Headlight Magazine : community

General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: Dark Overlord ที่ ธันวาคม 22, 2016, 07:43:35

หัวข้อ: ผมเริ่มมองว่า Ecocar กับ Bcar คือรถระดับเดียวกันแล้วครับ
เริ่มหัวข้อโดย: Dark Overlord ที่ ธันวาคม 22, 2016, 07:43:35
เหมือน Altis Civic มีเครื่อง 1600, 1800, 2000
รถ sub-compact ก็มี 1200, 1300, 1400, 1500, 1600 ครับ
เพียงแต่ Eco car ถูกบังคับให้ทำมาห้ามเกิน 1300cc
แต่ตลกดีที่รัฐยอมให้ส่งออก eco car เป็นเครื่อง 1500 ด้วยครับ

คือในรถบอดี้ขนาดประมาณนี้ ไม่ว่าจะ Eco car 1200 หรือ รถเครื่อง 1500
ผมรู้สึกว่ามันดูเท่าเทียมกันไม่ต่างกันเลย แบบที่ตอนแรกๆ คนจะมองว่า Eco car ดูต่ำกว่า
ส่วน Brio / Brio Amaze / Celerio ควรอยู่ต่ำลงไปอีกตามขนาดรถของมันจริงๆ

สุดท้ายที่สุดไม่ว่าจะกะเกณฑ์จากกฎหมายทางภาษียังไง
ก็กลับมาที่ความเป็นจริงตามขนาดรถ ซึ่งต่างกันแค่กำลังเครื่องยนต์ ที่แทบไม่แตกต่าง
กันนักเมื่อใช้ในเมือง ทำให้ผู้ผลิตพยายามมาตีตั๋วเด็กกันด้วย เพื่อทำยอดให้ดีขึ้นตาม
ระดับภาษีแบบ Yaris ซึ่งคู่กับรถ 1500 Vios ที่มีวัสดุอุปกรณ์เหมือนกันเปี๊ยบเลย

ปัจจุบันรถที่คุ้มที่สุดน่าจะเป็น Eco car รุ่นกลางๆ อุปกรณ์ครบ
หรือ รถ 1500 รุ่นล่างสุดที่มี option ความปลอดภัยครบๆ ครับ



หัวข้อ: Re: ผมเริ่มมองว่า Ecocar กับ Bcar คือรถระดับเดียวกันแล้วครับ
เริ่มหัวข้อโดย: ps000000 ที่ ธันวาคม 22, 2016, 08:07:46
ผมชอบเครื่องใหญ่ไว้ก่อนเท่าที่จะมีเงินผ่อนได้
หัวข้อ: Re: ผมเริ่มมองว่า Ecocar กับ Bcar คือรถระดับเดียวกันแล้วครับ
เริ่มหัวข้อโดย: mamaman ที่ ธันวาคม 22, 2016, 08:36:41
นี่ก็อีกหนึ่ง ความวิบัติ ทางการคิดภาษีของไทยครับ
เศรษฐกิจไม่ดี รถโดยสารส่วนบุคคลประเทศไทยแพง เพราะภาษี TAX บิดเบือน ยอดขายต่ำ
จะทำยังไง ให้ อุตสหกรรม รถยนต์ยังอยู่ ก็กระตุ้น ทำรถภาษีต่ำ ซึ่งก็ไม่ต่ำนะ พวกล่อไป 17 % อยู่ดี ก็ยังแพง ของหลักหลายแสน เจอ 17 % ก็หนาว
เลยมาลงใน รถ class ที่เล็กที่สุด ในไทยคือ B-segment
เครื่องเล็ก body ใหญ่ โดยสาร สองคน ลดขนาดแบบไร้สติ 1.2-1.3 ลากรอบ สุดท้ายเปลืองไม่ต่าง B-Segment 1.5
ผมว่า Eco car มันมาแทน B-Car ที่โดนภาษี 25 % ไม่รวม VAT จนยอดขายต่ำ

เลยบีบให้ ต้องแก้กฏหมาย ขายรถเล็ก ด้วย การทดสอบ อัตราสิ้นเปลือง ที่ ไม่ได้ ใกล้เคียงการใช้งานจริงสักเท่าไหร่
หัวข้อ: Re: ผมเริ่มมองว่า Ecocar กับ Bcar คือรถระดับเดียวกันแล้วครับ
เริ่มหัวข้อโดย: Devil13 ที่ ธันวาคม 22, 2016, 08:52:18
ผมเคยทำงานในบริษัทรถยนต์ในสมัยช่วง Eco car กำลังมา
อยู่ตั้งแต่เริ่มโปรเจคจนจบโปรเจค โรงงานผมทำชิ้นส่วนโครงสร้างภายในของรถยนต์พวกนี้

ตอนแรกๆผมก็สนใจอยากได้รถถูกๆคันเล็ก จอดง่ายประหยัดน้ำมัน
แต่พออยู่วงในแล้วมันเห็นอะไรหลายอย่าง สเปคเหล็ก การประกอบ ต้นทุนการผลิตทำให้เกลียด Eco car ไปเลย

เอาเป็นว่า Eco car มันไม่ใช่รถ B-Seg ย่อส่วน
มันเป็นรถที่สร้างขึ้นโดยมีเงื่อนไขว่าต้องลดต้นทุน ชิ้นไหนไม่ต้องใส่ได้->ก็ถอดออก จาก B-Seg มีโครงสร้างชิ้นนี้ แต่Eco car ไม่ต้องมีก็ได้-> ก็ถอดออก
ชิ่นส่วนโครงสร้างของ Eco car หายไปหลายชิ้นมากเมื่อเที่ยบกับ B-Seg ครับ เน้นนะว่าหายไปหลายชิ้นแล้วเป็นชิ้นใหญ่ๆสำคัญๆก็มีด้วย

จริงๆผมอยากจะบอกเรื่องนี้หลายครั้งแต่ด้วยจรรณาบรรณของพนักงานที่ต้องรักษาความลับบริษัท จึงไม่อยากเอา Drawing มาเปิดเผย บอกได้เท่าที่ควร จะเชื่อไม่เชื่อก็แล้วแต่

หัวข้อ: Re: ผมเริ่มมองว่า Ecocar กับ Bcar คือรถระดับเดียวกันแล้วครับ
เริ่มหัวข้อโดย: johnlee ที่ ธันวาคม 22, 2016, 08:54:26
นี่ก็อีกหนึ่ง ความวิบัติ ทางการคิดภาษีของไทยครับ
เศรษฐกิจไม่ดี รถโดยสารส่วนบุคคลประเทศไทยแพง เพราะภาษี TAX บิดเบือน ยอดขายต่ำ
จะทำยังไง ให้ อุตสหกรรม รถยนต์ยังอยู่ ก็กระตุ้น ทำรถภาษีต่ำ ซึ่งก็ไม่ต่ำนะ พวกล่อไป 17 % อยู่ดี ก็ยังแพง ของหลักหลายแสน เจอ 17 % ก็หนาว
เลยมาลงใน รถ class ที่เล็กที่สุด ในไทยคือ B-segment
เครื่องเล็ก body ใหญ่ โดยสาร สองคน ลดขนาดแบบไร้สติ 1.2-1.3 ลากรอบ สุดท้ายเปลืองไม่ต่าง B-Segment 1.5
ผมว่า Eco car มันมาแทน B-Car ที่โดนภาษี 25 % ไม่รวม VAT จนยอดขายต่ำ

