Headlight Magazine : community

General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: MoO Cnoe ที่ ตุลาคม 17, 2016, 12:45:40

หัวข้อ: // เรื่องราวของรถยนต์ที่เกี่ยวข้องกับพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช //
เริ่มหัวข้อโดย: MoO Cnoe ที่ ตุลาคม 17, 2016, 12:45:40
ตลอด 1 สัปดาห์ที่ผ่านมา ผมได้โพสต์ข้อมูล รูปภาพ และ คลิปวีดีโอ
ทางหน้า Fanpage : Headlightmag.com เกี่ยวกับรถยนต์พระที่นั่ง
และ เรื่องราวที่เกี่ยวกับ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช
เผื่อคุณผู้อ่าน หรือ สมาชิกท่านไหนยังไม่ได้รับชม ผมก็เลยเอามารวบรวม
ไว้ให้ในกระทู้นี้นะครับ (ถ้ามีเนื้อหาอื่นๆเพิ่มเติม ผมจะนำมาอัพเดตให้ที่กระทู้นี้)



14 ตุลาคม 2559
https://www.facebook.com/headlightmag/photos/a.183844775058081.36526.183837595058799/1017026225073261/?type=3

พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มหิตลาธิเบศรรามาธิบดี
จักรีนฤบดินทร สยามินทราธิราช บรมนาถบพิตร

เรื่องราวนี้นำมาจาก สารสภาวิศวกรรม ฉบับเดือน พ.ย.-ธ.ค. 2550
เป็นเรื่องเล่าโดย คุณนินนาท ไชยธีรภิญโญ รองประธานกรรมการ
บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด คุณนินนาท ได้เล่าว่า

สิ่งหนึ่งที่สร้างความประทับใจให้แก่ตนเอง และ พนักงานโตโยต้าทุกคน คือ
เมื่อกลางปี พ.ศ. 2540 ที่ประเทศไทยประสบภาวะวิกฤตเศรษฐกิจ ในวันที่
5 พ.ย.2540 มีข่าวในหน้า นสพ.ว่า ทางโตโยต้าจะปิดโรงงานลอยแพ พนักงาน
5,500 คน ซึ่งกระทบภาพลักษณ์บริษัท ขวัญและกำลังใจของพนักงานอย่างยิ่ง

ในบ่ายวันเดียวกัน ทางบริษัทฯ ได้จัดแถลงข่าว เพื่อแก้ข่าวที่เกิดขึ้น โดยยืนยันว่า
บริษัทไม่เคยคิดปิดโรงงาน และ เลิกจ้างพนักงาน

ต่อมามีเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิด ด้วยพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จ
พระเจ้าอยู่หัวที่ทรงห่วงใย พนักงานโตโยต้า

ในเช้าวันที่ 6 พ.ย. 2540 เลขานุการส่วนพระองค์ได้ โทรศัพท์ถึง คุณนินนาท
และแจ้งว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงมี พระราชประสงค์ สั่งซื้อรถโตโยต้า
โซลูน่า 1 คัน โดยให้พนักงาน ใช้มือทำก็ได้ ไม่ต้องใช้เครื่องจักร ไม่ต้องรีบ
พนักงานคนไทย จะได้มีงานทำนานๆ

ประโยคนี้สร้างความปลื้มปิติยินดีแก่พนักงานโตโยต้าเป็นอย่างมาก

เมื่อนำรถคันดังกล่าวไปถวายพระองค์ในเดือน ธ.ค.2540 พระองค์ทรงพระราชทาน
ทรัพย์ส่วนพระองค์ เป็นเช็คเงินสด 600,000 บาท โดยทรงพระราชทาน
แนวพระราชดำริว่า ให้โตโยต้า ไปตั้งโรงสีข้าวเพื่อช่วยเหลือชาวนา ซึ่งมีปัญหา 2 อย่าง
เวลาเก็บข้าวในยุ้งฉาง มักเสียหายและถูกขโมยบางส่วน เวลาสีเป็นข้าวสารก็ขายไม่ได้ราคา
โตโยต้ามีการบริหารจัดการที่ดี ควรตั้งโรงสีข้าวตัวอย่าง เมื่อสีข้าวได้แล้วขายในราคา
สวัสดิการ ให้แก่พนักงาน และ ขายผลพลอยได้ เช่น แกลบ รำ ให้แก่เกษตรกรชุมชน
ที่เลี้ยงหมูและ เป็นที่มาของ บริษัท ข้าวรัชมงคล จำกัด

ที่มา : http://www.coe.or.th/

-------------------------------------------------------------------

หลังจากนั้นจึงมี Toyota Soluna รุ่นพิเศษออกมา ผลิตจำนวนจำกัด 600 คัน
ด้านท้ายรถบนฝากระโปรงหลังจะติดตัวอักษร (emblem) ด้านซ้ายด้วยเลขไทย
" ๑.๕ " และ ด้านขวาเป็นชื่อรุ่น " โซลูน่า " มีออกมาด้วยกัน 2 สี คือ
1. สีทองอ่อน คาดสีน้ำตาลข้างล่าง 2. สีเงินอมฟ้า คาดสีเทาดำข้างล่าง

(http://upic.me/i/wr/14642056_1017026225073261_2225794402028286389_n.jpg) (http://upic.me/show/59583308)



15 ตุลาคม 2559
https://www.facebook.com/headlightmag/photos/a.183844775058081.36526.183837595058799/1018053994970484/?type=3&theater

เรื่องราวนี้นำมาจาก บทความ 'ในหลวง...ของเรา' ในความทรงจำของล่ามมลายู (ตอน ๑)

