Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: IS ที่ ธันวาคม 08, 2016, 17:48:16
-
รบกวนปรึกษาครับ
คุณพ่อผมอยากได้รถสำรองสักคัน โดยท่านชอบ w124 อย่างมาก
ด้วยความรู้อันน้อยนิดของผม จึงอยากเรียนปรึกษา พี่ๆ เพื่อนๆ สมาชิก
1.รุ่นนี้มีปัญหาจุกจิกมากไหม และ ค่าอะไหล่การบำรุงรักษา ถ้าเทียบกับรถญี่ปุ่น ค่าใช่จ่ายมากน้อยเพียงใด
2.เนื่องจากรถมันมีหลายรุ่นมากๆ มีรุ่นไหน หรือ ปีไหนน่าใช้ และ รุ่นไหนควรระวัง (อาทิเช่น w211 ระวังเรื่องเบรคไฟฟ้า)
ข้อมูลเพิ่มเติม
1.ไม่เอาไปติดแก๊ส 2.คุณพ่ออายุค่อนข้างเยอะขับรถไม่เร็วครับ
3.ให้ความสำคัญกับความนุ่มนวลในการขับขี่ 4.ไม่สนใจเรื่องอัตราสิ้นเปลืองเนื่องจากใช้รถไม่เยอะครับ
ขอบคุณสำหรับพื้นที่ปรึกษาครับ
-
มันเก่ามากแล้วนะครับ แต่ตัวรถมันคลาสสิคดีครับ
รถคุณน้าผม ตั้งแต่ผมอายุ10ขวบ ปัจจุบัน 36
วิ่งมา 300,000 ช่วง 10 ปีหลัง ถ้าพังก็เข้าอู่ทีมี 50,000 ตลอด
ผมไม่ได้ถามรายละเอียดมากนัก
แต่
ช่วงนี้เถ้าเดินทาง ตจว ไกลๆ ผมให้คุณอายืมรถไปใช้แทน กลัวเสียกลางทาง
ภายใน มันเก่าไปหมดแล้วครับ เอาจริงๆนะ วัสดุ ภายในรถ ecocar ยังน่านั่งกว่า
ส่วนเรื่องช่วงล่าง ตอนป้ายแดงนี่สวรรค์เลย ปัจจุบันก็เสื่อมตามกลาลเวลา แล้วแต่ชอบเลยครับ
ถ้าคิดจะเล่นผมว่า เตรียมเงินหลักแสนไว้ซ่อมบำรุงเลยครับ
-
ให้เดา ซื้อมาเพราะชอบด้วยส่วนนึง
และกะเก็บไว้เป็นรถ Retro ด้วยใช่ไหมครับ
-
แนะนำให้หารถใหม่สักหน่อยไว้ให้ท่านใช้ ยิ่งไม่ค่อยถนัดเรื่องรถดูเองไม่ได้ยิ่งไม่แนะนำ แถมต้องการความประหยัด มองรถปี 2005 ขึ้นมาจะเหมาะกว่าครับ รถสภาพดีแต่ถึฝวัยต้องซ่อมบำรุง เดี๋ยวจะจุกเอา ด้วยความเคารพ
-
รุ่นนี้เล่นได้อะไหล่ในตลาดมีเป็นเข่ง อู่หลายอู่ซ่อมได้ครับ แต่ศูนย์เบนซ์ไม่รับบริการรุ่นนี้แล้วนะตัดหางปล่อยวัดไปแล้ว
แต่รุ่นนี้มันไม่ซับซ้อนอะไรนัก และเป็นรถไม่จุกจก ไม่เหมือนรถรุ่นหลัง ๆ ของเบนซ์ที่ซ่อมทีหายห่วง คือแพงมาก
ถ้าจะเล่นก็แนะนำหาเป็นรุ่นอีหน้าคือ E 220 อะไหล่จะเยอะแพร่หลาย ไม่แพง
การหารถเนื่องจากรถในตลาดมีเพียบ มีเวลาใจเย็น ๆ ก้หารถที่ดีที่สุดที่จะหาได้ เพราะคิดว่าคงเก็บไว้ใช้อีกนาน
-
เหตุผลที่เลือก แกชอบรุ่นนี้มากครับ
ผมเองก็เชียร์รถญี่ปุ่นบ้านๆซ่อมง่ายๆ แกก็ไม่เอา :-\ :-\
-
แนะนำ E220 จะ code อะไรก็แล้วแต่ ขอสภาพดีๆ
คันไหนสภาพดี ช่วงล่างยังนิ่มอยู่ (แต่คงหายาก) ต้องขับลองดู
คันไหนใช้โทรมมากแล้ว ช่วงล่างจะออกกระด้าง
เปลี่ยนบุชยาง ยางเต้าคาน บางทีก็ไม่เหมือนเดิม
ถ้าเอาแบบไม่ซ่อม ไม่คิดมาก ก็ลงเครื่องญี่ปุ่นดีๆ หรือ คันที่เปลี่ยนเครื่องแบบดีๆ ไม่ดัดแปลงเยอะ ติดแก็ส ก็ใช้ยาว
เครื่องญี่ปุ่น มักจะไม่ค่อยเสีย ถึงเสีย ก็ซื้ออะไหล่เซียงกง มาเปลี่ยนเลยทั้งชิ้น ไม่ต้องนั่งซ่อม นานๆๆ จะเสียซักชิ้น
ส่วน ถ้าจะหา คันที่เครื่องเบ็นซ์เดิมๆ มันก็ดี บางคนยังอยากได้ เครื่องเดิมๆ
แต่ต้องยอมรับนะ ว่ามันต้องมีซ่อม
เดี๋ยวไอเดิ้น เดี๋ยวสายไฟเครื่อง เดี๋ยวกล่องสมอง คอมแอร์ ไดชาร์จ เสีย
ช่างอู่นอกซ่อมได้ สบาย แต่เราจะเบื่อซ่อมหรือเปล่า ?
