Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: cloud ที่ ธันวาคม 05, 2016, 14:58:05
-
ไม่ได้ติดตามมานานไม่รู้เกิดอะไรขึ้นครับ สมัยก่อนปี2012ปีนั้นเกรบูมมาก ผมกำลังเลือกรถbenzจำได้ช่วงนั้นเกรเอาพวก W212 W207 มาขายกันตรึม แล้วก็พวก C180 Coupe เยอะมากๆตอนนี้มันยังไงหรอครับไม่ได้ติดตามเลย Benz thailand เอาคืนแน่ๆเลย
-
รถเกร์หลัง2012เข้าศูนย์ไม่ได้แล้วครับ ความดึงดูดเลยหายไปเยอะ รถใหม่ๆพังกันสนุกซ่อมก็ยากส่วนมากต้องเปลี่ยนยกชิ้น อะไหล่ยังบังคับด้วยว่ารถขายผ่านใครอยู่ประเทศไหนต้องซ่อมอยู่ในภูมิภาคนั้นไม่ใช่ใครจะมาเบิกก็ได้ทุกอย่างเลยจบครับ
-
ราคาส่วนต่างระหว่างรถศูนย์กับเกรย์ไม่ได้ต่างเยอะแบบตอนนั้น อีกทั้งตอนหลัง MBTH ก็ใช้นโยบายเดียวกับ BMWTH คือไม่รับบริการรถเกรย์ ทำให้ลูกค้าเริ่มกลับไปหารถศูนย์เหมือนเดิม
ปล. ช่วงที่รถเกรย์ราคาถูกตอนนั้นส่วนนึงมาจากการแจ้ง Declear ออปชั่นรถไม่ตรงตามความเป็นจริงครับ เอาง่ายๆคือแจ้งว่ารถ Full Option เป็นรถ Low Option ทำให้ตัดภาษีที่ต้องจ่ายไปเยอะมาก ก่อนที่ภาครัฐจะมาไล่บี้เอาทีหลัง
-
ผมไม่แน่ใจนะว่ามีการล้อคไม่ให้เข้า แบบ Ferrari & Lamborghini หรือเปล่า แต่ที่แน่ๆคือกำไรไม่มีครับผมมีคนรู้จัก ทำเกรย์ครับ เอา mb เข้ามาไม่มีกำไรแล้วครับแถมขาดทุนยับแน่ เพราะรถที่ mbth ไม่ว่าจะนำเข้ามาขายหรือประกอบในไทยขายนั้นราคาเป็นราคาที่เกรย์ไม่มีทางทำได้ถ้าทำถูกต้องนะครับ ผมเคยคำนวณกัน c coupe เอาเป็นตัวตอนนำเข้า 3.79 ที่ขายช่วงก่อนถ้าเกรย์นำเข้ามาเลือกออปชั่นเท่ากับ mbth ราคารวมทุกอย่างแล้วภาษีทุกอย่างครบไม่มีกำไรเลย ออกมา 4.1-4.2 แล้วครับ ถ้าขายก้ต้อง+ไป 2-3 แสน ไม่มีใครซื้อหรอกครับ แพงกว่าออปเท่า วารันตีไม่มี จบครับ ลองสังเกตุตอนนี้เกรย์ขายแต่ รถญี่ปุ่นโดยเฉพาะรุ่นไหนก้เห็นๆกันอยู่ + porsche+ mustang เพราะคนที่ทำตลาดพวกนี้ยังเว้นช่องว่างให้เกรย์อยู่ครับ โดยเฉพาะ aas ที่ช้ามากๆกับรถออกใหม่และราคาที่พอ+ออปชั่นที่ไปไกลมากๆ คนยังขอวัดดวงกับการซื้อเกรย์ครับ ส่วน mustang คงขายได้อีกนานเพราะ ford คงไม่ได้สนเรื่องนี้ ตั้งหน้าตั้งตาขาย ranger everest อย่างเดียว 555 แต่ถ้าเป็น dealer ferrari & Lamborghini รู้สึกว่าเค้าจะบล้อคเลยครับห้ามคนอื่นนำเข้าถ้าไม่ใช่รถตัวเองที่ใช้อยู่แล้วใน ตปท