เลยบีบให้ ต้องแก้กฏหมาย ขายรถเล็ก ด้วย การทดสอบ อัตราสิ้นเปลือง ที่ ไม่ได้ ใกล้เคียงการใช้งานจริงสักเท่าไหร่

ไม่เลยครับ ผมใช้ อีโค่ อยู่ และญาติๆใช้รถ 1.5 หลายคัน

บอกเลย ถ้าขับเหมือนกัน เส้นทางเดียวกัน 1.2 กินน้อยกว่า 1.5 ทุกกรณีครับ

1.2จะกินมากกว่า แค่ นั่งมากกว่า ขึ้นเขาทางชัน 1.2 อาจจะกินเท่าหรือมากกว่า 1.5 นิดๆ
พอลงมาทางราบ 1.2 ก็ประหยัดกว่าครับ
หัวข้อ: Re: ผมเริ่มมองว่า Ecocar กับ Bcar คือรถระดับเดียวกันแล้วครับ
เริ่มหัวข้อโดย: @MIN ที่ ธันวาคม 22, 2016, 09:02:06
ผมเคยทำงานในบริษัทรถยนต์ในสมัยช่วง Eco car กำลังมา
อยู่ตั้งแต่เริ่มโปรเจคจนจบโปรเจค โรงงานผมทำชิ้นส่วนโครงสร้างภายในของรถยนต์พวกนี้

ตอนแรกๆผมก็สนใจอยากได้รถถูกๆคันเล็ก จอดง่ายประหยัดน้ำมัน
แต่พออยู่วงในแล้วมันเห็นอะไรหลายอย่าง สเปคเหล็ก การประกอบ ต้นทุนการผลิตทำให้เกลียด Eco car ไปเลย

เอาเป็นว่า Eco car มันไม่ใช่รถ B-Seg ย่อส่วน
มันเป็นรถที่สร้างขึ้นโดยมีเงื่อนไขว่าต้องลดต้นทุน ชิ้นไหนไม่ต้องใส่ได้->ก็ถอดออก จาก B-Seg มีโครงสร้างชิ้นนี้ แต่Eco car ไม่ต้องมีก็ได้-> ก็ถอดออก
ชิ่นส่วนโครงสร้างของ Eco car หายไปหลายชิ้นมากเมื่อเที่ยบกับ B-Seg ครับ เน้นนะว่าหายไปหลายชิ้นแล้วเป็นชิ้นใหญ่ๆสำคัญๆก็มีด้วย

จริงๆผมอยากจะบอกเรื่องนี้หลายครั้งแต่ด้วยจรรณาบรรณของพนักงานที่ต้องรักษาความลับบริษัท จึงไม่อยากเอา Drawing มาเปิดเผย บอกได้เท่าที่ควร จะเชื่อไม่เชื่อก็แล้วแต่

รวมถึง  ecocar  อย่าง  mazda 2 skyactiv  ด้วยหรือเปล่าครับ
หัวข้อ: Re: ผมเริ่มมองว่า Ecocar กับ Bcar คือรถระดับเดียวกันแล้วครับ
เริ่มหัวข้อโดย: Amateur ที่ ธันวาคม 22, 2016, 09:04:19
ผมเคยทำงานในบริษัทรถยนต์ในสมัยช่วง Eco car กำลังมา
อยู่ตั้งแต่เริ่มโปรเจคจนจบโปรเจค โรงงานผมทำชิ้นส่วนโครงสร้างภายในของรถยนต์พวกนี้

ตอนแรกๆผมก็สนใจอยากได้รถถูกๆคันเล็ก จอดง่ายประหยัดน้ำมัน
แต่พออยู่วงในแล้วมันเห็นอะไรหลายอย่าง สเปคเหล็ก การประกอบ ต้นทุนการผลิตทำให้เกลียด Eco car ไปเลย

เอาเป็นว่า Eco car มันไม่ใช่รถ B-Seg ย่อส่วน
มันเป็นรถที่สร้างขึ้นโดยมีเงื่อนไขว่าต้องลดต้นทุน ชิ้นไหนไม่ต้องใส่ได้->ก็ถอดออก จาก B-Seg มีโครงสร้างชิ้นนี้ แต่Eco car ไม่ต้องมีก็ได้-> ก็ถอดออก
ชิ่นส่วนโครงสร้างของ Eco car หายไปหลายชิ้นมากเมื่อเที่ยบกับ B-Seg ครับ เน้นนะว่าหายไปหลายชิ้นแล้วเป็นชิ้นใหญ่ๆสำคัญๆก็มีด้วย

จริงๆผมอยากจะบอกเรื่องนี้หลายครั้งแต่ด้วยจรรณาบรรณของพนักงานที่ต้องรักษาความลับบริษัท จึงไม่อยากเอา Drawing มาเปิดเผย บอกได้เท่าที่ควร จะเชื่อไม่เชื่อก็แล้วแต่



เวลาผมออกต่างจังหวัด เห็นรถ eco car คันเล็กๆที่ขับซิ่งปาดซ้ายปาดขวา ยังนั่งคิดในใจ ภาวนาว่าอย่าให้เขาเกิดอุบัติเหตุเลย
หัวข้อ: Re: ผมเริ่มมองว่า Ecocar กับ Bcar คือรถระดับเดียวกันแล้วครับ
เริ่มหัวข้อโดย: mamaman ที่ ธันวาคม 22, 2016, 09:18:54

ไม่เลยครับ ผมใช้ อีโค่ อยู่ และญาติๆใช้รถ 1.5 หลายคัน
บอกเลย ถ้าขับเหมือนกัน เส้นทางเดียวกัน 1.2 กินน้อยกว่า 1.5 ทุกกรณีครับ
1.2จะกินมากกว่า แค่ นั่งมากกว่า ขึ้นเขาทางชัน 1.2 อาจจะกินเท่าหรือมากกว่า 1.5 นิดๆ
พอลงมาทางราบ 1.2 ก็ประหยัดกว่าครับ

