Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: recycleman ที่ ตุลาคม 10, 2016, 20:11:24
-
เพิ่งกลับมาจากเกาหลี มีโอกาสได้เดินทางในหลายรูปแบบในกรุงโซล-อินชอน สังเกตเห็นอะไรหลายๆอย่างเกี่ยวกับรถที่ชวนสงสัยและสะท้อนอะไรได้หลายอย่างอยู่
1.ที่นี่นิยมใช้รถซีดานขนาดกลางยันใหญ่ พวกรถเล็กแนวอีโคคาร์a-b-segแทบจะไม่มีให้เห็นเลย c-segก็นานๆทีเห็นโผล่มาที ที่นิยมใช้และเห็นบ่อยก็พวก sonata,grandeur,equus,k5,k7,k9 พวกนี้จะเห็นถี่จนเป็นเรื่องปกติเลย งงว่าทำไมคนที่นี่คนถึงนิยมรถใหญ่ๆ น้ำมันที่นี่ถูกหรือ?
2.พวกรถจากนอกก็เช่นเดียวกัน นิยมคันใหญ่ๆ ถ้าเป็นเบนซ์ก็ต้องอีเป็นต้นไป ถ้าบีเอ็มก็ต้อง5เป็นต้นไป แต่เห็นบ่อยสุดคือออดี้ครับ โดยเฉพาะ a8 เห็นบ่อยมาก
3.แต่ที่แปลกใจคือ เห็นรถญี่ปุ่นบ่อยขึ้นกว่าตอนไปครั้งก่อนเมื่อปี53 ที่เห็นเยอะสุดก็ nissan กับ honda และยิ่งถ้าเป็นรถญี่ปุ่นแบรนด์หรูอย่างเช่น lexus,infiniti กลับเห็นได้มากกว่าอีก (เห็นว่าคนเกาหลีไม่ชอบแบรนด์ญี่ปุ่น)
4.คนที่นิยมที่จะเปิดกระจกขับรถ น่าจะเป็นเพราะอากาศที่นี่เย็นสบายดีจริงๆ
5.สีรถที่เห็นได้บ่อยสุดคือสีดำ สีที่ไม่เห็นเลยคือสีทอง
6.ทำไมคนที่นี่ไม่ดึงโฟมกันกระแทกฟ้าตรงประตูที่แปะเอาไว้ตั้งแต่ปล่อยรถมาจากโรงงานมายังโชว์รูม คือตั้งแต่ถอยมาก็ไม่ดึงออก เห็นหลายคันเลยครับ ทำไมเขาไม่แกะออก
7.คนที่นี่บีบแตรกันได้ระดับน้องๆอินเดียจนเป็นเรื่องปกติ แต่ดูเขาไม่ค่อยซีเรียสเหมือนเป็นเรื่องปกติ
8.ในขณะที่บ้านเรากำลังให้ความสำคัญกับระบบความปลอดภัยโดยเฉพาะเรื่องถุงลม ที่นั้นดูเหมือนเขาจะไม่ค่อยอะไรกับเรื่องนี้เท่าไรเลย ผมมีโอกาสได้นั้นแท๊กซี่ เป็น sonata ตัวใหม่เอี่ยม แต่สังเกตว่าไม่มี airbag เลยสักใบ ทั้งที่เป็นรถที่มีขนาดใหญ่หรูหราพอสมควร ระบบกันลื่นไถลหรือช่วยการทรงตัวอะไรก็ไม่มีเลยครับ มาแบบโล้นๆ ทั้งๆที่บ้านเรากำลังจะทำให้เป็นมาตรฐานสำหรับรถทุกระดับ รู้สึกแปลกมากตรงจุดนี้
สุดท้ายที่ชอบมากๆคือระบบขนส่งบ้านเขานี่ถือว่าดีเยี่ยม ถนนหนทางดีมากเป็นระบบระเบียบสุดๆ แต่ก็ยังมีพวกที่เราด่าๆกันไม่ว่าจะเป็นขี่มอไซด์บนฟุตบาท ที่นั้นก็มีน่ะครับ แต่น้อยมากเมื่อเทียบกับบ้านเรา และเขาจะพูดขอโทษคนบนฟุตบาททุกครั้งที่ทำเช่นนั้น เหมือนว่ารีบจริงๆ
