Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: porasit33 ที่ พฤศจิกายน 10, 2016, 00:45:47
-
เนื่องจาก option มาแรงอย่าง ถุงลมนิรภัย 7 ใบ ในทุกรุ่นของ Altis กำลังเป็นที่พูดถึงอย่างมาก
ผมจึงขอนำ option (บางส่วน) มาชนกันให้เห็นชัดๆสำหรับรถในเกรดล่างเครื่องยนต์ 1.8-2.0 ของ 3 ค่าย
รวมถึงหน้าตาที่ให้มา เพื่อประกอบการตัดสินใจซื้อรถในเรตราคานี้ ช่วงเวลานี้ นะครับ
เพราะ Mazda 3 เองก็ไกล้จะไมเนอร์เชนจ์แล้ว
(http://upic.me/i/3s/altiscivicm32.jpg)
(http://upic.me/i/tw/altiscivicm3.jpg)
ข้อมูลถ้าผิดพลาดประการใดก็ขออภัย ณ ที่นะครับ
ผมหาดูจากโบรชัวร์และข้อมูลในเว็บไซต์บางส่วน
-
คหสต.ถ้ามองแค่ 3 ตัว เกรดล่างสุดตามตาราง
สิ่งที่ฉุด Altis ขึ้นมาจริงๆมีแค่ airbags เลยครับ
ผมว่าไม่ค่อยมีผลกับยอดขายนะ เพราะความเป็น Toyota
สินค้าขายตัวมันเองได้ อย่างที่เป็นอยู่และเป็นมาตลอด
-
ถ้าจะซื้อ 3 ตัวนี้จริงๆ คงเป็น Altis เหตุผลเพราะถุงลมและระบบความปลอดภัยที่เป็นระบบช่วยเหลือจริงๆมากกว่าเพื่อนนี่แหละ แต่ขอเป็นแค่ 1.6G ดีกว่าคืออยากได้ปุมสตาร์ทกับเบาะหนัง
-
3มี hsa นะครับ
-
Altis พวงมาลัยมัลติ ก็มีครับ
ความจริง 1.6g นี่ก้ สมเหตุสมผลครับ แค่เครื่องเล็กกว่า แต่ก็แรงแล้วครับ ออปชั่นดีกว่า1.8 E
-
ผมว่าไม่ค่อยแฟร กับเจ้า 3 เท่าไรตอนนี้นะ เพราะออฟชั่นรุ่น mc ยังไม่ออก รอออฟชั่นออกแล้วค่อยเทียบกกันดีกว่า
-
ถ้าให้เลือกมเลือก Altis 1.6G นะ อยากได้เบาะหนังไม่อยากได้เบาะผ้าแล้วไปเปลี่ยนเองเพราะอยากได้จากโรงงานเลยและเดี๋ยวถุงลมที่อยากได้เยอะๆจะทำงานไม่ได้ ส่วนปุ่มสตาร์จได้เพิ่มมาก็ดีเลยน่าสนใจขึ้นมาอีก
-
3มี hsa นะครับ
3 ตัวปัจจุบัน มี HSA ด้วยหรอครับเนี่ย
-
เทียบแล้ว อัลติส ยังด้อยเนอะ 55555 ::) ::) ::) ::)
-
ถ้าเอา mazda 3 ตัวใหม่ เปิดตัว ม.ค 17 Spaec คงกินขาด
-
ขออีกตารางนึง ขอเป็นตัวเบาะหนัง ราคาต่ำสุดของแต่ละค่าย อีกทีสิครับ
ตัวนี้ คนน่าจะซื้อมากสุด
-
จริงๆ Toyota จัดมาให้ 2 เกรด ที่ราคาพอๆกันครับ
1.6 G 869,000 / 1.8 E 874,000 บาท
เพราะจริงๆเครื่อง 1.6 ของ Toyota สมรรถนะก็พอๆกัน
กับเครื่อง 1.8 ลิตรของ Civic
-
แต่ละคันก็มีข้อดีเป็นของตัวเอง
Altis ได้หน้าใหม่ ถุงลมนิรภัยและระบบช่วยเหลือต่างๆ เครื่อง 1.8 ที่แรงและทนทาน
Civic ได้หน้าตาที่ล้ำ ออฟชั่นที่มองเห็น จอ BT
3 ได้หน้าตาที่สปอร์ต การขับขี่ที่ดี แต่ห้องโดยสารแคบ
Altis และ Civic น่าจะเป็นกลุ่มลูกค้าที่คล้ายๆกันแต่ 3 คงเป็นอีกลุ่ม แนวโน้มการออกแบบ c-segment ในปัจจุบันดูไปทางสปอร์ต เจาะกลุ่มวัยรุ่นและวัยทำงานตอนต้นมาก จากแต่ก่อนที่จะออกแบบที่ดูหรูหรา คหสต.คิดว่ายังมีกลุ่มลูกค้าที่ต้องการ c-segment ที่ไม่ดูสปอร์ตจนเกินไป เน้นแนวลักชัวรี่ ภูมิฐาน นั่งสบาย ขับขี่กลางๆ แต่ออฟชั่นต้องครบแบบแบรน์อื่น
ปล.เป็นกำลังใจให้นิสสัน
-
พอเทียบกันแบบนี้แล้ว
อัลติสมีดีแค่ถุงลม 7 ใบจริงๆ
รวมๆแล้วซีวิคยังมีอ๊อฟชั่นดูดีกว่านิดๆ..