ผมหมายถึง การใช้งานจริงที่ รถไม่ได้นั่งแค่ สองคนครับ
คำว่า กินน้อยกว่า ในที่นี้ คือ แลกกับ สมรรถนะ ที่หายไป ผมมองว่ามันไม่คุ้มเลย
หัวข้อ: Re: ผมเริ่มมองว่า Ecocar กับ Bcar คือรถระดับเดียวกันแล้วครับ
เริ่มหัวข้อโดย: JeansZ ที่ ธันวาคม 22, 2016, 09:21:17
1.2 เอาไปจูนให้มันแรงเท่า 1.5 กินกว่า 1.5 อีกครับ Yaris น้องผม ติดกล่องคันเร่งไฟฟ้า รีแมพ เรื่องความแรงไม่เถียง แรงพอๆ กับ Fiesta ecoboost แต่อัตราสิ้นเปลืองนี่ หาเลขสองตัวยากมาก

ผมว่า Yaris ควรจะมีรุ่นเครื่อง 1.5 ขายคู่ไปด้วย ราคาเท่า Vios ก็ยังดี
หัวข้อ: Re: ผมเริ่มมองว่า Ecocar กับ Bcar คือรถระดับเดียวกันแล้วครับ
เริ่มหัวข้อโดย: Pegasus7700 ที่ ธันวาคม 22, 2016, 09:30:15
คำว่าคุ้ม มันนิยามได้ต่างกันนะ

สำหรับผม b บางค่าย ก้อคุ้ม  ระดับเดียวกับ  บางค่าย
หัวข้อ: Re: ผมเริ่มมองว่า Ecocar กับ Bcar คือรถระดับเดียวกันแล้วครับ
เริ่มหัวข้อโดย: CNX ที่ ธันวาคม 22, 2016, 09:32:56
SUZUKI  SWIFT 1.2  ใช้3วัน ขับตจว. ระยอง บ่อวิน นิคมอุตสาหกรรม
เติมน้ำมันE20 เต็มถัง
ระยะทาง/จำนวนลิตร ได้ 12.xx 
แตกต่างจากหน้าปัทรถ ที่คำนวนอัตราเฉลี่ย 17-18กม./ลิตร

เปลืองกว่าเฟียสตา1.5 ครับ ได้14-16กม./ลิตร (เติมน้ำมันเต็มถังกลับ)

ไม่รู้ว่า ผู้ใช้ SWIFT  เป็นอย่างไรกันบ้างครับ
หัวข้อ: Re: ผมเริ่มมองว่า Ecocar กับ Bcar คือรถระดับเดียวกันแล้วครับ
เริ่มหัวข้อโดย: holidayaholic ที่ ธันวาคม 22, 2016, 09:43:42
SUZUKI  SWIFT 1.2  ใช้3วัน ขับตจว. ระยอง บ่อวิน นิคมอุตสาหกรรม
เติมน้ำมันE20 เต็มถัง
ระยะทาง/จำนวนลิตร ได้ 12.xx 
แตกต่างจากหน้าปัทรถ ที่คำนวนอัตราเฉลี่ย 17-18กม./ลิตร

เปลืองกว่าเฟียสตา1.5 ครับ ได้14-16กม./ลิตร (เติมน้ำมันเต็มถังกลับ)

ไม่รู้ว่า ผู้ใช้ SWIFT  เป็นอย่างไรกันบ้างครับ

ของผมเติม E20 บางจาก คำนวณจากน้ำมันที่เติมเพิ่ม ไม่ดูจากจอ

ใช้งานกรุงเทพ ทางด่วน + ทางธรรมดา ขับไม่เกิน 120 km/h

ได้ 14 km/l ครับ
หัวข้อ: Re: ผมเริ่มมองว่า Ecocar กับ Bcar คือรถระดับเดียวกันแล้วครับ
เริ่มหัวข้อโดย: Dark Overlord ที่ ธันวาคม 22, 2016, 10:00:40
ผมเคยทำงานในบริษัทรถยนต์ในสมัยช่วง Eco car กำลังมา
อยู่ตั้งแต่เริ่มโปรเจคจนจบโปรเจค โรงงานผมทำชิ้นส่วนโครงสร้างภายในของรถยนต์พวกนี้

ตอนแรกๆผมก็สนใจอยากได้รถถูกๆคันเล็ก จอดง่ายประหยัดน้ำมัน
แต่พออยู่วงในแล้วมันเห็นอะไรหลายอย่าง สเปคเหล็ก การประกอบ ต้นทุนการผลิตทำให้เกลียด Eco car ไปเลย

เอาเป็นว่า Eco car มันไม่ใช่รถ B-Seg ย่อส่วน
มันเป็นรถที่สร้างขึ้นโดยมีเงื่อนไขว่าต้องลดต้นทุน ชิ้นไหนไม่ต้องใส่ได้->ก็ถอดออก จาก B-Seg มีโครงสร้างชิ้นนี้ แต่Eco car ไม่ต้องมีก็ได้-> ก็ถอดออก
ชิ่นส่วนโครงสร้างของ Eco car หายไปหลายชิ้นมากเมื่อเที่ยบกับ B-Seg ครับ เน้นนะว่าหายไปหลายชิ้นแล้วเป็นชิ้นใหญ่ๆสำคัญๆก็มีด้วย

จริงๆผมอยากจะบอกเรื่องนี้หลายครั้งแต่ด้วยจรรณาบรรณของพนักงานที่ต้องรักษาความลับบริษัท จึงไม่อยากเอา Drawing มาเปิดเผย บอกได้เท่าที่ควร จะเชื่อไม่เชื่อก็แล้วแต่

รวมถึง  ecocar  อย่าง  mazda 2 skyactiv  ด้วยหรือเปล่าครับ

Mazda 2 sky เทียบกับ Mazda 2 รุ่นเดิมรึเปล่าครับ

ผมว่าเคส Civic FC ก็ตลกดีครับ
รุ่น 1.5 Turbo ได้แอร์ออโต้เต็มระบบ
แต่รุ่น 1.8 ได้แอร์ออโต้คุมเฉพาะพัดลม
ขนาดรุ่นเดียวกัน ยังแบ่งชนชั้นกันตามราคา

Eco car ก็น่าจะตัดบางส่วนเช่นกัน
ถ้ากังวลเรื่องการปะทะ B car 1500 ตัวล่างน่าจะโอเคกว่า
แต่ส่วนตัวผมมองว่าไม่ได้แตกต่างกันขนาดแบ่งเป็นคนล่ะ segment ครับ
แล้วกันขึ้นอยู่กับแต่ละ brand ด้วยว่าใครอยากตัดหรือไม่อยากตัด
ซึ่งก็อาจจะไม่ตัดอะไรเลยก็เป็นไปได้ครับ
หัวข้อ: Re: ผมเริ่มมองว่า Ecocar กับ Bcar คือรถระดับเดียวกันแล้วครับ
เริ่มหัวข้อโดย: Newhang ที่ ธันวาคม 22, 2016, 10:01:25
ผมเคยทำงานในบริษัทรถยนต์ในสมัยช่วง Eco car กำลังมา
อยู่ตั้งแต่เริ่มโปรเจคจนจบโปรเจค โรงงานผมทำชิ้นส่วนโครงสร้างภายในของรถยนต์พวกนี้