-
รถดีน่าทำเก็บ ทนทาน อะไหล่แพงบ้างไม่แพงบ้าง อะไรพังก็ซ่อมได้ทุกอย่าง บางอย่างไม่มีของใหม่ก็ยังพอหามือสองได้ แต่จะหารถดีได้รึปล่าวอันนี้อีกเรื่อง ถ้าจะเอาจริงนอกจากบอดี้สวยควรหาที่ภายในสภาพดีด้วยเพราะชิ้นส่วนภายในเป็นอะไรที่ผมรู้สึกว่าหายาก ที่มีแยกชิ้นขายก็แพงจัง
แต่ถ้ายังไม่มีอยู่ในมือผมคงไม่เชียร์ให้ซื้อครับ ปัญหาหลักคือมันขับเหนื่อยมาก เบรคคันเร่งพวงมาลัยหนักทุกอย่าง รถผมสลับไปขับได้วันสองวันผมก็กลับมาขับญี่ปุ่นละ นี่ผมอายุ36นะถ้าผู้ใหญ่น่าจะทรมาน
-
รถเก่า มันต้องซ่อม ถ้าเอาไว้เป็นรถสำรอง ที่ต้องซ่อม และ เก่า ผมว่ามันน่าปวดหัว
-
ตัวนี้น่าใช้มากๆครับ
ทน สมรรถนะดี สวย ถือว่าเป็นเบ๊นซ์ที่ให้อารมณ์เบ๊นซ์แท้ๆรุ่นท้ายๆแล้ว
ใจเย็นๆ หาดีๆยังได้อยู่ครับ
ของผม E280 ปี 1995 วิ่งไป 100,000 กม.แท้ พึ่งปล่อยไป 280,000 เมื่อกลางปีนี่เอง เพราะสร้างบ้านใหม่ ไม่มีที่จอด
แถมลืมถอด AMG 18 นิ้ว ออกก่อนจะมอบให้เจ้าของใหม่อีก
เศร้ามาก
-
ผมว่าสภาพดีๆหายากพอสมควรครับ
เอาที่เปลี่ยนอะไหล่มาเยอะๆแล้วก็ดีครับ
รถ bmw ผมปี 90s มีเรื่องให้ต้องตามซ่อมเดือนเว้นเดือนครับ
นี่ขนาดทำทั้งคันเบิกอะไหล่ใหม่แล้ว ก็มีของติดรถที่ทยอยเสียเรื่อยๆ
ถ้าคุณพ่อมีงบอยู่สักสองสามแสน และพอมีเวลา หรือสนุกกับการปั้นรถ
และเข้าเวบคลับศึกษาตัวรถมาสักระยะหนึ่งแล้ว ก็เริ่มหาได้เลยครับ
ถ้ายังทำการบ้านไม่มากพอ ผมไม่ค่อยแนะนำครับ :D
-
รถอายุเยอะมากแล้ว
ถ้าหาให้หา E220 ตัวสุดท้ายเท่าที่จะหาได้ครับ หรือหาคันที่สภาพดีที่สุด
และต้องทำใจว่าอายุขนาดนี้ไม่ว่าจะดูแลดีอย่างไร อะไหล่ทุกอย่างพร้อมจะเสียได้ทุกเมื่อ
คุณพ่อขอบนิ่มๆ ได้มาคงต้องเปลี่ยนอะไหล่ช่วงล่างพวกบูชยางทั้งหมด
โดยเน้นยางเต้าคานหลังให้ใช้ของแท้ แพงมากหน่อย แต่ใช้ลืมครับ
ฉะนั้นเวลาซ่อม ต้องถึงครับ อย่าซ่อมแค่พอใช้
-
เมื่อ 9 ปีที่แล้วผมซื้อมาใช้คันนึงเป็น e220 code c
ตัวรถถือว่าทนทานใช้ได้ เสียไม่จุกจิกเท่าไหร่ครับ
ใช้ได้ 2 ปีก็ขายไปครับ เพราะเหมือนอย่างที่ท่านข้างบนว่า คือรถเก่ามันจะเสียวนๆไป