-
เห็นด้วยหลายข้อครับ
เท่าที่สังเกตเมื่อ2-3ปีที่แล้วเห็น
K9, eclass, serie5, sonata
นานๆเจอaccord
-
ทำไมไม่ถามคนที่นั่นล่ะครับ ;D
-
ทำไมไม่ถามคนที่นั่นล่ะครับ ;D
พูดเกาหลีไม่เป็นครับ คนที่นั้นขนาดถามผม(เป็นภาษาอังกฤษ)ว่ามาจากไหน จีนเหรอ? ผมบอกมาจากไทย เขาก็อ่อๆ ไทยแลนด์ และเขาก็พูดเกาหลีกับผมต่อซะงั้น อันนี้งงมาก
-
ขอตอบเท่าที่ทราบนะครับ
1.ที่นี่นิยมใช้รถซีดานขนาดกลางยันใหญ่ พวกรถเล็กแนวอีโคคาร์a-b-segแทบจะไม่มีให้เห็นเลย c-segก็นานๆทีเห็นโผล่มาที ที่นิยมใช้และเห็นบ่อยก็พวก sonata,grandeur,equus,k5,k7,k9 พวกนี้จะเห็นถี่จนเป็นเรื่องปกติเลย งงว่าทำไมคนที่นี่คนถึงนิยมรถใหญ่ๆ น้ำมันที่นี่ถูกหรือ?
คงเป็นเพราะรถราคาถูกครับ เลยซื้อทีก็ซื้อรุ่นใหญ่ไปเลย D-Segment อย่าง Kia K5 2.0 ราคาเริ่มต้น 22 ล้านวอน หรือประมาณ 7 แสนบาท(แต่ไม่รู้ว่ามีค่าอย่างอื่นต้องจ่ายเพิ่มเหรอเปล่า)
http://www.kia.com/kr/vehicles/new-k5/features.html
ส่วน A-Segment อย่าง Kia Morning (Picanto) ราคาเริ่มต้น 10 ล้านวอน หรือประมาณ 3 แสนบาท
http://www.kia.com/kr/vehicles/morning/features.html
6.ทำไมคนที่นี่ไม่ดึงโฟมกันกระแทกฟ้าตรงประตูที่แปะเอาไว้ตั้งแต่ปล่อยรถมาจากโรงงานมายังโชว์รูม คือตั้งแต่ถอยมาก็ไม่ดึงออก เห็นหลายคันเลยครับ ทำไมเขาไม่แกะออก
ได้ยินว่าถ้ารถมีโฟมกันกระแทกอยู่ เขาจะถือว่าเป็นรถใหม่(คล้ายๆกับป้ายแดงบ้านเรา) และโฟมกันกระแทกก็ช่วยตอนเปิดประตูไม่ให้กระแทกรถคันอื่นด้วย
8.ในขณะที่บ้านเรากำลังให้ความสำคัญกับระบบความปลอดภัยโดยเฉพาะเรื่องถุงลม ที่นั้นดูเหมือนเขาจะไม่ค่อยอะไรกับเรื่องนี้เท่าไรเลย ผมมีโอกาสได้นั้นแท๊กซี่ เป็น sonata ตัวใหม่เอี่ยม แต่สังเกตว่าไม่มี airbag เลยสักใบ ทั้งที่เป็นรถที่มีขนาดใหญ่หรูหราพอสมควร ระบบกันลื่นไถลหรือช่วยการทรงตัวอะไรก็ไม่มีเลยครับ มาแบบโล้นๆ ทั้งๆที่บ้านเรากำลังจะทำให้เป็นมาตรฐานสำหรับรถทุกระดับ รู้สึกแปลกมากตรงจุดนี้
Taxi บ้านเขาจะเป็นรุ่นที่ผลิตจากโรงงานเลยครับ(ตัดออพชั่นที่ไม่จำเป็น มีมิเตอร์และถัง LPG จากโรงงานเลย) เท่าที่เห็นมี 4 รุ่นคือ Sonata, Granduer, K5 และ K7 รุ่นล่างสุดจะมี Airbag ขั้นต่ำ 1 ใบ ในรุ่นสูงขึ้นก็มีมาเท่าๆกับรถบ้านปกติ