ตอนแรกๆผมก็สนใจอยากได้รถถูกๆคันเล็ก จอดง่ายประหยัดน้ำมัน
แต่พออยู่วงในแล้วมันเห็นอะไรหลายอย่าง สเปคเหล็ก การประกอบ ต้นทุนการผลิตทำให้เกลียด Eco car ไปเลย

เอาเป็นว่า Eco car มันไม่ใช่รถ B-Seg ย่อส่วน
มันเป็นรถที่สร้างขึ้นโดยมีเงื่อนไขว่าต้องลดต้นทุน ชิ้นไหนไม่ต้องใส่ได้->ก็ถอดออก จาก B-Seg มีโครงสร้างชิ้นนี้ แต่Eco car ไม่ต้องมีก็ได้-> ก็ถอดออก
ชิ่นส่วนโครงสร้างของ Eco car หายไปหลายชิ้นมากเมื่อเที่ยบกับ B-Seg ครับ เน้นนะว่าหายไปหลายชิ้นแล้วเป็นชิ้นใหญ่ๆสำคัญๆก็มีด้วย

จริงๆผมอยากจะบอกเรื่องนี้หลายครั้งแต่ด้วยจรรณาบรรณของพนักงานที่ต้องรักษาความลับบริษัท จึงไม่อยากเอา Drawing มาเปิดเผย บอกได้เท่าที่ควร จะเชื่อไม่เชื่อก็แล้วแต่

เฉพาะบางรุ่นรึเปล่าครับ ถ้า march อาจจะเป็น
แต่swift yaris เป็นแบบนั้นด้วยรึเปล่า

ผมเคยได้ยินว่าชิ้นส่วน march ลดต้นทุนมาก และเมื่อได้ยินว่าช่วงแรกๆของ eco car ผมทำให้ผมคิดถึงมัน แต่จะไปเหมารวมว่า eco car คันอื่นขะเป็นแบบ march คงจะไม่ดี  เลยขอถามว่าที่ทำมาเป็นmarchรึเปล่า พวกรถeco car บอดี้ที่ไม่ได้เป็น eco car ตั้งแต่เกิดอาจจะไม่เป็นก็ได้ครับ
หัวข้อ: Re: ผมเริ่มมองว่า Ecocar กับ Bcar คือรถระดับเดียวกันแล้วครับ
เริ่มหัวข้อโดย: mamaman ที่ ธันวาคม 22, 2016, 10:02:40

เรื่อง ลดต้นทุน มันแล้วแต่ OEM ครับ
ไม่ได้เกี่ยวกับ Eco หรือไม่ใช่

รุ่นไหนๆ ก็เป็นได้เพราะ หากยอดขายเยอะ ตัว คูณ มันก็เยอะ ฝ่าย ลดราคา ก็ได้หน้าไป
หัวข้อ: Re: ผมเริ่มมองว่า Ecocar กับ Bcar คือรถระดับเดียวกันแล้วครับ
เริ่มหัวข้อโดย: kiwiwi ที่ ธันวาคม 22, 2016, 10:11:33
กฏหมายยังคลุมเครืออยู่

ก็เป็นเหตุให้บริษัทรถเอารถที่มีอยู่ในไลน์มาลดขนาดความจุ ก็เข้าเกณฑ์แล้ว

เท่านั้นเองครับ อย่าคิดเยอะ
 
ถ้าคิดเยอะ ก็คงเป็นด้านของฮอนด้า
(แต่อันนี้ก็เป็นความคิดส่วนตัวนะ)
แทนที่จะใช้ jazz ใส่เครื่อง 1.2 มาแข่งกะยาริสตรงๆ

แกดันเอา บริโอ ที่ผ่านเกณฑ์อีโคคาร์ของที่อื่นมาขายในบ้านเราแข่งกับรถที่คันใหญ่กว่าเยอะ แถมตั้งราคาเท่ากับรถที่คันใหญ่กว่า

หัวข้อ: Re: ผมเริ่มมองว่า Ecocar กับ Bcar คือรถระดับเดียวกันแล้วครับ
เริ่มหัวข้อโดย: Dark Overlord ที่ ธันวาคม 22, 2016, 10:21:55
กฏหมายยังคลุมเครืออยู่

ก็เป็นเหตุให้บริษัทรถเอารถที่มีอยู่ในไลน์มาลดขนาดความจุ ก็เข้าเกณฑ์แล้ว

เท่านั้นเองครับ อย่าคิดเยอะ
 
ถ้าคิดเยอะ ก็คงเป็นด้านของฮอนด้า
(แต่อันนี้ก็เป็นความคิดส่วนตัวนะ)
แทนที่จะใช้ jazz ใส่เครื่อง 1.2 มาแข่งกะยาริสตรงๆ

แกดันเอา บริโอ ที่ผ่านเกณฑ์อีโคคาร์ของที่อื่นมาขายในบ้านเราแข่งกับรถที่คันใหญ่กว่าเยอะ แถมตั้งราคาเท่ากับรถที่คันใหญ่กว่า

สรุป Honda เป็นพวกคิดมากเกิน 555  ;D
จริงครับตระกูล Brio ควรไปดังอยู่แถบอินเดียอินโดพอแล้ว

เห็นด้วยว่า Jazz ควรลงมา 1200 ครับ
ส่วน Almera ควรไป 1500
ตามความเหมาะสมของรูปทรงและน้ำหนัก
จู่ๆ จะยัด Almera เป็น eco car ทำให้มันอืดมากไป อันตรายอีก
เวลาคับขันตอนวิ่งต่างจังหวัด ถึงจะทำให้ได้ผลเรื่องยอดขาย แต่อะไรที่มันสุดโต่งไปแบบนี้ไม่ดีๆ
แต่ยอมรับว่าตอนแรก ผมก็คิดว่า Nissan คิดต่างดีแฮะ แต่ที่จริงมันก็อาจจะเกินไป
คิดดูว่า ต่างประเทศ Almera ได้เครื่อง 1500-1600 หมด
หัวข้อ: Re: ผมเริ่มมองว่า Ecocar กับ Bcar คือรถระดับเดียวกันแล้วครับ
เริ่มหัวข้อโดย: kumpol2511 ที่ ธันวาคม 22, 2016, 10:38:19
ผมเคยทำงานในบริษัทรถยนต์ในสมัยช่วง Eco car กำลังมา
อยู่ตั้งแต่เริ่มโปรเจคจนจบโปรเจค โรงงานผมทำชิ้นส่วนโครงสร้างภายในของรถยนต์พวกนี้

ตอนแรกๆผมก็สนใจอยากได้รถถูกๆคันเล็ก จอดง่ายประหยัดน้ำมัน
แต่พออยู่วงในแล้วมันเห็นอะไรหลายอย่าง สเปคเหล็ก การประกอบ ต้นทุนการผลิตทำให้เกลียด Eco car ไปเลย