-
โอวววววมันเป็นอย่างนี้นี่เอง น่าเสียดายนะครับ ตลาดถูกผูกขาดสะแล้ว
-
เมื่อก่อนส่วนต่างราคาเยอะ E coupe 250 ราคา 5ล้าน รถ gray 4 ล้านต้นๆ
ต่อมาลดราคามาตี gray ตอน minorchange หรือ 3 ล้านปลายๆ
ตั้งราคามาต่ำๆจนตี gray หมดครับ + ไม่รับซ่อม
ผมซื้อ E coupe 250 W212 ก่อน minor change 4.25 ล้าน ตอนนั้นยังคิดว่าราคาถูกมากๆแล้ว พอรุ่นใหม่ออกเหลือ 3 ล้านปลายๆ เอง T-T
-
ผมซื้อเกรยเหมือนกัน. W212 e200amg 3.6m ก่อน fl อีก. ซื้อเพราะหลังคาแก้วครับ. เดี๋ยวนี้ราคา ออพชั่นไม่ต่างกันมากครับ
-
มีญาติใช้ C180 coupe ออกเกรย์ เป็นผู้หญิงโสด ขับอย่างเดียว (เปลี่ยนจากเกียร์ R เป็น D ไม่รอรถหยุดด้วยซ้ำ) ซื้อรถคันนี้ด้วยเหตุผลง่ายๆ คือ อยากได้รถยุโรปป้ายแดง 2 ประตูรุ่นไหนยี่ห้อไหนก็ได้ ที่ขายต่อราคาไม่ตก และซ่อมไม่แพง เน้นภาพลักษณ์ล้วนๆ ผ่านไป 3 ปี ผมบอกเลย โศกอนาตกรรมชัดๆ กล่องพัง ไอ้นู่นไอ้นี่เสีย เข้าศูนย์ก็ไม่ได้ โดนไปหลายแสน ส่วนหนึ่งเพราะใช้ไม่ถนอมด้วย ราคาขายต่อไม่ต้องพูดถึง ถ้าเป็นรถศูนย์อาจจะดีกว่านี้
-
เป็นไปตามกลไกตลาดครับ ไม่มีการห้ามอะไรกัน
ส่วนนึงก็ต้องชม Benz บ้านเราด้วย ที่พยายามทำทุกอย่าง เพื่อแย่งยอดกลับมาจาก Grey
-
แล้วตลาดก็อาจจะกลับเป็นเหมือนเดิม ก่อนช่วงที่เกรย์บูมๆ คือจะไม่ค่อยมีทางเลือกให้ลูกค้า รถที่มีก็ราคสูงเมื่ิเทียบกับสิ่งที่ได้มา
-
ผมไม่แน่ใจนะว่ามีการล้อคไม่ให้เข้า แบบ Ferrari & Lamborghini หรือเปล่า แต่ที่แน่ๆคือกำไรไม่มีครับผมมีคนรู้จัก ทำเกรย์ครับ เอา mb เข้ามาไม่มีกำไรแล้วครับแถมขาดทุนยับแน่ เพราะรถที่ mbth ไม่ว่าจะนำเข้ามาขายหรือประกอบในไทยขายนั้นราคาเป็นราคาที่เกรย์ไม่มีทางทำได้ถ้าทำถูกต้องนะครับ ผมเคยคำนวณกัน c coupe เอาเป็นตัวตอนนำเข้า 3.79 ที่ขายช่วงก่อนถ้าเกรย์นำเข้ามาเลือกออปชั่นเท่ากับ mbth ราคารวมทุกอย่างแล้วภาษีทุกอย่างครบไม่มีกำไรเลย ออกมา 4.1-4.2 แล้วครับ ถ้าขายก้ต้อง+ไป 2-3 แสน ไม่มีใครซื้อหรอกครับ แพงกว่าออปเท่า วารันตีไม่มี จบครับ ลองสังเกตุตอนนี้เกรย์ขายแต่ รถญี่ปุ่นโดยเฉพาะรุ่นไหนก้เห็นๆกันอยู่ + porsche+ mustang