้นทดจัดเหลือเกิน
แต่ถ้าติดนิ่งๆ นานๆ 1.2 ก็แสดงอานุภาพการประหยัดของมันออกมาได้ชัดเจน
ผมว่ารถแต่ละคันมันมีช่วงประหยัดน้ำมันไม่เท่ากัน
อย่างรถที่ใช้ CVT-7 Jatco ถ้าวิ่งเกียร์ Sub-Planetary เฟืองตัวทด 1.8 (เกียร์ต่ำ)
นานๆ ก็ไม่ได้ประหยัด เพราะอัตราทดล่อไป 4. กว่าๆ ลากรอบได้อีกอะไรอีก
แต่ถ้าไหลช่วงที่มันไปเฟืองตัวทดเกียร์สูงแล้ว โดยเฉพาะช่วง 60-80 ประหยัดจนน่าตกใจ
ชนิด M/T ทำไม่ได้ เท้านิ่งๆ ปล่อยรอบต่ำสุดของแต่ละช่วงความเร็ว มี 25 กม./ลิตร หรือมากกว่า
กลับกัน ถ้าไหลจนความเร็วสูงรอบสูง ตอนนี้เครื่องมันไม่สามารถผลิตแรงมาขับเคลื่อนได้มากกว่านั้นแล้ว
กลายเป็นต้องฝืนแรงเครื่องเยอะ ในขณะที่พวก 1.5 แรงยังพอไปได้ อาจจะยังโหลดไม่สุด ก็ประหยัดกว่าครับ
-
ขนาดความจุ ขนาดหัวฉีด อัตราทดเกียร์เฟืองท้าย ขนาดล้อยาง เบอร์น้ำมันเครื่อง น้ำหนักรถ ทุกอย่างมีผลหมดครับ
-
march m/t ได้18โลลิตร ในเมือง 30 นอกเมือง 70 ขับขนาดแทบจะเอาลิ้นเลียคันเร่งอยู่แล้ว
อยากทำ22 โลลิตรบ้าง :'(
-
ใช้รถ1.2มาสามคัน สองรุ่น March M/t ,CVT, Yaris 1.2
เทียบกับ Vios สองรุ่นก่อน, Jazz สามรุ่นCVT,Auto,CVT
ไม่มีทีท่าว่า1.5จะประหยัดเท่า1.2ที่ความเร็วเท่ากันเลยครับ จะว่าไปโหลดก็ใกล้เคียงกันน้ำหนักรถบนตาชั่งขนส่งก็ 9xxกก. พอๆกัน แต่กินมากกว่า25%เลย
เพราะอัตราทดเกียร์ หรือจูนมาแรง? หรืออะไรครับ?
เพราะหลายปัจจัยครับ
1 เริ่มจากความจุกระบอกสูบมีความจุที่ต่างกัน
2 โหลดต่างกัน น้ำหนักรถต่างกัน
3 ปัจจัยอื่นๆเช่น เกียร์ cvt / เกียร์ autoธรรมดา / เกียร์ mt
4 แรงม้า/แรงบิด ต่างกัน ม้าเยอะกว่าจะให้กินน้ำมันน้อยกว่าเครื่องยนต์ที่มีแรงม้าน้อยๆก็ค่อนข้างยากครับ ยกเว้นพวกเครื่องยนต์ hybrid ที่มีแบตมาเสริมช่วยเรื่องความประหยัดได้ชัดเจน , mazda2 diesel ยกเว้นไว้คันนึง แรงม้าน้อยก็จริง แต่ทำเครื่องและเกียร์มาดี แรงและประหยัดกว่า eco car ค่ายอื่นชัดเจน
ถ้าความประหยัดคือประเด็น ทำไมไม่ติดgas lpg ไปเลยล่ะครับ ปัจจุบันนี้รถใช้gas ระบบนิ่งแล้วไม่ต้องมาจูนบ่อยๆ เพิ่มการบำรุงรักษานิดหน่อย ความรู้เรื่องรถระดับคุณ Jae เรื่องพวกนี้เป็นเรื่องเล็กไปเลยครับ