ตลอดระยะเวลา ๓๐ กว่าปีที่ทำหน้าที่เป็นล่ามประจำขบวนเสด็จ มีเรื่องมากมาย
ที่สร้างความประทับใจจนเป็นภาพแห่งความทรงจำที่ผนึกแน่นอยู่ในหัวใจ
ว่าที่ร้อยโท ดิลก ศิริวัลลภ

“ อย่างภาพที่พระองค์ท่าน ทรงนั่งพิงรถแลนด์โรเวอร์บนสะพานไม้ จำได้ว่า
ในเดือนกันยายน 2524 พระองค์เสด็จพระราชดำเนินจากพระตำหนักทักษิณ
ราชนิเวศน์ ไปทางอำเภอตากใบ

เมื่อถึงเขตอำเภอสุไหงโก-ลก ทรงเลี้ยวขวาไปทางบ้านเจาะบากง ตำบลปูโนะ
ท่านจะเสด็จฯ ไปทอดพระเนตรสภาพภูมิประเทศ และ ระดับน้ำท่วมที่ไหลมาจากป่าพรุ

ตอนนั้นถนนหนทางไม่ค่อยดี พระองค์ท่านทรงขับรถยนต์พระที่นั่งด้วยพระองค์เอง
พอไปถึงจุดนั้นรถยนต์ไปต่อไม่ได้ต้องถอยกลับ

เมื่อทอดพระเนตรเห็นชาวบ้านมาเฝ้า ก็ทรงสอบถามข้อมูลจากชาวบ้านบนสะพาน
แรกๆ ยืนคุยกันก่อน นานเข้าพระองค์ท่านจึงตัดสินใจย่อพระวรกายทรงนั่งบนสะพานไม้
เมื่อก่อนทางลำบากเฉอะแฉะไปหมด บนสะพานเท่านั้นนั่งได้ ภาพนี้ต่อมากลายเป็นภาพ
ที่เราได้เห็นในหัวข่าวโทรทัศน์เป็นประจำ ”

ที่มา : 'ในหลวง...ของเรา' ในความทรงจำของล่ามมลายู (ตอน ๑)
http://www.oknation.net/blog/narapong-sak/2007/10/15/entry-1

(http://upic.me/i/u1/14642448_1018053994970484_6441052752550034293_n.jpg) (http://upic.me/show/59583320)
(http://upic.me/i/fh/14650131_1018199284955955_6731495182278116358_n.jpg) (http://upic.me/show/59583321)

-------------------------------------------------------------------

รถยนต์คันในภาพคือ Land Rover Series III (ปี 1971 - 1985)
(Land-Rover 109 Station Wagon)
เครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ ขนาด 2.25 ลิตร คาร์บูเรเตอร์ กำลังสูงสุด 71 แรงม้า
ที่ 4,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 161 นิวตันเมตร ที่ 1,500 รอบ/นาที
จับคู่กับเกียร์ธรรมดา 4 จังหวะ ขับเคลื่อน 4 ล้อ

(http://upic.me/i/81/lr_heritage_series_iii_st_wagon_1985_01-700x465.jpg) (http://upic.me/show/59583761)




16 ตุลาคม 2559
https://www.facebook.com/headlightmag/videos/1018203478288869/

ทรงขับรถยนต์พระที่นั่งด้วยพระองค์เอง (รถยนต์ที่ทรงขับคือ Toyota Prius
Generation 1 : ซึ่งทาง Toyota Motor Thailand จัดถวายให้พระองค์ท่าน
ในช่วงปี 1998) เสด็จกลับพระตำหนักจิตรลดารโหฐาน เมื่อครั้งวันเฉลิมพระชนมพรรษา
พ.ศ.2541 โดยมีสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร และ สมเด็จพระเทพ
รัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ประทับร่วมในรถยนต์พระที่นั่งคันดังกล่าว

https://www.youtube.com/watch?v=zt3T-Pcumt0

-------------------------------------------------------------------

Toyota Prius Generation 1
เครื่องยนต์เบนซิน 1.5 ลิตร กำลังสูงสุด 58 แรงม้า ที่ 4,000 รอบ/นาที
แรงบิดสูงสุด 102 นิวตันเมตร ที่ 4,000 รอบ/นาที ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า
กำลังสูงสุด 40 แรงม้า ที่ 940-2,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 305 นิวตันเมตร
ที่ 0-940 รอบ/นาที

(http://upic.me/i/w6/14716312_1018969148212302_3601035600527157905_n.jpg) (http://upic.me/show/59583323)



17 ตุลาคม 2559
https://www.facebook.com/headlightmag/photos/a.183844775058081.36526.183837595058799/1019803024795581/?type=3

เวลาตามเสด็จฯ นั้น หากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงขึ้นเขา เราก็ต้องปีนเขาด้วย
พระองค์ทรงรับสั่งว่า การทำงานพัฒนา ร่างกายเราต้องแข็งแรง ดังนั้นจึงต้องพัฒนา
สุขภาพให้แข็งแรง ฉันเคยฝึกแบกของเดินขึ้นเขา เพราะถ้าเกษตรกรพื้นที่สูง
อยากให้เราเดินขึ้นไปดูไร่ของเขาบนภูเขา ก็ควรพยายามไป เขาชี้ให้ไปดูอะไรก็ต้องไป
ถึงแม้บนยอดเขาจะมีกาแฟเพียงต้นเดียวก็ต้องขึ้นไป บางครั้งปีนเขาตั้งหลายลูก
เราก็ต้องไปเพื่อเป็นกำลังใจให้เกษตรกรและผูกมิตรด้วย ไม่ว่าจะเป็นใคร อยู่ที่ไหน
พระองค์เสด็จฯ ไปทุกที่