เพราะคนที่ทำตลาดพวกนี้ยังเว้นช่องว่างให้เกรย์อยู่ครับ โดยเฉพาะ aas ที่ช้ามากๆกับรถออกใหม่และราคาที่พอ+ออปชั่นที่ไปไกลมากๆ คนยังขอวัดดวงกับการซื้อเกรย์ครับ ส่วน mustang คงขายได้อีกนานเพราะ ford คงไม่ได้สนเรื่องนี้ ตั้งหน้าตั้งตาขาย ranger everest อย่างเดียว 555 แต่ถ้าเป็น dealer ferrari & Lamborghini รู้สึกว่าเค้าจะบล้อคเลยครับห้ามคนอื่นนำเข้าถ้าไม่ใช่รถตัวเองที่ใช้อยู่แล้วใน ตปท
สอบถามครับ ferrari เรื่องบล๊อครถนี่ผมว่าใช่เลยเพราะเห็นๆอยู่ว่าไม่มีรถเกรย์เลย แต่กับ Lamborghini ผมขับผ่านโชว์รูมเกรย์หลายๆที่ยังมีจอดอยู่เป็น huracan ด้วยบางที่ก็เป็น aventador ดูๆราคาก็ไม่ได้หนีกันมาก อยากรู้จักว่ารถคลาสสูงขนาดนี้ซื้อเกรย์มันน่าจะมีความเสี่ยงเรื่องงานซ่อมสูงกว่าแน่ๆ เหตุใดถึงยังมีคนจับรถเกรย์อยู่
หรืออาจจะเป็นเรื่องระยะเวลาการสั่งรถ รอรถของรถศูนย์ทำให้มันยังพอขายได้ อันนี้อยากรู้จริงๆ
-
ผมไม่แน่ใจนะว่ามีการล้อคไม่ให้เข้า แบบ Ferrari & Lamborghini หรือเปล่า แต่ที่แน่ๆคือกำไรไม่มีครับผมมีคนรู้จัก ทำเกรย์ครับ เอา mb เข้ามาไม่มีกำไรแล้วครับแถมขาดทุนยับแน่ เพราะรถที่ mbth ไม่ว่าจะนำเข้ามาขายหรือประกอบในไทยขายนั้นราคาเป็นราคาที่เกรย์ไม่มีทางทำได้ถ้าทำถูกต้องนะครับ ผมเคยคำนวณกัน c coupe เอาเป็นตัวตอนนำเข้า 3.79 ที่ขายช่วงก่อนถ้าเกรย์นำเข้ามาเลือกออปชั่นเท่ากับ mbth ราคารวมทุกอย่างแล้วภาษีทุกอย่างครบไม่มีกำไรเลย ออกมา 4.1-4.2 แล้วครับ ถ้าขายก้ต้อง+ไป 2-3 แสน ไม่มีใครซื้อหรอกครับ แพงกว่าออปเท่า วารันตีไม่มี จบครับ ลองสังเกตุตอนนี้เกรย์ขายแต่ รถญี่ปุ่นโดยเฉพาะรุ่นไหนก้เห็นๆกันอยู่ + porsche+ mustang เพราะคนที่ทำตลาดพวกนี้ยังเว้นช่องว่างให้เกรย์อยู่ครับ โดยเฉพาะ aas ที่ช้ามากๆกับรถออกใหม่และราคาที่พอ+ออปชั่นที่ไปไกลมากๆ คนยังขอวัดดวงกับการซื้อเกรย์ครับ ส่วน mustang คงขายได้อีกนานเพราะ ford คงไม่ได้สนเรื่องนี้ ตั้งหน้าตั้งตาขาย ranger everest อย่างเดียว 555 แต่ถ้าเป็น dealer ferrari & Lamborghini รู้สึกว่าเค้าจะบล้อคเลยครับห้ามคนอื่นนำเข้าถ้าไม่ใช่รถตัวเองที่ใช้อยู่แล้วใน ตปท