-
3มี hsa นะครับ
3 ตัวปัจจุบัน มี HSA ด้วยหรอครับเนี่ย
ในมาสด้าตั้งชื่อว่า HLA ครับ จำได้ว่ามี เพราะใน 2 ก็มีทุกรุ่น เพียงแต่สเปกบางอย่าง ไม่มีในโบรชัวครับ
เพิ่มลิงค์ว่า 3 มี HLA ครับ
http://www.allnewmazda3.com/index.php?topic=997.0
-
เมื่อเทียบกันแล้ว Altis มีถุงลมเพิ่มขึ้น แต่ยังขายๆเกินๆ ครับ
-
3มี hsa นะครับ
3 ตัวปัจจุบัน มี HSA ด้วยหรอครับเนี่ย
ในมาสด้าตั้งชื่อว่า HLA ครับ จำได้ว่ามี เพราะใน 2 ก็มีทุกรุ่น เพียงแต่สเปกบางอย่าง ไม่มีในโบรชัวครับ
ผมก็ใช้ 3 อยู่นะครับ
ผมเคยขึ้นลานจอดรถเดอะมอลล์บางกะปิ (ชันพอสมควร) และเคยลองจอดค้างอยู่ทางขึ้น (ตอนดึกไม่มีรถ) เข้าเกียร์ D และปล่อยเบรค
เหมือนรถจะค้างอยู่ 3-4 วิ แล้วค่อยไหลลงมา
อันนี้ใช่การทำงานของ HLA หรือเปล่าครับ หรือผมมโนไปเอง =_=
:'(
-
3มี hsa นะครับ
3 ตัวปัจจุบัน มี HSA ด้วยหรอครับเนี่ย
ในมาสด้าตั้งชื่อว่า HLA ครับ จำได้ว่ามี เพราะใน 2 ก็มีทุกรุ่น เพียงแต่สเปกบางอย่าง ไม่มีในโบรชัวครับ
ผมก็ใช้ 3 อยู่นะครับ
ผมเคยขึ้นลานจอดรถเดอะมอลล์บางกะปิ (ชันพอสมควร) และเคยลองจอดค้างอยู่ทางขึ้น (ตอนดึกไม่มีรถ) เข้าเกียร์ D และปล่อยเบรค
เหมือนรถจะค้างอยู่ 3-4 วิ แล้วค่อยไหลลงมา
อันนี้ใช่การทำงานของ HLA หรือเปล่าครับ หรือผมมโนไปเอง =_=
:'(
ปกติ รถที่มีระบบ จะใช้เบรคเป็นตัวจับ เวลาเร่งขึ้นไปจะมีการปล่อยเบรคแบบที่พอรู้สึกได้
-
3มี hsa นะครับ
3 ตัวปัจจุบัน มี HSA ด้วยหรอครับเนี่ย
ในมาสด้าตั้งชื่อว่า HLA ครับ จำได้ว่ามี เพราะใน 2 ก็มีทุกรุ่น เพียงแต่สเปกบางอย่าง ไม่มีในโบรชัวครับ
ผมก็ใช้ 3 อยู่นะครับ
ผมเคยขึ้นลานจอดรถเดอะมอลล์บางกะปิ (ชันพอสมควร) และเคยลองจอดค้างอยู่ทางขึ้น (ตอนดึกไม่มีรถ) เข้าเกียร์ D และปล่อยเบรค
เหมือนรถจะค้างอยู่ 3-4 วิ แล้วค่อยไหลลงมา
อันนี้ใช่การทำงานของ HLA หรือเปล่าครับ หรือผมมโนไปเอง =_=
:'(
ใช่แล้วครับ
-
Honda ดูเผินๆเหมือนไม่มี TRC เพราะวิธีเรียก อันที่จริงระบบ VSA ของ Honda นั้นจะรวมทั้งระบบกันล้อฟรีกับเสริมเสถียรภาพการทรงตัวมาให้ แต่เรียกเป็นอันเดียวกัน