ที่เห็นพระบรมฉายาลักษณ์ในหนังสือ ที่พระองค์ทรงขับรถพระที่นั่งลงไปอยู่กลางน้ำ
แถวจังหวัดนราธิวาส พอเปิดประตูออกไปเป็นพงหนามพอดี นอกจากลงน้ำแล้วยังมี
พงหนามอยู่ในน้ำด้วย และพอเวลาเสด็จฯ ไปถึงที่ไหนก็จะทรงมีพระราชปฏิสันถาร
กับทุกคน จนมีผู้ใหญ่ท่านหนึ่งบอกว่า ถ้าขืนทรงทักคนทุกจุดอย่างนี้ กว่าจะถึงวังก็
Good Morning และไปทีไรก็ Good Morning ทุกที

สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี พระราชทานสัมภาษณ์เกี่ยวกับ
หลักการทรงงานพัฒนาประเทศของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

จากหนังสือ พระมหากษัตริย์นักพัฒนา เพื่อประโยชน์สุขสู่ปวงประชา
โดยสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ

(http://upic.me/i/hk/14731118_1019803024795581_2950893868031464695_n.jpg) (http://upic.me/show/59583335)

-------------------------------------------------------------------

รถยนต์ที่ทรงขับด้วยพระองค์เอง คือ Jeep Wagoneer (1963-1993)
เครื่องยนต์เบนซิน 6 สูบแถวเรียง คาบูเรเตอร์ ขนาด 3.8 ลิตร 147 แรงม้า
ที่ 4,300 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 292 นิวตันเมตร ที่ 1,600 รอบ/นาที
ส่งกำลังผ่านเกียร์ธรรมดา 3 จังหวะ / เกียร์อัตโนมัติ 3 จังหวะ ขับเคลื่อน 4 ล้อ

(http://upic.me/i/id/14702227_1019846274791256_8627031147940652239_n.jpg) (http://upic.me/show/59583334)



18 ตุลาคม 2559
https://www.facebook.com/headlightmag/photos/a.183844775058081.36526.183837595058799/1020158808093336/?type=3&theater

ว่าที่ร้อยโท ดิลก ศิริวัลลภ เล่าว่า เรื่องการทรงงานหนักเป็นอีกเรื่องหนึ่งใน
ความประทับใจ บางครั้งเสด็จฯ ตั้งแต่เที่ยงวันถึงตอนเที่ยงคืน หรือ แม้กระทั่ง
กลับตี 4 ยังเคยมี

พูดได้ว่าเป็นพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวที่ทรงงานหนักที่สุดในโลกก็ว่าได้
ไม่มีที่ไหนที่ไม่เสด็จฯ ไป ในป่า ในทุ่งนา ในดง ในเขา ตามแม่น้ำลำคลอง
และ ป่าพรุ พร้อมอุปกรณ์ ได้แก่ แผนที่ กล้องถ่ายรูป และ ดินสอ

ครั้งหนึ่งเสด็จฯ ไปบ้านโต๊ะโมะ อำเภอสุคิริน ตอนน้ำท่วม พอถึงบ้านไอตีมุง
สะพานขาด รถยนต์ในขบวนต้องวิ่งลงในแม่น้ำใต้สะพาน หัวรถพระที่นั่งจมหาย
ไปในสายน้ำที่ไหลเชี่ยวขณะวิ่งผ่าน ดังที่เราได้เห็นภาพตอนช่วงต้นก่อนการ
เสนอข่าวในโทรทัศน์ ทำให้เกิดความประทับใจมาก

“ จำได้ว่าครั้งหนึ่งเสด็จฯ ไปอำเภอเบตง ตั้งแต่ 9 โมงเช้า กลับมาตี 4
เพราะคนที่มารอเฝ้ารับเสด็จฯ มีจำนวนเยอะมาก พระองค์ท่านเห็นประชาชนแล้ว
ไปต่อไม่ได้ เสมือนว่าถูกอะไรบางอย่างดึงดูดให้ต้องอยู่

สังเกตได้ว่าพระองค์ท่านจะมีความสุขที่สุด ทรงได้เห็นประชาชนของท่าน
มาเฝ้ารับเสด็จ จะทรงดีใจและมีความสุขใจมากเมื่อได้พระราชทาน
ความช่วยเหลือประชาชนที่ลำบาก พระองค์ท่านทรงยิ้มแย้มแจ่มใส"

ที่มา : 'ในหลวง...ของเรา' ในความทรงจำของล่ามมลายู (ตอน ๑)
http://www.oknation.net/blog/narapong-sak/2007/10/15/entry-1

(http://upic.me/i/ji/prakoudpabtay54_004.jpg) (http://upic.me/show/59589486)



19 ตุลาคม 2559
https://www.facebook.com/headlightmag/posts/1021923027916914

ไม่ว่าจะเสด็จฯไปที่ไหนๆก็ตาม คนไทยมักจะได้เห็นว่าในหลวงทรงถือแผนที่ไว้เสมอ
สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงเล่าถึงเรื่อง “แผนที่ของในหลวง”
นี้ไว้ในรายการพูดจาภาษาช่าง ทางสถานีวิทยุจุฬาฯ ไว้ว่า

“ แผนที่แผ่นหนึ่งของท่านค่อนข้างจะกว้างกว่าแผนที่ที่ใครๆเห็นกันทั่วไป เพราะ
ท่านเอาหลายๆระวาง มาแปะติดกัน การปะแผนที่เข้าด้วยกัน ท่านทำอย่างพิถีพิถัน
แล้วถือว่าเป็นงานที่ใครจะมาแตะต้องช่วยเหลือไม่ได้เลยทีเดียว

ท่านได้ตัดหัวแผนที่นั้นออก แล้วส่วนที่ตัดออกนั้นทิ้งไม่ได้ ท่านจะค่อยๆเอากาว
มาแปะติดกัน สำนักงานของท่านคือห้องกว้างไม่มีเก้าอี้ มีพื้น แล้วท่านก้มอยู่กับพื้น
แล้วเอากาวติดกับแผนที่เข้าด้วยกัน