สอบถามครับ ferrari เรื่องบล๊อครถนี่ผมว่าใช่เลยเพราะเห็นๆอยู่ว่าไม่มีรถเกรย์เลย แต่กับ Lamborghini ผมขับผ่านโชว์รูมเกรย์หลายๆที่ยังมีจอดอยู่เป็น huracan ด้วยบางที่ก็เป็น aventador ดูๆราคาก็ไม่ได้หนีกันมาก อยากรู้จักว่ารถคลาสสูงขนาดนี้ซื้อเกรย์มันน่าจะมีความเสี่ยงเรื่องงานซ่อมสูงกว่าแน่ๆ เหตุใดถึงยังมีคนจับรถเกรย์อยู่
หรืออาจจะเป็นเรื่องระยะเวลาการสั่งรถ รอรถของรถศูนย์ทำให้มันยังพอขายได้ อันนี้อยากรู้จริงๆ
ขี้เกียจรอรถเป็นประเด็นหลักมากกว่าครับ เพราะเท่าที่ทราบรถพวกนี้จะผลิตตามสั่งเท่านั้น เลือกออปชั่น,สีภายในกันตามสบาย โดยปกติแต่ละคันออปชั่นจะไม่ซ้ำกันเลย แม้แต่รถที่บางทีศูนย์สั่งมาเป็นรถโชว์ออปชั่นยังไม่เหมือนกันซักคันเช่นกันครับ
-
ผมไม่แน่ใจนะว่ามีการล้อคไม่ให้เข้า แบบ Ferrari & Lamborghini หรือเปล่า แต่ที่แน่ๆคือกำไรไม่มีครับผมมีคนรู้จัก ทำเกรย์ครับ เอา mb เข้ามาไม่มีกำไรแล้วครับแถมขาดทุนยับแน่ เพราะรถที่ mbth ไม่ว่าจะนำเข้ามาขายหรือประกอบในไทยขายนั้นราคาเป็นราคาที่เกรย์ไม่มีทางทำได้ถ้าทำถูกต้องนะครับ ผมเคยคำนวณกัน c coupe เอาเป็นตัวตอนนำเข้า 3.79 ที่ขายช่วงก่อนถ้าเกรย์นำเข้ามาเลือกออปชั่นเท่ากับ mbth ราคารวมทุกอย่างแล้วภาษีทุกอย่างครบไม่มีกำไรเลย ออกมา 4.1-4.2 แล้วครับ ถ้าขายก้ต้อง+ไป 2-3 แสน ไม่มีใครซื้อหรอกครับ แพงกว่าออปเท่า วารันตีไม่มี จบครับ ลองสังเกตุตอนนี้เกรย์ขายแต่ รถญี่ปุ่นโดยเฉพาะรุ่นไหนก้เห็นๆกันอยู่ + porsche+ mustang เพราะคนที่ทำตลาดพวกนี้ยังเว้นช่องว่างให้เกรย์อยู่ครับ โดยเฉพาะ aas ที่ช้ามากๆกับรถออกใหม่และราคาที่พอ+ออปชั่นที่ไปไกลมากๆ คนยังขอวัดดวงกับการซื้อเกรย์ครับ ส่วน mustang คงขายได้อีกนานเพราะ ford คงไม่ได้สนเรื่องนี้ ตั้งหน้าตั้งตาขาย ranger everest อย่างเดียว 555 แต่ถ้าเป็น dealer ferrari & Lamborghini รู้สึกว่าเค้าจะบล้อคเลยครับห้ามคนอื่นนำเข้าถ้าไม่ใช่รถตัวเองที่ใช้อยู่แล้วใน ตปท
สอบถามครับ ferrari เรื่องบล๊อครถนี่ผมว่าใช่เลยเพราะเห็นๆอยู่ว่าไม่มีรถเกรย์เลย แต่กับ Lamborghini ผมขับผ่านโชว์รูมเกรย์หลายๆที่ยังมีจอดอยู่เป็น huracan ด้วยบางที่ก็เป็น aventador ดูๆราคาก็ไม่ได้หนีกันมาก อยากรู้จักว่ารถคลาสสูงขนาดนี้ซื้อเกรย์มันน่าจะมีความเสี่ยงเรื่องงานซ่อมสูงกว่าแน่ๆ เหตุใดถึงยังมีคนจับรถเกรย์อยู่