เอาเป็นว่า Eco car มันไม่ใช่รถ B-Seg ย่อส่วน
มันเป็นรถที่สร้างขึ้นโดยมีเงื่อนไขว่าต้องลดต้นทุน ชิ้นไหนไม่ต้องใส่ได้->ก็ถอดออก จาก B-Seg มีโครงสร้างชิ้นนี้ แต่Eco car ไม่ต้องมีก็ได้-> ก็ถอดออก
ชิ่นส่วนโครงสร้างของ Eco car หายไปหลายชิ้นมากเมื่อเที่ยบกับ B-Seg ครับ เน้นนะว่าหายไปหลายชิ้นแล้วเป็นชิ้นใหญ่ๆสำคัญๆก็มีด้วย

จริงๆผมอยากจะบอกเรื่องนี้หลายครั้งแต่ด้วยจรรณาบรรณของพนักงานที่ต้องรักษาความลับบริษัท จึงไม่อยากเอา Drawing มาเปิดเผย บอกได้เท่าที่ควร จะเชื่อไม่เชื่อก็แล้วแต่

รวมถึง  ecocar  อย่าง  mazda 2 skyactiv  ด้วยหรือเปล่าครับ
ใช้อยู่ครับ ออกลอตแรกเลย ยังมีความสุขกับการใช้งาน ไว้อีกหลายปีถ้ามีอะไรไม่ดีจะแจ้งให้ทราบ ด่วน เลยครับ
หัวข้อ: Re: ผมเริ่มมองว่า Ecocar กับ Bcar คือรถระดับเดียวกันแล้วครับ
เริ่มหัวข้อโดย: ซิ่งเข้าส้วม ที่ ธันวาคม 22, 2016, 11:17:33
กฏหมายยังคลุมเครืออยู่

ก็เป็นเหตุให้บริษัทรถเอารถที่มีอยู่ในไลน์มาลดขนาดความจุ ก็เข้าเกณฑ์แล้ว

เท่านั้นเองครับ อย่าคิดเยอะ
 
ถ้าคิดเยอะ ก็คงเป็นด้านของฮอนด้า
(แต่อันนี้ก็เป็นความคิดส่วนตัวนะ)
แทนที่จะใช้ jazz ใส่เครื่อง 1.2 มาแข่งกะยาริสตรงๆ

แกดันเอา บริโอ ที่ผ่านเกณฑ์อีโคคาร์ของที่อื่นมาขายในบ้านเราแข่งกับรถที่คันใหญ่กว่าเยอะ แถมตั้งราคาเท่ากับรถที่คันใหญ่กว่า

สรุป Honda เป็นพวกคิดมากเกิน 555  ;D
จริงครับตระกูล Brio ควรไปดังอยู่แถบอินเดียอินโดพอแล้ว

เห็นด้วยว่า Jazz ควรลงมา 1200 ครับ
ส่วน Almera ควรไป 1500
ตามความเหมาะสมของรูปทรงและน้ำหนัก
จู่ๆ จะยัด Almera เป็น eco car ทำให้มันอืดมากไป อันตรายอีก
เวลาคับขันตอนวิ่งต่างจังหวัด ถึงจะทำให้ได้ผลเรื่องยอดขาย แต่อะไรที่มันสุดโต่งไปแบบนี้ไม่ดีๆ
แต่ยอมรับว่าตอนแรก ผมก็คิดว่า Nissan คิดต่างดีแฮะ แต่ที่จริงมันก็อาจจะเกินไป
คิดดูว่า ต่างประเทศ Almera ได้เครื่อง 1500-1600 หมด

เดี๋ยวโน้ตมา คุณอาจจะได้เจอความอืดที่คุณจะต้องอึ่ง(อ่าง)เลยก็ได้ครับ น่าจะใช้หลักการอืดเข้าไป จะได้ผ่านเกณฑ์ภาษี
หัวข้อ: Re: ผมเริ่มมองว่า Ecocar กับ Bcar คือรถระดับเดียวกันแล้วครับ
เริ่มหัวข้อโดย: Krongbun ที่ ธันวาคม 22, 2016, 12:19:34
SUZUKI  SWIFT 1.2  ใช้3วัน ขับตจว. ระยอง บ่อวิน นิคมอุตสาหกรรม
เติมน้ำมันE20 เต็มถัง
ระยะทาง/จำนวนลิตร ได้ 12.xx 
แตกต่างจากหน้าปัทรถ ที่คำนวนอัตราเฉลี่ย 17-18กม./ลิตร

เปลืองกว่าเฟียสตา1.5 ครับ ได้14-16กม./ลิตร (เติมน้ำมันเต็มถังกลับ)

ไม่รู้ว่า ผู้ใช้ SWIFT  เป็นอย่างไรกันบ้างครับ

ของผมเติม E20 บางจาก คำนวณจากน้ำมันที่เติมเพิ่ม ไม่ดูจากจอ

ใช้งานกรุงเทพ ทางด่วน + ทางธรรมดา ขับไม่เกิน 120 km/h

ได้ 14 km/l ครับ

 ;D ออกมาวันแรกใช้วิธีเติมเต็มแล้วจับระยะทางแล้วเติมเข้าไปใหม่ครับ
เทียบแล้วต่างกับหน้าจอ ประมาณ 1-0.7 km/L ครับ ก็เลยพอเชื่อถือได้
ผมวิ่ง กทม-อยุธยา 

ไม่แน่ใจว่า 17-18 km/L ดูตอนกด reset หรือดูตอนวิ่งครับ
แล้วก็เครื่อง 1.2 ค่อยๆกดน้ะครับ กดเยอะแดกแหลกเลย เข้าใจว่ามันไม่ค่อยวิ่ง hahaha

ถ้าใน กทม มันก็ประมาณนั้นแหละครับ 14 km/L ได้พอพอกัน  ::)

ยกตตัวอย่างไปเที่ยว ขาไปนั่ง 5 ค ขากลับนั่ง 4 ค มีลังน้ำแข็ง หมู กระเป๋าพรึบ
สัตหีบ-อยุธยา 450 km วัดจาก google ไม่รวมวิ่งเที่ยวเล่น
เติมไปประมาณ 600-700 E20 ลิตรละ 24 บาท
ขาไปวิ่ง 110-120 ขากลับ 120-140 ก็ตก 15 km/L
ก็ประมาณนี้ครับ เครื่อง 1.2 วิ่งเกิน 90-100 ก็เกินจุดประหยัดของมันละครับ
ออกตัวค่อยๆออก อย่าพรวดพราด ถ้าพรวดพราดอย่าแช่ครับ
ค่อยๆผ่อนลงมา รอบมันจะลง แล้ว CVT จะทำหน้าที่ต่อไต่ความเร็วแบบหวานเย็น  :P
หัวข้อ: Re: ผมเริ่มมองว่า Ecocar กับ Bcar คือรถระดับเดียวกันแล้วครับ
เริ่มหัวข้อโดย: e:smart Hybrid ที่ ธันวาคม 22, 2016, 12:19:54
เห็นด้วยคับ