http://www.hyundai.com/kr/showroom.do?carCd1=TX001
http://www.hyundai.com/kr/showroom.do?carCd1=TX002
http://www.kia.com/kr/vehicles/new-k5-taxi/features.html
http://www.kia.com/kr/vehicles/k7-taxi/features.html
ปล. รถตู้ที่เกาหลีอย่าง Grand Starex(H1) Carnival(Grand Carnival) หรือ Korando Turismo(Stavic) ถ้าเป็นรุ่นที่มีที่นั่งเกิน 11 ที่นั่ง จะโดนล็อกความเร็วสูงสุด 110 Km/h จากโรงงานเลยครับ
-
เค้าชาตินิยมด้วยนะครับ ใช้แต่รถบ้านเค้า
-
น้องสาวผมมีครอบครัวอยู่ที่นั่น ไม่เคยคุยกันเรื่องรถสักที :P :P :P :P
-
ข้อ7เห็นด้วยอย่างยิ่งครับ ;D
-
ผมเคยไปมา 5 ปีที่แล้ว ตอนนั้นผมเห็น Elantra เยอะอยู่นะ
ว่าแต่ตอนนี้เข้าเมืองยากอย่างที่เป็นกระแสในโซเชี่ยลไหมครับ
-
ผมเคยไปมา 5 ปีที่แล้ว ตอนนั้นผมเห็น Elantra เยอะอยู่นะ
ว่าแต่ตอนนี้เข้าเมืองยากอย่างที่เป็นกระแสในโซเชี่ยลไหมครับ
ของผมไม่ยากครับ สแกนนิ้วมองหน้า2ทีผ่านเลย ไม่มีถามไม่มีพูดอะไรทั้งสิ้น
ตอนแรกนี่เสียวอยู่เหมือนกันเพราะเพิ่งทำพาสปอร์ตเล่มใหม่แทนเล่มเดิมที่หมดอายุ เลยเอาพาสฯเก่าติดไปด้วยกันเหนียวเผื่องานเข้าจะได้เอามาอ้างอิงไรได้บ้าง โชคดีที่ไม่ได้ใช้
แต่เท่าที่สังเกตก็มีเข้าห้องเย็นอยู่เรื่อยๆครับ เขาเล็งเป็นพิเศษโดยเฉพาะกลุ่มประเทศอาเซียนเพราะมีไม่น้อยที่คิดจะแอบมาหางานทำอยู่ยาวๆแบบผิดกฎหมาย
-
เขากำลังจะไปเป็นประเทศพัฒนา
ดีใจกับประเทศเพื่อนบ้านเอเชียครับ
ที่วินัย การเคารพสิทธิ์ของคนในชาติ ระยะ 10 ปีมานี้
มันยกระดับสูงกว่าบ้านเรา แบบคนละเรื่อง
-
3. คนเกาหลีไม่ชอบคนญี่ปุ่นแต่ไม่เกี่ยวกับ Product บวกกับปัจจุบันคนเกาหลีก็เริ่มเปิดใจมากขึ้น (แต่ไม่ลืม)
6. ที่ไม่ดึงโฟมออกเพราะไว้กันชนรถคันอื่นเวลาเปิดประตู แต่นานๆไปก็หลุดเอง(ไม่หามาติดใหม่)
-
ผมซื้อรถก็ไม่ค่อยสนใจ Airbag นะ
ญาติที่ญี่ปุ่นก็เหมือนกัน ไม่เห็นเค้าสนใจเท่าไร ทั่วๆไปเค้าสนใจเรื่อง ซื้อแล้วต้องไม่เสีย ไม่โกหกผู้บริโภค หรือทำอะไรที่ไว้ใจไม่ได้
ส่วนคนที่สนใจเรื่องรถก็ เน้นนวตกรรมใหม่ๆ หรือระบบเครื่องยนต์ ช่วงล่าง การขับขี่มากกว่า