แล้วเวลาเสด็จไป ก็ต้องไปถามชาวบ้านว่าสถานที่นั้นอยู่ที่ไหน ทิศเหนือมีอะไร
ทิศใต้มีอะไร ท่านถามหลายๆคน แล้วตรวจสอบไปมาว่าแผนที่อันนั้นถูกต้องดีหรือไม่
น้ำไหลจากไหนไปที่ไหน ”

ที่มา : http://www.oknation.net/blog/print.php?id=838846

(http://upic.me/i/bb/85910.jpg) (http://upic.me/show/59613367)

(ภาพด้านล่าง 3 ภาพ คือ ลายพระหัตถ์ของพระองค์ท่าน, ส่วนรถยนต์ที่
ทรงประทับอยู่ และ ขับด้วยพระองค์เอง คือ Jeep Wagoneer (1963-1993)
เครื่องยนต์เบนซิน 6 สูบแถวเรียง คาบูเรเตอร์ ขนาด 3.8 ลิตร 147 แรงม้า
ที่ 4,300 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 292 นิวตันเมตร ที่ 1,600 รอบ/นาที
ส่งกำลังผ่านเกียร์ธรรมดา 3 จังหวะ / เกียร์อัตโนมัติ 3 จังหวะ ขับเคลื่อน 4 ล้อ)

(http://upic.me/i/8b/dscf2608.jpg) (http://upic.me/show/59613368)
(http://upic.me/i/zj/dscf2609.jpg) (http://upic.me/show/59613369)
(http://upic.me/i/xd/dscf2611.jpg) (http://upic.me/show/59613370)



20 ตุลาคม 2559
https://www.facebook.com/headlightmag/posts/1022827661159784


พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จฯ ไปทรงงานยังพื้นที่จริง ซึ่งเกือบ 100%
เป็นที่ทุรกันดาร บางแห่งข้าราชการยังไม่เคยไปหรือไม่กล้าไป เพราะกลัวอันตราย
ด้วยซ้ำ หรือถ้าวันไหนอากาศไม่ดี หากเป็นผู้ใหญ่ไปดูงาน ฝนมาก็เลื่อน หรือยกเลิก

แต่สำหรับ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ไม่มีคำว่า " ยกเลิก " เพราะอากาศไม่ดี
แถมยังเสด็จฯ ออกนอกเส้นทางเป็นประจำ ถ้าทีมถวายความปลอดภัยกราบบังคมทูลว่า
“ เสด็จฯ ไม่ได้ ไม่มีถนนตัดผ่านพระพุทธเจ้าข้า ” พระองค์ท่านจะรับสั่งกลับมาทุกครั้งว่า

“ ฉันไปได้ ”

ทั้งที่หลายครั้งต้องทรงพระราชดำเนินปีนป่ายไปบนภูเขา หรือทรงพระดำเนิน
ไต่ลงไปในหุบเหว ที่เต็มไปด้วยโคลนตม ปลิง และ ทาก จนค่ำมืดดึกดื่น หลายครั้ง
สมเด็จพระเทพฯ ตามเสด็จฯ ด้วย มีท่านพระองค์เดียวที่ดึงทากออกจากพระบาทได้
สิ่งเหล่านี้ถือเป็นเรื่องเล็กสำหรับในหลวง

คืนหนึ่งผมได้ร่วมโต๊ะเสวย หลังจากที่พระองค์ท่านเสด็จฯ เยี่ยมราษฎรในพื้นที่
ทุรกันดารแห่งหนึ่งในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ พระราชกระแสรับสั่งที่ยังก้อง
อยู่ในหูของผม จนถึงทุกวันนี้คือ

“ ที่เขายากจนต้องมาทำมาหากินในพื้นที่แห้งแล้งเช่นนี้ ไม่ใช่ว่าเขาอยากจะมา
แต่เพราะเขา ไม่มีที่อื่นจะไป ที่ฉันช่วยเขา ไม่ใช่ว่าจะช่วยตลอดไป แต่ช่วย
เพื่อให้เขา ได้มีโอกาสช่วยเหลือตัวเองต่อไป ”

จากคำบอกเล่าของ สวัสดิ์ วัฒนายากร อดีตองคมนตรี อดีตตุลาการศาลปกครอง
สูงสุด และ อธิบดีกรมชลประทาน กระทรวงเกษตรและสหกรณ์

(http://upic.me/i/zu/425396_246130458810934_1128635850_n.jpg) (http://upic.me/show/59613373)
(http://upic.me/i/3m/1335655922.jpg) (http://upic.me/show/59613374)
(http://upic.me/i/9p/kw141.jpg) (http://upic.me/show/59613375)
(http://upic.me/i/ci/p77q7.jpg) (http://upic.me/show/59613376)
(http://upic.me/i/8g/rawq8.jpg) (http://upic.me/show/59613377)