อยากให้ Jazz มีเครื่อง 1.2 มากกว่าครับ

เสียดายมากที่ดันเอาเครื่อง 1.5 มาลง

จริงๆ Jazz 1.2 ถ้ามาตัด Brio 5 ประตูออกไปได้เลยคับ

ส่วน 4 ประตูเก็บไว้ได้

https://www.youtube.com/watch?v=kY2A3VvrR7w (https://www.youtube.com/watch?v=kY2A3VvrR7w)

ปล..ชอบเบาะแบบอินเดียคับ ดูเต็มก้นดี
หัวข้อ: Re: ผมเริ่มมองว่า Ecocar กับ Bcar คือรถระดับเดียวกันแล้วครับ
เริ่มหัวข้อโดย: Dark Overlord ที่ ธันวาคม 22, 2016, 12:45:30
เห็นด้วยคับ

อยากให้ Jazz มีเครื่อง 1.2 มากกว่าครับ

เสียดายมากที่ดันเอาเครื่อง 1.5 มาลง

จริงๆ Jazz 1.2 ถ้ามาตัด Brio 5 ประตูออกไปได้เลยคับ

ส่วน 4 ประตูเก็บไว้ได้

https://www.youtube.com/watch?v=kY2A3VvrR7w (https://www.youtube.com/watch?v=kY2A3VvrR7w)

ปล..ชอบเบาะแบบอินเดียคับ ดูเต็มก้นดี

ผมก็คิดว่า Jazz เน้นประหยัดน้ำมันดูเข้ากับบุคลิกรถดีครับ
หัวข้อ: Re: ผมเริ่มมองว่า Ecocar กับ Bcar คือรถระดับเดียวกันแล้วครับ
เริ่มหัวข้อโดย: kiwiwi ที่ ธันวาคม 22, 2016, 12:55:55
กฏหมายยังคลุมเครืออยู่

ก็เป็นเหตุให้บริษัทรถเอารถที่มีอยู่ในไลน์มาลดขนาดความจุ ก็เข้าเกณฑ์แล้ว

เท่านั้นเองครับ อย่าคิดเยอะ
 
ถ้าคิดเยอะ ก็คงเป็นด้านของฮอนด้า
(แต่อันนี้ก็เป็นความคิดส่วนตัวนะ)
แทนที่จะใช้ jazz ใส่เครื่อง 1.2 มาแข่งกะยาริสตรงๆ

แกดันเอา บริโอ ที่ผ่านเกณฑ์อีโคคาร์ของที่อื่นมาขายในบ้านเราแข่งกับรถที่คันใหญ่กว่าเยอะ แถมตั้งราคาเท่ากับรถที่คันใหญ่กว่า

สรุป Honda เป็นพวกคิดมากเกิน 555  ;D
จริงครับตระกูล Brio ควรไปดังอยู่แถบอินเดียอินโดพอแล้ว

เห็นด้วยว่า Jazz ควรลงมา 1200 ครับ
ส่วน Almera ควรไป 1500
ตามความเหมาะสมของรูปทรงและน้ำหนัก
จู่ๆ จะยัด Almera เป็น eco car ทำให้มันอืดมากไป อันตรายอีก
เวลาคับขันตอนวิ่งต่างจังหวัด ถึงจะทำให้ได้ผลเรื่องยอดขาย แต่อะไรที่มันสุดโต่งไปแบบนี้ไม่ดีๆ
แต่ยอมรับว่าตอนแรก ผมก็คิดว่า Nissan คิดต่างดีแฮะ แต่ที่จริงมันก็อาจจะเกินไป
คิดดูว่า ต่างประเทศ Almera ได้เครื่อง 1500-1600 หมด

ครับ รายนั้น(อัลเมร่า) เค้าไม่คิดมากไงครับ ตามน้ำไปเลย คนใช้บางส่วนอาจไม่แฮปปี้ แต่เจอราคากับขนาด เลยมีลังเลไงครับ

ยอดขายก็เลยตามน้ำเรื่อยๆเปื่อยๆ
ทุกวันนี้ยังมีคนเอาขนาดไปเปรียบเทียบกับ b ซึ่งในมุมของผมกับคุณ ก็คือคือกัน 555

หัวข้อ: Re: ผมเริ่มมองว่า Ecocar กับ Bcar คือรถระดับเดียวกันแล้วครับ
เริ่มหัวข้อโดย: mothsan ที่ ธันวาคม 22, 2016, 13:20:49
ผมก็ยังมองว่า Eco care อย่าง Yaris, March ,Mirage, Brio ภาพลักษณ์ต่ำกว่า Vios, City, Jazz นะ ยกเว้น Mazda 2 ที่เป็น B segment

แต่ Eco car บางรุ่น เครื่องเล็กกว่าปกติ แต่ราคาไม่เล็กซะงั้น ราคาพอๆกับ B segment เครื่องพันห้าเลย อย่าง yaris ไง

ํYaris ราคาใกล้ Vios แต่ผมมองภาพลักษณ์ต่ำว่า Vios เยอะอยู่
หัวข้อ: Re: ผมเริ่มมองว่า Ecocar กับ Bcar คือรถระดับเดียวกันแล้วครับ
เริ่มหัวข้อโดย: Dark Overlord ที่ ธันวาคม 22, 2016, 13:42:56
ผมก็ยังมองว่า Eco care อย่าง Yaris, March ,Mirage, Brio ภาพลักษณ์ต่ำกว่า Vios, City, Jazz นะ ยกเว้น Mazda 2 ที่เป็น B segment

แต่ Eco car บางรุ่น เครื่องเล็กกว่าปกติ แต่ราคาไม่เล็กซะงั้น ราคาพอๆกับ B segment เครื่องพันห้าเลย อย่าง yaris ไง

ํYaris ราคาใกล้ Vios แต่ผมมองภาพลักษณ์ต่ำว่า Vios เยอะอยู่

ส่วนผมมองว่าทั้งคู่เป็นรถเล็กเน้นใช้งานครับ เรื่องภาพลักษณ์นี่ไม่ได้คิดเลย
หัวข้อ: Re: ผมเริ่มมองว่า Ecocar กับ Bcar คือรถระดับเดียวกันแล้วครับ
เริ่มหัวข้อโดย: Zachary C ที่ ธันวาคม 22, 2016, 13:43:50
ผมเคยทำงานในบริษัทรถยนต์ในสมัยช่วง Eco car กำลังมา
อยู่ตั้งแต่เริ่มโปรเจคจนจบโปรเจค โรงงานผมทำชิ้นส่วนโครงสร้างภายในของรถยนต์พวกนี้