หรืออาจจะเป็นเรื่องระยะเวลาการสั่งรถ รอรถของรถศูนย์ทำให้มันยังพอขายได้ อันนี้อยากรู้จริงๆ
ขี้เกียจรอรถเป็นประเด็นหลักมากกว่าครับ เพราะเท่าที่ทราบรถพวกนี้จะผลิตตามสั่งเท่านั้น เลือกออปชั่น,สีภายในกันตามสบาย โดยปกติแต่ละคันออปชั่นจะไม่ซ้ำกันเลย แม้แต่รถที่บางทีศูนย์สั่งมาเป็นรถโชว์ออปชั่นยังไม่เหมือนกันซักคันเช่นกันครับ
ขอบคุณครับ วันนี้ผมไปเดินงานมา ที่บูธ aston martin เหมือนจะมีคนมาจองรถเห็นเซลล์มีการนำสีตัวรถ หนังตรงส่วนต่างๆ มาให้เลือก ดูท่าสั่งรถทีคงจะรอกันนานเลย อย่างน้อยๆคงเกือบๆมีครึ่งปีกันเลย
-
คือคนที่ซื้อรถเกรย์ คือพวกเงินถุงเงินถัง
ยกโทรศัพท์ปุ๊บก็ได้รถปั๊บประมาณนั้น
ส่วนนโยบาย เบนซ์ ไม่รับประกันรถจากเกรย์ โดยให้เหตุผลไปที่ตัวรถไม่ได้คัดสรรค์วัสดุอุปกรณ์ ที่เหมาะสม กับเมืองไทย รวมทั้งน้ำมันด้วย (จริงๆ ก็อย่างที่เรารู้กัน) ไม่รับบริการหลังการขรยรถจากเกรย์
หรือรับบริการ แต่ต้องซื้อแพ็คเกจ ร่วมๆ 3 แสนกว่าบาท ประมาณนั้นครับ
-
ตอนหลังๆนี้ผู้บริหารMB Thailandสู้สุดตัวเรื่องการตลาดและราคามากๆ ไม่เหมือนยุคก่อนๆที่เน้นกำไรต่อหน่วยและจะให้ภาพลักษณ์ดูไฮโซครับ ถ้าติดตามอ่านในนี้จะพบว่าMB ThailandจัดหนักเกือบทุกSegment ขนาดรถพิเศษอย่างAMGยังลงราคาแบบจับต้องได้เลยครับ เล่นเอาสะเทือนยี่ห้ออื่นกันไปหมดอย่าว่าแต่พวกเกรย์เท่านั้น รู้แต่ว่าคนที่ซื้อBenzก่อนหน้านี้เจ็บใจมากๆ เพื่อนผมถอยW222 S300 HBมาไม่ถึงปี เจอราคาS500eเข้าไปถึงกับเงิบเลยเชียว
-
จำได้ ช่วงนั้น เกรย์เลิกขายกันระนาว 8)
-
คือมันทำราคาไม่ได้เหมือนเมื่อก่อนอะครับ
ศก เขาดักทาง ให้ คิดภาษี แจกแจงตาม option ด้วย
คือ คิดภาษี option ที่ใส่มา ตาม list เลย
ราคาเลย ไม่ค่อยต่าง แถมไม่รับซ่อม อีก
-
1.เบนช์ ลดราคาลงมา ทำให้ส่วนต่างกับเกรย์
2.ไม่รับบริการรถเกรย์
3.เกรย์หลายราย โดนตรวจสอบพบว่าแจ้งนำเข้าแบบไม่ตรงตามเอกสาร โดนไล่บี้ปรับไปบาน ถ้านำเข้าตรงเอกสาร ราคาจะแพงกว่าเบนช์ไทยอีก เลยไม่มีใครนำเข้ามา
4.หลังๆ เบนช์ไทยนำเข้ามาแบบแทบจะทุกรุ่น ทำให้เกรย์หาช่องว่างพวกรุ่นที่ไม่มีขายในไทยไม่ได้เลย
-
ผมว่าเบ้นทำถูกแล้ว เห็นผลชัดๆเลย