- เปลี่ยนกรองแก๊สทุก 20000 km
- ตั้งวาล์วทุก 40000 km
- หม้อต้มแก๊สใช้ได้ยาวๆ ใช้ไปเรื่อยๆจนมีอาการแปลกๆค่อยเสียบคอมดูค่าที่ผิดปกติ ถ้าเอาปลอดภัยไร้กังวล ซัก 60000-70000 โล เปลี่ยนหม้อต้มใหม่ไปเลย ลูกนึงพันกว่าบาท ถูกกว่าปั๊มติ๊กน้ำมันซะอีก
- ถ้ากะใช้ยาวๆหลายแสนกิโลเมตร ก็เลือกหัวฉีด keihin , ถ้ากะใช้ไม่นาน แสนโลเปลี่ยนทีก็เลือกหัวฉีด hana
- Gas LPG เลือกยี่ห้อ AC , AG , Energy reform 3 ยี่ห้อนี้คนใช้เยอะ จูนง่าย ปัญหาน้อย เวลามีปัญหาเคสยากๆขับเข้าศูนย์ใหญ่ทีเดียวจบ
อะไหล่แก๊สถ้าอยู่ ตจว. หาซื้อยาก หรือมีอะไหล่ไม่หลากหลาย ซื้อผ่านเว็บนี้ได้ครับ ราคาถูกและพูดจาดีกว่าร้านอะไหล่แก๊สใหญ่ๆที่เคยใช้บริการมาซะอีกครับ ซื้อเยอะต่อราคาได้ด้วย :D :D :D :D :D
http://nutgasfilter.lnwshop.com/category/4/%E0%B8%AB%E0%B8%A1%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%95%E0%B9%89%E0%B8%A1%E0%B9%81%E0%B8%81%E0%B9%8A%E0%B8%AA-lpg-%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%9A%E0%B8%9A%E0%B8%AB%E0%B8%B1%E0%B8%A7%E0%B8%89%E0%B8%B5%E0%B8%94
-
ลองขับเร็วๆ สักเกิน 120+ แล้ววัดดู
ผมท้าว่ามาร์ชกับแจ็ส M/T แจ็สประหยัดกว่า
แต่ถ้าตั้งแต่ 110 ลงมา มาร์ชประหยัดกว่าทุกช่วงความเร็ว
กลับมาที่ CVT ถ้ารถติดๆ เบรกๆ หยุดๆ มาร์ชก็ใช่จะประหยัดมาก เกียร์ต้นทดจัดเหลือเกิน
แต่ถ้าติดนิ่งๆ นานๆ 1.2 ก็แสดงอานุภาพการประหยัดของมันออกมาได้ชัดเจน
ผมว่ารถแต่ละคันมันมีช่วงประหยัดน้ำมันไม่เท่ากัน
อย่างรถที่ใช้ CVT-7 Jatco ถ้าวิ่งเกียร์ Sub-Planetary เฟืองตัวทด 1.8 (เกียร์ต่ำ)
นานๆ ก็ไม่ได้ประหยัด เพราะอัตราทดล่อไป 4. กว่าๆ ลากรอบได้อีกอะไรอีก
แต่ถ้าไหลช่วงที่มันไปเฟืองตัวทดเกียร์สูงแล้ว โดยเฉพาะช่วง 60-80 ประหยัดจนน่าตกใจ
ชนิด M/T ทำไม่ได้ เท้านิ่งๆ ปล่อยรอบต่ำสุดของแต่ละช่วงความเร็ว มี 25 กม./ลิตร หรือมากกว่า
กลับกัน ถ้าไหลจนความเร็วสูงรอบสูง ตอนนี้เครื่องมันไม่สามารถผลิตแรงมาขับเคลื่อนได้มากกว่านั้นแล้ว