ตอนแรกๆผมก็สนใจอยากได้รถถูกๆคันเล็ก จอดง่ายประหยัดน้ำมัน
แต่พออยู่วงในแล้วมันเห็นอะไรหลายอย่าง สเปคเหล็ก การประกอบ ต้นทุนการผลิตทำให้เกลียด Eco car ไปเลย

เอาเป็นว่า Eco car มันไม่ใช่รถ B-Seg ย่อส่วน
มันเป็นรถที่สร้างขึ้นโดยมีเงื่อนไขว่าต้องลดต้นทุน ชิ้นไหนไม่ต้องใส่ได้->ก็ถอดออก จาก B-Seg มีโครงสร้างชิ้นนี้ แต่Eco car ไม่ต้องมีก็ได้-> ก็ถอดออก
ชิ่นส่วนโครงสร้างของ Eco car หายไปหลายชิ้นมากเมื่อเที่ยบกับ B-Seg ครับ เน้นนะว่าหายไปหลายชิ้นแล้วเป็นชิ้นใหญ่ๆสำคัญๆก็มีด้วย

จริงๆผมอยากจะบอกเรื่องนี้หลายครั้งแต่ด้วยจรรณาบรรณของพนักงานที่ต้องรักษาความลับบริษัท จึงไม่อยากเอา Drawing มาเปิดเผย บอกได้เท่าที่ควร จะเชื่อไม่เชื่อก็แล้วแต่

น่าสนใจมากครับ  ;)

สำหรับผม มี Eco Cars เพียงสองรุ่น ที่ชอบ คือ Yaris และ Ciaz

ส่วนตัวที่มองว่า ประหลาดสุด ในตลาด คือ Brio (แต่ก็ยังไม่วาย ไปซื้อร่างแปลง ของมันมา)
หัวข้อ: Re: ผมเริ่มมองว่า Ecocar กับ Bcar คือรถระดับเดียวกันแล้วครับ
เริ่มหัวข้อโดย: Nonlamer ที่ ธันวาคม 22, 2016, 15:40:31
ผมว่าขึ้นกับการใช้งานเป็นหลักด้วยครับ สำหรับผมระหว่าง 2 Seg นี้นั้นยังแยกกันอยู่
หัวข้อ: Re: ผมเริ่มมองว่า Ecocar กับ Bcar คือรถระดับเดียวกันแล้วครับ
เริ่มหัวข้อโดย: CNX ที่ ธันวาคม 22, 2016, 18:02:28

ของผมเติม E20 บางจาก คำนวณจากน้ำมันที่เติมเพิ่ม ไม่ดูจากจอ

ใช้งานกรุงเทพ ทางด่วน + ทางธรรมดา ขับไม่เกิน 120 km/h

ได้ 14 km/l ครับ

 ;D ออกมาวันแรกใช้วิธีเติมเต็มแล้วจับระยะทางแล้วเติมเข้าไปใหม่ครับ
เทียบแล้วต่างกับหน้าจอ ประมาณ 1-0.7 km/L ครับ ก็เลยพอเชื่อถือได้
ผมวิ่ง กทม-อยุธยา 

ไม่แน่ใจว่า 17-18 km/L ดูตอนกด reset หรือดูตอนวิ่งครับ
แล้วก็เครื่อง 1.2 ค่อยๆกดน้ะครับ กดเยอะแดกแหลกเลย เข้าใจว่ามันไม่ค่อยวิ่ง hahaha

ถ้าใน กทม มันก็ประมาณนั้นแหละครับ 14 km/L ได้พอพอกัน  ::)

ยกตตัวอย่างไปเที่ยว ขาไปนั่ง 5 ค ขากลับนั่ง 4 ค มีลังน้ำแข็ง หมู กระเป๋าพรึบ
สัตหีบ-อยุธยา 450 km วัดจาก google ไม่รวมวิ่งเที่ยวเล่น
เติมไปประมาณ 600-700 E20 ลิตรละ 24 บาท
ขาไปวิ่ง 110-120 ขากลับ 120-140 ก็ตก 15 km/L
ก็ประมาณนี้ครับ เครื่อง 1.2 วิ่งเกิน 90-100 ก็เกินจุดประหยัดของมันละครับ
ออกตัวค่อยๆออก อย่าพรวดพราด ถ้าพรวดพราดอย่าแช่ครับ
ค่อยๆผ่อนลงมา รอบมันจะลง แล้ว CVT จะทำหน้าที่ต่อไต่ความเร็วแบบหวานเย็น  :P

ตัวเลขของผม เป็นตัวเลขเฉลี่ยครับ 17-18km./ลิตร
แต่ความจริง ได้ไม่ถึง

ขับEcocar ต้องไม่เค้นรอบน้อครับ ให้มันไปตามกำลังของมัน

ที่MAZDA2 Sky 1.3 Benzene ได้2x.xxkm./ลิตร น่าจะขับแบบไม่เค้นรอบด้วยไหมครับ?
หัวข้อ: Re: ผมเริ่มมองว่า Ecocar กับ Bcar คือรถระดับเดียวกันแล้วครับ
เริ่มหัวข้อโดย: แมวดราม่า ที่ ธันวาคม 22, 2016, 21:43:29
B-Car ใช้งานทั่วไป แบบไม่คิดอะไร เหยียบได้ดั่งใจ ไม่ต้องเค้น ไม่ต้องอะไร รวมๆ ขับสบาย อัตราเร่งใช้งานกำลังดี
ส่วน Eco Car กลับกัน คือถ้าเค้นให้ประหยัด ก็ประหยัดสุดๆ เค้นให้เปลือง ก็เปลืองได้ยิ่งกว่า B-Car

ใครเคยขับมาร์ชแบบพยายามให้ประหยัดเต็มที่ หรือเคยขับคันจริง
มาดู Attachment ว่าผมทำเฉียด 20 กม./ลิตร ในเมืองได้ยังไง

(ถังน้ำมันมาร์ชมีประมาณ 42 ลิตร แบบหมดสนิทๆ และขีดแรกจะลดช้ากว่าเค้าเพื่อน ปกติจะได้ราวๆ 8 ลิตร ครับ)

แต่นี่คือ ผมออกเช้ากลับมืด รถยังติด ทำไง? (เฉลี่ย 20 กม./ชม. ออกตัวควรจะเปลือง
ผมก็ปล่อยไหลบ้าง ไรบ้าง เบรกให้น้อยที่สุด ใช้รอบให้ต่ำสุดๆ คือเค้นความประหยัดแบบ
เท่าที่จะทำได้โดยที่ยังไม่ให้คันหลังต้องด่า ดิฟไฟ หรือปาด)

ที่สำคัญคือรถคันนี้แปลงหัวฉีด ทำท่อ ฯลฯ มาแล้ว ก็ยังได้ขนาดนี้
ในขณะเดียวกัน พอผมจะอัดเหรอครับ ทางไกลวิ่ง 140 ทำได้ อัตราเร่งไม่แย่นะ (รถทำมาแล้ว) แต่ 10 กม./ลิตร  :-X