พระองค์จะสถิตอยู่ในดวงใจปวงชนตลอดไป ขอพระองค์เสด็จสู่สวรรคาลัย

ข้าพระพุทธเจ้า ทีมงาน WWW.HEADLIGHTMAG.COM
หัวข้อ: Re: // เรื่องราวของรถยนต์ที่เกี่ยวข้องกับพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช //
เริ่มหัวข้อโดย: e:smart Hybrid ที่ ตุลาคม 17, 2016, 12:59:10
ขอบคุณทางทีมงานที่ได้นำเรื่องราวดีๆ และทรงคุณค่าเกี่ยวกับพระองค์ท่านมาให้พวกเราได้เข้าใจถึงความเหนื่อยยากของท่านตลอด 70 ปีครับ
หัวข้อ: // เรื่องราวของรถยนต์ที่เกี่ยวข้องกับพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช //
เริ่มหัวข้อโดย: NINENOI ที่ ตุลาคม 17, 2016, 13:00:26
เรื่องราวของพระองค์ท่านมีแต่เรื่องราวดีๆที่เล่าได้ไม่มีวันหมดเพราะสิ่งที่ทำนั้นเยอะจริงๆ ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมคนไทยถึงรักในหลวงกันซึ่งไม่แค่คนไทยคนต่างชาติมากมายก็รักในหลวง ไม่ได้รักที่เป็นกษัตริย์แต่รักในความดีและจริยวัตรของท่าน
หัวข้อ: Re: // เรื่องราวของรถยนต์ที่เกี่ยวข้องกับพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช //
เริ่มหัวข้อโดย: Harem ที่ ตุลาคม 17, 2016, 13:46:00
ขอบคุณครับ
หัวข้อ: Re: // เรื่องราวของรถยนต์ที่เกี่ยวข้องกับพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช //
เริ่มหัวข้อโดย: rotorsx ที่ ตุลาคม 17, 2016, 14:02:03
ขอบคุณทีมงาน Headlight ทุกคนที่นำเสนอความรู้ และเรื่องดีๆ เกี่ยวกับรถยนต์มาโดยตลอด
หัวข้อ: Re: // เรื่องราวของรถยนต์ที่เกี่ยวข้องกับพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช //
เริ่มหัวข้อโดย: ceberos ที่ ตุลาคม 17, 2016, 14:04:27
ท่านเป็นแบบอย่างที่ดีเสมอมา คำว่าพอเพียง มาจากพ่อหลวงของเราจริง ๆ

ภาพที่ติดอยู่ในหัวของผม คือ ยาสีฟันที่รีดจนหลอดแบนครับ

ยังไม่เคยเห็นท่านใช้อะไรที่หรูหราซักชิ้นเลยครับ
หัวข้อ: Re: // เรื่องราวของรถยนต์ที่เกี่ยวข้องกับพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช //
เริ่มหัวข้อโดย: MUK ที่ ตุลาคม 17, 2016, 14:45:11
ขอบคุณมากหมายครับ
หัวข้อ: Re: // เรื่องราวของรถยนต์ที่เกี่ยวข้องกับพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช //
เริ่มหัวข้อโดย: ฟง อวิ๋น ที่ ตุลาคม 17, 2016, 14:52:00
ขอบคุณครับ
หัวข้อ: Re: // เรื่องราวของรถยนต์ที่เกี่ยวข้องกับพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช //
เริ่มหัวข้อโดย: rtong ที่ ตุลาคม 17, 2016, 14:53:42
ขอบคุณข้อมูลดีๆครับ  ขออนุญาติแชร์ต่อนะครับ
หัวข้อ: Re: // เรื่องราวของรถยนต์ที่เกี่ยวข้องกับพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช //
เริ่มหัวข้อโดย: masuoka ที่ ตุลาคม 17, 2016, 15:26:30
สมัยพระองค์ทรงงาน ต้องเดินทางด้วยรถยนต์ไปในที่ห่างไกลมากๆ ทรงศึกษาแผนที่ที่ทรงทำขึ้นเอง ซึ่งเป็นเรื่องยากมากที่จะไปถึงที่หมายได้ตรงจุด เพราะสมัยนั้นยังไม่มีระบบ gps ดาวเทียมนำทาง ทรงมีพระปรีชาสามารถมากๆเลยนะครับ

(http://www.mx7.com/i/b04/Gdt0Zr.jpg) (http://www.mx7.com/view2/zqtpbH6C3zgrsABV)
หัวข้อ: Re: // เรื่องราวของรถยนต์ที่เกี่ยวข้องกับพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช //
เริ่มหัวข้อโดย: Paully ที่ ตุลาคม 17, 2016, 15:52:41
มีอีกคัน จาก MV ต้นไม่ของพ่อ
https://youtu.be/xx9oSLIwBOI
นาทีที่ 2.01-2.07
น่าจะเป็น Lexus LS400
หัวข้อ: Re: // เรื่องราวของรถยนต์ที่เกี่ยวข้องกับพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช //
เริ่มหัวข้อโดย: Arado_kung ที่ ตุลาคม 17, 2016, 15:58:57
มีอีกคัน จาก MV ต้นไม่ของพ่อ
https://youtu.be/xx9oSLIwBOI
นาทีที่ 2.01-2.07
น่าจะเป็น Lexus LS400

ที่ผมจำได้มีอีกหลายคันครับ

- Honda Insight รุ่นแรก

- Toyota Camry ACV30 2.4Q

- Lexus GS300 รุ่นที่แล้ว

- Toyota Alphad รุ่นแรก

ส่วนใหญ่จะเป็นรถตระกูล toyota
หัวข้อ: Re: // เรื่องราวของรถยนต์ที่เกี่ยวข้องกับพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช //
เริ่มหัวข้อโดย: Slipknot` ที่ ตุลาคม 17, 2016, 16:29:29
ขอบคุณครับ