กลายเป็นต้องฝืนแรงเครื่องเยอะ ในขณะที่พวก 1.5 แรงยังพอไปได้ อาจจะยังโหลดไม่สุด ก็ประหยัดกว่าครับ
จริงครับ รถแต่ละคันมีช่วงประหยัดไม่เท่ากัน เคสเฟียสต้าก็เห็นชัด
และเวลาดูแค่เปิดแอร์ 110 นั่งสองคน คุณจะได้ 16km/l กว่า ประหยัดกว่าคันอื่น แต่ในเมืองเอาไปแข่งกับ v6
มันมีหลายคันที่เป็นแบบนี้ครับ กลับตรงข้ามกันก็มี dmax ไง ใครจะดูค่าความประหยัดของเว็บก็ดูอย่างอื่นประกอบด้วยครับ
-
march m/t ได้18โลลิตร ในเมือง 30 นอกเมือง 70 ขับขนาดแทบจะเอาลิ้นเลียคันเร่งอยู่แล้ว
อยากทำ22 โลลิตรบ้าง :'(
แหมเอาลิ้นเลียคันเร่งเลยนะ
ผมอยู่นครปฐม รถติดไม่มากแบบกทมมั้งครับ 22km/l คือขับประมาณไม่เกิน100 ติดหนักๆก็ 5กม 20นาทีแค่นั้น ไม่ค่อยเจอหนักกว่านี้ครับ
-
ใช้รถ1.2มาสามคัน สองรุ่น March M/t ,CVT, Yaris 1.2
เทียบกับ Vios สองรุ่นก่อน, Jazz สามรุ่นCVT,Auto,CVT
ไม่มีทีท่าว่า1.5จะประหยัดเท่า1.2ที่ความเร็วเท่ากันเลยครับ จะว่าไปโหลดก็ใกล้เคียงกันน้ำหนักรถบนตาชั่งขนส่งก็ 9xxกก. พอๆกัน แต่กินมากกว่า25%เลย
เพราะอัตราทดเกียร์ หรือจูนมาแรง? หรืออะไรครับ?
เพราะหลายปัจจัยครับ
1 เริ่มจากความจุกระบอกสูบมีความจุที่ต่างกัน
2 โหลดต่างกัน น้ำหนักรถต่างกัน
3 ปัจจัยอื่นๆเช่น เกียร์ cvt / เกียร์ autoธรรมดา / เกียร์ mt
4 แรงม้า/แรงบิด ต่างกัน ม้าเยอะกว่าจะให้กินน้ำมันน้อยกว่าเครื่องยนต์ที่มีแรงม้าน้อยๆก็ค่อนข้างยากครับ ยกเว้นพวกเครื่องยนต์ hybrid ที่มีแบตมาเสริมช่วยเรื่องความประหยัดได้ชัดเจน , mazda2 diesel ยกเว้นไว้คันนึง แรงม้าน้อยก็จริง แต่ทำเครื่องและเกียร์มาดี แรงและประหยัดกว่า eco car ค่ายอื่นชัดเจน
ถ้าความประหยัดคือประเด็น ทำไมไม่ติดgas lpg ไปเลยล่ะครับ ปัจจุบันนี้รถใช้gas ระบบนิ่งแล้วไม่ต้องมาจูนบ่อยๆ เพิ่มการบำรุงรักษานิดหน่อย ความรู้เรื่องรถระดับคุณ Jae เรื่องพวกนี้เป็นเรื่องเล็กไปเลยครับ
- เปลี่ยนกรองแก๊สทุก 20000 km
- ตั้งวาล์วทุก 40000 km
