Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: oatzamag ที่ ตุลาคม 07, 2016, 15:47:50
-
สวัสดีครับพี่ๆ สมาชิก Headlightmag ไทยแลนด์ พบกันที่ครั้ง ในกระทู้ที่2ของผม ตามชื่อหัวข้อเลยครับ พี่ๆคนไหนมีประสบการณ์ ความรู้ ทางด้านนี้
รบให้ความรู้แด่ผมหน่อย ครับ แค่ลงแว๊ก หรือ เคลือบแก้ว หรือใครมีเทคนิคเฉพาะตัวเจ๋งๆ แนะนำพบหน่อยครับ กราบขอบพระคุณครับ
-
ปัญหาหลักของรถสีดำ คือ ขนแมว เห็นชัด ขึ้นง่ายมากครับ เคลือบแก้วก็ดีนะครับ เลือกเจ้าดีๆหน่อย เจ้าไหนผมไม่แน่ใจ :-*
-
ขอบคุณครับ ^ ^
-
รถสีดำนี่ความเห็นผม ผมก็ว่าควรเคลือบแก้วนะครับ เพราะมันจะสวยมากและป้องกันรอยขีดข่วนได้บ้างในระดับนึง
ขึ้นอยู่กับว่าใช้เกรดไหน
แต่ข้อสำคัญที่ผมเจอกับหลาย ๆ คนที่ไปเคลือบแก้วมาก็คือ พอเคลือบแล้วเจ้าของรถก็คิดว่าไม่ต้องไปดูแลอะไรมันมาก
ไม่ต้องล้างบ่อย ผลก็คือ รถสกปรก ไม่สวย และเกิดรอยขนแมวได้อยู่ดี เพราะรถที่สกปรกมาก ๆ เวลาล้างมันก็เสี่ยงที่จะเกิดรอยขนแมวจากคราบสกปรกได้ถ้าเราล้างรถไม่ถูกวิธี การเคลือบแก้วก็จะช่วยให้ล้างรถง่ายขึ้นบ้างนะครับ แต่ไม่ได้ผมายความว่าเราจะล้างรถยังไงก็ได้
ดังนั้นถ้าเคลือบแก้วแล้วผมก็แนะนำว่าให้ดูแลรถดี ๆ ล้างให้ถูกวิธี พิถิพิถันในการล้างรถ เสมือนว่า ไม่ได้เคลือบแก้วครับ
-
Wrap ฟิล์มใสเป็นทางเลือกที่ลงตัวครับ ปกป้องได้ทั้งรอยขนแมวและสะเก็ดหิน และมอไซถาก...งบอยู่ประมาณสามหมื่น ของผมทำที่ร้าน world wrap พัทยา จริงๆ ก็มีหลายร้าน แต่ต้องรู้ฝีมือและคุณภาพของฟิล์มที่ใช้ ถ้าฟิมไม่ดีตอนลอกมามันกัดสีรถครับ
-
ถ้าไม่สนว่าต้องเงาอะไรมากแต่ใช้งบเยอะหน่อย ติดฟิล์มครับกันได้ดีที่สุดแต่เงาดรอปแน่นอนครับ ถ้ามีงบทำเคลือบแก้วมันก้พอได้แต่
ต้องล้าง+ลง wax เหมือนปกตินะครับ ประเทศเราสกปรกครับหวังพึ่งเคลือบแก้วมากไม่ได้ ทำเพื่อความสวยงามมากกว่า
สรุปคือถ้าให้ผมแนะนำคือ ล้างรถอาทิดละ 1-2 ครั้ง ลง wax ดีๆ เดือนละ 1-2 ครั้ง แค่นี้ก้พอละครับ ถ้าไม่ตาดีแบบทำอู่สีนะครับ 55
แต่ถ้าจะให้มันเงาขึ้นอีกก้เพิ่ม glass coat เข้าไปแต่เรื่องล้างยังควรทำเหมือนเดิมครับ
-
ของผมแบบบ้านๆเลยครับ ขับรถไปล้างแล้วกลับมาเคลือบ wax เองที่บ้าน เน้นประหยัดเงิน+ออกกำลังกาย
แรกๆก็จิตตกเวลาเห็นรถเราตอนออกมาใหม่เริ่มมีรอยขนแมว แต่ตอนนี้เริ่มมีรอยขึ้นตามกระโปรงรถหน้าก็เฉยๆแระ(แต่ด้านข้างยังดีอยู่) เลยกะว่าจะเคลือบสีสักเดือนละแค่ 2 ครั้ง พอแค่ protect ไม่ให้สีมันซีดเร็ว
-
...ผมเคยไปร้านเคลือบแก้ว
ร้านถามว่ามีเป้าหมายไหม?