คงเป็นเพราะอุบัติเหตุน้อย และคนระวังกันมากอยู่แล้ว
-
ข้อ7เป็นปัญหาส่วนตัวของคนไทยไปแล้วครับเหมือนมีอาการทางจิตยังไงไม่รู้ได้ยินเสียงแตรไม่ได้เห็นไฟกระพริบไม่ได้เหมือนเห็นแล้วสติสัมปชัญญะจะขาดขึ้นมาทันที :-X ผมเคยอยู่อเมริกามาที่นั่นใช้แตรตามที่บัญญัติไว้ในคู่มือสอบใบขับขี่แหละ แตรมีไว้เตือนและให้สัญญาณ จะบีบกี่ทีมันก็คือการให้สัญญาณเพื่อความปลอดภัย :)
-
เขากำลังจะไปเป็นประเทศพัฒนา
ดีใจกับประเทศเพื่อนบ้านเอเชียครับ
ที่วินัย การเคารพสิทธิ์ของคนในชาติ ระยะ 10 ปีมานี้
มันยกระดับสูงกว่าบ้านเรา แบบคนละเรื่อง
เป็นตั้งนานแล้วครับ คือรายได้ต่อหัวของเขาเกิน US$15000 น่าจะเกินกว่า 10ปีนานแล้ว เกาหลีใต้ถือ
เป็นประเทศพัฒนาแล้ว ปัจจุบันรายได้ต่อหัวอยู่ที่ US$25000
REF: http://www.tradingeconomics.com/south-korea/gdp-per-capita
-
ผมไปมาปี 2013 ก้เห็นอะไรคล้ายๆกับ จขกท นี่ล่ะครับ
1. ช่ายครับ รถสัญชาติเกาหลีเป็น d seg เยอะมากครับ แถมของทางยุโรปและญี่ปุ่นไม่น้อยเรื่องราคาน้ำมันน่าจะถูกสำหรับคนที่นั่นครับเพราะ
รายได้ค่อนข้างสูงครับแต่ก้ไม่ใช่ทั้งหมดนะครับ
2. ช่ายครับที่เห็นเยอะมากคือ audi ครับ mb ก้มีไม่น้อย
3. ธุรกิจจำนวนมากในเกาหลีเป็นของญี่ปุ่นครับ ห้าง ขนม ของกินต่างๆเยอะครับ ถ้าเป็นคนชาตินิยมจ๋าอาจจะแอนตี้แต่ถ้าเฉยๆเป็นไปได้มากครับที่ไม่ได้สนใจ ยิ่ง 2 ยี่ห้อหลังเป็นแบรนด์หรู คนเกาหลีติดหรูนะครับ
4. อันนี้น่าจะใช่ครับ แต่พอฤดูหนาวคงปิดกันส่วนใหญ่
5. ใช่ละครับ ผมเห็น ดำ เงิน เหลือง เยอะ ตอนไปตอนนั้น veloster มีสีเยอะมาก
6. อันนี้ผมไม่ได้สังเกตุครับ
7. ใช่ครับ เป็นเรื่องปกติ ฮ่องกงก้เป็น จีนยิ่งหนัก ไทยนี่น้อยน้องๆญี่ปุ่นครับ เราอาจจะไม่ชินแต่ผมเฉยๆนะครับ ผมว่าใช้ก้โอเค
8. หรอครับพอดีตอนไปผมนั่งแต่รถไฟกับรถเมล์เลยไม่ได้เห็นครับ อันนี้ผมเดานะว่าอัตราการเกิดอุบัติเหตุเค้าน้อยอยู่แล้ว ด้วยทักษะการขับ ความมีระเบียบ การรู้จักมารยาทบนถนน หลายๆอย่างรวมกันทำให้ประเทศมีอุบัติเหตุน้อยการให้ความสำคัญกับระบบความปลอดภับรถยนต์คงเฉยๆครับ