- หม้อต้มแก๊สใช้ได้ยาวๆ ใช้ไปเรื่อยๆจนมีอาการแปลกๆค่อยเสียบคอมดูค่าที่ผิดปกติ ถ้าเอาปลอดภัยไร้กังวล ซัก 60000-70000 โล เปลี่ยนหม้อต้มใหม่ไปเลย ลูกนึงพันกว่าบาท ถูกกว่าปั๊มติ๊กน้ำมันซะอีก
- ถ้ากะใช้ยาวๆหลายแสนกิโลเมตร ก็เลือกหัวฉีด keihin , ถ้ากะใช้ไม่นาน แสนโลเปลี่ยนทีก็เลือกหัวฉีด hana
- Gas LPG เลือกยี่ห้อ AC , AG , Energy reform 3 ยี่ห้อนี้คนใช้เยอะ จูนง่าย ปัญหาน้อย เวลามีปัญหาเคสยากๆขับเข้าศูนย์ใหญ่ทีเดียวจบ
อะไหล่แก๊สถ้าอยู่ ตจว. หาซื้อยาก หรือมีอะไหล่ไม่หลากหลาย ซื้อผ่านเว็บนี้ได้ครับ ราคาถูกและพูดจาดีกว่าร้านอะไหล่แก๊สใหญ่ๆที่เคยใช้บริการมาซะอีกครับ ซื้อเยอะต่อราคาได้ด้วย :D :D :D :D :D
http://nutgasfilter.lnwshop.com/category/4/%E0%B8%AB%E0%B8%A1%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%95%E0%B9%89%E0%B8%A1%E0%B9%81%E0%B8%81%E0%B9%8A%E0%B8%AA-lpg-%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%9A%E0%B8%9A%E0%B8%AB%E0%B8%B1%E0%B8%A7%E0%B8%89%E0%B8%B5%E0%B8%94
ผมมีมาร์ชCVTติดแก๊ซแล้วครับ ส่งไปอยู่หาดใหญ่ แต่รถที่ใช้ที่นี่มันหลายมือ หลายคนขับ ถ้าติดแก๊ซผมดูแลไม่ไหวครับ
รถสาธารณะต้องประหยัดตั้งแต่ค่าตัวมัน ค่าดูแล ค่าน้ำมัน ไม่งั้นผมนี่แหละที่เหนื่อย เคยไปดูMazda2คิดว่าแพงไป ราคาที่จะเป็นส่วนต่าง และค่าค่าอะไหล่คงประหยัดไม่คุ้มเสีย เคยมี Mazdaแล้ว เบื่อตอนซ่อม ค่าซ่อมที่ว่าถูกก็ ซ่อมพอๆกับBMWE46 ไม่ได้ถูกแบบ Altis March เลยครับ ตัดทิ้งจากตัวเลือกไป ผมขายอะไหล่ รถรุ่นเดียวกันไม่ยอมซ่อมแพงกว่าคนทั่วไปแน่ๆ เสียชื่อหมด 555
ตอนนี้เลยได้ยาริส กับมาร์ช m/tมา เสริมทัพ ซื้อมือสองมาพอๆกับซื้อMazda2 ดีเซลมือสองคันเดียว ฮาาา ประหยัดห่างกันหน่อย e20ถูกกว่าดีเซล ดูแลก็ง่าย ไม่ต้องห่วงระบบไฮเทคอีก สบายละ
นานาจิตตังครับ
ขอบคุณทุกความเห็นคิดว่าคงเก็บเจ้าสองคันนี้ใช้สักพักดีกว่า เพราะดูท่าจะหาทางทำวีออส แจ๊ซให้ประหยัดกว่านี้ไม่ได้แน่ๆละครับ
-
อย่างที่จขกท. สันนิษฐานนั่นแหละครับ อัตรทดเกียร์และการจูนนิ่งมีผลมากพอสมควรเลย