 :'( :'( :'(
หัวข้อ: Re: // เรื่องราวของรถยนต์ที่เกี่ยวข้องกับพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช //
เริ่มหัวข้อโดย: tubtup ที่ ตุลาคม 17, 2016, 17:08:20
ขอบคุณครับ  :'( :'( :'( :'( :'(
หัวข้อ: Re: // เรื่องราวของรถยนต์ที่เกี่ยวข้องกับพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช //
เริ่มหัวข้อโดย: Mr.Boogie ที่ ตุลาคม 17, 2016, 17:59:55
ขอบคุณมากครับ
หัวข้อ: กับพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช //
เริ่มหัวข้อโดย: Darkart ที่ ตุลาคม 17, 2016, 19:34:13
ขอบคุณข้อมูล ขอบคุณครับ
หัวข้อ: Re: // เรื่องราวของรถยนต์ที่เกี่ยวข้องกับพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช //
เริ่มหัวข้อโดย: Ruksadindan ที่ ตุลาคม 17, 2016, 19:35:44
ขอบคุณที่มาแจ้งครับ อย่าง SUV เก่าๆนี่ผมไม่คล่องก็ได้รับทราบ
ส่วน TOYOTA เมื่อก่อนทราบเพียงว่าพระองค์มี Corolla นอกเหนือจาก Soluna ก็ได้ทราบว่ามีรถไฮบริดด้วย
หัวข้อ: Re: // เรื่องราวของรถยนต์ที่เกี่ยวข้องกับพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช //
เริ่มหัวข้อโดย: Life is a Highway ที่ ตุลาคม 17, 2016, 19:44:06
อีกเรื่องราวจากคุณนะจังงัง

อุบัติเหตุของพระเจ้าอยู่หัว…ที่ไม่น่าเกิด...! และคนไทยบางคนอาจไม่เคยรู้....!

เหตุร้ายมักจะเกิดขึ้นโดยไม่มีใครคาดฝันเสมอ

มีอยู่ครั้งหนึ่ง เมื่อรถยนต์พระที่นั่งและรถยนต์ในขบวนเสด็จฯ ถึงตัวเมืองนราธิวาสตรงแยกถนนพิชิตบำรุง หน้าหน่วยปฏิบัติการพิเศษของตำรวจภูธร จังหวัดนราธิวาส ตรงนั้นมีเจ้าหน้าที่รักษาการณ์อยู่ตามปกติ เจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งว่ากำลังเสด็จฯ กลับ และมีการปิดจราจรบนถนนที่ไปสู่ถนนสายที่กำลังเสด็จฯ อยู่ทุกด้านแล้ว

เหตุการณ์ที่มิมีผู้ใดคาดฝันเกิดขึ้นเมื่อจักรยานต์คันหนึ่งแล่นมาโดยเร็ว และผ่านกลุ่มเจ้าหน้าที่ตำรวจที่กำลังรักษาการณ์อยู่เข้ามาได้จนถึงรถยนต์พระที่นั่ง แล้วพุ่งเข้าชนรถพระที่นั่งทางประตูด้านซ้ายอันเป็นด้านที่พระเจ้าอยู่หัวทรงนั่งและทรงขับรถยนต์คันนั้นอยู่

ครั้นแล้ว รถจักรยานต์คันนั้นก็เสียหลักกระเด็นไปล้มลงที่ริมถนน ทั้งคนขับและผู้ที่นั่งซ้อนท้ายอีกสองคนกระเด็นออกนอกรถ ล้มลงนอนแน่นิ่งอยู่

ผมนั่งปฏิบัติหน้าที่อยู่ในรถของตำรวจซึ่งแล่นอยู่ถัดรถยนต์พระที่นั่งทางด้านหน้า และเห็นเหตุการณ์จากกระจกมองหลังทันทีและโดยตลอด พอรถนำตำรวจหยุด ผมก็วิ่งเต็มฝีเท้าไปยังรถยนต์พระที่นั่ง ขณะที่วิ่งไปนั้นผมคิดอย่างเดียวว่า เหตุที่เกิดขึ้นอาจเป็นไปตามแผนของผู้ไม่หวังดีต่อพระยุคลบาท ผมเข้าไปยืนข้างรถยนต์พระที่นั่งและหันหน้าออก อาวุธปืนกลในมือเตรียมพร้อม ตั้งใจว่าหากมีเหตุการณ์ต่อไปที่ยืนยันความสงสัยของผม ก็จะใช้อาวุธในมือทันที


เจ้าหน้าที่ถวายความปลอดภัยทั้งที่ตามเสด็จฯ อยู่ในขบวนและที่อยู่นอกขบวนต่างวิ่งไปยังที่เกิดเหตุ และเมื่อพบว่า ผู้ขับขี่จักรยานยนต์คันนั้นและผู้นั่งซ้อนท้ายทั้งสามต่างนอนสลบอยู่ ก็ช่วยกันทำปฐมพยาบาล ผู้ขับขี่ได้รับบาดเจ็บสาหัสที่ข้อเท้าข้างหนึ่ง และต่อมาแพทย์ต้องตัดเท้าข้างนั้นออก ทั้งสามคนได้รับการรักษาพยาบาล และควบคุมตัวไว้เป็นผู้ต้องหาฐานขับรถโดยประมาท

ขณะที่ทุกคนกำลังสาละวนอยู่กับคนเจ็บนั้น พระเจ้าอยู่หัวประทับนิ่งทอดพระเนตรอยู่โดยไม่มีพระราชกระแสรับสั่งอย่างใด จนกระทั่งคนเจ็บถูกนำตัวไปพ้นที่เกิดเหตุแล้ว จึงทรงขับรถยนต์พระที่นั่งและเสด็จฯต่อไปยังพระราชตำหนัก

ผมต้องยอมรับว่ารู้สึกอับอายขายหน้าอย่างบอกไม่ถูกเมื่อได้ทราบว่าผู้ขับจักรยานยนต์คันนั้นเป็นพลตำรวจสังกัดหน่วยปฏิบัติการพิเศษตำรวจภูธรจังหวัดนราธิวาสนั่นเอง ก่อนเกิดเหตุ พลตำรวจผู้นั้นไปเที่ยวดื่มสุราและคงจะเมา และคงเป็นเพราะความเมา จึงขับฝ่าแถวตำรวจที่ยืนระวังรักษาการณ์อยู่จนกระทั่งไปชนรถพระที่นั่ง