สุดท้ายผมก้คิดเหมือน จขกท ล่ะครับ ว่าระบบขนส่งเค้าดีมากๆ สะอาดด้วย เป็นประเทศนึงที่น่าไป ถึงจะไม่มีอะไรเยอะเท่าญี่ปุ่นและระเบียบอาจจะแพ้บ้างแต่ผมว่าเทียบกับราคาที่ถูกกว่าก้น่าไปใช้ได้ครับ
-
ทำไมถึงใช้รถขนาดใหญ่ ผมมีโอกาสใช้ชีวิตที่นี่และขับรถขนาดเล็กอย่าง chevrolet spark สามปีต้องบอกว่าในเมืองสบายแต่ถ้าออก ตจว แล้วล่ะก้แม้แต่ในเมือง
ด้วยสภาพภูมิเทศ ที่มีภูเขามากมาย เนินสูงชัน รถเล็กไม่เหมาะอย่างยิ่ง ต้องนี้ขับของพี่สาว kia sport tech คนเรื่องกันเลยขึ้นเขาสบายมากๆไม่เครียด คนเกาหลีวันหยุดจะออกไปเที่ยวตาม ตจว เยอะมากๆนี่คงเป็นเหตุผลที่ใช้รถใหญ่
-
เค้า ไม่ได้ เก็บ ภาษี รถ ปัญญา อ่อนแบบบ้านเราไงครับ
เค้าเลยไม่มีความ จำเป็น ต้อง สร้าง รถเล็ก พิเศษขึ้นมาเพื่อเลี่ยง บาลี ลดภาษี กระตุ้นยอดขาย รถ แบบบ้านเรา 55555555555
ผม พูดแรงไปไหมครับ
-
เขากำลังจะไปเป็นประเทศพัฒนา
ดีใจกับประเทศเพื่อนบ้านเอเชียครับ
ที่วินัย การเคารพสิทธิ์ของคนในชาติ ระยะ 10 ปีมานี้
มันยกระดับสูงกว่าบ้านเรา แบบคนละเรื่อง
เป็นตั้งนานแล้วครับ คือรายได้ต่อหัวของเขาเกิน US$15000 น่าจะเกินกว่า 10ปีนานแล้ว เกาหลีใต้ถือ
เป็นประเทศพัฒนาแล้ว ปัจจุบันรายได้ต่อหัวอยู่ที่ US$25000
REF: http://www.tradingeconomics.com/south-korea/gdp-per-capita
ผมจำได้ตอนเด็กๆ เค้า อยู่ระดับใกล้ๆ เรา ทำไม ตอนนี้ ไปไกลจัง
ส่วนเรา ไม่เคยพัฒนา
-
เขากำลังจะไปเป็นประเทศพัฒนา
ดีใจกับประเทศเพื่อนบ้านเอเชียครับ
ที่วินัย การเคารพสิทธิ์ของคนในชาติ ระยะ 10 ปีมานี้
มันยกระดับสูงกว่าบ้านเรา แบบคนละเรื่อง
เป็นตั้งนานแล้วครับ คือรายได้ต่อหัวของเขาเกิน US$15000 น่าจะเกินกว่า 10ปีนานแล้ว เกาหลีใต้ถือ
เป็นประเทศพัฒนาแล้ว ปัจจุบันรายได้ต่อหัวอยู่ที่ US$25000
REF: http://www.tradingeconomics.com/south-korea/gdp-per-capita
นึกว่าเขายังไม่เป็นประเทศพัฒนา นึกว่านำหน้าไทยไปสุดกู่
GDP เขาน่าจะเกิน 15,000 เมื่อปี 2007 หรือ 9 ปี ที่แล้ว
เพราะเมื่อ 16 ปี ที่แล้วนั้น คือปี 2543 ผมกำลังเรียนปริญญาโท ปี 2
มีความคิดว่าไทยและเกาหลีน่าจะไปพร้อมๆ กัน
โตและเดินไปพร้อมๆ กัน เขาเป็นเสือตัวที่ 4 เราเป็นตัวที่ 5
16 ปีที่แล้ว ปี 2,000 เกาหลีใต้มี GDP 8,900 USD
15 ปีที่แล้ว ปี 2001 เกาหลีใต้มี GDP 9,400 USD
.