เบื่อไปซื้ออะไหล่ แล้วเข้าอู่เปลี่ยน
หากใจรักก็ซื้อได้ครับ ค่าซ่อมไม่ถือว่าแพง
แต่รถอายุเท่านี้แล้วอะไหล่น่าจะหายากขึ้นบ้าง
รถสำรองผมว่าน่าจะเป็นพวกกระบะนะครับ ทนทานแถมอเอนกประสงค์
-
เดี๋ยวก็ต้องหารถสำรองมาเพิ่มอีกคันแน่ๆ
-
หามาใช้ได้ครับ แต่อย่าลืมเรื่องอู่+เงินค่าซ่อมด้วยนะครับ
-
ใช้อยู่ครับ รถเก่าแล้วยังไงก็ต้องมีเสียตามมาอยู่เรื่อยๆครับ ถ้าอยากจะใช้ต่อยาวๆต้องใจรักในตัวรถและซ่อมมันเหมือนเป็นงานอดิเรคหละครับ ในที่นี้หมายถึงซ่อมให้สมบูรณ์และวิ่งดีอย่างที่รถคันนี้ควรจะเป็น
ถ้าซ่อมแค่วิ่งได้มันก็พอได้อยู่ แต่แบบนี้เดี๋ยวก็เบื่อแล้วก็ขาย สู้เอาเงินไปซื้อรถญี่ปุ่นคันเล็กๆใหม่ๆกว่าจะได้อะไรมากกว่าครับ
ที่สำคัญ รถสำรองคงไม่ค่อยได้ขับ รถเก่าที่ไม่ค่อยได้ใช้จะเสื่อมเร็วมากจนน่าตกใจ อย่าเลยครับ
-
ถ้า
1 ไม่มีความรู้เรื่องรถ
2 ไม่รู้จักร้านอะไหล่
3 ถ้าไม่รู้จักอู่นอกที่ไว้ใจได้
4 ถ้าไม่ค่อยมีเวลา
ไม่แนะนำให้เล่นครับ ด้วยอายุรถที่มาก อะไหล่ที่ต้องเปลี่ยนถ้าซื้อมาบอกเลยว่าแทบทั้งคันถ้าจะเอาแบบขับสบายใจและปลอดภัยนะครับ
-
ขอบคุณความเห็นทุกๆท่านครับ
เดียวจะลองปรึกษากับแกดูครับ
-
หาเลยครับ ได้ของดี ๆนี่ การซ่อมไม่เยอะ แต่มันจะค่อย ๆ มีมาเรื่อย ๆ ตามอายุของมัน
อย่าปล่อยให้เสียหายก่อนซ่อม ....
-
รุ่นนี้ผมใช้ตั้งแต่ป้ายแดงจนขายไปสำหรับ280E W124 สมัยนั้นค่าซ่อมแพงกว่ารถญี่ปุ่นแต่ตอนนี้อะไหล่ถูกกว่าแล้วครับโดยเฉพาะช่วงล่างและโช้คอัพ ที่เคยเสียก็มีคอยล์จุดระเบิดและฝาครอบวาล์วผุสำหรับเครื่องยนต์ ที่เป็นจุดอ่อนก็คือคันเร่งแข็ง ขนาดย้ายสายคันเร่งก็ยังไม่ดีเท่าไหร่และเบรคไม่มั่นใจ ถ้าจะให้ดีควรเปลี่ยนหม้อลมเบรคเป็นแบบชั้นครึ่งครับ ที่เหลือก็ทนถึกมาก อีกเรื่องก็แอร์มักจะถูกตัดท่อDuo Valveที่คุมน้ำร้อนเพื่อปรับอุณหภูมิออกทำให้ช่วงอากาศเย็นปรับอุณหภูมิลำบากครับ
-
เปลี่ยนเครื่องยนต์
มอเตอร์ปัดน้ำฝน
ระบบไฟฟ้า
-
เคยใช้ครับ พึงขายเพราะพี่ทำงานขอซื้อ ใช้ดีครับไม่จุจิก ตอนนี้มี 190e เป็นรถสำรอง เทคโนโลยี่เดียวกัน ก็ยังใช้ได้ดีครับ