และที่ทำให้ผมรู้สึกอายเป็นซ้ำสองก็เพราะปรากฏว่าตำรวจที่ยืนระวังรักษาการณ์และมีหน้าที่ต้องสกัดกั้นมิให้คนใดหรือรถชนิดใดผ่านไปจนถึงรถพระที่นั่งได้นั้น ไม่มีใครเลยที่สามารถทำหน้าที่นั้นได้

ก่อนที่กรมตำรวจจะทันเอาผิดและลงโทษพลตำรวจผู้ขับขี่จักรยานยนต์คันนั้น ก็มีพระราชกระแสรับสั่งลงมาว่า ขออย่าให้ลงโทษหนักมิหนำซ้ำยังกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานพระบรมราชานุเคราะห์แก่พลตำรวจผู้นั้นในการรักษาพยาบาลบาดเจ็บของเขาด้วย

หลังจากเกิดเหตุการณ์แล้ว กรมตำรวจได้ออกแถลงการณ์และสั่งกำชับให้มีการประชุมวางแผนเพื่อป้องกันมิให้เกิดเหตุร้ายทำนอนนั้นขึ้นได้อีก ขอตั้งข้อสังเกตไว้ว่า แม้เวลาล่วงเลยมาแล้วถึง 23 ปี การวางแผนราชการไทยนั้นมักจะมีแต่เป็นตัวหนังสือ ไม่มีการสมมุติเหตุการณ์และฝึกซ้อมให้เจ้าหน้าที่ได้หัดเผชิญและแก้ไขสถานการณ์กันเลย เพราะฉะนั้นพอเกิดเหตุการณ์ร้ายหรือฉุกเฉินขึ้น เจ้าหน้าที่จึงมักสิ้นสติ ตกตะลึง และไม่รู้จะทำอย่างไร

ความอับอายขายหน้ายังพอทำเนา แต่ถ้าเหตุการณ์ร้ายแรง จนกระทั่งเป็นอันตรายถึงเบื้องยุคลบาท ความเสียหายที่ตามมานั้นจะรุนแรงกว้างขวาง ไม่มีมาตรการใดจะบำบัดหรือแก้ไข

ไม่มีใครนึกว่า เหตุการณ์ร้ายเกิดขึ้นในวันนั้นแล้ว รุ่งขึ้นอีกวันหนึ่ง จะมีเหตุร้ายเกิดขึ้นอีก....! 

วันที่ 22 กันยายน 2520 ยะลา เวลา 13.28 น. พระเจ้าอยู่หัวเสด็จฯ พร้อมด้วยทูลกระหม่อมหญิงทั้งสองพระองค์ เพื่อไปพระราชทานรางวัลแก่ครูโรงเรียนสอนศาสนาอิสลามภาคใต้

เหตุการณ์ร้ายเกิดขึ้นเมื่อมีเสียงระเบิดดังกึกก้องขึ้นสองครั้งติดๆกันที่หลังปะรำอันเป็นที่ที่ทางราชการจัดไว้ให้ประชาชนนั่งเฝ้าฯ ซึ่งตั้งอยู่ทางด้านซ้ายของพลับพลาพิธีที่ประทับ ปะรำนั้นอยู่ห่างพลับพลาที่ประทับประมาณ 50 เมตร พอสิ้นเสียงระเบิด ก็มีเสียงร้องด้วยความตระหนกและเจ็บปวดตามมา ราษฏรที่นั่งเฝ้าพากันลุกฮือขึ้นเพื่อหลบภัยอันตราย
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้น สำหรับผมคือฝันร้ายที่กลายเป็นจริง ผมเคยถามตัวเองอยู่เสมอๆ ก่อนหน้านี้ว่า หากเหตุการณ์ทำนองนี้เกิดขึ้นจะทำอย่างไร นายตำรวจราชสำนักประจำได้รับการกำชับว่า ในกรณีเช่นนั้นความปลอดภัยของพระยุคลบาทเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด และจะต้องคำนึงถึงก่อนสิ่งใดทั้งสิ้น เราตกลงกันว่า ในกรณีเช่นนั้นเราจะต้องเข้าล้อมพระวรกายเอาไว้ มิให้อันตรายถึงพระยุคลบาท

ผมตัดสินใจก้าวจากพื้นพลับพลาขึ้นไปบนแท่นที่เขาจัดถวายให้เป็นที่ประทับของทั้งสี่พระองค์โดยเฉพาะ ผมเข้าไปยืนชิดจนชิดพระวรกายพระเจ้าอยู่หัว และหันหน้าออกเพื่อเผชิญภัยที่อาจตามมา พร้อมๆกันนั้นนายทหารราชองครักษ์ประจำและนายตำรวจราชสำนักประจำคนอื่นๆก็ปฏิบัติอย่างเดียวกัน ผมเชื่อว่าคงจะเป็นครั้งแรกและครั้งเดียวที่พวกเราได้เข้าถวายความปลอดภัยอย่างใกล้ชิดถึงเพียงนี้

ตามหลักการรักษาความปลอดภัยบุคคลสำคัญ เมื่อเกิดเหตุร้ายขึ้นสิ่งแรกที่เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยพึงกระทำ ก็คือเอาตัวบุคคลสำคัญผู้นั้นออกจากที่เกิดเหตุไปทันที เพื่อมิให้ได้รับอันตรายจากเหตุร้ายที่จะตามมาอีก

แต่ไม่มีใครกล้ากราบบังคมทูลให้เสด็จออกจากพลับพลาพิธีนั้น เพราะทั้งพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จฯ ทรงแสดงกิริยามั่นคง ทรงยืนนิ่ง สีพระพักตร์เป็นปกติ