ผมบอกว่าอยากให้สวยใสเงางาม...
เขาให้คำตอบว่า รถสีเข้ม เคลือบแก้วทั่ว ๆ ไป ต้องดูแลดีกว่ารถไม่เคลือบแก้วอีกเท่าตัว และเคลือบแก้วไม่ได้กันขนแมว ยิ่งฉ่ำมากเท่าไร ขนแมวยิ่งเกิดง่าย สู้ลงแวคธรรมดาไม่ได้ อย่าทำเลย.....
จบ ผมล้าง และเคลือบเองมาแต่บัดนั้น.......
-
ผมว่าเคลือบไม่สำคัญเท่าไหร่ เพราะเคลือบไปก็กันรอยอะไรไม่ได้มาก ต่อให้โฆษณาว่าแข็งๆ ยังงัยก็เป็นรอยได้ เพราะฝุ่นทรายบนตัวรถยังงัยๆมันก็แข็งกว่าสารที่เคลือบอยู่บนผิวของสี
แต่ล้างสำคัญที่สุด เพราะรถจะเกิดรอยก็คือตอนล้าง ล้างดีก็ไม่เกิดรอย ไม่เกิดรอยก็ไม่ต้องไปคอยเคลือบคอยขัดอะไรให้วุ่นวาย
ผมแนะนำให้ล้างรถเอง และล้างให้ถูกต้อง ใช้ผ้าแยกกันระหว่างครึ่งบนกับครึ่งล่าง ใช้ถังแยกกันระหว่างล้อบังโคลน และตัวถัง ใช้น้ำฉีดล้างเยอะๆ ล้างไปพร้อมๆกับฉีดน้ำไป ที่สำคัญที่สุดคือห้ามซักแห้งโดยเด็ดขาด
การรักษาสีรถที่สำคัญที่สุดคือการล้าง ไม่ใช่การเคลือบหรือขัด เพราะการล้างรถเป็นการป้องกันปัญหาที่ต้นเหตุ ที่คนทั่วไปมักมองข้าม ไอ้เด็กล้างรถนั่นแหละตัวดี
-
เคลือบแก้วช่วยให้เงาขึ้นกว่าเคลือบwaxธรรมดา แต่ไม่ช่วยกันรอยครับ
ล้างรถดีๆด้วยวิธีที่ถูกต้อง ลงWaxยี่ห้อดีๆซักหน่อยก็เพียงพอแล้วครับ ที่เหลือคือทำใจอย่างเดียวเลยครับ รถสีดำยังไงก็มีรอยครับ
-
เคลือบแก้วยังไงก็มีรอบมีขนแมวครับ แต่จะเกิดได้ยากกว่าเพราะเวลาล้างมันล้างเอาสิ่งสกปรกและฝุ่นออกได้ง่ายเวลาลงแชมพูถูมันเลยมีฝุ่นถูไปถูมาน้อยกว่า
แต่รถสีดำเคลือบแก้วไปก่อนก็ได้แล้วลงแว็กทับก็ได้ครับ แต่ยังไงก็ต้องมีรอยบ้างทำใจไว้เลย
ผมชอบรถสีดำมากแต่ไม่ซื้อก็เพราะเหตุผลนี้แหละ แต่ถ้าซื้อมาแล้วผมน่าจะเอาไปแรปดำด้าน satin black 3m 1080 ทั้งคัน ล้างเช็ดไม่ต้องคิดมาก5555
-
ผมว่าดูที่การดูแลรถของตัวเราเป็นหลักก่อนครับ
แก้ว ได้การปกป้อง ได้เม็ดน้ำสวย ได้การทนต่อกรดด่าง เหมาะกับ คนที่ไม่มีเวลาล้างเองบ่อย แต่ แก้วความสวยฉ่ำสู้ wax ไม่ได้ และ ข้อเสียอีกอันคือต้องจ่ายเงินเป็นก้อนใหญ่