ตั้งแต่จูนecuการฉีดน้ำมัน การทำให้เสียlossในระบบน้อยที่สุด ถ้าจัดการlossไม่ดี พอแรงขับที่ลงถนนจริง1.5อาจจะพอๆกับ1.2ที่จัดการlossดีกว่าก็ได้ครับ
ที่สำคัญขนาดล้อรวมยาง ความกว้างของยาง ชนิดของยางมีผลต่อการกินน้ำมันอีกพอสมควรเลย ตามสเปคปกติรถ1.5จะให้ยางกว้างกว่า1.2โดยปกติอยู่แล้ว
รวมถึงลมยางทีเติมด้วย เครื่อง1.2ส่วนมากสเปคที่สติ๊กเกอร์จะให้อัดลมเยอะครับ หน้ายางสัมผัสน้อยเสียแรงต้านน้อยก็ช่วยให้ประหยัดขึ้นตาม
-
JAZZ GE MT
วิ่ง 85 รอบ. 2500 นิ่งๆ หน้าจอโชว์ 22 กินจริงประมาณ 19-20
วิ่ง 100 รอบ 3200 นิ่งๆ หน้าจอโชว์ 20 กินจริง 17-18
วิ่ง 120 รอบ 4000 นิ่งๆ หน้าจอโชว์ 16-18 กินจริง 15-16
วิ่งปกติ ในเมือง 30 (รถติด) นอกเมือง 70 (ไม่เกิน 100) กินจริง 15-16
วิ่งซัดๆ มุดๆ (กดลึก ยก กดลึก) 120-140-160 กินจริง 13-16
ประมาณนี้ครับ
-
ถ้าทดเกียร์มาให้วิ่งที่ความเร็วเท่ากันใช้รอบใกล้เคียงกัน ... ต่างกัน 25% ก็ถูกแล้วหรือเปล่าครับ เพราะแต่ละรอบการหมุนของเครื่อง เครื่อง 1.5 ดูดอากาศมากกว่าเครื่อง 1.2 คิดเป้น 25% (1500/1200 = 1.25) อยู่แล้ว ... ดูดอากาศมากกว่า ก็ต้องใช้น้ำมันเยอะกว่า ... ก็ปกตินี่ครับ (หรือผมเข้าใจอะไรผิด)
ผมมองในแง่พลังงาน รถที่มีปีกผีเสื้อควบคุม มีวาวล์แปรผันที่ใช้มา 1.5 หรือ 1.2 ถ้าโหลดเท่าๆกันไม่น่าจะกินต่างกันมาก 3000รอบของ1.5ิกับ 3000รอบของ 1.2 คงดูดอากาศเท่าๆกันน่ะครับ เว้นแต่จะมีการปรับจูนอะไรบางอย่างที่ผมไม่ได้เอามาเทียบ
ผมคิดว่า คันเร่ง = รอบ อยู่เรื่อย ลืมนึกเรื่องโหลด ... ว่าแล้วก็นึกได้ถึงเรื่องนึงที่สงสัยอยู่ ว่าจะหาข้อมูลมาหลายทีแล้วก็ลืมอยู่เรื่อย ;)
-
JAZZ GE MT
วิ่ง 85 รอบ. 2500 นิ่งๆ หน้าจอโชว์ 22 กินจริงประมาณ 19-20
วิ่ง 100 รอบ 3200 นิ่งๆ หน้าจอโชว์ 20 กินจริง 17-18
วิ่ง 120 รอบ 4000 นิ่งๆ หน้าจอโชว์ 16-18 กินจริง 15-16
วิ่งปกติ ในเมือง 30 (รถติด) นอกเมือง 70 (ไม่เกิน 100) กินจริง 15-16
วิ่งซัดๆ มุดๆ (กดลึก ยก กดลึก) 120-140-160 กินจริง 13-16
ประมาณนี้ครับ
ขอบคุณสำหรับข้อมูลครับ ใกล้เคียงกับที่ผมลองเองเหมือนกัน ซึ่งก็พอๆกับที่Headlightmag teamทดสอบ 110ด้วย