.
.
5 ปีที่แล้ว ปี 2011 เกาหลีใต้มี GDP 19,100 USD
จาก 2001 ไป 2011 ระยะเวลาคือ 10 ปี
GDP เขาเพิ่มขึ้นเฉลี่ยปีละ 1,000 USD
มันเกิดอะไรขึ้นกับประเทศไทย
เราถอยหลังลงคลอง
ไม่เข้าการเมืองนะครับ
ประเทศอื่นๆ ไปไกลมาก
-
เขากำลังจะไปเป็นประเทศพัฒนา
ดีใจกับประเทศเพื่อนบ้านเอเชียครับ
ที่วินัย การเคารพสิทธิ์ของคนในชาติ ระยะ 10 ปีมานี้
มันยกระดับสูงกว่าบ้านเรา แบบคนละเรื่อง
เป็นตั้งนานแล้วครับ คือรายได้ต่อหัวของเขาเกิน US$15000 น่าจะเกินกว่า 10ปีนานแล้ว เกาหลีใต้ถือ
เป็นประเทศพัฒนาแล้ว ปัจจุบันรายได้ต่อหัวอยู่ที่ US$25000
REF: http://www.tradingeconomics.com/south-korea/gdp-per-capita
ผมจำได้ตอนเด็กๆ เค้า อยู่ระดับใกล้ๆ เรา ทำไม ตอนนี้ ไปไกลจัง
ส่วนเรา ไม่เคยพัฒนา
นั่นหน่ะสิครับ 2543 เศรษฐกิจไม่ต่างกันเลย
แต่รัฐบาลเขาเริ่มอัดงบให้ด้านวิจัยและพัฒนา คิดเป็นหลาย % ของรายได้
และเพิ่มขึ้นทุกปี
โดยเฉพาะด้านนาโนเทคโนโลยี ซึ่งมันกำลังจะเกิดในทศวรรษนั้น
เมื่อกรกฎาคม 2559 ที่ผ่าน ผมไปประชุมวิชาการของหน่วยงานวิจัย
เห็นงบวิจัยของประเทศไทย ย้อนหลังไป 25 ปี
ฟังแล้วเหนื่อย มองไม่เห็นอนาคต
-
นั่นหน่ะสิครับ 2543 เศรษฐกิจไม่ต่างกันเลย
แต่รัฐบาลเขาเริ่มอัดงบให้ด้านวิจัยและพัฒนา คิดเป็นหลาย % ของรายได้
และเพิ่มขึ้นทุกปี
โดยเฉพาะด้านนาโนเทคโนโลยี ซึ่งมันกำลังจะเกิดในทศวรรษนั้น
เมื่อกรกฎาคม 2559 ที่ผ่าน ผมไปประชุมวิชาการของหน่วยงานวิจัย
เห็นงบวิจัยของประเทศไทย ย้อนหลังไป 25 ปี
ฟังแล้วเหนื่อย มองไม่เห็นอนาคต
ผมเห็นนะ บ้านเรา ขยายเศรษฐกิจ แบบพึ่งพาการลงทุน เพื่อ ต่างชาติ เน้น อสังหา ก่อสร้าง ผลิต ส่งออก เงินก็หายไปกับ XXXX
แต่เกาหลี ขยายเศรษฐกิจเป็นผู้สร้าง เทคโนโลยีซะเอง