Wax อันนี้ เด่นที่ความสวยงามกว่า ใครที่ชอบ เย้มๆดูแล้วเงาแบบเด่นๆ อันนี้คือตอบโจทย์เลย แต่ ข้อเสียคือการปกป้องน้อยกว่าแก้วพอสมควร ต้องเคลือบบ่อย ต้องเป็นคนที่มีเวลา ไม่ว่าจะทำเองหรือเข้าร้าน
ผมสรุปว่า ดีทั้ง 2อย่าง อยู่ที่การดูแลของเรา ว่าอะไรเหมาะกับเรามากกว่ากัน
ผมเองทำมาทั้ง 2อย่าง เริ่มจาก wax ธรรมดา จน กระปุก หลักหมื่น สุดท้าย ก็จบที่แก้ว เพราะ ผมเองอยู่คอนโด ล้างรถเองไม่ได้ เข้าร้านก็2-3อาทิตย์ ที เคยเคลือบ wax มันก็สวยอยู่ไม่กี่วัน ฝนตกมาก็drop แต่ตอนมาทำแก้วแล้ว ฝนตกมารถก็สะอาดเหมือนเดิม ผมเลยคิดว่าตัวผมเอง กับ การดูแลของผม มันเหมาะกับแก้วมากกว่าครับ แต่ต้องยอมรับครับว่า ตอนล้างใหม่ๆ wax สวยกว่า
-
ไม่เคลือบ ไม่แว้กอะไรทั้งนั้นครับเสียเวลา แค่ไม่ให้รถไปชนเป้นรอยพอแล้ว ที่เหลือล้างบ่อยๆก็แจ่ม และไม่ต้องไปใช้น้ำยาอะไรด้วย
-
ผมเป็นคนไม่ให้ความสำคัญอะไรกับการเคลือบแก้ว
คิดว่ามันสิ้นเปลือง แต่พอได้เคลือบแล้วใช้งาน มันเงา
มันล้างง่าย มันประหยัดเวลาในการล้าง เลอะยางมะตอย
มายังล้างออกได้ง่ายมากๆ หลังจากนั้นมาก็เคลือบแก้วทุกคันครับ
-
เคลือบแก้วแล้วล้างง่ายมากๆ เหมาะกับคนขี้เกียจเป็นอย่างยิ่ง ยิ่งทำเองยิ่งถูกมากสามพันก็ได้แล้ว
-
ผมใช้ยี่ห้อ zymol ก็ดีเหมือนกันครับ
แต่รถใหญ่ๆเกรงว่าจะทำไม่ไหวกันนี่ละสิครับ อีกคันของผมคันก็ใหญ่อยู่เหมือนกัน ผมเลยเอาไปเคลือบแก้วกับ CTS ก็โอเคดีนะครับ นานๆก็เอามาลง wax ทีได้เหมือนกันครับ
-
เก็บเงินไว้ใช้กับประกันชั้น1คุ้มกว่าครับ ผมใช้รถสีดำเคลมจนเบื่อ วิ่งต่างจังหวัดโดนหินดีดเป็น100จุด
-
รถสวยเงางามดีครับ จากที่ใช้มาการเคลือบแก้วจะช่วยให้ล้างง่ายขึ้นกรณีมีความสกปรกหรือคราบต่างๆติดและไม่ต้องกังวลว่าถ้ามีรอยบางๆที่ต้องขัดออกจะทำให้แลคเกอร์สีบางหรือหายไป แต่ถ้าวิ่งทาไกลบ่อยผมคิดว่าWrapf้วยฟิล์มครึ่งคันหน้าจะตอบโจทย์ที่สุดครับ
-
สีดำ เป็นสีที่ดูแลยากที่สุดนะครับ แต่ก็เป็นสีที่เคลือบแก้วแล้วขึ้นที่สุดเช่นเดียวกัน
ลองหาเจ้าดีๆหน่อย ยอมจ่ายนิดนึง จะสวยใสกิ๊งเลยล่ะ
-
wrap ใสครับ ;)
-
สีดำเคลือบแก้ว สวยสุดๆ
-
มีเงินเหลือก็เคลือบแก้วครับ