ของบางอย่าง ทำงานได้ 3 อย่าง บางค่ายก็เรียกอุปกรณ์แยก 3 อย่าง บางค่ายก็เรียกรวมหมด..ทำงานเกือบเหมือนกัน แต่พอเขียนหลายๆอย่างแล้วสเป็คสวย โบรชัวร์ดูยาว ดูมีอะไรดี ซึ่งก็ไม่ผิด เพราะไม่ได้หลอกลวง ไม่ได้โกหก เป็นแค่เทคนิคในการนำเสนอ
-
ระบบคุมเกียร์ในโค้ง Honda ไม่มีหรอคับ มะก่อนตอน 5 Speed มี Shift Hold Control
ตอนเป็น Brio มีแต่จำไม่ได้ว่าเรียก Shift Hold Control หรือเปล่า
-
AUTO BRAKE HOLD ... ข้อนี้ละครับ ที่ทำให้ชีวิตรถติดในเมือง มีความสุขโขขึ้นเยอะ ;D
น่าเสียดายที่ Altis และ M3 ไม่จัดมาให้
-
ตลาดไทย มันไม่ได้ขึ้นอยู่กับถุงลมหรอกครับ
หลักๆ มันอยู่ที่หน้าตา ตัว MC ก็สวยมากกว่าตัวเก่า
เอาจริง ผมว่า Altis ไม่สวยนะ ถ้าไม่ใช้รุ่น Es sport (ไม่นับ ตัว Nurberring ที่ไม่สวยมากๆ)
ภายในยิ่งแล้วใหญ่ ต่อให้รถมันทน แต่ต้องนั่งมองภายในแบบนั้น ไม่เอาหรอกครับ
-
จริงๆ Toyota จัดมาให้ 2 เกรด ที่ราคาพอๆกันครับ
1.6 G 869,000 / 1.8 E 874,000 บาท
เพราะจริงๆเครื่อง 1.6 ของ Toyota สมรรถนะก็พอๆกัน
กับเครื่อง 1.8 ลิตรของ Civic
สมรรถนะพอๆกัน ในแง่ไหนบ้างครับ ขยายความหน่อยครับ
-
จริงๆ Toyota จัดมาให้ 2 เกรด ที่ราคาพอๆกันครับ
1.6 G 869,000 / 1.8 E 874,000 บาท
เพราะจริงๆเครื่อง 1.6 ของ Toyota สมรรถนะก็พอๆกัน
กับเครื่อง 1.8 ลิตรของ Civic
สมรรถนะพอๆกัน ในแง่ไหนบ้างครับ ขยายความหน่อยครับ
น่าจะความรู้สึกไม่ต่างกันมากครับ 1.8 Civic เน้นประหยัดนะผมว่า
เครื่องเลยไม่ดึงโหด ส่วน 1.6 Toyota ก็พุ่งดีอยู่ เครื่องสองตัวนี้ใช้งานทั่วไปเลยไม่หนีกัน
-
เอาจริงๆ ผมว่าแค่ตัว 1.6G ก็เพียงพอแล้วครับ ที่เหลือก็ไปเปลี่ยนวิทยุเป็นจอกับใส่กล้องมองหลังพอแล้วละ
แต่ถ้างบเหลือๆ 1.8E sport คุ้มสุด
-
ถ้า civic ไม่ติดเรื่อง defect ผมว่าจะน่าสนมากๆๆ
-
3คันนี้ ถ้ามาสด้า3ไม่จัดถุงลมมาตั้งแต่รุ่นล่างคงไปจบที่อัลติส
ส่วนซีวิคถ้าจะเล่นคงเทอร์โบ
-
1.6 G ก็พอใช้งานในชีวิตประจำวันแล้วหล่ะ