และการใช้งานแบบเดียวกะที่ผมใช้กระบะตัวเตี้ยวีโก้ได้ ก็คือ เอาเข้าสวน ขนปุ๋ย (แม้จะได้แค่ 500 ก.ก.)
ก็แลกมาด้วยความทนทานที่ลดลง ลองถามอู่แถวบางบัวทองก็ได้ว่าผมเปลี่ยนลูกปืนล้อกะแกไปแล้วกี่ชุด

มันมีจุดที่ Beyond Expectation อยู่ เช่น ความสบายที่ไม่น่าเชื่อ อรรถประโยชน์ที่ยอดเยี่ยมในราคาต่ำ
แต่ในความดีเหล่านั้น ผมอาจจะต้องแลกมาด้วย ความปลอดภัยที่ลดลง ความน่าเชื่อถือ-เสถียรภาพที่ต่ำลง เหมือนกัน

เพราะฉะนั้น ถ้ามีคันหน้าผมจะเอาทรงๆ นี้ไหม ผมคิดสะระตะทุกประการแล้ว ขนาดรถน่ะได้ แต่ผมคงขยับไป 1.5-1.6 แทน
เพราะไม่ใช่ว่ามันไม่ดี แต่มันอาจจะไม่เหมาะกับพฤติกรรมคนไทยใจร้อน ในขณะที่ถ้าเป็นคนญี่ปุ่นขับได้ไม่เกิน 60-100 นี่เหมาะมาก

เอาง่ายๆ เผื่อใครไม่เคยขับ Nissan 1.6 Twin CVT-C+Twin Injector ตัวปัจจุบัน มันประหยัดกว่า 1.2 Eco Car ยี่ห้อตัวเองครับ
หัวข้อ: Re: ผมเริ่มมองว่า Ecocar กับ Bcar คือรถระดับเดียวกันแล้วครับ
เริ่มหัวข้อโดย: Tan Int ที่ ธันวาคม 22, 2016, 23:25:01

ผมก็คิดอย่างนั้นนานละครับ ที่ตลกไปกว่า ผมเคยขับ Almera กับ Mobilio(รู้ว่าไม่ตรงแต่อยากเทียบ) บนถนนเส้นเดียวกัน เงื่อนไขใกล้เคียงกัน
Almera ได้ 16.2 km/l แต่ Mobilio 15.8 ไม่ได้คำนวณผิดแน่ๆ แต่ผมขับเร็ว 110 ขึ้น Almera นั่นผมก็เหยียบมิดบ่อย สูงสุด 130
แต่ Mobilio จำได้ว่าซัดไป 140 ช่วงหนึ่ง หลังจากนั้นเลยไม่อะไรกับ Eco-Car เลย(แต่ Almera ขับดีๆ ก็ 17-18 km/l นะ)

หัวข้อ: Re: ผมเริ่มมองว่า Ecocar กับ Bcar คือรถระดับเดียวกันแล้วครับ
เริ่มหัวข้อโดย: No Trespassing ที่ ธันวาคม 23, 2016, 00:47:31
Eco-car บางรุ่น กับ B-Car มันก็รถระดับเดียวกัน

ในเมืองนอก Yaris / March (Micra) / Swift / Almera (Versa) / Ciaz ทั้งหมดเป็น B-Car แท้ๆ ใส่เครื่อง 1.5 - 16 ตั้งแต่เกิด

แต่บ้านเราใช้วิธีตีตั๋วเด็ก ใส่เครื่อง 1.2 เพื่อจ่ายภาษีน้อยลง และสามารถเข้าโครงการได้

--------------------------------

แต่กับ Eco แท้ๆ ที่ใส่เครื่อง 1.2 ตั้งแต่เกิด มี Mirage + Attrage / Brio + Brio Amaze / และ Celerio ครับ
หัวข้อ: Re: ผมเริ่มมองว่า Ecocar กับ Bcar คือรถระดับเดียวกันแล้วครับ
เริ่มหัวข้อโดย: mamaman ที่ ธันวาคม 23, 2016, 06:38:28

ใช่ครับ บางคันตัวถังมันเป้น b car เอามาใส่เครื่องเล้กตามนโยบาย
ส่วน บางคันมัน ทำใหม่เป้น sub b car เลย
หัวข้อ: Re: ผมเริ่มมองว่า Ecocar กับ Bcar คือรถระดับเดียวกันแล้วครับ
เริ่มหัวข้อโดย: SM. ที่ ธันวาคม 23, 2016, 07:11:13
ส่วนนึงเพราะความต้องการของคนไทยด้วยแหละครับ ทำ eco car ออกมาจริงๆ คนไทยก็ไม่ค่อยเอา อยากให้ดูดี ดูหรู ติดภาพลักษณ์ทางสังคม คันใหญ่หน่อย ใช้ได้หลายโอกาส ก็เลยต้องไปหารถที่มันสูงขึ้นมา

eco car เลยต้องขยับเรื่องพวกนี้ขึ้นมาด้วย
หัวข้อ: Re: ผมเริ่มมองว่า Ecocar กับ Bcar คือรถระดับเดียวกันแล้วครับ
เริ่มหัวข้อโดย: Dark Overlord ที่ ธันวาคม 23, 2016, 08:57:15
Eco-car บางรุ่น กับ B-Car มันก็รถระดับเดียวกัน

ในเมืองนอก Yaris / March (Micra) / Swift / Almera (Versa) / Ciaz ทั้งหมดเป็น B-Car แท้ๆ ใส่เครื่อง 1.5 - 16 ตั้งแต่เกิด

แต่บ้านเราใช้วิธีตีตั๋วเด็ก ใส่เครื่อง 1.2 เพื่อจ่ายภาษีน้อยลง และสามารถเข้าโครงการได้

--------------------------------

แต่กับ Eco แท้ๆ ที่ใส่เครื่อง 1.2 ตั้งแต่เกิด มี Mirage + Attrage / Brio + Brio Amaze / และ Celerio ครับ

ใช่ครับ
เสียดายมิตซูน่าจะยกระดับขึ้นอีกสักหน่อย มันใกล้ B car มากแล้ว
หัวข้อ: Re: ผมเริ่มมองว่า Ecocar กับ Bcar คือรถระดับเดียวกันแล้วครับ
เริ่มหัวข้อโดย: 5thAvenue ที่ ธันวาคม 23, 2016, 10:25:10
ถ้าไม่มีเงื่อนไขทางภาษี ระดับ Global แล้ว หลายๆ คัน ที่เป็น Ecocar ก็คือ B-Car แหล่ะครับ
หัวข้อ: Re: ผมเริ่มมองว่า Ecocar กับ Bcar คือรถระดับเดียวกันแล้วครับ
เริ่มหัวข้อโดย: Slipknot` ที่ ธันวาคม 23, 2016, 19:18:35
ผมมองมานานแล้วนะ อิๆ