สิ่งที่ผมเห็นข้างล่างก็คือ บรรดาเจ้าหน้าที่และผู้บังคับบัญชาลูกเสือชาวบ้านได้เข้าระงับควบคุมฝูงชนอย่างฉับพลัน มีการใช้เครื่องขยายเสียงแบบมือถือที่เตรียมไว้แล้วปลอบโยนประชาชนมิให้ตื่นตระหนก และให้อยู่กับที่ ขณะเดียวกันก็มีการลำเลียงผู้บาดเจ็บไปยังโรงพยาบาล

และอีกอย่างหนึ่งที่ผมมิได้คาดฝันว่าจะได้ยินคือ เมื่อประชาชนอยู่ในความสงบแล้ว พระเจ้าอยู่หัวก็ทรงก้าวพระบาทเข้าไปหาไมโครโฟน แล้วทรงพระกรุณาพระราชทานพระบรมราโชวาทด้วยพระสุรเสียงที่เป็นปกติ ไม่มีสั่นหรือเปลี่ยนแปลงแม้แต่น้อย

ข้อความตอนหนึ่งมีว่า เมื่อเกิดเหตุการณ์ร้ายแรงขึ้น หากปรองดองกัน ให้กำลังใจและขวัญซึ่งกันและกัน รู้จักสงบจิตสงบใจ ก็จะสามารถขจัดภยันตรายและรักษาสถานการณ์ไว้ได้ด้วยดี

พระราชกรณียกิจต่อจากนั้น ทั้งสองพระองค์พร้อมทูลกระหม่อมหญิงยังทรงปฏิบัติเป็นปกติ แทนที่จะเสด็จฯ กลับเพื่อความปลอดภัย ทรงพระราชดำเนินเยี่ยมประชาชนอย่างใกล้ชิดเป็นปกติ
ไม่ต้องสงสัยว่า เหตุร้ายที่เกิดขึ้นจะทำให้ราชการโดยเฉพาะกรมตำรวจวิตกกังวลเพียงใด ตำรวจจับผู้ต้องหาได้ 4 คน ในการจับกุม เจ้าหน้าที่ยึดของกลางได้หลายรายการ มีสายไฟชิดเดียวกับที่ใช้ทำลูกระเบิด ผลการสอบสวนผู้ต้องหาให้การรับสารภาพ ไม่ปรากฏจำเลยให้การซัดทอดผู้ใดว่าเป็นผู้ว่าจ้าง เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้น แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่า ได้มีการกระทำที่ส่อความไม่จงรักภักดีในพระยุคลบาท เป็นการข่มเหงรังแกน้ำใจคนไทยทั้งชาติ
หัวข้อ: Re: // เรื่องราวของรถยนต์ที่เกี่ยวข้องกับพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช //
เริ่มหัวข้อโดย: ps000000 ที่ ตุลาคม 17, 2016, 20:01:36
มีอีกคัน คันสีขาว ที่จอดอยู่ใน ที่ประทับ ที่ จังหวัดเพชรบุรี ครับ ผมจำรุ่นไม่ได้

เป็นกระบะโตโยต้า  :-* :-* :-* :-*
หัวข้อ: Re: // เรื่องราวของรถยนต์ที่เกี่ยวข้องกับพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช //
เริ่มหัวข้อโดย: golf8023 ที่ ตุลาคม 17, 2016, 21:08:02
ขอบคุณสำหรับข้อมูลดีๆครับ

ครั้งนึง วันที่5ธันวาของปีหนึ่ง ท่านทรงตรัสให้ประชาชนาที่มาเข้าเฝ้าในวันนั้นให้ฟังถึงคุณทองแดงสุนัขทรงเลี้ยง
คุณทองแดงต้องเดินทางจากพระราชวังไกลกังวลมายังกรุงเทพฯ (หรือเดินทางจากกรุงเทพฯมายังไกลกังวล ผมไม่แน่ใจ) ทรงตรัสว่าคุณทองแดงนั้นนั่ง BMW Series 7 เลยนะ ส่วนเราน่ะนั่งToyota ^_^
ผมได้ฟังผ่านทีวียังจำเสียงของท่านและเสียงหัวเราะของประชาชนที่มาเข้าเฝ้าได้จนถึงทุกวันนี้
หัวข้อ: Re: // เรื่องราวของรถยนต์ที่เกี่ยวข้องกับพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช //
เริ่มหัวข้อโดย: SM. ที่ ตุลาคม 17, 2016, 22:45:10
 :( :( :( :(

ช่วงนี้ช่างเป็นช่วงเวลาที่ไม่เคยอยากให้มาถึงจริงๆ อยากให้เป็นแค่ฝันร้ายตื่นนึงก็พอ
หัวข้อ: Re: // เรื่องราวของรถยนต์ที่เกี่ยวข้องกับพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช //
เริ่มหัวข้อโดย: V221 ที่ ตุลาคม 18, 2016, 07:42:20
พระองค์ทรงเป็นแบบอย่างทีี่ทุกคนควรจะสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณและทำความดีถวายแด่พระองค์ท่าน ช่างเป็นโชคดีของประเทศไทยเราจริงๆครับ
หัวข้อ: Re: // เรื่องราวของรถยนต์ที่เกี่ยวข้องกับพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช //
เริ่มหัวข้อโดย: popdemonic ที่ ตุลาคม 19, 2016, 08:35:19
จนถึงวันนี้ผมก็ยังน้ำตาคลอทุกครั้งที่เห็นพระราชกรณียกิจของท่านผ่านทางสื่อต่างๆ เห็นพระราชอารมณ์ขันของท่าน
รักพ่อหลวงรัชกาลที่9สุดหัวใจครับ
หัวข้อ: Re: // เรื่องราวของรถยนต์ที่เกี่ยวข้องกับพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช //
เริ่มหัวข้อโดย: Sappe! ที่ ตุลาคม 19, 2016, 17:30:15
ขอบคุณครับ สำหรับข้อมูล