หรือ ล้าง เคลือบ บ่อยๆ ก็โอเคครับ
-
เมื่ออาทิตย์ที่แล้วผมเข้าไปเคลือแก้วมาครับ กับรถสีดำ
มันไม่ได้เป็นอย่างที่ผมคิดไว้เลย แต่ก็ทำใจไว้บ้างแล้ว
เคยอ่านผ่านๆจากเว็บเกี่ยวกับการดูแลสีรถ และมีคนมาให้ข้อคิดเห็นในเรื่องนี้มาบ้างแล้ว ว่าการลงแว็กรถจะดูฉ่ำและมีมิติกว่าการเคลือบแก้ว
แต่ก็ยังอยากจะไปทำเพราะรถสีดำ
ผลคือมีข้อให้เปรียบเทียบ ส่วนที่เคลือบแก้วรอบตัวรถ กับส่วนที่ลงแว๊ก คือตามชายขอบประตูในตัวรถ แตกต่างกันอย่างชัดเจน
ที่โฆษณาว่าการเคลือบแก้วจะช่วยลดการจับตัวของฝุ่น อันนี้ผมว่ามันไม่ช่วยเลย แต่มันทำให้น้ำที่โดนเกาะตัวเป็นเม็ดจริง และกลิ้งหลุดเมื่อรถวิ่ง
บางที่การเคลือบแก้วอาจจะดีและเห็นผลในระยาวก็ได้ อันนี้ต้องดูกันอีกยาว
ก็ลองดูครับ แต่สำหรับผมถ้าย้อนเวลากลับไปได้คงไม่ทำ แต่ที่ทำคืออยากลอง 555
-
จุดประสงค์หลักของเคลือบแก้วในตอนแรกที่มันถูกสร้างขึ้นมาคือ
เพื่อให้การดูแลรักษาง่ายขึ้น ลดโอกาศการเกิดริ้วรอยได้(บ้าง)
แต่ก่อนที่จะมีการเคลือบนั้นก็จะต้องมีการเตรียมพื้นผิว
ถ้าไม่สนใจอะไรแค่ทำพื้นผิวให้สะอาดพร้อมที่จะลงน้ำยาก็ได้
แต่ไหนๆจะทำแล้วก็ขัดให้มันสวยด้วยเลยจะดีมั้ยเพราะถ้าขัดแล้วเคลือบทับเอาไว้
ชั้นเคลียร์มันก็ใสอยู่อย่างนั้น ส่วนหลังจากนั้นถ้าหากว่าเกิดรอยที่ไม่ลึกไปกว่าชั้นแก้ว
สามารถขัดออกแล้วลงใหม่ได้โดยที่ไม่กระทบกับชั้นเคลียร์
จึงเป็นหนึ่งในที่มาว่าทำไมเคลือบแก้วแล้วถึงวาวใสมากกว่าลงแว๊กเฉยๆด้วยครัย
(http://www.mx7.com/i/edd/cpLZ0A.JPG) (http://www.mx7.com/view2/zpz1cT4VKnIVrUH5)
-
ของผม รถสีดำเคลือบแก้วจากศูนย์ แล้วมาลงแว็กเอง จัด 3 เอ็ม อือม์ มันสวยดำเยิ้มมองแล้วเด่นมากเลยแนะนำให้
ทำทั้งสองอย่างดีที่สุดครับ
1 เคลือบแก้วก่อนเลย ปกป้องสีรถ ระดับที่หนึ่ง แต่อย่าคาดหวังว่าจะเงางามมากนะ
2 เมื่อเคลือบแก้วแล้ว มาลงแว็กซ้ำอย่าเอาแว็กที่มีผงขัดนะครับ ของผมเลือก 3 เอ็ม
รับรองเลยว่าเงาวาววับเลยละ
งานนี้สำหรับคันนี้ ลงทำเองเลย ล้างเอง ลงแว็กเองไม่ไว้ใจอู่ คนอื่นๆจะรักรถเราเอาใจใส่เหมือนรถเค้าเองคงยาก